ลำดับตอนที่ #27
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : Emiya (Assassin) : ตัวแทนแห่งเคาท์เตอร์ ฟอร์ซ
Assassin : เอมิยะ แอสซาซิน (Emiya Assassin)
ตัวแทนแห่งเคาท์เตอร์ ฟอร์ซ
เอมิยะ คิริซึงุ (Emiya Kirisugu) เป็นตัวแทนแห่งเคาท์เตอร์ ฟอร์ซ (Counter Force) เป็นสิ่งที่รักษาความปลอดภัยที่โลกได้สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันการหายไปของโลก ตามเดิมแล้ว เขาไม่ใช่วิญญาณวีรชน แม้ว่าเขาจะได้สังหารคนมามากมายตอนที่ยังมีชีวิต แต่การมีอยู่ของเขาก็ไม่เคียงคู่กับบังลังก์แห่งวีรชน เขาเป็นหนึ่งในร่างเลียนแบบของวิญญาณวีรชนหรือรู้จักกันในนามของเคาท์เตอร์ การ์เดี้ยน (Counter Guardian) และเป็นคนที่ไม่ได้มีตัวตนอยู่ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์
ในฐานะของแอสซาซิน เขามีผมสีขาวและผิวสีแทน สีผมและสีผิวของเขาอาจเกิดจากการใช้เวทย์มนตร์ไทม์ อัลเตอร์ (Time Alter) มากเกินไป เขามักคลุมใบหน้าของเขาด้วยผ้าพันแผลและสวมฮูด เขาใช้มีดติดปืน (Bayonet M9) สำหรับการต่อสู้
เอมิยะ แอสซาซิน มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะอยู่ในซี่รี่ย์เฟท/แกรนด์ ออเดอร์เท่านั้น เป็นผลจากที่ตระกูลไอซ์เบิร์น (Einzburn) ไม่รับมาสเตอร์จากภายนอกตระกูล เขาจึงไม่สามารถพบกับภรรยาของเขาได้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่เจ็บปวดที่อยู่ห่างจากภรรยาของเขาเลย หัวใจของเขาก็ยังคงแกร่งกล้าอยู่จนสุดท้าย ก็ได้เหี่ยวตายไป
ในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นมาสเตอร์ของเซเบอร์ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ในเฟท/ซีโร่ (Fate/Zero) เขาเป็นสามีของไอริสฟีล ฟอน ไอซ์เบิร์น (Irisviel von Einzbern) และเป็นพ่อของอิลิยาสฟีล ฟอน ไอซ์เบิร์น (Illyasviel von Einzbern) รวมทั้งเป็นพ่อบุญธรรมของเอมิยะ ชิโร่ (Emiya Shirou)
พ่อของเขา เอมิยะ โนริคาตะ (Emiya Norikata) ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวคนที่ 4 ของตระกูลเอมิยะและเป็นนักเวทย์ เขาสูญเสียแม่ตั้งแต่เกิด พ่อของเขาและเขาได้หนีออกมาจากสมาคมจอมเวทย์และคิริสึงุก็ไปใช้ชีวิตร่วมกับพ่อของเขา
เขาได้ตั้งต้นใช้ชีวิตที่เกาะอะลิมันโก้ (Alimango) เป็นเวลาหลายปี เขากลายเป็นเพื่อนกับผู้ช่วยของโนริคาตะนามว่าเชอร์ลี่ (Shirley) ผู้ซึ่งแก่กว่าเขาสี่ปี อย่างไรก็ตาม เธอก็ได้กลายเป็นแวมไพร์หลังจากที่เธอดื่มน่ำยาลงไป เพื่อพิสูจน์ว่าน้ำยาของโนริคาตะสามารถช่วยโลกนี้ได้ เธอได้ขอให้คิริซึงุฆ่าเธอทิ้งซะ แต่เขาก็ปฏิเสธและวิ่งหนีไป หลังจากนั้น ทั้งหมู่บ้านก็ได้ถูกเหล่าเพชฌฆาตจากโบสถ์พร้อมกับสมุนของสมาคมจอมเวทย์ ทั้งสองกลุ่มได้ออกตามหาคนที่เป็นตัวการในการปล่อยเชื้อแวมไพร์ในหมู่บ้าน
คิริซึงุเป็นผู้รอดชีวิตคนเดียวที่ยังไม่ติดเชื้อด้วยความช่วยเหลือจากนาตาเลีย คาร์มินสกี้ (Natalia Kaminski) เขาได้เผชิญหน้ากับพ่อของเขา โนริคาตะอธิบายว่าเขาอยากจะเป็นเดด อโพสเติล (Dead Apostle) เพื่อจะได้ทำงานวิจัยเรื่องเวทย์มนตร์ของเขาได้อีกต่อไป โนริคาตะได้ชวนให้คิริสึงุเข้าร่วมแผนการณ์ของเขา แต่คิริซึงุปฏิเสธและฆ่าเขาทิ้ง ในตอนสุดท้าย นาตาเลียคิดไว้แล้วว่าคนๆเดียวที่สามารถทำให้เขายอมกลับใจหนีออกไปและทำให้เขาตายได้ก็คือลูกชายของเขาเอง เธอจึงได้พาคิริสึงุหนีออกไปจากเกาะนี้
ด้วยความที่ได้เห็นโศกนาฏกรรมตั้งแต่เด็ก ในตอนที่เขาเป็นวัยรุ่น เขาได้กลายเป็นคนรับจ้างทั่วไปเหมือนกับนาตาเลียเพื่อไล่ล่าจอมเวทย์รอบโลก นาตาเลียสอนเวทย์มนตร์ให้เขา และสอนการลอบสังหารให้เขาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาวุธอะไรก็ตาม ตอนแรกเขาก็ได้แค่ตามเธอไป แต่แล้วเขาก็ได้กลายเป็นคู่หูของเธอ ระหว่างภารกิจหนึ่ง ทั้งคู่ได้ออกตามล่าไฮน์ริช เซปเตอร์ (Heinrich Zepter) ผู้ซึ่งเป็นจอมเวทย์ที่เชี่ยวชาญการฟื้นคืนชีพศพ หลังจากที่ได้ตามเขาไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ชื่อว่าพรีเซนต์ เมาท์เทนท์ (Present Mountain) พวกเขาทั้งสองได้พบชิ้นส่วนที่ได้แยกออกมาจากตัวของเซปเตอร์กว่า 2000 ส่วน พวกเขาได้ทำลายพวกนั้นทิ้งด้วยการใช้ระเบิดปาไปที่ใจกลางของร่างกายของเขา
ในภารกิจสุดท้าย นาตาเลียต้องขึ้นไปบนเครื่องบินจัมโบ้เจ็ต แอร์บัส A300 เพื่อที่จะตามตัวนักเวทย์ที่รู้จักกันในนามของ ผู้ใช้ผึ้งแห่งปีศาจ นามว่าโอด บอร์แซ็ค (Odd Borzak) มีเรื่องเล่าว่าเขาสามารถฟื้นคืนศพให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง และใช้เหล็กในของผึ้งปีศาจฝังลงไปเพื่อเพิ่มพลัง ผึ้งกูลนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วเครื่องบิน ผู้โดยสารก็เริ่มติดเชื้อกันคนต่อคน จนทุกๆคนได้กลายเป็นกูล เอมิยะที่คอยสังเกตการณ์อยู่ก็ได้ตัดสินใจยิงเครื่องบินทิ้งเพราะว่ามันเสี่ยงเกินไปที่จะจอดลง เขาได้สูญเสียนาตาเลียไปในภารกิจนี้
คำพูดที่เขาได้ยินจากวิทยุในตอนสุดท้าย เขานับถือว่าเธอเป็นเหมือนกับแม่ของเขา หลังจากนั้นเขาก็เริ่มที่จะเปลี่ยนความคิดของวีรบุรุษแห่งความยุติธรรม เพราะการที่จะช่วยคนอื่นได้นั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีการสูญเสีย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต่อสู้ตามความฝันของตัวเองต่อไป และสุดท้ายเขากลายเป็นนักฆ่าจอมเวทย์แห่งสมาคม
ก่อนสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 ประมาณ 11 ปีก่อน ไอซ์เบิร์นได้จ้างคิริสึงุให้มาจัดการความขัดแย้งในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ โดยให้เขาได้เข้ามาร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 ก็ที่เขาออกไป เขาได้ฝากอาวุธต่างๆไว้ที่ไมยะ (Maiya) เขาได้พบกับไอริสฟีลครั้งแรกในแทงค์ตอนที่จัสตาเชท ฟอน ไอซ์เบิร์น (Justacheit von Einzbern) ได้สร้างเธอขึ้นมา ตอนที่เธอเกิดมาในตอนแรกนั้นเธอไม่มีทักษะการเอาตัวรอดเลยแม้แต่น้อย แอชท์ได้ทิ้งไอริสฟีลไว้ข้างนอกคฤหาสน์ท่ามกลางพายุหิมะที่หนาวเหน็บเพื่อทดสอบความตั้งใจในการมีชีวิตของเธอ
คิริสึงุทนไม่ไหว จึงได้เข้ามาช่วยเธอและพาเธอกลับไปที่ปราสาทหลังเก่าของไอซ์เบิร์ย เมื่อเธอฟิ้นตัว คิริสึงุตัดสินใจสอนไอริสฟีลเกี่ยวกับโลกปัจจุบันด้วยการให้ดูหนัง รูปภาพและฟังเพลง ไอริสฟีลค่อยๆชื่นชมและปลาบปลื้มในตัวของเขา สุดท้ายทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกัน แต่คิริสึงุก็รู้อยู่แล้วว่าในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ เธอจะต้องสละชีวิตของเธอไป ไอริสฟีลจึงตัดสินใจมีลูกเพื่อให้เขาได้มีหวังหลังจากสงครามจบลง สุดท้ายทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันและกลายเป็นหนึ่งของตระกูลไอซ์เบิร์น
เอมิยะเป็นคนมีความรู้สึกเพียงเล็กน้อย เขาเปรียบเสมือนเครื่องจักรสังหาร เขาสามารถฆ่าเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีความลังเลและเสียทาง บุคลิกของเขาเหมือนกับนาตาเลีย คาร์มินสกี้ ที่ผู้เป็นคนฝึกสอนการลอบสังหารให้เขาในฐานะนักฆ่าจอมเวทย์ หัวใจของเขาแกร่งเหมือนเหล็กกล้า ในสุดท้ายหัวใจของเขาก็ได้เหี่ยวแห้งตายไป
เอมิยะไม่ได้มีแรงจูงใจในการเป็นเคาท์เตอร์ การ์เดี้ยนเลย ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาต้องการคือการฟื้นฟูมนุษยชาติ เขาเป็นคนที่ตัดสินใจเด็ดขาด สำหรับมาสเตอร์ของเขา เอมิยะจะพูดกับมาสเตอร์ของเขาว่า จะไม่ยอมร่วมมือกับเขา เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นเพราะว่ายังไม่รู้จักกันดีพอ แต่ถ้าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาจะแสดงท่าทีที่แตกต่างออกมา
ความสามารถเฉพาะคลาส
การสร้างความสบสน (Presence Concealment) A+
ความสามารถในการลบตัวตนออกไปโดยสมบูรณ์ แม้แต่เซอร์แวนที่มีความสามารถในการตรวจจับก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าตนตัวนั้นอยู่ที่ไหน แต่จะถูกสัมผัสได้เมื่อเริ่มทำการโจมตี
ความสามารถเฉพาะตัว
ความเป็นอิสระ(Independent Action) A
ทำให้สามารถคงตัวตันอยู่บนโลกได้ถึง หนึ่งอาทิตย์โดยที่ไม่ต้องการมานาจากมาสเตอร์ หากเสียมานาอย่างเช่นใช้ในการต่อสู้ หรือใช้ สมบัติวีรชน เวลาที่คงอยู่จะลดลงตามมานาที่เสียไป
ผู้ที่เป็นที่รักของจอกศักดิ์สิทธิ์(Affections of the Holy Grail) A+
เรียกได้ว่ามันคือคำสาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มันจะเพิ่มโชคให้กับเขา และในบางสถานการณ์อาจช่วยให้รอดจากความตาย แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ได้มาฟรีๆการเพิ่มโชคนั้นหมายถึงการเอาโชคของคนอื่นนั้นมาเพิ่มให้กับตัวเอง นั้นอาจทำให้คนอื่นนั้นพบกับความยากลำบาก ตัวคิริซึกุเองไม่รู้ถึงความสามารถนี้
ศาสตร์เวทย์ (Magecraft) B
ส่วนมากจะเป็นความรู้เกี่ยวกับเวทย์มนต์สมัยใหม่ ทำให้สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ และยังรู้วิธีรับมือด้วย
สเคปโกท (Scapegoat) C
ความสามารถในการคิดวิธีการหลบหนี
สมบัติวีรชนที่ครอบครอง
"เอาล่ะ... แกจะตามฉันทันไหม... โครโนส โรส!"
Chronos Rose โครโนส โรส : จงหยิบดอกกุหลาบในขณะที่ยังมีเวลา
ประเภท: ต่อต้านบุคคล
ระดับ: B
มันคือความสามารถควบคุมเวลาภายในอาณาเขตที่กำหนด เป็นศาสตร์ที่ตระกูลของเขาค้นคว้าจนสำเสร็จ เมื่ออยู่ในอาณาเขตนี้เขาสามารถเร่ง หรือ ลดเวลาของตัวเองได้ ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวเร็วจนตามองไม่ทัน เหรือเคลื่อนช้าลงจนหัวใจจังหวะหัวใจกลมกลืนไปกับเสียงธรรมชาติได้
Phantasm Punishment แฟนทาสซึม พูนิชเม้นท์ : แยกส่วนความลึกลับ
ประเภท: ต่อต้านบุคคล
ระดับ: C+
มันคือพลังต้นกำเนิดของเขาที่กลายมาเป็นมีดสั้น (ต้นกำเนิดคือความสามารถที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดเป็นเหมือนธาตุประจำตัวที่มีอยู่ในทุกส่วนของร่างกายไม่ว่าจะเป็นเส้นผมไปจนถึงกระดูก) พลังต้นกำเนิดของเขาคือ ตัด และ ต่อ สิ่งที่เขาตัดมันจะต่อกันใหม่ทันทีแต่ในสภาพที่ไม่เหมือนเดิม ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คือ เหมือนการเอาด้ายมามัดของสองอย่างเข้าไว้ด้วยกัน มีผลมากกับพวกจอมเวทย์หรือพวกที่มีวงจรเวทย์ในตัว เมื่อวงจรโดนตัดถึงมันจะต่อกันใหม่แต่ก็ไม่เหมือนเดิมทำให้วงจรขัดข้องและไม่สามารถใช้เวทย์ได้
-------------------------------------------------------------------------
มีเพจแล้วเน้อ : Kokowa ฉันแค่อยากแปล
-------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบไปแล้วนะครับ กับประวัติของวีรชนท่านนี้ เอมิยะ คิริสึงุ ผู้ที่ใฝ่หาความยุติธรรมโดยไม่ต้องมีการเสียสละ อุดมคติของเขาช่างน่านับถือจริงๆ เอาเป็นว่าใครที่ชอบก็อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจ กดหัวใจ กดเรท กดแชร์ให้กับเรื่องนี้ต่อไปด้วยนะครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น