SFปลุกฉันได้ไหม{กัน(โน่)ริท}*368 - SFปลุกฉันได้ไหม{กัน(โน่)ริท}*368 นิยาย SFปลุกฉันได้ไหม{กัน(โน่)ริท}*368 : Dek-D.com - Writer

    SFปลุกฉันได้ไหม{กัน(โน่)ริท}*368

    บางครั้ง....จินตนาการที่เราสร้างขึ้นมา มันอาจทำร้ายตัวเราเอง เมื่อไหร่ที่ผมจะหลุดพ้นจากภวังค์นี้สักที

    ผู้เข้าชมรวม

    1,501

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    1.5K

    ความคิดเห็น


    27

    คนติดตาม


    11
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ก.พ. 54 / 14:29 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
      


      



    ภาพความทรงจำเก่า ๆ ที่คอยหมุนวนในหัวสมองของผม
    มันทำให้ผมเจ็บปวดทรมานจนถึงทุกวันนี้
    เพราะอะไรกันนะที่ทำให้ผมไม่ยอมตื่นจากความฝันเหล่านั้นซะที
    อาจเป็นเพราะ...เค้าคนนั้นไม่ยอมปลุกให้ผมตื่นขึ่นมาจากฝันดีนั้นเสียที
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                      













      "ช่วยปลุกฉันได้ไหมให้ตื่นขึ้นมารับรู้ความจริง
      ว่าวันนี้ทุกสิ่งที่มีได้พังทลาย
      ช่วยบอกฉันว่ารักมันจบว่าเธอคบเขาไม่รู้หรือไง
      ใช้คำรุนแรงเพียงใด...จะไม่ว่าเธอเลยสักคำ
      ช่วยทำให้ที...."









            
      ร่างสูงบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยขบทันทีที่ตื่นนอนในตอนเช้า  มือนุ่มยกขึ้นมาขยี้ตาอย่างงัวเงีย  ก่อนที่ตาหวานจะหันไปมองนาฬิกาเรือนกระทัดรัดที่วางอยู่บนหัวเตียงนอน  ก็พบว่าเข็มสั้นนั้นชี้ไปยังเลขแปดแล้ว ส่วนเข็มยาวนั้นก็กำลังจะชี้ไปยังเลขสาม

       

       

       

       

       

       

                      “แปดโมงสิบห้านาทีแล้วหรือเนี่ย...อากาศดีชะมัดไม่อยากจะตื่นเลยให้ตาย”ร่างสูงโปร่งสบถกับตัวเองอย่างเบา ๆ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นรูปถ่ายที่วางอยู่บนหัวเตียงอย่างไม่ได้ตั้งใจ  รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมเข้มอย่างอดไม่ได้ 

       

       

       

       

       

       

                      ภาพของคนในรูปคนหนึ่งคือตัวเขาเอง  และอีกคนคือคนร่างเล็กนัยน์ตามกลมใส  ที่เวลาได้สบตาทีไรต้องใจสั่นได้ทุกที  แถมยังมีรอยยิ้มพิฆาตใจเสียด้วย  คน ๆ นั้นคือ”ริท”แฟนของเขานั่นเอง

       

       

       

       

       

       

                      แม้รูปใบนี้ได้ถ่ายมานานเกือบสองปีแล้ว  แต่เขาไม่เคยแม้จะเบื่อที่จะมองมันเลยสักครั้ง  และไม่เคยจะเบื่อคนร่างเล็กในรูปเลยสักครั้งเช่นกัน  มองทีไรเขาก็อดยิ้มไม่ได้ทุกทีสิน่า...

       

       

       

       

       

       

                      เมื่อนึกถึงใบหน้าอีกคนที่อยู่ในรูป  ร่างสูงก็อดที่จะกดโทรศัพท์ไปยังเบอร์ที่คุ้นเคยไม่ได้  ไม่ช้าก็ได้ยินเสียงใสจากปลายทางตอบกลับมา

       

       

       

       

       

       

                      “ฮัลโหลริท....ตื่นหรือยัง”ร่างสูงพูดกึ่งยิ้มหวานให้โทรศัพท์ดุจว่าคนปลายสายจะได้เห็นรอยยิ้มนั้น

       

       

       

       

       

       

                      “ริทตื่นแล้ว  กันมีธุระอะไรหรือเปล่า ตอนนี้ริทอยู่กับพี่โตโน่” จึ่ก!!!ร่างสูงเหมือนมีมีดนับร้อยมาแทงที่หัวใจ  ความรู้สึกมันโหวงเหวงไปหมด  จนกระทั่งได้ยินเสียงใสเรียกอีกครั้งร่างสูงจึงได้สติคืนมา

       

       

       

       

       

                      “เปล่าหรอก...กันแค่คิดถึง”คนโทรไปตอบด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ  ทำเอาคนฟังรู้สึกผิด  สองฝ่ายเงียบกันไปสักพักก่อนเสียงใสปลายสายจะเอ่ยขึ้น

       

       

       

       

       

       

                      “กัน....ริทขอโทษ ขอโทษที่ทำให้กันเสียใจ  แต่ริทรักพี่โตโน่ กันเข้าใจริทนะ”ร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ 

       

       

       

       

       

       

                      “กันเข้าใจ.....กันขอโทษที่ลืมตัว  ลืมไปว่าตอนนี้เราเป็นได้แค่เพื่อนกัน”ร่างสูงพูดจบก็กดวางสาย  น้ำตาที่กักเอาไว้มันไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่   เขาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นบ้าอะไร  ถึงยังเป็นแบบนี้

       

       

       

       

       

       

                      ทั้ง ๆ ที่เขากับริทเลิกกันมานานเกือบสามเดือนแล้ว  แต่ทุกวันนี้ที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าเขาจะต้องโทรไปหาริททุกเช้า  ตอนกลางวันจะต้องรีบบึ่งไปหาริทเพื่อจะรับไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวันแต่เขาก็ต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นริทไปกับโตโน่  ตกกลางคืนก็คอยให้ริทโทรมาหาแม้ริทจะไม่เคยโทรมาก็ตาม   พอก่อนนอนจะต้องส่งข้อความไปบอกฝันดีให้ริททุกคืนแม้ว่าริทจะลบมันทิ้งทุกที

       

       

       

       

       

       

                      ไม่ว่าจะในความจริงหรือความฝัน  ในหัวใจเขาก็มีแค่ริทคนเดียวเท่านั้น  แม้แต่ยามฝัน  เขาก็ฝันถึงแต่ริท  ฝันถึงวันที่รักและมีความสุขด้วยกัน  ฝันถึงวันที่สวยงามที่ได้ผ่านไปแล้ว....และไม่มีวันย้อนกลับมาอีก

       

       

       

       

       

       

                      ทุกครั้งที่เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก  เขาก็ต้องเจ็บปวดทุกครั้ง  ที่เวลาหันไปจะกอดร่างเล็กซึ่งเคยนอนอยู่ข้าง ๆ แล้วกลับต้องพบเพียงความว่างเปล่า  ทำไมเขาไม่เคยจำได้สักครั้งว่าระหว่างเขากับริทมันจบไปแล้ว....

       

       

       

       

       

                      อาจเป็นเพราะริทอ่อนโยนกับเขาเกินไป...ทุกวันนี้แม้เขากับริทจะเลิกกันไปแล้ว  เวลาที่เขาโทรไปหาหรือไปเจอริทไม่เคยพูดจาทำร้ายจิตใจให้เขาเจ็บปวดสักนิด  ริทยังคงทำตัวเหมือนเดิม  เคยดีกับเขายังไงก็ยังเป็นเหมือนเก่า จนทำให้เขาคิดไปไกลว่าริทยังเป็นคนรักของเขาอยู่...ทั้งที่ความจริง ริทเป็นของคนอื่นไปแล้ว

       

       

       

       

       

                     

       

       

       

                     

       

       

       

       

       

      ร่างเล็กรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อวันนี้ตื่นขึ้นมาแล้วไม่มีเสียงหวานของกันโทรมาปลุกเช่นทุก ๆ วัน  ตากลมใส

      เหลือบมองไปยังหน้าโทรศัพท์อย่างชั่งใจ  ก่อนจะตัดสินใจกดเบอร์ที่เคยโทรมาปลุกตนทุกเช้า

       

       

       

       

                     

      โทรไปหลายครั้งก็ได้ยินแต่เสียงรอสาย  ไม่มีสัญญาณตอบรับจากอีกฝ่ายเสียที  เกิดอะไรขึ้นกับกันหรือเปล่า  ร่างเล็กฉุกคิดในใจ  ก่อนจะรีบเรียกแท็กซี่ไปหากันด้วยความเป็นห่วง

       

       

      “กัน กัน เปิดประตูให้ริทหน่อยกัน”ร่างเล็กทั้งเคาะทั้งทุบประตูอยู่พักใหญ่แต่กลับไม่มีการตอบรับใด ๆ จากเจ้าของห้อง  คนมาเยือนเลยลองเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตูก็พบว่ากันไม่ได้ล็อกห้องไว้

       

       

       

       

       

       

      ร่างเล็กไม่รอช้ามือเรียวเล็กเปิดประตูเข้าไปในห้องทันที พลางสอดส่ายสายตามองหาคนหน้าคมเข้มที่คุ้นเคย  พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นคนที่กำลังตามหานอนกองอยู่ที่พื้นห้องอย่างไม่ได้สติ  ร่างเล็กจึงรีบปราดเข้าไปดูอย่างไว

       

       

       

       

       

      “กัน....ทำไมมานอนตรงนี้ล่ะกัน”ริทเขย่าตัวกันแต่ไม่มีวี่แววว่าคนที่โดนปลุกนั้นจะรู้สึกตัวบ้างสักนิด พลันสายตาริทก็เหลือบไปเห็นกระปุกยาบางอย่างที่กลิ้งอยู่ที่พื้นใกล้ตัวคนที่นอนอยู่  ในกระปุกนั้นเหลือยาเพียงไม่กี่เม็ดเท่านั้น  และมียาอีกจำนวนหนึ่งที่หล่นเกลื่อนพื้นอยู่  ได้เห็นแค่นี้ริทก็พอจะเดาออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

       

       

       

       

       

      “ยานอนหลับ...กันอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะริทจะพากันไปหาหมอ”ร่างเล็กไม่รอช้ารีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที

       

       

       

       

       

       

      “ตอนนี้คุณนภัทรปลอดภัยแล้วนะครับ หมอได้ล้างท้องให้เรียบร้อยแล้ว  อาการไม่น่าเป็นห่วงแต่...”หนุ่มวัยกลางคนในชุดกาวน์สีขาว ซึ่งก็คือคุณหมอผู้ช่วยชีวิตกันเอาไว้ได้เอ่ยขึ้นหลังจากเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินเมื่อครู่

       

       

       

       

       

       

      “แต่อะไรครับคุณหมอ”ริทกับโตโน่พูดขึ้นพร้อมกัน  หลังจากแพทย์วัยกลางคนนิ่งเงียบไปนาน  พาลให้ทั้งคู่เริ่มใจเสีย หากกันเป็นอะไรไป  เขาสองคนคงจะรู้สึกผิดไม่น้อย

       

       

       

       

      อีกคนรู้สึกผิดเพราะเป็นฝ่ายทิ้งกัน  ทำให้กันต้องเสียใจจนกินยานอนหลับจะฆ่าตัวตาย  อีกคนเสียใจ....เพราะตัวเองได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายของกันแท้ ๆ กลับไปแย่งคนรักของน้องชายตัวเองมา

       

       

       

       

       

      “คือว่า...จากการที่คุณนภัทรได้กินยานอนหลับเกินขนาดไปและได้นำตัวผู้ป่วยส่งแพทย์ช้าไป ทำให้ยาเหล่านั้นถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายแล้วไม่สามารถล้างพิษออกมาได้บางส่วน โดยเฉพาะเซลล์ประสาทสั่งการ....ทำให้ผู้ป่วยกลายเป็นเจ้าชายนิทรา”

       

       

       

       

       

      “เจ้าชายนิทรา”คนฟังทั้งคู่ทวนคำพูดของหมอพร้อมกันอย่างเบาๆ ในใจก็นึกกลัว...กลัวว่าคนหลับจะหลับไม่ยอมตื่น....จนวันตาย

       

       

       

       

       

       

      “และอีกอย่างคือ....คนไข้อาจจะเจออะไรมาก่อนหน้านั้นที่ทำให้เขาไม่อยากรับรู้เรื่องกระทบกระเทือนจิตใจจากความเป็นจริงอยู่แล้ว   เลยส่งผลให้เขากลายเป็นเจ้าชายนิทรา   ทางเดียวที่อาจทำให้เขาฟื้นได้อีกครั้งคือ....ต้องให้คน ๆ นั้นที่ทำให้เขาอยู่ในสภาพนี้มาคอยปลุกเขาไปทุกวัน  จนกว่าเขาจะพร้อมยอมตื่นเพื่อลุกขึ้นมาเผชิญกับโลกความจริงที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดอีกครั้ง  ....หมอขอตัวนะครับ”คนในชุดกาวน์สีขาวพูดจบก็เดินจากไป

       

       

       

       

       

       

      “กัน...กันตื่นขึ้นมาคุยกับริทสิ”ร่างเล็กยังคงทำหน้าที่นี้อย่างสม่ำเสมอทุกวัน  นี่ก็เกือบสามเดือนแล้วคนที่นอนหลับก็ยังไม่ยอมตื่นขึ้นมาสักที  แต่ร่างเล็กกลับไม่เคยเบื่อและรำคาญที่ต้องทำอย่างนี้ทุก ๆ วัน  เพราะต้นเหตุทั้งหมดมันเป็นเพราะเขาเอง....ร่างเล็กได้แต่โทษตัวเองในใจ  คิดแล้วน้ำใส ๆ ก็เริ่มจะมาคลอที่ตา

       

       

       

       

       

      เพราะถึงแม้วันนี้ริทจะรักอีกคนที่ไม่ได้อยู่ตรงหน้านี้ แต่ถึงยังไงคนตรงหน้านี้ก็เป็นคนที่ริทเคยรักและยังคงมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันเสมอ  ริทไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้นะกัน

       

       

       

       

      “ริทจะหนีไปไหนมาให้กันหอมแก้มซะดี ๆ”อีกครั้งที่ร่างเล็กได้ยินเสียงคนที่นอนเป็นเจ้าชายนิทราละเมอ  ยิ่งเห็นอย่างนี้เขายิ่งรู้สึกผิด  ขนาดตอนหลับยังฝันละเมอถึงเขาอยู่ทุกที....คนตรงหน้ายังฝันเห็นแต่วันที่เรารักกัน

       

       

       

       

      “ริท”

       

       

       

       

       

       

       

       

      ร่างเล็กสะดุ้งด้วยความตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงคนเรียกชื่อตัวเอง  หรือว่าจะเป็นกัน...กันฟื้นแล้ว  ร่างเล็กนึกด้วยความดีใจ   แต่ต้องถอนหายใจอย่างผิดหวังเมื่อหันมาเจอโตโน่ที่ยืนอยู่ข้างประตู

       

       

       

       

       

       

      “จะมาอะไรกันนักกันหนาทุกวัน....ไอ้กันมันคงไม่ฟื้นแล้วแหละ”ร่างสูงที่เพิ่งมาใหม่พูดอย่างหงุดหงิด  ก็จะอะไรกันนักกันหนามาเฝ้าได้ทุกวัน  มาทีไรมันก็ไม่ฟื้นสักที  ไอ้สำออย!!

       

       

       

       

       

      ตอนแรกที่กันต้องมานอนโรงพยาบาลเพราะกินยานอนหลับเกินขนาดเขาก็รู้สึกผิดอยู่หรอก  และเขาก็เข้าใจเวลาที่ริทจำเป็นต้องมาเยี่ยมคนรักเก่าอย่างกัน  แต่พอมาถึงวันนี้มันทนไม่ไหวแล้ว....ริทเล่นมาขลุกอยู่กับมันทั้งวันจนไม่มีเวลาให้เขา  เขาชวนไปไหนทำอะไรก็ปฏิเสธเขาเพราะจะมานั่งเฝ้าคนที่นอนอยู่นี่

       

       

       

       

       

      เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นมนุษย์มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกเหมือนกัน   และตอนนี้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่คนรักของเขามานั่งเฝ้าคนรักเก่าของตัวเองอย่างนี้....มันทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าริทยังมีเยื่อใยให้คนรักเก่าอย่างกันอยู่

       

       

       

       

      “ทำไมพี่โตโน่พูดอย่างนี้ล่ะ ริทว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”ร่างเล็กพูดขึ้นอย่างไม่พอใจเช่นกัน  ทั้งๆ ที่คิดว่าพูดกันรู้เรื่องแล้วแท้ ๆ

       

       

       

       

       

      “พี่ไม่เข้าใจ...ทำไมริทต้องมานั่งเฝ้าไอ้เดี้ยงนี่ทุกวันด้วย ถ้ามันขี้เกียจจะลืมตาดูโลกนักก็ปล่อยให้มันนอนอยู่อย่างนั้นแหละดีแล้ว จะไปยุ่งกับมันทำไม”ร่างสูงพูดด้วยอารมณ์คลุกกรุ่น

       

       

       

       

       

      “พี่โตโน่ยังจะกล้าพูดอย่างนี้อีกหรือ....แล้วทุกวันนี้ที่กันต้องเป็นอย่างนี้เพราะใคร  เพราะเราสองคนไม่ใช่หรือ”ร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงเรียบลง พลางหันไปมองหน้าคนที่นอนยิ้มอย่างมีความสุขกับความฝันอยู่บนเตียง

       

       

       

       

       

      “พี่รู้....แต่พี่กลัว  กลัวว่าริทจะกลับไปรักกัน  กลัวริทจะทิ้งพี่....ริทยังรักพี่อยู่ใช่มั๊ย”ร่างสูงเริ่มมีน้ำเสียงเรียบลงเช่นกัน  เขากลัว กลัวจริง ๆ กลัวจะเสียริทไป....เขาคงทำใจไม่ได้หากต้องเสียคนตรงหน้านี้ไป

       

       

       

      “เอ่อริท....ริท”ร่างเล็กเบี่ยงหลบสายตาร่างสูงที่มองคาดคั้นอย่างต้องการคำตอบ  ร่างเล็กไม่อยากจะพูดคำ ๆ นั้นที่ตรงนี้  เพราะกลัวว่ากันจะได้ยินจะเสียใจแล้วจะยิ่งอาการหนักกว่าเดิม  เลยได้แต่นิ่งเงียบไป........

       

       

       

       

       

      “พูดออกมาเถอะริท...ช่วยปลุกกันสักที”ร่างเล็กหันไปมองที่ต้นเสียง  ก็พบว่าคนที่นอนหลับมาเกือบสามเดือนได้ลืมตาขึ้นมาแล้ว  พร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลนองหน้าอย่างเจ็บปวด  คนพูดขยับตัวขึ้นมานั่งอย่างช้า ๆ แล้วพูดย้ำกับร่างเล็กอีกครั้ง

       

       

       

       

       

      “พูดออกมาสิริท....พูดให้กันได้ยินชัด ๆ ทีว่าริทรักพี่โตโน่ไม่ใช่กัน  ช่วยปลุกกันให้ตื่นจากความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ว่าเรายังรักกันอยู่เสียที  อย่าทิ้งให้กันอยู่อย่างนี้เลย ช่วยกันสักที” ร่างเล็กได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ เป็นเชิงปฏิเสธว่าทำอย่างนั้นไม่ได้  กันรู้ว่าริทไม่อยากทำร้ายจิตใจเขา  แต่เขาก็ไม่อยากอยู่ในความฝันแบบนี้ต่อไปเช่นกัน  มือนุ่มบีบเข้าทีไหล่สองข้างของร่างเล็กแล้วเขย่าแรง ๆ ร่างเล็กได้แต่ร้องไห้ที่ทำให้คนตรงหน้าต้องเจ็บปวด

       

       

       

       

      “ขอร้องเถอะริท...ช่วยปลุกกันที”

       

       

       

      “ปลุกกันเสียทีริท”

       

       

       

       

       

      “ริทปลุกกันที”  พลั่ก!!!!

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

      กันเอามือมาลูบหัวตัวเองป้อย ๆ เมื่อรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ ที่บริเวณศีรษะ  เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นริทยืนเท้าสะเอวมองตาเขียวอยู่ก็นึกเคือง....ตูสิต้องโกรธเป็นบ้าอะไรอยู่ดี ๆ มาตบหัวกันเฉยเลยเนี่ย

       

       

       

       

       

      “มึงมาตบหัวกูทำไมวะริท แมร่ง...เจ็บนะโว้ย”คนโดนตบหัวพูดอย่างเคือง ๆ ทำเอาอีกคนแทบโมโหแทบลมออกหู

       

       

       

       

       

      “เดี๋ยวกูก็เสยคางเข้าให้หรอก....แมร่งไอ้นี่  แล้วเมื่อกี๊หมาตัวไหนมันนอนละเมอเรียกกูวะ  ริทช่วยปลุกกันทีมึงละเมอตะโกนซะลั่นอย่างนี้ตั้งหลายรอบ  กูทั้งตะโกนปลุกมึงจนปากจะฉีก  เขย่าตัวมึงจนกูหอบแล้วมึงก็ไม่ยอมตื่นสักที  มึงจะให้กูทำยังไงหาไอ้กัน”ร่างเล็กพูดพลางส่งค้อนวงโตไปให้อีกคน    คนโดนบ่นเกาหัวแกรก ๆ  สักพักก็เริ่มจะเข้าใจ

       

       

       

       

       

      “อ๋อ....เมื่อกี๊กูฝันไป  กูเลยละเมอไปแบบนั้น”กันบอกพร้อมส่งยิ้มแหย ๆ ไปให้คนตรงหน้า

       

       

       

       

      “แล้วมึงฝันว่าอะไรวะถึงได้ละเมอเรียกกูให้ปลุกอย่างนั้น”ร่างเล็กถามด้วยความสงสัยพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้  ทำเอาอีกคนหน้าร้อนผ่าวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ รีบผลักคนตรงหน้าออกไป

       

       

       

       

       

      “ช่างฝันมันเถอะน่า...ฝันไม่เป็นเรื่องน่ะ เออนั่นตามึงขึ้นไปร้องเพลงแล้ว”คนหน้าเข้มชี้มือชี้ไม้ให้ร่างเล็กหันไปดูทีมงานที่มาตามเป็นสัญญาณว่าถึงคิวที่ร่างเล็กต้องขึ้นไปแสดงบนเวทีแล้ว  ร่างเล็กรีบลุกออกไปอย่างรีบร้อน

       

       

       

       

       

      กันมองตามร่างเล็กนั้นจนสุดสายตา  รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้มอย่างไม่ต้องปกปิดเมื่อร่างเล็กได้ลับตาไป  ดีแล้วที่มันเป็นแค่ฝัน  ความเป็นจริงขอแค่เขาได้มีริทอยู่ข้าง ๆ ก็พอ .....แม้จะได้เพียงแค่แอบรักไปวัน ๆ ก็ตาม 

       

       

       

      >>>>>>>>>>>>>>>>””””””””””””””””””””””””””””””””””<<<<<<<<<<<<<<<<<<<

       

       

       

       

       

      .......................................................................................................................................................

       

       

      ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ไม่รู้ถูกใจกันหรือเปล่า(ไม่รู้เป็นไรพอนึกพล็อตSFออกทีไรมันจะต้องจบแบบหักมุมทุกที ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน) พอดีฟังเพลงปลุกฉันได้ไหมของพี่กันแล้วจู่ ๆ หัวมันก็แล่นกลายเป็นพล็อตฟิคไปซะงั้น  ก็เลยลองแต่งมาให้อ่านกันดู  ความจริงฟิคเรื่องนี้แต่งไว้นานแล้วตั้งแต่เพลงนี้ออกใหม่ ๆ แต่พอดีว่าแต่งเสร็จแล้วคอมมันแฮ็งค์พอดีเลยเพิ่งได้เอามาลง  หนุกไม่หนุกยังไงก็บอกกันบ้างน๊า...ไว้โอกาสหน้าเจอกันอีกจ้า

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

                     

       

       

       

       

                     

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×