ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LaB Boy เด็กชายในแล็บวิทย์

    ลำดับตอนที่ #2 : ทอดทิ้ง

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 57


    CHAPTER 2

    " ทอดทิ้ง "

     

                    " ศรา  คุณจะทิ้งชั้นไปอย่างนี้ไม่ได้นะ คุณจะทิ้งปัญหาทุกอย่างให้ชั้นแบกรับคนเดียวไม่ได้นะ ศรา  ได้โปรดเถิด..ชั้นรักคุณนะ " หญิงสาวโถมตัวเข้ากอดชายหนุ่มที่เธอรักสุดหัวใจไว้ เพื่อหวังว่าเขาจะอยู่กับเธอตลอดไป มือของชายหนุ่มสัมผัสเอวของเธอเบา ๆ หญิงสาวรู้สึกมีความหวัง พลันร่างของชายหนุ่มก็ค่อย ๆ ปล่อยมือจากอ้อมกอดหญิงสาว แล้วหันหลังเดินจากไปอย่างไม่มีเยื่อใย หญิงสาวทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต พลันหยดน้ำใส ๆ  ก็ไหลพรั่งพรูออกจากตาของหญิงสาวผู้ถูกทอดทิ้ง มันคือความเจ็บปวดที่สุดเท่าที่หญิงสาวเคยรับมา

                    " ศรา  อย่าทิ้งชั้นไป  ชั้นรักคุณ ฮือ ฮือ ฮือ ๆๆ "

                    อรดาสะดุ้งตื่นจากความฝัน เหงื่อกาฬไหลท่วมตัว  ฝันร้าย.......นี่เธอเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หญิงสาวเริ่มมองสำรวจตัวเอง ชุดทำงานยังไม่ได้เปลี่ยน พลางยกมือมาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ

                    " ตายแล้วสี่ทุ่มครึ่งแล้วเหรอเนี่ย  " หญิงสาวพึมพำ รีบกุลีกุจอลุกจากเตียงนอนไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้า ก่อนจะเดินไปเอื้อมมือเพื่อจะเปิดตู้เสื้อผ้า ทว่าเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำทำให้หล่อนต้องชะงัก หวนคิดถึงกลิ่นสาบสางเหม็นเน่าที่หล่อนได้รับเมื่อตอนเย็น  ...คงไม่มีอะไรหรอกน่า หญิงสาวรวบรวมความกล้า เปิดตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง เมื่อพบกับความว่างเปล่าไร้สิ่งผิดปกติอันใด เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก รีบแขวนเสื้อผ้า แล้วเตรียมผ้าขนหนูเพื่อลงไปอาบน้ำชั้นล่าง

                    ทางเดินลงบันไดสู่ชั้นล่างมืดสนิท หญิงสาวนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าสวิตไฟอยู่ตรงไหน จึงค่อย ๆ เดินลงบันไดอย่างระมัดระวัง

                    เหลืออีกแค่  4 ขั้นเท่านั้น  ทันทีที่ก้าวขานั้นเองหญิงสาวรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างมาปะทะข้างหลังอย่างแรง

                                    ผลัก!! ว๊ายยย   โครมมม!!!!

                    ร่างของหญิงสาวกลิ้งตกบันได เข่าและศอกลงปะทะพิ้นล่างสุดอย่างแรง

                    " โอยย  เจ็บ ๆๆ " หญิงสาวโอดครวญ พลางยกข้อศอกขึ้นมาดู พบว่าเป็นรอยเขียวช้ำ เข่าทั้งสองข้างก็มีสภาพไม่ต่างกัน หญิงสาวจ้องมองไปที่บันไดอีกครั้ง หล่อนแน่ใจว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน  แรงผลักที่รู้สึกนั้นคืออะไรกันแน่ นี่หล่อนกำลังเผชิญกับอะไร

                    หญิงสาวค่อย ๆ  ตั้งสติแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน  ความเจ็บปวดทำให้อรดียืนได้ไม่ถนัดนัก  หญิงสาวค่อย  ๆ เดินกะเผลกไปหาสวิตไฟ  คลำหาจนเจอ เธอไม่รอช้ารีบกดสวิตไฟทันที

                    แสงจากหลอดไฟนีออนกระพริบถี่ ๆ สามสี่ครั้ง แล้วกลับสว่างร่า เผยให้เห็นทุกส่วนของบ้านพักชั้นล่าง หญิงสาวค่อย ๆ เดินเข้าห้องน้ำ เปิดก๊อกที่อ่างล้างหน้า กวักน้ำล้างหน้าอย่างแรง แล้วเงยหน้าขึ้นมองกระจก  เมื่อสังเกตเห็นว่ากระจกในห้องน้ำมีฝ้าจับอย่างหนา จึงเอื้อมหยิบขันตักน้ำมาล้างกระจกให้สะอาด พร้อมกับตักราดตัว น้ำที่นี่ก็เย็นใช้ได้เหมือนกันแฮะ หญิงสาวคิดในใจ หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว จึงคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบกาย แล้วกลับไปส่องกระจกอีกครั้ง ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น..  ไม่สิ..ตั้งแต่เธอตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเดิมเมื่อสองเดือนที่แล้ว ความเครียดที่ต้องตกงานและปัญหาต่าง ๆ นานาทำให้หล่อนไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลย  นี่ถ้าหล่อนไม่ได้ปลาเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยช่วยให้ได้งานใหม่อีกครั้งก็ไม่รู้ว่าชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไร กับผู้หญิงบ้านนอกตัวคนเดียว หญิงสาวคิดพลางส่องกระจกเพื่อสำรวจดูริ้วรอยและความทรุดโทรมของใบหน้า ไล่จนถึงลำคอ หัวไหล่  อืม..ผิวเรายังขาวใช้ได้อยู่นะ เมื่อไล่สายตาเรื่อยมาจนถึงแผ่นหลัง...เอ๊ะ!!  หญิงสาวเพ่งมองในกระจกอย่างประหลาดใจเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง .. รอยแดงอ่อน ๆ ที่แผ่นหลังหล่อนนี่คืออะไร แม้จะมองไม่ชัดนักแต่มันกลับคล้ายรอยมือใครบางคนประทับอยู่  ไม่นะ  ..เป็นไปไม่ได้  หล่อนส่ายศีรษะ  ชั้นเป็นครูวิทยาศาสตร์นะ จะให้คิดว่ารอยที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่งมงายไร้เหตุผลได้ยังไง ไร้เหตุผลสิ้นดี  หญิงสาวครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจรีบเดินออกจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ไม่รอช้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนบางเบา แต่ในใจยังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยายามหาที่มาของรอยแดงในขณะที่หล่อนกำลังเดินลงบันได หรือว่าแรงผลักนั่น.... ไม่เด็ดขาด ไม่มีเหตุผลอะไรเลย หล่อนส่ายหัวอย่างหงุดหงิด คิดไปก็ปวดหัว หล่อนคิดในใจ  ..น้ำขิงสักแก้วท่าจะช่วยคลายเครียดได้ หญิงสาวจึงลงไปกดน้ำร้อนเพื่อชงน้ำขิงขึ้นมาดื่ม หญิงสาวหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ นานา

                    แก้วน้ำขิงร้อน ๆ ค่อย ๆ ถูกยกขึ้นมาจิบผ่านลำคอหญิงสาวอย่างช้า ๆ แต่ทว่าบนใบหน้าของผู้ดื่มกลับไม่สามารถคาดเดาได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แล้วหยดน้ำตาหยดแรกไหลออกจากดวงตาสวยคู่นั้น

                    ความเงียบ ความเหงา บางครั้งเราไม่อยากรับมันให้เป็นเพื่อนหรอก แต่ก็จำเป็นต้องรับมันให้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดทุกที ในยามที่ไม่มีใคร สำหรับคนตัวคนเดียวอย่างอรดีด้วยแล้ว เธอชินชาที่จะอยู่ในอารมณ์แบบนี้ เหมือนความเหงาจะพูดเยาะเย้ยว่า  เธอเข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกทอดทิ้งรึยังละ " ความเงียบนั้นมันช่างเกาะกินจิตใจให้เจ็บปวดทรมาณเหลือเกิน เมื่อหวนคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิต เรื่องราวบางอย่างที่ไม่อยากจดจำ แต่ทำไมเธอถึงลืมมันไม่ได้ซักที  ทำไมหนอ

    ความฝัน....

                                    ชายที่ชื่อ....           " ศรา .."

                                                    เพล้ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

                               แก้วน้ำขิงอยู่ในสภาพแตกกระจายอยู่ที่มุมห้อง.......

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×