คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อาหารตามสั่ง
อาหารตามสั่ง
----------------------------------------------------
“...”
งืออ...ไม่ไหวแล้วอ่าา
รู้สึกหมดแรงเหลือเกิน เหมือนกับว่าพลังงานในตอนนี้เริ่มจะถูกดูดหายไปทีละนิด
มันเป็นผลสืบเนื่องมาจากครั้งล่าสุดที่ไปลองอัญเชิญหากิลกาเมชอาเชอร์
แต่ก็...นกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งเพชรและตั๋วทองต่างร่อยหรอไปหมดไม่มีชิ้นดี ถ้าเรื่องนี้ถึงหูของเอมิยะ [อาเชอร์] มีหวังโดนเทศนายาวเหยียดแน่ๆ
ครืดด~
ตึก...ตึก...ตึก
ในช่วงที่กำลังนอนอืดเป็นผักเหี่ยวเรื่อยๆ
จนตาใกล้จะหลับเต็มทน
ประตูมายรูมได้เปิดออกพร้อมกับเสียงฝีเท้าใครบางคนที่เดินเข้ามาในห้อง
พอลองหันกลับไปมองแล้ว จึงพบกับคูฮูลินน์ [แคสเตอร์] ผู้ที่ขึ้นชื่อว่า เจ้าหมาหลงคลาส
“โย่ว! คุณหนู
เช้านี้เจ้าได้ไปกินข้าวที่ห้องครัวรึยัง”
เขาเริ่มบทสนทนาด้วยการถามพร้อมส่งรอยยิ้มแฉ่งให้อย่างสดใส
“อืมม...ยังไม่ได้กินเลยแฮะ”
ฉันค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง
พยายามเก็บความโทรมไม่ให้เห็นแล้วหันค่อยไปคุยกับเขา “จะว่าไปมีอะไรรึเปล่า
แคสเตอร์ ปกตินายชอบเดินมาชวนฉันว่า ‘คุณหนู ไปกินข้าวกันเถอะ!’
อะไรประมาณนี้เองนี่นา”
“อ้อ...ข้าได้ยินข่าวมาแว่วๆ
ว่าเจ้าพลธนูแดงนั่นกำลังเตรียมตัวหาเงินเข้าคาลเดียแล้วเรย์ชิพไปที่ฟุยุกิเพื่อเปิดร้านอาหารน่ะ”
เห...เอมิยะจะเปิดร้านอาหารที่ฟุยุกิงั้นเหรอ...
แต่เดี๋ยวนะ...แล้วใครจะเป็นพ่อครัวให้ในคาลเดียแห่งนี้ล่ะ!!
นอกจากเอมิยะแล้วไม่น่ามีใครทำอาหารให้แล้วนี่...!
“นี่คุณหนู
ตอนนี้เจ้าคงแอบกังวลเรื่องคนทำอาหารแทนเจ้านั่นสินะ บอกได้เลยว่าหายห่วง
เพราะมีเซอแวนท์อีกสองคนขออาสารับหน้าที่เรียบร้อยแล้ว”
“เห...อ่านใจฉันได้ด้วยแฮะ...”
“แน่นอน...!
เพราะเจ้าน่ารักไง ถึงกล้าอ่านใจได้”
“อ่ะ...!?”
คูแคสเตอร์เล่นมุกเสี่ยวพร้อมกับยิ้มทะเล้นใส่จนทำให้รู้สึกเสียวหลังวาบๆ
ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าวด้วยความตกใจเขิน
ฉันรีบเอามือปิดหน้าตัวเองไว้เพื่อไม่ให้เห็นสีหน้าแดงๆ ที่กำลังแสดงออกอยู่ สักพักอีกฝ่ายก็เดินเข้ามานั่งใกล้ชิดมาก
มือไม้เริ่มจะอยู่ไม่สุข มือซ้ายเอื้อมมาโอบเอวในขณะที่มือขวาค่อยๆ
ยกขึ้นแตะแก้มบางๆ
“ให้ตายเถอะ
คุณหนูเนี่ย...น่ารักเกินไปแล้ว งั้นข้าขอกินเจ้าแทนข้าวเช้าเลยละกัน”
“ห๊ะ!? ดะ...เดี๋ยวก่อนๆ บอกฉันก่อนสิว่า
ใครจะมาเป็นคนทำอาหารให้แทนเอมิยะในวันนี้...”
“อืมม...น่าจะเป็นโรบิ้นฮู้ดกับทามาโมะ
แคทล่ะมั้ง หลายคนต่างพูดลือกันว่าสองคนนี้ทำอาหารเป็นเหมือนกัน
แต่ก็นะ...ยังคงสู้ของเจ้าพลธนูแดงนั่นไม่ได้อยู่ดีแหละ”
“อ้อ...อย่างนี้นี่เอง”
ฉันนี่ถึงกับบางอ้อเลยทีเดียว
สองคนนั้นเป็นเซอแวนท์ที่มีอยู่ในคาลเดียตั้งแต่ช่วงแรกๆ สมัยเป็นมาสเตอร์มือใหม่
พวกเขาเคยช่วยฉันได้ดีเลย แต่พอหลังๆ มาก็ต้องให้ทามาโมะ
แคทอยู่เฝ้าคาลเดียเพื่อปัดกวาดเช็ดถูช่วยเอมิยะแทน ส่วนโรบิ้นฮู้ดเขาบอกว่า
อยากจะร่วมสู้ด้วยกันต่อ ก็เลยพาไปเรย์ชิพอยู่บ่อยๆ
“โธ่...คุณหนู
ข้าหิวแล้วนะ มาให้ข้ากินเจ้าก่อนสิ”
ก็แล้วทำไมไม่ไปกินข้าวที่ห้องครัวตอนนี้เล่า
เจ้าคนบ้าา!!
“ดะ...เดี๋ยวววว
ใจเย็นก่อนเซ่~ แคสเตอร์! นี่มันไม่ใช่อาหารตามสั่งน้าา!!”
“...”
คูแคสเตอร์เริ่มไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น
เขาบุกมาเต็มเหนี่ยวโดยการจับฉันนอนลงบนเตียงแล้วคร่อมเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน ผ้าคลุมไหล่สลายหายไปเป็นละอองสีขาว
สายตาของเขาในตอนนี้ราวกับหมาป่าที่กำลังได้เหยื่อมาพร้อมที่จะกลืนกินเป็นอาหาร
มือทั้งสองกำลังลูบลงมาตั้งแต่แก้ม ลำคอ ไหล่ แขน มือ จนถึงเอวคอดบาง
“อึ่ก...”
“คุณหนูลองพูดออกมาสิ...”
เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วเป่าลมหายใจลดลงใบหูขวาเบาๆ
ก่อนที่จะกระซิบบอกเชิงหยอกเล่น “พูดว่า ‘วันนี้อยากจะกินอะไรดีคะ คุณลูกค้า’ น่ะ...”
“อะ...เอ่อ...คือ...”
อ่าา...ยะ...แย่แล้วสิ
ตะ...ตอนนี้เริ่มจะรู้สึกต้านทานเขาไม่ไหวซะแล้ว
ฉันเริ่มพูดอะไรไม่ออกบอกไม่ถูก
มือข้างขวาถูกจับไว้แน่นโดยมือขวาของเขาเอง
หมาป่าเจ้าเล่ห์ที่แอบมองไปพักหนึ่งค่อยๆ ใช้กดแนบริมฝีปากลงบนหลังหูเบาๆ
สัมผัสได้ถึงปลายลิ้นอุ่นของเขาที่เลียไปมา
จนต้องแอบร้องด้วยความเสียวสะท้านในลำคอ
“อื้ออ...ยะ...อย่าทำแบบนี้...”
“ยูมิ...”
อีกฝ่ายเรียกชื่อจริงแทนตำแหน่งมาสเตอร์แล้วเริ่มซุกไซ้ตามต้นคออย่างดื้อดึง
ตอนแรกฉันพยายามที่จะขยับมือขวามาใกล้ตัวเองเพื่อใช้เรย์จูสั่งการหยุดยั้งการกระทำ แต่ตอนนี้มือทั้งสองข้างถูกรวบเอาไว้เหนือหัวด้วยมือซ้ายของเขาเรียบร้อย
ท้ายสุดตัวฉันกลายเป็นคนถูกควบคุมแทน
“มื้อนี้ข้าขอกินของหวานส่วนริมฝีปากของเจ้าจะได้มั้ย...ข้าต้องการเหลือเกิน”
“ดะ...เดี๋ยวก่อนสิ...”
ครืดด~
ในขณะที่คูแคสเตอร์กำลังขยับหน้ามาใกล้พร้อมที่จะประทับรอยจุมพิตยามเช้า เสียงประตูมายรูมเปิดได้ดังขึ้นมาพอดี
มันรู้สึกเหมือนกับว่าสวรรค์กำลังดลบันดาลเข้าข้างเลย
โอ้ว...ขอบพระคุณนะเพคะ
พระผู้เป็นเจ้า...ลูกผู้นี้มีความสุขเหลือเกิน...
“เอ๊ะ...”
แต่พอลองหันกลับไปมองตามต้นเสียง
สิ่งที่เห็นคือ แก๊งค์คูฮูลินน์คนที่เหลืออย่างแลนเซอร์ โปรโตไทป์ และอัลเตอร์
(คูจังน่ะแหละ)
กำลังยืนส่งสายตามองมาทางเดียวกัน
และดูเหมือนว่าในมือพวกเขาเริ่มกำอาวุธหอกประจำตัวไว้มั่นอีกด้วย
เอาแล้วไง...จะรอดมั้ยเนี่ย
ฉันรีบชิ่งหนีออกจากตัวคูแคสเตอร์หลังพบช่องว่างในจังหวะทีเผลอแล้วค่อยยืนแอบอยู่หลังคูจังอย่างใจสั่น
ความรู้สึกหวาดกลัวต่อหมาป่าเจ้าเล่ห์ตัวนั้นยังคงแล่นเข้าไขกระดูกสันหลังไม่หยุดหย่อน
“ชะ...ช่วยด้วย คูจัง
คะ...แคสเตอร์น่ะ...”
“ตัวข้าร่างแคสเตอร์ทำอะไรเจ้างั้นรึ...มาสเตอร์”
เดี๋ยวดิคูจัง! ทั้งที่เห็นกับตาในสถานการณ์แท้ๆ อย่ามาใช้สีหน้าตายด้านถามอะไรแปลกๆ แบบนี้เซ่~!
“หนอยแน่!
เจ้านี่มันร้ายนัก แคสเตอร์! บังอาจลักลอบมาสเตอร์ตั้งแต่เช้าแบบนี้เนี่ย...!!”
คูแลนเซอร์ควงหอกสีแดงแล้วยกขึ้นชี้ไปยังคูแคสเตอร์ที่กำลังนั่งเซ็งอยู่บนเตียง
“ให้ตายเถอะ...ในช่วงเวลาเช้าๆ
แบบนี้ เจ้านี่ช่างพยายามซุ่มเข้าหามาสเตอร์ได้ดีจริงนะ ทั้งๆ
ที่ไม่ใช่คลาสที่ตัวเองเป็นอยู่แท้ๆ”
คูโปรโตไทป์เข้ามายืนพิงกำแพงในห้องพร้อมมองไปยังคนบนเตียงที่ตอนนี้ได้ใส่ผ้าคลุมกลับมาที่เดิมแล้ว
อ้อ...เผื่อบางคนงงว่าเขาพูดอะไรออกไป
นั่นเพราะเห็นว่าคูอีกคนเป็นแคสเตอร์ แต่ดันชอบซุ่มเข้ามาหาฉันจนนึกว่าเปลี่ยนคลาสเป็นแอสซาซินไปโดยอัตโนมัติ
...สมกับฉายาเจ้าหมาหลงคลาสเลยจริงๆ
“อะไรกันเล่า
แค่มาทักทายมาสเตอร์เฉยๆ นี่นา มันผิดตรงไหนล่ะ”
แคสเตอร์แสดงสีหน้างอนพร้อมทำแก้มป่องเล็กๆ ใส่สมาชิกคูที่เหลือ
“เอิ่ม...”
อะไรวะเนี่ย...นี่เค้าเริ่มทำตัวเป็นเด็กอนุบาลตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“โธ่...บ้าน่า
มันก็ไม่ผิดหรอก! การมาทักทายมาสเตอร์ยามเช้าถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีไม่ใช่เหรอ”
พลหอกน้ำเงินต้นแบบเริ่มเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วตบไหล่เบาๆ เหมือนเข้าใจกันดี
“ใช่แล้วๆ
วันนี้เจ้าโชคดีมากเลยนะที่ได้ทักทายมาสเตอร์เป็นคนแรก”
แลนเซอร์คลายมือออกจากหอกตัวเอง ปล่อยให้มันสลายหายไป เขาค่อยๆ
เดินเข้าหาก่อนที่จะกอดคอแคสเตอร์อย่างสนิทสนม “เพราะงั้น...”
“คราวหลังก็นัดไว้ด้วยนะ
แคสเตอร์!! พวกข้าจะได้เข้ามาร่วมทักทายมาสเตอร์แบบนั้นด้วยกัน!!”
“แน่นอนอยู่แล้ว!
เพื่ออาหารเช้าที่ดีสำหรับพวกเรา คูฮูลินน์ยังไงล่ะ!”
“โอ้ว!!”
สุดท้ายทั้งสามคนนั้นก็กลับมาสามัคคี(คือหมาหมู่)กันจนได้...
เดี๋ยวๆ
มันใช่เร้ออออ!! คราวหน้าพวกเขาจะมาลักลอบแบบเมื่อกี้จริงๆ ใช่มั้ยยย!!
“คะ...คูจัง
ฝากเก็บคูทั้งสามคนไปทิ้งที่อื่นหน่อยนะ ฉันขอตัวไปกินข้าวก่อน”
“รับทราบ...”
ตึก...ตึก...ตึก
“เอาจริงดิ!!? ไม่เอาน่า อัลเตอร์ พวกเราคือคูฮูลินน์ด้วยกันไม่ใช่เหรอ!! เดี๋ยวสิ---
อ๊ากกก!!!”
หลังจากที่ได้สั่งการคูจังไปแล้ว
ฉันแอบเหลือบตามองอยู่ห่างๆ
ทั้งสามคนถูกเก็บเรียบหมดก่อนที่จะถูกลากไปทิ้งตามคำสั่ง
ต่อจากนั้นก็รีบไปล้างหน้าล้างตาแก้เขินที่เพิ่งถูกกินโดยลูกค้าอย่างคูแคสเตอร์
เหมือนตัวเองเป็นอาหารตามสั่งส่วนตัวของเขาซะเอง
“...”
เอาเป็นว่าขอตัวเรย์ชิพไปหาเอมิยะที่ฟุยุกิดีกว่า
จะได้กินข้าวเช้าที่อร่อยที่สุดในคาลเดียอย่างอิ่มอร่อยเต็มที่เลย!
[ของแถม]
ณ EMIYA Restaurant [อาหารตามสั่ง]
เอมิยะ
: โอ๊ะ? ยินดีต้อนรับสู่
EMIYA Restaurant...มาสเตอร์
เช้านี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษในมื้อเช้ามั้ย ไม่ว่าอะไรก็ทำได้หมดเลยนะ
ยูมิ
: ขะ...ขอเป็นไข่เจียวหมูสับได้มั้ย...เอมิยะ
เอมิยะ : อ่ะ...ลืมไป ข้ามีแต่ไข่ที่พอทำได้
ไม่มีหมูสับเหลือในตู้เย็นเลย
ยูมิ : เอ่อ...งั้นก็ข้าวผัดกะเพราละกัน
เอมิยะ : อันนั้นข้ายังไม่ได้ไปดูวิธีทำเลย...ไว้ครั้งไหนลองทำแล้วจะบอกนะ
ยูมิ : เอ๋...? แล้วพอจะทำต้มยำกุ้งได้มั้ยอ่า~
เอมิยะ : ต้มยำกุ้ง...? ไม่คุ้นชื่อเมนูนี้แฮะ
มาสเตอร์เจอมาจากร้านอาหารที่ไหนงั้นเหรอ
ยูมิ : ก็...มีมาสเตอร์บางคนแนะนำมา เห็นว่าเป็นของคนไทยด้วย
เอมิยะ : อย่างนี้นี่เอง...ข้าต้องเรียนรู้ให้มากกว่านี้แล้วสินะ
ยูมิ : แล้วสรุปว่าตอนนี้พอจะทำเมนูง่ายๆ
อย่างข้าวผัดไข่ได้มั้ย ฉันหิวท้องไส้จะกิ่วแล้วนะ
เอมิยะ : อืมม...เกือบลืมไปเลยว่ามีแต่เมนูเส้นที่ทำได้ตอนนี้
ยูมิ
: อ้าว...
เอมิยะ
: ต้องขอโทษทีนะ
มาสเตอร์ เจ้าคงต้องกินอุด้งแทนแล้วล่ะ
ยูมิ : แล้วจะจ่อหัวว่าอาหารตามสั่งเพื่ออิหยังคะเนี่ยยยยย!!!
[ To be continued ]
ความคิดเห็น