คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่9-จำไว้ ว่านายไม่ได้อยู่แค่ตัวคนเดียว
ตอนที่9 จำไว้ ว่านายไม่ได้อยู่แค่ตัวคนเดียว
ท่ามกลางความมืดมิด ร่างของหญิงสาวผู้มีดวงตาสีแดงสด ยืนอยู่ท่ามกลางศพมากมาย....เลือดสีแดงสาดกระเด็นไปทั่วร่างกายของเธอ และบริเวณโดยรอบนั้น
“ทะ..ทำไม..ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ อ้ากกกกกกกก”เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้น และจบลงที่เสียงร้องโหยหวน เด็กสาวแสยะยิ้ม
“เท่านี้ก็..เตรียมการพร้อมแล้วสินะ...”
.............................
Tsuna Part
“อะไรนะ!!!คนของเราที่ญี่ปุ่น..ถูกลอบฆ่ายกทีมเลยเหรอ!!!”ผมตะโกนเสียงดังลั่นอย่างตกใจ หลังจากได้ยินมาจากโกคุเทระคุง เขาพยักหน้ารับด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ ก่อนจะยื่นซองใส่เอกสาร ที่จ่าหน้าซองไว้ว่า กองพิสูจน์หลักฐาน วองโกเล่ แฟมิลี่
ผมรีบคว้าซองออกมาแกะดูแล้วสาวเท้าเข้าห้องทำงานทันทีโดยไม่ลืมที่จะล็อคประตูผมกระแทกตัวนั่งลงบนโต๊ะ หยิบภาพแต่ละภาพขึ้นมาดูอย่างตกใจเป็นอย่างมาก ผมหยิบภาพแรกขึ้นมามอง ทั้งๆที่มองไม่ได้ถึง1นาทีเลยด้วยซ้ำ ผมก็อาเจียนลงถังข้างโต๊ะทันที แต่ละศพมีสภาพสยดสยองมาก....ทั้งเครื่องในทะลักออกมาด้านนอก หัวสมองระเบิดกระจุยกระจาย บางคนถูกฟันหัวตัวและแขน สับเป็นชิ้นเล็กๆก็มี
พระเจ้า..บอกผมที ใครทำเรื่องแบบนี้!!!!!!!!!!!!!
ฝีมือของแต่ละคน ก็ใช่ย่อยที่ไหน แต่กลับมาตายหมู่เพราะใครก็ไม่รู้เนี่ยนะ ผมรีบอ่านเอกสารที่แนบมากับรูปทันที
สันนิฐานว่าผู้ก่อเหตุมีเพียงคนเดียว...
คนเดียวอย่างนั้นหรือ..เป็นไปได้ยังไง ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด
“นอกซะจากว่าคนร้ายจะเป็นคนที่รู้จักกันนะครับ” จู่ๆ เสียงก็ดังมาจากโน๊ตบุ๊คข้างๆตัวผมทำให้ผมต้องรีบหันขวับไปดู บนหน้าจอมีเพียงไฟล์ที่ถูกเปิดทิ้งไว้ซึ่งเป็นต้นกำเนิดเสียง เสียงแบบนี้..
“โซล!!!!”
“ครับๆ ทำไมเหรอครับ?”โซลพูดกวนๆ ผมละตกใจ
“นี่นายต่อระบบฝ่าผ่านระบบรักษาความปลอดภัยได้ไงเนี่ย=_=”
“ความลับฮะ^_^”
“โถ่โซล นี่ไม่ใช่เวลามาเล่นกันนะ พี่เครียด”ผมตอบกลับไปอย่างเซ็งๆ
“ไม่เห็นจะต้องเครียดอะไรเลยนี่ครับ หลักฐานก็เห็นๆกันอยู่ว่าอยู่ใกล้ๆตัวพวกพี่นี่เอง”
“หมายความว่าไง..จะบอกว่าเป็นฝีมือของคนในเหรอ?”ผมเริ่มสนใจคำพูดของโซลขึ้นมาตะหงิดๆ
“ไม่บอกครับ.......เอาเป็นว่า วันนี้ผมคงต้องแค่นี้ก่อนล่ะ”
“ดะ...เดี๋ยวสิ!!!โซล...แล้วเราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่”
“อีกไม่นานนี้แน่ครับ สัญญา”
ปิ๊ป!!
ไฟล์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ถูกปิดลง โซลที่นั่งบนเก้าอี้ กำลังหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ห้องนอนของโซลที่ไม่กว้างอะไรมากนักมืดสนิท ทั้งเงียบ ทั้งมืด โดยมีแสงจันทร์ยามราตรีจากนอกหน้าต่างเพียงอย่างเดียว เด็กหนุ่มยังคงเย็นชา สายตาที่มองไปข้างนอกนั้นช่างเหม่อลอยซะเหลือเกิน
แอ๊ด...
จู่ๆ ประตูห้องที่ปิดสนิทก็เปิดเข้ามา พร้อมกับร่างของซากะที่เดินเข้ามาด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ลงไปกินอะไรหน่อยเหรอ เธอไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วนะ...โซล”
“ผมไม่ค่อยหิวน่ะฮะ...แล้วก็มีเรื่องที่ต้องคิดนิดหน่อยด้วยน่ะฮะ”โซลพูดโดยที่ไม่หันกลับไป นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มผมสีม่วงยิ่งแป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรแน่เหรอ?”นั่นคงเป็นเพราะเขาเป็นแฝดพี่ของคาน่อน ทำให้เขามีความอดทนพอที่จะพยายามให้เด็กหนุ่มลงไปข้างล่าง ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่ก็ดูมีความเฉียบขาด แต่นั่นก็ไม่สะเทือนอะไรกับโซลทั้งสิ้น ในทางกลับกัน....
“ผมไม่เป็นอะไรจริงๆฮะ^ ^”โซลหันมายิ้ม แต่นั่นทำใหซากะถึงกับชะงัก ทั้งๆที่เด็กหนุ่มตรงหน้ากำลังยิ้ม แต่ทำไม เขารู้สึกว่ามันช่างโดดเดี่ยว เดียวดาย เศร้าสร้อย และว่างเปล่าเสียเหลือเกิน นั่นทำให้รู้ทันทีว่าเด็กหนุ่มตรงหน้า..
กำลังฝืนยิ้ม.....
ในเมื่อเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่อยากจะพูดก็ไม่เป็นไร แต่เขาไม่ชอบใจเลย...
“คิดว่าพวกนั้นจะไปกันรอดจริงๆน่ะเหรอ โซล”ซากะเปลี่ยนเรื่อง แล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างๆโซลที่โต้ะคอม
“ได้สิครับ”เด็กหนุ่มกล่าวอย่างมั่นใจ โซลยังคงยิ้ม แต่มันก็ยังคงเป็นยิ้มที่แฝงด้วยความรู้สึกเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“อะไรทำให้เธอมั่นใจได้ขนาดนั้นล่ะ”
“ก็ดูนี่สิคร้าบ~”โซลว่า พลางเปิดอะไรบางอย่างในคอมพิวเตอร์ ปรากฎให้เห็นร่างของเด็กชายผมสีน้ำตาลอีกครั้ง พร้อมกับมีร่างของชายหนุ่มผมสีดำสนิทอยู่ด้วย!!
“นี่สึนะโยชิ นายน่ะอย่าเครียดมากดีกว่า ทำอย่างนี้ฉันเป็นห่วงนะ”ฮิบาริพูดกับสึนะอย่างเป็นห่วง
“แต่ว่า ผมก็ไม่อยากให้เคียวยะกลุ้มไปด้วยนี่ครับ”
“มีอะไรก็บอกกันสิ อย่าลืมสิ นายไม่ได้อยู่แค่ตัวคนเดียวนะ สึนะโยชิ นายน่ะ เป็นท้องฟ้าของพวกเรานะ คิดว่าคนอื่นเค้าอยากจะเห็นนายเป็นแบบนี้รึไง ฉันละคนนึง”
ฮิบาริพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ก็ทำให้สึนะรู้ทันทีเพราะนานๆที เคียวยะจะมาพูดเตือนสติเขาได้แบบนี้
“เข้าใจแล้วครับ ผมขอโทษ..แล้วก็ขอบคุณนะครับ^_^”สึนะยิ้มหวาน นั่นทำให้หน้าของฮิบาริดูหื่น+จิตขึ้นทันที
“จะว่าไป..เราก็ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นกันมานานแล้วนะ^_^”
“คะ..คุณฮิ..อุ๊บ!”สึนะยังไม่ทันพูดจบประโยคก็ถูกปิดปากทันที โซลที่เกรงว่าอาจจะได้เห็นฉากไม่สมควรกับวัยเลยปิดทันที ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง แต่ดูเหมือนที่เงียบจะเป็นเพราะเกือบจะได้เห็นอะไรแบบนั้นมากกว่า...
“=[]=
.ถ้างั้นฉันก็รู้แล้วล่ะว่าเธอมั่นใจเรื่องอะไร”ซากะพูดทั้งๆที่ยังช๊อคไม่หาย ถึงแม้ว่าเขาพอจะเคยเจอกับไอ้เรื่องประมาณนี้มาก็เถอะ แต่คิดว่าคนที่จิตใจดีๆงามๆปกติอย่างเขาจะไม่ช๊อคเหรอ
‘ว่าแต่ คำพูดของฮิบาริ เคียวยะเมื่อกี้ ฉันอยากพูดกับเธอจังนะโซล’ซากะคิด
“= =ไม่ใช่แค่คุณที่ช๊อคหรอกคร้าบ~ ผมก็ช๊อค”โซลรีบเอาสติของซากะที่เตลิดไปไหนต่อไหนแล้วกลับมา
“ที่เธอมั่นใจว่า...พวกนั้นจะไม่เป็นไร เพราะว่า พวกนั้น..ยังมีคนรัก คนที่คอยอยู่เคียงข้างไปด้วยกันเสมอ แม้ว่าจะทุกข์หรือสุข อย่างนั้นใช่มั้ย”
“ปิ้งป่อง!ถูกต้องแล้วครับ^__^.......”
“เฮ้!ซากะ เมื่อไหร่นายจะลงมา เดี๋ยวฉันก็หิวจนกินก่อนหรอก!!!!”เสียงคาน่อนบ่นจะโกนดังขึ้นมาจนถึงข้างบน ซากะถอนหายใจในนิสัยอดทนน้อยของแฝดน้อง ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มแสดงอาการโมโหเล็กน้อย
“งั้นฉันลงไปก่อนนะ โซล ถ้าหิวเธอก็ลงไปกินอะไรซะบ้างนะ”ซากะว่า ก่อนจะเอาเก้าอี้ไปเก็บที่ๆเขาลากมันมาเมื่อกี้
“ไม่ล่ะครับ ผมจะนอนแล้ว”โซลว่า พลางเดินไปที่เตียง ก่อนจะนั่งลง ส่งยิ้มที่ยังคงฝืนมาให้ร่างสูงของชายหนุ่ม ซากะยังคงไม่อยากมองรอยยิ้มนั่นเหมือนเดิม ก่อนจะฉุดคิดอะไรขึ้นมาได้
‘เราเองก็อ่านใจคนอื่นได้อยู่แล้วนิ ทำไมไม่ลองทำดูล่ะ’
‘เอาล่ะ...ฉันขอดูหน่อยเถอะ’
‘ความคิดของเธอ’
ซากะหันมามองอีกครั้ง ด้วยดวงตาที่มองลึกลงไปที่จิตใจของเด็กหนุ่ม นั่นทำให้เขาเห็นภาพมากมาย ทั้งภาพเกี่ยวกับซาวาดะ สึนะโยชิ คนอื่นๆ ภาพความทรงจำที่ไม่ว่าจะดีหรือเลวร้ายไหลเข้ามาสู่โสตประสาทของชายหนุ่มตั้งแต่บัดนี้ จนกระทั่งส่วนที่ลึกที่สุด ทำให้เขาเห็นภาพของเด็กหนุ่มที่นั่งคุกเข่าจ้องมองพื้นอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืดที่หนาวเหน็บ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาตกใจไปมากกว่านี้
เด็กหนุ่ม...กำลังร้องไห้!!
...........................................
สวัสดีท่านผู้อ่านที่เคารพค่ะ^_^
อ่า..สอบเสร็จแล้ว หัวสมองโล่งขึ้นเยอะเลยค่ะ หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าทำไม ตัวละครใหม่ถึงได้มีบทเยอะกว่าตัวละคร ออริจินอลจากฟิคนี้ นั่นก็เพราะว่าอยากจะสื่อเรื่องราวออกมาให้มันชัดเจนน่ะค่ะ แล้วหลังจากนี้เราก็อาจจะได้เห็นตัวละครใหม่โผล่ออกมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ เอาล่ะค่ะ เอาตัวอย่างตอนต่อไปมาล่ะนะคะ
“สึนะโยชิ ทางนี้ วิ่งมา!!”
“คุณฮิบาริ อ่ะ อึก!”
“พี่สึนะโยชิ!!!”
ความคิดเห็น