คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : หาเงินจ่ายค่าไฟ [Part 1]
หาเงินจ่ายค่าไฟ [Part 1]
----------------------------------------------------
ช่วงนี้ยังคงไม่มีอะไรทำให้น่าตื่นเต้นเหมือนเดิมนอกจากพาเซอแวนท์บางคนไปฝึกฝนทักษะในคาลเดียเกทหรือลองพาเซอแวนท์ที่ยังไม่เคยได้ลองใช้ไปหาประสบการณ์ใหม่ในสถานที่ต่างๆ ที่เรย์ชิพแค่นั้น
นอกนั้นน่ะเหรอ...
นอกนั้นมัวแต่นอนบนเตียงเหมือนผักเหี่ยวชุ่มน้ำ แล้วยิ่งตอนนี้ก็นั่งมึนๆ ตรงขอบเตียงโดยมีกิลกาเมช [แคสเตอร์] ราชาแห่งอุรุคคอยยึดพื้นที่เตียงเพื่อนอนพัก และฟาโรห์รามเสสที่ 2 แห่งอิยิปต์อย่างโอจิมังเดียส [ไรเดอร์] กำลังนั่งโอบเอวพร้อมเอาหัวแนบไหล่ฉันจากด้านหลังอย่างสบายใจ
“...”
ซึ่งอันที่จริงตอนแรกฉันคิดไว้ว่า พอกินข้าวเช้าของเอมิยะเสร็จแล้วจะไปหาเดินเล่นสักหน่อย แต่มันดันมีเรื่องด่วนให้ทำก่อน โดยมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้...
.
.
.
.
.
ย้อนวันกลับไป
ตึก...ตึก...ตึก
ขณะที่ฉันกำลังหาเดินเล่นแก้ขัดเนื่องจากไม่มีอะไรทำ สาวใหญ่อย่างดา วินชี่ได้เดินเข้ามาหาพร้อมกับหนังสือเล่มบางที่ถือไว้ในมือ ดูท่าทางเธอจะมีสีหน้าร่าเริงสดใสมากอีกด้วย
“ยูมิจังๆ ฉันมีงานให้เธอทำแล้วล่ะ เห็นว่านั่งเบื่อไม่มีอะไรจะทำจนต้องนอนเฉยๆ นี่นา หวังว่าจะช่วยให้หายเบื่อได้นะ”
“หืออ? มีงานให้ทำ? นอกจากพาเซอแวนท์ไปฝึกทักษะในคาลเดียเกทหรือเรย์ชิพหาไอเทมแล้วมีงานอย่างอื่นด้วยงั้นเหรอ แปลกดีแฮะ”
“ก็นะ...คนรู้จักของทางนักวิจัยต้องการคนช่วยงานในวันนี้เพียงงานเดียว แต่ค่าตอบแทนมีสูงมากเลย แล้วยิ่งช่วงนี้ทางคาลเดียก็เริ่มจน ขาดทุนทรัพย์จ่ายค่าไฟ ฉันก็เลยตอบตกลงพร้อมหาคนช่วยทำงานให้ด้วย”
“อ่อ...”
จะว่าไปเห็นทางนักวิจัยบ่นกันในห้องแว่วๆ อยู่ว่า ค่าไฟเริ่มสูง เงินไม่พอจ่าย ช่วงนี้เลยต้องประหยัดไฟโดยการปิดไฟมายรูมทั้งหมดจนบางครั้งก็มองเซอแวนท์บางคนไม่เห็นเลย อย่างอรชุน [อาเชอร์] และเอมิยะ อัลเตอร์ [อาเชอร์] ที่ดันมีผิวที่อำนวยต่อความมืดเหลือเกิน ทุกครั้งที่พวกเขามาหาในช่วงประหยัดไฟ ฉันแทบจะกรี๊ดแล้วเอาผ้าห่มคลุมโปงด้วยความกลัว จนกระทั่งพวกเขาต้องมาบอกตัวตนของตัวเองให้รู้กระจ่าง
“แล้วงานที่ว่านั่นคืออะไรเหรอ” ฉันเริ่มเปิดปากถามเกี่ยวกับงานที่เธอได้เสนอมาเมื่อครู่ เพราะตอนนี้ก็อยากหาอะไรทำจริงจังเหมือนกัน
“แสดงว่าเธอสนใจจริงๆ สินะ เยี่ยมเลย!” เธอยิ้มให้ด้วยความดีใจพร้อมเปิดหนังสือเล่มบางหน้าแรกให้ได้อ่าน “อืมม...ก็งานประมาณนี้อ่ะนะ คิดซะว่าเป็นงานประกวดละกัน”
“...?” ฉันเริ่มสงสัยตรงคำว่า ‘ประกวด’ จนกระทั่งอ่านหนังสือหน้าแรก พบเจอรายละเอียดที่ยาวเป็นหางว่าวและภาพราชากับราชินีประกอบขนาบข้าง
การประกวดถ่ายแบบ King and Queen of the World 2018
เนื่องโดยทางรายการ ‘แฟชั่นโชว์ ทาเล้นท์’ ได้เปิดโอกาสให้ประชากรทั่วไปทุกคนเปลี่ยนโฉมเป็นราชาหรือราชินีตามที่ตอนเด็กๆ เคยใฝ่ฝันที่จะเป็น โดยคุณสมบัติไม่มีจำกัด ประกวดได้ทุกเพศทุกวัย จะสาวสวยหมวยอึ๋ม โลลิ วัยทอง ใกล้เกษียณ เลสเบี้ยน หรือจะเป็นหนุ่มขึงขัง นีทจ๋า โอตาคุ ตุ๊ด กระเทย อดหลับอดนอน หนวดยาวเหมือนฤๅษี หนวดสั้นจิ๋ว และไม่ว่าจะผิวขาว ดำ คล้ำ ผมตั้งผมลง ผมทรงร็อค ทรงพั้งค์ ทรงคลาสสิก ทรงอังกฤษฝรั่งเศส และทรงอื่นชาติอื่นก็รับได้หมด
การสมัครเข้าร่วมประกวดทำได้ง่ายๆ เพียงแค่กรอกข้อมูลของตัวเองทั้งคนที่เป็นราชาและราชินี เช่น ชื่อ-สกุล อายุ ความสามารถ และข้อมูลอื่นๆ ที่ต้องการจะโชว์ให้พวกเราได้รับรู้มายังอีเมล์ FashionShow1111@coldmail.com
ระยะเวลาในการสมัครเข้าร่วมประกวดคือ ตั้งแต่วันที่ 5-10 ม.ค. 2018 และการประกวดจะเริ่มต้นที่ Fashion Show Station ที่ฟุยุกิในวันที่ 11 ม.ค. 2018
ใครที่ติดอับดับชนะเลิศ จะได้รับรางวัลเป็นเงินสดจำนวนหนึ่งล้านเยน อันดับรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้เงินสดจำนวนเจ็ดแสนเยน และอันดับรองชนะเลิศอันดับสอง ได้เงินสดจำนวนห้าแสนเยน
อย่าลืมทำให้ความฝันที่เคยกักเก็บไว้ในวัยเด็กเป็นจริงในการประกวดครั้งนี้ จะแพ้หรือชนะไม่สำคัญ ขอให้ความฝันของพวกคุณได้เป็นจริงทางรายการเราก็มีความสุขแล้ว
ขอจบการอธิบายด้วยประการฉะนี้ ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบ!
“...”
แหม่...มันยังจะมีการใส่คำขอบคุณกวนพระบาทาทิ้งท้ายไว้อีก...
สรุปว่า ให้ฉันไปถ่ายแบบหาเงินโดยการเป็นราชินีอยู่เคียงคู่กับราชาสินะ แล้ววันนี้ก็เป็นวันที่ 10 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการสมัครด้วย
“อืมม...พอดูรางวัลแล้ว คงต้องเข้าร่วมประกวดจริงๆ สินะ” ฉันมองรายละเอียดพร้อมจับคางตัวเองอย่างพิจารณา “แล้วราชาที่ฉันต้องร่วมประกวดด้วยนี่...เป็นใครงั้นเหรอ...ดา วินชี่จัง”
“เอ๋...เธอก็น่าจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ยูมิจัง คนที่เหมาะกับการเป็นราชาถ่ายแบบคู่กับราชินีสวยๆ ได้มีแค่ไม่กี่คนเองนะ” ดา วินชี่แอบยิ้มกว้างก่อนที่จะดีดนิ้วเรียกอะไรสักอย่าง
ตึก...ตึก...ตึก
“ใช่แล้ว! ราชาที่เหมาะกับการถ่ายแบบคู่ราชินีแสนสวยอย่างเจ้า ต้องเป็นข้าผู้นี้...ฟาโรห์รามเสสที่ 2 โอจิมังเดียสยังไงล่ะ!”
“และไม่ใช่แค่เจ้าฟาโรห์นี่คนเดียวนะ...งานถ่ายแบบอันน่าท้าทายเช่นนี้ต้องมีราชาแห่งอุรุค กิลกาเมช ผู้นี้ได้มีส่วนร่วมด้วยสิ เจ้าพันทาง!”
“ห๊าา!!?”
นี่ฉันต้องถ่ายแบบกับราชาทั้งสองคนนี้เลยเรอะ!!
เจ้าสิ่งที่ว่านั่นทำให้ฉันต้องอ้าปากค้างด้วยความอึ้งไปพักใหญ่ ทั้งสองคนตรงหน้าต่างยืนหัวเราะร่วมด้วยช่วยกัน ตอนแรกนึกว่าพวกเขาจะต้องทะเลาะกันเพื่อชิงตำแหน่งผู้ชนะในการถ่ายแบบซะอีก
ตกลงก่อนหน้านั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย...
“เดี๋ยวนะ! งานประกวดมันต้องถ่ายแค่สองคนไม่ใช่เหรอ มันจะถ่ายร่วมกันสามคนได้ยังไงกันเล่า!” ฉันรีบแย้งทันทีเพราะเห็นว่ามันผิดปกติที่จะถ่ายกันสามคน
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ฉันลองติดต่อขออนุญาตทางรายการเรียบร้อยแล้วว่า จะถ่ายกันสามคน คำตอบก็อย่างที่คาดหวังไว้ในใจแหละ เพราะเขารับการถ่ายสามคนได้ อีกอย่าง...ฉันกรอกข้อมูลของพวกเธอทั้งสามเรียบร้อย ดังนั้นไม่มีอะไรกังวลแล้วเนอะ”
What the---!!? ไม่จริง! ดา วินชี่จังสมัครไปให้ล่วงหน้างั้นเรอะ!
แล้วคือฉันจะมีสมาธิในการประกวดได้ไงเล่า กลัวราชาสองคนนั้นจะแอบทำตัวยุกยิกน่ะสิ ยิ่งบางครั้งก็อยู่กันไม่สุขทุกทีที่เจอหน้ากันอีกด้วย
“เอาน่า อย่าได้กังวลใจไป ยูมิเอ๋ย...ข้าสัญญาเลยว่าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผลงานประกวดครั้งนี้ต้องทำให้มีมูลค่ามหาศาลและได้รับรางวัลชนะเลิศสมกับศักดิ์ศรีของพวกข้าใช่มั้ยล่ะ” โอจิมังเดียสเดินเข้ามาอยู่ข้างๆ แล้วโอบไหล่ไว้อย่างหน้ามิอาย
“ฮ่าๆๆๆ ชักน่าตื่นเต้นเสียแล้วสิ การที่ได้มีโอกาสเดินถ่ายแบบกับเจ้าเนี่ย ถึงจะอยู่คนละชนชั้น แต่ครั้งนี้ถือว่าข้ายอมลดฐานะตัวเองเพื่อคาลเดียแห่งนี้โดยเฉพาะก็แล้วกัน เพราะค่าไฟตอนนี้จำเป็นที่สุดนี่” กิลกาเมชเดินเข้ามายืนอีกข้างหนึ่งแล้วโอบเบาๆ เอาดื้อๆ
แม่มรู้สึกเสียวหลังชิบ...แล้วยิ่งพวกเขาร่วมมือกันอย่างแปลกๆ อีก
มันต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่อย่างแน่แท้
“ถ้างั้นก็ขอให้เตรียมตัวภายในครึ่งชั่วโมงละกันนะ...ทุกคน พอถึงเวลาแล้วขอให้นัดกันที่ห้องเรย์ชิพให้พร้อมหน้ากันด้วย ฉันขอตัวไปก่อนล่ะ”
สิ้นเสียงพูดเมื่อครู่ปุ๊บ ดา วินชี่หันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้าๆ ในช่วงนั้นเองเธอก็แอบหันหน้ามามองพร้อมขยิบตาให้
แต่มันจะให้กำลังใจได้ดีนะ...ถ้าอิสองคนนี้เลิกโอบฉันสักที
“...”
โอ้...พระผู้เป็นเจ้าคะ...
อย่าได้ปล่อยให้เกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้นมากลางงานถ่ายแบบด้วยเถิด...!
ผ่านไป 30 นาที (ไวดีเนอะ)
ทั้งฉัน โอจิมังเดียส และกิลกาเมชแคสเตอร์ต่างนั่งรออืดเหมือนผักต้มในหม้อน้ำร้อน ซึ่งระหว่างนั้นราชาทั้งสองก็พากันหยอกเล่นกันเองบ้าง โอบๆ กอดๆ ฉันสลับไปมาบ้าง แย่งคะแนนความเป็นราชาที่คู่ควรด้วยการถวายอาหารว่างหรือสัตว์เลี้ยงประจำตัวบ้าง และอีกหลายอย่างบลาๆๆๆ จนเหนื่อยแทบไม่อยากไปถ่ายแบบแล้ว
แต่สิ่งเดียวที่ทำได้คือ...ต้องอดทนและเดิมพันด้วยชีวิต
เพราะนั่นเป็นการประกวดเพื่อคว้าเงินรางวัลไว้จ่ายค่าไฟในคาลเดียเชียวนะ!
“ไปกันเถอะค่ะทุกท่าน ถึงเวลาเข้าห้องเรย์ชิพตามนัดแล้ว” ฉันลุกขึ้นพร้อมเรียกราชาทั้งสองให้ไปตามนัดพร้อมกัน แต่ก่อนที่จะได้เดินออกจากประตู พวกเขาดันร่วมใจเดินมาโอบเอวฉันเฉยเลย
“อะไรกัน...เจ้าพันทาง จะรีบเสด็จไปทำไมไม่ทราบ ค่อยๆ เดินให้เหมือนซ้อมเดินแบบไม่ได้งั้นรึ...” กิลกาเมชขยับหน้ามาใกล้หูซ้ายแล้วกระซิบเบาๆ จนลมหายใจของเขารดมาที่ใบหูให้เสียวเล่น
“อย่าได้ตื่นเต้นหรือกังวลไป บอกแล้วไงว่าจะร่วมมือเป็นอย่างดี พวกข้าทั้งสองรวมถึงตัวเจ้าจะต้องเป็นราชาและราชินีที่เจิดจรัส...เหมือนดั่งดวงสุริยาที่เปล่งแสงมาให้อย่างแน่นอน” โอจิมังเดียสขยับหน้ามาใกล้หูขวาแล้วกระซิบใส่พร้อมงับหูเบาๆ เพื่อหยอกเล่น
“อึ่ก...”
อะไรของพวกเขากันเนี่ยยย! การกระทำเช่นนี้งั้นรึที่ทำให้พวกเขาร่วมด้วยช่วยกันอย่างแปลกๆ
“อะ...อะไรกันเล่า! ปะ...ไปมันแบบธรรมดานี่แหละ ซ้อมเซิ้มอะไรนั่นค่อยทำทีหลังก็ได้นี่นา”
ฉันพูดกลบเกลื่อนอาการเขินอายด้วยคำพูดสุดห้าวเล็กน้อยพร้อมพาเดินอย่างรวดเร็ว ราชาทั้งสองต่างเปล่งเสียงหัวเราะออกมาเชิงความสนุกสนานเฮฮาที่ได้กลั่นแกล้ง และมือของฉันทั้งสองก็ดันถูกจับไว้โดยพวกเขาที่เดินประกบข้างอีก
“จะไม่ซ้อมได้เยี่ยงไรกัน...หรือเจ้าอยากจะเดินธรรมดาคนเดียวซะล่ะ”
“เอ่อ...ปะ...เปล่าเพคะ ท่านราชา”
“การฝึกซ้อมไว้ล่วงหน้าถือเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงไม่ใช่รึ ยูมิเอ๋ย...ฉะนั้นอย่าได้ขัดใจพวกข้าแล้วฝึกซ้อมไปด้วยกันเถิด รำลึกไว้ด้วยว่าค่าไฟของที่นี่จำเป็นที่สุดในตอนนี้ เข้าใจนะ...”
“ค่าๆ ท่านฟาโรห์ ซ้อมในระหว่างทางนี้ก็ได้เพคะ”
ตึก...ตึก...ตึก
ว่าจบพวกเราทั้งสามได้เริ่มเดินตามทางไปยังห้องเรย์ชิพโดยฝึกซ้อมเดินแบบไปในตัว ราชาจอมดื้อด้านเดินประกบข้างพร้อมโอบเอวไว้ ส่วนมืออีกข้างของแต่ละคนก็จับมือยกขึ้นในระดับเหนือเอว ระหว่างนั้นหน้าของพวกเขาก็เข้ามาใกล้หูอยู่เรื่อยๆ
“...”
เจอการซ้อมแบบนี้ฉันก็เขินโคตรๆ เลยสิ! เจ้าพวกราชาคนบ้า!!
ณ ห้องเรย์ชิพ
เมื่อฉัน โอจิมังเดียส และกิลกาเมช ตัวแทนการเข้าประกวด King and Queen of the World 2018 ในครั้งนี้ได้มาถึง สาวใหญ่อย่างดา วินชี่ยืนรอด้วยรอยยิ้มที่สดใส และยังมีนักวิจัยหลายคนจากข้างบนที่กำลังส่งสายตามองทางนี้อยู่
เริ่มรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ เลยแฮะ ที่จู่ๆ มาสเตอร์คนธรรมดาเกือบจะบ้านนอกอย่างฉันต้องได้ลองเลื่อนฐานะเป็นราชินีในงานประกวดเพียงวันเดียว
“เอาล่ะ...พร้อมกันแล้วสินะ ทั้งสามคน...เนื่องจากวันนี้ยังเป็นวันที่ 10 อยู่ ฉันอยากจะให้พวกเธอหาที่พักชั่วคราวก่อน พอถึงวันพรุ่งนี้ค่อยเตรียมเข้างานประกวดถ่ายแบบราชา/ราชินีกัน ส่วนเรื่องชุด...ทางราชาทั้งสองไม่น่ามีปัญหา แต่ชุดราชินีของยูมิจังฉันได้เตรียมในกล่องสีน้ำตาลเรียบร้อยแล้ว เพราะงั้นหมดกังวล”
“...”
“อ้อ...ทางเรื่องค่าใช้จ่ายในระหว่างนั้น ฉันเก็บกระเป๋าใบเล็กๆ ไว้พร้อมกับเงินที่คิดว่าน่าจะพออยู่ได้หนึ่งวันด้วย ยังไงก็สู้ๆ นะ...ทุกคนในคาลเดียรอให้กำลังใจอยู่”
“อื้ม...ขอบคุณมากนะ ดา วินชี่จัง พวกเราทั้งสามคนจะพยายามนะ!” ฉันยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณให้หลังจากที่ดา วินชี่อธิบายยาวเหยียดอย่างกับหางว่าว
“ฮ่าๆๆๆ คนอย่างข้าต้องทำได้ดีอยู่แล้วสิ เพราะข้าเป็นราชายังไงล่ะ! ใช่มั้ย...เจ้าพันทางของข้า”
อะไรกันเนี่ย...ทำไมท่านราชาถึงได้หลงตัวเองจัง...
“ราชาอย่างข้าต้องเจิดจรัสอยู่แล้ว ภาพของแสงสุริยาที่สาดส่องและปิรามิดในครั้งนั้นข้ายังจำได้ดี...สิ่งนั้นทำให้ข้ารู้สึกยิ่งใหญ่ขึ้น มีความเป็นฟาโรห์ยิ่งกว่าใครอื่นอีกด้วย!”
“ก่อนอื่นคือเลิกสาธยายเรื่องตัวเองแล้วรีบเรย์ชิพไปสักทีจะได้มั้ยเพคะ...ท่านฟาโรห์”
ตอนแรกก็แค่หมั่นไส้ในใจเฉยๆ หรอก แต่ฉันขอพูดประโยคนี้ออกมาให้เขาได้ยินเลย กลัวว่าแอบนินทาไปอย่างเดียวแล้วจะลืมตัว
“ฮ่าๆๆ ต้องขออภัยด้วยละกัน มาสเตอร์แห่งข้า...”
“เยี่ยมมาก...งั้นลุยกันเถอะ เงินรางวัลเพื่อจ่ายค่าไฟในครั้งนี้ต้องเป็นของเราให้ได้เลย!!”
ต่อจากนั้นพวกฉันทั้งสามคนเริ่มเรย์ชิพไปยังฟุยุกิเพื่อไปหาที่พักชั่วคราว ฝึกซ้อม อยู่กินจนถึงวันพรุ่งนี้ และเตรียมตัวเข้าประกวดงานถ่ายแบบอย่างแท้จริง
หวังว่างานครั้งนี้จะดำเนินไปได้ด้วยดีนะ...
[ To be continued in next part ]
ความคิดเห็น