คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 11 : สารคำสั่งการ BCN.
11
สารคำสั่งการ BCN.
แม้ว่าเวลอนจะเดินเข้ามาในบ้านแล้ว ... คนในบ้านฉันก็ยังไม่มีใครแตกตื่นเลยสักคน! แถมพี่ ‘แกนิค’ พี่ชายคนโตของบ้าน ยังอนุญาตให้เวลอนขึ้นมาส่งฉันถึงห้องนอนอีกต่างหาก ฉันล่ะเหลือเชื่อเลย!
เวลอนเป็นถึงนักฆ่าของ BCN. และพี่แกนิคซ์ก็เป็นคนของ PCA. ตามจริงเขาจะต้องไม่พอใจที่เวลอนมาส่งฉันถึงห้องนอนแบบนี้สิ L
ฉันได้แต่นอนเซ็ง แล้วพยายามคิดหาข้อเท็จจริงให้ได้ว่าทำไมครอบครัวของฉันดูเหมือนจะยินดีต้อนรับเวลอนเหลือเกิน พวกเขาไม่ได้แสดงท่าทีดีอกดีใจอะไรหรอก แต่ฉันรู้สึกได้น่ะ
นายกำลังทำอะไรกับครอบครัวฉันกันแน่ เวลอน!
เฮ่อ แต่ฉันว่าฉันเลิกคิดดีกว่า คิดไปก็เท่านั้น...สู้เอาเวลามาอ่านสารในโน้ตบุ๊คสีดำนี่เถอะ นี่ฉันยังอ่านมันไม่จบเลย
แค่บรรทัดแรกก็ทำเอาเสียวไปยันไหนต่อไหนของร่างกายแล้ว
ฉันเปิดโน้ตบุ๊คสีดำขึ้นมา แล้วเริ่มร่ายอ่านตัวหนังสือในไฟล์ที่เขียนว่า ‘สารคำสั่งการ BCN.’
‘สารคำสั่งการ BCN.
ถึง ผู้ที่ได้รับสาร
นี่คือคำสั่งการอาญัติของ BCN. ที่ผู้รับไม่สามารถปฏิเสธหรือหลบหลีกได้ เพราะระบบอัตโนมัติของ BCN. จะบันทึกการอ่านข้อมูลเอาไว้ทันที เมื่อผู้ที่ได้รับสารเปิดอ่าน และถ้าผู้ที่ได้รับสารคิดจะปฏิเสธหรือหลบหนีทางองค์กรจะออกคำสั่ง ‘จับตาย’ ทันที
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ...ผู้ที่ได้รับคำสั่งจะต้องทำตามคำสั่งการของ BCN. ตั้งแต่อ่านบรรทัดแรก และผู้ที่ได้รับคำสั่งนี้จะต้องอ่านให้จบ เพราะสารคำสั่งการอาญัติฉบับนี้สำคัญต่อ ‘ชีวิต’ ของผู้ที่ได้รับเป็นอย่างมาก
และสารฉบับนี้จะมีให้อ่านเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ฉะนั้นจงจำคำสั่งการที่ BCN.ได้หมอบหมายไว้ให้ดี
ผู้ที่ได้รับสารคำสั่งนี้จะต้องดูแลโน้ตบุ๊คสีดำและข้อมูลที่อยู่ภายในโน้ตบุ๊คเครื่องนี้ทั้งหมดพร้อมกับรอ ‘คำสั่งใหม่’ ห้ามให้ใครเข้ามายุ่มย่ามเป็นอันขาด และที่สำคัญถ้ามีบุคคลที่ไม่คุ้นหน้าเข้ามาใกล้จงระวังไว้ให้ดี
เพราะตอนนี้สิ่งที่ฝั่งตรงข้ามต้องการ ได้มาอยู่กับมือ ‘คุณ’ แล้ว
แต่ถ้ามีอันตรายเกิดขึ้นกับผู้ที่ได้รับสาร ผู้ที่ได้รับสารสามารถเข้าไปขอความช่วยเหลือจากบุคคลขององค์กรได้ทันที ซึ่งบุคคลขององค์กรที่ว่าคือ Fri-San นักฆ่าวันศุกร์
ขอให้โชคดี
องค์กรอาชญกร BCN.’
โชคดี...งั้นเหรอ T_T
เมื่ออ่านจบนั้น ฉันก็รีบคว้าปากกาและกระดาษมาจดทุกอย่างภายในสารคำสั่งนี่ทันที
ภายในสารคำสั่ง บอกว่าสารจะมีให้อ่านเพียงแค่ครั้งเดียวใช่มั้ย แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้อ่าน ฉันกำลังจดอยู่คงไม่ผิดอะไรหรอกนะ
พรึบ!
กรี๊ดดดดดดดด สารดับหายไปแล้ว มันหายไปแล้วววววว ฉันยังจดไม่หมดเลย เพิ่งจะจดได้สี่ห้าบรรทัดเอง แง้งงงงงงง ทำร้ายกันไปแล้วนะ TOT
แต่โชคยังดีที่ฉันฉลาดจดแต่บรรทัดมิชชั่นของสารมาล่ะ
ต้องรักษาโน้ตบุ๊คสีดำไว้ให้ดี แล้วคอยรับคำสั่งใหม่ และห้ามให้ใครเข้ามายุ่มย่ามกับโน้ตบุ๊คตัวนี้ เด็ดขาด!!!!!
อันนี้จำได้ขึ้นใจตั้งแต่ยังไม่จดแล้ว แต่...
ถ้ามีบุคคลที่ไม่คุ้นหน้าเข้ามาใกล้จงระวังไว้ให้ดี
นี่แสดงว่าถ้ามีคุณป้าคนไหนมาถามทางฉันจะต้องกอดโน้ตบุ๊คสีดำเอาไว้ให้ดีเลยใช่มั้ยเนี่ย แง้งงง แล้วฉันจะไปรู้ได้ไงอ่ะ ว่าบุคคลแปลกหน้านั่นคือใคร งืมๆ T^T
ฉันเบ้ปากพร้อมกับปิดโน้ตบุ๊คสีดำลง แล้วนอนหงายอย่างไม่รู้จะทำอะไรอีกดี...ฉันต้องหาอะไรทำสักอย่างล่ะ ไม่งั้น...ฉันต้องฟุ้งซ่านมากแน่ๆ!
ทำอะไรดีล่ะ...ทำอะไรดี...จะเล่นคอมดูบิ๊กแบงฉันก็ไม่มีอารมณ์อ่ะ
คิด...คิด...ปิ๊งป่อง!
สมองฉันมันผุดขึ้นมาแล้ว ไปเดินเล่นที่สวนซากุระซาคุโดดีกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงดอกซากุระบาน มันคงจะดีไม่เบาถ้าฉันไปเดินเล่นนั่งเล่นดูดอกซากุระล่วงเป็นแบ็กกราวน์ที่นั่น
ถึงแม้ว่ามันจะไกลจากบ้านฉันพอสมควรก็เถอะ แต่คนมันอยากจะไปนี่นา
ฉันยิ้มแก้มปริแล้วหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมา กระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ และของสัมภาระต่าง ๆ เข้ามาอยู่ในกระเป๋าหมดแล้ว ดีล่ะ
หลังจากนี้ก็ออกเดินทางกันได้ ! อ่ะ โก่ โก โก๊วววว (ลอกมาจาก CL 2NE1)
ณ สวนซากุระซาคุโด
ช่วงนี้ดอกซากุระกำลังบานได้ที่เลย ! ต้องขอบคุณเมืองโวเลสนะ ที่มีสวนซากุระสวย ๆ ให้ชาวเมืองโวเลสได้ชื่นชมกันแบบนี้ ถ้าอยากจะไปดูดอกซากุระบาน ก็ไม่ต้องถ่อไปถึงญี่ปุ่นเลยล่ะ ที่เมืองโวเลสเขาก็มี ! บรรยากาศไม่แตกต่างจากสวนซากุระที่ญี่ปุ่นเลย
ดอกซากุระที่บานตกลงมาจากต้นลงสู่บนพื้นถนน ทำให้สวนซากุระดูสวยมากขึ้นเป็นกองด้วยความเป็นสีชมพูอ่อน ๆ ของมัน เพราะตอนนี้ใกล้จะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวของดอกซากุระแล้วล่ะมั้ง คนก็เลยเยอะเป็นพิเศษ
บางคนก็มาคนเดียวเหมือนฉัน แต่ส่วนใหญ่จะมากันเป็นคู่...เป็นแฟนกันมากกว่า
ดูสิ ชายหญิงคู่นั้นกำลังทัดดอกซากุระบานให้กันอยู่เลย แง้งงงงงง เจ็บปวด Y_Y
ฉันเดินหนีออกมาพร้อมกับถอนหายใจเบื่อหน่าย อา...เห็นแล้วอยากมีแฟนมั่งจังเลย แต่ฉันว่าไม่เอาดีกว่า ก่อนที่จะมารักกันหวานชื่นได้ขนาดนั้นคงต้องผ่านเรื่องราวมาเยอะ อยู่คนเดียวน่ะสบายใจที่สุดแล้ว
บรรยากาศของดอกซากุระบาน ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายลงไปเยอะ...ฉันรู้ตัวหรอกน่า ว่าการที่ออกมาคนเดียวในตอนนี้มันอันตราย แต่...
ก็คนมันอยากจะมานี่นา! อุดอู้อยู่แต่ในบ้านมีหวังเครียดตายกันพอดี
หมับ!
“กรี๊ดดดดด!”
จู่ๆ ก็มีคนดึงฉันลงมาให้หลบอยู่ที่พุ่มหญ้า!!!!! ใครกันเนี่ย! ไม่นะ หวังว่าคงจะไม่ใช่ฝั่งตรงข้ามที่ BCN. ว่า
ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันก็ซวยแล้วววว!
“ไม่ต้องกรี๊ด นี่ฉันเอง กาลา!”
แต่เสียงที่บอกเตือนก็ต้องทำให้ฉันหยุดกรี๊ดลงทันที
เสียงแบบนี้นี่มัน
“พี่เซลล์ O_O!”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันเอง ทำเป็นกรีดร้องไปได้แสบหูหมด =_=”
ก็ลองให้ฉันลากพี่เข้ามามั้ยล่ะฮะ!
“ก็คนมันตกใจนี่นา ส่งเสียงเรียกฉันออกมาก็ได้”
“ถ้าทำอย่างนั้นทุกอย่างก็เสียแผนหมดน่ะสิ”
“แผน???”
“โน่น”
พี่เซลล์พยักพเยิดไปข้างหน้า ทำให้ฉันที่เพิ่งทวนคำไปเมื่อกี้ต้องหันหน้าไปตามพี่แก
ผู้ชายกับผู้หญิงกำลังยืนอยู่ด้วยกัน? ฝ่ายหญิงมีท่าทีกระอักกระอ่วน ส่วนฝ่ายชายก็พยายามเก๊กขรึม แต่ยังไงฉันก็ดูออกล่ะน่า ว่าทั้งคู่กำลังมีท่าทีที่เขินอายซึ่งกันและกัน
เอ๋...หรือว่า...
“พวกเขากำลังจะบอกรักกันเหรอ พี่เซลล์”
“ถูกต้อง! ตอนนี้ยัยเรลกับไอ้เทิร์นกำลังบอกรักกันอยู่น่ะ เจ้าสองคนนั้นน่ะมันแอบรักกันมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่ยอมพูดกันสักที จนต้องมาเกิดเหตุการณ์มือที่สามนั่นแหละ ถึงจะมาหึงหวงกันได้ ฉันที่เห็นอย่างนั้นเลยโคตรจะรำคาญ เลยจับมันทั้งสองมาบอกรักกันซะเลย ทุกอย่างจะได้จบ มันสองคนจะได้เป็นแฟนกันสักที!”
“พี่นี่กามเทพเนอะ”
“มันแน่นอนอยู่แล้วครับน้อง~”
พี่เซลล์คลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ฉัน ส่วนฉันก็คลี่ยิ้มแห้งๆ ส่งพี่แกไปนิดหน่อย ให้ตายสิ...ฉันกำลังอิจฉาพวกเขาสองคนนั้น
พวกเขากำลังจะบอกรักกันท่ามกลางดอกซากุระบาน โรแมนติกเป็นบ้า!!!!!
แต่ก็ขอยืนยันเหมือนเดิม...อยู่คนเดียวสบายใจกว่า แต่ก็ขอแสดงความยินดีกับสองคนนั้นด้วย
ฉันกับพี่เซลล์เงียบและเฝ้าดูสถานการณ์ต่อไป ตอนนี้ทั้งสองเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแล้ว แต่ก็มัวหันไปทางอื่นอย่างอายๆอยู่นั่นแหละ ฉันเข้าใจโมเมนต์นี้ การที่เราจะบอกรักใครสักคนมันยากมากนะ มากจริงๆ สำหรับคนที่เรารักมานานแล้ว
แต่ถ้าได้โอกาสแล้วไม่บอก...ทุกอย่างก็อาจจะดับสลายไปได้เช่นกัน เอาใจช่วย!
ฉันนั่งลุ้นจนเผลอยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น...ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยตื่นเต้นได้เท่านี้มาก่อนเลยนะนี่! เอ้า เร็ว! รีบๆ บอกรักกันสิ!!!!!!
“ฉันว่า...ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ไอ้สองคนนั้นมันเก้อเขินกันเหลือเกิน”
“พี่จะทำอะไรน่ะ”
ฉันหันไปถามพี่เซลล์ แต่พี่แกแค่คลี่ยิ้มประมาณว่า ‘คอยดูเอาไว้ให้ดีแล้วกัน’ จากนั้นพี่แกก็ออกห่างจากฉันไปเลย พี่เซลล์กำลังจะทำอะไรของแกนะ
ก็ต้องคอยดูกันต่อไปล่ะ
ฉันนั่งมองไปที่สองคนนั้นอย่างไม่ละสายตา...พี่เรลกับพี่เทิร์น...อา! ฉันนึกออกแล้ว พี่เรลคือสมาชิกของฝ่ายกราฟฟิค ส่วนพี่เทิร์นก็เป็นสมาชิกของนักกีฬาฟุตบอลที่มีพี่เดสเป็นกัปตันอยู่นี่เอง!
ก็ถึงว่าล่ะทำไมคุ้นๆ! พี่สองคนนี้เหมาะสมกันเป็นบ้าเลย!
แต่ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งมองพวกพี่เขาอย่างใจจดใจจ่ออยู่...
กรี๊ดดดดดดด! >_< ใครก็ไม่รู้ขว้างอะไรใส่พี่เทิร์นอ่ะ!!!! ทำให้พี่เทิร์นล้มลงไปทับพี่เกลที่กำลังยืนห่างกันแค่ห้าคืบฝ่ามือ! ตอนแรกฉันถึงกับหลบตาปี๋แล้วผลุบหัวลงกับพุ่มหญ้า แต่พอเงยหน้าขึ้นมา...
เข้าใจแผนของพี่เซลล์แล้ว ที่แท้พี่เซลล์ก็เป็นคนทำให้พี่เทิร์นล้ม และทำให้สองคนนั้นแนบชิดกันนั่นเอง! ร้ายอ่ะ ไอ้พี่ชายคนนี้! แต่ฉันก็ชอบนะ เพิ่มความโรแมนติกสำหรับสองคนนั้นได้เยอะเลย~
[จะบอกรักกันได้หรือยัง! เร็วๆสิ ฉันก็มีอย่างอื่นที่ต้องไปทำอีกนะ!]
ฉันหันไปมองตามเสียงที่น่าจะพูดออกมาจากโทรโข่ง...พี่เซลล์กำลังยืนพูดอยู่ตรงต้นไม้ที่เยื้องๆ จากพี่เทิร์นออกไปนั่น เกรียนจริงๆ เลย คนจะบอกรักกันแท้ๆ ยังจะไปบังคับเขาอีก!
[พูดกันซะทีสิ ไม่งั้นฉันจะเอาโทรโข่งนี้ให้พวกแกบอกรักกันนะ! เอาทั้งโลกรับรู้กันไปเลย!]
แค่ได้ยินเสียงที่ดังก้องออกมา มันก็บอกได้แล้วล่ะ...ว่าคนทั้งโลกที่ว่าหรือก็คือคนที่อยู่ในสวนซากุระซาคุโดคงรู้กันไปทั่วแล้ว ไอ้พี่เซลล์ทำเรื่อง!
จะไม่คิดถึงหัวใจของพี่เรลและพี่เทิรน์เลยหรือไง!
ฉันแอบแขวะหน้าไปให้พี่เซลล์นิดหน่อย ก่อนที่จะหันกลับมามองคู่รักที่กำลังนอนทับกันเหมือนเดิม พี่เรลกำลังทุบให้พี่เทิร์นออกไป แต่พี่เทิร์นก็รวบมือทั้งสองข้างของพี่เรลเอาไว้ แล้ว...
หอมแก้มทีนึง ก่อนที่จะกระซิบที่ข้างหู อ๊ายยยยยยยยย น่ารักอ่ะ! ฟินอ่ะ! อ๊ากกกกกก >O< (แดดิ้น)
ฉันยกมือขึ้นมาป้องปากตัวเอง และกรี๊ดไม่มีเสียง เฮ! เฮจริงๆ พี่เทิร์นกล้ามาก! ส่วนพี่เรลก็เขินหน้าแดงใหญ่เลย ก่อนที่จะขยับปากที่จับใจความได้ว่า
‘ฉันก็รักนายเหมือนกัน’
แล้วพี่เรลก็รีบผลักพี่เทิร์นออกไปเลย กรี๊ดดดดดดดดดด น่ารักมาก! รู้สึกกระชุ่มกระชวยที่สุด! รักกันไปให้นานๆๆๆๆ น้า~ กาลาคนนี้เอาใจช่วย~~ อิจฉาอ่ะ!
และหลังจากนั้น...
“ไอ้เทิร์นกับเรลเป็นแฟนกันแล้วเว้ยยยยยยยย โฮฮฮฮฮฮ ไชโยๆๆๆ ยินดีด้วย!!!!!”
เสียงเฮก็ดังลั่นจากทั่วทุกสารทิศ! และไม่ทันที่จะหันไปมองตามเสียง พวกคนกลุ่มใหญ่ที่หลบอยู่ในต้นไม้ก็เดินออกมาพร้อมกับปรบมือ
โอ้โห...ถ้าจะอลังการขนาดนี้ล่ะก็! ปลื้มใจแทน แต่ฉันก็อายแทนเลยอ่ะ! คนอื่นรู้ไปทั่วบางแล้วววว ไอ้พี่เซลล์นี่ แสบจริงๆเลย~
ส่วนสองคนนั้นเหรอ...พี่เทิร์นยิ้มดีใจใหญ่ ส่วนพี่เรลก็เขินหน้าแดงเดินหนีไปแล้ว! พี่เทิร์นก็เลยต้องตามไป ส่วนพวกคนที่ออกมาโห่ร้อง...น่าจะเป็นเพื่อนในห้องของพี่เทิร์นและพี่เรลล่ะ ก็หัวเราะดีใจกันใหญ่ ดูท่าทางเหมือนพวกเขาจะเชียร์สองคนนั้นมานานแล้ว
ยินดีด้วย โว้ววววววว >O<
แล้วฉันน่ะเหรอ...ก็ได้แต่นั่งโห่ร้องไร้เสียงคนเดียวอยู่ที่พุ่มหญ้าน่ะสิ ฉันคนเป็นที่บังเอิญผ่านมานี่นา
เมื่อหมดเรื่องแล้ว ฉันก็ลุกขึ้นเตรียมจะกลับบ้าน แต่พี่เซลล์ก็วิ่งมาหาฉันพอดี วันนี้ฉันรู้สึกกระชุ่มกระชวยและอารมณ์ดีมากเลยล่ะ
“จะกลับบ้านเลยมั้ย ฉันจะได้แวะไปส่ง”
รู้ใจอีก
“อืม”
“งั้นก็ไปกันเลย~ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเครปญี่ปุ่นที่ขายข้างหน้านะ ไอ้น้อง~”
“โอเค ไม่ปฏิเสธค่า~”
“เลสโกวววววว”
ฉันกับพี่เซลล์กอดกันอย่างอารมณ์ดี และมุ่งหน้าไปที่ร้านเครปญี่ปุ่นที่ยอดฮิตมากในบรรดาร้านทำขนมของเมืองโวเลส มันไม่ง่ายหรอกนะ ที่จะได้ยินพี่เซลล์พูดว่าจะ ‘เลี้ยง’ ขึ้นมาเองแบบนี้ สงสัยฮีแกคงอารมณ์ดีจริง ๆ ก็แผนของตัวเองสำเร็จแล้วหนิ
แต่ไหนๆ พี่แกก็อาสาจะเลี้ยงเครปละ ฉันก็เลยสั่งเครปไปฝากที่บ้านอีกสองอันนั่นก็คือของแม่และของไกโลซะเลย พอฉันบอกไปตามนั้นพี่เซลล์ก็แอบหน้าบึ้งไปนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ยอมเลี้ยงแถมสองมาให้ฉันล่ะน่า
เห็นคู่พี่เทิร์นกับพี่เรลแล้วก็มีความสุขเนอะ รู้สึกโรแมนติกเป็นบ้า ขนาดพวกเขาบอกรักกันไปแล้ว ฉันยังจำเหตุการณ์นั้นได้ดี และยิ้มไม่หยุดเลยล่ะ
ฉันมีความสุขแทนพวกเขาจริงๆ ขอให้รักกันไปนานๆนะ
ระหว่างนั่งรถกลับบ้านโดยที่มีพี่เซลล์เป็นคนขับรถ เราสองคนก็คุยจิปาถะไปเรื่อย จนกระทั่งรถติดและฉันกำลังก้มหน้ากินเครปล่ะ พี่เซลล์ถึงจะหันมาสะกิดฉันด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“นี่ๆ ตรงข้างแกน่ะ หันไปสิ”
พี่เซลล์ชี้ไปทางหน้าต่างข้างฉัน ฉันจึงหันไปดูในสภาพที่เครปจ่อปาก ก่อนที่จะอึ้งเมื่อเห็นคนที่ฝั่งคนขับของรถข้างๆ
วะ...เวลอน เขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกันเนี่ย! มันจะบังเอิญมากเกินไปแล้วนะ!
แล้วเท่าที่ดู...ก็เหมือนกับเขาจะมองมาทางฉันนานแล้วด้วย สีหน้าเขาดุมากถึงมากที่สุด ฉันจึงเบือนหน้าหนีออกมา เพื่อหลบรังสีอำมหิตของเขา
ถ้าจะทำหน้าดุขนาดนั้นล่ะก็!
ตามจริงเขาย้ำฉันนักย้ำฉันหนาแล้วล่ะว่า ถ้าจะออกไปไหนให้โทรบอกเขาก่อนทุกครั้ง ก็อย่างที่ทุกคนรู้ว่าเวลอนคือคนขององค์กรที่ส่งมาคุ้มกันฉัน เขาจึงต้องคอยรับรู้เรื่องราวข่าวสารของฉันตลอด แต่การออกมาที่สวนซากุระซาคุโดครั้งนี้ ฉันกลับไม่ได้บอกอะไรเขาเลยซะนี่
แต่ที่ฉันทำอย่างนี้ ก็เพราะให้เขาไปส่งผู้ชายคนนั้นหรอก! แล้วทำไมเมื่อกี้นี้ฉันยังเห็นเขาอีก!
ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง...
ความคิดเห็น