ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Heartless Soil พื้นที่หัวใจขอจับจอง !

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER : 1 , 2

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 55


     
    CAHPTER : 1
     
    ดูเหมือนว่าช้อยส์ที่หนึ่งน่าจะเหมาะกับฉันที่สุดนะ คนอย่างฉันน่ะเหรอจะอ้อนวอน ? คนอย่างฉันน่ะเหรอจะยอมถอยทัพทั้ง ๆ ที่ก็ลงทุนมาถึงตรงแล้ว ? ไม่หรอก ไม่มีทาง ... แต่ว่าจะเอาแต่คิดคนเดียวไม่ได้ มันต้องมีแนวร่วมด้วย
    ขวับ !
    ฉันกับไดอาร์หันหน้ามาหากันอย่างรู้จังหวะ ก่อนที่จะส่งสายตาสื่อความหมายหารัก ... หาทางที่จะผ่านด่านพี่สุดเอ็กซ์คนนี้เข้าไปให้ได้น่ะ แล้วสุดท้ายเวลาผ่านไปสามวิ ... คุณพี่ที่ยืนขัดขวางพวกฉันอยู่ก็พูดออกมาด้วยท่าทางดุแสนดุ
    “พี่ต้องขอเชิญน้อง ๆ ทั้งสองคนออกไปด้วยนะคะ ทางร้านเราไม่ต้อนรับนักเรียนให้เข้ามาใช้ในบริการของเราค่ะ”
    “แต่พี่คะ ! เราสองคนมีเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้ามาทำในนี้กันจริง ๆ นะคะ ปล่อยให้พวกเราเข้าไปข้างในเถอะค่ะ แป๊บเดียวเอง”
    “ไม่ได้หรอกค่ะ ! ถ้าพี่ปล่อยให้พวกน้องสองคนเข้าไป ภาพลักษณ์ของร้านก็จะถูกทำลายหมดสิคะ ถึงแม้น้องจะบอกว่าเข้าไปแค่เดี๋ยวเดียว แต่พอเข้าไปก็ไม่เคยอยู่เดี๋ยวเดียวเหมือนที่พูดกันไว้เลยสักคน พี่เจอแบบนี้มาเยอะละ และพี่ไม่อยากให้ประวัติเดิมมันซ้ำรอยอีก พี่ว่าพวกน้องสองคนกลับบ้านกันไปเถอะค่ะ”
    “แต่พี่คะ ...!”
    “ทั้งสองคนนี้มากับผมเอง ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ปล่อยให้ทั้งสองคนนี้มาเดินเผ่นผ่านกันเองแถวนี้”
    ขวับ
    เสียงหนึ่งที่ดังแทรกขึ้นมาระหว่างที่ฉันกำลังเถียงกับพี่พนักงานอยู่นั้น ทำให้พวกฉันทั้งสองคนกับอีกนางหนึ่งต้องรีบหันหน้าไปมองตามที่มาของเสียงโดยอัตโนมัติทันที ก่อนที่ประสบพบเจอกับผู้ชาย ...
    หล่อ *O*
    ไม่ใช่ละ ! ณ เวลานี้เรื่องหน้าตาเก็บไว้ก่อน เรื่องที่จะต้องเอะใจในตอนนี้ก็คือ ... ทำไมจู่ ๆ เขาก็พูดแทรกขึ้นมาว่าฉันกับเด็มมาด้วยกันกับเขาล่ะ ? ฉันมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์เลยนะว่าไม่รู้จักและตอนที่กำลังมาที่นี่พวกฉันก็ไม่ได้มากับผู้ชายคนนี้ด้วย !
    ตึก ตึก ...
    “ต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ ที่ทำให้คุณวุ่นวาย ผมเป็นหัวโจกพาสองคนนี้มาเองล่ะ ฮะ ๆ”
    บุคคลที่โผล่มาเป็นคนที่สี่พูดด้วยน้ำเสียงขัน ๆ กับพี่พนักงานก่อนที่จะเดินมาวางแขนพาดบ่าระหว่างฉันกับไดอาร์อย่างสนิทสนมกันมานานนมเฉยเลย ! เฮ้ย ! อะไรกันเนี่ย ฉันไปเพื่อนกับหมอนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ !  “งั้นเหรอคะคุณมีร์แซน”
    “ใช่ครับ ! ตอนนี้ผมอยากดื่มแล้วล่ะ คุณช่วยเช็กบาร์ที่บรรยากาศดี ๆ ให้พวกเราสามคนหน่อยสิครับ”
    “แต่ว่า น้องทั้งสองคนนี้ยังอยู่ในชุดนักเรียนอยู่เลยนะคะ เข้าไปไม่ได้หรอกค่ะ”
    “แค่ให้สองคนนี้ถอดเสื้อสูทออกก็จบแล้ว งั้นเอาอย่างนี้ดีมั้ย เดี๋ยวผมให้คุณเพิ่มอีกห้าพันเลย หรือว่า คุณจะเอาค่าปรับจากผมกี่บาทก็ได้นะ ผมพร้อมที่จะจ่ายให้คุณไม่อั้นเลยแหละ”
    “ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกคะ แค่สองพันก็หรูแล้ว”
    “ตกลงตามนั้นนะครับ เดี๋ยวพอพวกเราสามคนดริ้งค์กันเสร็จ ผมจะรีบเดินไป ‘จ่ายให้คุณ’ โดยทันทีเลย”
    “ค่า ~~ งั้นมาดูที่นั่งกันก่อนนะคะ”
    เงินนี่มันทำให้คนพลิกจากหลังเท้าเป็นหน้ามือโดยทันทีเลยจริง ๆ ! โอ้โห ... ทำมาเป็นตกแต่งคำพูดซะสละสลวยแต่สุดท้ายเมื่อเจอเงินก็สยบทุกท่าทางละวะ ! แอบโมโหนะเนี่ย ! แต่ก็เอาเถอะ ในเมื่อตอนนี้ฉันสามารถเข้าไปข้างในร้านเหล้านี้ได้แล้ว ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะง่ายขึ้นมาเป็นกอง ๆ
    ยัยป้าสุดเอ็กซ์ (หมดอารมณ์เรียกพี่โดยทันที) นี่ส่งยิ้มหวานนุ่มละมุนให้กับผู้ชายที่กำลังพาดแขนที่บ่าขวาของฉันก่อนที่จะพาพวกเราทั้งสามคนไปที่เคาน์เตอร์บาร์เล็ก ๆ ที่น่าจะเป็นที่ประจำของเธอ แล้วเดินเข้าไปข้างในนั้นก่อนที่จะจิ้มนิ้วที่หน้าจอที่เหมือนโรงหนังเหมือนกับกำลังหาบาร์ไว้อย่างที่ผู้ชายข้าง ๆ ฉันขอไปจริง ๆ ว้าว ... ที่นี่เทคโนโลยีล้ำหน้าก้าวไกลดีแฮะ
    แทนที่จะมัวแต่เอาเวลามาชมเทคโนลียีของที่นี่อย่างนี้ ฉันว่านะ ... ฉันใช้ช่วงเวลานี้แหละหาเรื่องไปที่บาร์ที่สิบสามดีกว่า !
    “พี่คะ เอาบาร์ที่สิบสามนะคะ”
    “ตอนนี้มีคนนั่งไปแล้วค่ะ บรรยากาศบาร์นั้นอึมครึมไม่ดีเลยนะคะน้อง งั้น เอาบาร์ที่สามสิบสามดีกว่า บรรยากาศดีน่านั่งมาก ๆ เลยนะคะ” 
    “งั้นก็เอาบาร์นั้นล่ะครับ” 
    “ได้เลยค่ะ”
    ให้ตายสิ ! หมอนั่นจะเออออห่อหมกต่อคำแนะนำของยัยป้านี่ทำม้ายย จริง ๆ แล้วยัยพนักงงานคนนี้อาจจะอยากจะแกล้งฉันก็ได้ ! ฮึ่ยยยย เห็นหน้าฉันมั้ย ว่าฉันต้องการบาร์ที่สิบสามน่ะไม่ใช่บาร์ที่สามสิบสามมมม 
    ฉันกับไดอาร์หันมามองหน้ากันอย่างรู้สึกผิดแผนสุด ๆ แต่เมื่อคุณป้าพนักงานสุดเอ็กซ์เรียกพนักงานชุดทักซิโดสีดำมาเพื่อพาพวกฉันไปที่บาร์ที่สามสิบสามและขอให้พวกฉันถอดเสื้อสูทประจำสถาบันแล้ว พวกฉันทั้งสองคนก็เลยได้แต่ลอยตามน้ำไป 
    เมื่อเดินมาถึงประตูสีน้ำตาลเข้มที่ทำมาจากไม้ชั้นดีได้ไม่นาน พนักงานชุดทักซิโดสีดำก็เปิดผลักมันเข้าไป ทำให้เผยให้เห็นภายในห้องโถงหรูแสนหรูระดับภัตตาคารที่มองจากมุมของฉันไปแล้วไกลสุดลูกหูลูกตา นี่ถ้าไม่สังเกตให้ดี ๆ ล่ะก็จะไม่เห็นแผ่นผนังที่จำกัดพื้นที่เลยนะนั่น
    “เชิญตามมาทางนี้เลยครับ” พนักงานชุดทักซิโดพูดอย่างสุภาพอ่อนน้อมก่อนที่จะเดินนำหน้าพวกเราสามคนต่อไป
    ตั้งแต่เดินออกมาจากยัยป้านั่นแล้ว ... ฉันว่า ตอนนี้นายหน้าหล่อน่าจะเอาแขนออกไปจากบ่าฉันได้แล้วมั้ง -*-
    “สุดหล่อ ทำไมอยู่ดี ๆ นายก็เดินเข้ามาหาพวกเราล่ะ” ไดอาร์ถามผู้ชายที่จู่ ๆ ก็เสนอตัวว่ามาด้วยกันกับพวกฉันสองคนขึ้นระหว่างที่กำลังเดินตามพนักงงานชุดทักซิโดสีดำอยู่ และพูดด้วยน้ำเสียงหวานย้อยไม่พอ ... ลูกตาที่หันไปมองนายนั่นของไอ้ไดอาร์ยังแวววาวเหมือนไข่มุกอันดามันอีกด้วย เล่นเอาผู้ชายที่ไม่ทราบประสงนามถึงกับเอาแขนที่พาดบ่าไอ้ไดอาร์ออกมากันเลยทีเดียว
    เอ่อแต่ว่า ... เขาก็ยังพาดแขนไว้ที่บ่าฉันอยู่นะ แถมยังดึงตัวฉันให้ไถลตามเขาไปอีกด้วย เฮ้ย -O- !
    “ฉันเห็นตอนที่พวกเธอกำลังยืนชั่งใจกันอยู่ตรงหน้าร้านพอดีน่ะ และก็มาเห็นว่าพวกเธอกำลังโดนพนักงานคนสวยไล่ให้กลับบ้านไปอีกด้วย ฉันก็เลย ... อยากเป็นคนดี เข้ามาช่วยพวกเธอไง แหะ ๆ”
    “จริงเหรอ ! ซึ้งในน้ำใจสุด ๆ เลย ! หน้าตาหล่อแล้วใจยังหล่ออีกด้วยอ่ะ ! ขอบคุณมากน้า ที่มาช่วยพวกเราไว้ขอบคุณจริง ๆ” ไดอาร์ขอบคุณเกินหน้าตาจนแทบจะเข้ามากระโดดกอดไอ้ผู้ชายที่ใช้โอกาสนี้กอดฉันแล้ว ! แต่เขาก็หลบนี้แถมยังพ่วงฉันไปด้วยอีก ให้ตายเถอะ ... นายปล่อยฉันออกไปได้มั้ย ฉันไม่ชอบ !
    “ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่นี้จิ๊บ ๆ”  
    เขาตอบกลับไป ก่อนที่จะเปลี่ยนมาวางแขนพาดบ่าฉันคนเดียวแทน ตั้งแต่เจอท่าทางตุ๊ดแต๋วแตกของไดอาร์ไปแล้ว ดูเหมือนว่าผู้อุปการะคุณอันใหญ่หลวงนี่จะรู้สึกขยาดไดอาร์ซะเหลือเกิน ก็แหงล่ะ ผู้ชายแท้ชอบผู้ชายตุ๊ดแต๋วแตกแบบนี้ซะที่ไหนกัน ถ้าผู้ชายแท้เป็นเพื่อนกับตุ๊ดได้ ก็คงต้องรอให้โลกเหลือพื้นแค่ครึ่งวงกลมเท่านั้นแหละ
    เมื่อเดินมาถึงโต๊ะบาร์ตัวหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นบาร์ที่สามสิบสามพนักงานชุดทักซิโดสีดำก็ผายมือเชิญพวกเราอย่างเปิดทาง ก่อนที่จะรีบเดินออกไปเพื่อให้ความส่วนตัวแก่ลูกค้ารายล่าสุด นั่นก็คือ ฉัน ไดอาร์ และก็เอ่อ ... เขาคนนี้ =_=
    ผู้ชายคนนั้นที่ฉันไม่รู้จะเรียกเขาว่าอะไรดีเพราะยังไม่ได้ถามชื่อ เดินเข้าไปที่บาร์นั่นพร้อมกับจัดทุกอย่างและทำทุกอย่างเสร็จสรรพ ... หมายถึงรินไวน์รินเหล้าอะไรอย่างเนี้ยอย่างชำนาญน่ะ แล้วปล่อยให้ฉันกับไอ้บ้าไดอาร์ยืนเป็นหมาหง็อยกันสองคน
    ที่เขาเข้ามาช่วยพวกฉันเอาไว้เพราะเห็นว่าพวกฉันชั่งใจกันอยู่ที่หน้าร้านเหล้าแล้วก็เกือบถูกยัยป้าพนักงานนั่นถูกเตะโด่งออกมาด้วยใช่มั้ย ใช่ นั่นคือความจริงแต่สายตาและน้ำเสียงที่เขาพูดตอนนั้น ทำไมมันดูเหมือนจะว่าเขาจะมองพวกฉันว่า ‘ไร้เงิน’ ยังไงยังงั้นเลยล่ะ
    เมื่อรู้สึกกึ่งไม่ดีที่คิดได้แบบนั้น ฉันก็ตัดสินใจเปิดกระเป๋าตังค์ออกมาก่อนที่จะคว้าแบงค์พันแล้วเดินเอาไปให้เขาที่กำลังวางแก้วไวน์ที่รินเสร็จแล้วอยู่ เล่นเอาเจ้าตัวที่กำลังเพลิน ๆ ถึงกับสะดุ้งโหยงเลยทีเดียว
    “อ๊ะ ! เธอยื่นเงินมาให้ฉันทำไมเนี่ย ตกใจหมดนะ”
    “ก็ ... ค่าบริการของที่นี่ทั้งหมดไง พอดีว่าฉันไม่อยากติดหนี้บุญคุณใครน่ะ ก็เลยอยากจะให้และก็ต้องขอบคุณนายมากนะที่ช่วยพวกฉันเอาไว้ ถ้าไม่มีนายพวกฉันสองคนต้องแย่แน่ ๆ ”
    “ฮะ ๆ แค่นี้เล็กน้อยน่ะ เธอไม่ต้องให้เงินฉันหรอก ฉันน่ะเป็นคนกินเหล้าเยอะพันเดียวก็เอาไม่อยู่ เชิญพวกเธอตามสบายเลยนะ ดริ้งค์นี้ ฉันเลี้ยง !”
    “จ้า ~ สุดหล่อ หัวใจนายหล่อจริง ๆ ด้วยล่ะ อ๊ายยยยยยยย ฉันขอมอมเหล้าตัวเองก่อนนะ >_<”
    “ไดอาร์ !”
    ฉันหันไปทำเสียงปรามใส่ไดอาร์ที่แทรกขึ้นมาทันทีก่อนที่จะส่งสายไปให้ว่า ‘เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อกินเหล้านะ’ แล้วเดินไปฉกเอาแก้วเหล้านั้นออกมาจากมือไอ้เพื่อนบ้านี่ ให้ตายสิ เห็นผู้ชายแล้วไอ้บ้านี่ลืมเป้าหมายไปเลย
    “แกลืมเรื่องที่เราจะต้องมาทำกันวันนี้แล้วหรือไงฮะ ช็อตนี้แกจะกินเหล้าไม่ได้นะ !” ฉันกระซิบเบา ๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคนกับไดอาร์ก่อนที่จะตีสีหน้าดุ แล้วเอาแก้วเหล้าไปวางไว้ไกล ๆ จากตรงนี้
    “โธ่แก ... ไอ้ของตามจดหมายนั่นแกก็รู้ที่หมายแล้วนี่ แกก็เดินไปคนเดียวสิ เดี๋ยวฉันรั้งตัวนายสุดหล่อนี่ไว้เอง รู้สึกว่าที่สุดหล่อมาช่วยเราเมื่อกี้นี้ ก็เพราะว่า ... เขาถูกใจในตัวแกนะ”
    “งั้นเหรอ ... ” 
    “ทั้งสองคนคุยอะไรกันน่ะ”
    เฮือก ! จู่ ๆ เจ้าของดริ้งค์ของวันนี้ก็โผล่พรวดเข้ามา เล่นเอาฉันกับไดอาร์หัวใจเกือบวายไปตาม ๆ กัน เฮ้อ เข้ามาให้สัญญาณกันหน่อยก็ดีหรอก ถึงสิ่งที่ฉันกับไดอาร์กระซิบกันอยู่มันจะทำให้ผู้ฟังไม่เข้าใจก็ตาม
    “อ๋อ ... พวกฉันสองคนกำลังคุยกันอยู่ว่า ... ”
    ฟึ่บ !
    ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบดี ไดอาร์ก็ลุกขึ้นเดินไปหาเจ้าของดริ้งค์แล้วโน้มตัวเข้าไปหาจนตอนนี้กลายเป็นว่าไอ้ไดอาร์กำลังคร่อมเขาแล้วเรียบร้อย ! เล่นเอาเจ้าของดริ้งค์ของวันนี้หน้าซีดกันเลยทีเดียว
    แต่ถึงจะตกใจกับสิ่งที่ไดอาร์ทำเมื่อกี้แต่ฉันก็ไม่ลืมหรอกว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ ... ฮะ ๆ ถ้าแกจะกักเขาด้วยวิธีนี้ล่ะก็ !
    ฉันขำไร้เสียงให้กับสิ่งที่ไดอาร์กำลังทำอยู่ได้ไม่นาน ไดอาร์ก็หันมาส่งสายตาว่าให้ฉันไปได้แล้ว ก่อนที่จะโบกมือไล่ให้ฉันไปอย่างกับหมูกับหมา โธ่เว้ย ! เจอผู้ชายหล่อ ๆ เป็นไม่ได้เลยนะ ทิ้งเพื่อนตลอด ! แต่ว่าก็สงสารหมอนั่นเขาล่ะที่กลายเป็นเหยื่ออันโอชะของไดอาร์ในวันนี้ ฮ่า ๆๆๆๆ 
    ไม่มัวแต่ยืนชิชะเบอะบะใส่ไอ้ไอดาร์ที่ไม่สนใจฉันอยู่นาน ขาทั้งสองข้างของฉันก็เริ่มทำงานทันที แต่ทว่าพอเดินลัดเลาะมาเรื่อย ๆ พลางดูบาร์นั่นนี่ไปด้วยว่าอยู่ที่บาร์หมายเลขอะไรแล้ว ฉันก็ต้องมาสะดุดเฮือกอย่างหัวเสียดังกึกก็เพราะว่า ...
    บาร์ภายในห้องโถงนี้ ไม่มีหมายเลขติด !
    ซวยโหงแล้วไง แล้วฉันจะไปเจอไอ้ ‘สิ่งนั้น’ ได้ยังไงกันเล่า !
     
    CAHPTER : 2
       
    ฉันยืนหยุดอยู่กับที่พร้อมกับพยายามคิดหาทางใหม่ว่าจะทำยังไงให้ตัวเองไปที่บาร์หมายเลขสิบสาม ที่มี ‘สิ่งนั้น’ อยู่ให้ได้ หมายเลขก็ไม่มีให้เห็นแล้ว แล้วฉันจะไปที่บาร์ไหนถูกเนี่ย ที่นี่บาร์แม่มก็เยอะใช่เล่นด้วย 
    ‘พี่คะ เอาบาร์ที่สิบสามน่ะค่ะ
    ‘ตอนนี้มีคนนั่งไปแล้วค่ะ
    อา ! จริงสิ พี่พนักงานว่าบาร์นั้นมีคนนั่งไปแล้วนี่นา แสดงว่าฉันต้องไปที่บาร์ที่มีคนนั่ง !!! เอาล่ะ มองไปรอบ ๆ แล้วตอนนี้คนก็ไม่เยอะด้วย เป้าหมายแคบลงแล้ว ! ลุยยยยยยยยยยยย
    ฉันตัดสินใจก้าวขาออกไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ และก็เรื่อย ๆ แล้วในที่สุด
    เมื่อยแล้วโว้ยยยยยยยยย นี่ยังไม่ถึงเป้าหมายบาร์แรกที่มีคนนั่งข้างหน้าเลยนะ ขาฉันก็เหมือนจะอ่อนแรงลงเข้าให้ซะแล้วอ่ะ ฮือ ~~! ไม่คิดว่าจุดที่ตัวเองเดินมาถึงจะไกลขนาดเน้
    แต่เอาวะ สู้เขา ! ดินเนอร์ เธอทำได้ สู้ ๆ !
    ฉันกลับมาฮึดอีกครั้ง ก่อนที่จะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อีกที โอเค ฉันจะซุ่มเอาแค่บาร์เดียวเท่านั้นนะ ถ้าบาร์ที่ฉันซุ่มแล้วไม่เจอ ฉันก็ชิ่งกลับล่ะ ไม่มีอารมณ์ย้อนกลับไปหาไอ้ไดอาร์และก็บอกลาคุณชายใจดีนั่นอีกแล้ว !
    ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ตึง !
    เสียงระฆังในหัวดังอยู่สองครั้งก่อนที่จะจบลงท้ายด้วยเสียงตึง ! เมื่อฉันติดสินใจได้แล้วว่าจะไปหาของสิ่งนั้นที่บาร์ไหน ... ฉันจะเอาบาร์นั้นแหละ บาร์ที่อยู่มุมซ้ายมือนั่น
    กึก !
    แต่ว่าพอจะก้าวขาออกไปขาของฉันก็ต้องชะงักกึกไว้กับที่เมื่อรู้สึกว่าของในกระเป๋าเสื้อตัวเองตก แต่ทว่าพอฉันย่อตัวลงไปเก็บของที่ตกลงไปนั้น ฉันก็ต้องตกใจตาค้างเมื่อ ...
    เลขหนึ่งกับเลขแปดมันเด่นหราอยู่ตรงหน้าฉัน ... เฮ้ย ! หมายเลขบาร์มันติดอยู่กับด้านล่างของโซฟาเหรอเนี่ย ! ไอเดียดีมากเลยไอ้ร้านนี้ !
    ฉันรีบหยิบกระเป๋าสตางค์ที่ตกลงไปก่อนที่จะจิ๊ปากเสียงอารมณ์นิดหน่อยที่รู้ว่าร้านเหล้าแห่งนี้ติดหมายเลขไว้ที่ข้างล่างโซฟา ตอนนี้ฉันอยู่บาร์ที่สิบแปดแล้วก็แสดงว่า ... อีกห้าโต๊ะข้างหน้าก็จะถึงบาร์ที่สิบสาม ! เอาล่ะอีกห้าโต๊ะเท่านั้นก็จะได้รู้กันสักที ว่าจดหมายฉบับนั้นมันต้องการให้ฉันเก็บอะไรไว้กับตัว !
    พรึ่บ !
    ฮึ่ย ตกใจหมด O_o ระหว่างที่ฉันกำลังนับหมายเลขโต๊ะตั้งแต่ตัวที่สิบแปดไปข้างหน้าอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีแขกบาร์หนึ่งลุกขึ้นจากบาร์พอดีพร้อมกับที่ฉันนับได้ว่าบาร์ตัวนั้นเป็นบาร์หมายเลขที่สิบสาม เฮ้ ! บาร์ที่สิบสามงั้นเหรอ อย่างนี้ฉันก็คงจะปล่อยให้พวกเขาออกไปจากตรงนั้นตอนนี้ไม่ได้แล้วล่ะ เพราะถ้าพวกเขาออกไปจากบาร์นั่นไปได้แสดงว่า ... พวกเขาก็ต้องเอาของ ‘สิ่งนั้น’ ไปด้วยน่ะสิ !
     ชะวิ้งงงงงงงงง -___- +++
    แต่ทันใดนั้นที่ฉันจะเดินเข้าไปที่บาร์ที่สิบสาม สายตาของฉันก็ป๊ะเข้าให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นหนึ่งในที่นั่งบาร์ที่สิบสามนั่นอย่างบังเอิญ หน้าตาของเขาหล่อคมคายดูแล้วเพลินตาและน่าเคลิ้มจนไม่สามารถจะละสายตาออกไปจากใบหน้าของเขาได้เลย ทุกอย่างบนใบหน้าของเขาแทบจะไม่มีที่ติ ที่บอกว่า ‘แทบ’ น่ะ ก็เพราะว่าสายตาของเขาที่ฉันจ้องอยู่นั้นมันดูเย็นชาและหยิ่งผยองมากกกกกก จนฉันทนไม่ไหวต้องหันไปทางอื่นด้วยความที่ไม่ชอบทันที !
    หน็อย ! เกลียดนักนะไอ้พวกหล่อแล้วชอบทำตัวหยิ่งเนี่ย ! เดี๋ยวเถอะ !
    ฉันปล่อยเสียงชิชะออกมานิดหน่อย ก่อนที่จะหันกลับไปมองที่บาร์ที่สิบตามเดิม ก่อนที่จะต้องตกใจสะดุ้งเฮือก ! เมื่อกลุ่มที่นั่งอยู่ที่บาร์ที่สิบสามนั่นลุกเดินออกไปแล้ว ~ ไม่ได้นะ ! รอฉันก๊อนนนนนนนนนน
    ตึก ๆๆๆๆๆๆ
    เอี๊ยดดดดดดด !
    แต่ถึงแม้ว่าฉันอยากจะวิ่งไปตามพวกเขามากเพียงใด ฉันก็ต้องหยุดฝีเท้าเอาไว้ที่บาร์ที่สิบสามก่อนแล้วก้ม ๆ มอง ๆ หาวัตถุที่น่าจะเป็นของ ‘สิ่งนั้น’ ที่ในจดหมายนั่นว่าถึง เอาน่า ... ขอคิดในแง่ดีก่อนละกันว่าบางทีพวกเขาอาจจะไม่เห็นและไม่ได้หยิบอะไรเลยออกไปก็ได้ 
    มองซ้าย มองขวา เหลือบซ้าย เหลือบขวา (O_O  ) (  O_O)
    ไม่มี !! อย่างนี้ก็แสดงว่าของ ‘สิ่งนั้น’ ต้องไปอยู่กับพวกคนกลุ่มนั้นแล้วแน่ ๆ อ่ะ ! เพราะไอ้ร้านเหล้าบ้าร้านนี้แท้ ๆ เล๊ย ! ที่ติดหมายเลขโต๊ะเอาไว้ที่ด้านล่างของโซฟา ไอ้ร้านเวรรรร
    รู้อย่างนี้แล้วฉันก็ไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปจากบาร์ที่สิบสามนี่ทันที จนทำให้ลูกค้าที่นั่งดริ้งค์กันอยู่นั้นต่างมองมาที่ฉันกันเป็นตาเดียว แต่ตอนนี้สภาพแวดล้อมฉันไม่สนใจแล้ว ! ที่ฉันสนใจอย่างเดียวก็คือ ... พวกเขาอยู่นั่น ! พวกเขากำลังจะถึงประตูแล้ว !
    ตึก ๆๆๆๆๆ
    หมับ !
    “นาย ... นาย ... เฮ้อ ~~ ”
    และฉันก็ทำสำเร็จ ! สองมือของฉันคว้าไหล่ของผู้ชายคนหนึ่งไว้ได้ ก่อนที่จะต้องถอนหายใจดัง ๆ ออกมาเพราะความหอบ  ฮ้า ~ นี่ฉันรู้สึกเหมือนลิ้นจะห้อยถึงพื้นเลยอ่ะ เพราะพื้นที่มันกว้างหรือคนพวกนั้นขามันยาวกันแน่ฉันถึงได้หอบขนาดนี้
    “อะไรของเธอ -_-”
    “คือว่า ... พวกนาย ... ” ฉันเงยหน้าขึ้นไปเพื่อจะถามว่าพวกเขาได้หยิบสิ่งของแปลก ๆ ติดมือไปหรือเปล่า แต่พอเห็นหน้าผู้ชายที่ฉันกำลังจะเสวนาด้วยแล้ว ...
    หมดอารมณ์จะถามทันที ทำไมหมอนี่ต้องเป็นผู้โชคดีที่ฉันคว้าตัวไว้ได้ด้วยนะ ใช่ เขาคือผู้ชายจองหองจองเห่าคนนั้นเองน่ะแหละ -_-
    ฮึ่ย ! แต่ว่าเก็บอารมณ์อคติเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้ฉันต้องอดทนเสวนากับเขา ต้องอดทน ... ต้องอดทน ...
    “คือว่า ... พวกนาย ... ”
    “ไอ้เลนส์ ! มัวยืนทำอะไรอยู่วะ เร็ว ๆ เข้าพวกเราต้องมีเรื่องที่ต้องไปจัดการกันต่ออีกนะเว้ย” พอฉันจะปริปากถามก็มีอีกเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมาทันที ! ซึ่งข้อความที่ได้ฟังนั้นฉันรู้เลย ว่าไอ้คนตรงหน้าฉันกำลังถูกเร่ง ไม่ได้การแล้ว !
    “เออ เดี๋ยวจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ นี่เธอ ... เธอต้องการอะไรจากฉันกันแน่เธอถึงมาจับตัวฉันไว้น่ะ” คนตรงหน้าฉันหันไปตะโกนตอบก่อนที่จะจับไหล่ฉันทั้งสองข้าง พร้อมกับก้มหน้าลงมาเพราะความสูงที่ต่างกัน ... อา จะว่าไปหมอนี่ผิวหน้าเนียนชะมัดเลย
    “คือว่า ... ”
    “คือ ??” เขาทวนคำพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น แต่ว่า ... ทำไมฉันถึงประหม่าเขาขึ้นมาซะได้เนี่ย ไม่นะ ดินเนอร์ !
    “ไอ้เลนส์ ! ไม่มีเวลาแล้วนะ รีบออกมาเร็วเข้า !”
    เสียงในตอนแรกแทรกขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ที่เขาถูกเร่งเขาถอนหายใจคลายมือออกจากบ่าฉันอ่ะ ! ไม่นะ ทำท่าทางหน่าย ๆ อย่างนั้น นายอย่าเพิ่งไปนะ ! อย่าเพิ่งไป ! ฉันยังไม่ได้ถามอะไรเลย !
    “เฮ้อ เธอนี่มันช้าจังเลยนะ งั้นฉันไปก่อนล่ะ หวังว่าเราสองคนจะได้เจอกันอีก” 
    “เดี๋ยวววววววววววววว ! อย่าพึ่งปายยยยยยยยย !”
    ปึง
    เขาจงใจไม่ได้ยินฉันหรือได้ยินแต่ทำเป็นหูทวนลมก็ไม่รู้ T^T ฉันออกจะแหกปากลั่นซะขนาดนั้นเขาก็ยังไม่หยุด และเปิดประตูสีน้ำตาลเข้มที่เป็นประตูของห้องโถงนี้ออกไปเลยอ่ะ ไม่นะ ม่ายยยย เขาไปแล้ว ! หวังว่าเราสองคนจะได้เจอกันอีก ... มันคงไม่มีวันนั้นแล้วแหละ !  
    ฉันรีบซอยวิ่งออกไปหวังที่จะตามเขาคนนั้นกลับมาอีกครั้ง แต่ทว่า ...
    “ทางเราต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ไม่สามารถปล่อยให้คุณตามพวกเขาออกไปได้อีก”
    มีการ์ดสามคนใส่ชุดสูทสีดำมายืนจังก้าขวางทางฉันไว้ ! แง้ ~ ถึงของสิ่งนั้นจะไม่สำคัญในตอนแรก แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่า มันสำคัญกับฉันมาก ๆ เลยนะ ฉันอยากด้ายยยยย เอามันคืนม้า ~~~
    TALK
     
    มาแล้วนะคะ สำหรับตอนที่ 1 และ 2 !!!!!!!!!!!!!!! ตอนนี้ตัวหนังสือดูเรียบร้อยมากขึ้นแล้วนะคะ (ถ้าไม่มากขึ้นก็ไม่รู้จะพูดว่ายังไง เพราะกว่าจะได้แบบนี้มันนานมาก TTOTT) เรื่องนี้ไรท์เตอร์อยากจะต้องการคอมเมนต์เรื่องจุดสำคัญที่ผิดพลาดจริงค่ะ ๆ ขอให้นักอ่านทุกคนเมนต์บอกไรเตอร์ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
    THANK YOU !!!!!!!!!!!!
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×