ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ซื่อบื้อ|01
✧ซื่อบื้อ✧
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ประโยคสุดคลาสสิกที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยได้ยิน ถึงจะไม่รู้ว่าผู้เริ่มต้นประโยคนี้เป็นใคร แต่มันก็เป็นเรื่องจริง มนุษย์ต้องช่วยเหลือพึ่งพากัน แต่ก็จะมีมนุษย์บางประเภทที่ไม่เข้าสังคม ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายๆสาเหตุ
สึบากิ ยูกะ ก็เป็นหนึ่งในประเภทที่ไม่เข้าสังคม สาเหตุก็เพราะเธอเป็นคนที่พูดน้อยมาก แทบจะนับคำได้เลยทีเดียว ในหนึ่งวันเธออาจพูดไม่ถึง10ประโยคเลยด้วยซ้ำ เสียงก็เบา แถมยังชอบทำหน้านิ่งอีก
แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่คุยกับใครเลยนะ เธอก็พูดคุยบ้างเล็กน้อย(ด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง) แต่เธอไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษ ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้
"นะๆ สึบากิจัง ช่วยไปประชุมแทนหัวหน้าชมรมทีนะ" เสียงร้องของรุ่นพี่ในชมรมดนตรีพื้นเมืองดังขึ้น ทันทีที่สึบากิเปิดประตูห้องชมรมเข้ามา "แล้วทำไมถึงเป็นฉันล่ะคะ" เด็กสาวถามด้วยความไม่เข้าใจ คิ้วเรียวขมวดเป็นปม ทำให้รุ่นพี่ต้องอธิบาย
"ก็ไม่มีใครกล้าไปเลยนี่นา.....เพราะกลัวคุณฮิบาริน่ะสิ" ประโยคท้ายๆรุ่นพี่สาวแอบกระซิบเบาๆ ราวกับว่ากลัวเจ้าของชื่อจะผ่านมาได้ยิน แต่คนฟังกลับเอียงคอพลางทำหน้ามึน "ฮิบาริ...ใครหรอคะ?" ทันทีที่พูดจบประโยค สมาชิกทุกคนในชมรมก็พากันชะงักค้าง บางคนอ้าปากหวอทำตาโต บางคนก็ถึงกับทำของในมือร่วงกันเลยที่เดียว
"ส..สึบากิจัง!!!" เสียงของรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตะโกนขึ้นมาเสียงดัง จนทำให้สึบากิสะดุ้งโหยง ตามมาด้วยแรงกดทับที่หัวไหล่ "ฉันเข้าใจนะ...ว่าเธอไม่ค่อยจะใส่ใจรอบข้างสักเท่าไหร่ แต่ว่า.." เด็กสาวกลืนน้ำลาย รอฟังประโยคต่อจากนี้ "..เธอจะไม่รู้จักแม้กระทั่งคุณฮิบาริไม่ได้!!!!" เสียงตะโกนดังอีกครั้ง ทำให้เด็กสาวหลับตาปี๋
"แล้ว...ตกลงคุณฮิบาริเป็นใครหรอคะ" เธอถาม แต่คนตรงหน้ายกนาฬีกาขึ้นมาดู "อ๊ะ! ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ไปเร็วเข้า" รุ่นพี่จับเธอหมุนตัวและดันออกไปทันที ทำให้เธอต้องรีบวิ่ง พร้อมกับเสียงของรุ่นพี่ที่ดังตามหลังมา "คุณฮิบาริคือคนที่ชอบแยกไปยืนคนเดียว แล้วคนอื่นๆกลัวกันน่ะนะ! ระวังอย่าไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจล่ะ"
[ห้องประชุม]
"ขออนุญาตค่ะ" สึบากิพูดเบาๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ซึ่งไม่มีใครสนใจเธอสักคน เพราะว่าเสียงเธอเบามากกก เด็กสาวเห็นดังนั้นจึงเดินไปนั่งอย่างเงียบๆ หยิบสมุดกับปากกาขึ้นมาเผื่อต้องจดข้อมูล กะว่าจะนั่งแบบเนียนจนกระทั่งประชุมเสร็จ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะมีเสียงดังขึ้นมาก่อน
"คุณน่ะ" เสียงของผู้ชายดังขึ้น ทำให้สึบากิต้องเงยหน้าขึ้น มองซ้ายขวาก็เห็นมีแต่คนก้มหน้าตัวสั่น เธอจึงชี้ตัวเองเป็นเชิงถาม "คุณอยู่ชมรมอะไร ทำไมผมไม่เคยเห็นหน้า" เขาไม่ตอบเธอ แต่กลับถามต่อ สึบากิใช้เวลาสำรวจอีกฝ่ายเล็กน้อย เป็นผู้ชาย แยกไปยืนคนเดียว คนอื่นๆพากันกลัว ที่แขนเสื้อติดป้ายว่ากรรมการคุมกฏ...
คนคนนี้คือฮิบาริ เคียวยะ
"ฉันอยู่ชมรมดนตรีพื้นเมืองค่ะ" เธอตอบกลับไป ตราบใดที่เธอพูดดีๆ เขาคงไม่โมโหหรอก "หัวหน้าชมรมพื้นเมือง...ผมจำได้ว่าเป็นผู้ชายไม่ใช่หรอ" อีกฝ่ายหรี่ตามองอย่างจับผิด เธอจึงรีบพูดต่อทันที "ทานากะซังติดธุระ ไม่สามารถมาประชุมได้ค่ะ เลยให้ฉันมาแทน" เขาเงียบไปสักพัก ก่อนจะพยักหน้าว่าให้เริ่มประชุมได้
การประชุมผ่านไปด้วยดี หัวข้อวันนี้คือการแบ่งห้องชมรมใหม่ ซึ่งชมรมดนตรีพื้นเมืองของเธอก็ได้ใช้ห้องเดิม จึงไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่เป็นปัญหาก็คือ มีผู้หญิงคนหนึ่งโวยวายเพราะมีคนใช้ห้องรับแขก แต่สุดท้ายก็ต้องเงียบไปเมื่อรู้ว่าพวกที่ใช้คือคณะกรรมการคุมกฎ แล้วไหนจะพวกที่รวมกลุ่มกันเพื่อต่อต้านหัวหน้ากรรมการคุมกฏ แต่ก็ถูกจัดการจนเละ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
{ตอนเลิกเรียน}
หลังจากที่สึบากิกลับมาจากการประชุม เด็กสาวก็ถูกรุมถามทันทีว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ทำอย่างกับว่าพึ่งส่งเธอไปเข้าสนามรบอย่างไงอย่างงั้น เพื่อไม่ให้คนอื่นๆกังวล สึบากิจีงต้องให้พวกเขาดูว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร สุดท้ายก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
เจ้าของเรือนผมสีดาร์กช็อกโกแลต เป็นคนที่ออกมาจากห้องเป็นคนสุดท้าย "เอ๊ะ?" เธอชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นพจนานุกรมเล่มหนาวางอยู่ ท่าทางจะมีคนในชมรมลืมเอาไว้ ดังนั้นสึบากิจึงถือหนังสือเล่มนั้นไปด้วย ตอนเช้าจะได้มาถามหาเจ้าของ
ระหว่างที่กำลังจะเดินออกจากโรงเรียน จู่ๆก็มีเงาดำทาบลงมา เด็กสาวเงยหน้าขึ้น พบว่ามีพวกนักเลงมายืนล้อมเธออยู่
รีดไถเงินตอนเลิกเรียนหรอ?
"กลับบ้านคนเดียวหรอจ๊ะสาวน้อย ให้พวกพี่ไปส่งมั้ย" หนึ่งในพวกมันพูดขึ้น พลางเลียริมฝีปากอย่างน่าขยะแขยง สึบากิขมวดคิ้วเล็กน้อย
" ขอโทษนะคะ แต่ฉันต้องรีบกลับบ้าน ช่วยหลบด้วยค่ะ" ร่างบางตอบ และพยายามจะหาทางออกจากตรงนี้ แต่พวกนั้นกลับพากันหัวเราะ คนที่เหมือนจะเป็นหัวโจก ยื่นมือมาเกลี่ยแก้มของเธอเบาๆ
อี๋ เด็กหญิงคิดในใจ พลางชักสีหน้าขยะแขยงใส่ รู้สึกขนลุกจนทนแทบไม่ไหว พจนานุกรมเล่มหนาในมือถูกยกขึ้นสูง ก่อนจะฟาดอย่างแรงเข้าที่ขมับของคนตรงหน้า
ผั้วะ!
ผู้ถูกกระทำล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะพยายามลุกขึ้นมาด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด "เฮ้ย! ยัยบ้านี่ ทำอะไรของแก--อั๊ก!" พอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะลุกขึ้นมา สึบากิก็ใช้สันหนังสือฟาดเข้าที่กลางหัวอีกรอบ คราวนี้อีกฝ่ายถึงกับเซ "หนอย...พวกแก! จัดการมันสิ"
ทันทีที่ได้ยินคำสั่ง พวกลูกกระจ๊อกก็พุ่งเข้าหาเด็กสาวทันที เธอขยับหลบอย่างคล่องแคล่วและใช้หนังสือฟาดไปทีละคนๆ แต่แล้วเธอก็เสียท่าจนได้.. "อ๊ะ!" สึบากิร้องออกมาเมื่ออาวุธเพียงอย่างเดียวในมือถูกแย่งไป ในใจของเธอเริ่มตื่นตระหนก แต่สีหน้ากลับยังคงเรียบนิ่งเหมือนเดิม ดูท่าทางจะได้ใจเจ้าพวกนั้นใหญ่
"หึๆ แสบนักนะแก...พอไม่มีอาวุธแล้ว แกทำอะไรไม่ได้หรอก" เจ้านักเลงคนนั้นพูดขณะที่ถือหนังสือไว้ในมือ แต่สึบากิก็พยายามใจเย็น นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มกวาดมองไปรอบๆเพื่อหาอาวุธ จนกระทั่งเห็นท่อนเหล็กที่พื้น
"ถ้ายอมมากับพวกพี่ดีๆก็จบ-- หืม?" มันส่งเสียงร้อง เมื่อเห็นว่าเด็กสาวตรงหน้าหายไปแล้ว...
ปั้ก!! "อ๊ากกก!!! ข..ขาฉัน"
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดังขึ้นทันทีที่ถูกท่อนเหล็กฟาดเข้าที่หน้าแข้ง อาจไม่ถึงขั้นกระดูกหัก แต่ด้วยความแข็งของเหล็ก บวกกับการที่สึบากินั้นใส่แรงไปอย่างเต็มที่ ก็ทำให้ถึงกับยืนไม่ไหวเลยที่เดียว เธอเดินเข้าไปไกลหัวหน้านักเลงที่นอนกุมขาตัวเองอยู่ พร้อมกับขยับปากให้รู้ความหมายกันแค่สองคน
"ขอ .โทษ .นะ."
ก่อนจะเหวี่ยวท่อนเหล็กเข้าที่ท้ายท้อยของอีกฝ่ายอย่างแรงจนสลบไป "นี่! แกกล้าดียังไงห๊ะ" คราวนี้สึบากิเริ่มที่จะขมวดคิ้ว เมื่อพวกลูกน้องของคนที่นอนอยู่ตรงเท้าเธอวิ่งกรูกันเข้ามา ผู้ชายทั้งแก๊งรุมเด็กผู้หญิงคนเดียวเนี่ยนะ? เธอคิดในใจพลางเตรียมยกท่อนเหล็กในมือขึ้นมาอีกครั้ง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
สึบากิยืนถอนหายใจด้วยความเหนื่อย อาวุธในมือถูกโยนทิ้งไป ก่อนที่เด็กสาวจะเดินข้ามร่างของเหล่านักเลงเพื่อไปหยิใหนังสือและกระเป๋าของตัวเอง เธอปัดฝุ่นตามตัวและลูบผมที่ยุ่งจนเสียทรง วันนี้เธอกลับบ้านเย็นแล้ว เดี๋ยวคุณแม่จะเป็นห่วง
อะไร? อย่ามามองเธอแบบนั้น เหมือนว่าเป็นอันธพาลที่มีเรื่องชกต่อยประจำสิ เรื่องแบบนี้น่ะมันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆสักหน่อย อีกอย่างตัวเธอก็ไม่ได้อยากมีเรื่องเลยสักนิด เธอก็อยากจะอยู่แบบปกติสุขนั่นแหล่ะ แต่คุณพ่อสอนไว้ว่าให้ป้องกันตัว เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆนี่นะ กับนักเลงทั้งโขยงแบบนั้น ถ้ามันจับเธอไปทำมิดีมิร้านจะทำยังไง เธอก็ต้องป้องกันตัวน่ะสิ
เพราะงั้นแล้วก็ช่วยลืมๆเรื่องนี้ไปทีนะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น