คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Episode 1 ทาจิบานะ ยูกิ
ณ ใต้สะพานในเมืองโยโกฮาม่า
อ่า...กลิ่นไอของตัวเมืองนี้มันช่างแตกต่างจากในป่าจริงๆ แสงแดดอ่อนๆ
ยามเย็นสาดส่องกระทบหน้า บนถนนยังมีคนเดินหรือขับรถแล่นไปมา ใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมเสียงหัวเราะที่เปี่ยมไปด้วยความสุขเหล่านั้นทำให้รู้สึกเจ็บลึกถึงก้นบึ้งของหัวใจ
ร่างกายที่อดข้าวอดปลาภายใต้เสื้อผ้าเก่าๆ กำลังทรุดนอนลงกับพื้น เสียงท้องร้องเริ่มดังส่อให้รับรู้ว่า
หิวจะแย่แล้ว
ชื่อของฉันคือ ทาจิบานะ ยูกิ อายุ 20 ปี เป็นแค่ผู้หญิงโสดคนหนึ่ง ผมสั้นสีดำปัดหน้าม้าออกไปปิดตาข้างขวาซึ่งมีผ้าปิดตาสีดำใส่อยู่
ดวงตาสีม่วง(ซ้าย)และแดง(ขวา) ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในเสื้อผ้าสีเทาธรรมดาๆ
อันเก่าคร่ำคร่า ไม่มีความเป็นแฟชั่นแม้แต่นิด
ส่วนเหตุผลที่ต้องมาลงเอยด้วยสภาพสิ้นเนื้อประดาตัวนี้คือ
หลบหนีกลุ่มอาชญากรจากป่าไม้ พวกเขาบุกเพื่อต้องการความสนุกในการก่อเหตุ
พอเจอคนบริสุทธิ์ไร้ทางสู้ก็จะลงมืออย่างไม่ลังเล
ล่าสุดพวกนั้นมาทำร้ายคุณลุงนายพรานที่เลี้ยงดูฉันมาตลอด 18 ปี
เขาถูกจับเป็นตัวประกันพร้อมมีหนึ่งในกลุ่มอาชญากรบอกว่า ถ้าไม่ยอมถอยแต่โดยดีจะฆ่าทิ้งซะ
ฉันพยายามจะเดินไปช่วยแต่กลับมีการยิงปืนลงพื้นเพื่อดักหน้า
ลุงนายพรานจึงบอกให้วิ่งหนีออกจากที่นั่น ท้ายที่สุดก็นอนโทรมบนพื้นอย่างที่เห็น
[ Flashback ]
ตั้งแต่ยูกิเกิดมาจนได้อายุสองขวบ พ่อแม่ถูกฆ่าตายในห้อง ทางญาติมองว่าเธอเป็นบุคคลต้องสาป
กาลกิณีผู้เต็มไปด้วยความมืดและความตาย
ขืนอยู่กับใครคนนั้นต้องตายอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะงั้นเขาก็เลยนำร่างของเธอตอนยังนอนหลับไปทิ้งในป่า
และได้มีลุงนายพรานคนหนึ่งเดินมาพบเข้าก่อนที่จะรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม
แต่ความตายกลับไม่เกิดกับเขาคนนั้น จนโตมาจนอายุประมาณห้าขวบ เธอถูกส่งไปเรียนอนุบาล
แน่นอนว่าเพื่อนร่วมชั้นได้ตายต่อหน้าต่อตาทีละคน รวมถึงคุณครู ผู้อำนวยการ
และภารโรงทั้งหมด โรงเรียนแห่งนั้นก็เลยถูกปิดตาย เด็กสาววิ่งหนีกลับไปหาลุงนายพรานแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ยูกิ...ลุงคิดว่าอาจเป็นเพราะคำสาปที่หนูได้ติดตัวภายในพลังพิเศษนั่นก็ได้”
“พลังพิเศษ?”
“ใช่แล้ว ทางตระกูลต้องมีใครคนหนึ่งที่มีพลังพิเศษบางอย่างและสืบทอดต่อๆ
กันมา ถ้าจะให้ลุงวิเคราะห์จากการสังเกตล่ะก็...คำสาปที่ยังควบคุมไม่ได้จะเกิดเพราะตอนเบิกตาข้างขวาของหนู”
ในตอนนั้นยูกิยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เพราะอยู่ดีๆ มีพลังพิเศษแฝงคำสาปตั้งแต่เด็ก
เท่าที่เธอจำได้ ลุงนายพรานเคยทำผ้าปิดตาสีดำให้ใส่บนตาข้างขวา เขาบอกว่าสิ่งนี้จะสามารถผนึกคำสาปแห่งความตายจากดวงตาสีแดงได้
ตราบใดที่ยังคงไม่เปิดมันออกมา แต่เวลาเธอใส่ทีไรมันจะรู้สึกมองไม่ค่อยชัดทุกที
เขาก็เลยสอนควบคุมพลังพิเศษนั่นให้อยู่นิ่งๆ เผื่อยามฉุกเฉินช่วงไม่มีผ้าปิดตา
“ว่าแต่ทำไมคุณลุงถึงรู้เรื่องเกี่ยวกับพลังพิเศษเหรอคะ”
“ก็นะ...เพราะลุงมีเพื่อนคนหนึ่งที่มีพลังพิเศษเหมือนกัน แต่ตายจากโลกนี้ไปแล้ว
ตอนนั้นเขาโดนฝังศพก่อนที่ลุงจะได้เจอหน้าซะอีก เป็นโชคชะตาที่ไม่ดีเอาซะเลย”
ลุงนายพรานเล่าจบแล้วยิ้มเศร้าๆ ให้แล้วสอนเด็กสาวควบคุมพลังพิเศษต่อ ในใจคิดว่า
คนที่มีเพื่อนอย่างเขาคงจะเสียใจมาก ต่างจากตัวเธอที่ถูกทิ้งไว้ในป่าและมองด้วยสายตาไร้เยื่อใย
หนำซ้ำยังเป็นตัวก่อความตายให้กับเพื่อนในโรงเรียนอีก
ความคิดเด็กน้อยของเธอตอนนั้นที่ผุดขึ้นมาคือ ถ้าสามารถเรียนหรือเล่นกับเพื่อนได้เหมือนคนปกติล่ะก็...คงจะมีความสุขกว่านี้แท้ๆ เธอไม่อยากฆ่าใคร...ไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน...และไม่อยากเป็นตัวตนแห่งความตายแบบนี้อีกต่อไปแล้ว
ตลอดระยะเวลา 13 ปี ยูกิเข้าเรียนหนังสือในโรงเรียนตามปกติจนจบโดยไม่เปิดผ้าปิดตาเลยพร้อมยกเหตุผลให้กับเพื่อนร่วมชั้นและคุณครูว่า
เกิดอุบัติเหตุจนตาบอด มีอยู่ครั้งหนึ่งช่วงตอนเลิกเรียน มีกลุ่มหัวโจกลากไปหลังห้องน้ำพร้อมท้าทายดึงผ้าปิดตาออก
สุดท้ายพวกเขาก็ต้องตายเพราะถูกคำสาปจากดวงตาสีแดงเล่นงาน
ในตอนนั้นเด็กสาวได้เห็นตัวตนของคำสาปที่แท้จริง นั่นคือ อสรพิษสีดำอันดุร้ายซึ่งลอยอยู่ข้างหลัง
มีนัยน์ตาสีแดงเลือด เขี้ยวแหลมๆ ทั้งปาก คมดาบติดทั่วลำตัว เธอรู้สึกกลัวจนทรุดลงกับพื้น
แต่มันกลับหันมาจ้องมองและส่งโทรจิตบอกประมาณว่า...
‘ตัวข้าผู้บ้าคลั่งในโลหิตและความรุนแรง...ผู้ใดก็ตามที่ริอาจจ้องมอง จักสังหารทิ้งหากไร้การควบคุม...ฉะนั้นเจ้าจงควบคุมให้ดีและพยายามใช้ช่วยเหลือผู้คนเสีย...อย่าได้ชักนำความตายเช่นตอนนี้อีกเด็ดขาด...’
ว่าจบเจ้าอสรพิษนั่นก็สลายหายไปกับควันสีดำ เธอมองกลุ่มคนตายตรงหน้าแล้วรู้สึกผิดอย่างมาก
มือค่อยๆ เอื้อมลงหยิบผ้าปิดตามาใส่เหมือนเดิม ต่อจากนั้นก็รีบกลับบ้านไปเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้ลุงนายพรานฟังแต่โดยดี
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“หนูเคยรู้สึกตัวมั้ยว่า ยังมีงูอีกตัวหนึ่งที่ไม่ทำร้ายใครเลยนะ ลุงเคยเห็นมันโผล่มาตอนหนูนอนคืนก่อนแต่กลับไม่ทำอะไรให้เจ็บตัวแม้แต่นิดเดียว”
“เอ๊ะ? แต่มันไม่เคยแสดงตัวให้เห็นสักครั้งนี่คะ”
“งั้นลองเรียกดูสิ...เดี๋ยวหนูจะรู้เอง”
เธอยังไม่รู้วิธีเรียกที่ถูกต้องจนลองดีดนิ้วข้างซ้ายหนึ่งครั้ง ควันสีดำลอยในอากาศก่อนที่ร่างของอสรพิษอีกตัวจะค่อยๆ
ปรากฏตรงหน้า มันมีรูปลักษณ์แตกต่างจากตัวขวาคือ นัยน์ตาสีม่วงเข้ม ไม่มีคมดาบ จากเขี้ยวแหลมเปลี่ยนเป็นฟันทู่ๆ
ไว้สำหรับจับสิ่งของหรืองับเล่นโดยไม่ทิ่มเข้าเนื้อ
มันมองเข้ามาพร้อมคลอเคลียบนแก้มไปมาราวกับลูกแมว
เธอแอบแปลกใจสักพักก็ยกมือลูบหัวอย่างเบามือ ซึ่งเป็นอย่างที่ลุงนายพรานพูดไม่มีผิด
เจ้าอสรพิษตัวนี้ไม่ทำร้าย แถมยังน่าเอ็นดูและเป็นมิตรด้วย
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงปกปิดไว้ไม่กล้าเผยให้คนในโรงเรียนเห็น
กลัวว่าจะถูกมองว่าเป็นสัตว์ประหลาดในสังคม
พวกเขาทั้งสองใช้ชีวิตตามปกติไปได้สองปีจนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่งในขณะที่กำลังลุงนายพรานไปเก็บผลไม้ในป่า
ก็มีกลุ่มอาชญากรชุดสีดำจำนวนห้าคนบุกเข้ามาพร้อมอาวุธปืนมากมาย พวกนั้นแอบจับเขาเป็นตัวประกันไว้
ยูกิเริ่มรู้สึกว่าทำไมเขามาช้าผิดปกติ จึงได้เดินทางออกตามหาแล้วก็พบร่างลุงนายพรานที่ถูกมัดตัวกับต้นไม้อยู่
“คุณลุง!!” เธอเรียกคนตรงหน้าจนมีหนึ่งในกลุ่มอาชญากรหันกลับมา
“โหๆ ดูเหมือนว่าจะมีผู้หญิงบ้านๆ มาช่วยตาลุงนี่แฮะ”
“ปล่อยคุณลุงเดี๋ยวนี้นะ...ไม่งั้นจะฆ่าพวกแกทั้งหมดแน่”
“เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ แบบนี้คิดว่าจะทำอะไรได้งั้นเรอะ”
ชายหนุ่มคนนั้นเดินมาใกล้พร้อมจ่อปืนกลางอก ในตอนนั้นเองยูกิพยายามเปิดผ้าปิดตาใช้อสรพิษข้างขวาแต่กลับถูกคำเตือนครั้งก่อนเตือนสติจนต้องยกมือทั้งสองขึ้นข้างหัวอันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ายอมแล้ว
“ใจไม่กล้าพอนี่หว่า...”
ชายหนุ่มอาชญากรเยาะเย้ยหญิงสาวคนหน้า
“ยูกิ! วิ่งหนีไปซะ...อย่ารอช่วยลุงเลย เดี๋ยวเจ็บตัวเปล่าๆ
ถึงจะใช้พลังพิเศษจากตาข้างขวาก็คงอาละวาดจนฆ่าลุงด้วยแน่ๆ” ลุงนายพรานดิ้นไปมาหวังจะให้หลุดจากพันธนาการนี้แต่ไม่ได้ผลแม้แต่นิด
ยูกิพยายามเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ เตรียมช่วยลุงผู้เลี้ยงเธอมาตลอดก่อนที่จะโดนกลุ่มอาชญากรยิงบนพื้นดักหน้าพร้อมขู่ว่า
ถ้ายังกล้าเดินเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียวจะฆ่าทิ้งทั้งสองคน เธอจึงจำยอมเดินถอยออกเตรียมวิ่งหนี
ขณะนั้นเองกลุ่มอาชญากรเริ่มยกปืนยิงเธอตรงหน้าหวังจะฆ่าปิดปาก
แต่ก็ได้มีอสรพิษตัวซ้ายพุ่งไปหยิบแผ่นไม้ใกล้ๆ มาบังกระสุนไว้จนรอดมาถึงตัวเมือง
เธอไม่กล้าหันหลังมองลุงนายพรานเลย เพราะกลัวว่าจะตายไปด้วย
ในหัวของหญิงสาวคิดเรื่องลุงนายพรานเรื่อยเปื่อยว่า ‘เขายังมีชีวิตอยู่มั้ย’ ‘ตอนหลบหนีพวกนั้นได้ยิงเขาด้วยรึเปล่า’ คำถามพวกนี้วนไปมาเต็มหัว ต่อมาเมื่อหลบหนีสำเร็จก็นั่งพักใต้สะพานเหมือนดั่งปัจจุบัน
ขอร้องล่ะ...อย่าเพิ่งตายเลยนะคะ...
[ To be
continued ]
ถ้านึกรูปลักษณ์พลังพิเศษของยูกิไม่ออก นี่คือตัวอย่างเน้อ
[ เครดิต : เกม Darkness 2 ]
ความคิดเห็น