ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KNB] Translucent (AkaKuro)

    ลำดับตอนที่ #2 : 01

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 58


    01



    สองเท้าก้าวเดินไปตามทางที่มืดไร้ซึ่งแสงสว่าง หนุ่มผมฟ้าวัยประถมเดินกอดตัวเองอย่างหนาวสั่นและหวาดกลัว มองซ้ายขวาไม่พบผู้คนอย่างที่เคย ดวงตาคลอสั่นไหวหวาดกลัวความมืด แม้จะกลัวก็ไม่อาจจะนั่งลงแล้วร้องไห้ได้ ทำได้เพียงเดินไปบนเส้นทางที่ทอดยาวไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงที่ใด

     

     

    เดินมาพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลรินข้างแก้มใส กระชับอ้อมกอดที่กอดตัวเองแน่น เดินไปเรื่อยๆ จนเห็นแสงสว่างที่ปลายเส้นทาง คุโรโกะตาเบิกกว้าง ไม่รีรอที่จะวิ่งไปหาแสงสว่างที่ตนอยากจะเจอ อยากหลุดพ้นความมืดที่แสนน่ากลัวนี้

     

     

    เสียงหอบหายใจแฮ่กๆของเขาหยุดลงเมื่อวิ่งมาพบเจอต้นเหตุของแสง มันเป็นแสงมาจากทีวีตั้งโต๊ะขนาดเล็ก พร้อมกับร่างของเด็กหนุ่มผมสีแดงอายุเท่ากับเขากำลังนั่งมองทีวีเงียบๆ เลือนผมสีแดงสั้นปลิวค่อยๆหันมามองคุโรโกะที่วิ่งตามแสงมา

     

     

    ปากหนายกยิ้มอบอุ่มมองคุโรโกะนิ่ง เขาทำอะไรไม่ถูกเลย ดวงตาสีฟ้ามองทีวีที่ปรากฏฉายบ้านของเขา แล้วมันก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นภาพภายในบ้านและห้องต่างๆ และวนลูปไปมาไม่สิ้นสุด

     

     

    สวัสดีเท็ตสึยะ

     

     

    “…”

     

     

    คุโรโกะตาโตตกใจที่ทำไมอีกฝ่ายถึงได้รู้จักตน แต่ทำไมสายตาตรงหน้าถึงได้อ่อนโยนและดูใจดีถึงเพียงนี้ เด็กหนุ่มผมแดงตรงหน้าที่นั่งอยู่ยิ้มอบอุ่นให้แล้วเอื้อมมือมาหมายจะให้อีกฝ่ายจับ

     

     

    เข้ามาสิ เท็ตสึยะ

     

     

    “…”

     

     

    เข้ามาสู่อ้อมกอดผมสิ

     

     

    รอยยิ้มจากหนุ่มตรงหน้าทำให้คุโรโกะค่อยๆเอื้อมมือไปใกล้มืออีกฝ่าย ดวงตาฟ้าสั่นไหวหวาดกลัวและเศร้าเสียใจกับทุกๆสิ่ง หัวใจเกิดความลังเลขึ้นมาว่าจะจับมืออีกฝ่ายหรือเปล่า มือบางที่ค่อยๆเคลื่อนไปใกล้ชะงักลงค้างกลางอากาศ แล้วแรงกระชากจากเด็กผมแดงก็ตัดสินใจดึงมือคุโรโกะอย่างแรงจนร่างเซเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอีกฝ่าย

     

     

    คุโรโกะเบิกตากว้างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นรวเร็วปานนี้ จู่แสงจากทีวีก็สว่างวาบเผยให้เห็นทุกสิ่งที่อยู่รอบกาย ห้องถูกย้อมไปด้วยสีแดง สีแดงสดที่อาบและตกแต่งเต็มพนังห้อง

     

     

    อ้อมกอดนี้ที่คุโรโกะเคยสัมผัสได้..

     

     

    อ้อมกอดในยามที่เขาไม่เหลือใคร

     

     

    อ้อมกอดที่ได้จากการที่เขาสูญเสียพ่อแม่ไป

     

     

    อ้อมกอด ที่เขาชื่นชอบในยามที่อ่อนแอ

     

     

    ไม่เป็นไร ไม่ต้องร้องไห้นะ

     

     

    “…”

     

     

    เท็ตสึยะยังมีผมอยู่เสมอ

     

     

    “…”

     

     

    ผมจะอยู่ข้างๆนายไปตลอดกาล

     

     

    “…”

     

     

    แม้นายจะไม่มีวันมองเห็นผมเลยก็ตาม

     

     

    “…”

     

     

    น้ำตาใสเอ่อคลอเบ้า คุโรโกะหลับตาแน่นแล้วกอดร่างอีกฝ่ายกลับอย่างโหยหา อ้อมกอดที่ได้จากใครสักคน และเขาก็สัมผัสมันได้อยู่ตลอดเวลา ร่างทั้งสองกอดกนักลมเกลียวภายในห้องที่ย้อมไปด้วยสีแดง

    คำพูดของเด็กผมแดงดั่งกึงก้องไปทั่วห้องที่มีเพียงสองคน น้ำตาใสไหลอาบแก้มชื้นเปียกเสื้ออีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้รังเกียจหรือผลักไสให้ออกห่าง

     

     

    กลับกอดแน่นมากขึ้น

     

     

    เผยแผ่ความอบอุ่นให้มากขึ้น

     

     

    พูดคำปลอบโยนให้เยอะขึ้น

     

     

    อบอุ่นอบอุ่นเสียเหลือเกินสำหรับคุโรโกะ

     

     

    อาคาชิคลายอ้อมกอดของตัวเองแล้วถอยหน้าออกห่าง หันมาสบดวงตาสีฟ้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา คุโรโกะมองใบหน้าหล่อเหล่าที่มีดวงตาสีแดงสดเหมือนพนังห้องกำลังยิ้มมาให้ตน

     

     

    “….คุณเป็นใคร…”

     

     

    นายต้องนึกชื่อของผมออกแน่..เท็ตสึยะ

     

     

    ใบหน้าหล่อค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้หน้าคุโรโกะ ทั้งสองสบดวงตากันหยาดเยิ้ม

     

     

    “…”

     

     

    เรียกชื่อของผมสิเท็ตสึยะ

     

     

    ริมฝีปากทั้งสองลดระยะห่างลงจนแตะกันปละประทับตราให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ในเวลานั้นความอบอุ่นที่แตะลงที่ปากก็ขับให้สมองของคุโรโกะคิดอะไรบางอย่างได้ในตอนนั้น

     

     

    สีแดง นี่คือสิ่งที่เขาเห็นได้จากดวงตาของอีกฝ่าย

     

     

    สีแดง สิ่งที่ย้อมพนังทั้งสี่ด้านเอาไว้

     

     

    สีแดง สีแดงที่เต็มรอบตัวของคุโรโกะ

     

     

    พลั่นสมองก็นึกชื่ออีกฝ่ายออกมาได้อย่างประหลาด

     

     

    พร้อมกับลิ้นร้อนที่แทรกขึ้นมาในโพลงปาก ตวัดปัดป่ายไปมาอย่างอ่อนโยน

     

     

    พร้อมกับหัวใจน้อยของเขา ที่พร้ำเรียกชื่ออีกฝ่ายทั้งน้ำตา..

     

     

     

     

     

     

     

    อาคาชิคุง

     

     

     

     

     

     

    เฮือก!!!!

     

     

     

    ร่างบางสะดุ้งเฮือกลุกขึ้นนั่งสีหน้าตื่นตกใจ ใบหน้าเปื้อนเหงื่ออาบแก้ม ร่างกายหอบหายใจตัวโยน ผมสีฟ้ากระเซิงยุ่งเหยิง รีบแตะปากของตัวเองไปมาอย่างตื่นตกใจ แล้วมองไปรอบๆข้างตัว เผยห้องส่วนตัวของเขาอย่างปกติดีทุกอย่าง

     

     

     

    ฝันเหรอ..

     

     

    เมื่อครู่นี้เขาฝันงั้นเหรอ

     

     

    ไม่แต่สัมผัสจูบเมื่อครู่..

     

     

    มันคือของจริง

     

     

    คุโรโกะกุมหัวของตัวเองแน่นและดึงผ้าห่มออกจากตัวเอง ลุกขึ้นมองนาฬิกาติดพนังก็ตื่นตกใจกับสิ่งที่เห็น!! เวลานี้เป็นเวลา 6 โมงแล้ว 6 โมงเช้าด้วย คุโรโกะเปิดประตูผ่างวิ่งลงไปด้านล่าง เพราะตอนนั้นเขาได้ว่าตนเผลอหลับไปช่วงเย็นของเมื่อวาน พอตื่นมาก็เห็นเวลาถัดมาเป็นวันใหม่เสียแล้ว

     

     

    คุณป้า!! ขอโทษนะครับที่ไม่ได้ลงมาทานข้าวเย็น รีบวิ่งเข้ามาในครัวปรากฏร่างสาวอวบนั่งดูทีวีข่าวตอนเช้าเงียบๆ เธอหันมามองหลานชายที่จู่ๆก็วิ่งพรวดพราดลงมาจากชั้นสอง เธอแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาและรำคาญอย่างถึงที่สุด

     

     

    พูดอะไรของแก แกก็ลงมาทานแล้วไง

     

     

    เอ๋ ?? คุโรโกะเบิกตากว้างตกใจกับสิ่งที่ป้าสาวพูด คุโรโกะงงเป็นไก่ตาแตก

     

     

    เขาลงมาตอนไหน?

     

     

    ไม่เห็นจะรู้สึกตัวเลย ?

     

     

    ผมนอนมาตลอดตั้งแต่ตอนเย็นแล้วนะครับ?

     

     

    หา เท็ตสึยะ แกเบลอแล้วหรือไง ฉันเรียกแก แกยังขานตอบฉันอยู่เลย

     

     

    “….แต่ตอนนั้นผมนอนอยู่…..”

     

     

    โอ้ย ฉันเรียกแกและแกก็ขานฉันตอบแถมลงมาทานข้าวตามปกติด้วย คงไม่ใช่ผีหรอกที่จะตอบฉันแทนแกน่ะ

     

     

    “…” คุโรโกะยืนนิ่งมองป้าสาวพุดกกึ่งประชดกึ่งตลกขบขัน เธอหัวเราะเหอะในลำคอแล้วหันไปสนใจทีวีต่อนั่งดูข่าวต่อไปและจบบทสนทนาระหว่างหลานชายเพียงเท่านั้น คุโรโกะก้มหน้าลงพื้น หัวใจสับสนไปหมด เขาจำไม่ได้เลยจริงๆว่าลงมาตอนไหน และทานตอนไหน

    ดวงตาสีฟ้าพบเจอแผลตรงเข่าที่ตอนนี้ติดพลาสเตอร์ไว้อย่างดีและสะอาด คุโรโกะเอียงคอสงสัย ก็ตอนนั้นเขายังไม่ทันได้ทำความสะอาดแผลหรือติดพลาสเตอร์เลยนี่น่า ?

     

     

     

    หรือป้าสาวจะช่วยทำแผลให้?

     

     

    ทำตอนไหนหล่ะ ?

     

     

    คุณป้าทำแผลให้ผมงั้นเหรอครับเดินไปใกล้หญิงสาววัยกลางคนแล้ว เปิดบทสนทนอีกครั้ง

    สาววัยกลางคนแสดงสีหน้าสงสัยและงงงวยออกมา ทำให้คุโรโกะงงตาม

     

     

    พูดอะไรของแก ไม่ใช่ว่าแกทำแผลเองหรอกเหรอ

     

     

    เปล่า เปล่าครับ ผมไม่ได้ทำส่ายหน้าไปมาเชิงปฏิเสธเสียงสั่น ทำไมจู่ๆถึงได้มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นเพียงนี้ และเกิดขึ้นกับตัวเขา และเขาก็จำไม่ได้ด้วย ?

     

     

    เกิดอะไรขึ้นเนี้ย ?

     

     

    แกคงทำแบบไม่รู้ตัวนั่นแหละเธอทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วหยิบรีโมทขึ้นมาเปลี่ยนไปช่องอื่นเมื่อเข้าช่วงโฆษณา คุโรโกะกำมือแน่นสับสนสิ่งที่เกิดขึ้น

     

     

    เขาไม่ได้ลงมาทานข้าวเลยนะ

     

     

    ไม่ได้ทำแผลเองด้วย

     

     

    พอถามป้า ป้าก็บอกไม่ได้ทำ

     

     

    แล้ว ใครหล่ะ ?

     

     

     

    เลิกถามแล้วไปเตรียมตัวซะ เดี๋ยวก็ไปไม่ทันโรงเรียนหรอกยกมือขึ้นโบกสะบัดไปมาไล่ให้หลานชายไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนประถม คุโรโกะพยังหน้าแล้วเดินขึ้นบันได กลับชั้นสองเข้าห้องของตัวเองไปอีกครั้ง ยังคงมีความสงสัยและความงงงวยอยู่ในหัวสมองอยู่ตลอด

     

     

    แอ๊ด

     

    ค่อยๆผลักประตูเข้าไปด้านในห้องของตน ประตูค่อยๆเผยห้องที่ตกแต่งอย่างง่ายๆเหมาะกับความจืดจางของเขา แต่มีเพียงเตียงเท่านั้นที่มีสีฉูดฉาดสวยงาม

     

     

    ผ้าห่มสีแดงสดสวย

     

     

    เป็นสิ่งสำคัญที่พอห่มที่ไรก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่ได้มา

     

     

    คุโรโกะตาโตเล็กน้อยมองผ้าห่มที่ตอนนี้ถูกพับเก็บเรียบร้อยไม่มีแม้แต่รอยยับ ทั้งๆที่ตอนนั้นเขาตกใจตื่นิ่งออกมาจากห้องโดยที่ยังไม่ได้จัดหรือพับเก็บมันเลยแท้ๆนะ ?

     

     

    อะไรกัน ทำไมถึงเหมือนมีอะไรบางอย่างคอยอยู่เคียงข้างตลอดเวลา

     

     

    ทุกสิ่งทุกอย่างที่ยุ่งเหยิงเกินกว่าคุโรโกะวัยประถมจะแก้ได้

     

     

    กลับถูกแก้ไขผ่านไปได้ด้วยดีโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าผ่านไปได้ยังไง ?

     

     

    ทั้งเรื่อยโดนแกล้ง เขาก็ผ่านมาได้โดยที่คนอื่นบอกว่าเขาเป็นคนทำ

     

     

    ทั้งๆที่เขาไม่ได้เป็นคนทำ?

     

     

    ทั้งตอนนี้ที่มีบาดแผล และกำลังจะทำความสะอาดมัน

     

     

    วันต่อมา แผลนั้นกลับถูกปิดผนึกอย่างดีและได้รับการทำความสะอวดเสียจนน่าแปลกใจ

     

     

    ทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำและป้าก็ไม่ได้ทำเช่นกัน ?

     

     

    ช่วงเย็นเขาจำได้ว่าไม่ได้ลงมาทานข้าวกับป้าเลย

     

     

    แต่ป้ากลับบอกว่าได้ลงมาทานแล้วเรียบร้อย

     

     

    ทั้งๆที่เขานอนหลับอยู่บนเตียงจนถึงเช้าวันใหม่ ?

     

     

    เกิดอะไรขึ้นในขณะที่ความทรงจำของเขาขาดหายไปกันนะ ?

     

     

    จู่ๆความอบอุ่นก็แผ่ออกมาจากด้านหลังของคุโรโกะ คล้ายกับเหมือนกำลังโดนโอบกอดจากด้านหลัง เขาสะดุ้งเล็กน้อยตกใจ ก่อนที่จะค่อยๆเคลิ้มไปกับอ้อมกอดที่คอยปลอบโยนมาตลอด 6 ปีตั้งแต่เขาห้าขวบยัน 11 ขวบ

     

     

    และอ้อมกอดนี้อาจจะอยู่กับเขาตลอดไปก็ได้

     

     

    คุโรโกะหลับตาลงเคลิ้มไปความอบอุ่นแปลกๆนี้ แม้จะไม่ได้ห่มผ้าห่มที่รัก แต่ความอบอุ่นก็ได้รับจากบางอย่างที่เขามองไม่เห็น

     

     

    สิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการมองเห็นของคุโรโกะหรือก็คือด้านหลังของเขา ที่ไม่อาจจะส่องสายตามองไปถึงได้ ค่อยๆมีร่างของชายของเด็กหนุ่มผมแดงสูงกว่าตนยืนโอบกอดเขาจากด้านหลังด้วยความอ่อนโยน

     

     

    แม้ร่างกายจะโปร่งแสงไร้ซึ่งเนื้อหนัง

     

     

    แม้จะไม่อาจทำให้อีกฝ่ายมองเห็นตนได้

     

     

    แม้จะทำได้เพียงแค่สนทนาได้ในความฝันเพียงเวลาสักเล็กน้อย

     

     

    เขาก็พอมีความสุขเกินพอแล้ว

     

     

    เขาโอบกอดร่างบางนี้มาตลอด 6 ปีที่ผ่านมา

     

     

    อ้อมกอดอ่อนโยนที่เขามอบให้คุโรโกะ เท็ตสึยะมาตลอด

     

     

    และจะมอบให้ตลอดไป

     

     

    ผมรักนายนะ เท็ตสึยะ

     

     

    สิ่งไหนที่นายผ่านพ้นปัญหาไปไม่ได้

     

     

    ผมจะทำแทนนายทุกอย่างเอง

     

     

    ไม่ต้องกังวล

     

     

    ไม่ต้องเสียใจ

     

     

    เพราะนายยังมีผมอยู่ข้างๆเสมอ

     

     

    แม้ผมหวังว่าสักวันเราจะได้เจอกันตัวเป็นๆก็ตาม

     

     

    แต่นั้นก็คือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เหมือนกลางวันและกลางคืน

     

     

    ที่ไม่อาจจะมาวนเวียนพบเจอในเวลาเดียวกันได้

     

     

    ไม่เป็นไร.. ขอแค่ผมเคียงข้างนาย

     

     

    ได้ดูแลนายในยามที่นายอ่อนแอ

     

     

    แค่นั้นก็เพียงพอสำหรับผมแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

           เวลาต่อมา คุโรโกะก้าวลงบันไดช้าๆหลังจากที่จัดการกับตัวเองเรียบร้อยแล้ว ด้านหลังสวมสะพายป้ำหรับเด็กประถม เดินมาที่ห้องครัวก็พบกับขนมปังทาเนยสองแผ่นวางบนจานพร้อมนมหนึ่งแก้ว อาหารเช้าที่ทำขึ้นอย่างเร่งรีบ คุโรโกะเอื้อมมือไปหยิบมันเคี้ยวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

     

     

    เย็นนี้ไปหาหมอพร้อมฉันนะ

     

     

    หือไปทำไมเหรอครับแสดงสีตาสงสัยในขณะที่เคี้ยวขนมปังแผ่นไปด้วย มองป้าตรงหน้าที่กินขนมปังเช่นเดียวกับตน

     

     

    ก็เมื่อคืนแกลงมาทานข้าวก็จริง ตาของแกเป็นสีแดงจริงๆน่ะสิ

     

     

    คุโรโกะแถบจะทำแผ่นขนมปังหลุดมือ เขามีดวงตาสีแดงที่ไหน ?

     

     

    ก็ดวงตาของเขาเป็นสีฟ้ามาตั้งแต่เกิดแล้ว??

     

     

    แกเป็นโรคตาแดงจริงหรือเปล่าเนี้ย ตาเปลี่ยนสีไม่พอ นิสัยยังเปลี่ยนไปด้วยเหรอ

     

     

    “…ไม่ไม่ใช่น---”

     

     

    ตอนนั้นแกเงียบมากกว่าปกติด้วย แถมตาสีแดงตอนนั้นแกก็นิ่งจนน่ากลัว แล้วทำไมเช้าต่อมาตาแกหายแดงแล้วละเท็ตสึยะสาวอวบวัยกลางคนขยับตัวมาใกล้ดูดวงตาสีฟ้าที่ก่อนหน้านี้เธอเคยเห็นมันเป็นสีแดง คุโรโกะหลบสายตาของป้าตัวเอง

     

     

    หัวใจเขาสับสนอีกครั้ง

     

     

    เรื่องมากมายเกิดขึ้นอีกครั้งในตอนที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย..

     

     

    สีแดงเหรอ ?

     

     

    สีแดง……

     

     

    อ่า ทำไมชื่อของคนที่เขาไม่รู้จักถึงได้โผล่ขึ้นมาได้กันนะ

     

     

    ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน

     

     

    ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเป็นคนแบบไหน

     

     

    แต่ทำไม.. เขาถึงรู้ได้ว่าอีกฝ่ายอ่อนโยนและใจดีมากแค่ไหน

     

     

    ชื่อนั้น อาคาชิอาคาชิคุง ?

     

     

    ใครกัน เขาเป็นใคร..

     

     

    คนที่ชื่ออาคาชิคุงคือใครกัน..

     

     

    ความรู้สึกที่เหมือนผูกพันกันมานานนี่มัน….คืออะไรกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×