คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 6 : เพราะกุญแจคือปัญหา
6
เพราะกุญแจคือปัญหา
“นายจะทำเสียงดังทำไมฮะเนี่ย ! แค่กุญแจไม่เห็นต้องโมโหขนาดนี้เลยนี่นา”
“เอามันมาให้ฉันซะ” เฮดโฟนหลับตาก่อนจะพูดพร้อมกับแบมือมาทางฉัน
“งั้นฉันก็ไม่มีตัวประกันน่ะสิ”
“อย่าให้ฉันต้องเล่นงานเธอนะ !”
“เวลานี้คนเยอะจะตาย แล้วที่สำคัญ ... ในย่านนี้ก็แทบจะไม่มีใครรู้จักนายเลยด้วยซ้ำ” แหงล่ะ ... ถ้าทุกคนในย่านนี้รู้จักเขาล่ะก็ ไม่มีใครกล้าที่จะเหยียบเข้ามาในร้านนี้แน่ ๆ เพราะที่นี่เป็นเขตเอเท็นไซต์ไม่ใช่เขตซิตี้มาส์ตที่เขาเป็นที่ขึ้นชื่อนี่นาเมื่อจบคำพูดของฉันเฮดโฟนที่นั่งอยู่ก็ถึงกับกำหมัดแน่นเลยทีเดียว
“เพราะฉะนั้น ... นายต้องทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง ! ภายในสองอาทิตย์”
“คาดหวังเกินไปหรือเปล่า” ฉันรู้ว่าเฮดโฟนพยายามที่จะพูดให้น้ำเสียงนิ่งที่สุด แต่ฉันก็รู้สึกได้ว่าเขาหัวเสียอย่างแรง
“ไม่รู้สิ ... ฝากเคลียร์ค่าไอศกรีมด้วยก็แล้วกัน” ฉันพูดจบก่อนที่จะลุกขึ้น แต่แล้วก็หันมาพูดกับเขาอีกทีว่า “ฉันจะไปแถว ๆ AN นะ” แล้วก็เดินจากไป (เกรียนมาก)
“เฮ้ ! เดี๋ยวก่อนสิ !”
ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาไปเล้ย ~ ขอบอกเลยว่า ... เค้กไอศกรีมนี่ ราคาถ้วยละ 500 บาทนะคะ ! ตามจริงฉันก็ไม่ได้ไปมุ่งหน้าไปที่ AN หนึ่งในโซนของเอเท็นไซต์ไปซะทีเดียวหรอก เพราะฉันจะดูเขาก่อนไปน่ะ ฉันอยากจะเห็นสีหน้าของเขาจะแย่แล้ว
เมื่อหาจุดยืนได้ปุ๊บ ฉันก็มองเข้าไปในร้านที่เห็นเฮดโฟนกำลังยืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์พอดีพร้อมกับสีหน้าที่ ... อึ้งสุด ๆอ่ะ ! เขาเหมือนคนเอ๋อไปเลยช่วงนึงเมื่อพนักงานเคาน์เตอร์ซึ่งเป็นพี่วูนั่นเอง ที่ท่าทางจะบอกราคาคูณสองกับเขาไปแล้ว ก็ก่อนออกมาฉันแวะไปบอกพี่วูก่อนไงว่าเฮดโฟนจะมาจ่ายค่าออร์เดอร์ทั้งหมดเอง สองคูณห้าเท่ากับเท่าไหร่น้า ~ หนึ่งพันใช่มั้ย ! ฮ่า ๆ ก็เท่ากับว่าไอศกรีมก็ถ้วยล่ะหนึ่งพันบาท ลองเอาทั้งหมดมาบวกกันสิ หนึ่งพันบวกกันสิบครั้งได้ ... หนึ่งหมื่น ! โอ้มายก็อด OoO เยอะไม่เบาเลยนะนั่น ดีใจด้วยนะเฮดโฟนมาถึงนี่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสียเงินไปหนึ่งหมื่นแล้ว
เฮดโฟนควักบัตรเครดิตออกมาด้วยสีหน้านิ่ง ๆ แต่ฉันรู้ว่าในหัวของเขาต้องฉายภาพที่กำลังกระทืบฉันอยู่แน่ ๆ -_- ฮะ ๆ สารภาพตรง ๆ เลย ว่าตอนนี้ฉันกำลังกลั้นหัวเราะอยู่นะเนี่ย ถ้าเกิดหัวเราะออกไปแล้วกลัวคนแถวนี้จะตกใจเอาน่ะ เอาล่ะ ไปแถว AN ดีกว่า ที่นั่นมีของกิ๊ฟช็อป น่ารัก ๆ เต็มไปหมดเลย เชื่อเหอะ เฮดโฟนต้องตามฉันมาถูกแน่นอน
ณ ร้านกิ๊ฟช็อป
หลังจากที่เดินฝ่าคนมานับหมื่นคนได้แล้ว ฉันก็เข้ามาภายในร้านกิ๊ฟช็อปได้ซะที ที่นี่มีของน่ารัก ๆ ให้เลือกเพียบเลยแหละ มันเยอะจนฉันแทบจะตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าจะเดินไปโซนไหนก่อนดี ทั้งกว้าง และของก็เยอะน่าซื้อไปซะทุกอย่างแบบนี้ แต่สุดท้ายฉันก็เลือกโซนขวามือ ซึ่งมีกล่องน่ารัก ๆ เยอะแยะมากมายให้เลือกเยอะมาก ~ เลย
ที่ฉันเลือกมาโซนนี้ก็เพราะว่า ... มันน่าจะต้องมีอะไรที่ถูกใจและสิ่งที่ฉันต้องการสักอย่างบ้างล่ะ เดินไปตามชั้นวางกล่อง ไปเรื่อย ๆ ฉันก็ไปเจอเข้ากลับกล่องใบหนึ่งซึ่ง ... มันโดนอ่ะ ! ไลค์ให้ทันทีเลย ! เพราะกล่องที่ฉันกำลังมองอยู่นี้ มันเหมือนกับเป็นตู้เซฟขนาดพกพาก็ว่าได้เลยล่ะ ข้างบนที่เป็นส่วนฝานั้นมีแผงตัวเลขตั้งแต่ศูนย์ถึงเก้า แน่นอน ... ว่าเจ้ากล่องใบนี้ ต้องเป็นคนที่รู้รหัสเท่านั้นถึงจะเปิดมันได้ ฉันหยิบมันขึ้นมาก่อนที่จะหยิบกุญแจมาคู่กับเจ้ากล่องเซฟใบนี้ ... เฮ้อ อะไรมันจะเหมาะกันขนาดนี้นะ J
ฉันเหลือบไปมองราคาก็แอบผงะไปนิดนึง -_- ; แพงไม่เบาเลยนะเนี่ย โชคดีไปที่เตรียมเงินมาเยอะพอสมควร งั้น ... ฉันจะซื้อกล่องใบนี้ล่ะ ! เหอะ ๆ เฮดโฟน คราวนี้ล่ะ ... นายแพ้ฉันชัวร์ ๆ !
“นี่เธอ”
“หา !” ฉันสะดุ้งเฮือกทันทีที่ถูกสะกิดที่หัวไหล่ พอหันไปปุ๊บก็แทบลมจะจำ เมื่อปรากฏว่าเป็นเฮดโฟนที่ยืนอยู่ด้านหลัง โชคดีไปที่เก็บกุญแจนั่นลงไปแล้วน่ะ
“สะกิดแค่นี้ทำเป็นตกใจ -_- ค่าไอศกรีมเล่นเอาฉันแทบหงายเลยนะเธอ”
“ช่วยไม่ได้นี่นา ... อยากมาช้าเองทำไม”
“เฮอะ ! วันนี้เป็นวันเดียวเท่านั้นแหละ ที่เธอจะสามารถสั่งฉันได้น่ะ”
“J”
“ยิ้มทำหาอะไรฮะ ! =_=”
“เปล๊า แค่อยากเห็นหน้าคนที่ชอบพูดแต่ปากน่ะ”
“อยากโดนหมัดกระแทกปากบ้าง ดีมั้ย ?”
“อยากให้ฉันทำลายกุญแจบ้าง ดีมั้ย ?”
“ฮึ่ย !”
“ฮ๊า ... มีคนอื่นมาคอยตามจ่ายตามเลี้ยง ก็ดีไม่ใช่เล่นเหมือนกันน้า ~” ฉันพูดจบก็หันหน้าเดินไปตามโซนนี้ต่อไป โดยที่ข้างหลังก็ได้ยินเสียงฝีเท้าตามมาติด ๆ
(Headphone: Talk)
ผมจำใจต้องเดินตามยัยตัวแสบนี่มาอย่างคับแค้นใจเป็นที่สุด ! เมื่อยัยบ้านี่ขู่ว่าจะทำลายกุญแจโกดังที่ตัวเองมีไว้ครอบครอง ให้ตายสิ ... แล้วผมก็โง่ดันมานัดยัยบ้านี่ที่นี่ ที่ที่คนโคตรจะเยอะซะด้วยนะ เลยทำอะไรเธอไม่ได้เลย ตลอดโซนพวกกล่องบ้า ๆ นี่ ก็มีคนพลุกพล่านไม่ต่ำกว่าสิบคน ถ้าผมบ้าจี้กระทืบยัยนี่ขึ้นมา มีหวัง ... โดนตราหน้าแน่ ๆ ว่าเป็นพวกชอบทำร้ายผู้หญิง -_- ถึงผมจะเป็นขาโหดของวิเฟอร์ ฯ แต่ผมก็ไม่ใช่คนที่ไม่แคร์อะไรนะ (ถ้าไม่จำเป็น)
“อันนี้สวยมั้ย” เมมโมพูดก่อนที่จะหยิบที่ปิดหูรูปหมีสีชมพูขึ้นมาแทบจะทิ้มตาผม ผมเลยปัดมันทิ้งอย่างหัวเสีย แล้วพูดออกมาอย่างเบื่อหน่าย
“ปัญญาอ่อน”
“ใส่ซะ !”
“หา !”
“ฉันบอกให้นายใส่มันซะ ไม่ได้ยินหรือไง” เมมโมพูดพร้อมกับพยักพเยิดที่ปิดหูรูปหมีสีชมพูมาทางผม ... อยากจะบ้าตาย ! แค่เห็นมันผมก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับมันอยู่แล้ว แล้วยัยบ้านี่ ยิ่งมาสั่งให้ผมใส่อีก เหอะ ... ไม่มีทางซะล่ะ ! คิดว่ามีกุญแจอยู่ในกำมือ แล้วจะสั่งฉันได้ทุกอย่างหรือไง ยัยเมมโม ความจำเน่า !
“ฉันไม่ใส่ !”
“ไม่งั้น คุณกุญแจอาจจะไม่ปลอดภัยนะ”
“นี่เธอ !”
“ลองดูสิ ฉันร้องลั่นแน่ !” เมื่อผมเงื้อมือขึ้นมา เมมโมก็พูดอย่างเหนือกว่า ก่อนที่จะพยักพเยิดหน้าไปทางผู้คนที่อยู่ข้างหน้า ผมเลยจำต้องหดมือลง ทำได้แค่ชักสีหน้าใส่เธอเท่านั้น ฮึ่ย !
“ยังไงฉันก็ไม่ใส่”
“นึกว่ามีทางเลือกหรือไง”
“ ... ”
“J ใส่ซะนะ จะได้ดู ... ทุเรศขึ้น !” เมมโมยื่นมันมาทางผมอีกครั้ง ด้วยสีหน้าเสแสร้งสุด ๆ ไอ้เจ้าหูฟังนี่มันช่างหวานแหววและไม่เหมาะกับผมเอาซะเลย แถมยัง ... ยี้ ! ผมเลยเกลียดมันตั้งแต่แรกเห็นเลยยังไงล่ะ !
“งั้นเธอก็ใส่ซะเองสิ !”
“ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่ชอบ”
“ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกันล่ะ”
“แต่ฉันอยากให้นายใส่”
จบคำพูดประโยคสุดท้ายของเมมโม ... ทุกอย่างก็ดูเงียบงันไปซะอย่างนั้น ไม่รู้เพราะอะไรเราสองคนต่างรู้สึกแปลก ๆ ที่ผมใช้คำว่า ‘เรา’ น่ะ แวบนึง ผมเห็นสีหน้าเธอก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน เมมโมหันหน้าไปทางอื่นก่อนที่จะหันมาพยักพเยิดกับผมอีกครั้ง
“ใส่ซะ !”
“ก็บอกแล้วไงเล่า ว่าไม่ใส่อ่ะ !” ทำไมครั้งนี้ รู้สึกว่าน้ำเสียงของตัวเองมันไม่หนักแน่นเหมือนตอนแรกเลยวะ
“นายขัดฉันไม่ได้หรอกน่า !” ว่าจบเมมโมก็กระโจนเข้ามาหาผมทันที ! ด้วยความที่ไม่ได้ตั้งตัวทำให้ผมงงกับสิ่งที่เธอกำลังทำ เมมโมเข้ามากดไหล่ทั้งสองข้างของผม แต่ด้วยลำตัวผมที่ใหญ่กว่า (เยอะ) ทำให้ผมสามารถต้านแรงเธอได้ ด้วยการพยายามแงะมือเธอออก
“ยัยบ้า ! จะทำอะไรของเธอเนี่ย”
“ในเมื่อนายไม่ใส่ ... ฉันก็จะใส่ให้นายเอง !”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันเกลียดมันน่ะ !” ตัวก็โคตรจะบาง ทำไมแรงเยอะจังวะเนี่ย
“เพราะนายเกลียดมันยังไงล่ะ ฉันถึงให้นายใส่ !”
“มันไม่มีทางแน่ ๆ โอ๊ย !”
ผมร้องโอดและลงไปนั่งคุกเข่าทันที เมื่อรู้สึกเจ็บที่ข้อพับขาข้างซ้าย หลังจากที่ผมกับยัยเมมโมตะลุมบอนกันพร้อมกับพูดไปด้วย ทำให้ไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเธอก็นำเอาที่ปิดหูรูปหมีสีชมพูมาใส่ให้ผมจนได้ ! แสบนัก นะ !
“ฮ่า ๆ ในที่สุดฉันก็ทำสำเร็จ ~” เมมโมผละออกมาจากข้างหลังผม ก่อนที่จะเดินมาข้างหน้าแล้วหัวเราะอย่างดีใจ ... ราวกับเด็ก ๆ
“หน็อย !”
“อย่านะ ! อย่าดึงออกมาเชียวนะ !” เมมโมมองมาทางผมแล้วสั่งเสียงแข็ง ทำให้ผมที่กำลังจะดึงมันออกอย่างบ้าคลั่งต้องหยุดการกระทำแบบนั้นลงไปทันที ... เพราะเป็นกุญแจโกดังหรอกนะ ! ถึงยอมน่ะ โอ๊ย ! ผมเกลียดมันโว้ยยยยยยยย !
“ยัยบ้า !”
“ฮะ ๆๆๆๆ เห็นนายในลุคนี้แล้วมัน ... ตลกอ่ะ !”
“ ... ” ผมลุกขึ้นยืนอย่างเงียบ ๆ แล้วมองเมมโมที่กำลังหัวเราะอยู่ ... ไม่รู้สิว่าทำไมผมถึงรู้สึกว่า ... เธอเสแสร้งหัวเราะ ‘แบบสะใจ’ กันนะ เหมือนกับว่า เธอกำลังปกปิดคำพูด ที่จะพูดเมื่อกี้ เพราะเธอเว้นไปสามวิก่อนที่จะพูดต่อ แล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ... ทำไมผมถึงต้องมองยัยบ้านี่หัวเราะสะใจตัวเองอยู่กันนะ
“ ... อยู่ตรงนี้แล้วหน้าเบื่อ ไปตรงอื่นบ้างดีกว่า ~ ” เมมโมผงะนิด ๆ เมื่อหันมาเห็นผมกำลังมองเธอหัวเราะอยู่ ก่อนที่จะเดินนำหน้าผมไป แล้วมองโน้นมองนี่ตามชั้นวางของ
ให้ตายสิ ... ทำไมอยู่ดี ๆ ก็อยากจะยิ้มขึ้นมาซะได้ เป็นเพราะอะไรกันนะ โว้ย ! คิดอะไรของแกเนี่ย ไอ้เฮดโฟน -_- คนที่อยู่ตรงหน้า คือคนที่ทำให้เราต้องอยู่ในสภาพนักโทษนะเว้ย ! ฉันต้องแย่งกุญแจมาจากเธอให้ได้ ... ยัยเมมโม !
ผมสะบัดหัวไล่ความคิดบ้า ๆ ก่อนที่จะบอกตัวเองตลอดเวลา ว่าจะต้องแย่งกุญแจโกดังมาจากยัยนั่นให้ได้ แล้วหัวสมองของผมก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันที เมื่อโซนที่กำลังจะเดินถึงนั้น ... เป็นโซนขายปืนผมเดินเลี้ยวเข้าไปภายในโซนนั้นทันที ก่อนที่จะมองหาปืนที่เหมาะกับการใช้งานในขณะนี้ แล้วผมก็ปะเข้ากับปืนกลสีดำจนได้ ผมยิ้มที่มุมปากแล้วหยิบมันขึ้นมา เหอะ ๆ ท่าทางแผนนี้คงจะสำเร็จนะ
ได้ของมาแล้ว ผมก็มุ่งหน้าตามหายัยตัวแสบทันที เหอะ ... เหมือนจริงซะขนาดนี้ ใครไม่เชื่อก็บ้าแล้วว่าเป็นของปลอมน่ะ ตอนแรกที่ผมเห็นปืนในโซนนั้น ผมก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน ว่าที่นี่เขาขายปืนด้วยเหรอ ? พอไปจับและกดตรงที่เหนี่ยวไกก็พบว่า ... มันเป็นของปลอมนี่เอง =_= ถ้าโจรมันเอาปืนปลอมไปจี้ก็คงมาจากร้านกิ๊ฟช็อปร้านนี้ล่ะมั้งเนี่ย
ไม่นานนักผมก็เห็นร่างบางที่ทำให้ผมต้องตกมาเป็นสภาพแบบนี้สักที เมมโมกำลังเดินดูพวกปากกาและดินสออยู่ ท่าทางกำลังเพลินเลยทีเดียว อีกไม่กี่ก้าวเท่านั้นที่ผมจะเดินถึงเธอ จู่ ๆ ฝีเท้าของผมก็หยุดชะงัก แล้วมองภาพเบื้องหน้าโดยที่ไม่มีเจตนาที่จะหยุดฝีเท้าเลยสักนิด ภาพตรงหน้าที่ผมกำลังหยุดยืนดูอยู่นั้น คือเสี้ยวด้านข้างของเมมโมที่กำลังจับปากกาแท่งหนึ่งอยู่ ไม่รู้สิ ... ว่าทำไมผมถึงหยุดยืนดูเธอ แถมยังไม่รู้สึกว่าเปลือกตากระพริบเลยด้วย นี่ผมเป็นอะไรไปเนี่ย
“อ้าว มาแล้วเหรอ ... คิดว่าจะชิ่งหนีกลับไปแล้วซะอีก” หัวใจของผมเต้นถี่รัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทันที เมื่อเมมโมหันมาทางผมอย่างน่าตกใจ ผมหันหน้าไปทางอื่นพร้อมกับจับที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองที่เต้นรัวราวกับมันจะระเบิดอยู่รอมร่อ
“เป็นอะไรของนายน่ะ”
“เปล่า ไม่มีอะไร” เมื่อทุกอย่างกลับเข้ามาสู่สภาวะปกติ ผมก็หันกลับไปหาเธออีกครั้ง
“ท่าทางแปลก ๆ นะเนี่ย” เมมโมหัวเราะนิด ๆ ก่อนที่จะหันไปสนใจกับเจ้าพวกปากกาต่อ โธ่เอ๊ย ... ทำไมถึงปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปได้วะ ไม่น่าเลย ... ไม่งั้นป่านนี้กุญแจอาจจะมาอยู่กับตัวเราแล้วก็ได้ ไม่เป็นไร เอาใหม่ ๆ
ผมเดินตามเมมโมอีกครั้ง เพื่อให้เธอเพลิดเพลินกับสิ่งต่าง ๆ นา ๆ ตามโซนต่าง ๆ ก่อนจะลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองคิด ถ้าเผลอบุ่มบ่ามไป คงไม่ดีแน่ ต้องเล่นทีเผลอยัยนั่นจะได้เหมือนคนเสียสติแล้วหยิบกุญแจออกมาให้อย่างง่ายดาย
ผ่านไปประมาณยี่สิบนาที
ให้ตายเหอะ ตอนนี้มีแต่คนมองผมกันใหญ่เลย -_- เพราะไอ้เจ้าที่ปิดหูรูปหมีสีชมพูแท้ ๆ ทำให้ผมตกเป็นเป้าสายตาแถมยังถือปืนกลไว้กับมืออีก ท่าทางพวกคนที่มองผมต้องหัวเราะกันท้องแทบแข็งแน่ ๆ อย่างเช่นเจ้าพวกวัยรุ่นพวกนั้น ขำมากนัก เดี๋ยวเจอหน้าแข้งฟาดให้หรอก !
ผมมองไปที่เมมโมอีกครั้ง ยัยนี่กำลังหยิบโปสการ์ดขึ้นมาดูอย่างเพลิดเพลิน เหอะ ๆ เวลานี้แหละ คนในโซนนี้ก็ไม่ค่อยจะมี ได้เวลาแล้ว ฮ่า ๆ
“เอากุญแจมาให้ฉันซะ”
“ฮะ ?” เมมโมหันมาทางผมทันที ที่ผมพูดจบประโยคนั้น ผมเอาปืนกลจ่อหน้าเธอเลย แล้วสีหน้าของเมมโมก็ดูจะผงะมากซะด้วย เหอะ ๆ หมดเวลาของเธอแล้วยัยตัวแสบ
“เอากุญแจมาให้ฉันซะ” ผมพูดอีกครั้งพร้อมกับแบมือไปทางเธอเพื่อให้เป็นสัญญาณ เมมโมปรับสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติ ก่อนที่จะเริ่มปริปากต่อกรกับผม
“คิดว่าใช้ปืนนี่ แล้วจะจัดการฉันได้เหรอ”
“ตอนนี้ก็ไม่มีคนด้วย ถ้าเธอไม่เอามันมาให้ฉัน หัวเธอกระจุยไม่เหลือชิ้นดีแน่”
“นายยังมีความเป็นลูกผู้ชายอยู่ป่ะเนี่ย”
“ไม่ต้องมาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง ส่งมันมาให้ฉัน”
“จะว่าไปแล้วปืนนี้ก็สวยดีเหมือนกันนะ”
“หืม” ผมถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูงเลย เมื่อยัยเมมโมหันมาพูดเรื่องปืน อะไรของยัยนี่เนี่ย หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ เธอต้องเอากุญแจมาให้ผมสิ =_=
“ฉันเห็นอยู่ที่โซนขายปืนของที่นี่บ่อย ๆ น่ะ !”
“หมายความว่าไง” ทั้งๆ ที่ปืนอยู่ในมือแท้ ๆ แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเธอ ... เหนือกว่าผมเลยอ่ะ
“หมายความว่างี้ไง”
ปั้ก !
“โอ๊ย !!!!!!!!!!”
ผมร้องโอ๊ยทันที เมื่อยัยเมมโมตัวแสบเตะเข้าที่หน้าแข้งของผม ! ทำให้ปืนกลนั้นถูกแย่งออกไปจากมืออย่างง่ายดาย เมมโมที่ได้ปืนกลจากมือผมไปแล้ว เธอก็กดที่เหนี่ยวไกปืนแล้วมันก็เกิดเสียงดัง ...
แก็ก ๆๆๆๆ
“ฮะ ๆ คิดว่าฉันโง่หรือไงกันฮะ ฉันรู้น่า ... ว่าปืนนี้มันเป็นของปลอม ไม่งั้นฉันคงไม่รู้จักร้านกิ๊ฟช็อปของที่นี่หรอก”
เมมโมยิ้มเยาะเย้ย ก่อนที่จะกดที่เหนี่ยวไกปืนกลไม่หยุด โอ๊ย ! เจ็บใจชิบเป๋งเลยเว้ย ! อะไรกันเนี่ย ... ยัยบ้านี่ชักจะเก่งเกินไปแล้วนะ ! แค่ผู้หญิงธรรมดา ๆ เอาชนะไม่ได้ได้ยังไงวะเนี่ย !
“ฮึ่ย”
“ไหน ๆ ก็เอามาล่ะ ฉันเอาเจ้าปืนอันนี้ด้วยล่ะกันนะ” เมมโมพูดจบก่อนที่จะเดินนำไปข้างหน้า ผมลุกขึ้นยืนพร้อมกับกัดฟันกรอด ๆ ที่ไม่สามารถชิงกุญแจมาได้ อยากจะบ้าตาย อยากกระโดดกัดหูตัวเองจัง แง่ม !
หลังจากที่ถูกจับได้ว่าใช้ปืนปลอมไปจี้คุณเธอเขา ก็ปาเข้าไปครึ่งชั่วโมงแล้ว -O- ไอ้ร้านกิ๊ฟช็อบนี่โซนของมันจะเยอะไปไหนกันเนี่ย แถมยัยเมมโมบ้านี่ก็หยิบของซะเยอะจนต้องใช้ผมให้หอบเป็นเพื่อนด้วยอีกต่างหาก ผมว่านะ ยัยนี่แกล้งผม แหง ๆ เลย ดูแต่ละอย่างที่เธอหยิบมาสิ ลิควิดเอย ปากกาเอย ยางลบเอย ดินสอเอย กระเป๋าใส่ดินสอเอย โปสการ์ดเอย ตุ๊กตาเอย สีไม้เอย โอย ร่ายไม่หมด เยอะจริง ๆ !
ผมกับเมมโมวางของไว้บนเคาน์เตอร์ก่อนที่ผมจะเริ่มปริปากพูดด้วยความหงุดหงิด
“ซื้อมาขนาดนี้ ไม่ซื้อให้หมดร้านไปซะเลยล่ะ”
“ฮะ ! พูดจริงดิ O_O”
“ฉันประชด” เธอตั้งใจกวนผม หรือไม่รู้จริง ๆ ว่าผมกำลังพูดประชดกันเนี่ย ถึงได้ทำสีหน้ามีความหวังแบบนั้นกันน่ะ ผมหงุดหงิดปนโมโหจริง ๆ แล้วนะเนี่ย !
“อ๋อเหรอ คิดว่าพูดจริงซะอีก ฉันจะได้บอกพนักงานเคาน์เตอร์ไปเลย”
“ถ้าเธอบอก ฉันไม่ไว้หน้าเธอแน่”
“อ่าพี่ค่ะ ... ว้าย !” ผมลากยัยเมมโมออกมาทันที เมื่อยัยนี่ทำท่ากำลังจะบอกพี่พนักงานเคาน์เตอร์ที่กำลังคิดเงินอยู่ จริง ๆ ยัยบ้านี่เป็นโรคอะไรนะ ห้ามอะไรก็ทำในสิ่งที่ห้ามทันทีเลย !
“ปล่อยได้แล้ว !” ยัยเมมโมบิดข้อมือตัวเองจนผมต้องยอมปล่อยเมื่อเดินมาห่างเคาน์เตอร์ได้ไม่ไกลนัก
“เธอนี่มัน ... เป็นประเภทที่ห้ามไม่ได้จริง ๆ นะ !”
“ ... ” เมมโมเบ้ปากพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แยแสกับสิ่งที่ผมพูด ก่อนจะกลอกตาไปมาทำท่ารำคาญผม ผมต่างหากล่ะ ที่ต้องรำคาญเธอน่ะ !
“รอให้ฉันได้กุญแจมาก่อนเถอะ ” ผมขู่ฟ่อใส่เมมโมที่ทำท่าไม่รู้ร้อนอยู่ตรงหน้า เมมโมมองหน้าผมก่อนจะหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ แล้วเดินนำไปที่เคาน์เตอร์ โห ... นี่แน่ใจนะว่าไม่ได้มาร้านกิฟช็อปน่ะ ของเยอะจนผมตกใจนึกว่าเรามาจ่ายตลาดยามเช้าเลยนะเนี่ย
เมื่อพนักงานบอกราคาที่คิดทั้งหมดออกมาปุ๊บ ผมก็ถึงกับหันไปถลึงตาใส่ยัยตัวแสบที่กำลังยืนพึงหลังกับเคาน์เตอร์ข้าง ๆ ผมอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลยว่าตอนนี้สีหน้าผมเป็นยังไงน่ะ ! ถึงแม้ว่าเงินในบัตนเครดิตผมจะเยอะ แต่เธอเล่นแกล้งกันแบบนี้ ผมก็ตกใจเป็นนะ !
มองไปที่เมมโม ยัยบ้านี่แทบไม่เหลือบมาทางผมเลย แต่ริมฝีปากกับกระตุกยิ้มสะใจขึ้นมา เมื่อเธอได้ยินราคาของทั้งหมด หน็อย ... !!!!!! ด้วยความที่ทนไม่ได้กับสีหน้าสะใจแบบนั้น ผมเลยจัดการหันไปทางพนักงานเคาน์เตอร์ พร้อมกับบอกว่า
“พี่ครับ เอาอันนี้ออก อันนี้ อันนี้ อันนี้ ... ”
“เฮ้ ! ทำอะไรของนายน่ะ !” ยัยเมมโมรีบถลาแล่นลมเข้ามาหาผมทันที เมื่อผมกำลังพูดกับพี่พนักงาน แล้วกำลังคัดของออก โอ้โห ... เป็นไปได้ผมอยากเบิร์ดกระโหลกยัยเด็กบ้าคนนี้จัง ! ปากกาน่ะ จะซื้ออะไรตั้งสี่สิบแท่ง จะเอาไปใช้แทนฟืนเตาผิงที่บ้านหรือไงเนี่ย !
“ก็กำลังคัดของออกไง ... ซื้ออะไรไปเยอะแยะขนาดนี้กันเล่า !” ระหว่างพูดมือผมก็กำลังหยิบของที่คามือออกไปวางไว้กองที่คัดออก แต่ยัยเมมโมก็ชักของที่อยู่ในมือผมไปแล้ววางกลับที่เดิม พอผมจะเอื้อมไปหยิบของออกอีก เธอก็ปัดมือผมออกทันที
“ก็มันเป็นสิทธิ์ของฉันนี่” เมมโมพูดพร้อมกับกวาดของที่ถูกคัดออกกลับมารวมกันเหมือนเดิม อะไรกันเนี่ย ยัยบ้าคน นี้ !
“แต่มันเป็นเงินของฉันนะ !”
“ไม่อยากได้กุญแจก็ตามใจ ~”
“เห ... เดี๋ยวก่อนสิ !!!” ผมตะโกนเรียกเธอดังลั่นเมื่อเธอเดินออกไปจากร้าน พร้อมกับประโยคสะเทือนใจผมอีกแล้ว ฮึ้ย แสดงว่าอย่างนี้ ...
ผมต้องจ่ายของทั้งหมดด้วยเงินของตัวเองอีกแล้วเหรอเนี่ย =_= อยากจะบ้า !!!!!!!!!!!!! ถ้าเป็นผู้หญิงผมอยากจะกรี๊ดให้โลกแตก ! กรี๊ด ๆๆๆๆๆ (แต่นายเป็นผู้ชายไม่เหรอเฮดโฟน !)
ความคิดเห็น