ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNLOVEABLE มึงรักกู...ไม่ได้นะ [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #4 : UNLOVEABLE 4: am I totally alone?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 783
      2
      6 ก.พ. 53

     

    UNLOVEABLE 4: am I totally alone?

     

    ผมบอกทางซิกแซกเข้าบ้านผมหลังจากเข้าซอยมาแล้ว บ้านผมอยู่ไม่ลึกมาก บรรยากาศก็โอเค แถมเพื่อนบ้านนิสัยดีครับ

    รถแท็กซี่ชะลอลงแล้วมาหยุดหน้าบ้านผม ผมหยิบกระเป๋าเงินออกมาจะจ่ายตังค์ค่าแท็กซี่แต่ไอ้กฤตก็ห้ามไว้

    บ้านมึงน่าอยู่เนอะ มันบอกแล้วมองไปรอบๆ

    ไม่เท่ามึงหรอก บ้านรวยนี่ ผมว่า กฤตส่งยิ้มแค่นๆ มาให้จนผมรู้สึกว่าพูดอะไรผิดไปแล้วววว

    แต่กูอยากอยู่บ้านมึงว่ะ พูดจบมันก็ไล่ผมลงจากรถให้เข้าบ้านไป ...เออ ไม่ให้จ่ายก็ไม่จ่ายสิวะ... ผมยกข้อมือขึ้นกำลังจะดูนาฬิกาว่ากี่โมง แต่รู้สึกว่ามันโล่งๆ ไป จนระลึกได้ว่านาฬิกาแม่งโดนบ่อน้ำเขมือบไปแล้ว เลยได้แต่ส่ายหัวอย่างเซ็งๆ แล้วเดินเข้าบ้านไป

     

    บ้านผมจัดโล่งๆ พอเดินเข้าไปในตัวบ้าน ฝั่งซ้ายก็จะเป็นห้องครัวกับห้องกินข้าว ส่วนทางขวาก็เป็นห้องรับแขก เลยขึ้นไปก็เป็นบันไดขึ้นชั้นสอง ผมวาง หรือจะพูดให้ถูกคือโยนจาค็อบลงบนเก้าอี้นวมแล้วล้มตัวลงนอนเหยียดบนโซฟาเข้าชุดกัน มือประนมไหว้ภาพอาม่า อากงที่เสียไปแล้วแล้วค่อยกดเปิดทีวี

    ป๊าม้าผมยังไม่กลับบ้านครับ เหลือแต่ป้าปุ๊กพี่เลี้ยงผมเอง ป้าแกเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กๆ นู่น ตั้งแต่ป้าแกยังอยู่เลขสาม จริงๆ แล้วป้าปุ๊กก็ไม่ได้ชื่อปุ๊กหรอก แต่ชื่อปลุกตะหาก แต่มันไม่เดิร์นพอ ป้าเลยแผลงเป็นปุ๊กซะอย่างนั้น

    ผมกดรีโมททีวีเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ เจอแต่การ์ตูนผู้หญิงกับหนังเก่ากึกทำผมเซ็งสนิท จะไปเอาเดี่ยวมาดูอีกรอบก็คงไม่ไหว เดี๋ยวหน้าพี่โน้ตจะไม่ฮาเอาซะก่อน

    ป้าคร้าบ! ศิหิวแล้ว!” ผมตะโกนเรียกป้าปุ๊กที่คงจะอยู่หลังบ้าน ที่ต้องตะโกนเพราะบ้านผมมันใหญ่เกินไปที่จะอยู่กันแค่สามคน ซึ่งจริงๆ แล้วมีห้าคนแหละ ป๊า ม้า เฮีย เจ้ ผม แต่เฮียผมอยู่เชียงใหม่ ส่วนเจ้อยู่หอมหาลัยที่กรุงเทพรอบนอก ...พูดให้ถูกคือบ้านนอกออกจากกรุงเทพฯ ไปแล้วแหละ

    แล้วป้าปุ๊กที่รักก็ตอบรับคำผมทันที รอเดี๋ยวนะลูก เดี๋ยวป้าทำไปให้

    เมนูเร่งด่วนวันนี้คงไม่พ้นกะเพราไก่ไข่เจียวธรรมด๊าธรรมดา ดีแค่ไหนแล้วที่ป้าอยู่ด้วยนี่ ถ้าไม่มีใครอยู่บ้านชีวิตผมคงไม่พ้นมาม่า เอาเถอะ มันก็เข้าสโลแกนดี มาม่าอร่อย

    ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเล่นแก้เซ็งระหว่างรอ วะ! แม่งไม่มีอะไรให้ชีวิตดูมีคุณค่าเล้ยยย

    ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา สวรรค์ผัดกะเพราก็อยู่ตรงหน้าผม ผมยิ้มแป้นให้ป้าปุ๊กแล้วลุยสวนกะเพรากับฟาร์มไก่ฟาร์มไข่แหลกลาญ เอาอะไรมากครับ แค่ต้มมาม่าผมยังทำให้เส้นอืดไม่ได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับอาหารอร่อยเว่อร์ที่ป้าทำมาให้ผม ผมจะกินไม่หมดล่ะ

    เสียงเพลงชาติไทยดังขึ้นมา ผมกำลังจะก้มมองนาฬิกาว่าทำไมวันนี้มันหกโมงเร็วจังวะก็นึกขึ้นได้ว่าแท้งลูกไปซะแล้ว เชอะ! กลายเป็นว่าเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ผมเองครับ

    ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย~ เป็นประชารัฐ...

    ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูชื่อคนโทรเข้า แล้วเห็นว่าเป็นไอ้นายโทรมา เชี่ย...ขัดจังหวะการแดกของกูจริ๊ง เอ้ย! ผมหมายถึงการรับประทานน่ะ...

    ว่าไงมึง ผมทักไป แล้วไม่รอให้มันตอบกลับ โทรมาทำตีนอะไรวะ ไอ้เพื่อนทรยศ มึงทิ้งกูไปกระแดะมีความลับกัน แล้วไง จะบอกกูได้ยังว่าเชี่ยติ๋มเป็นไรของมัน

    ผมรัวไปเป็นชุดครับ ซึ่งมันก็ไม่มีทางสะทกสะท้านเท่าไหร่หรอก ดีไม่ดีจะหน้าด้านลอยตาตอบกลับชิวๆ

    จะอะไรล่ะ กูก็กระแดะของกูอย่างเนี้ย มึงแม่งขี้งอนแล้วยังขี้น้อยใจอีก กูไม่รู้จักมึงกูจับมึงแปลงเพศไปตายห่านานแล้ว แล้วจะแล้วไงอะไรของมึง เชี่ยศิ มึงรู้มะ กว่าพวกกูจะง้างปากแม่งพูดออกมาได้นี่ชาติเศษ พอง้างออกมาแม่งพูดอยู่สองสามประโยค อยากถามแม่งชิบหายเลยว่าพูดทำฝาหอกอะไรแค่นั้น ยิ่งพูดกูยิ่งอยากรู้ แต่แม่งหลังจากนั้นไม่เปิดปากพูดเหี้ยอะไรอีกเลย เรื่องแม่งก็มีแค่นี้แหละ

    น่าน น่าน...ดูมันรัวทับผมอีก

    แล้วมึงโทรมาทำไม

    กูจะโทรมาถามมึงว่างานด็อกเตอร์มึงเสร็จยังวะ? จะขอลอก

    มึงมาถามอะไรกู ไปถามณัฐแม่งดิ๊ หน้าธุรกิจล้านล้านอย่างกูมึงคิดว่ากูจะเจียดเวลามาทำ? ฝันเห๊อะ

    ถ้าไอ้ณัฐทำแล้วกูไม่โทรมาถามมึงให้เปลืองตังค์หรอกสัตว์ มึงจะเชื่อมะถ้ากูบอกว่าแม่งยังไม่ได้ทำ

    ห๊ะ! เชี่ยติ๋มเนี่ยนะ? ยังไม่ได้ทำงาน ไม่จริงว่ะ

    ถ้ากูว่ากูไม่เชื่อ?

    ตามใจมึง ยังไม่ได้ทำใช่มะ กูจะได้โทรไปถามไอ้กฤตมัน น่าจะโทรไปแต่แรกว่ะ ไม่น่าเปลืองเงินโทรมาหามึงเลย

    เชี่ยยย มึงอย่ามาเปิดเผยความเวรแถวนี้ ทำเสร็จแล้วบอกกูด้วยละกัน เดี๋ยวกูไปออนแล้วส่งไฟล์มา ขอแดกก่อน

    เออ เดี๋ยวส่งไปให้ บาย

    พูดจบแม่งก็ตัดสายทิ้งทันที เอ๊อออ ให้มันรู้ไปว่าเพื่อนผมมันแสนดีจังเว๊ยย กูยังไม่ทันจะบอกลามึงซักกะนิด

    ผมยักไหล่แล้วยกช้อนขึ้นมากินต่อ ช่างแม่ง... กูจะแดก

     

    เสียงออดหน้าบ้านผมดังขึ้นตอนประมาณสองทุ่มได้ จนผมแอบสงสัยว่าสุนัขพันธุ์ไหนมากดออดตอนสองทุ่มมิทราบวะ?

    เสียงออดเงียบไปพักเล็กๆ แล้วเสียงม๊าก็ดังขึ้นมาบนห้องผม

    ศิ! เพื่อนมาหา

    มันเป็นคำที่ชวนสงสัยมากว่ามีใครแอบอ้างรึเปล่า เพื่อนผมแต่ละคนเนี่ยนะ? จะมาหาผมถึงบ้านดึกๆ ในวันที่ป๊าม้าอยู่พร้อมหน้า

    เพื่อนเฮียเพื่อนเจ้เปล่าม๊า

    ผมตะโกนกลับไป...เพราะขี้เกียจลุกจากเตียง

    ชุดม. ปลายกางเกงขาสั้นมีเพื่อนใครมั่งล่ะ

    โอเค เพื่อนผมก็ได้

    ผมลากสังขารในชุดเสื้อนักเรียนกางเกงอยู่บ้านออกจากเตียงนุ่มๆ การ์ตูนของผมและแอร์ฉ่ำๆ ไปอย่างจำใจ พ่อจะเฉ่งให้เข็ดเลย ใครกันมันกล้าขัดอารมณ์สุนทรีย์

    แต่พอเห็นหน้าคนมาเท่านั้นแหละ อารมณ์เดือดก็หายวับ! เพราะไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือกฤตเจ้าของนาฬิกาลูกรักของผม แต่แปลก...มันยิ้มโรยๆ หน้าก็ดูเหนื่อยยังไงพิกล อีกอย่าง...สองทุ่มแล้วมันยังไม่อาบน้ำอีก จะว่าไปว่ะ ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง

    มาไงวะ ผมทัก มันยิ้มตอบ

    แท็กซี่ เออ ขอบคุณ ผมควรเปลี่ยนคำถามเป็นมาไมวะ ใช่มั้ย?

    เออๆ ขึ้นห้องๆ

    เราขึ้นมาถึงห้อง ผมให้มันนั่งลงบนเตียงก่อนเพราะเก้าอี้ที่มีมันรกเกิน แล้วเริ่มเปิดประเด็น

    มาถึงนี่มีอะไรมึง

    กู...

    ผมเลิกคิ้ว

    อยากมาไม่ได้เหรอวะ?

    หน้ายิ่งกว่าสัตว์เลื้อยคลานอย่างงี้เนี่ยนะแค่อยากมาของมึง บอกกูมาดิ๊ มึงมีไร ผมเซ้าซี้ถามต่อ ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ มัน แล้วเด้งตัวลุกทำเป็นเจ้าบ้านมารยาทดีหยิบน้ำให้แขก

    เฮ่ย ไม่ต้องๆ มันปฏิเสธ มาหาดึกๆ ก็รบกวนพอแล้ว มันว่า

    และคุณเสนอผมก็สนอง ไม่ขัดศรัทธาใคร มันว่าไม่เอาก็ไม่เอา ผมวางเหยือกน้ำในห้องนอนไว้ที่เดิมแล้วยืนค้ำหัวมัน ถามอีกรอบ

    มีอะไรพอเล่าให้กูฟังได้ก็เล่ามาเหอะ ผมพูด หน้ามันจากที่เหนื่อยๆ โหยๆ ก็กระตุกยิ้มขึ้นมานิดหน่อย

    มึงว่า... มันเริ่มประโยค ผมเลิกคิ้วรอคำต่อไปของมัน แต่มันก็เงียบ เงียบ...และเงียบอีก

    กูเพื่อนมึงนะ มึงมีอะไรพอให้กูช่วยได้กูก็จะช่วย มาหากูถึงบ้านนี่แสดงว่ามึงต้องมีอะไรที่กูช่วยได้ ดังนั้นมึงมีอะไร...กูจะพยายามช่วยมึงเต็มที่

    ผมท้าวไหล่มันเอาไว้ แล้วจ้องตากฤตนิ่งๆ ให้มันเห็นว่าผมจริงจัง กฤตจ้องตาผมกลับ กระตุกรอยยิ้มอีกรอบ แต่คราวนี้ดูเหนื่อยกว่าเมื่อกี้เยอะ

    ...กู...ทะเลาะกับพ่อมาว่ะ พอมันเริ่มต้นพูด ผมก็เงียบฟัง

    ...

    ทำไม...กูรู้สึกเหมือนกูอยู่คนเดียวบนโลกเลยวะ

    ...

    พ่อกูนะเว่ย พ่อกู...เรื่องแม่งเลวร้ายว่ะ มันไม่ใช่ครั้งแรก แต่ครั้งนี้มันแรง

    ...

    กูรู้สึกแย่ว่ะ มัน...เหี้ยอ่ะ

    ...

    กฤตยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละประโยคไหลผ่านออกมาช้าๆ เป็นจังหวะติดขัด เหมือนกับว่ามันกลั่นกรองออกมาทีละนิด

    คิ้วเข้มๆ ของมันขมวดเข้าหากันอีกนิดแล้วค่อยคลายออก

    ไม่รู้สิ บางที...กูคงจะอยู่คนเดียวบนโลกมั้ง โลกของพ่อกู

    มันค้างไว้แค่นั้น ริมฝีปากสั่นเหมือนใกล้จะร้องไห้ แต่ก็ไม่ใช่ มันไม่คนอ่อนแอ ผมรู้ แต่เรื่องมันคงจะแรง ไม่รู้สิ ผมไม่เคยทะเลาะกับพ่อ ไม่คิดและไม่อยาก แต่ผมไม่รู้จักพ่อมัน ไม่มีสิทธิ์ไปวิจารณ์อะไร

    ผมได้แต่มองเข้าไปในตามันลึกๆ และเนิ่นนาน... ดูว่ามันมีอะไรค้างคาอีกมั้ย และมันดู...โหยหา... โหยหา...

    ...มึง... ผมพูดแผ่วๆ รู้สึกเหมือน...มันเป็นอะไรที่ต้องทำ... เหมือนกฤตมันกำลังโหยหา...

    ...

    มึงยังมีกูนะ... ผมว่า

    กฤตจ้องตาผม และผมก็มองมันตอบ มันเป็นเพื่อนคนแรกที่ผมพูดอะไรซึ้งๆ แบบนี้ใส่ ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก แต่ไม่มีความจำเป็นต้องพูดเท่านั้นเอง แต่กับกฤต...กับเพื่อนคนแรกที่ให้ของขวัญผมเป็นชิ้นเป็นอัน... มันเหมือน เหมือนมีอะไรที่มันต้องการ เหมือนมันแบกรับ...

    มึงยังมีกูเป็นเพื่อน... ผมย้ำ

    อือ กูดีใจที่มีเพื่อนอย่างพวกมึงนะเว่ย แต่ถึงอย่างงั้น... กูก็กลัว กูก็ยังรู้สึกว่าทำไมกูอยู่คนเดียว ทำไมกูต้องทนแบกรับอะไรมากมายที่พ่อต้องการวะ ทำไมกู...

    กูก็ไม่รู้จักพ่อมึง ไม่มีสิทธิ์จะไปพูดร้ายๆ หรือมองพ่อมึงในแง่ไหน แต่ตามความคิดกู พ่อมึงก็ทำเพื่อมึง ก็แค่...การแสดงออกมันต่างกัน

    กฤตขมวดคิ้ว ...กูไม่รู้

    มึงไม่ต้องรู้หรอก เพราะกูก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่วันหลังมึงมีอะไร มึงก็หัดระบายมั่ง เก็บเอาไว้เดี๋ยวแม่งก็อัดกันตายห่า คืนนี้นอนบ้านกูละกัน พรุ่งนี้มึงค่อยไปเคลียร์กับพ่อ

    กฤตมองหน้าผม...อีกแล้ว อยากถามว่ามันมีส่วนไหนคล้ายแบรด พิตต์หรือถึงได้มองนักวะ แต่คงจะขัดบรรยากาศยังไงพิกล เลยเก็บเงียบเอาไว้ดีกว่า

    ...นะมึง

    เออ มันตอบรับเหมือนจะคำราม แน่ะ...ยังมีหน้ามาตบเกรียนอีก สาดดด กูไม่เศร้ามั่งให้มันรู้ไป เชิญตบได้ตามสบายเลยเว้ยครับ

    หรือแม่งจะแก้แค้นตอนโดนดีดมะกอกวะ?

    ถึงอย่างนั้นก็เหอะ...ยิ้มกว้างเชียวนะมึง :P

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ถ้าบังเอิญเปิดผ่านมาก็คอมเม้นท์ให้กำลังใจหน่อยนะคะ ^^

    edit [060210]: มาแก้คำผิดอีกนิสสค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×