คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : PART1-agitation-
-ไอ้ต้าวของราชา-
[Part1 agitation ]
วันนี้เป็นวันที่ไอโกะต้องเข้าเรียนที่คาราสึโนะ และเพื่อหลีกเลี่ยงการบังเอิญเจอกับโทบิโอะคุง เธอจึงต้องไปโรงเรียนสายหน่อย ประมาณ7โมงกว่าๆ เพราะว่าพวกชมรมกีฬามักจะมาซ้อมกันตั้งแต่เช้า หญิงสาวเดินไปที่ห้องพักครูเพื่อยื่นใบสมัครชมรม
"ขอโทษนะคะ อาจารย์ทาเคดะอยู่หรือเปล่า" ไอโกะเปิดประตูเข้าไปแล้วถาม สักพักอาจารย์ใส่แว่นคนหนึ่งก็เดินออกมา "อาจารย์เองครับๆ มีอะไรหรือเปล่า" เขาดันแว่นตัวเองขึ้นเล็กน้อย มือก็ปาดเหงื่อบนใบหน้าเล็กน้อย
ไอโกะหยิบใบเอกสารออกมาแล้วส่งให้อาจารย์ทาเคดะ วาดรอยยิ้มบนใบหน้าอย่างสดใส "หนูจะสมัครเข้าชมรมวอลเลย์บอลชายน่ะค่ะ อาจารย์เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาสินะคะ" หญิงสาวกล่าวด้วยสายตาที่เป็นประกาย
"อ่ะ! ใช่แล้วล่ะ จะสมัครเข้าชมรมสินะ ดีเลยๆ ชิมิสึก็บอกว่า อยากได้คนมาข่วยงานอยู่พอดีเลยล่ะ" อาจารย์ทาเคดะรับเอกสารไปเซนต์ แล้วส่งกลับคืนมา "ขอบคุณค่ะ แล้ว—เริ่มวันนี้เลยมั้ยคะ" ไอโกะรับใบสมัครชมรมคืนมาแล้วเก็บเข้ากระเป๋า "อือ! ตอนเลิกเรียนก็มาที่โรงยิมได้เลยนะ ตอนนี้ไปเข้าเรียนได้แล้วล่ะ" พูดจบไอโกะก็ก้มหัวให้อาจารย์ ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องเรียน
"เงียบๆหน่อย วันนี้มีนักเรียนย้ายเข้ามาใหม่—มาแนะนำตัวสิ" เสียงเจี้ยวจ้าววุ่นวายในห้องเรียนเงียบลงทันทีที่อาจารย์ประจำชั้นพูดออกมา ครืดดด ประตูถูกเลื่อนเปิดออก เผยให้เห็นหญิงสาวในชุดนักเรียนคาราสึโนะ ผมสีขาวราวหิมะปล่อยยาวไปถึงกลางหลัง ดวงตากลมโตสีอความารีนมองไปรอบๆห้องอย่างสนใจ ก่อนจะมาหยุดที่หน้าห้อง
ใบหน้าขาวเนียนวาดรอยยิ้มอันสดใสออกมา โค้งตัวเล็กน้อย แล้วน้ำเสียงที่หวานใสราวกับกระดิ่งก็ได้เอ่ยออกมา" ฮารุมิ ไอโกะ—พึ่งย้ายมาจากเกาหลีค่ะ ขอฝากเนี้อฝากตัวด้วยนะคะ" หลังจากที่แนะนำตัวเสร็จ ผู้คนม่วนใหญ่ก็พากันหน้าแดงแล้วคิดว่า น่ารักจัง! จากนั้นไอโกะก็เดินไปนั่งที่ตัวเองตามที่อาจารย์บอก แล้วชั่วโมงเรียนช่วงเช้าก็เริ่มขึ้น
เมื่อถึงช่วงพักกลางวัน โต๊ะของไอโกะก็ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คน ใบหน้าหวานยิ้มตอบคำถามเพื่อนๆไปทีละคน "ฮารุมิซัง จะย้ายมาอยู่ที่ญี่ปุ่นแบบถาวรเลยมั้ยอ่ะ" เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาถาม "อืมมม ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ แต่คิดว่าถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไรที่บ้าน ฉันก็จะอยู่ที่นี่แบบถาวรเลยล่ะค่ะ" เจ้าของเรือนผมสีหิมะตอบ มือเรียวก็หยิบกล่องข้าวออกมา เธอเลือกที่จะกินข้าวกล่องแทนการไปโรงอาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอกับโทบิโอะคุง
"นี่ๆ ผิวของไอโกะจังเนี่ย...ทั้งขาวแล้วก็เรียบเนียนเลยนะ--แถมยังนุ่มด้วยอ่ะ! มีเคล็ดลับอะไรหรอ" หญิงสาวตัวเล็ก ผมสั้นสีเหลืองบอกพลางยกแขนของไอโกะขึ้นมาลูบๆ เจ้าของมือก็หัวเราะคิกคักเบาๆ สีหน้าของเพื่อนคนนี้ดูตลกมากๆเลยล่ะ "ก็ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรหรอกค่ะ แค่ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี——ปกติแล้วฉันเป็นพวกไม่ค่อยชอบออกจากบ้านตอนอากาศร้อนน่ะค่ะ ว่าแต่นะ...พวกเธอไม่ไปกินข้าวกลางวันกันหรอ" เมื่อไอโกะพูดแบบนั้น เหล่าเพื่อนๆที่รุมเกาะโต๊ะของเธอ ก็พากันวิ่งไปโรงอาหารด้วยความเร็วแสง
ไอโกะส่ายหน้าน้อยๆ แล้วเปิดกล่องข้าวสีม่วงพาสเทลตรงหน้าออก ด้านในมีข้าวห่อไข่สีเหลืองน่ากิน มีรอยยิ้มที่วาดด้วยซอสมะเขือเทศ นอกจากนั้นก็ยังเต็มไปด้วยผัก เธอชอบกินผักมากๆเลย หญิงสาวไม่รอช้า ใช้ช้อนตักข้าวห่อไข่เข้าปาก รสชาติของมันทำให้เธอรู้สึกภูมิใจในฝีมือตัวเองมากๆ ใช่แล้ว...ข้าวกล่องนี้น่ะ เธอเป็นคนทำเอง ตอนอยู่ที่เกาหลีเธอฝึกทำอาหารกับคุณแม่บ่อยๆ จุดประสงค์หลักก็คือ ได้ทำอาหารอร่อยๆให้แฟนของเธอกินไงล่ะ
จนกระทั่งหมดเวลาพักกลางวัน ไอโกะเก็บกล่องข้าวลงกระเป๋า แล้วหยิบหนังสือเรียนขึ้นมา เพื่อนๆก็พากันทยอยเข้าห้อง รอสักพัก อาจารย์ก็เข้ามาสอน หัวหน้าห้องสั่งทำความเคารพ จากนั้นก็เริ่มเรียนกัน บทเรียนดำเนินการไปเรื่อยๆ บางครั้งไอโกะก็ถูกอาจารย์เรียกถาม ซึ่งมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่สอบได้คะแนนสูงตลอดแบบเธอหรอก
เวลาเรียนช่วงบ่ายผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงเวลาเลิกเรียน ไอโกะต้องไปที่โรงยิม แต่เธอดันไม่รู้ทางเนี่ยสิ หญิงสาวเดินออกมาจากห้องเรียน แล้วกำลังจะถามทางกับเพื่อน แต่ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกเสียก่อน "นั่นมันคิโยโกะซังนี่ ดาวเด่นของโรงเรียนมาทำอะไรที่ตึกเด็กปีหนึ่งกันนะ" ไอโกะหันไปดูก็พบกับพี่สาวคนหนึ่ง เธอมีผิวขาวสวย ผมสีดำยาวประมาณไหล่ ดวงตาสีเทาภายใต้กรอบแว่นบวกกับใบหน้านิ่งๆของเธอนั้น ทำให้หญิงสาวดูเย็นชา รวมถึงไฝที่มุมปาก ดูรวมๆแล้วมีเสนห์เอามากๆ เธอคนนั้นทำท่าทีเหมือนกำลังหาใครสักคนอยู่ และเมื่อสบตากับไอโกะ เธอก็เดินตรงเข้ามาทันที
"สวัสดีจ่ะ ฉันชื่อชิมิสึ คิโยโกะ เป็นผู้จัดการชมรมวอลเลย์บอลชาย เธอคือคนที่มาสมัครเป็นผู้จัดการสินะจ๊ะ" คิโยโกะซังพูดพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ทำเอาคนแถวนั้นหน้าแดงไปตามๆกัน ขนาดไอโกะเป็นผู้หญิงยังเขินเลย "อ๊ะ! ..ฮารุมิ ไอโกะค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะรุ่นพี่" ไอโกะพูดตอบแล้วโค้งตัวให้ คิโยโกะกุมมือเด็กสาวขึ้นมา "ขอบคุณมากนะ ฉันกำลังอยากได้คนช่วยอยู่พอดีเลย ถ้ามีเธอมาช่วยก็คงดีขึ้นเยอะเลยล่ะนะ" ไอโกะพยักหน้าน้อยๆ จากนั้นคิโยโกะซังก็พาเธอไปที่โรงยิมทันที
-โรงยิม-
ในขณะที่ทุกคนกำลังซ้อมกันอยู่ อาจาร์ยทาเคดะก็เดินเข้ามาพร้อมกับผู้จัดการทีม ด้านหลังของคิโยโกะซังมีผู้หญิงผมสีขาวอยู่ด้วย ซึ่งดูคุ้นมากๆในสายตาของคาเกยามะ โทบิโอะ เขาเพ่งมองร่างบางที่หลบอยู่ข้างหลัง ทั้งรูปร่าง ความยาวของผม สีผิว ท่าทาง มันช่างคล้าย--ไม่สิ เหมือนแฟนของเขาเลย และดูเหมือนอาจารย์ทาเคดะจะสังเกตุเห็นสีหน้าของเขา "ทุกคน ตอนนี้ปี1ห้อง5มีนักเรียนย้ายมาใหม่จากเกาหลี แล้วเธอก็สมัครเป็นผู้จัดการชมรมของเราด้วยล่ะ...อ่ะ! มาแนะนำตัวให้ทุกคนหน่อยสิ"
มาจากเกาหลีงั้นหรอ...คงไม่ใช่หรอกมั้ง คาเกยามะคิดด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น แต่แล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง เพราะบุคคลที่มาใหม่นั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น..."안녕하세요* ฮารุมิ ไอโกะ ปี1ห้อง5ค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะ" นั่นมันแฟนของเขาตัวจริงเสียงจริงเลยนี่! มาทำอะไรที่นี่กัน แล้วทำไมถึงไม่บอกล่ะว่าจะมาญี่ปุ่นน่ะ จะพูดตอนนี้ก็ไม่ได้ซะด้วยสิ เดี๋ยวไม่งั้นคนอื่นเขาจะสงสัยกันหมด
ฮารุมิ ไอโกะ ลอบมองแฟนตัวเองเล็กน้อย โทบิโอะคุงทำหน้าเหมือนเป็ดอีกแล้ว—ท่าทางจะหงุดหงิดมากๆเลย เธอต้องจำใจทำเป็นไม่รู้จักเขา ทั้งๆที่ในใจอยากเดินไปกอดด้วยซ้ำ แต่คงไม่ดีสักเท่าไหร่ "สาวเกาหลีล่ะ!! น่ารักจัง" หนุ่มหัวเกรียนวิ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว พร้อมกับชายผมสีน้ำตาลตัวเตี้ย ที่มีปอยผมด้านหน้าเป็นสีเหลืองดูแปลกตาดี แต่ถ้าเธอยืนอยู่เฉยๆคงไม่ปลอดภัยแน่ๆ!
ร่างบางรีบเบี่ยงตัวหลบทันที ทำให้สองคนนั้นล้มหน้าคะมำแถมไถลไปกับพื้นโรงยิม "ขอโทษแทนสองคนนั้นด้วยนะ เวลาเห็นผู้หญิงทีไรก็เป็นแบบนี้แหละ" รุ่นพี่ผมสีเทาที่ดูท่าทางจะปลอดภัยที่สุด บอกกับเธอแบบนั้น "ค่ะ.." ไอโกะตอบด้วยสีหน้าปลงๆ ดูเหมือนว่าการเป็นผู้จัดการทีมจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้วสิ จากนั้นทุกคนก็แนะนำตัวกัน ใช้เวลาไม่นานก็สนิทกันแล้ว "ฮารุมิจัง ไปช่วยฉันหน่อยได้มั้ย" รุ่นพี่คิโยโกะเรียกเธอให้ตามไป ไอโกะจึงรีบวิ่งไปหาทันที
[Harumi Aiko part]
ระหว่างที่ฉันช่วยคุณผู้จัดการคนสวยอย่างรุ่นพี่คิโยโกะ ในการถือกระติกน้ำเกลือแร่และผ้าเย็นไปที่โรงยิม ฉันก็ลองถามพี่เขาดูว่า จะมีการแข่งอะไรอีกหรือเปล่า จึงได้คำตอบมาว่าจะมีการแข่งกับโรงเรียนเนโกะมะ รู้สึกเหมือนจะเรียกว่า...สงครามกองขยะ....เอ่อออ ใครเป็นคนคิดชื่อล่ะเนี่ย
"ขอบใจมากนะ เธอไปนั่งก่อนก็ได้" รุ่นพี่คิโยโกะบอก ฉันจึงพยักหน้าและไปเอาโทรศัพท์ของตัวเองมาดู หืม...? มีคนส่งข้อความมา จากใครกันนะ....
Kageyama : เลิกเรียนแล้วเจอกันด้วย 17:34น.
"......." โอ้ ตายแล้ว! ลืมไปโทบิโอะคุงได้ไงเนี่ย เขาต้องหงุดหงิดมากแน่ๆเลย จากประสบการณ์ที่เคยอยู่โรงเรียนม.ต้นเดียวกัน ฉันขอเอาความสวยของตัวเองเป็นประกันเลย ว่าโทบิโอะคุงตอนโกรธน่ะ น่ากลัวกว่าแมงมุมยักษ์ที่กระโดดเกาะหน้าฉันเมื่อตอนประถมซะอีก! ว่าแต่ตอนนี้โทบิโอะคุงกำลังทำอะไรอยู่นะ
ท..โทบิโอะกำลังมองอยู่!! เผลอสบตาไปแล้วด้วย พระเจ้า...นี่ฉันไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อนเลยนะ บรรยากาศมาคุรอบตัวเขาทำให้ฉันรู้สึกหนาวชะมัด แต่จะโทษโทบิโอะคุงคนเดียวไม่ได้ มันก็ความผิดของฉันส่วนนึง ที่จู่ๆก็โผล่มาแบบไม่บอกล่วงหน้า ขอโทษนะโทบิโอะคุง ฮึกT^T
.
.
.
.
.
.
.
.
[เวลา 18:35]
ทำไมเวลามันผ่านไปไวจังนะ... ฉันยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับโทบิโอะคุงเลย!! "ฮะๆ" ฉันได้แต่ขำแห้งเบาๆอย่างยอมรับชะตากรรม สายตาก็มองรุ่นพี่ไดจิที่กำลังล็อกประตูโรงยิมอยู่ เดาได้เลยว่าหน้าฉันต้องซีดแน่ๆ "กลับบ้านกันดีๆล่ะ พรุ่งนี้อย่าลืมมาซ้อมแต่เช้าด้วย" กัปตันชมรมหันมา บอกเหล่าสมาชิก ซึ่งทุกคนตอบรับแล้วเตรียมตัวกลับบ้านใครบ้านมัน "แล้ว...บ้านของฮารุมิจังอยู่ไหนหรอ" รุ่นพี่สึกะเดินมาสะกิดฉันที่ยืนนิ่งอยู่
"อ..เอ่อ..คือว่า" ฉันแอบเหลือบตามองโทบิโอะคุงเล็กน้อย แล้วก็เห็นว่าโทบิโอะก็มองมาเหมือนกัน จากนั้นเขาก็เดินออกไป ถ้าฉันไม่ตามไปล่ะก็ เขาคงจะต้องโมโหกว่าเดิมแน่ๆ "คือว่า...ฉันต้องแวะไปทำธุระก่อนน่ะค่ะ แล้วก็ไปทางเดียวกับเขาด้วยค่ะ" ฉันตอบรุ่นพี่สึกะด้วยน้ำเสียงที่ดูสดใส(แต่ในใจนี่อยากจะร้องไห้มาก) พร้อมกับชี้ไปทางโทบิโอะคุงที่เดินนำไปไกลแล้ว "อ๋อ..ถ้างั้นก็ไปพร้อมคาเกยามะคุงเลยก็แล้วกันนะ ฉันกำลังกังวลอยู่เลยว่าเธอจะกลับบ้านคนเดียวได้หรือเปล่า ยังไงก็กลับดีๆล่ะ"
ฉันกล่าวขอบคุณรุ่นพี่สึกะแล้ววิ่งตามโทบิโอะคุงไปทันที รุ่นพี่คนนี้ทำให้ฉันนึกถึงพระเอกซีรี่ย์เกาหลีส่วนใหญ่ ดูอบอุ่นมั่กๆเลยแหละ ถ้าพวกเพื่อนของฉันมาเจอล่ะก็ คงจะเรียกรุ่นพี่ว่า'อปป้า'แน่ๆเลย ส่วนโทบิโอะคุงที่เดินนำหน้าฉันอยู่ ก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด บรรยากาศในตอนนี้ตกอยู่ในความเงียบ แต่ไม่รู้ทำไม รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในหนังสยองขวัญเลยแฮะ ฉันเองก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาด้วยสิ กลัวว่าจะพูดอะไรไม่เข้าหูคนด้านหน้าเข้า.. แง—เอาโทบิโอะคุงแบบที่ขี้โวยวายกลับมาได้มั้ย เงียบๆแบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ววว
ปึก! "โอ๊ะ!?" จู่ๆโทบิโอะคุงก็หยุดเดินไปเฉยๆ ทำให้ฉันชนแผ่นหลังของเขาเต็มๆ เจ้าของเรือนผมสีดำขลับ ค่อยๆหันกลับมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เล่นเอาฉันแทบจะร้องไห้ จะว่าน่ากลัวก็ใช่ แต่แฟนฉันโครตหล่ออ่ะ! "ท..โทบิโอะคุง..." ฉันเอ่ยชื่อคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา เมื่อเห็นว่าใบหน้าอันเรียบเฉยแต่ทว่าภายในดวงตาสีนิลนั้นกลับเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ๆ นี่ฉันจะร้องไห้จริงๆแล้วนะ!
แต่แล้วฉันก็รู้สึกได้ถึงแรงกระชากที่แขน ใช่แล้วค่ะ..โทบิโอะคุงเขากระชากแขนฉันแล้วก็ดันตัวฉันให้ชิดกำแพง โดยที่แขนของเขาก็ยันกำแพงไว้ เดี๋ยวก่อน!....ไอ้ท่าแบบนี้ภาษาญี่ปุ่นมันเรียกว่าอะไรนะ? 'คาเบะด้ง'ใช่มั้ย นี่ฉันกำลังถูกทำคาเบะด้งใส่อยู่ใช่มั้ยคะ! แต่ว่านะ...สถานการณ์ในตอนนี้ ฉันควรจะเขินดีมั้ยอ่ะ คือการที่โทบิโอะคุงเอาหน้าหล่อๆนั่นมาใกล้เนี่ย มันก็ทำให้ฉันใจเต้นแรงนะ แต่ว่าพอนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกโกรธอยู่ ก็รู้สึกใจเต้นแรงด้วยความกลัว เอ๊ะ? นี่ฉันเขินหรือกลัวกันแน่เนี่ย...
"..มีอะไรจะพูดมั้ย.." ในที่สุดเขาก็เอ่ยปากออกมา แน่นอนว่าเพิ่มความกดดันอีก30% ฉันทำแค่หลบสายตาและพูดคำตอบที่สมองของฉันมันคิดได้ตอนนี้ "ขอโทษค่ะ..." ทำไมกันนะ....ทั้งๆที่ตอนเรียนหนังสือ สมองฉันสามารถคิดได้อย่างรวดเร็วแท้ๆ แต่ตอนนี้สมองของฉันมันกลับว่างเปล่าไปหมด ป๊าคะ ม๊าคะ ถ้าหนูถูกแฟนตัวเองฆ่าล่ะก็...ช่วยทำป้ายหลุมศพเป็นสีรุ้งให้ด้วยนะคะ "ขอโทษเรื่องอะไร" โทบิโอะคุงพูดขึ้นอีกครั้ง พลางเอียงคอเล็กน้อย
"ขอโทษที่ไม่บอกล่วงหน้าว่าจะมา..ขอโทษที่โกหก...ค่ะ.." ฉันตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาจนแทบจะเลือนหายไปกับสายลม และลองเหลือบตามองคนตัวสูงเล็กน้อย ซึ่งเขาก็มองลงมาเหมือนกัน แต่ว่าแววตาของโทบิโอะคุงตอนนี้ดูอ่อนลงกว่าเมื่อกี้แล้ว "ยังเหลืออีกอย่างนึง" เขาพูดอีกครั้ง ทำให้คราวนี้ฉันเป็นฝ่ายเอียงคอด้วยความสงสัย "เธอผิดที่ปล่อยให้ผู้ชายคนอื่นมาจับเนื้อต้องตัวง่ายๆด้วย" อ่า...อย่างนี้นี่เอง แสดงว่าเขาหึงฉันที่ทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายใช่มั้ย
"ฉันผิดไปแล้ว...ขอโทษจริงๆนะ" ฉันช้อนตามองโทบิโอะคุง ไม่ได้จะอ้อนหรืออะไรหรอกนะ แต่ฉันมันตัวเตื้ยไง แล้วโทบิโอะคุงก็อยู่ใกล้มาก ฉันเงยหน้าไม่ถนัด ว่าแต่...เขาจะให้อภัยฉันมั้ยนะ โทบิโอะคุงถอนหายใจแรงๆทีนึง แล้วก็เงียบไป น..นี่เขายังไม่หายงอนจริงๆสินะ ทำไงดีล่ะเนี่ย ถ้างั้นก็เหลือวิธีง้อ อีกแค่วิธีเดียวที่ฉันคิดได้แล้วล่ะ "นี่ โทบิโอะคุง" ฉันปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติแล้วเรียกเขา และเขาก็เลิกคิ้วเป็นเชิงว่าทำไม เอาล่ะ...ถึงนี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันทำแบบนี้ก็เถอะ แต่ถ้าเพื่อให้โทบิโอะคุงหายงอนล่ะก็ ฉันจะทำ!
"ไปกินข้าวเย็นที่ห้องฉันมั้ย?"
*안녕하세요=คำทักทายภาษาเกาหลี
------❤------
1คอมเม้น=1ล้านกำลังใจในการเขียนต่อ
ความคิดเห็น