ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The winner อัธพาลร้ายลวงหัวใจยัยนักโทษ (แก้ไขเสร็จแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ [อัพใหม่]

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 55


    บทนำ

    ฟึ่บ ๆ

    อา ~ ในที่สุดภาระกิจทิ้งขยะก็เสร็จสักที เอ่อ ฉันว่าไม่ใช่ทิ้งขยะหรอก เรียกว่า ลากขยะมาทิ้ง เลยดีกว่านะ แฮ่ก ๆ เหนื่อยชะมัดยาดเลย ฉันเป็นสตาฟ์ฟก็จริง แต่พี่เขาไม่แหกตาดูรึไงว่าฉันเป็นผู้หญิงน่ะ ! ถึงได้ใช้ให้ฉันมาลากขยะถุงใหญ่แบบนี้ =_= น่าโมโหที่สุดเลย ! สตาฟ์ฟแค่ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่คนเก็บขยะนี่นะ !!!!!!

    ก็นะ ... โดนเขากดดันมานี่ จะปฏิเสธยังไงล่ะ จะบอกว่าไม่ทำก็เกรงใจ บอกว่าทำแม่มก็ใช้ฉันดั่งนักกีฬายกน้ำหนักเลย ไอ้พวกผู้ชายก็หายหัวกันไปหมดแล้วฉันดันอยู่ใกล้ยัยรุ่นพี่ที่กำลังเคลียร์พื้นที่อยู่พอดี ก็เลยโดนใช้มาซะ โฮ่ย ! เหนื่อย

    เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันนิทรรศการของโรงเรียนของเรา ที่จะขายสิ่งต่างๆ ตามซุ้ม ตามเต้นท์ และมีกิจกรรมต่าง ๆ นา ๆภายในโรงเรียนแล้วเปิดให้โรงเรียนอื่นเข้ามาชมเข้ามาช็อปในโรงเรียนของฉัน ทำให้สนามใหญ่ที่ฉันกำลังเดินอยู่นี้มีเต้นท์ตั้งเยอะแยะอยู่เต็มไปหมด มองไปทางไหนเต้นท์ไหนก็เห็นแต่ขยะ เพราะตอนนี้ทุกซุ้มทยอยกันเก็บข้าวของกันไปหมดแล้ว แล้วการเก็บเต้นท์ของทุกซุ้มครั้งนี้ก็ทำให้ฉันตกใจเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นการเก็บซุ้มที่ไวที่สุดในโลก ! เพราะทุกคนรีบเก็บซุ้มกันแบบแทบจะเสร็จภายในสองนาทีเพื่อไปดู ... บาสเก็ตบอลในโรงยิมนั่น ซึ่งที่นั่นเป็นที่ที่ฉันต้องเข้าไปทำหน้าที่สตาฟฟ์นั่นเอง  

    เดินโมโหมาได้ไม่นานก็ถึงลานอัฒจรรย์ที่ตอนนี้มีคนแน่นเอียดเต็มไปหมด ทั้งเสียงเชียร์กรีดร้องอย่างเมามันของคนดูทำให้ฉันเบ้หน้าปากแบะอย่างอัตโนมัติ -_- จะอะไรกันนักกันหนา เขากำลังแข่งกันอยู่หัดเงียบให้นักกีฬาเขามีสมาธิที่จะแข่งกันบ้างสิ ไม่ใช่แค่นักกีฬาเดินกันไม่กี่ก้าวก็ กรี๊ดๆๆๆๆ กันน่ะ โฮ่ย !

    ฉันเดินมาถึงที่ที่มีพวกสตาฟ์ฟนับร่วมสิบคนอยู่ ก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวด้วยความเบื่อหน่าย ฮึ่ย ! ฉันล่ะอยากจะฆ่าอีตาประธานนักเรียนของที่นี่จริงๆ เลย ไปกดดันคนอื่นไม่ได้หรือไงเล่า มากดดันอารายกับช้านนนน กรี๊ดดดดด

    “นี่ ... ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อยสิ หน้าหงิกเชียว” โซนเพื่อนคนที่นั่งข้างๆ ที่เต็มใจที่จะมาเป็นสตาฟ์ฟพูดพร้อมกับดึงแก้มฉันจนยืดอย่างเอ็นดู ฉันปัดมือเธอทิ้งก่อนที่จะเบ้ปาก

    “ใครจะไปหน้าบานอย่างเธอล่ะ ฉันโดนบังคับมานะ ไม่ได้เต็มใจมาเป็นสตาฟ์ฟซะหน่อย”

    “โอ๋ๆๆๆ พี่คีย์เขาบอกแล้วไงว่า ถ้าเธอเป็นสตาฟ์ฟให้เขาจะให้โทรศัพท์มือถือเธอเครื่องนึง”

    “หมาป่ามา หมาป่ามา หมาป่ามากินแกะ ~

    -“-” ยัยโซนทำหน้ามุ่ยใส่ฉันเมื่อฉันร้องเพลงในนิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ โธ่ ... ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพี่แกจะให้โทรศัพท์มือถือกันจริงๆ น่ะ อย่างน้อยก็ต้องเป็นของมือสองล่ะวะ

    “ฉันไม่เชื่ออยู่แล้วหรอกน่า คนอย่างหมอนั่นเนี่ยอ่ะนะจะลงทุนขนาดนั้น ที่ฉันยอมมาเป็นสตาฟ์ฟให้ก็เพราะรำคาญหมอนั่นต่างหาก” ฉันพูดพร้อมกับมองไปที่สนามบาสด้วยสายตายอาฆาตซึ่งตอนนี้มี เจ้าตัวปัญหากำลังเล่นบาสด้วยความจริงจังอยู่ โอย ! โมโหๆๆๆๆ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ มาเป็นสตาฟ์ฟแล้วก็ต้องอดทนต่อไป

    “เมม ๆๆๆๆๆ”

    “อะไรพี่” ระหว่างที่กำลังนั่งมองการแข่งขันบาสเก็ตบอลท่ามกลางเสียงอันสุดแสนจะดังลั่นฟ้านั้น ก็มีเสียงพี่สตาฟ์ฟผู้ชายเรียกชื่อฉันจนลิ้นแทบจะพันกัน ลืมอีกแล้วสินะ ชื่อเต็มๆ ของฉันคือ เมมโมน่ะ

    “ไปเอาขวดสเปรย์ให้หน่อยสิ ที่ห้องล็อกเกอร์หญิงวางอยู่บนเก้าอี้เลนกลางอ่ะ เร็ว ๆ”  

    “แล้วพี่ไม่เข้าไปเองล่ะ”

    “พี่เป็นผู้ชาย เรานั่นแหละไป เร็วๆ สิ” พี่สตาฟ์ฟพูดพร้อมกับปาดเหงื่อหายใจฮอบถี่ ท่าทางพี่แกจะเหนื่อยจริงๆ แฮะ

    “อะไรว้า ~

    “เร็วๆ !!!!!!!!” พี่สตาฟ์ฟเริ่มขึ้นเสียงใส่ ฉันเลยจำต้องลุกแล้ววิ่งไปให้ไวไม่งั้นนะ มีปากเสียงกันแน่แล้วฉันก็ไม่อยากมีปัญหาอะไรมากมายด้วย

    ฉันวิ่งมาถึงล็อกเกอร์ด้วยความเร่งรีบและความเร็วของสปีดฝีเท้าตัวเองเต็มที่ก่อนที่จะมองไปที่เก้าอี้ตัวยาวเลนกลาง   อ๋อ ... ตรงนั้นไงเจอแล้ว ! รีบเข้าไปเอามันดีกว่า ขี้เกียจอยู่ในนี้นาน แล้วตอนนี้ในนี้ก็ไม่มีใครอยู่ด้วย แล้วทำไม ... ฉันต้องจินตนาการถึงสัมภเวสีด้วยเนี่ย ! แงๆๆๆ

    เคร้ง !!!

    ด้วยความกลัวและบวกกับความเร่งรีบของฉันทำให้ฉันหยิบไอ้เจ้าสเปร์ยที่พี่สตาฟ์ฟบอกมาโดยที่ไม่ได้หันไปดูเลยว่ามันใช่หรือเปล่า เพราะสิ่งที่มันอยู่ในมือของฉันมันไม่แข็งเหมือนกระป๋องโลหะเลย มันนิ่มๆ มือยังไงไม่รู้ และฉันก็สะดุ้งเกือบปล่อยกรี๊ดลั่นออกมาเมื่อได้ยินเสียเหมือนวัตถุโลหะมันตกลงมาด้วย โอย ... อยู่ไม่ได้แล้วรีบไปดีกว่า แต่ เอ๊ะ ! ทำไมฉันรู้สึกเหมือนไอ้สิ่งที่หยิบมามันจะไม่ใช่สเปร์ยเลยล่ะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่มาจะสงสัยนะ ต้องรีบ !!!!!

    =__= ^^^^

    สายตาและสีหน้าแบบนี้แทบจะทำกันทุกคนตลอดทางที่ฉันวิ่งมา ในใจของฉันตอนนี้อยากจะถามพวกเขาจนจะแย่แล้วเนี่ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของฉันหรือเปล่า พวกเขาถึงมองด้วยสายตาเอือมระอากันแบบนั้น ฉันพูดกับตัวเองตลอดทางว่าตัวเองมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าจนกระทั่งมาถึงที่ที่พวกสตาฟ์ฟพักกันอยู่นั่นแหละฉันถึงได้กระจ่างขึ้นมาเลยทันที

    “ฉันให้เธอไปหยิบสเปรย์มานะ !!!!!!! ไม่ได้ให้ไปหยิบไอ้เจ้าไวเบรกเตอร์มา !!!!!!!!!!

    O_O !!!

    ทุกอย่างในโลกใบนี้เหมือนกับถูกกดปุ่ม Stop จากรีโมตซีดีเมื่อพี่สตาฟ์ฟตะคอกใส่ฉันอย่างหัวเสีย ปากของฉันอ้ากว้างพร้อมกับจ้องไปที่ใบหน้าของอีตาพี่สตาฟ์ฟด้วยความเอ๋อและอึ้ง ตากระพิบถี่ ทั้งตัวแข็งไปหมด มะ ... ไม่จริงน่า ไม่จริงงง ฉันหยิบสเปร์ยมาน้า ไม่ได้หยิบไอ้นั่นม้า ~~~

    “บะ ... บ้า ! พี่พูดอะไรอ่ะ” ฉันพูดเสียงสั่นๆ ออกไป อึ๋ย ~~~ ไม่นะ ม่ายยยย ฉันไม่ได้หยิบเจ้านั่นติดมือมาแทนสเปรย์ออกมาใช่มั้ย ใช่ม้ายยยยย

    “แล้วนี่มันคืออะไรกันฮะ !!!!!!!” พี่สตาฟ์ฟพูดก่อนที่จะดึงข้อมือข้างซ้ายของฉันที่หยิบไอ้เจ้าอะไรก็ไม่รู้กันแน่ ยื่นออกมาด้วยแรงโมโห โอ๊ย ! เจ็บนะเนี่ย “มองลงไป”

    อีตาพี่สตาฟ์ฟสั่งก่อนที่จะทำสีหน้าโมโหสุดขีดใส่ โอเค ... จะได้รู้กันไปเลยว่ามันคืออะไร แต่พอฉันมองลงไปที่ข้อมือของตัวเอง ไล่สายตาลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหยุดอยู่ที่ฝ่ามือตัวเอง ฉันก็ต้องทำสีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ ก่อนที่จะหลับตาถอนหายใจออกมาแล้วหัวเราะออกมาอย่างฝืดสุดขีด ทั้งๆ ที่ในใจของฉันมันกรีดร้องจนเป็นบ้าไปแล้ว !!!!!!!!!

    ถึงว่าล่ะทำไมมันถึงนิ่ม ๆ

    ก็เพราะว่ามันเป็นไอ้นั่นของผู้ชายปลอมยังไงเล่า !!!!!!!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด

    ฉันรีบชักมือตัวเองออก ก่อนจะหันหลังให้พี่เขาแล้วทำหน้าหยีอย่างเจ็บใจปนอายตัวเองเป็นที่สุด ... ไอ้เจ้าตัวนี้นี่เอง ที่เป็นสาเหตุให้ฉันโดนมอง T_T พอเหลือบไปมองบริเวณข้างๆ ก็เห็นพวกที่เชียร์อยู่บนสแตนด์แถวนั้นมองมาทางฉันกันเป็นตาเดียว โชคดีไปที่แถวนี้เป็นแถวปลายสแตนด์น่ะ ก็เลยทำให้แถวนี้มีคนไม่มาก แต่คนที่สนใจฉันก็มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว TOT ฉันจะร้องไห้แล้วนะ แงๆๆๆๆ

    จึ้กๆ

    ขวับ

    ฉันหันไปตามแรงสะกิดที่บ่าข้างซ้าย ก่อนที่จะผงะเมื่อเห็นสารวัตรนักเรียนหน้าหล่อที่ตอนนี้ตีหน้าโหดใส่เต็มกำลัง การที่สารวัตรนักเรียนมาถึงตัวแบบนี้มันมีอย่างเดียวล่ะว่า คุณกำลังทำผิดในโรงเรียน อยู่แน่ ๆ เท่าที่ฉันจำได้ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยแล้วอีตาสารวัตรมันจะมาทำไมอ่ะ !

    “มะ ... มีอะไรเหรอ แหะ ๆ” ฉันหัวเราะแหยๆ ให้สารวัตรนักเรียนที่ทุกคนคุ้นหน้ากันดี ก่อนที่จะมองเลยผ่านเขาไปซึ่งเป็นพวกพี่สตาฟ์ฟยืนทำสีหน้าไม่ดีอยู่ แต่อีตาพี่สตาฟ์ฟคนที่ใช้ฉันกลับก้มหน้าเอามือกุมหน้าผากแล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอา มันต้องมีอะไรแน่ๆ ล่ะอย่างนี้ อย่าทำสีหน้ากันแบบนี้สิ เค้ากลัวนะ TTOTT

    “ตอนนี้ ... ฉันขอเชิญเธอไปที่ห้องปกครอง ตามคำสั่งของอาจารย์”

    “เรียกไป ทะ ... ทำไมเหรอ” แงๆ ฉันเริ่มกลัวแล้วนะ เมื่อกี้ก็ขายหน้ามาแล้ว แล้วจะเรียกให้ฉันไปทำหอยอะไรอีกเนี่ยยยยยยยยยย

    “มีคนแจ้งมาว่า ...” นายสารวัตรนักเรียนพูดก่อนที่จะจับข้อมือของซ้ายของฉันขึ้นมาดู ซึ่งมีอีเจ้าไวเบรกเตอร์คามือฉันอยู่ กรี๊ดดดดดดด ไอ้บ้า ! จะเอาขึ้นมาทำไมวะ ตอนนี้คนเกือบครึ่งลานอัฒจรรย์เริ่มหันมาสนใจฉันกันมากขึ้นแล้ว ยิ่งตอนนี้กีฬาก็ดันมาพักครึ่งเสียอีก หันไปทางอื่นสิ หันมาทางนี้ทำม้ายยยย

    “ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะ ! มาจงมาแจ้งอะไรกัน !” ระหว่างพูดฉันก็ต้องหลับตา เพราะไอ้เจ้าไวเบรกเตอร์มันผงาดอยู่ตรงหน้าฉัน แงๆๆๆ

    “เธอมีเจตนาที่จะทำมิดีมิร้ายกับนักเรียนหญิง !!!!!!!!

    สิ้นเสียงอันแสนโหดนั่น จากเปลือกตาที่หลับอยู่ก็ลืมขึ้น จากปากที่หุบอยู่ก็ขยายอ้ากว้าง และจากคนที่หันมาสนใจครึ่งลานอัฒจรรย์ก็กลายเป็นหันมาสนใจทั้งลานอัฒจรรย์โดยเฉพาะนักเรียนหญิงทุกคน ... ไอ้บ้านี่มันพูดว่าอะไรนะ มันพูดว่าอะไรนะ ไม่ใช่อย่างที่ฉันได้ยินใช่มั้ย มันบอกว่าฉันมีเจตนาที่จะทำมิดีมิร้ายกับนักเรียนหญิง ไม่จริงใช่มั้ย ไม่จริงอ่ะ ฉันเนี่ยนะจะทำอย่างนั้น ไม่จริงอ่ะ ม่ายเจงง กรี๊ดดดดด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×