[Show by Rock!!] The Bottle of Milk
นมหนึ่งขวด...เปรียบเหมือนชีวิตของใครสักคนที่มีการเติบโต รอคอยใช้ชีวิตร่วมกับอีกคนหนึ่งอย่างมีความสุข แล้ว...โชคชะตาระหว่างชายสองคนที่กำลังคบหาสู่กันจะเป็นอย่างไรล่ะ...หากขวดใบนั้นถูกรักษาไว้ไม่ดี!!
ผู้เข้าชมรวม
289
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
นมหนึ่งขวด...เปรียบเหมือนชีวิตของใครสักคนที่มีการเติบโต
รอคอยใช้ชีวิตร่วมกับอีกคนหนึ่งอย่างมีความสุข
แล้ว...โชคชะตาระหว่างชายสองคนที่กำลังคบหาสู่กันจะเป็นอย่างไรล่ะ...
หากขวดใบนั้นถูกรักษาไว้ไม่ดี!!
---------------------------------------------------------------------
[Show by Rock!!]
Title: The Bottle of Milk
Rating: Mature (Not include about sexual contents)
Genre: Angst
Warning: Depression, Domestic Mental Violence, Suicide Attempt
---------------------------------------------------------------------
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ณ สตูดิโอ
เวลา 12.00 น.
หลังจากเหล่าสี่หนุ่มวง ShinganCrimsonZ ซักซ้อมเล่นเพลงใหม่
พวกเขาต่างพากันหยุดพักเบรคโดยเดินมุ่งหน้าไปยังคาเฟ่ประจำค่าย Banded
Rocking Records เพื่อสั่งอาหารเติมพลังกายให้มากยิ่งขึ้น
เมนูครั้งนี้เรียกว่ามีหลากหลายให้เลือก โดยมีข้าวแกงกะหรี่ ราเมง
ข้าวหน้าเนื้อเป็นตัวเลือกให้หนุ่มๆ สามเกลอทะเลาะกันทุกที
“เฮ้ยๆ
เมนูที่ยอดเยี่ยมสำหรับโครวซามะผู้สูงส่งมันต้องเป็นข้าวหน้าเนื้ออยู่แล้วสิ!”
โครว...นักร้องนำและมือกีต้าร์ประจำวง เผ่าพันธุ์เม่น เขาเป็นคนขี้โหวกเหวก
ก้าวร้าวและมักหาเรื่องทะเลาะกับเพื่อนร่วมวง เปรียบเสมือนชนวนแห่งความยุ่งเหยิง
มีปากเสียงอยู่บ่อยๆ
ซึ่งตอนนี้ก็กำลังนั่งเริ่มต้นประเด็นจนเกิดความไม่เห็นด้วยขึ้นมาทันที
“ช่างโง่เขลานัก...เจ้าเม่นแคระ
อาหารที่แสนสมบูรณ์แบบสำหรับพระเจ้าผู้นี้คือข้าวแกงกะหรี่ต่างหากล่ะ”
ไออ้อน...มือกีต้าร์เผ่าพันธุ์สิงโต มักเรียกแทนตัวเองว่า เทพสุริยันทมิฬ หรือ
แบล็คมอนสเตอร์ ชอบรักษาภาพลักษณ์ให้ดูสง่าด้วยการโพส
มือข้างหนึ่งยกขึ้นปิดบนใบหน้าตลอดเวลา หากไม่ทำเช่นนั้นจะไม่พูดจาเลย
อีกทั้งยังเป็นคนที่ไม่ค่อยถูกกับโครวเสียเท่าไหร่
“โครว...ไออ้อน หยุดเถียงกันเสียที
ด้วยเหตุนี้...ข้าน้อยจักขอยกย่องราเมงให้เป็นรีเจ้นด์ ออฟ
มื้อกลางวันตามวิถีแห่งริวโคมุโซ คามุยก็แล้วกัน”
ไยบะ...มือเบสเผ่าพันธุ์จิ้งจอก ผู้นับถือจิตวิญญาณแห่งบูชิโด
เจ้าตัวเปรียบเสมือนจิตวิญญาณอันควบคุมกฎของสิ่งดุร้ายบนโลกเนื่องจากถือครอง ริวเคนเด็น เครื่องดนตรีประจำตัว
ถึงจะดูเป็นผู้ใหญ่กว่าสองหนุ่มเมื่อครู่แต่เขากลับจูนิเบียวอย่างเหลือเชื่อ
“ไหงนายถึงไม่เห็นด้วยกับฉันเล่า ไยบะ!
เมนูนี้แหละคือแหล่งรวมพลังงานให้พุ่งพล่านในร่างกาย
เปล่งปลั่งออร่าเทพตกสวรรค์ให้พวกวัวควายได้หลงหัวปักหัวปำยิ่งกว่าเดิม!!”
เม่นสีแดงกำหมัดซ้ายแนบอกอย่างภาคภูมิพร้อมออร่าขนนกสีดำที่โปรยลงพื้น
“ถึงข้าน้อยจะเป็นคนรักของเจ้า ณ
ตอนนี้...แต่ขอยกเว้นเรื่องเดียวคงเพียงพออยู่แล้วไม่ใช่รึ?” จิ้งจอกสีทองนั่งขยับแว่นขึ้นหนึ่งทีแล้วยกมือขวาเท้าคางมองอีกฝ่าย
ใช่แล้ว...พวกเขากำลังคบหาสู่กันอยู่ในฐานะคนรักได้ประมาณหนึ่งเดือน
เหนือขั้นยิ่งกว่าเพื่อนร่วมวง ตอนแรกทั้งสองไม่กล้าสารภาพให้กับไออ้อนหรือรอม
แต่ด้วยความกล้าหาญ ไม่อยากเก็บไว้ฝ่ายเดียว
จึงยอมบอกเล่าความจริงให้หมดเปลือกตั้งแต่แรกยันจบ
คนเริ่มต้นขอคบคือโครวซึ่งเจ้าตัวไม่อาจทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดอยากอยู่ด้วยกันกับไยบะ
ทั้งที่ปกติก็รวมตัวภายในวงและเจอหน้าบ่อยครั้งแท้ๆ
“นะ...หนวกหูน่า! เลือกเมนูเดียวกันให้มันจบๆ ไปเลยไม่ดีกว่ารึไง!?”
“กะอิแค่เรื่องอาหารถึงกับต้องทะเลาะกันเลยงั้นเหรอ...ไร้สมองสิ้นดี”
“...นี่แกเข้าข้างไยบะสินะ...เจ้าสิงโตปวกเปียก”
โครวแสดงสีหน้าหงุดหงิดหลังได้ยินคำด่าจากสิงโตขาวก่อนที่จะลุกขึ้นออกจับกีต้าร์ประจำกายด้วยมือสองข้าง
“เฮอะ! งั้นมาตัดสินกันตรงนี้ดีกว่ามั้ง...เรด โทมาฮอว์ก ปรากฏมาซะ!”
“ช่างกล้านักที่มาต่อกรกับพระเจ้าผู้นี้...”
ไออ้อนยกมือขวาปิดใบหน้าตามเคยพร้อมทั้งจับกีต้าร์ไว้ด้วยมือซ้ายอย่างสง่าผ่าเผย
“จงรับบทลงทัณฑ์ไปเสียเถิด! โฮลี่ อาร์ค ถูกอัญเชิญ!”
“โห...หากเช่นนั้นคงยอมกันไม่ได้แล้วสินะ...”
ไยบะมองท่าทีทั้งสองคนที่กำลังจะตบตีด้วยกันจนกระทั่งเข้าร่วมวงด้วยการหยิบเบสขึ้นดึงออกจากกระเป๋ายาวเปรียบเสมือนกำลังถือดาบซามูไร
“ริวเคนเด็น พร้อมลุย!”
ทว่า...
ผลัวะ!! ผลัวะ!! ผลัวะ!!
“หนอย...เจ้าพวกบ้านี่!!!”
เหตุทะเลาะวิวาทถูกยุติลงทันทีด้วยหมัดอันมีเปลวเพลิงลุกโชนของ รอม มือกลองผิวสีแทนเผ่าพันธุ์เสือดาว เจ้าตัวเป็นคนเลือดร้อน
กำปั้นมักไปก่อนคำพูดเสมอ มีพละกำลังมหาศาลที่อาจดูเป็นเหมือนแค่พรรณนา
แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดๆ ชัดเจน ซึ่งไยบะนิยามการโจมตีนี้ว่า รีเจ้นด์ ออฟ ความรุนแรง
“อะเฮื้ออ~ ระ...ริวเคนเด็นของข้า...”
“อั่ก...บทลงทัณฑ์ของพระเจ้าผู้นี้...”
“อ๊ากก~ ยะ...อย่าต่อยที่หน้าแบบนี้สิรอม~”
“ให้ตายเถอะ...ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าเลิกทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อยแค่นี้!”
เสือดาวหนุ่มเริ่มดุเพื่อนร่วมวงอย่างกับคุณแม่แล้วค่อยพูดจาโน้มน้าวใจพวกเขา
“พวกเราสี่คนร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว
เป็นวงดนตรีที่กำลังจะร่วมมือกันจารึกตำนานไว้ในประวัติศาสตร์แห่งบทเพลง...ด้วยจิตวิญญาณย้อมสีชาดเข้ม...ไม่ใช่รึไง!!”
“...!!!?” หนุ่มสามเกลอต่างเบิกตากว้างเชิงได้สติกลับมาก่อนที่จะพากันนั่งคุกเข่าตรงหน้าอีกฝ่ายและแสดงสีหน้าร่ำไห้
หยาดน้ำตาหลั่งไหลลงอาบแก้มพร้อมออร่าแห่งความซาบซึ้งเปล่งประกาย
“ฮึ่ก...รอม...นายนี่มันสุดยอดที่สุดเลย...”
“สมกับเป็นมนุษย์สังคมเสียจริง...ด้วยเหตุนี้...อึ่ก...คำพูดคำจานั่นช่างมีขุมพลังมากมายยิ่งนัก...”
“...หัวใจอันเยือกเย็นของพระเจ้าผู้นี้...เหมือนกำลังถูกเปลวเพลิงหลอมละลายไปจนหมด...”
“เรื่องมื้อกลางวันพวกนั้น...เดี๋ยวฉันช่วยเลี้ยงให้ทุกอย่างเลยแหละน่า
จะได้ไม่ต้องนั่งเถียงกันให้วุ่นวายอีก”
ว่าจบรอมก็สั่งเมนูข้าวหน้าเนื้อ ข้าวแกงกะหรี่
และราเมงให้กับพวกเขาพร้อมควักเงินจากกระเป๋าออกจ่ายอย่างไม่มีรีรอ
ทำเอาเปรียบดั่งซิงเกิลมัมคนหนึ่งที่ต้องดูแลลูกหลานแสนซนทั้งสามคนเลยทีเดียว
ในระหว่างนั้นเอง...
ตื๊ดด~ ตื๊ดด~ ตื๊ดด~
เสียงโทรศัพท์สั่นดังขึ้นในกระเป๋ากางเกงของโครว
เมื่อลองเปิดหน้าจอดูแล้วพบว่าเป็นข้อความจากเบอร์ของพ่อหรือผู้ดูแลฟาร์ม Cnow ประจำตระกูลนั่นเอง
เขาขมวดคิ้วลงด้วยความรู้สึกสงสัยก่อนที่จะกดเข้าไปอ่านเนื้อหาใจความทั้งหมด
ถึงโครวลูกรัก
พรุ่งนี้เช้าพ่อกับแม่ขอพบชายที่ชื่อ ไยบะ
หน่อยนะ...เพราะได้ข่าวว่าพวกลูกสองคนคบหากัน ก็เลยอยากเปิดใจพูดคุยด้วยสักหน่อย
เอาเป็นว่านัดเจอกันที่ฟาร์มพวกเราละกันเนาะ
ด้วยรักและห่วงใย
จากพ่อ
“ห๊าาา!?”
“ยูเวนิ!?” ไยบะอุทานด้วยคำพูดติดปากหลังจากเห็นท่าทีตกใจเหวอของอีกคน
เขารีบถ่อเข้ามาถามใกล้ๆ อย่างเป็นห่วง
จนกระทั่งสายตาเหลือบมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์แล้วพบคำตอบไขข้อสงสัย
“โห...พ่อแม่เจ้าอยากเจอหน้าข้าน้อยงั้นรึ? ช่างเป็นเรื่องที่รีเจ้นด์
ออฟ น่ายินดียิ่งนัก”
“ยินดีบ้าบออะไรฟะ...! ถะ...ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับขึ้นมาจะทำยังไงเล่า”
เม่นสีแดงพูดพลางทำแก้มป่องและแอบรู้สึกหวั่นกลัว
ระแวงว่าพวกเขาสองคนจะต้องเลิกราหรือไม่
“อย่าได้กังวลไป...เดี๋ยวข้าน้อยจะช่วยพูดคุยให้เอง ด้วยเหตุนี้---”
ตื๊ดด~ ตื๊ดด~ ตื๊ดด~
ในจังหวะที่จิ้งจอกหนุ่มกำลังสนทนา เสียงโทรศัพท์สั่นดังขึ้นขัดจังหวะ
เมื่อลองล้วงกระเป๋าเสื้อสีดำด้านในแล้วหยิบมันมาเปิดหน้าจอ
พบว่าเป็นข้อความจากเบอร์เจ้าของร้านพาร์ทไทม์ขายอาหาร
เนื้อหาใจความเหล่านั้นมีอยู่ว่า...
ถึงไยบะคุง
พรุ่งนี้เช้าฉันขอพบด้วยหน่อยได้รึเปล่า
พอดีมีพนักงานพาร์ทไทม์คนใหม่บรรจุเข้ามาแล้วอยากได้คำแนะนำจากรุ่นพี่อย่างเธอ
ฉันรู้ว่าเธอต้องใช้เวลามากมายเพื่อซักซ้อมดนตรี
แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้แวะเวียนมาหาหน่อยนะ
จากหัวหน้า
“ยะ...”
ไยบะกวาดสายตาอ่านครบทุกตัวอักษรแล้วถึงกับอ้าปากร้องอุทานเสียงแหลมกว่าปกติ
“ยูเวนี๊!!? เหตุใดถึงมีนัดชนกันเช่นนี้ล่ะนิ!!?”
“ห๊าาาาาา!!?” โครวที่รับรู้เช่นนั้นเปล่งคำอุทานเสียงยาวและดังกว่าเดิมสองเท่าตามๆ
กัน “สองคนนี้พยายามจะลองใจพวกเรารึไงฟะเนี่ยยย!!?”
.
.
.
.
.
เช้าวันรุ่งขึ้น
เวลา 06.30 น.
หลังจากผ่านเหตุการณ์ส่งข้อความชนกันโดยมิได้นัดหมาย
ไยบะและโครวต่างออกความเห็นว่าจะลองพูดคุยกับพ่อแม่เรื่องความสัมพันธ์ในปัจจุบัน ณ
ฟาร์ม Cnow ส่วนเรื่องงานพาร์ทไทม์จบลงที่คำอ้างว่ามีนัดสำคัญแล้ว
“...”
ตอนนี้ลูกชายเผ่าพันธุ์เม่นได้ตื่นขึ้นทำงานตามปกติ
เขากำลังอยู่ในชุดทำฟาร์มวัวสีแดงทับเสื้อแขนสั้นด้านในสีดำ
ถือพลั่วยาวตักกองฟางรวมกันให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
แสงแดดยามอรุณสาดส่องลงจนเผยออร่าเทพตกสวรรค์
รวมทั้งหยาดเหงื่อแห่งความมุ่งมั่นตั้งใจที่ไหลลงบนต้นคอ
ตึก...ตึก...ตึก
ระหว่างนั้นเอง
เสียงฝีเท้าดังกระทบพื้นเป็นจังหวะเดินพร้อมกับร่างของชายหนุ่มเผ่าพันธุ์จิ้งจอกสีทอง
เขากำลังอยู่ในชุดลำลองธีมสีดำ-ทอง เสื้อแขนยาวพับแขนขึ้นประมาณสองทบ
กางเกงขายาวที่เน้นใส่สบายๆ รองเท้าคัทชูสีดำ
ส่วนเครื่องประดับมีเพียงแว่นตาคู่ใจและกำไลข้อมือสองข้าง
“ยูเวนิ...? เจ้าตื่นนอนไวกว่าที่ข้าน้อยคิดเลยแฮะ
โครว”
“โย่ว...ไยบะ!” โครวรีบมุ่งหน้าเข้าหาคนรักมือเบสด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เอื้อมมือไปจูงแขนพลางพาเดินมานั่งพักบนกองฟางซึ่งถูกรวบรวมจนเป็นเก้าอี้ชั้นดี
“นั่งรอตรงนี้แป๊บนะ เดี๋ยวฉันไปเอาขวดนมยามเช้าให้นายได้ลองชิม”
“ช้าก่อนสิ...”
ไยบะลุกขึ้นรั้งข้อมืออีกฝ่ายไว้ก่อนที่จะดึงมาโอบกอดรอบตัวหลวมๆ
มือขวาพยายามหยอกเล่นด้วยการจับหางเม่นสีดำยาวเล่นไปมา “ฮืม...รีเจ้นด์ ออฟ
ความอบอุ่นนี้ช่วยทำให้ใจชื้นจริงๆ
เพราะการได้รับอ้อมกอดจากเจ้าเป็นสิ่งที่ข้าน้อยโหยหาตลอดเวลา”
“...!? จะ...เจ้าบ้ายูเวนิ! เจ้าบ้าริวเคนเด็น!”
“ฮึๆๆ งั้นข้าน้อยจะรอละกัน”
สิ้นเสียงพูดเมื่อครู่ มือเบสหนุ่มค่อยๆ ผละตัวออกแล้วนั่งลงจุดเดิม
เขามีสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มมุมปากแฝงความพึงพอใจ
ทำเอานักร้องหนุ่มแสดงท่าทีเคอะเขินอย่างเห็นได้ชัดพร้อมรีบสอยเท้าวิ่งเข้าบ้านอย่างเร็วไว
“...”
จะว่าไป...บ้านของโครวก็น่าอยู่เหมือนกันแฮะ...
ธรรมชาติที่ข้าน้อยสัมผัสได้จากสายลมพัดโบก
ฝูงวัวทั้งหลายซึ่งให้ผลผลิตนมขวดโด่งดังนั่น...เป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งที่ช่วยประทังความเป็นอยู่ของพวกเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชีวิตโครว...
ไยบะนึกคิดเช่นนั้นในช่วงวินาทีที่ตนนั่งรออย่างเดียวดายพร้อมรู้สึกอยากลองดื่มนมจากตระกูลนี้สักครั้งหนึ่ง
เพื่อประดับชีวิตอันแสนมีคุณค่าและเพิ่มพูนประสบการณ์มากยิ่งขึ้น
“...”
ต่อมา...
ตึกๆๆๆๆ
ลูกชายเจ้าของฟาร์ม Cnow รีบวิ่งกลับมาพร้อมกับขวดบรรจุนมปริมาณ 200
มิลลิลิตร ซึ่งเป็นเครื่องดื่มสีขาวบริสุทธิ์ ไม่มีสีอื่นปะปน
มีสัญลักษณ์รูปหัวเม่นสีแดงแปะไว้แสดงถึงโลโก้ผลิตภัณฑ์
นอกจากนี้บนฝาขวดยังห่อหุ้มด้วยผ้าบางสีทองที่มีตัวอักษรเขียนว่า For Yaiba
“อ่ะนี่...ขวดนี้เพิ่งพาสเจอไรซ์ใหม่ล่าสุดด้วยฝีมือของฉันเลยนาา~” โครวยื่นขวดนมให้แก่อีกฝ่ายพร้อมฉีกรอยยิ้มแจ่มใสภายใต้แสงแดดที่สาดส่องจนเกิดเป็นออร่าหนุ่มน้อยเปล่งประกาย
“โห...เจ้าทำเองเพื่อข้าน้อยงั้นหรือนี่? ด้วยเหตุนี้...ข้าน้อยจะขอรับมาลิ้มลองเลยละกัน”
ว่าจบมือเบสเผ่าพันธุ์จิ้งจอกก็รับมันมาเปิดฝาอย่างระมัดระวัง
เกรงว่าของเหลวสีขาวภายในนั้นจะกระเซ็นออกอย่างน่าเสียดาย
เขานั่งมองอยู่สักพักพลางอมยิ้มบางๆ
เพราะตนกำลังจะได้ดื่มนมจากฝีมือแฟนหนุ่มตัวน้อยแล้ว
อึ่ก...อึ่ก...อึ่ก
ไยบะค่อยๆ ยกขึ้นดื่มด้วยความชิลให้หมดขวด
ปากและลิ้นเริ่มรับรู้ถึงรสชาติอันหอมหวาน
ความเย็นจับใจของนมวัวช่วยดับร้อนได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
โดยในระหว่างนั้นนักร้องนำก็หย่อนตัวลงนั่งข้างๆ
พลางกระดกเครื่องดื่มอันโปรดปรานที่ถือเพิ่มมาอีกขวด
.
.
.
.
.
ทว่า...
อึ่ก...อึ่ก...อึ่ก
“ฮ้าา...ว่าแล้วนมวัวของฉันนี่มันสุดยอดที่สุดเลยล่ะ ใช่ม้าไยบะ!?”
“...” จิ้งจอกหนุ่มไม่พูดตอบใดๆ แล้วแทนที่ด้วยสีหน้าซีดเผือดแฝงความสงสัย
มือขวาข้างที่กำลังถือบรรจุภัณฑ์เริ่มสั่นเทา มือซ้ายยกขึ้นกุมหัว
นัยน์ตาสีเหลืองไร้ซึ่งอารมณ์ด้านบวก
“ไยบะ...?”
“...เหตุใด...ถึงมีกลิ่นอัลมอนด์ขมๆ เช่นนี้...”
กลิ่นอัลมอนด์...?
โครวเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งหลังได้ยินคำถามนั่นก่อนที่จะพยายามอธิบายความจริง
“บะ...บ้าน่า นมวัวประจำฟาร์ม Cnow ไม่เคยปรุงแต่งกลิ่นสักหน่อ---”
ตุบ!
"แค่กๆๆ”
ยังไม่ทันที่โครวจะพูดจบ ไยบะเริ่มรู้สึกวิงเวียน
ทรุดตัวคุกเข่าบนพื้นดินพลางกระแอมไอด้วยเสียงแหบแห้ง ระคายเคืองคันจมูก คอและปาก
อาเจียนออกเป็นนมสีขาวขุ่นปนกับเศษขนมปังรองท้องเล็กน้อยจากบ้าน
หยาดเหงื่อของความทุกข์ทรมานไหลลงอาบใบหน้า
แสบร้อนทั่วทั้งลำคอและช่องปากเหมือนถูกเปลวเพลิงแผดเผา
เพล้ง!!
“ไยบะ!!?”
“แฮ่ก...แฮ่ก...”
ในวินาทีนั้น
จิ้งจอกหนุ่มได้ปล่อยขวดนมจนแตกกระจายเพราะกล้ามเนื้ออ่อนล้า
แขนขารู้สึกหนักเหมือนถูกแรงโน้มถ่วงดึงดูด หอบหายใจลำบาก
ส่งผลให้เอ่ยปากคุยแทบไม่เป็นคำ นอกจากนั้น ทุกครั้งที่เปล่งเสียงพูดหรือหอบหายใจ
ยังสัมผัสถึงกลิ่นอัลมอนด์จางๆ อีกด้วย
“คะ...โครว...เจ้าใส่อะไร...ลงไปในขวดนมน่ะ...? "
"ปะ...เปล่านะ! ฉันยังไม่ได้---"
"ข้าน้อย...รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะ...หมดลมหายใจแล้ว...ด้วยเหตุนี้...
" เจ้าตัวเริ่มเกิดอาการแปลกๆ หนักกว่าเดิม หัวใจกลางอกเริ่มเต้นผิดจังหวะ
หอบหายใจเข้าออกไม่สม่ำเสมอ
“บ้าเอ๊ย!! เกิดอะไรขึ้นกับตัวนายกันแน่!!”
เม่นหนุ่มช็อกกับเหตุการณ์ตรงหน้าพร้อมโถมตัวเข้ามาใกล้เพื่อดูอาการ
มือไม้สองข้างเขย่าร่างของแฟนหนุ่มหวังปลุกสติสัมปชัญญะ
“สารภาพมาสิ...เจ้าทำอะไร...ลงไป...บ้าง...”
ไยบะพยายามลืมตามองแล้วเปิดปากทวงถามคำสารภาพด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ไม่ชัดถ้อยชัดคำ
“...”
นักร้องนำกลืนน้ำลายลงหนึ่งที สีหน้าซีดเผือด
ไร้ซึ่งคำตอบให้แก่อีกฝ่ายเพราะไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้นนอกจากการพาสเจอไรซ์นมสดด้วยตัวเองเพื่อเป็นของขวัญ
มือขวายกแตะบริเวณต้นคออย่างกล้าๆ กลัวๆ
“...!!?”
ไม่จริงน่า...ชีพจรเต้นอ่อนมาก
ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็...
พอนึกได้เช่นนั้น ร่างบางเริ่มใช้ทั้งหมดยกตัวไยบะขึ้นอย่างทุลักทุเล
มือขวาโอบรอบเอวในขณะที่มือซ้ายจับแขนให้พาดบนไหล่ ต่อมาก็ค่อยๆ พาเดินออกจากบริเวณฟาร์มวัว
Cnow แห่งนี้ให้ไวที่สุดแล้วมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลละแวกใกล้เคียง
“แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...”
ขอร้องล่ะ...ไยบะ…
อยู่รอดเพื่อฉันที...
ระหว่างที่พยุงตัวผ่านบริเวณสะพานอิฐ
เขาทำได้เพียงสวดภาวนาด้วยความหวังอันริบหรี่ แสงแดดยามอรุณสาดส่องบนร่างกายทั้งสอง
มันแผดเผาพวกเขาจนร้อนแทบหลอมละลาย แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือ
ไม่มีมิวม่อนคนไหนเดินผ่านไปมาเลย
“ไยบะ...อย่าเพิ่งตายนะ...นายต้องอยู่รอดกับฉัน...”
วินาทีนั้นเอง...
ตึก...ตึก...ตึก
“โอ๊ะโอ...เธอคือนักร้องนำประจำวง ShinganCrimmonju ไม่ใช่เหรอ
ท่าทางลำบากแย่จังนะ”
เสียงของใครอีกคนดังจากเบื้องหน้าโครว
เมื่อเงยหน้ามองแล้วจึงพบกับชายหนุ่มผิวสีเหลืองไฮไลท์เขียวในชุดไอดอลธีมสีน้ำเงิน-ชมพู
เขาเดินมาพบปะโดยบังเอิญแล้วทักทายด้วยชื่อวงที่ผิดเหมือนเคย
“...มันใช่เรื่องที่จะมาเล่นตลกมั้ย…ไอ้เวรชูโซ”
“อุหวา~ คนอุตส่าห์มาดี โดนด่ากลับมาซะงั้น~” ชูโซเอามือทาบบนอก ทำท่าตกอกตกใจแล้วเปล่งออร่าสีเหลืองทองเป็นระยะๆ
“...” เม่นหนุ่มส่งสายตามองเหยียดด้วยความเกลียดชัง
แสดงสีหน้าหงุดหงิดและเศร้าใจในเวลาเดียวกัน “ถอยไป...ฉันมีเรื่องด่วนต้องรีบทำ”
“เรื่องด่วน…? หมายถึงเพื่อนมือเบสที่ 'สิ้นลม' แล้วน่ะเหรอ”
“...!!!? จะบ้ารึไง!! ไยบะไม่มีทางตายเพราะอิแค่นมกลิ่นอัลมอนด์แปลกๆ นั่---”
“อัลมอนด์...” ไอดอลหนุ่มประจำวง Trichronika เอียงคอสงสัยทันทีที่ได้ยินคำเมื่อครู่ก่อนที่จะถือวิสาสะดึงร่างไยบะลงนอนหงายบนพื้น
“นี่แก…!!!”
“...นิ้วมือและปากของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง...ถ้างั้นก็ไม่ใช่เพราะแค่นมประจำตระกูลเธอหรอก
แต่มันมีสารตัวหนึ่งที่สร้างปฏิกิริยาแบบนี้...”
“...”
“เจ้าสารตัวนั้นคือ ไซยาไนด์ ไงล่ะ...”
“ซะ...ไซยา...ไนด์...”
โครวซึ่งไม่เคยได้ยินชื่อสารชนิดนี้มาก่อนแอบรู้สึกเจ็บจี๊ดในใจ
เพราะเขารู้ว่านั่นไม่ใช่เรื่องดีแล้ว “...มันอยู่ในนมวัวของฉันได้ยังไง…?”
“ฮืม...นั่นสินา~ บางทีอาจมีคนไม่หวังดีใส่มันลงไปหลังพาสเจอไรซ์เสร็จล่ะมั้ง?”
“แต่นั่นเป็นขวดที่ฉันพาสเจอไรซ์เองนะเฟ้ย!!!
ไม่มีทางเติมแต่งกลิ่นหรือของแปลกปลอมอะไรทั้งนั้น!!!”
“ใครจะไปรู้ล่ะ...ถ้าลองนึกสงสัยคนใกล้ตัวหรือคนที่เกี่ยวข้องกับนมวัว Cnow
มากที่สุดไว้ก่อน...เธออาจเจอคำตอบก็ได้นะ...”
“อึ่ก...”
เมื่อฟังคำตอบและคำสันนิษฐานจบ
ร่างกายเม่นหนุ่มก็ล้าเฉียบพลันพลางค่อยๆ ทรุดตัวลงข้างไยบะ
มือไม้ที่สั่นระริกแตะลงบนต้นคอใหม่อีกรอบจนได้รู้ด้วยตัวเองว่า
ชีพจรหยุดเต้นเสียแล้ว
“ยะ...ไยบะ…ไม่จริง...เมื่อไม่นานนี้นายยังยิ้มให้ฉัน...ยังกอดฉัน...ยังหยอกฉันเล่นอยู่เลยไม่ใช่รึไง...”
“...” ชูโซทำอะไรได้ไม่มากนอกจากยืนไว้อาลัยให้กับคู่แข่งทางวงดนตรีอย่างเงียบๆ
“ฮึ่ก...ไยบะ...”
หยาดน้ำตาแห่งความโศกเศร้าเริ่มเอ่อไหลลงอาบใบแก้ม
ความรู้สึกวูบคล้ายจะหมดสติและเสียใจแล่นลงทั่วอก
เนื่องด้วยการที่ไม่เคยประสบพบเจอเหตุการณ์โศกนาฏกรรมมาก่อน
แม้แต่วัวในฟาร์มก็ยังไม่เคยตายต่อหน้าเขาสักตัว...
นั่นทำให้เขารู้ซึ้งถึงความโหดร้ายของโลกใบนี้...
...โลกแห่ง MIDICITY...
...โลกแห่งบทเพลงที่ไม่ได้มีแค่เมโลดิเชี่ยนเปื้อนมลทินต่อไป
“...ไยบะ!!!!!!!!!!”
.
.
.
.
.
ตั้งแต่วินาทีนั้น โครวได้ทำใจยอมขอให้ชูโซแบกไยบะกลับมายังฟาร์ม Cnow อีกครั้ง
เขาผลักไสไล่ส่งไปให้พ้นจากสายตาพร้อมปิดประตูคอกไว้
เพราะไม่อยากให้ใครพบเห็นเหตุการณ์น่าสลด บวกกับสภาพจิตใจที่ใกล้แตกสลายเต็มทน
“อึ่ก...ไยบะ...ทำไมนายต้องมาตาย...ต่อหน้าฉันแบบนี้...ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างแท้ๆ”
เม่นหนุ่มทำได้แต่เพียงนั่งโอบกอดแน่น
รำพึงรำพันกับคนรักที่นอนสิ้นลมหายใจ อีกฝ่ายในขณะนี้มีร่างกายบางส่วนเป็นสีม่วง
เนื่องจากฤทธิ์การทำงานของสารไซยาไนด์ที่ลามสู่ภายใน
“...?”
วินาทีนั้นเอง โครวได้สังเกตเห็นกล่องบางอย่างวางอยู่ใกล้ประตูคอกวัว
เขาค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีอยู่แล้วแบกกลับมานั่งดูจุดเดิม
ซึ่งมันเป็นกล่องกระดาษสีน้ำตาลอ่อน แปะเทปสีเทาไว้ด้านบน เมื่อลองจับลอกออกทีละนิดพร้อมเปิดฝาออก
สิ่งที่บรรจุอยู่ภายในนั้นคือ
ขวดแก้วสีเหลืองอำพันขนาดเล็กและแผ่นกระดาษสีขาวรูปแบบจดหมายขนาด 2x4 นิ้ว
เจ้าตัวเลือกที่จะเปิดจดหมายเพื่ออ่านเนื้อหาใจความทั้งหมด
แม้สติแทบไม่อยู่กับเนื้อตัวแต่ก็แอบคาดหวังว่า คำตอบของเหตุการณ์ทั้งหมดต้องอยู่ในนั้น
ถึงโครวลูกรัก
ถ้าลูกได้เปิดอ่านจดหมายฉบับนี้ แปลว่าแม่จากโลกใบนี้แล้ว...
เอาล่ะ...มาเข้าเรื่องสำคัญดีกว่า
สิ่งที่แม่อยากจะสารภาพคือเรื่องขวดนมที่ตั้งใจให้เป็นของขวัญแก่ไยบะคุง
เมื่อคืนตอนล้างหน้าเสร็จ
แม่บังเอิญเจอพ่อถือขวดนมของลูกเข้าห้องแล็ปส่วนตัวแล้วแอบใส่อะไรบางอย่างลงไป
พอลองเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงได้รู้ความจริง...พ่อแอบวางยาไซยาไนด์
หวังสร้างภาพให้ลูกเป็นคนฆ่าไยบะคุงด้วยน้ำมือตัวเอง
ตอนนั้นเขาจับได้ตอนแม่มองพอดีแล้วขู่ว่า ถ้าเอาเรื่องนี้บอกลูก
เขาจะฆ่าแม่และดับชีวิตตัวเองซะ
สุดท้ายนี้คือ...ขอโทษนะ...
แม่รู้...ว่าลูกรักไยบะคุงแค่ไหน...
แต่แม่กลับ...ทำความฝันให้เป็นจริงไม่ได้เลย...
ถ้าเป็นไปได้...ก็ระวังตัวด้วย...
อย่าทำให้มือเปื้อนมลทินจากพ่อเด็ดขาด...
ด้วยรักและห่วงใยเสมอมา
จากแม่
“...”
สายเกินไปแล้วล่ะแม่...
ผมฆ่าไยบะด้วยมือของตัวเอง...
มือผมเปื้อนมลทินโดยไม่ได้ตั้งใจ...
เขา...ไม่ฟื้นกลับมาอีกแล้ว...
โครวเม้มกัดริมฝีปากล่างแน่นจนเกือบเป็นแผล
นัยน์ตาสีแดงทรงเสน่ห์ด้วยออร่าเทพตกสวรรค์เริ่มว่างเปล่า
จิตใจพังทลายยิ่งกว่าเก่า
ทั้งอารมณ์ความรู้สึกและจิตวิญญาณที่สั่งสมจากคำพูดปลุกกำลังใจล้วนดับสูญ
มีเพียงแต่ความคิดว่าคงต้องยอมรับชะตากรรม
...และทำให้มันจบลงซะ
“...”
เขาหันมองขวดแก้วสีเหลืองอำพันที่วางไว้ในกล่องกระดาษอยู่สักพักก่อนที่จะยื่นมือหยิบขึ้นมา
ลักษณะภายนอกเหมือนกับขวดยาขนาดเล็กทั่วไป เพียงแต่มีฉลากโทนสีไข่แปะบอกชื่อ CYANIDE เหนือสัญลักษณ์หัวกะโหลกและตัวหนังสือคำว่า
POISON
ใช่แล้ว...มันคือยาพิษที่มีฤทธิ์ร้ายแรงที่สุดในโลกนั่นเอง
“อึ่ก...ขอโทษนะ...รอม...ไออ้อน...ประธาน...แต่ฉัน...”
น้ำเสียงสะอึกสะอื้นพร้อมกับหยาดของเหลวอุ่นใสไหลรินอีกครั้ง
มือขวาอันสั่นเทาเปิดฝาขวดยาพิษออกอย่างช้าๆ กลิ่นอัลมอนด์ขมๆ
ลอยขึ้นเตะจมูกอย่างรุนแรง ลูกชายผู้ดูแลฟาร์ม Cnow กลืนน้ำลายลงหนึ่งทีเชิงตัดสินใจทางเลือกของตัวเอง
“...ทนใช้ชีวิตที่ไม่มีไยบะ...ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว...”
โครวยกมันดื่มเข้าปากให้หมดภายในรวดเดียว เขารู้สึกเจ็บปวด
ร้อนผ่าวทั่วช่องปากและคอ ราวกับว่ามีเปลวเพลิงที่ไม่มีทางดับกำลังแผดเผาให้สิ้น ร่างกายอันบอบบางเริ่มหมดเรี่ยวแรงก่อนที่จะเอนล้มนอนกุมอกบนพื้นข้างไยบะ
น้ำตายังคงไหลอาบลงบนใบหน้าไม่ขาดสายด้วยความทุกข์ทรมาน
แม้พยายามสูดเอาอากาศเข้าปอดมากแค่ไหนก็ไม่ได้ผลอีกต่อไป สติสัมปชัญญะค่อยๆ
วูบลงทีละนิด ขวดยาไซยาไนด์ร่วงหล่นกระทบพื้นจนแตกกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อย
เพล้ง!!
“...”
เสี้ยววินาทีก่อนหมดลมหายใจ...ภาพเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาแล่นเข้าหัวนักร้องนำประจำวง
ShinganCrimsonZ
เชิงตอกย้ำอย่างต่อเนื่อง
...การซักซ้อมดนตรีในสตูดิโอ
...การทะเลาะเบาะแว้งแล้วถูกห้ามปราม
...การนั่งกินข้าวร่วมกัน
...การทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายของเล่น
...การเดินเที่ยวยามว่างด้วยความสนุกสนาน
...การส่งรอยยิ้มให้กันและกัน
...และการนั่งดื่มนมเมื่อเช้านี้...ที่กลายเป็นความทรงจำสุดท้ายฝังลึกตลอดกาล
“...ไย...บะ...”
คำติดปากอย่าง รีเจ้นด์ ออฟ อะไรสักอย่าง...
คำว่า ด้วยเหตุนี้ ที่มักใช้อย่างสิ้นเปลืองและไม่ตรงแกรมม่า...
หรือคำอุทานอย่าง ยูเวนิ ของสุดยอดมือเบสประจำวง ShinganCrimsonZ
กำลังจะสูญสลาย มลายตามสสารทั่วอากาศ
“...”
แม้โครวเคยแอบหงุดหงิดกับคำเหล่านี้บ่อยครั้ง
แต่นั่นกลับทำให้รู้สึกเสียใจที่จะไม่ได้ยินมันจากปากไยบะอีกต่อไป
เพราะเขา...
...รักคนๆ นี้ยิ่งกว่าใครบนโลกเสียแล้ว
-------------------------------
Ending: Broken Bottle (Death)
-------------------------------
ผลงานอื่นๆ ของ Japanitsu ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Japanitsu
ความคิดเห็น