my love แก้วตาดวงใจ
คุณไม่รู้ว่าใครรักคุณมากที่สุด แต่ที่คุณรู้ว่าคุณรักใครมากที่สุด
ผู้เข้าชมรวม
202
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่องสั้น
ถ้าวันนั้นฉันลองฟังเค้ามากกว่านี้ วันนี้ที่ฉันต้องนั่งเสียใจคงไม่เกิดขึ้น
12 ตุลาคม 2549
“แพม ฟังผมก่อนนะ”
“ทำไมฉันต้องฟังคุณ ในเมื่อสิ่งที่ฉันเห็นมันก็บอกว่าคุณกำลังทำลายของขวัญที่ฉันตั้งใจให้คุณฉัน”
ฉันยืนกรานต่อหน้า ‘ทัศ’ แฟนหนุ่มของฉันเมื่อฉันเห็นเค้าโยนขวดแก้วที่มีตุ๊กตาผู้หญิงและผู้ชายที่ฉันตั้งใจซื้อให้เค้าลงไปในสระน้ำ
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะแพม ผมอธิบายได้”
“อย่ามาแก้ตัว นับตั้งแต่วันนี้ เรา จบกัน”
ฉันพูดทั้งน้ำตา ทั้งๆที่ฉันตั้งใจกับเค้าไว้มากแต่มันก็ศูนย์เปล่า เมื่อเค้าไมเคยเห็นค่าของมัน ฉันรักเค้ามากแต่ เค้าละ รักฉันสักคำเค้ายังไม่เคยพูด ความรักของเค้ากับฉันเกิดจากรักข้างเดียวมาโดยตลอด ฉันกลับคิดว่าเค้าจะรักฉันบ้าง แต่ฉันคิดผิด
“แพม
ยะ อย่า ปะ
ไป”
~โครม~
ทันใดนั้นอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อร่างของฉันถูกพุ่งเข้าด้วยรถปิ๊กอัพคันโต
ลาก่อนทุกคน ลาก่อน ทุกอย่างที่ฉันรัก ลาก่อน ทัศ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันนั้น วันที่ฉันคิดว่าตัวเองคงตายและหายไปจากโลกนี้แล้ว ถึงฉันจะยังอยู่ในโลกนี้แต่ฉันคงจะจางหายไปจากใจของคยที่ฉันรัก เพราะนับตั้งแต่วันนั้น ไม่มีวี่แววเขาแม้แต่น้อย หากแต่ไม่มีปาฎิหาร ฉันคงไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจอย่างนี้
“เป็นยังไงบ้างแพม”
เสียงหญิงสาวที่เป็นเพื่อนของฉันนั้นเอง ฉันจำได้ดี ถึง ตาฉันจะมองไม่เห็นจากอุบัติเหตุนั้นแล้วก็ตาม
“ฉันดีขึ้นมากแล้วละ”
“แล้วตาแกละ”
กิ่งถามฉัน ตาฉันอาจจะมองไม่เห็นเลยเพราะตั้งแต่อุบัติเหตุ ทำให้ประสาทตาของฉันได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และแก้วตาที่เสื่อม ฉันไม่มีโอกาสมองเห็นได้หากไม่มีคนบริจาคตาให้ฉัน
“
” ฉันไม่ตอบอะไรเพราะความเงียบเป็นคำตอบที่ทำให้ฉันไม่ต้องเจ็บ
“เธอได้ข่าวทัศบ้างไหม” ฉันตัดสินใจถามกิ่ง แต่คำตอบกลับเป็นความว่างเปล่า
~ก็อก ก็อก~
“สวัสดีครับ วันนี้หมอมีข่าวดีมาบอก” คุณหมอนั้นเองที่เดินเข้ามา
“ข่าวดีที่ว่านี่อะไรเหรอคะ” กิ่งพูดอย่างกระตือรือร้น
“คือ มีคนบริจาคดวงตาให้กับคุณครับ
”
คุณหมอพูด พร้อมกับบอกรายละเอียดอย่างเสร็จสรรพ มันเป็นข่าวที่ทำให้ฉันใจชื่นขึ้นมามากทีเดียว แต่คนที่บริจาคดวงตาให้ฉันนั้นจะได้รู้ว่าเป็นใครก็ค่อยรอตอนผ่าตัดเสร็จ
“ขอบคุณมากคะคุณหมอ” พอสักที่ความมืดในชีวิตฉัน
6 เดือนต่อมา
“ตาเธอดีขึ้นแล้วใช่ไหม” กิ่งเปิดบทสนทนาขึ้น
“ดีขึ้นแล้วละ เออ กิ่ง คนที่บริจาคดวงตาให้ฉันเธอช่วยติดต่อให้ทีสิ ว่าเป็นใครฉันจะได้ไปขอบคุณครอบครัวเข้า”
“บอกตรงๆนะ ว่าฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณหมอบอกว่าต้องให้เธอไปติดต่อเอง ตามที่อยู่ที่หมอเคยให้ไว้”
“อืม เดี๋ยวฉันจะพยายาม ”
“แล้วนี่แพมไม่คิดถึงทัศบ้างเหรอ”
“ทำไมฉันจะไม่คิดถึงเค้าละ ทุกวัน ทุกคืน ฉันคิดถึงเค้าเสมอ ไม่เคยมีวันไหนที่ฉันไม่คิดถึงเค้า แต่ เค้าละ”
ฉันสะกัดอารมณ์ไว้แค่นั้น เพียวแต่จะมาเยี่ยมยังไม่เคยมา ฉันลองโทรไปหาก็ปิดเครื่อง นี่เป็นเค้าที่ผิดแต่เค้าไม่เคยคิดที่กลับมา ขอโทษ มาอธิบายเหตุผลที่ เคย บอกก่อนจะเกิดเหตุ ว่ามีเรื่องที่จะต้องอธิบาย ทำไมเค้าถึงเป็นแบบนี่
“ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”
กิ่งพูดเหมือนมีอะไรสักอย่างที่ปิดบังฉัน รึว่า กิ่งกลัวฉันจะเสียใจที่ รู้ว่าทัศไปมีคนใหม่ ฉันคงได้แค่สันนิธาน มันคงเป็นอย่างนั้นสินะ
“ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้ ฉันจะมารับกลับบ้านแก”
ฉันรับพยักหน้า พรุ่งนี้ฉันก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วสินะ และฉันควรลืมทัศสักที แล้วเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล พอกันสักที
1 มกราคม 2552
ตั้งแต่วันนั้น ฉันพยายามจะตามหา คนที่ให้ดวงตาแก่ฉัน แต่มันก็สายไป เพราะเค้าได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างจังหวัด นับตั้งแต่ที่ลูกเค้าตายและได้บริจาคดวงตาให้กับฉัน ตอนนี้ฉันก็เดินเตร็จแตร่อยู่ในสวนสาธารณะ
~ฟิ้ว~
แผ่นกระดาษอะไรสักอย่างปลิวมาแปะที่หน้าฉัน
“ฉันรักเธอ”
นี่คือข้อความที่เขียนอยู่บนกระดาษซึ่งเป็นข้อความที่ฉันคุ้นลายมือมากเลยทีเดียว
“พี่ ครับ ของผมครับ”
เด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินตรงมาพร้อมกับยื่นมือมารับกระดาษจากฉัน
“ของหนูเหรอ” เด็กคนนั้นพยักหน้ารับ ใบหน้าของเค้าช่างเศร้าสร้อยเหลือเกิน
“หนูมากับใครจ๊ะ” แนเอ่ยถามเด็กคนนั้น
“มากับคุณพ่อและคุณแม่ครับ แต่ผมไม่รู้ว่าพวกท่านอยู่ที่ไหนแล้วตอนนี้”
“อ่าว หลงเหรอจ๊ะ”
“ครับ
ตอนแรกผมก็อยู่กับพวกท่านแต่เดินมาเก็บกระดาษ เพราะแม่บอกว่าสำคัญกับพี่มาก ผมเลยตามมาเก็บมัน”
“แล้วตอนนี้คุณพ่อคุณแม่อยู่ไหนจ๊ะ”
“สุสานฝั่งโน้นครับ แต่ผมไม่รู้ ว่าพวกท่านอยู่ตรงไหนแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่พาไปนะจ๊ะ” เด็กชายพยักหน้ารับ พร้อมกับจูงมือฉันไปที่สุสานซึ่งมัคนประปรายเพราะใกล้มืดแล้ว รูสึกว่าฉันสัมผัสกับลมที่อบอุ่นยังไงบอกไม่ถูกเมื่อจับมือเด็กคนนี้
“พ่อครับ แม่ครับ” เด็กชายเรียกหญิงชายวัยกลางคน พร้อมกับลากฉันไปหาพวกท่าน
“อย่างนั้นเหรอ ขอบคุณนะจะหนู” คุณป้าแม่ของเด็กว่าหลังจากที่เด็กคนนั้นเล่าเรื่องให้ฟัง
“ค่ะไม่เป็นไร” ฉันพูดพร้อมหันไปมองหลุมศพของคนที่เด็กคนนั้นบอกว่าเป็นพี่ ใบหน้าขาวรอยยิ้มที่เป็นมิตรพร้อมกับคิ้วและจมูกที่ได้รูป มะ ไม่ มันต้อง ไม่ใช้อย่างแน่นอน ไม่ใชเค้าเด็ดขาด ทัศ
“ทะ ทัศ” ฉันพูดพร้อมน้ำตา และทรุดตัวลง เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า หลุมศพของเค้าคนที่ฉันรักหมดหัวใจ ทำไมเรื่องมันถึงเป็นแบบนี้ เค้าตายไปแล้วเหรอ
“หนู รู้จักทัศด้วยเหรอ”
ฉันไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้าและมองรูปนั้นอย่างเจ็บปวดและไม่เชื่อสายตา
“ทัศ เค้าตายเมื่อสามปีที่แล้วนะจะ แต่เราก็ยังคิดว่าเค้ายังอยู่กับเราตลอดไป”
คุณป้าที่เป็นแม่ทัศพูดอย่างเจ็บปวด
“ทะ ทำไม เค้าถึง
”
ฉันหยุดพูดแค่นั้นแล้วพูดอะไรไม่ออก เค้าเป็นอะไรทำไมถึงไม่ยอมบอกปล่อยให้ฉันคิดว่าเค้าไม่รักฉันเล้ว
“ทัศ ตายด้วยโรคหัวใจ เค้าเป็นโรคหัวใจตั้งแต่เด็กๆ แต่ได้รับการรักษามาโดยตลอดอาการจึงไม่แสดงอออกมากนั้น แต่ระยะหลัง เค้าเครียดจากงานและอื่นๆจึงทำให้อาการเค้าฟทรุดหนักลง”
“
”
“จนวันนั้นเป็นวันเกิดเค้า เกิดอุบัติเหตุกับคนรักของเขาที่เคยบอกแม่ว่าจะพามาให้แม่ดูหน้า ทำไห้อาการกำเริบ ”
“
”
“ทัศถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลพร้อมกับแฟนของเค้า แต่แม่ไม่เห็นหรอกว่าเค้าเป็นใคร หลังจากนั้นเค้าคงยังอยู่ในอาการโคม่า แต่เค้าก็ยังยิ้มให้แม่และพ่อได้ และยังเล่าถึงแฟนเค้าให้พวกเราฟัง ถึงเค้าอยากจะไปเยี่ยแฟนเค้าใจแทบขาดแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเค้ายังอาการหนักอยู่”
“ฮึก ฮืออออ ฮือ ทะ ทัศ ทะ ทำไม นะนาย ฮือออ”
“ถึงอย่างนั้นเค้าก็ยังคงสอบถามข่าวจากเพื่อนว่าคนรักของเค้าเป็นยังไงบ้าง พอเค้ารู้ว่าคนรักของเค้าเกิดอุบัติเหตุอย่างหนัก จนทำให้เสียดวงตา อาการเค้าก็ทรุดหนัก พร้อมกับ ฮึก ฮืออ”
“ทะ ทัศ
”
“พร้อม กะ กับ บอกว่าหลัง จะ จากเค้าตายไปแล้ว เค้า ขะ ขอบริจาคดวงตาให้แฟนเค้า และขอร้องให้แม่ ทำตามที่เค้าขอ เพราะว่านี่เป็นสิ่งเดียวที่เค้าจะทำให้คนที่เค้ารัก และเธอก็รักเค้ามากได้พียงแค่อย่างเดียว”
“นะ นี่ เป็นเค้า” ฉันพูดพร้อมกับเอามือกุมหัวใจที่เจ็บปวดอยู่ตอนนี่ ทำไมเค้าถึงทำแบบนี่ ทำไม ฮือ ทำไม ถ้าเค้าทิ้งฉันไปอย่างที่ฉันคิด ฉันจะไม่เสียใจเลย เหมือนกับที่รุ้ว่าเค้าทำเพื่อนฉันขนาดนี้เลย นายรักฉันมาก ทำไมฉันมันโง่อย่างนี้ ถึงเอาแต่โทษนาย ว่าไม่รัก ทั้งๆที่ฉันไม่เคยเข้าใจนายเลย ฮือออ ทำไมไม่เป็นฉันที่ต้องตาย ทำไม
“หนู เป็นอะไรจ๊ะ”
“ทัศ หนูนี่ละคะ แฟนเค้า ฮืออออ ทัศ ฉะ ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ขะ ขอโทษ”
นับตั้งแต่วันนั้นฉันก็พูดกับตัวเองเสมอมาว่าถ้าฉันรักใครแล้วฉันจะรับฟังเหตุผลของเขาทุกอย่างก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรที่มันจะทำให้ฉันเสียใจในภายหลัง
บางที รัก...
อาจไม่ต้องการเฉพาะให้บอกรัก แต่การกระทำสำคัญกว่า
บางที รัก...
อาจไม่จำเป็นที่ต้องการจะครอบครองเป็นเจ้าของ แค่ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เขามีความสุข
บางที รัก...
อาจไม่จำเป็นต้องจำ แค่รู้ก็เพียงพอแล้ว...
ผลงานอื่นๆ ของ อาเซเชียน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ อาเซเชียน
ความคิดเห็น