ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNLOVEABLE มึงรักกู...ไม่ได้นะ [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #6 : UNLOVEABLE 6: Thank you

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 53


    UNLOVEABLE 6: Thank you

     

    สามทุ่มก็แล้ว สามทุ่มครึ่งก็แล้ว สี่ทุ่มก็แล้ว... ไอ้กฤตก็ยังไม่ยอมออกจากบ้านผมครับ...

    ตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน ไอ้กฤตมันก็อุ้มผมมาส่งถึงห้องจริงๆ อย่างที่ว่า ขอบใจมากเลยมึง ผมล่ะโคตรอายตัวเองครับ โดนมันแบกอย่างกับกระสอบข้าวสาร แต่ช่วยไม่ได้...ผมมันหนุ่มน้อยน่าสงสารโดนคนตัวโตกว่ารังแก โฮฮฮฮ

    เอ่อ...ไม่ใช่

    คือพอมันอุ้มผมถึงห้องปุ๊บ มันก็สำออยทรุดลงไปนอนบนเตียงเลยครับ คล้ายจะบอกเป็นนัยว่า มึงอ่ะโคตรหนักเอออันนั้นผมไม่ว่ากัน แต่มันนอนแช่แอร์ได้สักพักผมก็สัมผัสถึงความรู้สึกแปลกๆ... มันเงียบพิกลๆ แฮะ

    และใช่...คุณเดาไม่ผิด เชี่ยกฤตหลับเป็นตาย อันนี้ผมก็ไม่ว่ามันอีกแหละ

    ผ่านไปชั่วโมง ไอ้กฤตก็ได้ฤกษ์ลืมตาตื่น มันตื่นขึ้นมางงๆ แบบว่าผมมานั่งจ้องอะไรมัน ...ผมเปล่าตั้งใจจ้องครับ แค่ตั้งใจจะส่งกระแสจิตไปปลุกมันในฝันเท่านั้นเอ๊งงงง โอเค ตรงนี้มันก็ไม่ได้ว่าอะไรผม แหะๆ กฤตมองผมในชุดนอนเสื้อยืดสีขาวกับบ๊อกเซอร์อุลตร้าแมน แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำมั่ง

    ...ทำไมไม่ไปอาบที่บ้านวะ?

    แต่ทั้งการนอนทั้งการอาบน้ำไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ตอนนี้...เกือบสี่ทุ่มครึ่ง มันไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ไอ้กฤตยังไม่กลับบ้าน

    จริงๆ แล้วพอไอ้กฤตออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพแบบกึ่งเปลือยมีบ๊อกเซอร์ (ของผม) ตัวเดียว มันก็นั่งรื้อของของมันที่วางแหมะไว้เต็มห้องผม ค้นๆ ออกมาก็เจอเสื้อนักเรียน กางเกงนักเรียน กางเกงใน (ของมัน) กระเป๋าตังค์ ไอโฟน ไอทัช (ยังดีที่ไม่พกไอแพดมาด้วย ไม่งั้นล่ะจะขอต่อยซักที) ไปค้นๆ แถวๆ โต๊ะคอมก็เจอนาฬิกามัน ยี่ห้อเดียวกับลูกผมเล้ยยย

    แต่นั่นแหละครับ...หาเจอทุกอย่าง...ยกเว้นเข็มขัด

    ถึงมันไม่ใช่ของสำคัญ แต่มันก็จำเป็นนะครับ สำหรับวันที่ต้องโดนตรวจเครื่องแบบอย่างเช้าวันจันทร์เนี่ย

    ชิบหายแล้วไง มันบ่น

    งั้นวันจันทร์มึงก็ไม่ต้องไปโรงเรียนดิ ผมเสนอ

    ความคิดส้นตีนมาก กูคงส้นตีนตามอ่ะถ้าวันจันทร์ไม่มีเทสต์ย่อย กูเด็กเรียนเว่ย น่ะ ผมโดนมันด่าอีก ทุกรอบอ่ะครับ แถมเหมือนจะโดนด่าเสริมด้วยว่าเป็นเด็กเกเร เฮ้! ผมน่ะกรรมการนักเรียนนะ

    โอเค๊...โอเค๊

    แล้วเราก็เริ่มรื้อห้องผมซะกระจุยอีกรอบ ถ้าหาไม่เจอผมก็ไม่รู้แล้วจริงๆ ล่ะว่าจะไปหาที่ไหนได้ คือตั้งแต่มันมาบ้านผมเนี่ย ถึงมันจะกระแดะไปเสนอหน้าได้ทุกห้องในบ้าน แต่มันก็ถอดเสื้อผ้ากองไว้ที่ห้องผมห้องเดียวนี่ครับ

    เจอเปล่า? ผมถาม

    ไม่ มึงอ่ะ

    ผมตัดสินใจอะไรอยู่แป๊บนึง แล้วก็เปิดตู้หยิบเข็มขัดของผมให้มัน เอาของกูไปใช้ก่อน มึงเป็นนักเรียนดีเด่น เดี๋ยวแต่งตัวไม่ถูกระเบียบจะโดนด่าเละเอา

    กูเป็นนักเรียนดีเด่น แต่มึงเป็นรองประธานฯ เนี่ยนะ ไอ้ห่า ใช้เองเหอะ

    เอ๊า กูอุตส่าห์หวังดี เข็มขัดมึงหายบ้านกูเดี๋ยวกูหาเอง มึงก็ใช้ของกู เดี๋ยวกูหาเจอกูก็ใช้ของมึงแล้วเดี๋ยวเอาไปสลับกันวันจันทร์ไง กลับบ้านได้แล้วน่า พ่อรออยู่ ผมพูดรวบรัดทีเดียวจบแล้วยัดเข็มขัดใส่มือมันพร้อมถุงเสื้อผ้า เสร็จแล้วก็จัดการถีบมันออกจากบ้านทันที

    เฮ่ยยย ไม่เอาน่า แน่ะ ยังเถียง

    ไม่เป็นไรๆ กูหาเองได้ มา ไปเรียกแท็กซี่กัน

    แล้วผมก็จัดการลากมันไปหน้าปากซอยเรียกแท็กซี่กลับบ้านมันครับ ผมเป็นคนดีใช่มั้ยล่ะ หุๆ

    พูดกับจริงๆ แล้วผมไล่มันกลับบ้านอยากให้มันรีบไปหาพ่อแหละครับ ก็ลองคิดดูถ้าเป็นผม...ผมเองก็อยากกลับไปบ้านอยู่ดีนะ จะทะเลาะกันยังไงแต่สุดท้ายก็เข้าใจกันได้ล่ะ อย่าครับ...อย่าหาว่าผมตอแหล

    มือถือของผมถูกเปิดขึ้นมาและจิ้มเมนูเมสเสจ ผมพิมพ์ข้อความส่งถึงมันแล้วแล้วอยากฟาดหัวตัวเองกับเสาไฟฟ้าโทษฐานทำตัวน้ำเน่า... แม่งเอ๊ยยยย...

    กลับบ้านดีๆ นะมึง

    ไม่นานจากที่ส่งไปโทรศัพท์ผมก็สั่นเตือนข้อความเข้า

    ‘Thank you’

    ครับ...ไอโฟนของมันพิมพ์ภาษาไทยไม่ได้ มันไม่ยอมไปลงแอพฯ สักที

     

    เช้าวันจันทร์มาถึงผมก็ยังหาเข็มขัดไม่เจอครับ...พูดให้ถูกคือไม่ได้หาต่างหาก

    เอาน่า กะอีแค่เข็มขัดมันไม่ตายหรอก หายไปซักวันผมว่าคงไม่ถึงกับทรมาทรกรรมอะไรมากมายมั้ง

    ผมอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปโรงเรียนอย่างมาดมั่นปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกงเผื่อว่ามาสเซอร์ที่ยืนคุมหน้าโรงเรียนจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่เห็นแล้วปล่อยผมไป ในฐานะที่ผมเป็นรองประธานนักเรียน แต่ก็แหม...

    ไม่รอดครับ

    กะเอาไว้ว่าจะทำเนียนแล้วเข้าห้องสภาฯ โดดตรวจซะหน่อย ดันโดนตั้งแต่ยามหน้าโรงเรียนพูดเรื่องแต่งกายไม่เรียบร้อยยันมาสเซอร์ที่เดินผ่านมาเรียกวิดพื้นยี่สิบแล้วเดินไป

    ที่ไม่รอดน่ะชายเสื้อ ส่วนเข็มขัดถ้าผ่านหน้าโรงเรียนไปแล้วคงไม่เป็นไรมากมั้ง... ผมอ้างสภาฯ เอาก็ได้ว่างานเยอะ โดดแถวสักวันไม่ตายหรอก

    ไอ้ประธานฯ ไอ้รองประธานฯ กับไอ้พวกกรรมการมันก็ดีอย่างนี้แหละ โดดแถวเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ชาวสภาฯ มีสิทธิ์ทำได้แต่นักเรียนดีเด่นไม่มีสิทธิ์ เพราะอย่างนี้ไง เข็มขัดเส้นนั้นถึงให้กฤตไปดีกว่า ช่วงนี้โรงเรียนยิ่งเข้มๆ เรื่องเครื่องแต่งกายอยู่

    ผมวิดพื้นครบยี่สิบรอบตามที่มาสเซอร์สั่งแล้วแกล้งทำเป็นยัดเสื้อเข้ากางเกงโดยหันหลังให้มาเซอร์ จากนั้นไม่กี่วินาทีก็เล็งจังหวะดีๆ แล้ววิ่งแจ้นเข้าห้องสภาฯ ไป

    เปิดประตูเข้าไปปุ๊บก็เจอคนที่ไม่คิดว่าจะเข้าห้องตอนเช้าจริงๆ

    อ้าวโจ้ เข้าห้องทำไมแต่เช้าวะ ผมทักทายแล้วปล่อยชายเสื้อนอกกางเกงเหมือนเดิมโดยไม่ต้องทำท่าเป็นเด็กพยายามดีอีกแล้ว

    ท่านประธานฯ ยิ้มให้ผมแล้วยักไหล่ ยืดขาเหยียดตลอดความยาวโซฟาสีเบจประจำห้องแบบหมดภาพพจน์นักเรียนที่แสนดี แล้วทักผมกลับ

    งานเยอะ เลยกะว่าจะโดดแถว แปลกมากเลยรึไง

    นั่น...ประธานฯ ที่แสนดีก็มีวันจะโดดเหมือนกันครับ แต่แบบนี้ก็ดี คำพูดของรองประธานฯ จะน่าเชื่อถือขึ้นอีกเยอะถ้ามีคนอย่างไอ้โจ้มาช่วยรับประกัน

    ผมเดินเข้าไปใกล้มันแล้วโยนจาค็อบหนักๆ ไว้แถวนั้น นั่งลงบนเก้าอี้บุนวมเดี่ยวเข้าชุด

    เปล่า ก็ปกติเห็นไม่เข้าสภาฯ ตอนเช้า มาเจอก็เลยงงสิวะ แล้วงานอะไรจะเยอะแยะจนทำให้ท่านประธานฯ ยอมโดดแถววะ?

    ทุกงานอ่ะ มันบอกหน้าตาย มึงมาก็ดีแล้วศิ มาช่วยกูเคลียร์งานสภาฯ ดีกว่า จัดงบกิจกรรมชมรมดีๆ นะ เอ้า นี่งานมึง

    โจ้โยนแฟ้มงบกับจดหมายยื่นคำร้องเป็นกะตั้กส่งมาให้ผม ผมกำลังจะโวยเล็กน้อยตามนิสัยแต่พอเงยหน้าขึ้นสังเกตโต๊ะมันจริงๆ ก็หุบปากเงียบเอาไว้ดีที่สุดล่ะก่อนจะได้งานเพิ่ม แต่เชื่อผมเถอะ ไม่ว่าผมจะบ่นหรือไม่บ่นสุดท้ายไอ้ที่กองๆ สูงๆ บนโต๊ะมันทั้งหมดนั่นน่ะ ถ้าไม่เสร็จก่อนหมดเทอมก็ภาระเด็กสภาฯ ต้องช่วยกันสะสางนั่นแหละ

    ผมสุ่มหยิบไปยื่นคำร้องขึ้นมาจากกองหนึ่งใบแล้วอ่านคร่าวๆ แต่ทันทีที่เห็นชื่อชมรมกับตัวเลขงบที่จะเบิกก็ต้องถอนใจเหนื่อยเลยทีเดียว

    ชมรมหมากรุก เบิกงบตั้งแพง...เอาไปซื้อกระดานใหม่หรือไพ่สำรับใหม่กับเบียร์อีกลังวะ ผมบ่น แจ๊คพ็อตจริงๆ เปิดมาก็เจอหมากรุกเลย เห็นหน้าไอ้บูมเป็นประธานใครมันจะอยากให้งบวะ แต่คนเข้าชมรมก็แทบไม่มีแล้ว

    มีปล. สำหรับผมด้วยครับ...

    ปล. พี่ศิสุดหล่อ นี่น้องนายหล่อน้อยกว่า เลขาฯ หมากรุกนะครับ พี่ศิกรุณาอนุมัติงบ ผมจะบำรุงบำเรอพี่อย่างดียุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม อยากกินอยากทำอยากเล่นอะไร ได้หมด!’

    กว่าจะแกะลายมือมันออกครับ อ่านยากชิบหาย ยังโชคดีที่มันเขียนดินสออ่อนๆ มาผมจะได้ลบให้มันได้ แต่ถ้ามีรอยเหลือนี่จะเรียกเอากลับไปแก้ใหม่เชียวนะเนี่ย เพื่อนก็เพื่อนเถอะนะ

    ผมว่าเรื่องเงินนี่ผมตัดสินใจคนเดียวไม่ได้จริงๆ ล่ะ เลยต้องหันไปหาท่านประธานสภาฯ แทน

    โจ้...มึงว่าขนาดนี้ผ่านป่ะวะ?

    ท่านประธานรับกระดาษจากมือผมไปดู มันอ่านไล่สายตาแว๊บเดียวแล้วยื่นกลับมาให้ผม

    มึงว่าผ่านมั้ยล่ะ

    ผมยักไหล่ คงไม่

    ไอ้โจ้ยิ้มให้ผมที่กำลังเบะปากอย่างเหนื่อยใจกับตัวเลขศูนย์บนกระดาษ มันละความสนใจจากจดหมายร้องเรียงปึกของมันแล้วเอาปากกามาเคาะหัวผมเล่นหนึ่งที

    ...เจ็บนะเว้ย

    บอกให้นายลบค่าของผิดศีลธรรมออกไปซักนิดๆ หน่อยๆ ก็คงพออนุมัติให้ได้ แล้วก็อย่าลืมซื้อกระดานหมากรุกกระดานใหม่มาบังหน้าด้วยล่ะ

    นั่น...สันดานเพื่อนผมโดนท่านประธานรู้ทันจนได้

    เออ เดี๋ยวบอกให้ งั้นนี่ก็ยังไม่อนุมัติล่ะสิ เดี๋ยวมันบ่นแน่ ดันใช้กระดาษกรีนรี้ดมาเอาใจอีก ผมบ่นอีกรอบ คล้ายจะบ่นให้โจ้ฟังแต่มันก็ไม่ฟัง ก็ถือว่าบ่นให้ตัวเองฟังไปละกัน

    บ่นอยู่ได้ แก่เร็วตายเร็วนะ

    อ้าว ก็ฟังอยู่นี่นา

    ด่ากู... ผมเอาปึกกระดาษตบหัวมันทีหนึ่งข้อหาหลอกด่าผม ผมยังเอ๊าะครับ!

    ไม่ได้ด่า มันยังเถียง แค่เตือนด้วยความหวังดี เถียงแบบฟังดูมีเหตุผล แต่ผมไม่ยอมหรอกน่า...

    นั่นแหละ เหมือนกัน

    ไอ้โจ้อ้าปากจะพูดต่อแต่มันก็รู้นิสัยผมดีหรอก ถ้ามันไม่จบผมก็ไม่จบ ดังนั้นมันเลยทำตัวเป็นผู้พิพากษาตัดสินปัญหาซะโดยการเอ่ยปากพูดประโยคที่ผมยอมทำตามแบบไม่มีข้อโต้แย้ง

    คุณรองประธาน...ทำงานครับ

    ผมแอบเบ้ปากให้มันเล็กน้อย แต่ดันตาไวเห็นอีก

    เลิกเล่นได้แล้วครับ...ทำงานครับ

    นั่น...โดนอีก ทำให้ผมต้องตอบไปคล้ายๆ เป็นการโดนมันกำราบกลายๆ แฮะ

    ครับๆ ทำงาน

    หลังจากนั้นก็มีแต่ความเงียบและเสียงกระดาษกรอบแกรบ แอบๆ มีเสียงคน (ผมเอง) พูดบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง...และมีเสียงท่านประธานผู้แสนดีตอบบ้างไม่ตอบบ้างคล้ายจะทำให้ผมเป็นคนบ้าพูดอยู่ได้คนเดียว จนผมเหนื่อยใจจะชวนมันคุย ถุ้ย! ใจแข็งเหลือเกินนะมึง เดี๋ยวเถอะ...

    เรานั่งทำงานกันเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนเกิดมาเพื่ออนุมัติงบยังไงยังงั้น จนสุดท้ายมารู้ตัวตอนเสียงเพลงชาติขึ้น และเพราะวงโยฯ มันดันมาเล่นเพลงชาติใกล้ๆ กับสภาฯ ผมเลยถือโอกาสเลิกงานแป๊บนึง

    ช่วยไม่ได้...ไม่มีสมาธินี่ครับ

    แต่ในขณะที่ผมสะดุ้งแทบตายกับเสียงกลองตึงๆ จนจะทำกระดาษหล่นทั้งกอง ไอ้โจ้กลับเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาแล้วก้มลงไปทำงานต่อแบบประธานไม่รู้ร้อน ...เก่งเหลือเกิ้น

    แล้วเพลงชาติก็จบลง ต่อด้วยกิจกรรมหน้าเสาธงอีกสักพัก แล้วเดี๋ยวนักเรียนก็จะแยกย้ายกันกลับห้องไป ส่วนผมพอทำกองนี้เสร็จเดี๋ยวจะเผ่นละ ให้กรรมการคนอื่นมาทำๆ บ้าง เหนื๊อยเหนื่อยนะครับทำงานกันขนาดนี้เนี่ย

    มึงนี่โคตรขยันเลยว่ะ ผมเปรยขึ้นมาแล้วพยายามเอียงคออ่านข้อความที่กลับหัวอยู่ มันก็เลยได้ที คงจะแก้แค้นที่เมื่อกี้ผมเอากระดาษฟาดมัน คราวนี้มันเลยเอาหัวตัวเองมาเคาะหัวผม

    เจ็บทั้งคู่ครับแบบนี้

    ไอ้เชี่ยโจ้... เล่นอะไรของมึงเนี่ย

    ไม่ต้องบ่นน่า กูก็เจ็บ

    มึงมารับผิดชอบกูเลยยย ผมแหย่มัน

    และขณะที่ผมกำลังทำสำออยแกล้งไอ้โจ้มันเล่นๆ ก็ได้ยินเสียงประตูปิด...แต่ทำไมไม่ได้ยินเสียงประตูเปิดวะ? ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าไอ้กฤตก็เดินเข้ามาแล้วก็มองผมที่พูดเล่นแหย่ไอ้โจ้ แล้วมันก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างผม

    แต่กฤตไม่เป็นปัญหาสำหรับเรื่องที่เรากำลังพูดค้างกันอยู่เท่าไหร่หรอกครับ เพราะไอ้โจ้ทักทายไอ้กฤตเสร็จก็มาพูดกับผมต่อ

    รอกูทำมึงท้องก่อนแล้วจะรับผิดชอบทั้งบ้านเลย

    ไอ้เชี่ยโจ้ พูดอะไรไม่กลัวฟ้าผ่า อ่า...ผมก็แอบกระดากกับประโยคนั้นนะครับ ไม่รู้ทำไม เล่นกับไอ้กฤตว่ามึงรักกูกูรักมึงไม่เห็นเป็นไรเลยแฮะ...

    มึงสิเล่นอะไรของมึงก่อน

    กู...เปล๊าาาา ผมลอยหน้าลอยตาตอบแบบกูไม่ผิดเต็มที่ ก็ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มเล่นอะไรผิดศีลธรรมผิดจรรยาบรรณแบบนี้จริงๆ นี่ครับ แล้วผมก็หันหน้าไปหาไอ้กฤตแทน เห็นมันหน้าบึ้งมองพื้นตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เป็นอะไรอีกล่ะเนี่ย

    เชี่ยกฤต ผมเอาศอกแซะสีข้างมัน เป็นไรวะ?

    มันเงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วตอบเนือยๆ เปล่า

    เอ๊าาา แล้วทำหน้าปวดขี้ทำไมวะ

    นั่น ดูมันสิครับ มันยักไหล่ให้ผมแล้วหันไปมองจดหมายเบิกงบเป็นตั้กๆ บนโต๊ะ มองอะไรนักหนาวะ? มันก็แค่กระดาษเอสี่ธรรมดา มองหน้าผมสิดูดีกว่าอีก

    เห็นหน้ามึงแล้วอยากขี้ คำตอบมันเลวร้ายมาก...แต่สุดท้ายมันก็ตอบผมแหละนะ

    ไปขี้เลยไป จะมาห้องสภาทำไมให้ท้องผูกล่ะ

    มาหามึงอ่ะ

    มาหากูเนี่ยนะ? มาทำไมวะ จะเข้าเรียนแล้วนะมึง ผมว่าพลางก้มดูนาฬิกา แต่ก็คิดได้ว่า...มันหายไปพร้อมกับตะไคร่แล้วนี่นา เลยยกข้อมือซ้ายค้างไปซะนี่

    คิดถึง น่านนน เพื่อนผมสองคนแสนดีพอกัน เล่นอะไรบัดสี๊บัดสี เดี๋ยวผมท้องอย่างปากว่าจริงๆ จะยุ่งเอานะ

    ผมดีดหัวมันด้วยท่าดีดมะกอกเจ็บๆ ที่ถนัดที่สุด

    รอคิดถึงกูตอนเลิกเรียนเหอะไอ้นักเรียนดีเด่น ไปเข้าเรียนแล้วจดงานให้กูด้วย บอกอาจารย์สมเกียรติว่ากูติดงานสภาฯ

    อาจารย์สมเกียรติคือครูพาร์ทไทม์สอนเคมีของผมครับ อันที่จริงต้องเรียกด็อกเตอร์สมเกียรติถึงจะถูก แต่ก็ช่างมันเถอะเพราะอาจารย์เองก็บอกให้เรียกอาจารย์ อาจารย์สอนเคมีวิชาโปรดผมครับ ประมาณว่าเทอมไหนไม่ได้สี่นี่มีไม่ยอมล่ะ

    ไอ้นักเรียนดีเด่นมันแก้แค้นผมกลับโดยการเคาะหัวผมเบาๆ

    จะเอาเข็มขัดคืนมั้ยล่ะคุณรองประธานฯ

    ...จะมาหาผมเพราะเรื่องแค่เนี้ย?

    ใส่ไปก่อนก็ได้ครับคุณนักเรียนดีเด่น ผมบอก

    ชอบโดนสั่งวิดพื้นทีละสิบยี่สิบรอบรึไงมึงเนี่ย

    ไม่ทราบว่ามึงเห็นกูมาโซฯ เหรอวะ เดี๋ยวกูโดดเรียนอยู่ห้องสภานี่แหละ ไม่โดนด่าหรอก

    “เดี๋ยวกูจะบอกอาจารย์สมเกียรติว่ามึงโดดเรียน โดนหักคะแนนจิตพิสัยแน่มึง” มันขู่ผม อ๊ะ อย่าคิดสิว่าผมไม่มีข้อแก้ตัว

    “ก็กูบอกแล้วไง ว่ากูติดงานสภาฯ” ผมยักคิ้วใส่มันเลยครับ

    “มึงมาติดงานสภาฯ เอาตอนนี้เพราะมึงไม่ยอมทำงานน่ะสิ ไปเรียนเคมีกับกูเลย...กูยิ่งงงๆ เรื่องนี้อยู่”

    ดูดู๊มันทำกับผมสิครับ หาเรื่องมาดักคอผมได้จริงๆ เฮอะ ก็ได้วะ

    “เออๆๆ เห็นเป็นวิชาเคมีนะเนี่ย ถ้ามึงมาชีวะใส่กูล่ะพ่อเตะกระเด็นเลย”

    ผมบ่นกระปอดกระแปดแล้ววางปากกาลง หันไปบอกลาไอ้โจ้พร้อมยิ้มแห้งๆ ขอโทษที่ยังมาช่วยงานได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องไปแล้ว

    “ขอบคุณมึงมากกกก” แน่ะ มีหน้ามาลากเสียงยาวประชดอีก คนอุตส่าห์ไปด้วยนะเว่ย “เดี๋ยวกูเอารองฯ มาคืนตอนเที่ยง” มันหันไปบอกไอ้โจ้แล้วเดินออกจากห้องสภาฯ ในสภาพกึ่งลากกึ่งจูงผม

    เออ...เห็นเป็นมึงนะเนี่ย

    ...หมายถึง เห็นเป็นวิชาเคมีนะเนี่ย!

     

    เคมีมันง่ายจะตายยย เฮ้อ ไม่รู้จะงงอะไรกันนักหนาวะ แล้วคนอื่นแต่ละคนไม่เห็นจะเข้าใจง่ายเหมือนไอ้กฤตเลย เล่นเอาผมสาบานเลยว่าชาตินี้จะไม่ไปเป็นครูเป็นอาจารย์ที่ไหนเด็ดขาด แถมชักสงสารครูในโรงเรียนขึ้นมาอีกนิดแฮะ ต้องเจอเด็กอย่างพวกผมจนกว่าจะเกษียณ เป็นผมนะ ผมว่าตายก่อนเกษียณแน่ๆ เลย

    “เชี่ยศิ ไหนมึงมาอธิบายตรงนี้ใหม่ดิ๊ ทำไมกูไม่เก็ทมึงซักที นี่มึงสอนกูแบบโง่เกิน หรือกูเรียนแบบฉลาดเกิน” มันเป็นคำพูดที่ระคายหูจังเลยครับ ถ้าไอ้นายมันไม่ใช่เพื่อนนี่ผมคงกระโดดถีบสันหลังมันแล้ว ยาววอนเท้ามากจริงๆ

    “ฟังดีๆ นะมึง รื้อความคิดมึงไปให้หมด แล้วจำนี่ กูสอนแบบฉลาดเกิน และมึงก็เรียนแบบโง่เกิน จบ กูไม่สอนแล้ว กูหิวข้าว!”

    “ไอ้ชั่ว มึงจะโดดเรียน” มันด่าผม

    “อย่าพูดเหมือนมึงไม่เคยงั้นสิ”

    “มิสคร้าบบ!! ศิราจะโดดวิชาภาษาไทยของมิสครับบ!!” ไอ้บูมแหกปากมองเลยหน้าผมไป ผมหันควับหันไปมองทันที เชี่ยแล้วไง ไอ้เพื่อนเลวววว

    ปรากฏว่าข้างหลังผมไม่มีใครสักคน อื้อหือ แกล้งกันได้นะแบบนี้

    “กูขอให้มึงตกเคมี!”

    “เออ กูก็ขอให้มึงตกภาษาไทย”

    “ไอ้ลูกรักภาษาไทย”

    “ไอ้มนุษย์เคมี”

    “ถ้ามึงไม่หยุดอย่าหวังว่าคืนนี้กูจะดอทกะมึง” ผมเล่นไม้ตายสุดท้ายครับ เพราะรู้ๆ ว่าไอ้บูมเล่นดอทเอห่วยแตกเข้าขั้นเกรียน แต่ก็ยังกระแดะจะเล่นครับ ยัง...ยังไม่พอ มันเห็นว่ามีเพื่อนอย่างไอ้นายที่ตีดอทเป็นชีวิตจิตใจ (รองจากการส่องสาวๆ คอนแวนต์) มันเลยแรดไปรับท้าพนันคนอื่น ไอ้ชาติโง่!

    ถ้าผมไม่เล่น ไอ้นายก็จะไม่เล่นครับ ไม่รู้เป็นไรของมัน แต่มันบอกไม่กล้าเกรียนใส่คนอื่น ดังนั้น พอไอ้นายไม่เล่น ไอ้บูมก็จะแพ้ราบคาบเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ฉะนี้แหละ

    “ขอโทษครับลูกพี่”

    ชะช้า...ผมชนะใสๆ ล่ะครับ

    แต่แล้วก็มีเสียงเปาบุ้นจิ้นดังขึ้นเหมือนเป็นประกาศิตสวรรค์ครับ กฤตเงยหน้าขึ้นจากแบบฝึกหัดเคมีที่มันก็ทำเองเป็น ไม่รู้ว่าจะลากผมจากสภาฯ ทำเตี่ยอะไร แล้วเปิดปากพูดขึ้น

    “พรุ่งนี้มันควิซย่อยชีวะ มึงจะดอทกันหาโครงสร้างพืชรึไง”

    วะ! ขัดจังหวะจริงเลยคนนี้

    “ก็กูไม่รู้ว่ากูจะอ่านไปทำไม กูไม่ใช่พืชนี่หว่า รู้โครงสร้างแม่งไปอย่างกับจะทำให้มันออกลูกเป็นตัวได้งั้นแหละ” ไม่ใช่ผมตอบนะครับ ไอ้นายต่างหากที่ตอบคำถามด้วยคำตอบโคตรๆ กวนตีน

    “โหยกฤต มึงจะซีเรียสอะไรวะ เดี๋ยวให้ไอ้ณัฐมันอ่านเอาก็ได้” เชษฏ์เสร่อหน้าสิวของมันมาต่อคำไอ้นาย

    ไอ้คนโดนพาดพิงก็ร้อนตัวสิครับ ไอ้เชี่ยติ๋มของผมเลยเงยหน้าขึ้นมาจาก Text เคมีภาษาอังกฤษล้วนทั้งเล่มแล้วทำหน้าเหรอ ก่อนจะนิ่งไปแป๊บนึงเหมือนกำลังประมวลผลประโยคสนทนาของพวกผมเมื่อกี๊แล้วเหลือกตาใส่

    “กูอีกแล้วสิ มึงก็ไปลอกไอ้ศิมันสิวะ หลักเคมีกับหลักชีวะแม่งก็คล้ายๆ กันแหละ”

    “สัส! อย่าหาเรื่องมาให้กูเลยเถอะ กูเกลียดชีวะ” จริงๆ ครับ ต่อให้ล้านคนบอกว่าหลักการเรียนสองวิชานี้คล้ายกันยังไงผมก็จะตั้งมั่นเกลียดชีวะต่อไป ไม่รู้จะเรียนไปทำไมจริงๆ แล้วยังต้องมานั่งท่องจำชื่อหน้าที่ของกระเพาะควายอีก แถมควายยังกระแดะมีตั้งสี่กระเพาะ โอ้ย จะเครียดตาย

    “กฤตครับ” อยู่ๆ ไอ้เชษฏ์ก็หันไปมองหน้ากฤตอย่างมีความหวัง แถมยังพูดจาสุภาพจนผมอยากจะอ้วกให้สิวหายไปจากหน้ามัน

    “ครับ...” ไอ้กฤตตอบคำ แต่สายตามองเชษฏ์อย่างไม่ไว้วางใจ

    “ท่านกฤตก็อ่านสิครับ เดี๋ยวผมช่วยท่านกฤตเผยแพร่วิชาเอง ท่านกฤตเองก็เป็นนักเรียนดีเด่นตั้งแต่เข้ามาไม่เท่าไหร่ เกรดก็ออกจะสวยงาม สี่จุดศูนย์ศูนย์แทบทุกตัว”

    แทบทุกตัว? แสดงว่าต้องมีไม่ 4 สิเนี่ย

    “วิชาไรวะที่มึงไม่ 4” ผมถาม

    กฤตมองหน้าไอ้ศิและผองเพื่อนอย่างไม่ค่อยอยากจะตอบ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อแรงกดดันทางสังคม ฮ่าๆ มันยักไหล่แล้วตอบแบบเซ็งๆ

    “ศิลปะว่ะ”

    “ไอ้ควาย! ศิลปะเกรดเท่าไหร่วะ” ไอ้บูมครับที่พูด ไม่ใช่ผมมม

    “สามจุดห้า โห่ย! กูได้ 78 เปอร์เซ็นต์นะเว่ย มิสลัดดาไม่ยอมปัดให้

    “ศิลปะเกรดเท่าไหร่มึงก็ต้องไปอ่านชีวะอยู่ดีแหละท่านกฤต นะครับ นะครับ เห็นแก่เพื่อนๆ ตาดำๆ หน้าตาดีๆ”

    ถุ้ย! ไอ้นายหน้าด้าน กล้าพูดเหลือเกินนะมึง

     

     ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    มาลงฉลองวันวาเลนไทน์ค่ะ เห็นว่าฤกษ์ดี เลยลงมันซะตอนนี้ แถมแบบแอบหวานนิสนึง (แค่เมสเซจเนี่ยนะ?) จริงๆแล้วมันก็เป็นตอนไร้สาระแบบรั่วมากๆ 5555 แต่มือมันไปแบบนี้อ่ะ > < และคาดว่าหลังจากลงตอนนี้ก็คงจะหายยยยยไปอีกนาน ติดสอบค่ะ! :) ยังไงก็ขอฝากหนุ่มๆไว้ก่อนนะคะ

    ขออนุญาตตอบคอมเม้นท์ในนี้นะคะ (ไม่รู้ล่ะว่าอยากได้คำตอบรึเปล่า แต่จะตอบ โฮ่ๆ)

    HanZo

    ขอบคุณที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้นะคะ!! จุ๊บๆ (โดนรีดเดอร์ขยับหนีอย่างรังเกียจ T T)

     

    memo

    มาต่อให้แล้วค่ะ  เย้ๆ

     

    PinkyPrincess

    (จากตอนที่ 1) ขอบคุณที่ชมค่ะ ตื่นเต้นนะเนี่ยที่ว่าภาษาลื่นไหล (ศิ: ขอบคุณที่ชมว่าตลกครับ ต่ชมว่าหล่อจะดีกว่านะ ฮี่ๆ ^^) กว่าตอนนึงจะมายาวๆแบบนี้ก็แต่งกันนานๆแหละนะ แหะๆ

    (จากตอนที่ 2) ก็ยังคงขอบคุณนะคะ ตื่นเต้นมากๆที่บอกว่าชอบเรื่องนี้จัง! (แอบเขิลล) แต่ไม่แน่ใจนะคะว่าโจ้ไม่ได้ชอบศิอ่ะ! (อ้าวว สปอยล์?)

    (จากตอนที่ 3) การพูดจาด้วยคำหยาบคายเป็นจุดแสดงความสนิทสนมของผู้ชายผู้ชาย (ล่ะมั้ง?) พูดตรงๆคือตอนแรกไม่รู้ว่าจะไปยัดบทเปลี่ยนสรรพนามกันตอนไหนยังไงเพราะอะไรดี แต่พอไปเรื่อยๆมันก็แบบนี้แหละค่ะ หุหุ แล้วจากเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อก็จะเปลี่ยนเป็นเพื่อน...กูรักมึงว่ะ ฮิ้ววว! ส่วนฉากหวานๆอยากขอให้รออีกสักนิดนะ เดี๋ยวสองหนุ่มจะค่อยๆหลุดออกมาเรื่อยๆเองแหละ แต่หนุ่มไหนกับหนุ่มไหนก็มิทราบ (จุ๊ๆ) ไรเตอร์สู้ๆอยู่ค่ะ รักรี้ดเดอร์มากๆเลยนะ

     

    BuTTerZ

    คนที่คุณก็รู้ว่าใคร 55555 ศิราน่ารักเหรอคะ? ไรเตอร์ว่านายกฤตก็น่ารักดีน้า มาลงต่อให้แล้วค่ะ ^^

    +++++++++++++++++++++++++++++++
    [160210] มาแก้คำผิดอีกแล้ว 555 อดเป็น 14 กุมภา ต่อเลย TT
    [060310] ...ลืมไปว่ามาแก้คำผิดไปแล้วอ่ะ แหะๆ ^^;

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×