คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 5 คนที่แอบรัก
ตอนที่ 5
“ทิชาครับ น้องทิชาอยู่ไหนลูก”
“น้องทิชาขา น้องทิชาอยู่ไหนลูกมาหาน้านนท์เร้วคนดี” ทิชานนท์ป้องปากร้องตะโกนหาหลานรักด้วยความเป็นห่วง
ราวกับพระมาโปรด ขนิษฐามองไปเบื้องหน้าไกลๆ หนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังร้องเรียกหาใครบางคนอยู่ และถ้าเธอเข้าใจไม่ผิดก็น่าจะเป็นเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนเธอนี่แหละ “หนูชื่อทิชาหรือลูก แล้วนั่นใครกำลังเรียกหนูหรือเปล่าคะ”
เด็กหญิงทิชากรเงยหน้าจากอกอุ่นๆ แล้วเมินหน้าหนีเมื่อเห็นว่าบิดาเดินมากับใคร ศีรษะทุยส่ายแรงๆ “พ่อมากับน้าแม่มดใจร้าย”
“ไม่เอาค่ะคนเก่ง ไม่ว่าคุณน้านะคะ ยังไงตอนนี้หนูควรตะโกนบอกพ่อไปน่ะลูก หนูทำให้พ่อเป็นห่วงแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ ไม่น่ารักด้วย” ขนิษฐาพูดจาปลอบโยนเสียงนุ่มนวล เพราะครอบครัวของเธอมีปัญหา มันเลยทำให้เธอรับรู้ว่าเด็กหญิงในอ้อมกอดคนนี้ก็มีปัญหาเช่นกัน และก็ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเด็กหญิงจะต้องมีปัญหากับบิดา และผู้หญิงอีกคนที่วิ่งหาอยู่จ้าละหวั่นคนนั้นแน่นอน
ทิชากรเงยหน้ามองขนิษฐาและพยักหน้ารับ มือป้อมๆ ยกขึ้นโบกเบาๆ ปากก็ร้องตะโกนบอกบิดาว่าเธออยู่ตรงไหน “พ่อขาทิชาอยู่นี่” เสร็จแล้วเด็กหญิงก็รีบซุกหาไออุ่นจากอ้อมกอดของขนิษฐาต่อไป อย่างไม่สนใจคนที่มาใหม่
“ทิชาหนูหายไปไหมมาลูก หนูรู้ไหมน้านนท์กับพ่อเป็นห่วง” มาถึงหญิงสาวที่เรียกตัวเองว่านนท์ก็รีบต่อว่าเด็กหญิงใหญ่เลย แต่ไม่ใช่เพราะความรังเกียจรังงอน ขนิษฐารับความรู้สึกรักใคร่ห่วงใยและปรารถนาดีในน้ำเสียงนั้นได้ดี
“แล้วหนูไปทำอะไรมาลูก ทำไมเปียกแบบนี้ แล้วนั่นหนูกำลังกอดใครลูก ไว้ใจได้...” ทิชานนท์หยุดพูดเมื่อมือใหญ่ของพี่เขยแตะที่แขน
“ผมต้องขอโทษคุณแทนนนท์กับน้องทิชาด้วยนะครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้ผมขอตัวลูกสาวผมคืนได้ไหมครับ” ภัทรพลยื่นมือไปหาทิชากรแต่เด็กหญิงกลับส่ายศีรษะ และซุกตัวอยู่แนบอกขนิษฐา วงหน้าเด็กหน้าขาวใส ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่ทิชานนท์แล้วเมินหน้าหนี
ขนิษฐายิ้มแหยๆ ให้กับสองหนุ่มสาว ที่กำลังพยายามเรียกและดึงตัวเด็กหญิงกลับ แต่แทนที่เด็กหญิงจะรีบกลับไปหาบิดา ทิชากรกลับกอดเธอแน่นกว่าเดิมเสียอีก และไม่เพียงแค่นั้นเด็กหญิงยังผันหน้าไปหาทิชานนท์แลบลิ้นใส่ให้อยู่สองสามครั้ง ก่อนจะซุกหน้ากับอกอุ่นๆ ของขนิษฐาต่อไปอย่างไม่ไหวติง
“เอ่อ...ฉันขอโทษแทนหลานด้วยนะคะคุณ” ทิชานนท์กล่าวขอโทษ ใบหน้าหญิงสาวเสียเล็กน้อย แต่ในใจกลับนึกสงสัยว่าทำไมทิชากรถึงได้กอดหญิงสาวแนบแน่นขนานนั้น ทีกับเธอเด็กหญิงมักมีท่าทางรังเกียจรังงอนและวิ่งหนีเป็นประจำ บางทีก็มีการแอบทำร้ายร่างกายด้วยซ้ำ
“น้องทิชาขามาหาน้ากับพ่อเร็วลูก เราจะได้กลับบ้านกันไงคะ” มือเรียวยื่นไปหวังได้ตัวเด็กหญิง แต่กลับต้องชะงัก เพราะนอกจากทิชากรจะแสดงท่าทางรังเกียจแล้ว แขนป้อมโอบแขนรอบหญิงสาวที่นั่งยิ้มแหยๆ อยู่แน่นเข้าไปอีก
“ไม่เอา ทิชาไม่กลับ น้านนท์อย่ามายุ่ง”
“เอ่อ...ขอโทษนะคะคุณ” ขนิษฐาพยายามแกะมือป้อมๆ ออกจากกายอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเด็กหญิงมีคนที่รักมารอรับอยู่แล้ว แต่เมื่อยังแกะไม่ออกก็เลยปล่อยตามเลย และหันไปทำความรู้จักกับคนที่มาใหม่แทน เพื่อจะได้หาทางตะล่อมทิชากรกลับไปกับสองคนที่มาใหม่ง่ายขึ้น ก่อนที่เธอจะงานเข้าไปมากกว่านี้
“ฉันชื่อขนิษฐา จะเรียกว่ากวางก็ได้คะ ฉันช่วยน้องทิชาขึ้นมาจากทะเล”
“ตายแล้ว!!! ทิชาน้านนท์บอกแล้วไงลูก ที่หลังอย่ามาเล่นน้ำทะเลคนเดียว มันอันตรายรู้ไหมคะ ถ้าเกิดพี่กวางเขาไม่ผ่านมาเห็นเข้า แล้วหนูจะเป็นไงละลูก” ทิชานนท์พูดรัวเร็ว มือเรียวยื่นไปหาทิชากรแต่ก็เหมือนเดิม คือเด็กหญิงไม่ยอมรับรู้ความรักและหวังดีที่มีให้ แล้วยังปัดมือนั้นทิ้งไป
“ผมต้องขอโทษแทนลูกและก็น้องสาวด้วยนะครับคุณกวาง และต้องขอบคุณเป็นอย่างมากที่คุณกวางช่วยเหลือลูกสาวผม” ภัทรพลยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู แล้วก็สงสัยว่าที่ทางแถวนี้ค่อนข้างเปลี่ยว หญิงสาวน่าตาน่ารักคนนี้มาทำอะไรที่นี่คนเดียว
“ไม่เป็นไรคะ” ขนิษฐายิ้มให้กับคนตรงหน้า รู้สึกอบอุ่นยามที่ได้พูดคุยได้อยู่ใกล้ ไม่ร้อนรุ่มเหมือนตอนที่อยู่กับโมกข์ “แล้วคุณก็ไม่ต้องเรียกกวางว่าคุณหรอกคะ มันฟังดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้”
เด็กหญิงทิชากรละใบหน้าจากอกอุ่นๆ ของขนิษฐาหันมอง เมื่อเห็นว่าตอนนี้คนที่คุยอยู่กับพี่สาวคนสวยนั้นคือบิดา ใบหน้าป้อมๆ ดวงตากลมเป็นประกายสุกใสเปล่งประกายขึ้น มือป้อมๆ ยื่นออกไปจับมือบิดา ก่อนที่จะหันหน้าไปหาทิชานนท์อยู่ตอนนี้ถอยห่างออกไปยืนห่างๆ
“พ่อขาทิชากลัว” เด็กหญิงโผตัวเข้ากอดบิดา แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมืออีกข้างจากขนิษฐา
ทิชานนท์เห็นแล้วถึงกับเจ็บแปลบ เธอหรือทั้งรักใคร่และพยายามเอาใจเด็กหญิงมาตลอดตั้งแต่พี่สาวคือทิชานันท์เสียชีวิตไป แต่ก็ไม่เคยจะได้เข้าใกล้เด็กหญิงเลย ส่วนพี่เขยก็ไม่เคยรับความรู้สึกที่เธอส่งไปให้ และไม่เคยแสดงออกให้รู้ว่ามีความรู้สึกยังไรกับเธอ
แต่มาในตอนนี้ภาพที่อยู่ตรงหน้าเป็นเหมือนมีดกรีดลงตรงกลางใจ น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นคล้อเบ้าจนต้องรีบแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า เพื่อไม่ให้น้ำตามันไหลอาบลงมาให้ทุกคนในที่นี้ได้เห็น สามปีที่เธอไม่เคยมองผู้ชายคนอื่น เพราะผูกใจรักใคร่พี่เขยแสนดี แต่มาในวันนี้เธอก็คงต้องมองใหม่แล้ว
ภาพใบหน้าภัทรพลยิ้มให้ขนิษฐา แล้วไหนจะแขนเล็กๆ ที่เกี่ยวพวกเขาสองคนไว้ด้วยกันอีกเล่า ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะไม่คิดอะไรกัน แต่เธอก็คงต้องทำใจและยอมรับความเป็นจริง ไม่มีวันที่เธอจะเข้าไปแทรกระหว่างชีวิตของพี่เขยและทิชากรที่ทั้งรักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างดี รวมถึงเธอก็ควรเปิดโอกาสให้กับตัวเองและชายหนุ่มหลายคนที่แวะเวียนมามอบขนมจีบให้
“พ่อขา แม่จ๋า...”
“ขนิษฐา”
เสียงห้าวแข็งและดุร้ายดังมาจากด้านหลังของร่าง ขนิษฐาค่อยๆ หันไปมอง ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่ซีดเผือดลงอย่างรวดเร็ว มือเรียวปลดมือทิชากรออกจากลำคออย่างรวดเร็ว และเด็กหญิงก็รับรู้ถึงความน่ากลัวจากชายหนุ่มได้ดี แขนป้อมๆ ปล่อยมือจากลำคอระหงหันไปโอบรอบคอของบิดาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าป้อมซบกับบ่ากว้าง แต่ยังช้อนสายตามองผู้มาใหม่ด้วยความอยากรู้
“คุณโมกข์”
“เธอมาทำอะไรที่นี่คนเดียวแม่ตัวประกอบ แล้วนั่นใคร” โมกข์เอ่ยถามเสียงเครียด ตวัดสายตาคมมองไปยังสามร่างที่อยู่ใกล้ๆ กัน
เขาตื่นจากนิทราแล้วเห็นหญิงสาวไม่อยู่ในห้องก็เป็นห่วง เรื่องที่เธอจะหนีไปนั้นตัดไปได้เลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้มั่นใจมากนักว่าขนิษฐาจะไม่หนีจนกว่าเขาจะบอกเองว่าไม่ต้องการ นั่นแหละขนิษฐาถึงจะไปจากชีวิตเขา
จึงคิดได้ทางเดียวหญิงสาวน่าจะออกไปเล่นน้ำทะเล แต่พอมองในทะเลหน้าห้องพักแล้วไม่เห็น ก็เป็นห่วงกลัวว่าหญิงสาวจะได้รับอันตรายเลยต้องรีบออกตามหา แต่อะไรได้ยัยแม่ตัวประกอบตัวแสบกลับมานั่งยิ้มให้กับผู้ชายอีกคน เห็นแล้วมันแปลบขึ้นมาในหัวใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
แล้วพอมาถึงเขายังได้ยินยัยเด็กร่างอวบนั้นเรียกว่าแม่อีก มือใหญ่กำหมัดแน่น กรามหนาบดเบียดจนมันนูนเด่นขึ้นมา ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์และแดงก่ำ
ขนิษฐาสบสายตากับชายหนุ่มแล้วก็สั่นสะท้าน กลับไปถึงห้องนี่เธอต้องโดนลงโทษแน่ แต่เมื่อคิดในแง่ดีการลงโทษของโมกข์คือการมอบความสุขให้กับตัวเอง ใบหน้าขาวมีรอยยิ้มหวานเชื่อมและเห่อแดงขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ชายหนุ่มได้ฟังด้วยน้ำเสียงหวานเชื่อม
“คุณโมกข์ขานี่น้องทิชาค่ะ กวางช่วยน้องเขาจากทะเล”
“แล้วไง” ชายหนุ่มถามกลับน้ำเสียงเหมือนมะนาวไม่มีน้ำ มือใหญ่ยื่นไปจับแขนเรียวยาวเข้ามาใกล้ แขนใหญ่โอบกอดรอบเอวเล็กคอดอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
“เอ่อ...ผมต้องขอโทษด้วยนะครับคุณ ลูกสาวผมตกใจมากไปหน่อย เลยเผลอทำอะไรที่ไม่ควรไป หวังว่าคุณคงจะไม่ถือสาเด็กนะครับ” ภัทรพลเอ่ยปากของโทษผู้มาใหม่ ที่ดูจะทั้งรัก หวงและห่วงหญิงสาวในอ้อมกอดเหลือเกิน เห็นแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ และมันทำให้เขานึกถึงทิชานันท์ขึ้นมา
นี่ถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุพรากหญิงสาวไปละก็ ป่านนี้เขามีครอบครัวที่สมบูรณ์และมีความสุข รวมถึงทิชากรก็คงไม่เป็นแบบนี้ ตอนนี้เด็กหญิงอายุห้าขวบกว่าจะหกขวบแล้ว ช่างจดช่างจำและรู้สึกว่าจะมีปัญหากับคนเลี้ยงอย่างทิชานนท์มากขึ้นทุกวัน
จนเขาเองก็เริ่มจะแปลกใจ จากที่เคยคิดว่าจะศึกษาหญิงสาวไปเรื่อยๆ จนถึงวันหนึ่งเขาอาจรับหญิงสาวเข้ามาในชีวิตก็เป็นไปได้ แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องมาจากเด็กน้อยในอ้อมแขนด้วยว่าจะยอมรับหญิงสาวหรือเปล่า แต่พอมาในตอนนี้ความคิดนั้นห่างไกลไปเรื่อยๆ
“ครับ สำหรับเด็กผมไม่ถือ แต่ขออย่าให้เป็นผู้ใหญ่เป็นคนทำก็แล้วกัน ผมไม่เอาไว้แน่” โมกข์พูดเสียงเรียบแต่หนักแน่น
ทิชานนท์มองดูผู้มาใหม่แล้วก็โล่งไปใจไปเปราะหนึ่ง พี่เขยคงไม่ไปแย่งผู้หญิงของคนอื่น แต่มันก็คงไม่แน่หรอก ถ้าหาหากมีตัวช่วยอย่างทิชากร ที่ดูเหมือนว่าเด็กหญิงจะติดอกติดใจหญิงสาวที่เพิ่งเจอมากกว่าเธอซึ่งเลี้ยงดูมาเกือบจะสี่ปี แล้วหน้าตาคนที่มาใหม่ก็ใช่ว่าจะขี้ริ้วขี้เหร่ซะเมื่อไหร่ กลับสวยคมขำน่ารักและน่ามอง
“คุณโมกข์คะ” ขนิษฐาเรียกชายหนุ่มอ้อนวอนขอร้อง ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ อย่างไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มโกรธเรื่องอะไร ในเมื่อเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงชั่วคราวเท่านั้นเอง
“อือ...เสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหมจะได้กลับบ้าน ฉันหิวแล้ว”
ขนิษฐาเข้าใจคำว่าหิวของชายหนุ่มดี เพราะน้ำเสียงและปลายนิ้วที่ลากไล้สะเอวเธอนั่นเอง ใบหน้าขาวสวยเห่อแดงระเรื่อขึ้นทันตา
“เดี๋ยวครับคุณ ผมขอบคุณกวางอีกครั้งนะครับที่ช่วยเหลือลูกสาวผม” ภัทรพลเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม “แล้วคุยกันมาตั้งนาน ผมยังไม่ได้แนะนำตัวให้คุณสองคนได้รู้จักเลย ผมชื่อภัทรพลครับ จะเรียกว่าภัทรก็ได้ แล้วในอ้อมแขนผมนี่ลูกสาวผมเอง ชื่อน้องทิชากร หรือทิชาครับ”
เด็กหญิงทิชากรยิ้มแป้น สองมือประนมขึ้นและไหว้ขนิษฐาอย่างฝากเนื้อฝากตัว และยังอยากเอ่ยปากเรียกหญิงสาวว่าแม่อีกสักครั้ง แต่ต้องรีบหลบหน้าลงเมื่อเจอกับสายตาคมดุของผู้ชายอีกคน
“ส่วนคนที่ยืนอยู่นั้น น้องสาวผมเองครับชื่อทิชานนท์ เรียกนนท์ก็ได้ พวกเราทำงานอยู่ที่โรงแรมใกล้ๆ นี่เองครับ ถ้ายังไงเชิญคุณสองคนไปเที่ยวบ้างน่ะครับ ผมจะได้เลี้ยงขอบคุณที่คุณกวางช่วยเหลือลูกสาวผมด้วย” ชายหนุ่มเอ่ยแนะนำตัว และเชิญชวนให้สองหนุ่มสาวไปใช้บริการ
ทิชานนท์เจ็บแปลบกับคำแนะนำตัวของพี่เขย นี่เขาไม่เคยล่วงรู้ภายในจิตใจของเธอบ้างเลยหรือไงกัน ทำไมถึงได้มองข้ามความรักที่เธอมอบให้ถึงขนาดนี้ ใบหน้าสวยฝืนยิ้มให้กับสองหนุ่มสาวที่ยืนกอดกันจนแทบจะไม่มีที่ว่างและรีบหันมองไปทางทะเลเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากขบเม้มสะกดกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาอย่างสุดความสามารถ
“ครับ” โมกข์ตอบรับสั้นๆ และบังคับขนิษฐาให้เดินตามไปที่บ้านพักอย่างไม่พอใจและโกรธกรุ่น
“เดี๋ยวซิค่ะคุณโมกข์” ขนิษฐาจับแขนแข็งแรงและหันยิ้มให้กับทั้งสามคน “คนนี้ชื่อโมกข์นะคะ แล้วยังไงกวางกับคุณโมกข์จะแวะไปเยี่ยมน้องทิชานะคะ”
“ครับ ไปแล้วก็บอกเด็กว่ามาหาผมหรือนนท์ก็ได้ครับ” ภัทรพลตอบกลับอย่างยินดี
ดวงตาคมมองตามร่างบอบบางและร่างสูงใหญ่ที่เดินประคองกันไป เป็นเขาก็ต้องทั้งหวงและห่วงถ้ามีคนรักอย่างขนิษฐา ก็เธอน่ารักเสียนี่กระไร ยิ้มแต่ละครั้งเหมือนกับเปิดโลกทั้งโลกให้สว่างสดใส เสียดายว่ามีเจ้าของแล้ว ถ้าหากยังไม่มีเขาคงลงสนามจีบเธอมาเป็นแม่ของทิชากร เพราะดูว่าเด็กหญิงเองก็ยินดีเหมือนกัน
ทิชานนท์เห็นสายตาของภัทรพลแล้วก็เจ็บแปลบในใจ เธอเฝ้ามอบหัวใจให้กับผู้ชายคนนี้เกือบสิบปี ตั้งแต่ที่เขาเป็นสามีของพี่สาว แล้วเมื่อพี่สาวตายจากไปก็หวังว่าคนที่เข้าไปดูแลนั้นคือเธอ แต่นานวันเข้าก็เริ่มไม่มั่นใจ แล้วเมื่อมาถึงตอนนี้บอกได้เลยภัทรพลไม่เคยมีเธออยู่ในสายตาและความคิด
ร่างบอบบางเดินนำร่างสูงใหญ่และร่างอ้วนป้อมที่เดินคุยและหัวเราะกันเสียงใสแจ๋ว หูก็รอฟังว่าเมื่อไหร่ทั้งสองคนจะร้องเรียกให้หยุดเพื่อจะได้เดินไปพร้อมๆ กัน แต่เปล่าเลย
อย่าฝันเฟื่องไปมากกว่านี้เลยทิชานนท์ เธอควรจะตื่นจากฝันได้แล้ว เธอควรรักตัวเองให้มากกว่ารักคนอื่นได้แล้ว อยากเจ็บไปมากกว่านี้หรือไง
ความคิดเห็น