รอคำรัก - รอคำรัก นิยาย รอคำรัก : Dek-D.com - Writer

    รอคำรัก

    แม่น้อยหญิงสาวที่มีบุคลิคทั้งบู้และบุ๋น แมจ้ะเป็นหญิงที่อยู่ในสมัยที่ต้องเป็นแม่ศรีเรือนอย่างเดียว หนำซ้ำยังเป็นสุดที่รักของปู่ตายายผู้สูงศักดิ์จนเป็นสาว แต่ฌะอยังรคำรักจากผู้อื่นอยู่ ใครล่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    155

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    155

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 พ.ค. 50 / 02:18 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ทีแรกอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เล็กน้อยค่ะ แต่คงเคร่งเครียดมากไป ที่เขียนเพราะชอบภาษาสมัยเก่า อยากให้ทุกคนช่วยวิจารย์บทแรกด้วยค่ะ แล้วผลเป็นไงบทต่อไปจะตามมาในไม่ช้านี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ตอนที่ 1

       

      เสียงดังอื้ออึงของดาบกระทบกันดังไปทั่วลานหญ้าหน้าเรือนหมู่อันประกอบด้วยเรือน 5 หลังโอบล้อมเรือนที่ใหญ่สุด โอ่โถงสำหรับรับแขกหรือพักผ่อนอันสวยงาม ตระกาลตา นอกจากเรือนใหญ่แล้ว ยังมีเรือนหลังเล็กอีกจำนวนมากสำหรับข้าทาสบริวาร และเรือนครัวอันแยกออกมาเพื่อความสะดวกในการปรุงสำรับต่างๆ  รอบนอกของเรือนต่างมีสวนหย่อมดอกไม้มากมาย  ล้อมรอบเรือนต่างๆ ยังมีต้อนไม้ใหญ่ทั้งไม่สัก  ต้นยาง  ต้นหมาก และผลไม้ต่างๆที่มีมากทางหลังเรือนใหญ่ และยังติดลำน้ำเจ้าพระยาที่ยังใสในฤดูนี้อีกด้วย  นี่บ่งบอกถึงทั้งฐานะ บรรดาศักดิ์อันสูงของผู้เป็นเจ้าของบ้าน นั่นคือ เจ้าพระยาสุรศรีประจำสมุหกลาโหมข้าพระบาทองค์พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วยความซื่อสัตย์มายาวนาน

                      เจ้าน้อยเอ้ย!”  เสียงทรงอำนาจของชายชราอายุราวสัก 50 ปี ซึ่งถ้าผู้ใดได้ยินเสียงคงกลัวตัวสั่นไม่กล้ามองทีเดียว นี่แหละเจ้าของเรือนนี้  แต่ทว่าเสียงนี้หาได้สร้างความสะเทือนแก่เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกไม่  เพียงแต่เจ้ตัวยังถือดาบโต้ตอบผู้เป็นครูฝึกต่อไป อย่างไม่หยุดแม้แต่น้อย  ร่างที่มีส่วนสูงเท่าเด็กอายุ 10  ขวบ  ผมยาวถูกม้วนเก็บไว้เป็นจุกกลางศรีษะอย่างแน่นหนา เสียบด้วยปิ่นทองน่ารักแสดงถึงฐานะหลานสาวของผู้เจ้าของบ้าน  บัดนี้ผสมนั้นหลุดหลุ่ยลงมาบ้างเพราะการออกกำลัง เหงื่อย้อยไหลเป็นทางข้างขมับ บนหน้าผากมนโค้ง ซึ่งรับกับคิ้วโก่งดังคันศร ดวงตากลมโตดำขลับซึ่งเวลาปกติจะดูสดใสดูเคร่งเครียดเกินวัย จมูกโด่งน่ารักรับกับสัดส่วนบนใบหน้า ริมฝีปากสีชมพูอ่อนรูปกระจับกำลังเม้มแสดงถึงอารมณ์ขัดใจของผู้เป็นเจ้าของ 

                      พอเถอะ  หยุดได้แล้วถ้าไม่หยุดตาจะเฆี่ยนก้นเจ้าสักสิบครั้งเป็นแน่  เสียงห้ามดังขึ้นอีก  นั่นแหละจงทำให้เสียงดาบนั้นยุติลงได้   แล้วร่างน้อยๆ ค่อยหันมาพบหน้าอันเคร่งของตาพร้อมใบหน้ารั้นแสดงถึงความถูกขัดใจ 

                      โธ่  ท่านตาเจ้าขาขออีกสักประเดี๋ยวไม่ได้หรือเจ้าค่ะ กำลังสนุกอยู่เทียวเสียงเล็กออดอ้อนผู้เป็นตา ด้วยแววตาดังแมวอ้อนขอปลาย่าง แต่ยังมีความรั้นแฝงอยู่ในน้ำเสียง

                      ไม่ได้หรอกเจ้าน้อย  ท่านยายเจ้าบ่นหาแล้ว  นี่ดีน่ะที่ไม่มาตามเจ้าเองถ้าเห็นเจ้าแต่งตัวเหมือนเด็กผู้ชายอย่างนี้  มีหวังเย็นนี้เจ้ากับตาคงไม่ใด้รับข้าวแน่  เสียงตาอ่อนให้หลานสาวพร้อมแจงเหตุผลให้ฟังแถมขู่นิดๆ แต่พอเจ้าตัวได้ยินดังนั้นก็ทำปากยิ่นพร้อมกับกอดคอผู้เป็นตาที่นั่งคุกเข่าข้งหนึ่งเพื่อให้พูดกับหลานได้อย่างสะดวก 

                      ว้า   เสียดายจังวันนี้พี่พันอุตส่าห์มีเวลาให้หลานตั้งานกลับได้ฝึกนิดเดียว   แล้วท่านต่พอจะทราบไหมเจ้าค่ะท่านยายมีเรื่องอะไรทำไมต้องเรียกหาหลานด้วย ปกติค่ำกว่านี้ถึงตาม เด็กน้อยถอนหายใจด้วยความเสียดายแต่มิวายห่วงเรื่องถูกยายถามหา

                      ตาไม่รู้หรอก  เอ  แต่เห็นมีเรือมาจากเมืองพิษณุโลกเมื่อตะกี้นี้เอง  คงเป็นเรื่องพ่อกับแม่เจ้ากระมัง แต่ยังไม่มีใครมารายงานตาเลย ยังไม่สิ้นเสียงผู้เป็นตาเด็กหญิงก็ร้องอย่างดีใจ จนผู้เป็นตาต้องปราม  ก็จะไม่ดีใจได้อย่างไร  นานๆ ทีเรือจากพิษณุโลกจะมาจอดท่าน้ำท้ายบ้านสักที  นั่นก็หมายความว่าข่าวคราวของพระพิบูรณ์ ผู้เป็นพ่อของเด็กหญิงและแม่ซึ่งติดตามพ่อไปรับราชการหัวเมืองพิษณึโลกนั้นต้องมากับเรือทุกครั้ง   คิดถึงทั้งท่านพ่อ  ท่านแม่ไหนยังมีพี่สาว อาจจะมีข่าวของชายหล่อนติดมาด้วยเป็นได้  ยิ่งคิดแววตาก็ยิ่งมีแววกระตือรือร้น สดใสมากขึ้น 

                      ถ้าอย่างนั้ง  หลานไปพบท่านยายเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ  ท่านตาไม่ไปด้วยหรอกหรือเจ้าค่ะ หลานอยากรู้ใจจะขาดแล้วท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ และพี่นุ่มเป็นอย่างไรบ้างพูดไม่พอยังจูงมือท่านตาเดินไปที่เรือนครัวอย่างรีบร้อน

                      ค่อยๆ เดินก็ได้แม่น้อย ยังไงก็ถึงหรอกเรือนครัวไม่หายหรอกแต่กระนั้นก็ยังปล่อยให้หลานเดินจูงมือหาได้ห้ามอย่างจริงจังไม่  ก็หลานสุดดวงใจของท่านคนเดียวที่ท่านกับคุณหญิงเลี้ยงมาแต่น้อย   ก่อนพระพิบูรณ์และภรรยาซึ่งก็คือลูกสาวคนเดียวและคนสุดท้องของท่านได้เดินางไปรับราชการ  เนื่องจากว่าเด็กหญิงยังเล็กนักอายุเพียงเก้าเดือนในขณะนั้น   แม้ผู้เป็นแม่ยังอาลัยลูกคนเล็กแต่ด้วยการย้ายที่ทำงานของสามีทั้งลูกชายคนโตและลูกสาวคนกลางก็ยังไม่โตมากนักต้องการความดูแลเอาใจใสอย่างมาก  จึงตกลงปลงใจเมื่อปรึกษากับสามีว่าให้น้อยอยู่กับผู้เป็นตาและยาย  อกจากนี้ยังมีปู่และย่าน้อย คือ เจ้ากรมท่าขวาซึ่งบรรดาศักดิ์พระยาจุฬาราชมนตรี เดิมชื่อมั่ง  และคุณหญิงเผื่อนหรือย่าน้อย ภรรยาคู่ใจของท่านพระยาคนที่ 2 หลังจากสิ้นบุญของภรรยาคนแรกของท่านซึ่งเป็นย่าจริงๆ ของเด็กหญิงน้อย  อาศัยอยู่ย่านใกล้กันอีกด้วยพอที่จช่วยเหลือเจือจุน ดูแลกันได้ 

                      ทั้งเสียงครก เสียงคุยกันจ็อกแจก  รวมทั้งกลิ่นคล้ายแพนงไก่ของโปรดลอยตามลมมาแต่ไกล ยิ่งทำให้เด็กหญิงเร่งฝีเท้ามุ่งสู่โรงครัวเร็วขึ้น โรงครัวตั้งอยู่ทางด้านหลังเรือนใหญ่ ใกล้สวนผลไม้ ซึ่งถัดไปก็เป็นศาลาท่าน้ำหลังบ้าน  โรงครัวนี้คุณหญิงชอบลงมาประจำ  ทั้งนี้เพราะท่านเคยเป็นหญิงชาววัง ของเจ้าจอมมารดาในรัชกาลที่ 2 ก่อนที่จะของลามาออกเรือนฝีมือด้านการเรือน อาหารไม่เป็นรองใคร  ยิ่งใกล้ถึงพุ่มการเวกที่มีตั่งสำหรับนั่งพักหรือเตรียมการต่างๆ ของคุณหญิงที่อยู่หน้าโรงครัวเท่าไหร่ยิ่งทำให้ใจของเด็กหญิงเต้นแรงมากยิ่งขึ้น อยากจะวิ่งใจแทบขาดแต่กลัวท่านยายดุและลงโทษมากกว่า  จึงได้แต่ก้าวเท้ายาวๆตามประสา  สงสัยท่านตาคงจะรู้ว่าหลานอยากรู้ข่าวของพ่อและแม่เร็วๆ จึงยกร่างน้อยอุ้มสู่อกพลางสาวเท้าเร่งขึ้นกว่าเดิม  แรกๆ เจ้าน้อยคงจะงงแต่ก็ยิ้มหวานให้ท่านตาที่รู้ใจหลานรัก

                      อ้าว ทำไมได้อุ้มกันมาอย่างนั้นเจ้าค่ะ จะเป็นสาวแล้วน่ะแม่น้อยยังทำเล่นเป็นเด็กๆ อยู่ได้  คุณหญิงทำเสียงดุหลานเมื่อมองเห็นสามีเดินอุ้มหลานสาวสุดที่รักเข้ามาด้วย นั่นทำให้การสนทนาของหญิงสงวัยแต่ยังความเอิบอิ่ม ผิวเนียนนวล สมเป็นนางในแต่ก่อนกับผู้เป็นแขกแต่คุ้นหน้าแม่น้อยนักหยุดชะงักลง  เจ้าหล่อนดิ้นออกจากอกตาลงสู่พื้นดินเดินเข้าไปกราบผู้เป็นย่า  ก่อนย้ายไปยังแขกอีกท่าน  ถึงแม้จะไม่ใช่คนมียศศักดิ์แต่ก็เป็นผู้ที่พ่อกับแม่หล่อนนับถือ อีกทั้งท่านเจ้าคุณตาและท่านยายนั้นหาได้เลี้ยงดูให้ป็นเด็กถือยศศักดิ์อย่างเคร่งครัดไม่

                      โตขึ้นเยอะน่ะค่ะคุณน้อย   ผู้เป็นแขกพนมมือไหว้ พร้อมยิ้มรับรอยยิ้มสดใสที่ส่งระหว่างพนมมือไหว้ด้วยท่าทางยังไม่เรียบร้อยนัก  หลังจากนั้นก็พนมมือไหว้ผู้อุ้มที่เดินสู่ตั่งหลังหลานสาวอีกครั้งด้วยความเคารพ

                      มานานแล้วหรือแม่แย้ม  ดูท่ายังไม่ทันได้พักสิน่ะ  คุณหญิงคงใจร้อนอยากได้ข่าวลูกสาว  ทั้งหลานสาวหลานสาวสิน่ะ ผู้สูงวัยและสูงศักดิ์พยักหน้ารับ

                      โอ้ย ! เรื่องลูกหลานใครก็อยากทราบทั้งนั้นแหละค่ะ ดิฉันใจร้อนด้วย นี่ให้แม่น้อมไปเรียกแม่น้อยมาแต่ไม่เห็นย้อนกลับ แล้วทำไมถึงได้อุ้มมาล่ะค่ะ

      อ้อ  ที่จริงแม่น้อมขึ้นไปบนเรือนใหญ่  คงนึกว่าเจ้าน้อยอยู่นั่นหล่ะ  ฉันจึงถามว่าหาเจ้าน้อยทำไมจึงบอกจะไปตามเอง  ท่านตาของเจ้าหล่อนแจ้งแถลงไขในการเรียกตัวเจ้าน้อยให้ท่านยายฟัง ดีหน่อยจะได้มีคนคอยช่วยเบี่ยงเบนความสนใจหรือคอยช่วยเมื่อยามท่านยายจะดุหล่อนเรื่องเมื่อวานนี้  เอ  แต่วันนี้ท่านคงจะลืมแล้วกระมัง 

      พี่แย้มค่ะ  คุณพ่อ คุณแม่และพี่ๆ สบายดีไหมเจ้าค่ะเสียงใสๆ รีบถามเมื่อท่านตาหล่อนแจ้งแถลงไขเสร็จ พี่แย้มนี่คือพี่เลี้ยงพี่สาวของเจ้าน้อยซึ่งเคยอยู่รับใช้คุณหญิงมาก่อนสมัยยังเด็ก  เมื่อแม่เจ้าน้อยย้ายไปอยู่หัวเมือง  แม่แย้มซึ่งบัดนั้นอายุคงราวสัก 15  รู้งานรู้การดีท่านหญิงจึงให้ติดตามลูกสาวท่านเพื่อดูแลเลี้ยงหลานสาวอีกคนด้วยความไว้วางใจ  บัดนี้มีสามีซึ่งเป็นผู้ติดตามของคุณพระพิบูรณ์เลยอยู่ดูแลช่วยการบ้านการเรือนแม่ของเจ้าน้อย

      แม่แย้มหรือพี่แย้มของเจ้าน้อยก็เริ่มบอกข่าวที่ถูกส่งมาหาลูกสาวด้วยรอยยิ้ม  คุณพระและคุณพลับพลึงท่านสบายดีเจ้าค่ะ  จะมีเรื่องกังวลใจเล็กน้อยก็เรื่องคิดถึงลูกสาวคนเล็กท่านนี่แหละเจ้าค่ะ  บ่นอยู่ทุกวันว่าโตขึ้นหรือยัง  จะซนหรือไม่ ห่วงท่านตาและท่านยายจะรับไม่ไหวค่ะ  งานการก็ไม่หนักหรอกเจ้าค่ะมีแค่ปราบพวกโจร ขบถบ้าง ดูแลชาวบ้านให้อยู่เย็นเป็นสุขมากกว่า   พลางหันหน้าไปยังคุณหญิง   นี่ก็ว่าอยากส่งคุณใหญ่มาให้ศึกษาภาษาปะกิดบ้าง เห็นว่าอยากให้มารับราชการในฝ่ายเดียวกับท่านปู่   อยู่โน่นก็มีแต่เรื่องรันฟันแทงแหละเจ้าค่ะ  ท่านปู่ก็ส่งข่าวไปบอกว่าที่ทำงานท่านนั้นอยากมีล่ามมาช่วยพูดกับเมืองอื่นที่มาค้าขาย  แรๆ อยากให้ฝึกมลายูเจ้าค่ะ  แต่พอดีเห็นมีพวกมิชชั่นนารีเข้ามาจึงอยากให้เรียนโดยตรง  คงอีกสักประมาณขวบเดือนได้กระมังเจ้าค่ะถึงจะส่งให้ไปอยู่กับท่านปู่  คุณพระคงจะมาส่งเองเจ้าค่ะ  พราะต้องพาไปที่บ้านของพ่อท่านเองเจ้าค่ะ  แม่แย้มหยุดเล็กน้อยก่อนที่จะเล่าต่อ ส่วนคุณนุ่มนั้นบัดนี้โตขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ  เรียบร้อยได้ดังใจคุณพลับพลึงนัก   นี่ก็ว่าอยากส่งมาให้คุณหญิงได้ฝากฝังในวังเจ้าจอมให้ท่านเมตตาด้วยเจ้าค่ะ  จะได้มีมีผู้สืบทอดเหมือนกับคุณหญิงบ้าง อิฉันคิดว่าน่าจะส่งมาพร้อมกับคุณใหญ่เจ้าค่ะ  ไม่แน่ทั้งคุณพระ  คุณพลับพลึงคงมาส่งลูกท่านด้วยกันเจ้าค่ะ    ประโยคสุดท้านที่พี่แย้มพูดนั้นทำให้จิตใจของเจ้าน้อยเต็มต้น  ตื่นเต้น เฝ้าคอยเวลานั้นเหลือเกินที่จะได้พบพ่อ  แม่ พี่ชายและพี่สาว  ใบหน้าจึงยิ่งเบิกบานใหญ่

                      เอาล่ะแม่แย้มไปพักผ่อนก่อนเถอะมาเหนื่อย ๆ ซ้ำยังมาบอกข่าวเล่าเรื่องอีก  ขอบใจเจ้ามาก  คงกลัวเจ้าน้อยนอนไม่หลับสิท่า  เอาหล่ะให้แม่อบพาไปพักเถิด อย่าลืมสำรับด้วยล่ะ  วันพรุ่งค่อยมาหาข้าแต่เช้า  อ้อ แม่เอิบช่วยหาข้าวปลา ที่หลับที่นอนให้ทั้งหมดที่มาด้วยล่ะ   คุณหญิงเห็นสีหน้าหลานสาวซึ่งเบิกบานใจแล้วจึงอยากให้แม่แย้มที่เดินทางมาไกล อาจเหนื่อยล้าต้องการพักผ่อน พร้อมกำชับคนสนิทให้จัดแจงที่อยู่และอาหารให้ผู้ที่เดินมางมาเหนื่อยๆ ทุกคน

      ขอบพระคุณท่านที่เมตตา  แต่เห็นหน้าคุณน้อยแล้วก็ชื่นใจโตขึ้นเยอะ ทั้งอยากเล่าความของคุณพลับพลึงถึงลูกสาวท่าน  หายเหนื่อยเจ้าค่ะพรุ่งนี้คงได้เล่าให้ฟังมากกว่านี้  คงอยากรู้หลายเรื่อง ถ้าอย่างนั้นอิฉันลาเจ้าค่ะแม่แย้มค่อยๆ เลื่อนตัวลงจากตั่งเดินตามแม่อบสู่เรือนด้านซ้ายอันเป็นที่พัก 

      ดูสิ  ยิ้มไม่หุบเลยน่ะเจ้า   คงดีใจใช่ไหมที่พ่อกับแม่เจ้าจะมาหา  ดูสิข้าคงจะต้องถูกแม่เจ้าว่าให้เป็นแน่เลี้ยงหลานอย่างไรถึงได้แต่งตัวเป็นชายเยี่ยงนี้ เนื้อตัวมอมแมมเชียว  วันนี้ท่านตาไม่ได้ไปไหนกระมังเจ้าพันถึงไม่ได้ตามไปด้วย  คุณหญิงกล่าวประชดหลานรักเล็กน้อย  พลางปรายตามองสามีซึ่งนั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ มืออันอ่อนโยนทั้งของท่านตาลูบหัวปลอบโยนและเห็นใจเด็กน้อยอันยังไม่ประสีประสา รู้สนุกไปวันๆ

      ท่านตาท่านยายเจ้าขา  ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ๆ จะกลับมาอยู่กับน้อยเลยหรือไม่เจ้าค่ะ  แล้วถ้าพี่ใหญ่มาเรียนภาษาปะกิดจริง  หลานขอตามไปเรียด้วยได้ไหมเจ้าค่ะ ความสงสัยและความอยากทำให้เด็กน้อยต้องการรู้

      อันนี้ตาก็ไม่รู้เหมือนกัน  พ่อเจ้าต้องทำงานรับใช้บ้านเมืองอีกมา  ส่วนเรื่องภาษาปะกิดนั้น เอาอย่างนี้ดีไหมเข้าวังกับพี่เจ้า เจ้าจอมจะได้เมตตาสอนให้  ว่าอย่างไรคุณหญิง การปรึกษาอนาคตหลายสาวย่อยๆ ได้เริ่มขึ้น แต่ใจผู้เป็นตาเองนั้นยังไม่อยากให้หลานจากไกลเลย

      ยังเล็กนักน่ะค่ะ แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้เรียบร้อย ไม่ประดักประเดิด อิฉันจะได้มีผู้ช่วยเป็นหูเป็นตาเรื่องการบ้านการเรือนเมื่อแก่ด้วย     คุณหญิงเอื้อนเอ่ยอย่างเห็นดี  แต่ผู้เป็นหลานหาได้สนใจคำตอบไม่เพราะการอ่านหนังสือ ได้อยู่กับพี่สาวหล่อนนั้นเป็นสิ่งที่คาดหวังไว้มาก อีกทั้งหล่อนยังเล่นสนุกมานานแล้ว อีกเพียงขวบเดือนเท่านั้นเอง

      ********************************************************************

      ไอ้จุกแกว่าพ่อกะแม่ข้าจะจำข้าได้ไหมว่ะ  เสียงเล็กๆ ถามเด็กชายไว้ผมจุกกลางศรีษะ นั่งอีกฟากของเรือนท่าน้ำที่กำลังใช้มือสาวเอากอที่เด็กน้อยมองไม่เห็นเข้ามาไกล้ตัว  

      โธ่  คงจำได้น่าคุณน้อย  พ่อกับแม่ใครบ้างจะจำลูกตัวเองไม่ได้คนถูกถามตอบแบบไม่หันมามอง  ทั้งหงุดหงิดที่ถูกตามแต่เช้า ข้างยังไม่ได้กินดีนะที่มีขนมทองม้วนกรอบของโปรดขวดโหลใหญ่มาด้วย

      แล้วเอ็งว่า พ่อกะแม่จะด่าข้าไหมที่ฝึกดาบด้วย  แถมยังแอบไปเรียนหนังสือที่วัดกะพี่พลอีกด้วย เรื่องดาบข้าไม่ห่วงเท่าไหร่  แต่เรื่องหนังสือนี่แม้แต่ท่านตาท่านยายยังไม่รู้เลย  ความกังวลถึงความลับที่ไม่บอกให้ใครรู้เกี่ยวกับแอบตามพี่พลลูกชายพระสุนทรข้างบ้านอายุมากกว่าเจ้าหล่อนเพียงปีเศษ ไปเรียนหนังสือที่วัดมาแล้วเกือบ 3 โดยอ้างชื่อท่านตาหล่อน  ตอนนี้หล่อนสามารถอ่านหนังสือคล่องแม้แต่พี่พลยังอ่านไม่คล่องนัก ท่รวมทั้งท่านเจ้าคุณที่วัดยังแปลกใจที่หล่อนอ่านคล่องขนาดนี้  ท่านเลยเต็มใจสอนให้มากกว่าคนอื่นๆ

      สายลมเอื่อยๆ พัดผ่านใบมะพร้าวสูงเด่นใกล้เรือนท่าน้ำ  บัดนี้ใกล้เที่ยงแล้วยังไม่เห็นวี่แววของเรือจากพิษณุโลกเลย  เมื่อเช้านี้เด็กน้อยตื่นแต่ยังไม่สว่าง โดยไม่ต้องให้พี่เพรา พี่เลี้ยงต้องคอยปลุกดังเช่นเคย   ล้างหน้า ประแป้งบนใบหน้าขาวผ่อง หอมกรุ่นแป้งร่ำ   ผมเกล้าเป็นจุกไว้กลางกระหม่อม ปักด้วยปิ่นของฝากจากท่านพ่อและท่านแม่เมื่อครั้งก่อน  โจงกระเบนสีเหลืองอ่อนยกลายดอกพิกุล เสื้อคอกระเช้าสีเหลืองนวล  คาดเข็มขัดทองซึ่งท่านยายมอบให้เมื่อ 2  ปีที่แล้ว  ยามเที่ยงนี่แสนร้อนนัก ดีหน่อยที่ศาลาท่าน้ำแห่งนี้ร่มรื่นไม่อย่างนั้นคงเฉาตายก่อนที่เรือจะมา ถึง เมื่อไหร่หนอจะมาถึง  เมื่อไหร่หนอจะได้เห็นหน้าพ่อและแม่  พี่ๆ หล่อนหน้าตาจะเปลี่ยนไปจากเมื่อปีที่แล้วหรือไม่  พ่อกับแม่จะดีใจบ้างไหมเมื่อเจอหน้าลูกสาวคนนี้  สายน้ำทำไมไม่ไหลเร็วกว่านี้เรือจะได้แล่วฉิว แล้ว .... ดวงตาอันกลมโตบัดนี้ค่อยๆ หรี่ลง ปิดสนิทในเวลาต่อมา

      แม่วาดเจอคุณน้อยบ้างไหม ฉันตามหาจะให้รับข้าวเที่ยงหาตั้งนานยังไม่เจอเลย  เสียงพี่เลี้ยงถามหาเจ้านายน้อยไปทั่ว  แต่ไม่มีใครเห็นเลย

      ปัดโธ่เอ้ย  คุณน้อยยังไม่ได้รับอะไรเลยแต่เช้าไม่รู้เป็นลมอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้   นี่ท่านพระยากับคุณหญิงจะว่าอย่างไรบ้างนี่  สงสัยไอ้จุกตัวแสบก็ไปด้วยหายหัวเชียว  เสียงถอนหายใจของพี่เพราส่งท้ายหลังที่เร่งรีบไปทางเรือนพักด้านขวา หารู้ไม่ว่าคนที่ห่วงนั้นแอบเอาโหลทองม้วนกรอบกอดไว้ข้างกายทั้งที่ยังหลับ

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                     

                     

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×