คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 4 แอบรัก (60%)
ตอนที่ 4
แอบรัก
“ว่าไงคุณเสร็จหรือยัง ไม่หนาวหรือไง” ธราเทพตะโกนถามเมื่อเห็นว่าเขากลับเข้ามาในห้องทำงานก็นานแล้วแต่เกล็ดแก้วยังไม่ออกจากห้องน้ำเลย ตอนแรกก็คิดว่าหญิงสาวอาจจะใช้ช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่หนีไป แต่เสียงน้ำที่ตกกระทบกับพื้นกระเบื้องหินอ่อนและเสียงบ่นพำพำอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยก็ผสานดังออกมาเป็นระรอก
“แล้วนายมายุ่งอะไรกับชีวิตฉันอีกละนายเทพ อยากทำอะไรก็ทำไปซิ หรือไม่ถ้าว่างมากนักพาเอาไอ้หัวหยิกๆ หย็อยๆ เหมือนฝอยขัดหม้อ และร่างใหญ่ยังกับยักษ์และดำเหมือนถ่านของนายไปให้ไกลๆ เลยยิ่งดี คนยิ่งเหนื่อยและคันอยู่” เกล็ดแก้วตะโกนตอบมือก็ล้างคราบสบู่ออกจากกายอีกครั้ง
หญิงสาวยกแขนขึ้นดมดอมดูว่ากลิ่นสาบๆ เหม็นของดินโคลนที่เปื้อนอยู่บนผิวกายนั้นหลุดหายไปหมดหรือยัง แล้วพวงหน้าอิ่มเต็มด้วยเลือดฝาดก็แย้มยิ้ม เมื่อกลิ่นสาบๆ ที่ติดอยู่ได้หายไปหมดแล้วเหลือเพียงแค่กลิ่นสบู่หอมๆ เท่านั้น
แต่พอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องน้ำใบหน้าที่เคยมีรอยยิ้มก็หุบลงทันควันและพาลโกรธเคืองไปถึงคนที่อยู่ข้างนอก แล้วนี่จะออกไปจากห้องน้ำได้ยังไงกัน ในเมื่อเสื้อผ้าก็ไม่มีติดตัวสักชิ้น จะใช้เสื้อผ้าชุดเดิมที่ตัวเสื้อและกางเกงและชิ้นเล็กอีกชิ้นก็มาจากพ่อตัวดีที่ยืนอยู่ข้างนอกนั่น ส่วนบราก็ได้มาจากหญิงชราร่างเล็ก ร่างโปร่งบ่างย่อตัวลงจับเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นแล้วก็แบะหน้า เมื่อเห็นราบสีเขียวๆ ดำๆ ติดอยู่เต็มไปหมด
“เสร็จหรือยังคุณ” ธราเทพตะโกนถามอีกครั้ง
“เสร็จแล้ว”
“งั้นก็ออกมาได้แล้วซิ”
“ออกไปกับผีอะไรละ จะให้ฉันเดินเหมือนชีเปลือยออกไปให้นายดูหรือไงตาบ้า พูดออกมาได้ไม่คิด”
“อ้าว...พูดแบบนี้เดี๋ยวก็ให้เสื้อผ้าซะเลย”
เกล็ดแก้วหูผึ่งเมือได้ยินคำว่าเสื้อผ้า “งั้นก็ส่งมาเร็วๆ ซิ ฉันได้ใส่และออกไปจากห้องน้ำนี่เสียที หนาวจะตายอยู่แล้วนะ”
“ถ้าอยากได้ก็เปิดประตูออกมาเอาซิ ผมใส่ตะกร้าวางไว้ให้หน้าห้องน้ำนั่นแล้วไง” ธราเทพเอ่ยบอกพร้อมกับร่างหนาใหญ่ยืนอินผนังห้องห่างจากประตูห้องน้ำเสียงแค่ก้าวเดียว ปลายนิ้วมือใหญ่ล้อเล่นกับดินสอแท่งยาวที่หยิบมาจากโต๊ะทำงาน ดวงตาคมกริบไม่ห่างจากประตูห้องน้ำแม้เพียงนิดเดียว แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเดินไปนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานแทน เมื่อเห็นว่าการกระทำแบบนั้นมันไม่เป็นสุภาพบุรุษสักเท่าไหร่ แค่ที่ทำมาหลายต่อหลายอย่างก็เหมือนกับเป็นการเอาเปรียบคนที่ด้อยกว่ามากอยู่แล้ว
สองมือเรียวยกขึ้นกอดอก เท้าเล็กเรียวพาร่างโปร่งเดินวนไปเวียนมา สมองก็ครุ่นคิดประมวลเหตุการณ์ถึงผลได้ผลเสีย ไม่รู้ซิ..มันเหมือนมีอะไรมาสะกิดที่หัวใจให้รู้สึกตะขิดตะขวงใจกับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ของชายหนุ่ม มันจะต้องมีอะไรสักอย่าง ซึ่งดูแล้วเธอน่าจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเหมือนกับทุกช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ยอมรับว่าแรงผู้หญิงนะสู้ผู้ชายไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถึงไม่ใช่แรงกายแต่เป็นพลังสมองหรืออะไรก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เธอพ่ายแพ้อีตากำนันบ้านนอกไปเสียทุกอย่าง คิดแล้วมันเจ็บใจชะมัด ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เอาคืนสักที
เกล็ดแก้วทำปากขมุบขมิบ ดวงตาจับจ้องไปที่ประตูพร้อมกับผ่อนลมหายใจเข้าออกแรงๆ และตัดสินใจพาร่างเดินไปยืนชิดกับฝาผนังในฝั่งที่เมื่อร่างโปร่งย่อตัวลงนั่งยองๆ มือเล็กสามารถยืดขึ้นไปกดล็อกประตูให้เปิดและรีบดึงเอาตะกร้าผ้าเข้ามาภายในห้องอย่างรวดเร็ว
เกล็ดแก้วหยิบผ้าขนหนูมาซับหยดน้ำตามเนื้อตามตัวแล้วดวงตากลมโตก็ต้องเบิกกว้าง น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นคลอเบ้า ริมฝีปากอวบอิ่มอ้าออกและเกือบจะส่งเสียงร้องอยู่แล้วแต่ก็รีบยกมือมาปิดเอาไว้ได้ทัน เพราะไม่เช่นนั้นคนที่อยู่ข้างนอกคงจะต้องรีบผลักประตูเข้ามาทันที และไอ้ประตูพลาสติกที่มีแค่ออกแรงผลักสักครั้งสองครั้งเดี๋ยวล็อกมันก็หลุดออก
ดวงตากลมโตไล่มองไปตามแขนและขาอย่างเชื่องช้าอย่างเจ็บปวด พร้อมกับปลายนิ้วเล็กๆ ที่แตะลงไปบนรอยแผลแดงและผิวหนังส่วนที่ถลอก พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลอาบสองแก้ม ริมฝีปากขบเม้มสะกดกลั้นเสียงร้องไม่ให้หลุดรอดออกมา ความคิดเริ่มที่จะหมุนวนไปหาคำถามว่า เธอไปทำให้อะไรให้ธราเทพโกรธนักหนา เขาถึงได้ทำร้ายเธอทั้งร่างกายและจิตใจแบบนี้
“นี่คุณ จะนอนเฝ้าห้องสวมหรือไง ผมก็ปวดท้องเป็นนะ” ธราเทพตะโกนถามไปอย่างเป็นห่วง เมื่อครู่ถึงแม้จะไม่ได้ดูอย่างชัดเจนแต่ก็เห็นรอยแดงและถลอกบนแขนเรียวอย่างชัดเจน ป่านนี้เจ้าตัวคงจะเห็นและก็กำลังตกใจอยู่แน่เลย ร่างสูงผุดลุกจากเก้าอี้ตัวใหญ่ตรงไปยืนอยู่หน้าห้องน้ำ
“ไพลิน เป็นยังไงบ้าง โอเคไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามน้ำเสียงออกจะนุ่มนวลและเป็นห่วงเป็นใย นี่ถ้าพ่อแม่เกล็ดแก้วรู้ว่าลูกสาวถูกทรมานแบบนี้ มีหวังจะต้องเอาตำรวจมาลากคอเขาเข้าตะรางแน่นอน แต่ตอนนี้หายกังวลไปได้ช่วงหนึ่งละ เพราะพ่อแม่เกล็ดแก้วอยู่ต่างประเทศ และเท่าที่การันต์ส่งข้อมูลมาให้นั้น เกล็ดแก้วไม่ค่อยจะคุยโทรศัพท์กับพ่อและแม่สักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะพูดคุยกันตามงานเลี้ยงเสียมากกว่า นี่แหละหน้าคนกรุงไม่ค่อยจะมีเวลาให้กับครอบครัว แต่มีเวลาให้กับเด็กสาวที่รับเลี้ยง
“ปะ...เปล่า ไม่เป็นอะไร” เกล็ดแก้วตอบกลับเสียงเบาหวิว พร้อมกับลงมือหยิบเสื้อผ้ามาใส่แล้วต้องเบะหน้า เมื่อเห็นเสื้อตัวใหญ่ยักษ์ แขนเสื้อยาวเลยข้อมือเกือบจะห้านิ้ว ด้านล่างก็ยาวเลยลงไปเกือบจะถึงเข่า กางเกงคงไม่ต้องพูดถึงมันคงเหมือนกับเจ้าชายตอนถูกสาบให้เป็นกบแหละ
แต่ถึงจะคิดไปแบบนั้นเกล็ดแก้วก็รู้ดีว่าเธอยังต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่ธราเทพเอามาให้ เลยรีบพับแขนเสื้อและขากางเกงเอาไว้ก่อนเพื่อกันเสื้อผ้าเปียกน้ำและความรุ่มร่ามที่จะเกิดขึ้น แต่ถึงจะทำอย่างนั้นแล้วทั้งแขนเสื้อและขากางเกงก็ยังยาวเลยมือและกรอมเท้าอยู่ดี แล้วเวลาที่ขยับตัวก้าวเดินบาดแผลที่เกิดขึ้นเสียดสีกับเสื้อผ้าจนรู้สึกคันและแสบร้อนจนอยากจะเอามือไปจับต้องและลงแรงเพื่อระบายความคันออก แต่ก็รู้ดีว่าถ้าทำตามความต้องการนั้นรอยแผลที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งเปิดกว้างมากขึ้น
“เข้าไปทำอะไรนานนักฮะไพลิน ไม่รู้หรือไงว่าทำให้คนอื่นเข้าเป็นห่วงนะ” มือใหญ่คว้าแขนเรียวและพาไปนั่งยังเก้าอี้ไม้ตัวยาวที่เคยใช้แทนตั่งเตียงนอนในยามไม่สบาย ง่วงงุน หรือว่าเหน็ดเหนื่อยจากหน้าที่การงาน
“โอ๊ย!...ฉันเจ็บนะตาบ้า กดลงมาได้แขนคนนะไม่ใช่เหล็ก” เกล็ดแก้วร้องเสียงดังลั่น เมื่อมือใหญ่กดลงไปบนแขนที่มีบาดแผลเป็นทางยาว มือเล็กรีบแกะมือใหญ่ออกจากแขน แต่ดูเหมือนว่าคนที่ได้ยินเสียงร้องก็รีบคลายมือออกแต่ไม่ยอมปล่อยยังคงลากไปจนถึงจุดหมายปลายทาง
“ยังคันอยู่อีกไหมไพลิน”
เกล็ดแก้วอยากจะบอกเหลือเกินว่าเธอไม่ใช่ไพลิน แต่ตอนนี้เธอเหนื่อยกับอาการคันคะเยอและเหนื่อยที่ต้องสู้รบกับคนที่มีอีโก้สูงเลยสงบปากสงบคำเอาไว้ ดวงตาก็มองตามือใหญ่ที่ยื่นไปบีบยาหลอดเล็กและกลับมาเลิกแขนเสื้อที่เธอใส่จนเห็นแผลสีแดงมีน้ำสีขาวปนแดงไหลซึมออกมาพอติดกับผิวหนังแล้วน้ำตาอุ่นร้อนก็เอ่อล้นคล้อเบา เสียงครางเบาๆ ดังจากริมฝีปากอวบอิ่มเมื่อมือใหญ่ป้ายเนื้อยาแตะซับลงไปบนบาดแผล
“เจ็บมากเหรอไพลิน ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวทายานี่ก็จะดีขึ้นแล้วละ” ธราเทพบอกเสียงนุ่ม ปลายนิ้วยาวพยายามลดแรงกดลงบนบาดแผลอย่างที่คิดว่าเบามือที่สุด
เกล็ดแก้วมองตาม หัวใจรู้สึกอบอุ่นกับความนุ่มนวลและอ่อนโยนที่ได้รับ ดวงตากลมโตมองตามปลายนิ้วยาวใหญ่ที่ไล่ทายาทั้งแขนและขาจนหมดทุกแห่ง พร้อมกับน้ำตาอุ่นร้อนที่เอ่อล้นหน่วยตาอยู่ไหลอาบสองแก้มอย่างสะกดกลั้นเอาไว้ไม่ได้
“นอกจากแขนและขาแล้วยังมีแผลตรงอื่นอีกไหมไพลิน อ้าว...เป็นอะไรนะ ร้องไห้ทำไม ผมทำเจ็บเหรอ ขอโทษนะ...” สองแขนใหญ่โอบรอบลำตัวโปร่งบางดึงรั้งร่างที่กำลังสะอื้นไม่มีเสียงมากอดแนบอก มือใหญ่ลูบไล้ศีรษะทุยอย่างต้องการปลอบประโลมและรู้สึกผิด เป็นเพราะเขาเองที่อุตริคิดให้หญิงสาวหัดทำงานเป็น แต่กลับกลายเป็นว่าเกล็ดแก้วต้องมาเจ็บตัวและร้องไห้
มือใหญ่ดันร่างโปร่งออกห่าง ใบหน้าคมคร้ามแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม ปลายนิ้วยาวใหญ่กดซับน้ำตาบนใบหน้าให้อย่างอ่อนโยน “ไม่เจ็บแล้วนะไพลิน อีกเดี๋ยวมันก็หาย” ชายหนุ่มปลอบประโลมอีกครั้งอย่างกับว่าเกล็ดแก้วเป็นเหมือนเด็กตัวน้อยที่ต้องการคนเอาใจใส่
“บ้า...ใครว่าฉันร้องเพราะเจ็บกันละ” เกล็ดแก้วสะบัดค้อนให้ชายหนุ่มวงโตด้วยความอายที่กลับกลายมาเป็นสาวเจ้าน้ำตาในอ้อมกอดของศัตรู มือเล็กรีบแกะมือใหญ่เพื่อจะขยับตัวออกไปนั่งให้ไกลๆ ด้วยเพราะตอนนี้หัวใจมันก็เริ่มที่จะเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกจากทรวงแล้ว เลยกลัวว่าชายหนุ่มจะได้ยินและล่วงรู้ความรู้สึกแปลกๆ ที่มันก่อกำเนิดในหัวใจอย่างช้าๆ
“พี่เทพคะ...อุ้ย!! ขอโทษคะ ไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอยู่ด้วย” มือเรียวยกขึ้นลูบอกเบา ดวงตากลมโตมีน้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นคลอเบ้าอย่างรวดเร็วจนต้องหลบลงมองพื้น พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลอาบสองแก้มจนต้องรีบยกมือขึ้นปาดอย่างรวดเร็วด้วยความเจ็บปวด เมื่อเห็นว่าในอ้อมแขนใหญ่ที่เคยฝันว่าจะได้เข้าไปซบอิงและขอไออุ่น มีสาวน้อยแสนสวยราวกับนางฟ้าซุกอยู่
“นุ่มขอโทษด้วยนะคะพี่เทพที่ถะเล่อถะล่าเข้ามาก่อนได้รับอนุญาต” จิตรเลขาพูดเสียงเบาหวิวและแหบเครือจนสองหนุ่มสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวยาวและอยู่ไม่ไกลยังแทบจะไม่ได้ยิน
“ไม่เป็นไรหรอกนุ่ม ว่าแต่เรามาหาพี่มีธุระอะไรหรือเปล่า” ธราเทพเอ่ยถามอย่างเป็นการเป็นงาน เพราะคิดว่าหญิงสาวอาจนำเรื่องงานที่ได้ร่วมมือกันไว้มาปรึกษา
เขาร่วมมือกับจิตรเลขาสอนให้นักเรียนได้รู้จักการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่จำกัดให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ด้วยการเกษตรทฤษฎีใหม่ การผสมผสานระหว่างการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น รวมถึงงดใช้สารเคมีทุกชนิด เพื่อใช้ทำประกอบอาหารกลางวันให้นักเรียนในโรงเรียนได้รับประทาน และถ้ามากพอก็จะนำส่งขายตามท้องตลาด นำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งมาเป็นเงินออมไว้ใช้จ่ายยามจำเป็นและอีกส่วนก็มอบให้กับนักเรียนนำกลับไปช่วยเหลือพ่อแม่
“ปะ...เปล่าคะ” จิตรเลขาตอบกลับเสียงเบา ใบหน้านวลผ่องหลบมองพื้นห้องด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
ใครจะกล้าบอกไปละว่าลูกศิษย์ตัวน้อยวิ่งไปป่าวประกาศเสียงดังลั่น ตั้งแต่หัวหมู่บ้านยันท้ายหมู่บ้านว่าลุงกำนันพาผู้หญิงมาด้วยและยังพูดว่าเป็นเมียอีก และยังชมว่าหน้าตาสวยเหมือนกับนางสาวไทย เธอเลยอยากมาดูหน้าผู้หญิงที่ทำให้ชายหนุ่มที่เป็นที่หมายปองของสาวๆ ในหมู่บ้านและเกือบจะทั้งอำเภอ ด้วยเพราะใบหน้าอันหล่อเหล่า คมเข้มเหมือนกับพระเอกหนังไทย รวมถึงเรือนกายกำยำบึกบึน ยามที่ชายหนุ่มถอดเสื้อออกมาก็จะเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ อีกทั้งยังเอาการเอางาน เหล้ายาไม่แตะถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
เกล็ดแก้วค่อยๆ หันมองตามเสียงหวานนุ่มที่ได้ยินแล้วก็ต้องแอบอิจฉาอยู่ในใจ เมื่อเจอกับช้างเผือกกลางท้องทุ่งนา เพราะสาวน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนั้นมีรูปร่างบอบบางและสมส่วน อกได้รูปรับกับเอวเล็กคอดและสะโพกผายพองาม อีกทั้งผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนน่าลูบไล้ เสียดายว่าไม่ได้เห็นใบหน้าชัดเจน เพราะหญิงสาวที่ยืนนิ่งเหมือนกับหุ่นเอาแต่หลบสายตาก้มลงมองพื้นหินอ่อน
“ใครนะนายกำนัน” เกล็ดแก้วถามเสียงเรียบเฉย เก็บอารมณ์โกรธเกรี้ยวและโกรธแค้นธราเทพเอาไว้ในอกอย่างมิดชิด เมื่อตอนเช้าที่เธออาละวาดใส่ชายหนุ่มและแม่ของเขานั้นเป็นเพราะเธอยังตกใจและยังตั้งสติกับความเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาอย่างกะทันหันไม่ได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเริ่มกลับเข้าที่เข้าทางแล้ว เธอจึงดึงเอาความนิสัยเงียบและเฉยชา ดวงตาที่มองไล่อย่างเชื่องช้าและจดจำรายละเอียดทุกอย่างใส่สมองเอาไว้ประมวลผลจนหลายคนเอ่ยทักว่าหยิ่งขึ้นมาใช้
“นั่นใครคะพี่เทพ?” ถึงแม้จะรู้มาเลาๆ และมั่นใจว่าใช่ แต่จิตรเลขาก็ยังอยากถามให้แน่ใจ
น้ำเสียงหวานปนเศร้าและน้อยใจและเบาหวิวที่ดังมาจากริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ เรียกความสนใจเกล็ดแก้วได้เป็นอย่างดี ใบหน้าขาวนวลสวยขยับโยกย้ายไปมา ดวงตากลมโตหลุกหลิก ความคิดเริ่มสะดุดและคันยิบๆ เหมือนกับมีใครเอาขนไก่มาแหย่ที่หัวใจ สัญชาติญาณของความเป็นหญิงบอกว่า ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีความรู้สึกพิเศษๆ ให้กับนายกำนันตัวร้ายที่ชอบรังแกเธอ
แล้วความรู้สึกแปลกๆ ก็เริ่มห้อมล้อมหัวใจ รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจะจมดิ่งลงไปในน้ำเย็น ถูกอากาศและแรงดันของน้ำอัดแน่นรอบทิศ จนเจ็บปวดที่ทรวงอกและหายใจติดๆ ขัดๆ เกล็ดแก้วถึงกับงงและแปลกใจกับความรู้สึกของตัวเอง มันเหมือนกับว่าเธอนั้นกำลังสนใจธราเทพและรู้สึกหวาดกลัวและเป็นกังวลเมื่อชายหนุ่มเองก็มีเสน่ห์จนหญิงสาวที่ทั้งสวยและน่ารักมาแอบรักแอบชอบ ถึงตอนนี้ธราเทพอาจไม่รู้ตัวว่าผู้หญิงที่แทนตัวเองว่านิ่มนั้นชอบ แต่ถ้าเมื่อไหร่ชายหนุ่มรู้ตัวก็จะต้องหันไปมองแน่ ใครบ้างที่จะไม่ชอบสาวสวย น่ารักและบอบบางน่าถะนุถนอมนะ
สองมือเล็กค่อยขยำกำหมัดด้วยความโกรธตัวเอง ใช่ว่าตัวเธอจะไม่มีคนจีบเสียหน่อย เพราะตอนอยู่ที่บ้านก็มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ทั้งที่โสดและไม่โสดแวะเวียนมาแจกขนมจีบจนหัวบันไดบ้านไม่แห้งแล้ว และยังมีคุณหมอหนุ่มทินภัทร ปันจะโยภาสกุล ดร.เตอร์หนุ่มตามติดพันแบบเช้าถึงเย็นถึง แต่ไม่เคยเลยที่เธอจะรู้สึกแบบนี้กับใคร แล้วตากำนันบ้านนอกนี่เป็นใคร ทำไมถึงมาทำให้หัวใจอันอ่อนโยนแต่แข็งแกร่งและห้อมล้อมด้วยเกราะหนาปริแตกได้
ใบหน้าขาวนวลขบเม้มเข้าหากันอย่างขัดหูขัดตา และที่สำคัญคือขัดใจ มันน่าจะซัดด้วยกำปั้นสักตุ๊บสองตุ๊บให้รู้สึกตัวซะบ้าง ดูซิมองตากันอยู่นั่นแหละ ไม่กลัวมดจะหามหรือไงยะ...เมื่อเล่นงานชายหนุ่มด้วยคำพูดไม่ได้ มือเล็กเรียวก็ค่อยๆ ขยับไปหาร่างใหญ่ และทั้งที่ใบหน้ายังคงเปื้อนรอยยิ้ม แต่ปลายนิ้วเล็กๆ กลับหยิบเอาหนังหนาๆ มาเพียงเล็กน้อยและบิดอย่างเชื่องช้าแต่เน้นน้ำหนักที่ทุ่มลงไป
ธราเทพสะดุ้งตวัดสายตามองแม่ตัวแสบที่ยังคงยิ้มหน้าตาระรื่นอยู่ใกล้ๆ อยากจะเอาคืนด้วยการดึงใบหน้าแดงๆ มาจูบสักฟอดแต่เกรงใจคนที่โดนหนักจนคืนนี้ยังกลัวว่าหญิงสาวอาจไข้ขึ้นก็ได้ เพราะผิวกายบางๆ แบบฉลับลูกคุณหนูที่ไม่เคยเอาฝ่าเท้ามาเยียบย่างบนพื้นดินโคลนบ้านนอก แล้วก็อายจิตรเลขาที่ยืนมองมานัยน์ตาบ๋องแบ๋วและเทิดทูนเหมือนกับเขาเป็นวีระบุรุษยังงั้นแหละ ทำเอาเขาถึงกับใจแข็งผลักไล่ไสส่งให้กลับเหมือนกับสาวอื่นที่ตามรังควาญยามตอนที่กำลังทำงานอยู่ไม่ได้
“เจ็บนะคุณ” ชายหนุ่มก้มกระซิบบอกเสียงรอดไรฟัน อีกมือก็ยกไปวางทับบนมือเล็กเรียวและบีบเบาๆ แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ยอมปล่อยก็เพิ่มแรงบีบลงไปจนเกล็ดแก้วถึงกับหน้าเบ้ ตวัดสายตาเคืองขุ่นมาให้ พร้อมกับสะบัดมือออกและขยับกายออกไปนั่งเสียจนไกลในระยะที่มือใหญ่เอื้อมคว้าตัวไม่ถึง
“เข้ามาก่อนซินิ่ม มารู้จักพี่ไพลินเมียพี่” ธราเทพร้องเรียกเสียงนุ่ม ศีรษะทุยพยักหน้ารับเล็กน้อยและขยับเคลื่อนตัวเองตามไปนั่งใกล้ๆ กับเกล็ดแก้วที่พอเขานั่งลงไม่ทันจะเสร็จดี ศอกแหลมคมก็กระทุ้งเข้าที่กล้ามเนื้อหน้าท้องทำเอาจุกไปเหมือนกัน ชายหนุ่มได้แต่ฝากร้อยแค้นเอาไว้ก่อน มีโอกาสเอาคืนเมื่อไหร่จะทำให้แม่ตัวแสบตัวอ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟเลย มือใหญ่เอื้อมไปจับรั้งมือเล็กมากอบกุมเอาไว้อย่างไม่สนใจว่าหญิงสาวจะขัดขืนเพียงใด
“นิ่มนี่พี่ไพลินเมียพี่ ไพลินนั้นนิ่มหรือครูจิตรเลขา นิ่มเป็นทั้งเพื่อนบ้านของเราและก็เป็นรุ่นน้องผมด้วย” ชายหนุ่มแนะนำสองสาวให้รู้จักกัน
“สวัสดีคะพี่ไพลิน” จิตรเลขายกมือขึ้นไหว้อย่างสวยงามและชดช้อย พร้อมรอยยิ้มหวานๆ อย่างต้องการฝากเนื้อฝากตัว
ถึงแม้ว่าจะต้องเจ็บช้ำที่ได้เห็นอ้อมแขนธราเทพมีภรรยาที่ทั้งสวยและน่ารักเหมือนกับนางฟ้าครอบครอง แล้วก็รู้ตัวมาตั้งแต่ต้นว่าความรักที่มอบให้ชายหนุ่มคงไม่สมหวัง เพราะมีหญิงสาวอีกหลายคนที่คอยจ้องจะครอบครองหัวใจชายหนุ่มอยู่ และแต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่สวยและมีเงิน ผิดกับเธอที่เป็นเพียงครูอัตราจ้างเงินเดือนน้อยนิด ทรัพย์สินที่ทางก็ไม่ พ่อแม่ก็ไม่ได้เป็นข้าราชการใหญ่โต และด้วยพื้นนิสัยที่อ่อนโยนจนกลายเป็นอ่อนแอ และความมีมนุษย์สัมพันธ์อันดีก็ทำให้คุณครูสาวตอบรับเพื่อนใหม่ได้อย่างไม่อิจฉาริษยา เพราะเธอจะมีความสุขถ้าคนที่รักมีความสุข
ร้อยยิ้มหวานอย่างฝากเนื้อฝากตัวที่มาจากวงหน้านวลผ่อง ทำเอาเกล็ดแก้วที่เชิดขึ้นสูงด้วยไม่อยากทำความรู้จักให้ความสนใจและเสวนาด้วยถึงกับอายแก่ใจตัวเอง แล้วหญิงสาวก็โยนความผิดให้กับหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ๆ และตวัดค้อนส่งให้คนร่างใหญ่ไปครั้งหนึ่ง ก่อนจะผันสายตากลับมามองหญิงสาวที่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่เบื้องหน้า
เครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มรูปไข่ ดวงตากลมโตเหมือนกับดวงตากวางน้อยล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอน คิ้วสวยเหมือนวงพระจันทร์ จมูกเล็กและโด่งได้สันรับกับริมฝีปากเล็กรูปกระจับเป็นสีชมพูระเรื่อโดยไม่ต้องพึ่งลิปสติก ถ้าอยู่เฉยๆ ไม่ยิ้มแย้มแจ่มใสจะดูอมโศกเล็กน้อย แต่ถ้ายิ้มเมื่อไหร่ก็เหมือนกับเปิดโลกให้สว่างสดใสเล่นเอาหัวใจสาวกระตุกและรีบหันมองหน้าคมคร้ามของธราเทพที่เลิกคิ้วมองอย่างสงสัย อีตานี่ถ้าไม่ตาถั่วก็คงถึงขั้นบอด ถึงได้มองไม่เห็นว่ามีคนน่ารักนิสัยดีแอบชอบอยู่ใกล้ตัวถึงขนาดนี้นะ
“มีอะไรหรือเปล่าไพลิน?” คิ้วคมเข้มขมวดมุ่นเข้ากัน
ความคิดเห็น