ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Myfalse...ความผิดของผมคือรักเพื่อนสนิท [yaoi/boys love]

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 61


    ตอนที่ 2

    ผู้หญิงที่ชื่อลินดา

     

    “ไอ้กายยยย ตื่นได้แล้ว”
     

    “....”
     

    “ไอ้กายโว้ยยยยยย”
     

    “....”
     

    พลั่ก!
     

    “โอ้ย! กายเจ็บนะเฮีย”วันนี้เช้าวันเสาร์ครับเช้าวันเสาร์ ผมไม่ได้มีเรียนพิเศษช่วงเช้า ผมไม่ได้มีนัดออกไปไหน ผมไม่ได้มีงานพาร์ทไทม์ แล้วไอ้คนที่ได้ชื่อว่าพี่ชายที่ยืนพิงขอบประตูตรงนั้นมันจะเสด็จขึ้นมาปลุกผมแต่เช้าเพื่อ?
     

    “ก็ฉันเรียกแล้วแกไม่ลุกเองนะ”พูดจบยังมีหน้ามาขำเยาะเย้ยผมซะด้วยซ้ำไปครับ ผู้ชายคนนี้เขาหน้าตาเกือบจะเหมือนผม ไม่สิ ผมสิเหมือนเขา เฮียกันต์นั่นเองครับ เขาเป็นพี่ชายผมที่ห่างกันเพียงแค่ปีเดียว แต่ด้วยความที่ว่าเฮียแกงอแงประจำเลยทำเอาชาวบ้านหลายคนคิดว่าผมคือเฮียกันต์และเฮียกันต์คือน้องกายสุดหล่ออย่างผมเองครับ
     

    “ก็เฮียจะปลุกทำไมแต่เช้าเล่า”
     

    “เช้าบ้าอะไร นี่มันสิบโมงแล้วนะจะนอนกินบ้านทั้งหลังเลยรึไง เพิ่งรู้ว่าฉันมีน้องชายเป็นปลวก”เฮียกันต์ไม่ใช่พี่ชายแสนดีที่คอยรักษาจิตใจอันบอบบางของน้องชายหรอกนะครับ เฮียเขาเป็นประเภทเลี้ยงน้องแบบฮาร์ดคอร์
     

    “เฮียแม่งไม่รักกายว่ะ”
     

    “ไม่รักกูไม่แค่ถีบตกเตียงหรอก กูจะจับโยนออกนอกระเบียง”ดูความรักน้องยิ่งชีวิตของเฮียแกสิครับ= =;
     

    “แม่ล่ะ?”

    “แม่เข้าเวรเช้าต่อว่ะข้าวเช้าวันนี้มาม่านะ เอ้อ..ไอ้ซันอยู่ข้างล่างมันรอแกอยู่ นี่แหละสาเหตุที่ปลุกแกแต่เช้า ฉันไปนอนต่อล่ะ”มาม่าอีกแล้วเพราะแบบนี้ไงผมถึงได้สูงแต่เก้งก้างไม่เคยให้สารอาหารกับน้องครบเล๊ย ...เดี๋ยวนะ ไอ้ซันมาเหรอ ชิบหายแล้วไอ้กายเอ๊ย! ว่าแล้วผมก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วอย่างรวดเร็ว แต่พอออกมาก็เจอคู่กรณีนอนกลิ้งอยู่บนเตียงผมซะแล้ว

    “อ้าวไอ้ซัน มึงขึ้นมาตอนไหนวะ ช่างเถอะ ว่าแต่มันมึงมาทำไมวะ เช้าชิบ”ผมพูดพลางหาวประกอบคำพูดให้ดูน่าเชื่อถือใส่มัน ก่อนผมจะเพิ่งสังเกตว่าไอ้ซันมันจ้องผมผิดปกติ
     

    “ภรรยาจะยั่วสามีเหรอจ๊ะ พันออกมาแค่นี้จะเซ็กซี่ไปไหนนะ”
     

    =///=!!!!
     

    ด้วยความไวแสงบวกแรงตีนหมาทำให้ผมกลับมาในห้องน้ำอีกครั้ง ไม่น่าล่ะมันถึงได้มองผมแปลกๆเล่นพันผ้าลายหมีพูห์อันโคตรสั้นสมัยเด็กออกไปหามันแบบนั้น อายโว้ยยย
     

    ก็อกๆ
     

    “ไอ้กาย มึงตายยัง”ตายแล้ว ตายอย่างไม่สงบด้วย มันเห็นอะไรไปบ้างวะเนี่ย ผมจะทำยังไงดี สู้หน้ามันไม่ติดแหงๆ
     

    “ย..ยัง..”
     

    “เออดี มึงตายไปกูไม่มีเพื่อนดูหนัง”
     

    “ห๊ะ? ดูหนัง? เนี่ยนะที่มาปลุกกูน่ะ”ผมเอาผ้าเช็ดตัวพืนใหญ่พันทับน้องหมีพูห์ไว้แล้วเปิดประตูไปหามันแล้วเริ่มกอดอกมองมันอย่างสงสัย
     

    “อืมใช่ ดูหนัง กูเลี้ยงเอง ไปแต่งตัวสิมึง”
     

    “เนื่องในโอกาสอะไรวะ มึงไม่ชอบดูหนังนี่”ผมเดินไปเลือกเสื้อผ้าจากตู้พร้อมยืนคิด มันเป็นคนไม่ชอบดูหนังเท่าไหร่ครับ มีแต่ผมสิที่ชอบดูยิ่งกว่าอะไรดี ครั้งนึงผมเคยดูหนังข้ามคืนจนตาค้างเลยครับ
     

    “ขอโทษ...”
     

    “ห๊ะ?”คำๆเดียวที่อยู่ดีๆมันพูดออกมาทำให้ผมวางมือลงจากเสื้อมิกกี้เม้าส์ทันที แต่มันคงไม่ใช่อย่างที่ผมหวังหรอก มันจำไม่ได้ซะอย่างนั้นทำอย่างกะวันนี้จะมานึกออก
     

    “เมื่อวานไง มึงกินอาหารทะเลไม่ได้ ขอโทษว่ะ”ไม่รู้ทำไมกับคำๆเดียวที่ผมได้ยินก็บ่อยแต่พอออกมาจากปากมันทำไมผมถึงรู้สึกดี เพราะอาจทำให้ผมรู้ว่าอย่างน้อยมันยังแคร์ผมอยู่
     

    “ช่างมันเถอะน่า”
     

    “ดีนะที่ลินดาทักขึ้นมาว่ามึงอาจแพ้อาหารกูเลยนึกออก”สุดท้ายผมก็หวังอะไรจากมันไม่ได้เลยสินะ...

    .

    .

    .

    “มึงอยากดูเรื่องอะไรวะ”ถึงปากมันถามว่าผมอยากดูเรื่องอะไรแต่มือมันจิ้มแถวๆ หอเกย์แตกแหกบ่หล้าเรียบร้อยครับ ตอนนี้ผมกับยืนอยู่หน้าป้ายดูคิวรอดูหนัง
     

    “กูอยากดูไลป้อนคิงแฮะ”
     

    “แต่มึงหอเกย์แตกอ่ะ เขาว่าสนุกนะเว้ย”
     

    “ไลป้อนคิงกูน่าดูกว่า”
     

    “ดูหอเกย์แตกกัน”ว่าเสร็จมันก็ลากผมไปซื้อตั๋วกับป็อบคอร์น ผมถึงได้บอกไงครับว่าไม่น่าถามหรอก มันถามมาผมก็ไม่ได้เลือกอยู่ดี เอาแต่ใจงี้ตั้งแต่เด็กยันโตอ่ะครับ ขณะที่รอมันกำลังซื้อป็อบคอร์นสายตาผมก็สะดุดกับชายหญิงคู่นึง...ลินดา...
     

    “มึงกินรสไร”ลินดามากับใครกันนะ ผมคงมัวแต่มองลินดามากไปจนทำให้ไอ้ซันมันเขกหัวผมเอา
     

    “เหม่อห่าอะไรวะ เฮ้ย! ลินดานี่”ทันทีที่เห็นลินดามันก็รีบวิ่งเข้าไปทันที ผมได้แต่ยืนตกใจอยู่อย่างนั้นที่ไอ้ซันกับผู้ชายคนนั่นทำเหมือนจะต่อยกัน แต่ไปๆมาๆกับจับมือทำความรู้จักซะงั้น ผมจึงตั้งสติแล้วเดินตามไป
     

    “มาแล้วเหรอไอ้กาย ยืนเอ๋อตั้งนาน นี่พี่ชายลินดาเว้ย ชื่อแทน”ผมเลิกคิ้วสงสัยก่อนค้อมหัวนิดๆให้ผู้ชายที่ชื่อแทน แต่เมื่อกี้ไม่ใช่ท่าทีของพี่น้องด้วยซ้ำ มันเหมือน...คู่รัก..
     

    “สวัสดีครับน้องซันน้องกาย พี่อยากเจอมานานล่ะ ลินดาเขาพูดให้ฟังเยอะ”แทนเขาพูดอย่างยิ้มก่อนจะกวาดสายตามองผมสองคน ประเด็นมันไม่ใช่ตรงนั้นครับ แต่สายตาที่มันมองผมต่างหาก คุณเคยดูสารคดีช่องเก้ามั้ยครับตอนที่สิงโตจะตะครุบม้าลายน่ะครับ แบบนั้นเลย
     

    “สวัสดีครับพี่แทน ผมนึกว่าลินดาเป็นลูกคนเดียวซะอีก”
     

    “อ๋อ...พี่เป็นลูกพี่ลูกน้องน่ะครับ”แปลก...เมื่อกี้บอกว่าเป็นพี่ชายแล้วทำไมอยู่ดีๆถึงได้กลายเป็นลูกพี่ลูกน้องไปได้ ถ้าเป็นผมผมก็คงจะถาม แต่ไอ้ซันกลับพนักหน้าเชื่ออย่างง่ายดาย
     

    “พี่ซันมาดูหนังกับพี่กายเหรอคะ งั้นลินดาไม่กวนดีกว่าค่ะ พี่แทนไปกัน”ลินดาพูดอย่างรัวๆก่อนจะรีบพาพี่แทนเดินจากไปทางอื่น
    “พี่แทนหล่อว่ะมึง ทำไงจะหล่อแบบพี่เขาวะ”ผมมองหน้ามันงงๆ...ถ้ามันไม่หล่ออย่างผมอาจเรียกว่าปลวกก็ได้นะครับ

     

    “ไปดูหนังกันไป”

    .
    .

    .

    .

    .

    และแล้วเป็ปซี่เมื่อชั่วโมงที่แล้วก็ออกฤทธิ์...ตอนไคลแม็กซ์!!! แต่ทำไงได้ล่ะครับ ผมปวดมากจริงๆนะ ถ้าไม่ออกไปตอนนี้มีหวังได้ฉี่รดเบาะที่นั่งครับ
     

    “มึงจะไปไหนวะ”ไอ้ซันคว้าแขนผมไว้ทันทีที่ผมจะลุกขึ้น ผมเลยบอกปัดๆมันเสียงเบาไปว่าเข้าน้ำก่อนจะปลีกตัววิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว อ่าห์...สบายจัง
     

    “อืม..พี่แทนว่าพี่ซันจะเชื่อมั้ยคะ”
     

    “พี่ว่าเชื่อนะคะ แลดูโง่จะตายไป”
     

    “ขืนไม่เชื่อเราก็เสียพนันฟรีสิคะ..”สองเสียงนี้มันคุ้น..คุ้นจนน่าตกใจเหมือนผมเคยได้ยินมาก่อนหรือว่าคนพากย์หอเกย์แตกมาปวดท้องในโรงหนังเหมือนผม...เฮ้ย!! แฟนไอ้ซันกับพี่แทนนี่หว่า แต่นี่มันห้องน้ำชายนะเว้ย ลินดาจะเข้ามาได้ยังไง ผมจึงรีบส่องรูกุญแจดูความเป็นไปทันที
     

    “นี่ แล้วเพื่อนของไอ้ซันนั่นน่ารักดีนะ ชื่อกายใช่มั้ย”
     

    “น่ารักกับผีสิ พี่แทนจะนอกใจลินดาเหรอคะ ลินดาโกรธนะ!
     

    “โธ่...พี่ก็แค่บอกว่ามันน่ารักนะ ไม่ได้บอกว่ารักมันเหมือนที่พี่รักน้องลินดานะคะ” คุณเคยเป็นมั้ยครับเวลาที่ความรู้สึกหลายๆอย่างมาโถมเข้ามาในเวลาเดียวน่ะครับ ผมกำลังเป็นแบบนั้นได้แต่ยืนนิ่งกับที่แม้สองคนนั้นจะออกไปแล้วก็ตาม ผมเหมือนยังได้ยินเสียงน้องลินดาที่แสนดีของไอ้ซันพูดอยู่ในหัว ความรู้สึกเจ็บแทนเพื่อนอาจเป็นแบบนี้นี่เองเพียงแต่ถ้าเป็นเพื่อนคนอื่น ผมคงไม่เจ็บแทนเท่านี้

    .

    .

    .

    .

    .

    ผมรีบสาวเท้ากลับไปที่โรงหนังอย่างรวดเร็ว ทั้งต้องคอยหลบผู้คนที่ออกมาจากโรงหนัง ไอ้ซันก็คงออกมาเช่นกันและมันต้องรู้เรื่องนี้ ผมต้องบอกมัน ผมปล่อยให้เพื่อนผมโนหลอกแบบนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะผมทนเห็นไอ้ซันเจ็บทีหลังเพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้
     

    “ไอ้ซัน เมื่อกี้กู...!!!” สงสัยจะผมช้าเกินไปหรือสองคนนี้ไวเหมือนโกหก ผู้หญิงที่ยืนยิ้มสวยหวานกับผู้ชายที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนแต่เบื้องหลังนั้นน่ะเน่าเฟะอย่างกับอะไรดี
     

    “เออ..มึงน่ะไปนานชิบหาย หนังจบพอดี เนี่ยกูเพิ่งรู้ว่าลินดากับพี่แทนดูโรงเดียวกับเราเว้ย รู้งี้น่าซื้อตั๋วด้วยกันเนอะครับลินดา”ซันพูดยาวเหยียดแล้วหันไปยีหัวแฟนตัวเองอย่างทะนุถนอม ปกติผมเห็นแล้วก็ไม่ชอบใจนะครับ แต่คราวนี้ผมรู้สึกหมั่นไส้แปลกๆ
     

    “ไอ้ซันฟังกูนะ เมื่อกี้ที่ห้องน้ำน่ะ”
     

    “ห้องน้ำมีอะไรเหรอครับน้องกาย”ผมยังไม่พูดไม่ทันจบไอ้ผู้ชายสองหน้านี่ก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อนพร้อมรอยยิ้มที่แอบแฝง ผมรู้ว่ามันหมายถึงอะไรแต่ผมต้องพูดให้ได้
     

    “มึงอย่ามาตีสองหน้าตอนนี้ กูได้ยินหมดล่ะที่มึงกับนางวันทองนี่คุยกันน่ะ”
     

    “ฮึก...พี่กายเป็นอะไรไปน่ะคะพี่ซัน..ทำไมต้องว่าลินดาเป็นวันทองด้วย”นี่แหละครับผมถึงเกลียดผู้หญิง บีบน้ำตาเก่งได้โล่และสามารถร้องไห้กอดออเซาะได้ในเวลาไม่ถึงนาที
     

    “เฮ้ย ทำไมมึงต้องรุนแรงแบบนี้ด้วย มึงโกรธอะไรใครมาทำไมต้องมาลงที่ลินดาด้วย”ซันมันเริ่มโวยวายใส่ผมพร้อมสีหน้าหาเรื่อง แต่ผมไม่แคร์มันจะมองผมเป็นยังไงก็ช่าง แต่มันต้องขอบคุณผมในวันหลัง
     

    “ก็นางวันทองมันสองใจไง น้องลินดาของมึงก็เหมือนกัน เมื่อกี้มันกับไอ้พี่ชายจอมปลอมเนี่ยพลอดรักกันในห้องน้ำชายอย่างหน้าไม่อาย ที่มันมาคบมึงน่ะเพราะมันพนันนะเว้ย!!”ผู้คนที่หน้าโรงหนังเริ่มมุงดูพวกเราเป็นหย่อมๆพร้อมเสียงซุบซิบนินทาที่ดังเป็นระยะ
     

    “เอ่อ..น้องกายพูดเกินไปนะครับ”
     

    “พูดเกินไปอะไร บอกกูมาสิว่าไม่ใช่เรื่องจริง”
     

    “...ไม่จริงครับ น้องลินดาเป็นผู้หญิงจะเข้าห้องน้ำชายได้ยังไง”ผมไม่อยากจะเชื่อว่าหมอนี่จะโกหกหน้าตายพร้อมเสแสร้งยิ้มเศร้าเหมือนคนถูกใส่ร้ายได้แนบเนียนถึงขนาดนี้ ผมหันกลับไปมองหน้าไอ้ซันที่เริ่มทำหน้าแปลกไป
     

    “แล้วมึงก็ไม่เชื่อกูใช่มั้ย”
     

    ขอร้อง...
     

    “....”
     

    กูรักมึงจนแทบจะบ้าอยู่แล้วนะ ช่วยเชื่อกูสักครั้งเถอะ...
     

    “กาย...”
     

    ผมจะหวังได้ใช่มั้ย ผมจะหวังว่ามันจะเชื่อผมได้ใช่มั้ย...
     

    “มึง...กลับบ้านไปนอนเถอะ ลินดาครับพี่ขอโทษนะไอ้กายมันพาลนิดหน่อยน่ะ ไปกันนะครับ”กี่ครั้งแล้วที่ผมต้องผิดหวังแบบนี้ กี่ครั้งแล้วที่ผมต้องมองมันเดินจากไปพร้อมกับคนที่มันรัก กี่ครั้งแล้วที่คนที่เดินไปกับมันไม่ใช่ผม  กี่ครั้งแล้วที่ผมต้องเจ็บเพราะมัน
     

    “คิดจะพูดอะไรน่ะ ไปหัดการแสดงมาใหม่นะครับน้องกาย แค่พูดความจริงน่ะมันไม่พอหรอก”ผู้ชายที่ทำให้ผมแพ้โดยสิ้นเชิงเดินมากระซิบข้างหูผมจนชาวาบก่อนจะเดินตามหลังน้องสาวจอมปลอมของเขาไป ผมได้แต่ยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก มันรู้สึกชาไปทั้งตัวจนผมเกือบลืมไปแล้วว่าผมยังมีชีวิตถ้าไม่ติดที่ว่า ก้อนเนื้ออันหนึ่งในร่างกายผมมันกำลังบีบรัดจนเจ็บปวดมากมายเหลือเกิน...

    .

    .

    .

    .

    .

    ดอกทานตะวันต้นน้อยของผมกำลังเหี่ยวเฉาเพราะผมลืมรดน้ำในตอนเช้าและคงได้รับแสงแดดมากเกินไป ผมประคองกลีบดอกของมันอย่างแผ่วเบา มองแสงรำไรที่ลอดผ่านปลายเท้าทำให้ผมรีบเงยหน้าขึ้นมองแสงไฟที่เล็ดลอดจากผ้าม่านห้องฝั่งตรงข้ามนั่นแสดงว่าไอ้ซันกลับมาแล้ว
     

    “ซัน!!!
     

    “....”ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากฝั่งตรงข้าม ผมยืนมองนิ่งและเริ่มรู้สึกว่าขอบตามันหนักไปด้วยน้ำ ปกติซันจะเปิดประตูมาหาผมก่อนเสมอไม่เลยซักครั้งที่ผมต้องเรียกมันแบบนี้ ไม่ว่ามันจะโกรธผมแค่ไหนมันก็เปิดประตูมาให้ผมง้อเสมอ แต่ทำไมพอเป็นเรื่องผู้หญิงคนนั้น เขาต้องโกรธผมมากมายถึงขนาดนี้ด้วยนะ...
     

    “ซันขอร้อง...”
     

    ซักครั้งได้มั้ยที่จะฟังคำขอของกู ซักครั้งได้มั้ยที่มองมาที่กูบ้าง แค่ซักครั้งเถอะนะ ได้โปรด..
     

    ครืด
     

    ผมรีบปาดน้ำตาลวกๆมองคนที่เดินออกมาที่ระเบียง...ลินดา!!!
     

    “ว่าไงคะพี่กาย พี่ซันอาบน้ำอยู่คะ มีธุระอะไรคะ”ผมมองผู้ชายตรงหน้าที่ยืนกอดอกอย่างน่ารัก ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำไป ผู้หญิงที่แสนน่ารักคนนี้จะเป็นคนแบบนั้นได้
     

    “เธอก็รู้ว่าธุระเรื่องอะไร”
     

    “ยังคิดจะบอกพี่ซันอีกเหรอคะ ที่หน้าโรงหนังยังหน้าแตกไม่พอสินะคะ อ้อ...พี่คงใช้บัตรสามสิบเข้าไปเย็บหน้าล่ะสิท่า”
     

    “แล้วเธอล่ะไปทำหน้าที่ไหนมา ไม่น่าใช่ยันฮีนะ เขาคงไม่ทำหน้าคงออกมาด้านขนาดนี้”
     

    “ไอ้กาย!!!”ผมเหยียดยิ้มมองลินดาที่เผยธาตุแท้ออกมาทีละนิด จากนางฟ้าตอนนี้ก็แค่นางมารตนนึง
     

    “เลิกยุ่งกับซันมันเถอะครับ ผู้ชายดีๆไม่ควรยุ่งกับสัมประเวสีอย่างน้อง”
     

    “ทำไมคะ ทำไมพี่ต้องพูดแบบนี้ตลอด”
     

    “เอ๊ะ..อย่างน้องนี่สัมประเวสียังสูงมากไปล่ะมั้ง เลิกยุ่งกับคนเถอะครับ กลับไปนรกขุมสุดท้ายของเธอเถอะอย่าให้เอาหมอผีมาไล่”
     

    “ฮึก...”ลินดากัดปากแน่นแล้วเดินกลับเข้าห้องไอ้ซันไป ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น ห้องผมกับซันใช่จะห่างกันมากมายนี่ครับ ผมย่อมได้ยินเสียงที่ดังกว่าเสียงกระซิบอยู่แล้ว
     

    “เลิกยุ่งกับซันมันเถอะครับ ผู้ชายดีๆไม่ควรยุ่งกับสัมประเวสีอย่างน้อง”

    “ทำไมคะ ทำไมพี่ต้องพูดแบบนี้ตลอด”

    “เอ๊ะ..อย่างน้องนี่สัมประเวสียังสูงมากไปล่ะมั้ง เลิกยุ่งกับคนเถอะครับ กลับไปนรกขุมสุดท้ายของเธอเถอะอย่าให้เอาหมอผีมาไล่”

    “ไอ้กาย!!!”ผมมองซันที่พุ่งพรวดดออกมาจากห้องพร้อมกำหมัดเต็มที่ สายตาผมไม่ได้อยู่ที่ซันหรอกครับ มองเลยไปอีกหน่อย ผู้หญิงแสนสวยที่ยืนยิ้มกระหย่องอย่างผู้ชนะพร้อมมือถือในมือ มันทำให้ผมรู้สึก...หมั่นไส้...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×