ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] dangerous time

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter6

    • อัปเดตล่าสุด 10 ม.ค. 57


    กริ๊ง!!!!!!!!!!!
     
     
     
    ในขณะที่ผมเผลอหลับไป จู่ๆเสียงสัญญาณกันขโมยในบ้านของเลย์ก็ดังขึ้น! 
    ทำให้ผมต้องรีบลุกขึ้นหาที่มาของเสียงเพื่อที่จะหยุดมัน ก่อนที่ไอพวกศพกินคนข้างนอกนั่นจะแห่กันเข้ามา 
     
    'เชี่ยเอ้ย! มาดังอะไรตอนนี้วะ! ผมสบถออกมาในใจ
     
    ผมพยามนึกถึงทุกคำพูดของเลย์ที่เคยพูดเอาไว้ตอนแนะนำสถานที่ในบ้าน ตอนที่ผมมาบ้านเขาครั้งแรก คิดสิๆ
     
    'นึกออกแล้ว! ในห้องใต้หลังคาในห้องของเลย์'
     
    ผมจึงรีบวิ่งขึ้นบันใด พร้อมหยิบเอาไม้เบสบอลและมีดพกติดตัวไปด้วย แต่ยังวิ่งไม่ทันจะถึงชั้นบนด้วยซ้ำ ผมก็ได้ยินเสียงเหมือนพวกมันกำลังจะพังประตูเข้ามา! 
     
     
     
    โครม!
     
     
    เสียงประตูที่พังลงทำให้ผมคลั่งแทบจะเป็นบ้า ผมรีบวิ่งเข้าไปในห้องของเลย์ให้เร็วที่สุด ห้องของเขาเต็มไปด้วยรูปคู่ของเขาและผม และรูปกลุ่มของพวกเรา  เห็นแบบนี้ทำให้ผมนึกห่วงเจ้าตัวยุ่งของผมขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าป่านนี้เขาจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง ผมคงได้แต่ภาวนาให้เขาปลอดภัย
     
     
    "ฮืออ ออ" 
     
    เสียงพวกมันที่พังประตูเข้ามาได้ ดังอยู่บริเวณชั้นล่างของบ้าน มันคงกำลังหาตัวผมอยู่  แค่ผมไม่ส่งเสียงดัง ผมว่ามันคงไม่แห่ขึ้นมาบนนี้แน่ แต่ก่อนอื่นผมควรจะทำให้ไอเสียงร้องแสบแก้วหูผมหยุดลงเสียก่อน ก่อนที่พวกมันจะแห่กันมาตามต้นตอของเสียง
     
    ผมพยามหาวิธีที่จะหยุดมันทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่ได้ผล มีทางเดียวที่จะทำให้มันหยุดได้ คือพังมันซะ
     
    ผมง้างไม้เบสบอลสุดแขนแล้วฟาดเข้าไปที่ตัวควบคุมอย่างเต็มแรง มันได้ผล! เสียงเตือนหายไปแล้ว 
     
    แต่ผลที่ตามมาก็คือพวกมันกำลังแห่กันขึ้นมาบนนี้ คงเพราะเสียงที่ผมพังไอเครื่องนั้นนั่นแหละ
     
    "ฮือออ อออ"
     
    พวกมันเดินเข้ามาในห้องของเลย์แล้ว มันเดินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นไม่ยอมออกไปสักที คงได้กลิ่นเลือดเนื้อของมนุษย์อย่างผม 
     
     
     
     
    ผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว พวกมันยังไม่ยอมออกจากห้องไปสักที ผมคิดว่าผมควรหาทางหนี ขืนผมอยู่อย่างนี้ต่อไป สักวันผมคงอดอาหารตายแน่ ผมจึงตัดสินใจปีนออกทางหน้าต่างในห้องใต้หลังคา ผมปีนอย่างทุลักทุเล 
     
     
    'แย่ละ ไม่มีที่ให้เหยียบปีนลงไป คงต้องโดดอย่างเดียวเท่านั้น'
     
     
     
    ตุบ!
     
     
    "โอ้ย!" 
     
    นี่ไม่ใช่ความคิดทีดีเลยที่ผมตัดสินใจโดดลงมาจากชั้นสอง เพราะอะไรนะเหรอ? ก็ตอนนี้ข้อเท้าผมแพลงน่ะสิ! ให้ตายเถอะ ทำไมผมถึงซวยขนาดนี้เนี่ย! 
    แล้วความซวยของผมยังไม่หมดลงเพียงเท่านี้ เพราะพวก'มัน'ที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน กำลังมุ่งมาหาผมที่ยืนเจ็บข้อเท้าอยู่ 
    ผมได้แต่พยามกระเพกหนีพวกมันให้เร็วที่สุด! ถึงตอนนี้มันจะตามผมมาแค่4-5ตัว แต่ผมในสภาพแบบนี้คงสู้อะไรมันไม่ได้แน่ 
     
    ผมพาตัวเองออกมาถึงประตูรั้วบ้าน ในขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตูรั้วออก ก็มือหยาบแห้งมาจับที่ไหล่ผมไว้! 
     
    "ฮืออ ออ" 
     
    "ปล่อยกู ไอเชี่ย!"
     
     ผมใช้ไม้เบสบอลฟาดที่หัวมันไปเต็มแรงจนมันล้มลง ผมจึงรีบใช้จังหวะนี้ ออกจากประตูรั้วให้เร็วที่สุด! แต่ผมคงจะรีบเกินไป เพราะเพียงผมก้าวออกมาได้เพียงไม่กี่เก้าผมก็ล้มลง
     
    ไอซากศพกินคนที่ผมเพิ่งฟาดมันล้มไปเมื่อกี้ก็ลุกขึ้นมุ่งตรงมายังผม มันขึ้นคร่อมร่างผม พยามจะกัดเข้าที่คอของผม ผมใช้มือทั้งสองดันไหล่มันไว้ แต่แรงของผมก็ใกล้จะหมดลงทุกที เพราะผมไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง นี่ผมจะต้องมาตายในสภาพนี้จริงๆเหรอเนี่ย 
    ผมยังไม่อยากตายนะ 
    ผมยังไม่ได้บอกเลย์เลยว่าผมรักเขามากแค่ไหน ถึงผมจะดูเป็นห่วงเทคแคร์เลย์ดีแค่ไหน แต่ผมก็ไม่เคยพูดว่ารักเขาเลยสักครั้ง เพราะผมเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง ผมชอบที่ทำมากกว่าพูด 
    ผมจึงอยากจะขอโอกาสที่จะได้บอกว่าผมรักเขาแค่ไหน แต่พระเจ้าคงไม่ให้โอกาสผมสินะ
     
     
    'ฉันรักนายนะ จางอี้ชิง'
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    -Lay Part-
     
     
    หลังจากที่วิ่งหนีพวกมัน โรคหอบของผมก็กำเริบ ทำให้ผมล้มลง เป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างไร้วิญญาณกำลังเดินเข้ามาใกล้ผม
    สติของผมบอกว่าควรลุกวิ่งหนีให้เร็วทีสุด แต่ร่างกายของผมตอนนี้ไม่เอื้ออำนวยเสียเลย 
    ผมทำได้เพียงแต่เหวี่ยงไม้เบสบอลเพื่อกันไม่ให้พวกมันเข้ามาใกล้ แต่เรี่ยวแรงของผมใกล้จะหมดลงเต็มที นี่ผมจะต้องมาตายตรงนี้จริงๆเหรอ? ผมบอกยังไม่ได้บอกลาคริสเลยนะ ผมอยากจะเจอหน้าเขา อยากจะกอด และจูบที่ริมฝีปากชมพูของเขาก่อนที่ผมจะตายเป็นครั้งสุดท้าย
     
     
     
     
     
    "ป่านนี้ไอพวกนั้นจะเป็นไงมั่งวะ" 
    ไคถามขึ้น พลางปาดเหงื่อที่ไหลออกมาเต็มใบหน้าของเขา
     
    "ฉันว่าก็คงปักหลักอยู่ที่บ้านของซูโฮนั่นแหละ" 
     
    ดีโอพูดขึ้นพร้อมกับเอื้อมผ้าเช็ดหน้าไปซับเหงื่อให้ไค ที่เหงื่อไหลท่วมตัวเพราะแบกอาวุธมาจากบ้านแบคฮยอน
     
    "อีกนานเปล่าวะ กว่าจะถึงบ้านไอซูโฮเนี่ย กุเริ่มเหนื่อยแล้วนะเนี่ย" 
     
    ชานยอลบ่นขึ้น
     
    "อย่าบ่นกันนักสิ ฉันก็เหนื่อยไม่แพ้พวกนายหรอก ถ้าลู่ห่านไม่โทรมาบอกเรื่องคริสติดอยู่ในโรงพยาบาลบ้าๆนั่น ฉันไม่มีวันมาเดินล่อความตายอยู่นี่หรอก" 
     
    แบคฮยอนร้องบ่นขึ้นพร้อมกระดกน้ำขึ้นดื่ม แล้วส่งต่อให้คนตัวสูงที่เดินอยู่ข้างๆ
     
    "เฮ้อ..อ พูดแล้วแม่งเครียด เฮียจะเป็นยังไงมั่งวะ"
     
    "กุว่าเฮียต้องไม่เป็นไร เชื่อกุดิกัมจง" 
     
    ชานยอลพูดปลอบไคแล้วกระดกน้ำขึ้นดื่มบ้าง
     
    "จะสงสารก็แต่เลย์ ป่านนี้คงร้องไห้ตาบวมแน่ๆ" ดีโอพูดด้วยแววตาเศร้าหมอง
     
    "นั่นสินะ แล้วถ้าเป็นฉัน. ตัวเล็กจะทำยังไง?" 
     
    ไคก้มหน้า เอียงถามคนตัวเล็กที่เดินข้างๆ
     
    "ฉันก็จะหาแฟนใหม่ไง ^^"
     
    "หู่ว..ว ใจร้ายชะมัด :(" 
     
    คนตัวสูงเบ้ปาก ทำน้ำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
     
    "ล้อเล่น ฉันก็จะตามไปหานายทันที ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหน^^"
     
    "จริงรึ?" 
     
    "จริงสิ"
     
    "แน่นะ?"
     
    "แน่สิ"
     
    "ไม่ยะ..."
     
    "โอ้ย! อะไรของพวกคุณมึงคร้าบ สถานการณ์ตอนนี้มันน่าสวีทตรงไหนเนี่ย" 
     
    ชานยอลแว้กใส่ไคและดีโอ ที่เดินอยู่ข้างหน้า
     
    "อิจฉาอ่าดิ้ ไอหูกาง" ไคหันมายิ้มที่มุมปากใส่คนที่เดินตามหลัง
     
    "อิจฉา? อิจฉาทำไม เบค่อนน้อยกุก็อยู่ตรงนี้ จริงไหมจ๊ะ เบค่อนน้อย^^" 
     
    ชานยอลว่าพลางหันไปยิ้มหวานใส่คนตัวเล็กที่เดินข้างๆ
     
    "ไม่รู้ว้อย! ไม่มีอารมณ์ เหนื่อย" 
     
    "หู่ว..ว สงสัยประจำเดือนไม่มาวะ คราวนี้กุยอมมึงวะไอดำ"
     
    "ฮ่าๆ สมน้ำหน้ามึง หะ...เห้ย! ข้างหน้ามีพวกมันเต็มไปหมดเลยวะ"
     
    "ทำไงได้ก็หลบดิวะ"
     
     
     
     
     
     
    Sweet Kind
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×