คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER : 3 , 4
CAHPTER : 3
3
หลังจากวันที่ไปร้านเหล้ามหาตะลัยนั่นก็ผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว ...
ไม่รู้ว่าไอ้ความรู้สึกเหมือนเสียของที่สำคัญไปนี่มันเกิดขึ้นกับฉันได้ยังไงกันนะ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ยังไม่รู้เลยว่าของสิ่งนั้นมันคืออะไรและ ... ทำไมฉันถึงอยากได้มัน ? และที่น่าแปลกไปกว่านั้นก็คือ ...
พอเช้ารุ่งขึ้นจากวันนั้นมา จดหมายฉบับนั้นที่ฉันวางไว้ที่หัวเตียงก็หายไปเลย ฉันค้นห้องนอนตัวเองทุกซอกทุกหลืบและทั่วบ้านแล้วนะ ก็ยังไม่เจอกับซองสีน้ำตาลอ่อนนั่นอยู่ดี
เอ ... แล้วมันหายไปไหนนะ
“แม่ ... แม่ไม่เห็นซองจดหมายซองนั้นของดินจริง ๆ เหรอ”
“ใช่ แม่เองก็ช่วยเราหาแล้วเหมือนกันนะ แต่แม่ไม่เห็นมันเลยจริง ๆ เราไปลืมมันไว้ที่โรงเรียนหรือเปล่า ?” แม่หันมาตอบฉันพร้อมกับตาหลิว ก่อนที่จะทำสีหน้าเหมือนพยายามนึกถึงซองจดหมายนั่น
“จะไปไว้ที่โรงเรียนได้ยังไงกันเล่าก็เมื่อวันนั้นดินไปอยู่ที่ ... ”
“ก็เราบอกแม่เองไม่ใช่เหรอ ว่าที่ตัวเองกลับดึกวันนั้นก็เพราะเราอยู่ที่โรงเรียนน่ะ” แม่พูดแทรกขึ้นมาอย่างพยามนึกและนั่นเองก็ทำให้ฉันเพิ่งนึกได้เหมือนกันว่า ... ตอนนั้นฉันโกหกโกเจ็ดโกแปดกับแม่ไปนี่หว่า ว่าจะอยู่ทำรายงานกับเพื่อนที่โรงเรียน ฮ่วย ! เกือบโดนแม่เอาไม้เรียวพิฆาตมาลงทัณฑ์แล้วมั้ยล่ะดินเนอร์ !
“อา ... นั่นสินะ บางทีมันอาจจะอยู่ที่โรงเรียนก็ได้เนอะแม่เนอะ แหะ ๆ”
ฉันหัวเราะแห้ง ๆ เมื่อแม่พูดถูกจุดให้ฉันรอดจากไม้เรียวพิฆาตนั่นได้ ก็ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาอ้างนี่ ก็เลยอ้างไปว่าจะอยู่หาข้อมูลทำรายงานกับเพื่อนที่โรงเรียนจนดึกดื่น ...
และไอ้ดึกดื่นของฉันในวันนั้นก็คือ พยายามตามหา ‘ไอ้ผู้ชายจองหอง’ คนนั้นนั่นแหละ !
การ์ดสามคนบึ้กบึนพวกนั้นถูกฉันซัดเรียบจนไม่เหลือชิ้นดีด้วยพละกำลังมหาศาล ทั้ง ๆ ที่ฉันก็ไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้อะไรเลยทั้งสิ้น แค่ผลัก ๆ ชน ๆ ดิ้น ๆ เท่านั้นเองคนพวกนั้นก็กระเด็นลิ่วไปไกลแล้ว เล่นเอาแขกภายในห้องโถงนั่นตกใจไม่น้อย รวมถึงฉันคนนี้ด้วย ...
ฉันเองก็ไม่ใช่คนที่ชอบออกกำลังกายหรือชอบเล่นกีฬาอะไร แต่ทำไมฉันมีแรงกำลังมหาศาลมากมายขนาดนั้นกันนะ ?
ทั้ง ๆ ที่ฉันก็จัดการกับการ์ดพวกนั้นได้ไปแล้ว แต่ทำไมฉันยังไม่ได้ของ ‘สิ่งนั้น’ มาอีก ? ก็เพราะว่า ... พอจัดการกับการ์ดพวกนั้นเสร็จ ก็มีพนักงงานของที่นี่เข้าคว้าตัวฉันหมับอย่างรู้งานตอนเปิดประตูออกไปเลยไง ฮึ่ย ! ถ้าคนพวกนั้นไม่ส่งคำขู่ถึงตำรวจล่ะก็ ฉันจัดการพวกนั้นยับไปแล้ว ! แต่ถึงจะยังไงก็ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันกลายเป็นตำนานของที่นั่นไปแล้วล่ะ
แต่ว่าพอนึกไปถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นฉันก็ยังอึ้งไม่หายแฮะ
ส่วนกรณีจดหมายนี่แล้ว ... ไม่ใช่ที่บ้านอย่างเดียวที่ฉันค้นหา ทั้งล็อกเกอร์ตัวเอง และห้องเรียนของตัวเองที่โรงเรียน ฉันก็ตระเวณหามาทั่วแล้ว ถึงแม้จะอาศัยไดอาร์เป็นตัวช่วยหา แต่พวกฉันก็ยังหาไม่เจออยู่ดี ...
แปลก แปลกจริง ๆ ทำไมจู่ ๆ ฉันกลับอยากได้จดหมายนั่นคืน และของ ‘สิ่งนั้น’ ไว้ในครอบครองกันนะ
“ดิน ! มาช่วยแม่ยกกับข้าวหน่อย ทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว”
“จ้า”
ฉันรีบลุกขึ้นจากโซฟาอย่างไวตามคำสั่งของแม่ ก่อนที่จะรีบยกกับข้าวมาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าวสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ของบ้าน เอ ... พยายามนั่งคิดแล้วนะว่าไปลืมจดหมายไว้ที่ไหน แต่คิดไปคิดมาฉันก็เก็บมันไว้ที่กระเป๋านักเรียนนี่นา ทำไมตอนไปค้นกี่ที ๆ ก็ไม่เจอวะ
“แม่ ... ดินขอถามแม่อีกครั้งนะ ว่า ... แม่ไม่เห็นจดหมายนั่นจริง ๆ เหรอ” ฉันถามแม่เสียงสูงพร้อมกับเท้าเอวด้วยสีหน้ากังวลจนบิดเบี้ยว เฮ้ย ... นี่ฉันแปลกใจจริง ๆ นะเนี่ย ครั้งนี้ฉันมั่นใจเลยว่าตัวเองไม่ได้เอ๋อแน่นอนอ่ะ
“ไม่เห็นจริง ๆ ดิน ถ้าแม่เห็นป่านนี้แม่ก็เอามาให้เราแล้วสิ”
“ฮึ้ย มันจะหายไปได้ไงแม่ ดินจำได้นะว่าดินเก็บจดหมายนั่นไว้ในกระเป๋านักเรียนน่ะ”
“ก็นั่นสิ มันจะหายไปได้ยังไงเราค้นหาทั่วแล้วใช่มั้ย”
“ใช่แม่ ค้นจนแผ่นดินจะไหวอยู่แล้วเนี่ย ถ้าค้นเจอแล้วดินไม่ถามมาอย่างนี้หรอก” ฉันพูดเสียงฉุนพร้อมกับกัดฟันนั้นแล้วเคาะโต๊ะสามทีอย่างพยายามนึกอีกที ... อ๊าก ! นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกอ่ะ ก็ฉันเก็บมันไว้ที่กระเป๋านักเรียนนี่ แล้วมันจะไปเดินเล่นที่ไหนวะ !
“ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะสนใจจดหมายนั่นเลย แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้มาตามหามันอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างนี้ล่ะดิน ? มีเหตุผลอะไรหรือเปล่าถึงได้หาจดหมายนั่น”
“ก็ ... ก็ ไม่รู้สิแม่ ดินก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ”
“เอ้า ! ไอ้ลูกคนนี่ !!”
/>_<\ !!!!
ฉันรีบยกมือขึ้นมายัดหูตัวเองทันที เมื่อแม่พูดเสียงสูงดังลั่นบ้านซะเหมือนหอกที่ทิ่มแทงเข้ามาในหู ! ก็หนูไม่จริง ๆ อ่ะแม่ ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าจะถามหามันทำไม ... มันไม่สามารถหาเหตุผลมาอ้างได้ ณ บัดนี้ ~
จริง ๆ นะ ! ฉันก็เพิ่งจะมารู้ตัวได้เนี่ยว่า ... ฉันจะตามหาทำไม ? และเพื่ออะไร ? เพื่ออะไรกันน้า ... โอ๊ะ ! ไม่มีเหตุผลอ่ะ !
“ไม่ต้องมาทำหน้าคิดแบบนั้นเลยดิน ! ว่างนักใช่มั้ย แม่ขี้เกียจตะโกนแล้ว รีบวิ่งขึ้นตามสามพ่อลูกนั่นมากินข้าวเลย”
“มะ ... แม่พูดว่าไงนะ =O=”
“แม่บอกให้เราไปตามสามพ่อลูกนั่นมากินข้าว ... เดี๋ยวนี้ !!!!!”
โห ... โยนขี้กันง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอเนี่ยแม่ ! สามพ่อลูกที่หมายถึงนั่นน่ะเรียกลงมากินข้าวยังยากยิ่งกว่าเรียกหมาให้มากินกระดูกที่วางอย่าเบื่อไว้ให้อีกน้า TOT
สามพ่อลูกที่แม่หมายถึงนั้นก็คือ พ่อฉันพี่น้องฉันเองล่ะ ซึ่งสามคนพ่อลูกนี้เรียกให้ลงมากินข้าวดี ๆ ไม่ได้หรอก ! ต้องให้พูดสิ่งจูงใจออกมาด้วยถึงจะยอมเปิดประตู แต่วันนี้ ‘เด็นเออร์’ พี่ชายคนโตของฉันโคตรแปลกแสนแปลก ! ไม่รู้ว่าไปโดนหักอกมาหรือเปล่าถึงได้พูดชื่อผู้หญิงน่ารัก ๆ แล้วยังไม่มาเปิดประตูจนกระทั่งต้องให้ฉันพูดออกไปตรง ๆ ว่ามาเรียกให้ไปกินข้าวเนี่ย ! ส่วนพ่อและ‘ไดเวอร์’น้องสุดท้องของฉัน นั้นก็ต้องพูดสิ่งจูงใจที่ว่า ‘วันนี้แม่ทำสปาเก็ตตี้กับซี่โครงหมูนะพ่อ’ และ ‘ไดเวอร์ วันนี้มีเดอะฮัคมากินข้าวที่บ้านเรานะ’ แต่พอทั้งสองลงมาข้างล่างนั้นก็ต้องคลั่งกันจนบ้านวุ่นเลยทีเดียวที่ไม่เห็นสองสิ่งนั้นตามที่ฉันพูด ! และเพราะเหตุนี้เองแหละก็เลยทำให้ฉันต้องมาล้างจานอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายในห้องครัวแบบนี้ !
♫~
อุ้ย ! ตกใจจนจานแทบแตก ! ใครกันมันโทรมาตอนนี้เนี่ย ถึงตอนนี้จะยังเป็นตอนกลางวันแสก ๆ อยู่ก็เถอะ แต่ฉันหลอนอ่ะ ภายในห้องครัวนี้มีฉันยืนล้างจานอยู่คนเดียวนี่นา หลอนเข้าไส้เลย TT_TT
ฉันรีบวางจานที่กำลังล้างอยู่ในอ่างอย่างเบามือก่อนที่จะคว้าโทรศัพท์มือถือออกมา และจ้องมองหน้าจอของมันว่าใครผู้ใดที่โทรมาให้ความหลอน ณ ที่แห่งนี้ ~
‘เก็น’
ฮึ ! พอเห็นชื่อของปลายสายแล้วฉันก็อยากจะขว้างโทรศัพท์ออกไปให้ไกลเพราะความโมโหทันใด ! หน็อย ... ตอนก่อนหน้านี้ก่อนที่ฉันจะไปที่ร้านเหล้าเพนโทรอนนั่นไหนบอกว่าว่างตลอดห้าร้อยห้าสิบห้าชั่วโมงไง ไหงทำไมโทรไปตอนนั้นไม่ยักรับ ! ชิชะ งอนแล้ว ตามจริงฉันจะชวนไอ้บุคคลชื่อนี้ล่ะไปที่ร้านเหล้าเพนโทรอนด้วยกัน
พี่เก็นนั้น ... เป็นเพื่อนที่อายุมากกว่าฉันห้าปีล่ะ ไม่งั้นฉันจะเรียกเขาว่าพี่ทำไมกันล่ะจริงมั้ย ?? ความทรงจำตอนที่เราสองคนเจอกันในตอนแรกนั้น มันก็ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นฉันเดินอยู่บนริมฟุตบาทคนเดียว จู่ ๆ พี่แกก็ขับรถพุ่งเข้ามาชนฉันเฉยเลย เล่นเอาแม่ฉันเอาเรื่องและสวดใส่พี่เก็นยับจนหูชาไปเหมือนกัน เพราะเหตุการณ์นั้นก็ทำให้ครอบครัวของพี่เก็นต้องคอยมาเกื้อหนุนช่วยฉันในเรื่องค่ารักษาพยาบาลมากกว่าครึ่งปี และด้วยความสำนึกผิดที่พี่เก็นชนฉัน เขาก็เลยเข้ามาเยี่ยมเข้ามาเล่นกับฉันบ่อย ๆ ในช่วงนั้น นั่นก็เลยเป็นบ่อเกิดเหตุให้ฉันกับพี่เก็นได้เป็นพี่น้องรักใคร่สนิทสนมกันดั่งพี่น้องที่เกิดมาจากแม่ท้องเดียวกันเลยยังไงล่ะ
“ว่าไง มีอะไรเหรอถึงได้เสด็จโทรมาหาฉันได้น่ะ” ฉันกรอกเสียงเข้าไปพร้อมกับทำสีหน้าฟึดฟัดเต็มที่ ... พร้อมเหวี่ยงค่ะ ถ้าเหตุผลไม่เข้าท่า !
[นี่ อย่ามาทำเสียงเย็นใส่ฉันอย่างนั้นนะ ฉันสิที่ต้องถามแก ว่าทำไมเมื่อวานไม่ยอมรับสายฉันเลย นี่ฉันโทรไปหาแกล้านกว่าสายแล้วนะวันเมื่อวานน่ะ]
“เฮ้ย ! บ้าน่า ถ้าพี่โทรมาหาฉันขนาดนั้นฉันก็ต้องเห็นชื่อพี่ขึ้นที่หน้าจอแล้วดิว่าเป็นสายที่ไม่ได้รับ แถมเมื่อวานน่ะฉันก็ยังไม่ได้ปิดเสียงเลยด้วยซ้ำนะ มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ฉันจะไม่รับสายพี่ นี่พี่ซุ่ยหรือเปล่าเนี่ยพี่เก็น”
[ไม่หรอกดิน ! คนอย่างฉันน่ะทำอะไรละเอียดยิบและถูกต้องทุกอย่าง ก็เบอร์ที่ฉันเมมเป็นชื่อแกเอาไว้ แกก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเบอร์นี่หว่าจริงมั้ย ?? ฉันวานโทรไปหาแม่แกเมื่อวานนี้แล้วแม่แกก็บอกว่าโทรหาแกติดแต่แกก็ไม่รับสายเหมือนกัน ! จนกระทั่งฉันต้องลงทุนโทรหาแกเองจนถึงตอนนี้นี่แหละแกถึงจะรับสายฉันได้]
บ้า ! ถ้าพี่เก็นกับแม่ทำอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อวานโทรศัพท์ฉันก็ต้องมีมิสคอลชื่อเก็นกับชื่อแม่แล้วดิ แต่เมื่อวานนี้ไม่มีมิสคอลอะไรเลยปรากฏอยู่ที่หน้าจอของฉันแม้แต่นิดเดียว ! ก็ถ้ามันอย่างนั้นแม่เมื่อวานนี้ตอนเห็นฉันกลับบ้านแม่ก็ต้องรีบวิ่งมาหาฉันสิ แม่ฉันน่ะไม่ขี้ลืมเหมือนฉันหรอก
“นี่พี่พูดเล่นหรือเปล่าเนี่ย พี่เก็น ? เล่นแบบนี้ฉันไม่ชอบนะ”
[เล่นอะไรเล่าไอ้ดิน ! เรื่องนี้ฉันทำจริงและซีเรียสจริงเว้ย ไม่งั้นฉันคงไม่บอกแกแบบนี้หรอก]
“แต่ว่า ... ในโทรศัพท์ฉันไม่มีแม้แต่มิสคอลนึงเลยนะ”
[มันจะเป็นไปได้ยังไง !แกตาฝาดหรือเปล่า]
“บ้า ! ถ้าพี่โทรมาขนาดนั้นฉันจะตาฝาดได้ไง ก็มีแต่พี่ล่ะที่จะโทรซุ่ยผิดเบอร์จริง ๆ”
[ไม่มีทางหรอกดิน ฉันไม่ทำอย่างนั้นแน่ นี่ขนาดคุยกับแกชื่อสายที่ขึ้นอยู่ยังเป็นชื่อแกเลย !]
เกิดความสับสนวุ่นวายทางความคิดระหว่างฉันกับพี่เก็นขึ้น ! อะไรกันเนี่ย ฉันบอกว่าไม่เห็นมิสคอลของพี่เขาเลย ก็คือฉันไม่เห็นน่ะสิ ! ฉันแน่ใจล้านล้านล้านเปอร์เซ็นต์เลยนะ ว่าฉันไม่เอ๋อมองไม่เห็นแน่นอน ! ก็เมื่อคืนนี้ฉันยังตั้งปลุกนาฬิกาในโทรศัพท์อยู่เลย มองที่จอไปก็ไม่เห็นแม้แต่มิสคอลเดียว ยืนยันได้ !
“อา ... ฉันว่าเลิกเถียงเรื่องนี้กันเถอะ เพราะยังไงมันก็หาข้อสรุปไม่ได้อยู่ดีอ่ะ และฉันก็ชักปวดหัวแล้ว แล้วที่พี่โทรมาหาฉันขนาดนั้น พี่มีเรื่องอะไรเหรอ ?” ฉันเย็นลงพร้อมกับจับที่ขมับตัวเองอย่างปวดหัว อา ... ให้ตายสิ ฉันคิดว่าวันนี้ตัวเองคงจะไม่ต้องเจอเรื่องปวดหัวแบบนี้อีกแล้วนะเนี่ย !
[ฉันมีบางอย่างที่จะให้แกช่วย มาเจอฉันที่เพนโทรอนสโตรตอนบ่ายสองโมงเด๊ะแล้วกัน โอเค้]
“โอเค แต่อาทิตย์ที่แล้ววันเกิดฉัน พี่ยังไม่ได้ให้อะไรฉันเลย -_-”
[ก็นี่ไง ! เดี๋ยวจะเอาไปให้ เออใช่ ... แล้วไอ้ตอนวันเกิดแกน่ะ ฉันก็โทรหาแกติดแต่แกก็ไม่รับสายเหมือนกัน ตามจริงฉันจะให้เคสวแกวันนั้นเลยด้วยซ้ำนะไอ้ดิน แค่นี้แหละ บ่ายสองตรงเจอกัน !]
เฮ้ย ! แม้กระทั่งวันเกิดพี่เก็นก็ยังโทรหาฉันไม่ติดด้วยเหรอเนี่ย ! แปลกดีแท้
14 . 01 น. @ห้างสรรพสินค้าเพนโทรอนสโตร
ตอนนี้ฉันย่ำเท้าเข้ามาในเขตของเพนโทรอนสโตรแล้ว ~! ไม่ว่าจะมากี่ที่ ๆ ที่นี่ก็มีคนเยอะหนาแน่นเหมือนเดิม เพราะเป็นห้างสรรพสินค้ากึ่งตลาดแฟชั่นที่ขายทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้คนต้องการเกือบทั้งหมด ! แล้วโดยเฉพาะวันนี้เป็นวันหยุดด้วยแล้วล่ะก็เลิกพูดเลย เฮ้อ ... ทำไมตอนนัดกันฉันถึงนึกตรงนี้ไม่ออกนะ
ฉันแทรกตัวเองผ่านผู้คนมาเรื่อย ๆ ก่อนที่จะเจอม้านั่งยาวว่างอยู่ตัวหนึ่ง ฉันก็เลยตรงไปนั่งรอพี่เก็นตรงนั้นซะเลย และระหว่างที่นั่งรอพี่เก็นอยู่นั้นฉันก็คิดถึงบทสนนากับแม่เมื่อสองชั่วโมงที่แล้วมา
เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว
หลังจากที่พี่เก็นวางสายไปปุ๊บฉันก็รีบล้างจานให้เสร็จแล้วตรงไปหาแม่เยี่ยงซุปเปอร์แมนติดปีกทันที ! ก็พี่เก็นบอกว่าตอนที่โทรหาฉันไม่ติดพี่เขาก็โทรหาแม่ด้วยใช่มั้ย งั้นถ้าอยากรู้ให้กระจ่าง วินาทีนี้แหละแม่คือกูรู !
‘แม่ แม่จำตอนนั้นได้มั้ย ตอนที่ดินไปร้านเหล้า เอ๊ย ! กลับโรงเรียนดึกอ่ะ’
‘อ่า จำได้สิ ทำไมเหรอ’
‘เมื่อกี้พี่เก็นเขาโทรบอกดินว่า วันนั้นเขาโทรหาดินจนแทบจะเป็นบ้าเลย พี่เก็นเขาพูดจริง ๆ หรือเปล่าแม่’
‘จริงสิดิน ! แม่เองก็ลืมบอกเราไปซะสนิทเลย ! ตอนนั้นเก็นโทรมาหาแม่ด้วยน้ำเสียงแตกตื่นมาก แต่แม่ก็บอกเขาไปว่าดินไม่ได้อยู่บ้านนะ แล้วก็ขอให้แม่ช่วยโทรหาดินกันอีกแรงนึง แต่ว่าดินก็ไม่รับสายแม่สักที และเหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อวานนี้ ดิน ... โทรศัพท์ของลูกเสียหรือเปล่าทำไมสองวันนี้ แม่โทรหาเราไม่ติดเลย’
‘เปล่านะแม่ ดินก็เปิดเครื่องเล่นเกมฟังเพลงปกติ มันก็ไม่ได้เสียอะไรเลยหนิ แล้วที่สำคัญนะ ... โทรศัพท์ของดินก็ไม่ได้ขึ้นมิสคอลใครเลยด้วย’
‘บ้าไปแล้ว ! จะไม่ขึ้นได้ยังไงกัน แม่กับเก็นช่วยกันโทรหาลูกจนนิ้วแทบแตกเลยนะ พอพึ่งโทรศัพท์ของพ่อและเจ้าเด็น สองคนนั้นก็โทรหาดินไม่ติดเหมือนกัน ทุกคนได้ยินเสียงสัญญาณรอสายกันหมด แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงรับสายของดินเลย’
‘เฮ้ย ! เป็นไปได้ยังไงกันแม่ มันไม่มีมิสคอลขึ้นที่หน้าจอของดินจริง ๆ นะ’
ฉันเปิดรายการสายที่ไม่ได้รับในโทรศัพท์มือถือให้แม่ดู แต่ตัวฉันเองก็ต้องอึ้งกึ่มกี่เพราะว่า ... ทั้งสองวันที่แม่บอกว่าโทรหาฉันจนนิ้วแทบล็อกมีมิสคอลขึ้นมาเต็มหน้าจอจนไม่มีที่สิ้นสุด ! เฮ้ย ! แปลกเกินไปแล้ว เมื่อวานฉันก็เปิดดูรายกายสายที่ไม่ได้รับในโทรศัพท์ของตัวเองนะ มันไม่มีเบอร์ยาวเหยียดขนาดนี้เลย ไม่มีจริง ๆ ...
เป็นไปได้ยังไงกันเนี่ย ... เป็นไปได้ยังไงกัน ...
กลับมาที่ปัจจุบัน ณ ตอนนี้ฉันก็ยังไม่เห็นหัวดำ ๆ ของพี่เก็นเลย ตอนนี้เองก็นานมากแล้วด้วย คนก็เริ่มหนาตามากขึ้นทุกที ๆ ตามจริงฉันต้องบ่นจนปอดแตกเรื่องที่พี่เก็นมาช้าแล้วนะเนี่ย แต่ว่า ... เรื่องที่ได้คุยกับแม่มาวันนี้มันทำให้ฉันเหลือเชื่อจริง ๆ
ฉันตัดสินใจเปิดไปที่รายการสายที่ไม่ได้รับอีกครั้ง มันก็ขึ้นเหมือนเดิมตอนที่ฉันเอาให้แม่ดู ... จะบ้ากะละมังกันไปใหญ่แล้ว สองวันนั้นฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริง ๆ นะ
“รอนานมั้ยดิน ฉันขอโทษนะที่ทำให้แกรอนานไปหน่อย”
เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาทางฉันหนัก ๆ ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง และก็อย่างที่นึกได้ไม่มีผิด... มาสักทีนะ เจ้าของนัด !
“กว่าจะมาได้นะฉันรอจนรากจะงอกแล้วเนี่ย ข้อหามาสาย วันนี้พี่ต้องเลี้ยงของกินฉันทุกอย่างเลย !”
“เอางั้นเลยเหรอ”
“ก็เออน่ะสิ หรือว่า ... วันนี้พี่จนไม่มีตังค์เลี้ยงฉันกันฮะ”
“โอเค ! อยากกินอะไรจัดไปเลยน้องพี่ !”
พี่เก็นพูดเสียงดังพร้อมกับเอื้อมมือมาโอบไหล่ฉันอย่างประชดประชันทันที ให้มันได้อย่างนี้สิคะพี่ชายนอกไส้ของฉัน ! พูดเรื่องไม่มีเงินทีไร ก็เหมือนเป็นไฟลุกโชนให้แก่บุคคลนี้ทุกที ถ้าอยากได้อะไรที่เกียวกับเงินล่ะก็ ฉันจะใช้วิธีนี้ล่ะ ไถเงินจากพี่เก็นทางอ้อม ! ฮ่า ๆ !
พอเข้ามาภายในของเพนโทรสโตร ฯ แล้ว ฉันก็สะบัดมือพี่เก็นออก ก่อนที่จะเดินนำหน้าไปที่ร้านไอสกรีมที่จ้องมานาน ซึ่งมาทีไรก็ไม่ได้กินไอ้ติมรสโปรดที่จ้องไว้สักที เฮ้อ -_- ;; แต่วันนี้ล่ะ ... ที่ฉันจะต้องได้กินมัน ! วันนี้ล่ะที่ฉันจะต้องได้ลิ้มรสมันให้ได้ !
ฉันเม้มริมฝีปากแน่นด้วยความหวังก่อนที่จะเดินไปที่ประตูกระจกสองบานนั่นเพื่อผลักมันเข้าไป แต่ทว่า ...
“เดี๋ยวก่อนไอ้ดิน”
“อะไรอีก !” ฉันถามเสียงฉุนพร้อมกับเท้าสะเอว อย่านะ ... อย่าเชียวล่ะ ...
“พอดี ... ฉันยังไม่ได้กดตังค์มาว่ะ”
“ชิทเอ๊ยยยยยยยย แล้ววันนี้ฉันจะได้กินไอติมแก้วนั้นมั้ยเนี่ย !”
ยิ่งมาทีไรยิ่งไม่ได้กินอยู่ แง้งงงงงงงงง ไอ้พี่เก็นซังกะบ๊วยยยยยยยย TTOTT ทำไมจะต้องมามีปัญหาตอนเน้ ~~!
ความคิดเห็น