ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Bungo Stray Dogs] นางฟ้าแห่งคำสาป

    ลำดับตอนที่ #25 : Episode 16 สดับลมขับขาน [Part 1]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 365
      40
      25 ส.ค. 62

    B
    E
    R
    L
    I
    N
     Tiny Hand 

    [ มุมมองที่สาม ]

    ภายใน Haruka Concert ไร้ซึ่งผู้คนอื่นใดนอกจากผู้มีพลังพิเศษทั้งสาม สายลมและหมอกขาวอันเบาบาง เหล่าแฟนคลับที่พร้อมใจรับชมฮารุกิในคราบไอดอลหญิงนามว่าฮารุกะถูกกลืนกินต่อหน้าต่อตานักสืบสาวกับมาเฟียหนุ่มโดยมิอาจรู้ได้ว่าพวกเขาอยู่ ณ หนแห่งใด

    ยูกิยืนสังเกตรอบซ้ายขวาเพื่อพยายามหาวิธีการเข้าบุกหรือตั้งรับอีกฝ่ายอย่างใจเย็นจนพบว่า อาคารนี้ไม่มีอะไรพิเศษมากมายเหมือนคอนเสิร์ตทั่วไป แต่สิ่งที่เธอสังเกตเห็นมากกว่านั้นคือ โซนยืนรับชมจากชั้นสองยื่นโอบรอบครึ่งวงกลมซึ่งมีประตูกำลังถูกปิดล็อกสนิท ราวกับเป็นพื้นที่สำหรับเหล่า VIP ก็ไม่ปาน

    “...”

    ฟิ้วว~

    เมื่อได้ยินเสียงสายลมที่ยังคงพัดโบกดังวนทั่วบรรยากาศ รวมถึงรอยยิ้มกว้างของเด็กหนุ่มแต่งหญิงผู้เป็นสมาชิกองค์กรแบล็คโคลเวอร์ อุณหภูมิรอบตัวก็ค่อยๆ เย็นลงจนเหลือต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียสเพียงนิดเดียว

    มาจัดการเจ้าบ้านี่ให้จบไวๆ กันเถอะ ยูกิ

    อื้ม...

    เอาล่ะนะ...พี่สาว!!”

    ว่าจบทางฮารุกิก็เริ่มเปิดศึกคนแรกพร้อมดีดนิ้วสั่งให้เหล่านักดนตรีบรรเลงเพลง End Time ช่วยซัพพอร์ตแล้วพุ่งตัวเข้าหาอีกฝ่าย ซึ่งวิธีสู้ของเขาเป็นรูปแบบหมัด-ลูกเตะผสานพลังพิเศษคล้ายคลึงกับคานาเอะ เพียงแต่มีความได้เปรียบสูงกว่าเท่านั้นเอง

    อึ่ก...ยูกิรีบดีดนิ้วซ้ายสั่งให้เหล่าอสรพิษด้านดีเตรียมพร้อมปัดป้องและช่วยสู้ แต่ในเสี้ยววินาทีที่มันฟาดบนท่อนแขนนั้น จู่ๆ ร่างกายของเด็กหนุ่มตรงหน้าก็แตกสลายกลายเป็นสายหมอกสีขาวแทน ...!?”

    ผลจากพลังพิเศษงั้นเหรอ...ถ้างั้น...

    วิ้งง~

    ชูยะที่มองเหตุการณ์เมื่อครู่พยายามใช้พลังแรงโน้มถ่วงของตัวเองตรวจหาศัตรูด้วยออร่าสีแดงพลางยืนอยู่ข้างนักสืบสาวไม่ยอมก้าวเท้าออกห่าง แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถค้นตัวท่ามกลางหมอกสีขาวเจอเลย

    บ้าจริง...ซ่อนตัวเก่งจังนะแก

    ว่าไงล่ะครับ พี่ชาย หาตัวผมไม่เจอล่ะสิ~

    เสียงพูดของฮารุกิดังกึกก้องรอบภายในอาคารคอนเสิร์ตจนมิอาจระบุตำแหน่งของเจ้าตัวได้ง่าย บทเพลงอันเต็มไปด้วยเสียงเปียโน ไวโอลินยังคงบรรเลงร่วมกับเครื่องลั้นช์แพ็ด (Launchpad) ที่มีเสียงประกอบไม่มีขาดสาย

    จากนั้น...

    ...!? ยูกิ! ด้านหลัง!!”

    “...!!” ยูกิหันหลังตามเสียงเรียกเตือนของชูยะจนกระทั่งร่างกายเธอปลิวออกตามแรงผลักบนไหล่ประมาณไม่ถึงสามเมตร เธอล้มกลิ้งไม่กี่ตลบแล้วค่อยรีบยืนตั้งหลักขึ้นใหม่พร้อมหันไปเจอมาเฟียร่างนักเรียนสาวที่ช่วยรับหมัดเด็กชายเอาไว้

    พี่ชายเนี่ยชอบขัดขวางผมจริงๆ เลยนะ อุตส่าห์จะเล่นกับพี่สาวทั้งที

    แล้วไงล่ะ...เจ้าตัวเปี๊ยก เป็นเด็กเป็นเล็กนิดเดียวหัดเล่นกับเพื่อนรุ่นเดียวกันซะบ้าง

    รุ่นเดียวกัน...? ของแบบนั้นมันจะไปมีได้ยังไงล่ะ! ในเมื่อผมไม่เคยมีเพื่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว!!”

    สิ้นเสียงจากสมาชิกแบล็คโคลเวอร์ตัวน้อย สายลมยิ่งพัดโบกแรงยิ่งกว่าเดิมโดยส่งผลให้พลังกายเพิ่มขึ้นอีก เขาดีดตัวออกห่างไม่ถึงสองเมตรแล้วกำหมัดเข้าเตรียมสู้อย่างจริงจัง มาเฟียผมส้มเห็นท่าไม่ดีนักจึงเริ่มใช้หมัดแรงโน้มถ่วงเข้าต่อต้าน

    ฟิ้วว~

    แต่พอทั้งสองอย่างกระทบกัน สายลมรอบข้างถูกรวมกลุ่มกันเป็นพายุหมุนตรงหน้าฮารุกิ เขาดีดนิ้วสั่งให้นักเปียโนดีดเครื่องเล่นรัวขึ้นช่วยซัพพอร์ตพลังพิเศษของตน ยูกิและชูยะต่างกลิ้งตัวหลบหลีกพายุที่พัดเข้าในแนวเส้นตรงจนทำลายทางเข้าตัวอาคารแห่งนี้

    ปึง!!

    ชิ...แย่ยิ่งกว่าเดิมอีกเหรอเนี่ย ระวังด้วยล่ะ ยูกิ

    อึ่ก...

    ทั้งสองคนออกตัววิ่งแยกคนละทางเพื่อเข้าประชิดอีกฝ่าย มาเฟียหนุ่มใช้พลังแรงโน้มถ่วงกระโดดขึ้นไปยังโซนรับชมชั้นสองฟากซ้ายในขณะที่นักสืบสาวขอให้แคทเชอร์พุ่งไปงับราวจับดีดตัวขึ้นอีกโซนหนึ่ง

    เอาล่ะ...ลองเดาดูซะสิว่าตัวผมจริงๆ กำลังสู้กับใคร!!”

    ต่อมาพวกเขาจึงต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มหมอกสีขาวในรูปลักษณ์ฮารุกิที่เพิ่มขึ้นจากการสีไวโอลิน เสียงพูดท้าทายจากอีกฝ่ายยังคงดังกึกก้องรอบตัวอาคารเพื่อพรางตัวท่ามกลางกลุ่มหมอกนี้

    หมับ!

    “...!!”

    ในจังหวะนั้น ยูกิสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบอัดแน่นบริเวณแขนข้างขวาคล้ายถูกจับบีบก่อนที่จะถูกเหวี่ยงตัวออกจากโซนรับชม เธอพยายามหมุนตัวแลนดิ้งลงบนพื้นให้ปลอดภัยแล้วค่อยเริ่มสู้ในระยะประชิด

    ฮึ่ด...!”

    หญิงสาวออกตัววิ่งมุ่งหน้าเข้าหาคู่ต่อสู้โดยยังมีการออมมืออยู่ในช่วงแรกเพื่อลองเชิง พวกเขาต่างดวลหมัดสลับกับบล็อกหรือเบี่ยงตัวหลบจากการโจมตีจนต่อมาเธอเริ่มยกแข้งขึ้นฟาดลงเหนือหัวก่อนที่จะถูกจับขาเหวี่ยงออกไปอีกครั้ง

    ฮ่ะๆๆ เริ่มสนุกซะแล้วสิเนี่ย

    ...!” ยูกิได้ยินเสียงฮารุกิดังรอบๆ แล้วม้วนตัวแลนดิ้งลงพื้นได้อย่างสวยงามพลางสั่งให้แคทเชอร์ช่วยซัพพอร์ตด้วยการเหวี่ยงตัวเองขึ้นลงซ้ายขวาดั่งอาวุธแส้

    ฮืม...ใช้อสรพิษเป็นอาวุธแล้วสินะ ยูกิ

    ชายหนุ่มพอร์ตมาเฟียที่สังเกตเห็นพอดีเกิดไอเดียต่อสู้อีกแบบหนึ่งพร้อมกระโดดขึ้นกำหมัดขวาต่อยลงพื้นที่ยืนรับชมคอนเสิร์ตชั้นสอง ออร่าสีแดงปรากฏรอบตัวและควบคุมให้เหล่าเศษปูนรวมกันเป็นกระบองยาวเตรียมใช้ปะทะกลุ่มหมอกสีขาวของฮารุกิ

    ไม่เลวดีนี่นา...พวกพี่ทั้งสองคน งั้นผมเองก็ขอร่วมด้วยไม่ให้เสียเปรียบละกัน

    วินาทีที่เสียงของเด็กชายร่างไอดอลสิ้นสุด ตัวเขาตรงหน้ายูกิเริ่มดีดตัวออกห่างไปยืนชิดเวที เหล่ากลุ่มหมอกรอบกายถูกแปรสภาพรวมกันเป็นรูปร่างหน้าตาของตัวเองนับสิบ

    บ้าเอ๊ย...ทำตัวน่าหงุดหงิดจริงๆ เลย...ชูยะจับกระบองยาวไว้แน่นแล้วจ้องมองด้วยความหงุดหงิดไม่น้อยที่อีกฝ่ายเล่นได้ไม่แฟร์เท่าไหร่นัก

    ฮืม...ขืนสู้ต่อแบบนี้คงจะเหนื่อยแย่เลย มาพักฟังเพลงใหม่ๆ จากพวกผมสักหน่อยดีมั้ยครับ ฮารุกิและร่างแยกอื่นๆ ยืนเผชิญหน้าเรียงแถวพลางหัวเราะด้วยความรู้สึกสนุกที่ได้เล่นกับรุ่นพี่สองคน

    ฮารุกิ...ยูกิไม่รับฟังคำพูดเมื่อครู่ของเด็กน้อยร่างไอดอลพร้อมเปิดปากถามสิ่งที่ต้องการรู้คำตอบให้ได้ ทำไมนายถึงต้องก่อเหตุแบบนี้กันล่ะ...เป็นแค่เด็กเล็กเหมือนอยู่ประถมด้วยซ้ำ

    “...”

    ฟิ้วว~

    พี่สาว...ก็ผมรู้สึกเหงานี่นาฮารุกิตอบกลับไปหลังจากสายลมบางเบาพัดโบกตรงหน้าเขาเอง

    เหงา...? เหงางั้นเหรอ...อย่ามาล้อเล่นกันสิเฟ้ย! ใครเขาจะตามก่อคดีให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะเรื่องแค่นี้ล่ะ!! ไร้สาระ!! ไร้เหตุผลสิ้นดี!!” มาเฟียผมส้มแสดงท่าทางโมโหใส่เด็กตรงหน้าอย่างชัดเจนจนทำให้ยูกิแอบรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย

    ชูยะ...

    แน่นอน...เขารู้ดีอยู่แล้วว่าต้องมีเหตุผลบางอย่างซุกซ่อนไว้นอกจากเรื่องค่าหัวของเพื่อนสาวผมดำหรือการเล่นสนุกกับความทุกข์ทรมานของคนอื่น

    และเขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนทำลายเมืองโยโกฮาม่าแห่งนี้เด็ดขาด

    โธ่...แย่จัง พี่ชายไม่ยอมรับฟังเหตุผลของผมเลยจริงๆฮารุกิพูดด้วยความรู้สึกตัดพ้อพร้อมถอนหายใจเบาๆ แล้วค่อยเริ่มพูดต่อ งั้นก็ช่วยไม่ได้...จะยอมบอกความจริงสักหน่อยละกัน

    “...”

    เคยได้ยินเรื่องหมอกฆ่าตัวตายมาก่อนได้ล่ะครับ...พี่สาว

    หมอก...ฆ่าตัวตาย...?” ยูกิรู้สึกงุนงงและไม่คุ้นหูเพราะไม่เคยประสบพบเจอมาก่อนในชีวิต จนต่อมาชูยะก็เริ่มอธิบายเกี่ยวกับชื่อเรียกหมอกเมื่อครู่

    หมอกฆ่าตัวตาย...เป็นหมอกที่ดึงเอาพลังพิเศษออกจากเหล่าผู้คนมีพลังนั้นๆ แล้วใช้มันสังหารพวกเขาเองราวกับฆ่าตัวตาย คนธรรมดาอาจจะได้รับผลเพียงแค่หายตัวไปบ้าง แต่นั่นเป็นอันตรายมากสำหรับคนมีพลังพิเศษอย่างพวกเรา

    บ้าน่า...ชูยะ...อย่าบอกนะว่านาย...

    อ่า...พอร์ตมาเฟียกับกลุ่มนักสืบบุโซเคยเผชิญหน้ามาก่อน แต่ก็นะ...ถ้าไม่ได้ไอ้เบื๊อกดาไซนั่น...ป่านนี้พวกเราคงโดนพลังพิเศษของตัวเองฆ่าตายแล้วล่ะ

    ฮ่ะๆๆ ว่าแล้วเชียว...คดีของพวกพี่ฟิโอดอร์ ดอสโตเยฟสกีเนี่ย...ช่างน่าตราตรึงใจจริงๆ แน่นอนว่าผมชอบมาก...ชอบจนอยากลองสานต่อเลยล่ะฮารุกิหัวเราะร่าเบาๆ เพราะมีคนเคยประสบพบเจอเหตุการณ์เลวร้ายที่แสนประทับใจสำหรับตัวเขาเอง

    เฮอะ...! เด็กไก่อ่อนอย่างแกเนี่ยนะที่จะชื่นชมสิ่งที่หมอนั่นเคยก่อไว้...ช่างน่าเกลียดจริงๆ

    แต่ผมคิดว่าผู้หญิงส่วนใหญ่บนโลกน่าเกลียดยิ่งกว่าอีกนะ...ผ่านมาตลอด 18 ปี ไม่เคยมีใครทำให้ผมประทับใจเลย

    18 ปี!!?”

    ยูกิและชูยะฟังจบแล้วเริ่มตกตะลึงพลางไม่เชื่อใจเท่าไหร่นัก ทั้งสองต่างคิดว่า ร่างเล็กๆ ที่มีความสูงประมาณ 136 เซนติเมตรเช่นนั้นควรเป็นเด็กวัยประถมด้วยซ้ำ

    พวกพี่อาจจะไม่เชื่อ แต่ร่างกายของผมหยุดเจริญเติบโตด้วยพลังพิเศษเองแหละ เพราะงั้น...พอพวกผู้หญิงที่เคยเข้าใกล้รู้ความจริงเข้า ถึงได้พยายามตีตัวออกห่างไงล่ะครับ ขนาดคนร่วมชั้นยังเหยียดหยามจนไม่เคยเห็นหัวเลย

    อึ่ก...ไม่จริง...หยุดเจริญเติบโตเนี่ยนะ...

    พี่สาวไม่เคยได้ยินเหรอครับ...เรื่องราวที่ผู้หญิงชาวรัสเซียหยุดการเจริญเติบโตเพราะเป็นโรคฮอร์โมนผิดปกติ...เธอหลบหนีจากคดีฆาตกรรมแล้วทำตัวประหนึ่งเด็กกำพร้าเก้าขวบ...ทั้งที่ตัวเองอายุ 33 ปีแล้ว

    ฮารุกิถามเชิงเปรียบเทียบด้วยตัวอย่างเรื่องราวที่เคยได้ยินมานาน โดยมันสะท้อนถึงสิ่งหนึ่งที่เคยทำให้กวนใจและน่าโมโหคือ เขาถูกผู้หญิงวัยเลขสามในรูปลักษณ์เด็กสาวมัธยมต้นหลอกลวงหวังฟันแล้วทิ้ง...ทั้งที่ตัวเองยังไม่ทันได้เริ่มดูดเลือดเอาเนื้อเตรียมฉกเงินเธอเป็นรายต่อไปเลย

    ใช่...เขาเคยผ่านผู้หญิงมามากมาย ตั้งแต่วัยเด็กเล็กยันวัยเลขสาม ส่วนใหญ่พวกเธอมีหน้าตาที่ดูดี ร่ำรวยเงินทอง หรือแม้กระทั่งคนที่มีข้อบกพร่องด้านต่างๆ ซึ่งมักถูกหลอกและยอมให้เสียตัวง่าย จนวันหนึ่งเขาได้ตะหนักคิดว่ามันช่างน่าเบื่อที่พวกเธอเหล่านั้นถูกหลอกง่าย...น่าเกลียดเหลือเกิน

    แต่ครั้งนี้...เขาได้เจอผู้หญิงคนใหม่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าหน้าไหนๆ และเธอ...ก็กำลังยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งมันจะเป็นใครได้นอกจากนักสืบสาวเจ้าของพลังพิเศษ อสรพิษอัปยศ อย่างทาจิบานะ ยูกิ

    โอ้...แต่รู้อะไรมั้ย ผมน่ะ...ฮารุกิค่อยๆ ก้าวเท้าเดินมาตรงหน้านักสืบผมดำพลางส่งสายตากับรอยยิ้มเล่ห์เหลี่ยมเล็กๆ จนกระทั่งยกมือขวาขึ้นรูดซิปเสื้อฮู้ดหูกระต่ายลงสุดและลูบไล้หน้าท้องภายใต้เสื้อด้านในสีแดงอย่างเพลิดเพลิน ชักจะสนใจในตัวพี่สาวขึ้นมาซะแล้วล่ะ

    “...!!?”

    ฟิ้วว~

    สายลมรอบๆ บรรยากาศภายในอาคารคอนเสิร์ตเริ่มพัดโบกวนไปมากีดกั้นระหว่างยูกิกับชูยะรวมทั้งเหล่าร่างแยกของไอดอลตัวน้อยที่คอยขัดขวางมาเฟียผมส้มไม่ให้เข้าใกล้

    ชูยะ...!!”

    พี่สาว...ช่วยหลับใหลสักแป๊บนะครับ

    เจ้าของพลังพิเศษสดับลมขับขานยิ้มมุมปากพร้อมดีดนิ้วสั่งให้กลุ่มหมอกรวบข้อมือทั้งสองขึ้นเหนือหัวก่อนที่จะใช้ฝ่ามือกระแทกบริเวณลิ้นปี่อย่างแรงจนร่างบางปลิวออกไปไกล

    อั่ก...!!”

    ปึง!!

    แผ่นหลังของนักสืบสาวกระทบกับผนังอาคารและจุกทั่วร่างโดยเน้นเฉพาะตรงกลางใต้ทรวงอก เธอเริ่มรู้สึกหายใจติดขัดจนล้มลงนอนคว่ำบนพื้น มือข้างซ้ายพยายามออกแรงดีดเพื่อเรียกอสรพิษด้านดีเข้าช่วยแต่ก็ทำไม่สำเร็จ เรี่ยวแรงและสติสัมปชัญญะค่อยๆ ลดร่วงทีละนิด

    อึ่ก...ชูยะ...ชู...ยะ...

    เสียงเรียกอันติดขัดยังคงเปล่งออกจากปากเธอไม่ขาดสายเพราะเริ่มหมดทางสู้ แคทเชอร์สลายหายกับควันสีดำ ริปเปอร์ที่ถูกผนึกก็ไม่สามารถเรียกให้ปรากฏตัวขึ้นได้ ตาทั้งสองค่อยๆ หลับลงสนิทดั่งเจ้าหญิงนิทรา 

    โดยมีสิ่งสุดท้ายที่นึกถึงก่อนสลบลงคือ...

    ...ขอให้เพื่อนหนุ่มผมส้มช่วยปกป้องเธอ

    ...และพากลับสำนักงานนักสืบบุโซอย่างปลอดภัยดี

    ...!? ยูกิ!!” ชูยะหันตามเสียงกระแทกจากอีกฟากหนึ่งจนพบว่าร่างของเพื่อนสาวล้มนอนแน่นิ่งกับพื้นโดยไม่มีอสรพิษตัวไหนปรากฏตัวเลย

    บ้าเอ๊ย...พลาดท่าให้กับมันจนได้

    ยูกิ...เธอจะต้องรอด...ต้องรอดจนกว่าจะล้างคำสาปให้ได้สิ!!

    เขาเริ่มกำหมัดแน่นแล้วพยายามทุกวิถีทางเพื่อฝ่ากลุ่มหมอกตรงหน้า ทั้งใช้พลังแรงโน้มถ่วงควบคุมให้กระเด็นออกห่าง หาจังหวะฟาดแข้งในช่วงที่มีร่างกายหยาบจนปลิว ท้ายสุดคือใช้กระบองยาวฟาดตรงหน้าในวงกว้างแม้ภายหลังมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ก็ตาม

    ตึก...ตึก...ตึก

    ส่วนทางเด็กหนุ่มตัวเล็กในคราบไอดอลสาวก็เดินเข้าหานักสืบสาวอย่างช้าๆ ในขณะที่มือขวาดีดนิ้วเรียกกลุ่มหมอกก่อรวมกันเป็นร่างแยกอีกคนหนึ่งพร้อมสั่งให้จับพลิกร่างอีกฝ่ายนอนหงาย นัยน์ตาสีเขียวจ้องมองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความหิวโหย

    พี่สาวชุดกระต่าย...ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีค่าหัวสูงเหลือเกิน พี่น่ะ...ดูน่าค้นหามากๆ โดยเฉพาะสิ่งที่อยู่ภายใต้หน้าม้าซีกขวานั่น...ผมชักจะอยากรู้แล้วล่ะ...ว่ามีอะไรให้ได้ชมบ้าง

    เขาค่อยๆ ย่อตัวลงตรงหน้าหญิงสาวแล้วยื่นมือข้างซ้ายอันเรียบเนียนดั่งเด็กน้อยออกไปเตรียมจับเปิดผมหน้าม้าสีดำที่คอยปกปิดผ้าปิดตาผนึกคำสาป ทว่า...

    ตึกๆๆๆๆ

    ฮ้ากกกก!!”

    เสียงฝีเท้าจากทางฝั่งขวามือได้ดังรัวขึ้น ในช่วงจังหวะที่ยังไม่ทันหันมอง มือข้างที่กำลังแตะเส้นผมนักสืบผมดำด้วยปลายนิ้วถูกปัดออกข้างด้วยพลังแรงโน้มถ่วงจนเกือบเหวี่ยงทั้งท่อนแขน ต่อมาร่างของเขาก็ปลิวด้วยฝีมือการกระโดดถีบสองเท้าจนล้มกลิ้งกระแทกบนผนังอาคารอีกฟาก

    ปึง!!

    อึ่ก...!!”

    ถอยออกไปเลย! ไอ้เด็กเวร!!” เจ้าของเสียงและลูกถีบเมื่อครู่ลุกขึ้นยืนจ้องมองฮารุกิด้วยสีหน้าจริงจังบวกโมโหที่บังอาจทำให้ยูกินอนสลบบนพื้นได้ลงคอ

    “พะ...พี่ชาย...?”

    “...”

    ชูยะรูปลักษณ์นักเรียนสาวค่อยๆ เดินเข้าไปย่อตัวนั่งชันเข่าแทนอีกฝ่าย มือทั้งสองเอื้อมลงช้อนร่างบางและอุ้มขึ้นในท่าอุ้มเจ้าหญิงพร้อมออกตัววิ่งมุ่งหน้าเข้าห้องเก็บตัวอย่างเร็วไว

    .

    ..

    ...

    ....

    .....

    ...มาเฟียผมส้มหันหน้าสังเกตมองรอบทั้งห้องจนพบกับโซฟายาวสีดำวางชิดผนังห้อง เขาตัดสินใจวางร่างนักสืบที่กำลังหมดสติให้นอนพักผ่อนก่อนที่จะถอดเสื้อสูทสีแดงออกมาห่มเอาไว้

    “...”

    ยูกิ...รออยู่ที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะจัดการไอ้เด็กเวรนั่นเอง

    ตึก...ตึก...ตึก

    เขาเดินรวบผมที่ยาวกลางหลังพลางใช้กรรไกรตัดให้สั้นประบ่า ถอดเนคไทสีม่วงออกไม่ให้ชุดองค์ทรงเครื่องรกเกินไปและต่อสู้ง่ายขึ้น กระดุมเสื้อเชิ้ตถูกปลดสองเม็ดตั้งแต่ด้านบนระบายอากาศ ตบท้ายด้วยการพับแขนเสื้อขึ้นสองสามทบ

    วิ้งง~

    ปึง! ปึง! ปึง!

    ออร่าสีแดงปรากฏขึ้นรอบตัวหนุ่มพอร์ตมาเฟียพร้อมกับหมัดขวาที่ต่อยลงพื้นอาคาร ส่งผลให้เกิดการแตกกระจายจนเป็นแผ่นปูนหลากแผ่นอัน เขาควบคุมพวกมันเพื่อเป็นโล่ป้องกันฐานพักฟื้นของยูกิให้ปลอดภัย

    เอ๋...เซ็งเลยอ่ะ พี่ชายดันมาแทนเฉยเลย

    พูดมากน่า...ทำตัวเป็นเด็กน่ารำคาญอยู่ได้ อ้อ...อีกอย่าง...เขาเว้นช่วงประโยคพร้อมหยุดยืนเผชิญหน้ากับศัตรูตัวน้อยและจับถุงมือสีดำข้างขวาดึงให้ตึง 

    ...?

    ถ้าแกยังกล้าทำอะไรยูกิเพื่อนฉันล่ะก็...จะไม่ยอมให้อภัยแน่!!!

    [ To be continued in next part ]


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×