คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : s c l 5 อดีตฝังใจกับพิธีกรสาว
เหล่าไอดอลที่ได้รับงาน sm ต่างมารวมตัวกันที่นี่เพื่อแจกแจงงาน บรรยากาศภายในห้องนั้นแสนจะวุ่นวายเพราะภายในห้องนั้นมีทั้งไอด้อลและเหล่าสไตร์ริสเดินเพี่ยนพ่านไปมากว่า20ชีวิต ไม่นานนักคีย์และจงฮยอนก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกันแถมยังสวีทกันเข้ามาถึงในห้อง
“พี่สองคนนั้น...เขารักกันจังเลยเนอะ..เรามาทำแบบนั้นบ้างดีกว่าพี่ฮงกิ”^3^มินฮวานเอ่ยขึ้นพูดพร้อมโผมากอดและทำท่าจะจูบฮงกิ
“น..นายจะบ้าหลอ...”-0- ฮงกิโวยวายเสียงดังพร้อมใช้มือผลักมินฮวานลงไปนั่งกับพื้น
“อารายยยน่ะ...พี่ผลักผมหลอ”มินฮวานเงยหน้าอันซื่อบื่อของเขาขึ้นมาถาม
“ก็ใช่น่ะซิ่....นายนี่ยังไงกันฉันถามจริงๆเถอะ..นายแค่ชอบสกินชิพเฉยๆ..หรือนายเป็นเกย์กันแน่”ฮงกิพูดพร้อมปัดแขนเสื้อทั้งสองข้างแล้วรีบเดินออกจากตรงนั้นไปนั่งกับ shinee ทันที
“พี่เขาว่าอะไรน่ะ....ก...เกย์หลอ”O^o!?มินฮวานมนุษย์สุดซื่อคิดในใจพร้อมกลืนน้ำลายเข้าไป
“นายจะนั่งตรงนั้นอีกนานไหม...มินฮวาน”เสียงเย็นๆที่ฟังแล้วน่าขนลุกสุดๆดังขึ้นจากมุมห้อง
“....”O.oมินฮวานไม่ตอบอะไร เขาหันไปมองหน้าฮีซอลและรีบลุกขึ้นทันทีจากนั้นเขาหยุดชะงักมองซ้ายทีขวาทีและวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว...
ฮงกิเดินตรงเข้าไปที่ส่วนของ shinee เขาเดินไปนั่งระหว่างแทมินและมินโฮซึ่งที่นั่งนั้นคับแคบอยู่แล้วแต่เขาก็แทรกก้นอันอวบอิ่มของเขาเข้าไปจนทำไห้มินโฮและแทมมินกระเด็นออกจากกันไม่เป็นท่า
“นายนี่ไม่มีมารยาทเลย” มินโฮหันขวับมาพูดตาเขียวเมื่อฮงกินั่งเบียดเขาจนเขากระเด็นในขณะที่แทมินเองก็กระเด็นไม่เป็นท่าเช่นกัน
“ต้องมีด้วยหรอ”ฮงกิหันมาถามมินโฮแลยิ้มหน้าแป้นแล้นใส่เขา
“พี่นายเขาไม่ชอบฉันเรื่องอะไรเนี่ยฮะแทมมิน”ฮงกิหันไปพูดกับแทมมินและดึงแทมมินมากอดคอ
แทมมินยิ้มด้วยมารยาททั้งที่ในใจแสนจะรำคาญและแอบกลัวนิดๆ
“.......” ^^’แทมมินยิ้มและหันมามองฮงกิทีมินโฮทีและแอบส่ายหน้านิดๆ เขาสบตากับมินโฮราวกับว่าหวังให้มินโฮช่วยปลดเขาออกจากอ้อมกอดที่ดูคุกคามจากฮงกิได้
“นายไปนั่งที่อื่นไป”มินโฮเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงรำคาญสุดๆ
“...นี่นายไล่ฉันหรอ...”ฮงกิหันควับไปถามทันทีที่ได้ยินและจ้องตามินโฮราวกับจะรอการเปิดสงคราม
“เออ.....ฉันไล่......ไป นั่ง ไกล ๆ ชัดมะ”มินโฮพูดช้าๆชัดเพื่อเป็นการย้ำให้ชัดเจนและหันไปมองฮงกิด้วยสายตาเย็นชาและบวกความรำคาญเข้าไปอีก
“....ไม่ไปจะทำไมฉัน...”ฮงกิตอบตอบด้วยน้ำสียงที่ท้าทายพร้อมสายตาที่จิกกัดแบบไม่คิดชีวิต
“....”มินโฮจ้องตาฮงกิด้วยอารมณ์ที่พุ่งพรวด เขานั่งนิ่งจ้องฮงกิอยู่อย่างนั้น
ฮงกิละสายตาจามินโฮและยิ้มเยาะราวกับว่าได้ชัยชนะเหนือมินโฮ และหันมาคุยกับแทมินโดยที่ยังมีสายตาของมินโฮจับจ้องอยู่เบื้องหลัง
“เอาหล่ะทุกคน”เสียงของ ชเวจินดังขึ้น ทำให้ทุกๆคนในห้องเงียบและหันไปมองด้วยความสนใจ
“ตะรางงานที่ sm จัดจะเลื่อนไปตามความเหมาะสมนะ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องเวลาพักผ่อนของพวกนายว่ามันจะหดจนไม่มีเหลือ ฉันจะให้พวกนายอัดรายการร่วงหน้าเอาไว้ จะได้มีเวลาพักผ่อนกันบ้าน”ชเวจินกล่าวเสริม
“รายระเอียดล่ะครับ ....ผมอยากรู้ว่าเราต้องทำอะไรกันบ้าง”อึนฮยอกเอ่ยถามขึ้น
“ก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นรายการเรียลลิตี้นะ ที่หนักคือพวกนายต้องอยู่ในบ้านที่มีแต่กล้องกับช่างภาพเดินเพี่ยนพ่านไปหมดไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเวลาที่อัดรายการ แม้แต่ตอนกินตอนนอนก็ด้วย....ยันตอนตื่นนั่นแหละ”ชเวจินเอ่ย
ทุกๆคนนั่งอึ้งกันไปชั่วครู่
“ตอนกินตอนนอน....ยันตอนตื่น”o-oแทมมินเอ่ยขึ้นทวนคำของชเวจินด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย
“แบบนั้น...ทำไมไม่เอากล้องกับไวเรสติดตัวเราไปทุกที่เลยล่ะ จะได้รู้มันทุกอย่างเลย”มินโฮพูดประชดประชัน
“โฮ้...นายอย่าพูดแบบนั้นสิ่ ...เกิดเขาทำขึ้นมาจริงๆจะว่าไง”อนยูพูดขึ้นตัดบททันที
“พวกนายก็โตๆกันแล้ว ผ่านงานมาก็เยอะ ความเป็นมืออาชีพมันก็ต้องก้าวหน้า...ฉันเชื่อมั่นว่าพวกนายจะทำได้ดี พวกนายก็ควรจะเชื่อแบบเดียวกัน อีกอย่างลองมองในแง่บวกสิ่ พวกนายเองก็ต้องการแฟนๆไม่ใช่หรอ เคยบอกเองไม่ใช่หรอว่าอยากให้แฟนๆของนายได้มองเห็นนาย ติดตามดูผลงานของนาย .... ตอนนี้เป็นโอกาศของพวกนายแล้วนะที่จะทำตามความฝัน ..... พวกนายจะทำมันไหมล่ะ”ชเวจินพูดขึ้นเพื่อปลุกใจเหล่าไอดอลที่กำลังท้อแท้เนื่องจากก่อนจะมีงาน sm ขึ้นพวกเขาต่างผ่านงานหนักและสาหัสสากรรมามากมาย และงาน sm จัดตรงกับตารางที่พวกเขาจะได้พักผ่อน นั่นหมายความว่า หลังจากหมดงาน sm แล้วพวกเขาก็ต้องกลับไปทำงานของตัวเองอย่างหนัก ดังช่วงที่ผ่านมา เท่ากับว่า พวกขาจะไม่เหลือเวลาให้พักผ่อนเลย .....
“เอาน่า...จะยังไงก็เหอะงานนี้มีพิธีกรสาวมาร่วมใช้ชีวิตกับพวกนายด้วยนะ ฮ่าๆๆ”^[]^ชเวจินเอ่ยขึ้นเพื่อสร้างบรรยากาศที่สดใสในห้องที่ดูตรึงเครียสุดๆ
“พิธีกรสาว...ผมชอบพิธีกรสาว....ใครกันหรอฮะที่จะมาเป็นพิธีกรให้เรา”>//<มินฮวานเอ่ยพร้อมดิ้นแด๊กๆ
“ จอง จูรี ” ^^’ ชเวจินตอบสั้นๆ
ทุกคนในห้องเงียบสนิด ต่างมองหน้ากันและบางคนถึงกับพูดไม่ออกได้แต่นั่งอึ่ง
“คุณฆ่าผมเถอะ คุณ ผจก.”O[]o!! อนยูพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด ในขณะที่คนที่เคยมีประสบการณ์สยองกับจองจูรีต่างพากันทำหน้าเหวอ และตาลีตาเหลือก และชักกระตุก
เมื่อชเวจินพูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับเรียกสไตร์ริสออกไปเพื่อให้ไอดอลได้พักผ่อนและเตรียมตัว โดยที่เขาทิ้ง ไอดอลไว้เบื้อหลังกับสีหน้าที่ซีดเผือดและความอึ้งทึ่งงง
หลังจากชเวจินและสไตร์ริสออกไปแล้วก็เหลือเพียงเหล่าไอดอล9ชีวิตที่นั่งนิ่งราวกับหินที่ไร้ชีวิตหลังได้ยินชื่อของจองจุรี
“ฝันร้ายชัดๆ....” T.T จงฮยอนพูดขึ้นด้วยสีหน้ามึนๆ
“ฆ่าฉันเถอ...ฆ่าฉันที...ใครก็ได้” T0T อนยูพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างจากจงฮยอน
“คราวนี้....ฉันจะรอดไหมเนี่ย”O.o ฮงกิพูดขึ้นด้วยสีหน้าลนลานและกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ขณะดีดตัวลุกขึ้นจากมินโฮและแทมินตรงดิ่งมานั่งล้อมวงร่วมกับจงฮยอนและอนยูในทันที
“โอ๊ะ...โอ๊ะ....มีอะไรกันหรอ...พี่จองจูรีเขาทำไมหรอ...แล้วพวกพี่กลัวอะไรเธอนักหนา” มินฮวานถามขึ้นพร้อมส่ายหน้าไปมาด้วยความสงสัยจนคิ้วขมวดและหันไปมองหน้าอึนฮยอกซึ่งนั่งอยู่ไกล้ๆเขา
“ได้ข่าวมาว่าเธอน่ะ ...น่ากลัวสุดๆ” o_o อึนฮยอกพูดขึ้นตาถลนด้วยความช็อคจากนั้นเขาเดินตรงปี่เข้าหากลุ่มที่จงฮยอนนั่งอยู่ทันที โดยที่มีมินฮวานวิ่งตามตูดดุ๊กๆมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“...พี่มินโฮครับ....ผมกลัว..”-_-แทมินหันไปพูดเสียงแผ่วกับมินโฮด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างจากคนอื่น
“ ......” มินโฮมองหน้าแทมมินแล้วไม่ตอบอะไรจากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและดึงแขนของแทมมินให้ลุกขึ้นเช่นกัน มินโฮจูงแขนของแทมมินเพื่อเดินไปร่วมวงสนทนาของเพื่อนๆที่นั่งอยู่กลางห้องด้วยสีหน้าที่เครียดนิดหน่อยโดยที่แทมมินเดินแถดๆตามหลังมาด้วยความมึนงง
หลังจากนั้นทุกคนนั่งมองหน้ากันและเกิดความเงียบขึ้นมาชั่วครู่......
“มีเรื่องอะไรหรอฮะ....ทำไมทำหน้าแบบนั้นกันล่ะ”มินฮวานถามขึ้นและมองหน้าของเพื่อนๆในกลุ่มด้วยสีหน้าสงสัยและสับสนเพื่อจะหาคำตอบ
“ฉันอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว”O.o อนยูพูดขึ้นขณะที่นั่งอ้าปากค้างตาลอยและกระพริบตาอย่างช้าๆ
“คราวที่แล้วฉันหนีทัน แต่คราวนี้....”จงฮยอนพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างจากอนยูสักเท่าไหร่
“มีอะไรกันน่ะ ผมอยากรู้บ้างจัง บอกผมมั่งสิ่”มินฮวานพูดและเขย่าแขนของฮงกิจากนั้นก็หันไปตีแขนของอึนฮยอกซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเขาเพื่อจะเอาคำตอบ ....
“.....”ฮงกิหันมามองหน้ามินฮวานด้วยความสงสัย เช่นเดียวกับทุกๆคนในวงสนทนา
“....อ๊า..ฮ่าๆ....ฉันสงสารอนยูจัง...”^0^คีย์พูดขึ้นและหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆของฮนยู
“...ฉันกลัวจริงๆนะ...” =.= !อนยูพูดขณะที่ยังนั่งนิ่ง
“ ...เอ๋...อะไรหรอฮะ...กลัวอะไรกันหรอ...”มินฮวานถามขึ้นพร้อมยื่นหน้าเขาหาคีย์ด้วยความสนใจ
“ฉันอยู่ในหตุการณ์ด้วยนะวันนั้นน่ะ ฮ่าๆๆ ตลกเป็นบ้า” ^[]^คีย์พูดพร้อมยังหัวเราะอยู่
“นายไม่เป็นฉัน นายไม่รู้หรอก”--!อนยูหันควับไปพูดกับคีย์ทันที
“วันนั้นน่ะ ฉันไปออกรายการ อุทชัทซา เป็นรายการตลก..วันนั้นน่ะฉันถูกจองจูรีขโมยจูบ....ฉันจำได้ไม่เคยลืมเลย ..... จู่ๆเขาก็ดึงมือฉันไปจูบ ...แล้วฉันก็กำลังช็อคมาก เขาก็หันมาจูบแก้มฉันอีกทีนึงด้วย...”>..< อนยูพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะร้องไห้ออกมาและสีหน้าที่บู้บี้ดูไม่ได้ ขณะที่คีย์นั่งหัวเราะอยู่ข้างๆและจับแขนของจงฮยอนเขย่าไปด้วยความขำจนน้ำตาเล็ด
“...วันนั้นฉันช็อคตาตั้งแต่นายยืนหัวเราะอยู่ข้างฉัน....”-..-อนยูหันมาพูดและมองหน้าคีย์
“ก็นายตลกมากเลย ฮ่าๆ นายร้องซะลั่นขนาดนั้นน่ะ แถมผลักจูรีซะกระเด็นกระดอน จะไม่ไห้ฉันขำได้ไง”คีย์พูทั้งๆที่ยังหัวเราะอยู่จนหน้าแดงแป้ด
“แต่ว่านะ....ถึงฉันจะหัวเราะแต่ฉันเองก็ตกใจเหมือนกันแหละ...แต่ก็ฮาอยู่”คีย์พูดขึ้น
“ฉันว่านะ คีย์คงแอบดีใจที่ไม่ใช่เขาที่โดนจูบ”มินโฮพูขึ้น
“นั่นน่ะสิ่...เป็นผมก็คงคิดแบบนั้น...ตอนผมดูรายการนั่นนะเห็นหน้าพี่อนยูแล้วสงสาร..พี่คีย์เองถึงจะหัวเราแต่ก็สะดุ้งเฮือกเลยไม่หรอ .....” แทมมินพูดในขณะที่มองหน้าคีย์อยู่
“...ร้ายกาจมาก....ฉันเองก็เคย....นายคงจำกันได้ใช่มะในรายาร star golden bell ที่เขาให้ฉันกินสปาร์เก็ตตี้จากจานเดียวกันกับจองจูรี .... เธองับเส้นเดียวกับฉันเลยแถม งับเข้ามาๆ ฉันหนีจนล่วงเก้าอี้....ให้ตายเถอะภาพมันติดอยู่ในหัวฉันอยู่เลยตอนนี้...”O.o จงฮยอนพูดและมองหน้าของเพือนๆ
“อาฮะ....ฉันเห็นแล้วล่ะ นั่นมันน่ากลัวมาก
.แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้แอ้มนายเหมือนที่ฉันเจอมา”อนยูพูดขึ้น
ทุกคนหัวเราะเยาะอนยูทันที่ที่เขาพูดจบ
“โอ้ววว....ฉันไม่อยากคิดเลยถ้าเกิดฉันไม่หนีเธอจนล่วงเก้าอี้วันนั้น คงโดนเธอซวบไปแล้วแน่ๆ” จงฮยอนพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ขณะที่เพื่อนๆก็หัวเราะดังขึ้นเมื่อจงฮยอนพูดจบ
“ฉันเกลียดสปาร์เก็ตตี้ไวท์ซอสเพราะรายการนั้น”=.= จงฮยอนพูดขึ้นอีกและเงยหน้าขึ้นมองทุกๆคน ทำให้ทุกๆคนยิ่งขำในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจงฮยอนและอนยู ในขณะเดียวกัน มินฮวานเมื่อได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับจองจูรีสีหนาเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
“พอพูดถึง star golden bell ฉันเองก็เคยเจอกับจูรีที่นั่นด้วยนะ .... วันนั้นฉันได้รับบทไห้พูดว่า หนาวจังกอดผมหน่อย เข้าใจใช่ไหมว่าฉันก็พูดไปตามบทเท่านั้น แต่จองจูรีวิ่งเข้ามาโผกอดฉันแล้วก็ดึงมือฉันไปเป่าแบบแนบชิดมากๆ ..... ฉันยังจำได้ดีเลย...มันค่อนข้างน่ากลัวนะที่เธอวิ่งเข้ามาน่ะ”>[]< ฮงกิพูดขึ้นเพื่อเล่าประสบการณ์ของตนเองบ้าง ในขณะที่เพื่อนๆก็หันมาสนใจฟังกับสิ่งที่เขาเล่ามา
“ star golden bell นี่ทำเอาเราช็อคกันเป็นแถวเลยแฮะ .... ตอนที่ฉันโชว์กินเบอร์เกอร์ในรายการนั้น จูรีก็เดินลงมาหาแล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากๆ ย๊ากกก.!!!.... ทำไมฉันถึงจำได้ทุกรายละเอียดเลยนะ” อนยูพูดขึ้นพร้อมทำหน้าตายู่ยี่และส่ายหัวดิ๊กๆ ในขณะที่เพื่อนๆขำกับกริยาของเขา
“ใช่นี่ยังไม่รวมที่ จูรี บอกรักนายผ่านรายการ star golden bell อีกนะ ฮ่าๆๆๆๆ”คีย์หันไปพูดกับอนยูและหัวเราะเสียงดังไปพร้อมๆกับเพื่อนๆในวงสนทนานั้น [ไรเตอร์:เรียลจริงอะไรจริง...!!!]
ในขณะเดียวกัน มินฮวานเมื่อดั้งเรื่องราวของจองจูรีแล้วก็อึ้งกับผลงานของเธอเป็นอย่างมาก มีเพียงแต่ฮีซอลเท่านั้นที่นั่งอ่านหนังสืออยู่มุมห้องไม่สนใจเรื่องราวต่างๆที่ทุกๆคนพูดกันแม้แต่น้อย เหล่าไอดอลนั่เล่าและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนกระทั่งเวลาผ่านไป 4. ชม ชเวจินก็เดินกลับมาเพื่อเรียกให้เหล่าไอดอลไปเตรียมตัวขึ้นรถเพื่อไปอัดราย sm ไม่นานนักเหล่าไอดอลก็ขนสัมถาระทั้งหมดขึ้นรถไปและเริ่มออกเดินทางในทันที
ความคิดเห็น