คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 และตอนที่ 4 กวางน้อยแสนหวาน
http://story.niyay.com/story_main/39885.html
สองมือเรียวกำไว้บนตักจนชื้น ไม่รู้ว่าแม่จะว่าอะไรหรือเปล่าที่เธอหายไปทั้งคืนแบบนี้ แล้วถ้าหากแม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรมาแม่ต้องฆ่าเธอแน่ ตั้งแต่แม่เลิกกับพ่อ แม่พาลเกลียดผู้ชายไปหมดทุกคน และยังบอกเล่าถึงวีรกรรมไม่ดีของผู้ชายให้ฟังเสมอ
รถคันใหญ่วิ่งไปใกล้บ้านที่ได้อาศัยมาร่วมยี่สิบปี หัวใจของขนิษฐาก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าขาวสวยซีดเผือด เฝ้าแต่ภาวนาขออย่าให้แม่โกรธและเกลียด ไม่ว่าจะถูกแม่ทำโทษแบบไหนเธอก็พร้อมจะยอมรับมัน สองมือกำหมัดแน่นจนปลายเล็บแหลมคมทิ่มแทงไปในฝ่ามือ
รถจอดสนิทเหมือนกับว่าหัวใจขนิษฐาก็เกือบจะหยุดหายใจ มือเรียวเย็นเฉียบยื่นไปเปิดประตูรถด้วยความสั่นเทา ริมฝีปากหนานุ่มขบเม้มเข้าหากัน
แม้จะพยายามบอกกับใจตัวเองว่าไม่ต้องกลัว แม่ไม่รู้หรอกถ้าเธอไม่บอก และถ้าแม่ถามว่าเธอหายไปไหนมาทั้งคืน เธอก็จะบอกว่าไปทำงาน แต่มันก็มีปัญหาอีกนั่นแหละ ไปทำงานแล้วไหนเงินละ แล้วยังมีผู้ชายคนนี้ที่เดินมายืนเคียงข้างอีกละ แล้วจะตอบแม่ไปยังไงดี คิ้วคมเข้มขมวดมุ่นเข้าหากันเป็นปมขนาดใหญ่
“นังกวางเอ็งหายไปไหนมาว่ะ รู้ไหมข้ากดโทรศัพท์หาแกจนมือหงิกแล้วน่ะโว้ย” ขนิษฐาหันไปมองป้ากัญญาเพื่อนบ้าน หญิงนางนี้เป็นหนึ่งในคนไม่น้อยที่หาเงินได้ก็เอาไปเล่นไพ่จนหมด แต่ยังดีว่าป้ากัญญายังคิดทำการทำงานบ้าง ไม่เหมือนแม่ของเธอที่ไม่เคยทำงานเลย
“แต่ก็ช่างเถอะ ข้าว่าอย่ามายืนพูดกันอยู่ตรงนี้เลย เอ็งรีบไปประกันแม่เอ็งที่โรงพักดีกว่า ป่านนี้แม่เอ็งคงรอจนเหงือกแห้งเพราะอดน้ำ และก็เจริญพรให้เอ็งเป็นกะบุงโกยแล้วละวะ”
“ป้าว่าอะไรน่ะ?”
“แม่เอ็งถูกตำรวจจับตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนังกวาง”
สิ้นคำบอกเล่าของป้ากัญญา ขนิษฐารีบวิ่งเข้าไปในบ้าน กวาดสายตามองหากะปุกออมสินที่แอบหยอดลูกเหรียญและนำไปหลบซ่อนไว้ เพื่อนำไปจ่ายค่าเช่าบ้านหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เล็กๆ น้อยๆ น้ำตาอุ่นร้อนไหลอาบสองแก้ม เมื่อเห็นว่าเจ้าหมูน้อยตัวโตนอนเก้ๆ กังๆ อยู่บนเตียงนอนเก่ามีรอยปะชุมตามขอบที่เธอไม่ได้มานอนเมื่อคืน
แม่นะแม่ ทำไมไม่ฟังกันบ้างเลย ไม่เล่นสักวันไม่ได้หรือไงพวกการพนันนะ
ร่างบอบบางทิ้งตัวลงนั่งบนเบาะนอนบางๆ เงินที่สะสมไว้ถูกแม่นำเอาไปละลายในบ่อนการพนันจนหมด แล้วที่นี้เธอจะเอาเงินที่ไหนไปประกันตัวมารดาออกมาจากคุกละ แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเช่าบ้านและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย
“เกิดอะไรขึ้นกวาง” โมกข์ที่เดินตามเข้ามาเอ่ยถามขึ้น ร่างหนาใหญ่เดินเข้าไปใกล้สองแขนใหญ่ดึงรั้งร่างบอบบางเข้ามากดกอดแนบชิดโอบประคองร่างไว้ในอ้อมกอด อย่างต้องการปกป้องและช่วยคลายความเจ็บปวดที่ขนิษฐาเป็นอยู่ โดยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากทำ แล้วมันก็เป็นเพียงกับหญิงสาวคนนี้คนเดียวเท่านั้น
สองแขนเรียวโอบรอบร่างใหญ่อย่างต้องการไออุ่น เสียงสะอึกสะอื้นยังไม่ห่างหายไปจากใบหน้า ศีรษะทุยซบกับแผงอกกว้างเป็นครู่ใหญ่กว่าที่ขนิษฐาจะตั้งสติได้ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอไม่เคยเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง มีอะไรเกิดขึ้นเธอพร้อมจะยอมรับและต่อสู้กับมัน แต่พอได้มาเจอกับโมกข์ เธอไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้อ่อนแอลงอย่างกะทันหัน
“มีอะไรจะบอกฉันหรือเปล่ากวาง” โมกข์ถามเสียงนุ่ม ดวงตาคมดุจ้องมองหญิงสาวในอ้อมแขนอย่างเอ็นดู เขาเองก็ใช่ว่าจะเป็นคนใจร้ายและเอาแต่ใจตัวเองจนไม่คิดถึงเหตุผลใดๆ อีกทั้งหญิงสาวตรงหน้ากำลังเรียกร้องให้เขาปกป้องคุ้มครองอยู่
สองมือใหญ่ยกขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าให้อย่างอ่อนโยน และยิ้มให้กำลังใจส่งมอบไปถึงหัวใจอันอ่อนระโหยโรยแรง “ไหนบอกมาซิว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องร้องไห้จนตาบวมแบบนี้ด้วย ไม่สวยและไม่น่ารักเลยรู้ไหม”
“แม่...แม่...”
“แม่ขนิษฐีอยู่ไหม นังกวางอยู่บ้านหรือเปล่า” เสียงเรียกของหญิงวัยกลางคนดังไล่มา ก่อนที่ร่างอวบอ้วนของหญิงนางหนึ่งจะเดินเข้ามาในบ้าน
ขนิษฐารีบถอยห่างจากโมกข์อย่างรวดเร็ว สองมือยกขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้า เงยมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาเป็นคำถาม เพราะยังอีกหลายวันกว่าที่เธอจะต้องนำเงินค่าเช่าบ้านไปให้
“อ๋อ...นังกวางเอ็งอยู่พอดีเลย ฉันมาทวงค่าเช่าบ้านน่ะ ที่เธอและแม่ของเธอติดไว้ก็สองเดือน ส่วนเดือนที่จะถึงนี่แยกไว้ก่อน”
“อะไรนะคะ ป้ากิมฮวยพูดใหม่อีกครั้งได้ไหมคะ” ขนิษฐาถามย้ำ ก็เธอให้เงินมารดาไปจ่ายค่าเช่าบ้านแล้วนี่น่า แล้วทำไมถึง...
“ก็นังขนิษฐีไปบอกว่าเอ็งไม่สบายไม่มีเงินไปรักษา จะเอาเงินค่าเช่าบ้านไปจ่ายค่าหมอค่ายาก่อน แล้วพอเดือนที่ผ่านมาก็บอกว่าจำเป็นต้องใช้เงินอีก และยังจะยืมฉันไปอีกสองพันด้วยนะ ไอ้ฉันก็เห็นว่าเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียง มีอะไรก็ควรจะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ก็เลยให้ยืมไป”
ขนิษฐาอ้าปากค้าก่อนจะรีบหุบลงและกลืนน้ำลายลงคอ แค่ค่าบ้านเช่าสองเดือนก็ปาไปถึงห้าพันบาทแล้ว ไหนจะยังมีเงินที่ยืมไปอีกก็ปาไปเจ็ดพัน แล้วไหนจะยังค่าเช่าของเดือนที่จะถึงนี้อีก แค่นั้นยังไม่พอยังจะมีเงินค่าประกันตัวมารดาอีกล่ะ แล้วนี่เธอจะเอาเงินมากมายพวกนี้มาจากไหน
“ว่าไงล่ะแม่กวาง เธอจะเอาเงินไปจ่ายฉันวันไหน” หญิงร่างอ้วนทวงยิกๆ ถึงนางจะใจดี แต่ว่าเงินไม่ใช่น้อย ติดนานๆ ไม่ดี เดี๋ยวหนีสูญหมด
“เอ่อ...กวาง...” ขนิษฐากำลังจะเอ่ยปากขอเวลาเธออีกสักสองสามวัน เพื่อที่จะหาเงินทั้งค่าเช่าบ้านมาให้แต่ปากอวบอิ่มก็อ้าค้างเมื่อมีคนพูดแทน ไม่เพียงแค่นั้นเพราะคำพูดที่ออกมาจากปากหนาร้อนทำให้เธอตกใจมากขึ้น ใบหน้าขาวซีดหันมองชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจระคนสงสัย
“คุณรอพรุ่งนี้ได้ไหม พอดีผมพกเงินสดมาไม่เยอะ ยังไงผมขอที่อยู่ของคุณด้วยแล้วกัน จะได้ให้คนเอาเงินค่าเช่าบ้าน และเงินที่แม่ของกวางค้างอยู่ไปให้ เอาเป็นว่าคุณรวมค่าเช่าบ้านไปอีกสักสามเดือนด้วยนะครับ” มือใหญ่ยื่นไปบีบมือเล็กเรียวเบาๆ
“คุณโมกข์!!!”
“อ้าว...แล้วคุณเป็นใครนะ” นางกิมฮวยเอ่ยถาม ทำไมเมื่อครู่เธอถึงไม่สังเกตเห็นชายหนุ่มคนนี้ ดวงตาคมชั้นเดียวมองชายหนุ่มอย่างเพ่งพิศ และหันไปมองขนิษฐาเป็นเครื่องหมายคำถาม
“เอ่อ...” ขนิษฐาเองก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าจะแนะนำชายหนุ่มในฐานะใด เพราะเธอไม่รู้จริงๆ ว่าเขาจัดเธอไว้ในฐานะและตำแหน่งใด
“ผมเป็นเจ้านายของกวางครับ มาช่วยเธอเก็บของเพราะต้องเดินทางไปทำงานกับผมสามเดือนเป็นอย่างต่ำ พอดีว่าผมมีงานด่วนเลยต้องรีบเดินทาง กวางก็ต้องรีบตามไปด้วย ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณมากนะครับ คุณช่วยไปประกันตัวแม่ของกวางให้หน่อยได้ไหม” โมกข์อธิบายและถามกลับน้ำเสียงนุ่มนวล
“ความจริงผมก็อยากไปประกันตัวเองนะครับ แต่ว่างานที่ทำก็สำคัญต้องรีบเดินทางให้เร็วที่สุด แล้วพรุ่งนี้ผมจะรีบให้คนนำเงินมาคืนคุณ และอยากรบกวนคุณอีกเรื่อง ไม่รู้ว่าคุณสามารถทำให้ได้หรือเปล่า” ชายหนุ่มถามเสียงทุ้มนุ่มอย่างที่รู้ว่าคนที่ถูกขอร้องจะต้องทำให้
“อะไรละคุณ ถ้าทำได้ฉันก็จะทำ” นางกิมฮวยเอ่ยปากถาม พอใจกับคำพูดของชายหนุ่มที่แม้ว่าจะไม่มีคำลงท้าย แต่ฟังแล้วมันไม่ห้วนและหยาบกระด้าง
“ผมแค่จะฝากเงินค่าใช้จ่ายของแม่กวางไว้กับคุณน่ะครับ คือผมไม่อยากให้ไว้ทั้งหมด กลัวแม่ของกวางจะเอาเข้าไปละลายในบ่อนการพนันจนหมด”
“ได้ซิคุณ ฉันเองก็ไม่อยากให้นังขนิษฐีมันเล่นเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะห้ามปราบมันยังไง นังนี่มันดื้อด้านจะตาย ขนาดว่ามันถูกจับขังคุกอยู่นี่ มันยังประกาศลั่นเลยคุณ ยังไงๆ มันก็จะไม่เลิกเล่น” นางกิมฮวยเล่าอย่างเมามัน แล้วต้องรีบตวัดสายตาขอโทษขอโภยไปหาขนิษฐา
โมกข์หันมองขนิษฐา ใจที่แข็งกระด้างอ่อนยวบลงทันที ใบหน้าหญิงสาวซีดเผือดและหม่นหมอง มองมายังเขาด้วยสายตาเป็นคำถาม
ใบหน้าคมคร้ามหันไปยิ้มให้แล้วหันมาคุยกับนางกิมฮวยต่อ “แล้วไงผมจะให้คนติดต่อมาเป็นระยะนะครับ อ๋อ...อีกอย่าง ผมว่าถ้าจะให้แม่ของกวางเขาเลิกเล่นไปเลยคงจะไม่ได้หรอกครับ นอกจากจะหาอะไรให้ทำ ให้ลืมๆ เรื่องเข้าบ่อนไปน่าจะช่วยได้บ้าง”
“คนอย่างนังขนิษฐีมันไม่ทำหรอกคุณ” นางกิมฮวยหันไปสบสายกับขนิษฐาแววตาขอลุแก่โทษ “ขอโทษน่ะนังกวาง แต่เอ็งก็รู้ว่าข้าพูดเรื่องจริง”
“ฉันจะไปว่าป้ากิมฮวยได้ยังไงกัน ในเมื่อมันเป็นความจริง” ขนิษฐายิ้ม แม่ของเธอเป็นคนงานหนักไม่เอางานเบาไม่รู้ กี่ครั้งแล้วที่เธอหางานสบายๆ มาให้ทำ เพื่อไม่ให้แม่ไปยุ่งกับบ่อนการพนัน แม่ทำให้จริง แต่ทำได้แค่วันสองวันก็บ่นและก็เลิกทำไปในที่สุด
“ถ้าเอ็งไม่โกรธก็ดีแล้วนังกวาง เอ็งไปทำงานให้สบายใจน่ะ ฉันจะช่วยดูแลนังขนิษฐีให้เอง แล้วถ้ามีอะไรฉันก็จะโทรหา”
“จ้ะป้ากิมฮวย”
“งั้นถ้าเอ็งไม่มีอะไรแล้ว ฉันก็กลับก่อนแล้วกัน แล้วเดี๋ยวจะได้บอกให้เด็กที่บ้านไปทำเรื่องประกันแม่เอ็งที่โรงพักด้วย” นางกิมฮวยยิ้มให้ขนิษฐาและชายหนุ่มที่เธอยังไม่ได้ถามชื่อเลยก่อนจะเดินออกจากบ้านไป
ลับร่างอวบอ้วนขนิษฐาก็หันไปมองหน้าโมกข์ และกำลังจะเอ่ยปากถามไปว่าเขาทำแบบนี้ทำไม และต้องการอะไรจากเธออีก ในเมื่อสิ่งที่เขาอยากได้ก็ได้ไปเรียบร้อยแล้ว จะมามัวเสียเวลาเสียเงินกับเธอทำไมอีก ไม่คิดบ้างหรือไงว่าเงินเยอะขนาดนั้นเธอจะเอาปัญญาที่ไหนมาใช้คืน
แต่ขนิษฐาก็ต้องปิดปากสนิท เมื่อเห็นสายตาวามวาวที่จ้องมา คิดแล้วก็ให้ปั่นป่วนและเสียวซ่านขึ้นกึ่งกลายเรือนกาย ใบหน้าขาวแดงระเรื่อขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้อ่อนไหวกับชายหนุ่มคนนี้ได้ง่ายดายนัก
โมกข์อมยิ้ม มือใหญ่คว้าแขนเรียวให้ลุกขึ้นและพาออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะหันมาปิดบ้านให้หญิงสาว ที่ยืนก้มหน้าก้มตามองพื้นคอนกรีต
ชายหนุ่มยื่นมือไปจับแขนเรียวและพาเดินกลับไปที่รถอีกครั้ง ตอนแรกเขากะจะพาหญิงสาวไปที่บ้านพักหลังเล็กของเขาเลย แต่คิดไปคิดมาตอนนี้กองถ่ายหนังของเขาก็หยุดพักเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ เพราะนางเอกของเรื่องเดินทางไปทำธุระกับบิดาที่ต่างประเทศ
ส่วนนางร้ายของเรื่องก็เดินทางไปถ่ายทำละครอีกเรื่องที่ต่างจังหวัด หลังจากค้างคากันมานาน เพราะตัวละครเด่นอีกคนประสบอุบัติเหตุต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แล้วอีกอย่างเขาเองก็ตรากตรำกับงานหนังสือเรื่องนี้และงานที่รีสอร์มมาหลายเดือนยังไม่มีเวลาพักผ่อนเลย ไปหัวหินคราวนี้ก็ถือเป็นโอกาสได้พักผ่อนหาความสุขใส่ตัวกับแม่ตัวประกอบแสนหวานอย่างมีความสุขดีกว่า
โมกข์ขับรถออกจากบ้านของขนิษฐาในสมองก็คิดเพียงแค่ว่า เขาจะให้การเดินทางครั้งนี้เป็นอย่างไรดี จะเดินทางรวดเดียวไปถึงหัวหินเลย หรือว่าจะหยุดพักกลางทาง เพื่อทานอาหารกายและอาหารใจไปพร้อมกัน แต่เมื่อหันไปเห็นใบหน้าอ่อนเพลียและเศร้าหมองของหญิงสาว แล้วก็ตัดสินใจว่าควรจะเดินทางไปให้ถึงที่พักโดยเร็วดีกว่า เพราะเมื่อถึงที่นั่นจะทำอะไรมันก็ง่ายและสะดวก
*********************************************
ขนิษฐาตื่นนอนตอนเช้าอย่างสดชื่น มือเล็กเรียวจับมือใหญ่ออกจากลำตัว รีบลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าใส่จนเรียบร้อยก่อนจะไปยืนมองทะเล น้ำทะเลสีเขียวใสซาดซัดเข้าหาฝั่ง เห็นแล้วอยากจะไปเล่นให้ฉ่ำปอด และอย่างไม่รอช้าหญิงสาวหันกลับไปมองร่างสูงใหญ่ที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงแล้วก็ต้องให้หน้าแดง
เมื่อคืนหลังจากที่เดินทางมาถึงแทนที่โมกข์จะนอนพัก ชายหนุ่มกลับเลือกที่จะรักกับเธอแทน แล้วเธอเองก็บ้ายินยอมพร้อมใจไปกับเขาเสียอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งอาย จนตอนนี้ขนิษฐาคิดว่าหน้าเธอคงแดงเป็นกุ้งต้มเรียบร้อยแล้ว สองมือเรียวยกขึ้นตบหน้าตัวเองเบาๆ ให้เลิกคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
หญิงสาวละสายตาจากร่างใหญ่ก้าวเดินไปที่ประตูห้องเพื่อออกไปเล่นน้ำ แต่ก็ต้องหยุดกึกเมื่อหูได้ยินเสียงร่างใหญ่พลิกตัว ใบหน้าขาวสวยค่อยๆ หันหน้าไปมองแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเห็นว่าโมกข์เพียงแค่พลิกตัวเท่านั้นเอง อีตาบ้าทำเอาตกอกตกใจหมดเลย
ศีรษะทุยส่ายเบาๆ และรีบสาวเท้าเดินออกจากห้อง มุ่งไปหาดทรายขาวสะอาดที่ทอดยาวขนานไปกับความยาวของท้องทะเล เธอไม่รู้หรอกว่าโมกข์ได้พาเธอมายังส่วนใดของหัวหิน เพราะไม่เคยมาที่นี่สักครั้ง อย่างดีที่เคยไปเที่ยวคือบางแสนเท่านั้นเอง และนับตั้งแต่ก้าวพ้นวัยเด็กก็ไม่เคยได้ไปอีกเลย เพราะไม่มีเงินเหลือเฟือให้จับจ่ายสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
ขนิษฐาปล่อยให้น้ำทะเลซาดซัดข้อเท้า น้ำเย็นๆ ทำให้เธอสดชื่นขึ้น สมองที่เคยตันก็พอจะหาทางออกให้กับตัวเองได้บ้าง อนาคตของเธอกับโมกข์ไม่มีทางที่เป็นไปได้ อย่างดีในตอนนี้เธอก็คือนางบำเรอที่เขาต้องการ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านพ้นไป หมดสิ้นความสาว ความหวานเขาก็จะโละเธอทิ้งเหมือนกับที่ทำกับคนอื่นๆ อย่างดีที่สุดก็คงให้เงินสักก้อนเพื่อใช้ตั้งตัว
แต่ระหว่างนี้ละ มีคำถามผุดขึ้นระหว่างใจขนิษฐา ระหว่างที่อยู่กับโมกข์เธอควรการป้องกันตัวใช่ไหม มือเรียวยกขึ้นลูบท้องด้วยความกลัวและไม่แน่ใจ ตอนนี้ในตัวเธออาจมีลูกของโมกข์อยู่แล้วก็เป็นได้ คิดแล้วน้ำตาก็พาลจะไหล นี่เธอทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ตัวเธอเกิดมามีพ่อก็เหมือนไม่มี แล้วอนาคตหากว่าเธอมีลูก เขาก็จะต้องเป็นเหมือนเธอคือต้องกำพร้าพ่อ
ขนิษฐาจมอยู่กับความเศร้าหมองและหดหู่ใจอยู่เป็นนาน ก่อนจะตัดสินใจทิ้งความคิดที่ทำให้ตัวเองไม่สบายใจ โผตัวพุ่งลิ่วลงไปในน้ำทะเลใสสะอาดเบื้องหน้า หวังว่ามันจะช่วยดับความร้อนรุ่มที่มีในร่างกายและหัวใจออกไปได้บ้าง และอาจมีทางออกดีๆ ให้เธอก็ได้
ร่างบอบบางว่ายน้ำเหมือนกับเป็นปลาตัวน้อยแล้วก็หยุดชะงัก เมื่อหูแว่วได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ และอย่างรวดเร็วขนิษฐาโผตัวไปฝั่งซ้ายของมือ เมื่อเห็นว่าอะไรเล็กๆ ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในน้ำไม่ไกลจากที่กำลังเล่นน้ำอยู่สักเท่าไหร่
มือเรียวข้างหนึ่งล็อกเข้าที่ลำคอ อีกมือก็พยายามแหวกว่าย เพื่อนำพาสองร่างไปบนฝั่งให้เร็วที่สุดก่อนที่เธอจะหมดแรง เพราะดูว่าร่างของคนที่เธอช่วยเหลือนั้นก็หนักเอาการ และเมื่อสามารถขึ้นไปบนฝั่งได้แล้ว ขนิษฐาก็ต้องโล่งใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าคนที่เธอช่วยนั้นเป็นเด็กและยังไม่ถึงกับสลบ
“หนูเป็นยังไงบ้างคะ” เด็กน้อยที่ได้รับการช่วยเหลือยังมีอาการงงๆ อยู่บ้าง สองมือเล็กจับใบหน้ากลมป้อมและถามย้ำไปอีกครั้ง บนใบหน้ามีรอยยิ้มปลอบโยนและให้กำลังใจ เอ่ยถามอย่างนุ่มนวลและใจดี “ว่าไงคะคนเก่งเป็นหนูอะไรหรือเปล่า”
เด็กน้อยส่ายศีรษะจนผมกระจาย ใบหน้าอ้วนกลมป้อม ดวงตากลมโตจ้องมองสาวสวยตรงหน้าแล้วก็รู้สึกอบอุ่น สองแขนป้อมๆ กางออกโผเข้ากอดร่างเล็กบางอย่างร้องขอความอบอุ่น “แม่จ๋า”
ขนิษฐาอ้าปากค้าง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง สองมือพยายามแกะแขนอวบอ้วนที่โอบรอบลำตัว แล้วพอเธอแกะได้เท่านั้นเอง
“โฮ...”
ขนิษฐาถึงกับทำอะไรไม่ถูก จำยอมให้แขนอวบอ้วนกอดเธอไว้อยู่อย่างนั้น มือเล็กเรียวยกขึ้นลูบผมบนศีรษะทุย อีกมือก็โอบกอดรอบอวบอ้วนแนบอก กายบอบบางเอนไปเอนมาอย่างต้องการจะปลอบประโลมเด็กน้อย “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะคนเก่ง พี่กวางไม่แกะมือหนูก็ได้จ้ะ”
ทิชากรเงยหน้ามองพี่สาวคนสวยแล้วก็ให้ยิ้มแป้นแล้นฝากเนื้อฝากตัว ใบหน้ากลมป้อมซบลงกับอกอุ่นๆ ของหญิงสาวใหม่อีกครั้ง “แม่จ๋า”
งานเข้าซะแล้วไม่ละเรา แล้วนี่แกจะทำอะไรต่อไปยัยกวาง แม่หนูน้อยคนนี้ก็เกาะแกเป็นตังเมไม่ยอมปล่อย แล้วนี่ถ้าอีตาโมกข์จอมหื่นตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอ โอ๊ย...ฉันจะทำไงดีกันละทีนี้
ความคิดเห็น