คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 แม่สาวตัวประกอบจอมหยิ่ง
คนเรามีความฝันได้ ไม่ผิดใช่ไหมถ้าคนเราฝันอยากเป็นดาว
แล้วไม่ผิดใช่ไหมถ้าเธอฝัน...มีครอบครัวที่อบอุ่น
บทที่ 1
“กรี๊ด...พี่พลทำไมทำแบบนี้กับเปรมล่ะคะ เปรมทำผิดอะไรทำไมพี่ถึงทิ้งเปรมไปหานังคนใช้นั่น” ร่างโปร่งบางเดินเข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ สองมือเรียวจับแขนใหญ่เขย่าและทุบตีอย่างแรงตามอารมณ์ที่ประทุขึ้น
“พี่ก็รู้ว่ามันไม่คู่ควร มันเป็นเพียงแค่คนใช้ภายในบ้าน”
“ถึงลูกจันทร์เป็นเพียงแค่คนใช้ แต่ก็เป็นคนดีและน่ารัก ดีกว่าคนบางคนที่หน้าไหว้หลังหลอก คบกันหวังแต่เอารัดเอาเปรียบและผลประโยชน์ส่วนตัว” ชายหนุ่มร่างใหญ่ตอบกลับอย่างไมไว้หน้า ดวงตาดุไล่มองร่างโปร่งบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างดูถูกดูแคลน
“กรี๊ด...พี่พล เปรมจะฟ้องคุณลุงคุณป้าว่าพี่พลด่าเปรม” ร่างโปร่งกระทืบเท้าแรงๆ พร้อมเสียงแว๊ดๆ จนแสบแก้วหู ใบหน้าขาวสวยแดงระเรื่อ ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้าและลุกโชน เต็มไปด้วยความรัก และเคียดแค้นที่ไม่ได้อยู่ในความสนใจของชายหนุ่ม
“หยุดได้แล้วเปรมยุดา เธอจะมาแสดงตัวเป็นหญิงปากตลาดที่บ้านฉันไม่ได้ ถ้าเธอยังแสดงกริยาท่าทางแบบนี้ก็กลับไปซะ บ้านนี้ไม่ต้อนรับ”
“กรี๊ด...”
“คัท”
เสียงร้องกรีดบาดแก้วหูของสาวน้อยร่างอรชอนอ้อนแอ้นดังขึ้น พร้อมกับเสียงนุ่มทุ้มของสารัชผู้กำกับหนุ่มไฟแรงแห่งกองละครเรื่องที่แม้กระทั่งตัวนักแสดงเองก็ยังไม่รู้เลย เพราะโมกข์ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบทประพันธ์และสปอร์เซอร์ในการจัดสร้างละครเรื่องนี้ขอไว้ ให้ทุกคนแสดงตามบทที่เขาส่งไปให้เท่านั้น
แต่ก็นั่นแหละใครๆ ก็ย่อมจะไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ขอเพียงแค่ผลตอบแทนที่ได้รับดีพอและได้ร่วมงานกับนักเขียนหนุ่มมากฝีมือ แถมยังเป็นสปอร์เซอร์รายใหญ่ที่ทุ่มงบไม่อั้นในการจัดทำละครเรื่องนี้
แค่นั้นยังไม่พอโมกข์ยังเสนอให้ทางทีมงานเข้ามาใช้พื้นที่ในรีสอร์ทถ่ายทำละครได้อีกด้วย เพียงแค่ได้เห็นไม่ว่าใครก็ต้องอึ้ง ทึ่งและตกตะลึงในความโอ่อ่าหรูหราของสถานที่ และที่สำคัญคือคนเป็นเจ้าของอย่างโมกข์ สาระสนหนุ่มรูปหล่อและร่ำรวยด้วย
“คุณโมกข์ขา ลิสาทำได้ดีหรือยังคะ” ชาลิสานางร้ายดาวรุ่งดวงใหม่มาแรงถามเสียงหวานเชื่อม พร้อมกับร่างโปร่งบางวิ่งกลับมาที่จอมอนิเตอร์อย่างรวดเร็ว เพื่อหาคนที่เธอถามไปเมื่อครู่ทั้งที่ความจริงแล้วโมกข์เป็นเพียงแค่นักประพันธ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องการแสดงเลยสักนิด
ร่างอวบอั๋นในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยทำเอาผู้คนที่อยู่รายรอบต่างก็กลัวว่า ไอ้ของที่แม่ให้มาที่ใหญ่โตราวกับส้มโอสองผลนั้นจะหลุดออกมาอวดสายตาให้กับคนในกองถ่ายได้เห็น แต่ดูเหมือนชาลิสาจะไม่สนใจแม้แต่น้อย เพราะมัวแต่ส่งสายตาหวานเยิ้มและเชิญชวนให้กับโมกข์
ร่างอวบอิ่มเอนตัวไปด้านหน้าหวังให้ชายหนุ่มที่เธอถูกใจ ได้สัมผัสกับความอวบอิ่มเต่งตึงและกลิ่นหอมของเครื่องประทินผิวที่เธออาบลงไป ก่อนที่จะเข้าฉากอาละวาดใส่พระเอกของเรื่อง ซึ่งกำลังจะทิ้งเธอไปหานังตัวประกอบหน้าใสที่นั่งซับเหงื่ออยู่ไม่ไกล
โมกข์ละสายตาจากการพูดคุกับสารัชและจอมอนิเตอร์หันมองคนถาม แต่สายตากลับผ่านไปเห็นหญิงสาวอีกนางที่นั่งทำปากพะงาบๆ เลียนแบบคำพูดชาลิสาแล้วก็เกิดอาการหมั่นไส้คนที่กำลังทำอยู่เป็นอย่างมาก ดวงตาสองคู่สบกันก่อนที่คนหนึ่งจะทำหน้าหงิกงอใส่แล้วยังเมินหน้าหนี แค่นั้นยังไม่พอหญิงสาวยังลุกขึ้นและเดินหนีไปอีกทาง
เมื่อเห็นแบบนั้นทำให้โมกข์หงุดหงิดในหัวใจเป็นอย่างมาก เคยมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าใส่ ใครๆ ก็อยากจะอยู่ในอ้อมกอดเขา แต่แม่สาวคนนั้น...ที่ดูเหมือนว่าเป็นเพียงนักแสดงตัวประกอบที่เขายังไม่รู้จักชื่อ ดันทำเหมือนกับว่าเขาเป็นไส้เดือนกิ้งกือที่เธอเกลียดและต้องรีบหนีให้ห่าง เห็นแล้วมันหงุดหงิดและคันยิบๆ ในใจแล้วคนอย่างเขาก็ยอมไม่ได้ที่จะให้ผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าทำแบบนี้
แล้วสมองอันฉลาดและแหลมคมก็เริ่มหมุนวนเป็นลูกข่าง เขาต้องหาทางเข้าใกล้แม่สาวตัวประกอบจอมหยิ่งนั่น แล้วก็สั่งสอนให้รู้สำนึกเสียบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร ใบหน้าคมยิ้มกริ่มดวงตาคมดุแวววาวจ้องมองตามเหยื่อสาวแสนสวยอย่างที่คนถูกมองต้องหนาวสั่นในหัวใจถ้าได้เห็น เพราะมันมีทั้งความดูถูกดูแคลน รังเกียจหยามเหยียด แต่ก็ซุกซ่อนไว้ด้วยไฟปรารถนาอันร้อนแรง
“คุณโมกข์มองดูอะไรอยู่หรือคะ” ชาลิสาถามและมองตามสายตาคมไปแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดผิดปรกติ หรือว่ามีใครอยู่ตรงที่สายตาของโมกข์หยุดอยู่สักนิด สองมือเรียวจับใบหน้าคมให้หันมาสนใจตัวเอง
“ว่าไงค่ะคุณโมกข์ขา ลิสาเล่นดีหรือยังคะ” หญิงสาวถามย้ำอีกครั้งอย่างต้องการคำชมจากปากชายหนุ่มให้ได้ชื่นอกชื่นใจ กายอวบอิ่มเอนตัวลงไปเสียดสีกับกายใหญ่ให้ชายหนุ่มร้อนรุ่มและต้องการได้เธอคนคลายร้อนให้
“อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ คุณลิสาคงจะต้องถามจากคุณสารัชมากกว่า” โมกข์ตอบกลับอย่างรำคาญใจและเบื่อหน่าย ถ้าเป็นก่อนที่จะได้เห็นหน้าแม่ตัวประกอบคนนั้น เขาก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ชาลิสาปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาในกาย แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพอได้เห็นใบหน้าสวยหวานนั่นแล้วทำเอาเขาถึงกับลืมชาลิสาและผู้หญิงอีกหลายคนที่เคยสนิทชิดเชื้อด้วยไปเสียสนิท
สองมือใหญ่ดันกายอวบอิ่มออกห่าง สายตายังมองตามร่างบอบบางของแม่สาวตัวประกอบทั้งที่หญิงสาวก็หายไปยังซอกหนึ่งของตึกเรียบร้อยแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธตัวเอง ทั้งที่ระยะทางก็ไม่ได้ใกล้เลยสักนิด แต่ในสมองและสายตากลับเห็นและจดจำใบหน้าของแม่สาวตัวประกอบคนนั้นชัดเจนเหลือเกิน
ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตเป็นประกายวาววับล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอน จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มเต็มสีชมพูระเรื่อราวกับกำลังเชิญชวนให้เขาเข้าหา และมอบจุมพิตแสนหวานให้สักครั้งสองครั้งเป็นการเริ่มต้นทำความรู้จักกันและกัน เพียงแค่คิดเท่านั้นกายใหญ่ก็ปวดร้าวด้วยความต้องการ
ชาลิสาหงุดหงิดที่วันนี้โมกข์ไม่ได้เอาใจใส่เธอเหมือนวันก่อนๆ หรือเพราะตอนนี้มีอะไรกันแล้ว และโมกข์กำลังผละจากเธอไปหาผู้หญิงคนใหม่ แล้วดูเหมือนว่าแม่นางเอกหน้าหวานปานระวีที่เข้าฉากวันนี้ก็ให้ท่าชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน
ใจดวงน้อยร้อนรุ่มราวกับมีไฟกองใหญ่สุม ใบหน้าแดงขึ้น หายใจเข้าปอดด้วยความรุนแรง แพ้ใครเธอไม่ว่าแต่ถ้าต้องแพ้ปานระวีผู้หญิงตีสองหน้าเก่ง ต่อหน้าโมกข์ก็ทำตัวเป็นสาวเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่ลับหลังแล้วแม่ค้าในตลาดที่ปากว่าด่าเก่งยังต้องยอมแพ้เลย
ไม่...ต้องไม่ยอมให้ใครแย่งโมกข์ไปได้ ชายหนุ่มที่ทั้งรูปหล่อ ร่ำรวยและทำงานเก่งแบบนี้ใครๆ ก็อยากได้เป็นเจ้าของ แล้วถ้าเขายอมหยุดที่เธอ นั่นก็หมายความว่า...สบายไปทั้งชาติเลยทีเดียว
ชิ...นังปานระวี คิดหรือว่าฉันจะปล่อยบ่อเงินบ่อทองให้แก้ง่ายๆ น่ะ ไม่มีทาง
ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเข้าหากัน สายตาจ้องมองไปที่ร่างโปร่งบางของปานระวี ที่กำลังเดินเยื้องย่างมาหาด้วยรอยยิ้มหวานเชื่อมราวกับมีใครทำน้ำตาลตกลงไป เห็นแล้วชาลิสาก็กำหมัดแน่น วิญญาณนางร้ายในตัวก็เข้าสิงทันที
“หวัดดีค่ะคุณปานระวี เข้าฉากเสร็จแล้วไม่ใช่หรือคะ ทำไมถึงยังไม่กลับบ้านล่ะคะ หรือจะอ่อยใครแถวนี้ ยังไงก็ดูให้ดีหน่อยนะคะ เกิดเจอคนมีเจ้าของ แล้วเจ้าของเขาทั้งหวงและห่วงจะยุ่งนะคะ” ชาลิสาเอ่ยถามแบบจิกกัดไปเต็มที่ กวาดสายตามมองร่างโปร่งบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วก็แบะหน้าให้
ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย หน้าตาก็งั้นๆ พอไปวัดไปวาได้ตอนสายๆ ไม่อายพระอายเณร ไม่รู้ใครตาถั่วเอามาเป็นนางเอกได้ ฉันสวยกว่าตั้งเยอะ
“ระวีกำลังจะกลับอยู่เหมือนกันคะ แต่พอดีเห็นพี่โมกข์ยังนั่งคุยอยู่กับคุณสารัช ระวีเลยคิดจะมาชวนพี่โมกข์ไปทานอาหารด้วยนะคะ”
ปานระวีบอกยิ้มๆ ด้วยถือว่าครอบครัวของเธอและโมกข์นั้นใกล้ชิดกัน มารดาและบิดาของชายหนุ่มก็ยังรักใคร่เอ็นดูเธอราวกับลูกหลานคนหนึ่ง และยังเคยเปรยๆ ว่าอยากจะได้เธอไปเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน แต่ติดที่โมกข์ไม่เคยแสดงออกให้รู้ว่าเขาคิดยังไงกับเธอ เพราะเหตุนี้เองทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายใช้ความใกล้ชิดขอร้องกึ่งบังคับให้โมกข์พาเธอเข้าร่วมแสดงละครในเรื่องนี้ด้วย
แล้วก็ไม่ใช่เพราะความใกล้ชิดกับครอบครัวโมกข์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะเธอมีทั้งความสามารถ และความสวย เลยทำให้ได้บทเด่นในละครเรื่องที่กำลังถ่ายทำอยู่นี้ ครอบครัวของเธอและโมกข์ต่างก็หวังว่าความใกล้ชิดในครั้งนี้ จะทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจได้เสียทีว่าจะเลือกเธอไปเป็นคนเคียงข้างตลอดชั่วชีวิต ส่วนตัวเธอเองก็หวังเช่นกันว่าจะได้เป็นคู่ครองคอยปรนนิบัตพัดวีและมอบความสุขให้
“เสียใจด้วยนะคะคุณระวี พอดีว่าคุณโมกข์...” แขนเรียวยาวสอดเข้าที่แขนแข็งแกร่ง ดึงรั้งให้ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากเก้าอี้พับตัวเล็กแต่แข็งแรง ใบหน้าขาวสวยซบหน้ากับบ่ากว้างจ้องมองปานระวีอย่างรังเกียจ “มีนัดทานอาหารกับฉันแล้วค่ะ”
ชาลิสาเงยหน้าส่งดวงตาหวานเยิ้มและยั่วยวนให้กับโมกข์ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวานเชื่อมอย่างไม่กลัวน้ำตาลจะหก “ใช่ไหมคะคุณโมกข์ขา?”
โมกข์พยักหน้ารับ ถึงแม้ว่าจะไม่ไปกับชาสิลา แต่ยังไงก็คงต้องใช้หญิงสาวเป็นกันชนกันปานระวีออกไปจากเขาก่อน ไม่ใช่ว่ารังเกียจแต่เป็นเพราะเยังไม่อยากมีห่วงผูกคอในตอนนี้ ชีวิตหนุ่มยังอีกยาวไกล เรื่องอะไรเขาจะต้องจมปลักอยู่กับผู้หญิงเพียงคนเดียวเล่า
ปานระวีหน้าเสียแต่ก็ปรับสีหน้าได้เร็ว เพราะไม่ต้องการให้หญิงสาวที่ยืนเคียงข้างโมกข์สมใจ “ไม่เป็นไรค่ะพี่โมกข์ เอาไว้วันหน้าก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวานให้โมกข์แต่กลับส่งสายตารังเกียจและสมเพชไปให้กับชาลิสา คิดหรือว่าแค่นี้จะกันเธอห่างจากโมกข์ได้ ในเมื่อมีแบ็คอัพดีอย่างบิดาและมารดาของโมกข์ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังจะต้องไปกลัวอะไรกับนางร้ายที่คอยไล่จับผู้ชายเล่า
“อ๋อ...ระวีลืมบอกพี่โมกข์ไป วันอาทิตย์ถ้าพี่โมกข์ไม่ติดธุระอะไร พ่อบอกว่าให้พี่โมกข์แวะไปหาที่บ้านหน่อยนะคะ เห็นว่ามีเรื่องงานจะคุยด้วย”
“ขอบใจนะระวี ยังไงพี่ขอดูก่อนแล้วกันว่าติดงานหรือเปล่า” ชายหนุ่มตอบทั้งที่ในใจนั้นมีคำตอบแล้วว่า เขาไม่ไปหาบิดาปานระวีเด็ดขาด เพราะไม่ชอบวิธีการพูดและปฏิบัติของชายชราที่มักใช้ความเป็นผู้ใหญ่และประสบการณ์มากกว่า ชักจูงชักนำให้คนอื่นทำตามความต้องการ และยังพยายามยัดเยียดปานระวีให้เป็นแฟนเขาอยู่เนืองๆ
“ค่ะพี่โมกข์ งั้นระวีกลับก่อนนะคะ” หญิงสาวบอกและอย่างรวดเร็วที่ร่างโปร่งบางเดินเข้ามาหาร่างใหญ่ ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปติกสีแดงสดประทับบนแก้มสากระคายก่อนจะเดินไปที่รถ แล้วเมื่อถึงหญิงสาวยังผันหน้ามาโบกมือให้โมกข์อีกครั้งเป็นการส่งท้าย
ชาลิสารีบยกมือขึ้นเช็ดรอยแดงบนใบหน้าคมคร้ามด้วยความหงุดหงิดระคนโมโห แล้วยังบ่นพึมพำเบาจนโมกข์รำคาญใจ พอดีกับที่ผู้จัดการส่วนตัวของหญิงสาวกวักมือเรียกหญิงสาวให้ไปคุยธุระด้วย
โมกข์ถือโอกาสเดินเลี่ยงไปด้านหลัง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของหน้างาน สถานที่ในการถ่ายทำละครเรื่องนี้แปดสิบเปอร์เซ็นจะเป็นรีสอรท์ของเขา ซึ่งแม้ว่าจะยังทำการก่อสร้างอยู่แต่ก็เสร็จไปเกือบจะเก้าสิบเปอร์เซ็นแล้ว เหลืออีกสิบเปอร์เซ็นเป็นเรื่องของการเก็บรายละเอียดและการตกแต่งภายใน ทุกอย่างคงเสร็จเรียบร้อยพร้อมๆ กับละครปิดกล้อง จะได้ถือเอาละครเรื่องนี้เป็นการโฆษณารีสอร์ทไปในตัวด้วย
โมกข์ตาวาวดูเหมือนว่าจะเป็นความโชคดีของเขา แม่ตัวประกอบจอมหยิ่งเดินออกจากห้องแต่งตัวพอดี มือใหญ่ยกขึ้นลูบปลายคาง
ขนิษฐาหยุดชะงัก เมื่อเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่ที่ยืนจ้องเธออยู่แล้วก็ให้เบะหน้า นี่ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอต้องการเงินล่ะก็ เธอไม่ยอมมาร่วมงานกับผู้ชายเจ้าชู้คนนี้เด็ดขาด คิดแล้วก็เซ็งทำไมแม่ถึงไม่ยอมฟังเธอบ้าง เล่นแต่ไพ่กับหวยจนเป็นหนี้เป็นสิน แล้วใครล่ะที่ต้องหาเงินมาใช้หนี้ถ้าไม่ใช่เธอ หญิงสาวยกไหล่ขึ้นแล้วรีบเดินหนีชายหนุ่มที่เธอไม่ชอบหน้าทันที
อย่างรวดเร็วและไม่ทันตั้งตัว มือใหญ่คว้าแขนเรียวของคนที่กำลังจะเดินผ่านหน้าเขาไป “จะรีบไปไหนล่ะแม่ตัวประกอบ หยิ่งนักไม่ใช่หรือเรา ไม่รู้หรือไงว่าถ้าทำให้ฉันไม่พอใจ เธอจะไม่ได้ทั้งงานและเงินนะแม่จอมหยิ่ง” ใบหน้าคมคร้ามถามแนบชิดแก้มนุ่ม จมูกโด่งสูดเอากลิ่นแป้งเด็กและกลิ่นเนื้อนางเข้าปอดเต็มแรง
“ปล่อยฉันน่ะคุณโมกข์” ขนิษฐาบอกเสียงเข้ม ทั้งไม่พอใจและโกรธเกรี้ยว ใบหน้าขาวสวยแดงจัด ดวงตาเป็นประกายสีแดงอมส้ม พยายามสะบัดหน้าหนีมือใหญ่ที่ยกขึ้นมาหวังแตะต้องผิวเนื้อขาวเนียน มือยกขึ้นแกะมือใหญ่ออกจากแขนอย่างรังเกียจ
ผู้ชายนี่เป็นแบบนี้ด้วยกันทุกคนเลยหรือไง เห็นผู้หญิงเป็นเพียงแค่เครื่องบำบัดความใคร่ พอใจเมื่อไหร่ก็เรียกหา ไม่พอใจเมื่อไหร่ก็ทิ้งขว้าง พ่อเธอก็คนหนึ่งแล้ว มีเมียไปทั่วทุกหัวระแหง ไม่ว่าเดินทางไปทำงานที่ไหนก็ต้องได้เมียกลับมาเสียทุกครั้ง ดวงตากลมโตมองมือที่จับแขนและใบหน้าคมอย่างโกรธเกรี้ยว
“ปล่อยฉัน...” หญิงสาวย้ำอีกครั้งให้ชายหนุ่มรีบปล่อย
แต่มีหรือที่คนอย่างโมกข์จะทำตาม เสียงหัวเราะหึหึดังจากลำคอแกร่ง และชายหนุ่มดันร่างบอบบางเข้าไปในห้องแต่งตัวและรีบล็อกห้องอย่างรวดเร็ว “จะให้ฉันรีบไปปล่อยไปทำไมล่ะแม่ตัวประกอบ ก็เธอเองไม่ใช่หรือที่เรียกให้ฉันมาหานะ”
“ปล่อยฉันน่ะคุณโมกข์ แล้วฉันไปร้องเรียกให้คุณมาหาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” สองมือเรียวทั้งผลักทั้งดันให้ร่างใหญ่ถอยห่างไป หัวใจเต้นแรงและเร็วเมื่อสบกับสายตาคมวาวของอีกฝ่าย แม้จะไม่กลัวแต่ก็รู้สึกเกรงๆ ในกิติศัพท์ความร้ายกาจที่ได้ยินมาอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
โมกข์หัวเราะหึหึ มือหนึ่งเท้าผนังห้องกันไม่ให้หญิงสาวหลีกหนี อีกมือลากไล้ไปบนใบหน้าขาวเนียน ยิ่งได้เห็นใบหน้าและรูปร่างของหญิงสาวอย่างใกล้ก็ทำเอาเรือนกายเขาถึงกับร้อนด้วยไฟปรารถนา ไม่คิดว่าแม่ตัวประกอบที่เห็นไกลๆ ว่าน่าปรารถนามากแล้ว พอได้เห็นใกล้ๆ ก็ยิ่งสวยงามน่ารักและน่าทะนุถนอมเป็นที่สุด
ใบหน้าคมโน้มลงไปจนปลายจมูกแนบชิดกับใบหน้าเนียน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่ที่หญิงสาวใช้ผสมกับแป้งเด็กอ่อนๆ เข้าไปกระตุ้นเลือดราคะในตัวโมกข์ให้แทบลุกโพรงในบัดเดียวนั้น “ก็ทำอย่างที่เธอต้องการไงแม่ตัวประกอบ” ชายหนุ่มพูดชิดพวงแก้มสีแดง
“ทำอะไร” หญิงสาวถามเสียงหลง เบือนหน้าหนีจมูกโด่งที่กดลงมาหาแก้มนุ่ม หัวใจเต้นแรงและเร็วเหมือนกับกำลังจะทะลุออกจากอก “ถ้าคุณอยากได้ผู้หญิงสักคนก็ไปหาเอาข้างนอกซิ อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันไม่ชอบ” หญิงสาวบอกเสียงครัดเครียด พยายามเบือนหน้าหนีจมูกโด่งๆ ที่กดฝังไปบนแก้มนุ่ม
“แน่ใจหรือแม่ตัวประกอบ ก็ฉันเห็นนี่ว่าเธอกำลังยั่วยวนและเรียกร้องให้ฉันเข้าหา” โมกข์ยังคงเข้าใจว่าความคิดของเขานั้นถูก
***********************
ยังมีต่อนะคะ แต่กลัวโดนแบน เลยต้องติดตามไปอ่านที่
http://story.niyay.com/story_main/39885.html
ความคิดเห็น