คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 เจนีวา
บทที่ 1
หญิงสาวรูปร่างระหงราวกับนางแบบเดินเข้ามาในโรงแรมหรูย่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร พร้อมกับบอดี้การ์ดอีก 5 นายเดินตามหลังในมือหล่อนมีกระเป๋าราคาแพงถืออยู่ ซึ่งเป็นกระเป๋าใส่เจ้ากระต่ายตัวอ้วนตัวเดิม วันนี้โผล่หัวออกมามองไปรอบๆบริเวณอย่างสนใจ เธอก้าวอย่างมาดมั่นตรงไปที่ชั้น 20 ซึ่งเป็นชั้นที่เหล่าผู้บริหารทำงานอยู่ เธอไม่สนใจใครทั้งสิ้น ก้าวเดินฉับๆไปที่ห้องที่มีป้ายหน้าห้องติดว่า
คุณอดิศร รัตนดิเรก ประธานกรรมการ
พลั่ก ! ปึง !
“เอ่อ คุณหนูคะ เข้าไปไม่ได้นะคะ” เสียงเลขาวัยกลางคนที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้องดังขึ้น แต่ช้ากว่าหญิงสาวที่เปิดประตูเข้าไปแล้วปิดลงจนเกือบจะกระแทกหน้าเลขา เหล่าบอดี้การ์ดที่ตามมาก็ยืนรออยู่หน้าห้องอย่างเป็นระเบียบ เลขาสาวหันไปมองประตูที่ปิดลงแล้วหันกลับมามองหน้าบอดี้การ์ดพร้อมถอนหายใจเสียงดัง เหล่าบอดี้การ์ดทั้งหลายยิ้มรับแล้วทำหน้าขรึมยืนประจำการดังเดิม หล่อนจึงย้ายก้นตัวเองมานั่งทำงานต่อ
วันนี้บริษัทจะแตกอีกไหมเนี่ย!
เลขาจึงได้แต่คิดในใจแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ รอเวลาที่ระเบิดจะลง
“คุณพ่อคะ นี่มันอะไรกันคะ ” หล่อนโวยวายเสียงดัง โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งสิ้น ไม่สนใจแม้แต่ชายวัยกลางคนซึ่งหล่อนจำได้รางๆว่าเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ
“อะไรกันเจน ลูกใจเย็นๆก่อนสิ พ่อคุยธุระกับคุณชัชชัยอยู่ ลูกเห็นหรือเปล่า ทำไมไม่รอก่อน ตอนนี้พ่อติดธุระอยู่นะ ออกไปรอด้านนอกก่อนสิลูก” เสียงบิดาหล่อนพูดขึ้นเชิงตำหนิ
“เห็นคะ แต่เจนจะคุยกับคุณพ่อ เชิญคุณชัชชัยออกไปด้วยคะ” ถึงแม้จะได้ยินคำตำหนิจากบิดา แต่หล่อนก็ไม่ได้สนใจหรือรู้สึกผิดแม้แต่น้อย แถมยังไล่คนที่เข้ามาเพื่อคุยงานอยู่ออกไปอีก
“เอ่อ....ท่านครับ ผมว่า.....” เสียงชายวัยกลางคนอึกๆอักๆ มองหน้าคนเป็นเจ้านายที สลับกับมองหน้าคนที่ไล่เขาที
“ไม่ว่าอะไรทั้งนั้นแหละคะ เชิญค่ะ!” พูดจบแล้วผายมือไปทางประตู ชายวัยกลางคนหันไปมองหน้าท่านประธานเขาอีกที กำลังจะเอ่ยปากแต่เสียงหญิงสาวตะวาดแหวออกมาดังลั่น
“บอกให้ออกไปไงเล่า ! ออกไป๊!” เขารีบลนลานออกจากห้องแทบไม่ทัน
“เอาล่ะค่ะ ทีนี้คุณพ่อก็ว่างแล้ว” หล่อยิ้มหวานแล้วเดินมานั่งเก้าอี้ที่ชัชชัยเพิ่งลุกออกไปด้วยมาดนางพญา
“เฮ้อ”
คนเป็นบิดาได้แต่ถอนหายใจออกมา แต่ก็ไม่ได้ว่าหรือตำหนิถ้อยคำรุนแรงใดๆกับหญิงสาวเลยแม้แต่คำเดียวเพราะหล่อนเป็นลูกสาวคนเล็กของเขาซึ่งเขาและครอบครัวรักหล่อนมาก ตามใจหล่อนมาตั้งแต่เด็ก ทำให้หล่อนมีนิสัยเอาแต่ใจอย่างรุนแรง เขาและภรรยารวมทั้งลูกชายของเขาไม่เคยบังคับหรือขัดใจหล่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีอะไรที่เจนีวาหรือเจนไม่เคยได้!
“ทำไมเจนจะต้องไปเดทกับนายกฤษณ์นั่นอีกคะ!” หล่อนขึ้นเสียงสูงด้วยตามอารมณ์ที่พุ่งปรี๊ดเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หล่อนพยายามระงับสติอารมณ์ที่พุ่งตามความโกรธของหล่อน แล้วจ้องหน้าบิดาอย่างไม่วางตา
“โธ่! เจนลูกรักนี่มันคนที่ 23 แล้วนะลูกที่ลูกไปเดทด้วยแล้วจบลงด้วยการตัดเยื่อใยไมตรี แล้วเมื่อไรหนูจะได้แต่งงานสักทีล่ะลูก” คนเป็นบิดาพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ หวังว่าจะทำให้ลูกสาวของเขาใจเย็นลงและรับฟังมากขึ้น
“ไม่คะ ไม่ๆๆ เจนไม่ไปเดทกับนายนั่นอีกแล้วและเจนจะไม่ไปเดทกับใครทั้งสิ้น หนูคือ เจนีวา ณัฐชา รัตนดิเรกนะคะ มีผู้ชายอีกเป็นล้านๆคนให้เจนเลือก ทำไมเจนจะต้องไป!” หล่อนปฏิเสธบิดาพร้อมกับประกาศด้วยความมั่นอกมั่นใจในตัวเองเต็มที่
ใช่! หล่อนคือเจนีวา ณัฐชา รัตนดิเรก ลูกสาวคนเล็กของ คุณอดิศร รัตนดิเรกกับคุณนีรนารถ รัตนดิเรก เจ้าของธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวในเครือเจโลที่มีสาขาไปทั่วโลก ทำไมหล่อนจะต้องสนใจกะอีแค่ผู้ชายคนเดียว คนอย่างหล่อนไม่เคยจะเดทกับใครเกินสองครั้ง ถึงแม้เขาจะยังเดทกับหล่อนไม่ถึงสองครั้งและครั้งแรกนั่นแทบจะไม่เรียกว่าเดทเลย เพราะทันทีที่หล่อนนั่งลงและอุ้มลูกชายหล่อนออกมาวางบนโต๊ะ เพื่อให้ทานอาหารด้วย เขาก็ทำหน้าตกใจและสายตาที่รังเกียจเจ้าสัตว์ตัวอ้วนกลมอย่างปิดไม่มิด ทำให้เดทครั้งนั้นล่มทันที ด้วยการที่เจ้ากระต่ายตัวอ้วนทำจานหล่นใส่เขาแล้วเขาก็ปัดลูกชายหล่นตกจากโต๊ะ ทำให้หล่อนโกรธจนสาดน้ำใส่เขาแล้วอุ้มกระต่ายออกจากร้านทันที!
“แต่ลูกควรจะมองหาผู้ชายสักคนไว้ได้แล้วนะลูก ปีนี้หนูอายุ 24 แล้วนะ หนูยังไม่มีแฟน ไม่สิเคยมีแฟนเลย” ประโยคหลังเขาได้แต่พึมพำเบาๆกับตนเอง แต่หญิงสาวที่ถูกพาดพิงได้ยิน จึงแหวใส่บิดาตนกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“เหอะ ก็คนพวกนั้นรังเกียจเจ้าอ้วนนี่คะ”พูดจบหล่อนก็ก้มลงไปเปิดกระเป๋าแล้วนำเจ้ากระต่ายตัวอ้วนปล่อยลงให้วิ่งเล่นบนพื้นห้อง หล่อนมองตามเจ้ากระต่ายตัวอ้วนกลมแล้วยิ้มหวานแบบที่คนเป็นบิดาเห็นแล้วได้แต่ถอนหายใจ
“เจนลูกจะตั้งแง่กับผู้ชายทุกคนที่ไม่ชอบสัตว์เลี้ยงของลูกไม่ได้หรอกนะ”
“ไม่รู้ล่ะคะ เจนเคยเรียนคุณพ่อไปแล้ว ถ้าเจนจะแต่งงานกับใครสักคน เขาจะต้องรักเจ้าอ้วนเหมือนที่เจนรักแล้วอยู่กับมันได้”
คนเป็นบิดาได้แต่ถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้แล้วเอนตัวพิงพนักพิง วันนี้เขาตั้งใจจะคุยกับลูกสาวของเขาให้รู้เรื่องสักที
“พ่อรู้ว่าลูกรักเจ้าอ้วนมาก แต่ลูกต้องมีครอบครัว พ่อไม่ได้ให้รีบแต่ง แต่ควรจะศึกษาดูใจไว้บ้าง”
ไม่ใช่ปล่อยให้ตัวเองโสดมาจนถึงอายุ 24 ปีแบบนี้!
เขาไม่ได้จะเร่งรีบหรือผลักไสให้ลูกสาวเขาแต่งงาน แต่หล่อนไม่เคยมีแฟนเลยแม้แต่คนเดียว รักหลงแต่เจ้ากระต่ายตัวอ้วนกลม
“ไม่รู้ล่ะคะ เจนจะไม่แต่ง จะไม่คบหาดูใจกับใคร ถ้าเขารับเรื่องเจ้าอ้วนของเจนไม่ได้” หล่อนเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี แล้วไปอุ้มเจ้ากระต่ายตัวอ้วนขึ้นมาแนบอก
“เขาไม่ได้รังเกียจหรอกเจน ถ้าลูกเลี้ยงเหมือนคนอื่นเขา ไม่ใช่พาไปด้วยทุกที่แบบนี้!”
“ก็ไม่เห็นจะแปลกเลยนี่คะ คนที่เขาเลี้ยงหมาเขายังพาหมาไปเที่ยวด้วยเลยนี่คะ”
“แต่ไม่มีใครพาสัตว์เลี้ยงไปเดทด้วยหรอกนะเจนีวา!”
ความคิดเห็น