ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กาลครั้งหนึ่ง ใน Reflection Season

    ลำดับตอนที่ #2 : Part1-หนี

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 54


    Part1



              เฮือกกก
    !!

    เด็กหนุ่มสะดุ้งผุดลุกขึ้นมาจากเตียง ก่อนจะหันมองรอบๆตัวในทันที เด็กหนุ่มวัยสิบสิบสองถึงสิบสี่ปีกระโดดลงจากเตียงเหล็ก ผมสีเหลืองเข้ม ดวงตาสีออดอายสีเขียวกับสีเหลืองอำพัน เด็กหนุ่มดึงผ้าห่มมาคลุมร่างที่สวมใส่เพียงชุดคนไข้สีขาวบางด้วยความหนาว ทันทีที่ปลายเท้าแตะพื้น เด็กหนุ่มก็สะดุ้งเฮือก พื้นเหล็กเย็นเฉียบกับผนังเย็บเฉียบสร้างความตกใจให้เด็กหนุ่มได้ไม่น้อย

    นี่ฉันอยู่ที่ไหน...ที่นี่มันคือที่ไหนกันและที่สำคัญ..

     

    ฉันคือใคร?

     

    ความคิดมากมายหมาศาลของเด็กหนุ่มทำให้เขาปวดหัวจนแทบกุมขมับ

    ฉันต้องออกไปจากที่นี่!’

    เด็กหนุ่มกระชับผ้าห่มที่คลุมอยู่แน่นก่อนจะผูกไว้ที่เอว เด็กหนุ่มเดินไปผลักประตูออกเล็กน้อย

    ไม่ได้ล๊อค..

    เด็กหนุ่มพอมองเห็นสภาพโดยรอบได้อย่างชัดเจน ไม่มีคนอยู่ในบริเวณนี้เลย จากการตีความของเด็กหนุ่มก็ได้ข้อสรุปออกมาว่า..ทางสะดวก

    เขาค่อยๆก้าวออกจากห้องทีละน้อยๆ ก่อนจะเดินไปตามทางเดิน ซึ่งเขายิ่งเดินเท่าไร ทางก็ราวกับจะวนกลับมาทางเดิมอย่างไรอย่างนั้น

    “นี่เรา..วนกลับมาที่เดิม..อีกแล้วเหรอ”เด็กหนุ่มมองหน้าห้องที่เขาตื่นขึ้นมา..ตื่นขึ้นจากความฝันที่ดูยาวนานมากจนไม่รู้ว่าเขาหลับตั้งแต่เมื่อไร

    “นี่เรา..จะออกไปได้ไหมนะ”เด็กหนุ่มทรุดตัวลง นั่งไพล่หลังกับผนงเหล็กที่มีรอยปะเย็นเฉียบอย่างสับสน เหนื่อยล้า และท้อแท้

    เดินตรงไป..

    “อ้ะ...เสียงใครน่ะ”

    ไม่ต้องสนใจฉัน...เดินทะลุกำแพงด้านหน้านายไปเลย

    แต่ว่า..มันเป็น..”เด็กหนุ่มดูเกรงๆเล็กน้อยโดยหวั่นว่า หากเขาไม่ทะลุผ่านไป ก็คงไม่พ้นต้องเจ็บตัวแน่นอน

    เดินทะลุไปเถอะน่า..ไม่เจ็บหรอก

    เด็กหนุ่มค่อยๆลุกขึ้น เดินไปประชิดหน้ากำแพงเจ้าปัญหาที่มีเสียงปริศนาบอกให้เขาเดินผ่านไปด้วยใบหน้าอธิบายไม่ถูก

    ตั้งสมาธิให้ดี..แล้วเดินผ่านไป

    “อะ..อื้ม”เด็กหนุ่มหลับตาลงเพื่อข่มความกลัว

    ก่อนจะวิ่งเข้าหากำแพงอย่างรวดเร็วในทันที

    น่าแปลก เด็กหนุ่มไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย แต่กลิ่นที่น่าสะอิดสะเอียนของน้ำยาชนิดต่างๆก็ทำให้เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พร้อมเอามือกุมจมูกแน่น

    ภาพของห้องทดลองที่มีสายไฟมากมายเต็มพื้น น้ำยาชนิดต่างๆวางอยู่บนตู้ที่เก่าพอๆกับขวดเหล่านั้น ห้องมืดทึบที่มีแสงสว่างอยู่เพียงที่เดียว..

    คือตู้กระจกทรงกระบอกโดยมีน้ำอะไรบางอย่างอยู่เต็มที่ตั้งอยู่กลางห้อง

    แต่ทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับตู้กระจกภาพบางอย่างก็ไหลเข้ามาในความคิดของเขาทันทีจนหัวของเขานั้นปวดยิ่งขึ้น

    “ตัวทดลองที่102สภาพเป็นยังไงบ้าง”

    “ค่ะ สภาพเสถียรดี ดูถ้าทางตัวทดลองที่102จะปรับตัวเข้ากันได้ดีกับยาที่เราฉีดเข้าไปค่ะ”

    “ถ้างั้น..คุณออกไปก่อน..ผมอยากจะชื่นชมผลงานชิ้นนี้ ตามลำพัง”

    “ค่ะหัวหน้า..”หลังจากที่หญิงสาวคนนั้นออกไป ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าก็เดินเข้ามาสำผัสตู้กระจก ที่มีตัวเขาในชุดคนไข้สีขาวเหมือนตอนนี้นอนอยู่ข้างใน

    “หึหึ..คุณไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆซะด้วยนะครับ เชน

    วูบ!!

    “อะ..โอ้ย..”เด็กหนุ่มผงะถอยหลังออกมา “ชื่อของฉัน..คือเชนอย่างนั้นเหรอ”

    เด็กหนุ่มมองตัวเอง ก่อนที่หูของเขาจะได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอก

    รีบไปซะก่อนจะมีคนมาเห็นเข้า

    เสียงๆนั้นย้ำเตือนเชนให้รีบออกไปมากขึ้น เด็กหนุ่มเดินไปดันประตูก่อนจะวิ่งออกไป โดยมีผู้คนที่อยู่บนทางเดินคอยยื้อไว้

    “ตัวทดลองที่102หนีไปแล้ว!!

    “ไม่จริงน่า ได้สติขึ้นมาได้ยังไงกัน”

    โครม!!!

    เด็กหนุ่มวิ่งชนรถเข็นเหล็ก ภาชนะ เข็มฉีดยา ขวดใส่สารเคมีตกลงมาบนตัวเด็กหนุ่มทั้งหมด จนเขามีความรู้สึกว่าชาหนึบและเจ็บแปล็บไปทั้งตัว ของเหลวอุ่นๆไหลออกมาตามบาดแผลต่างๆที่มีอยู่เต็มตัว เด็กหนุ่มไม่สนใจต่อบาดแผล วิ่งต่อไปเรื่อยๆจนหลุดออกมาได้สำเร็จ

    “แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก..”เด็กหนุ่มหอบหายใจด้วยความรู้สึกที่ทั้งเหนื่อยและเจ็บ เขาไม่เคยรู้สึกเจ็บและมีบาดแผลมาก่อนเท่าที่เขาจำได้ ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรก เขาจึงรู้สึกเจ็บมากที่สุด

    “อุ๊บ!!!”ทันใดนั้นฝ่ามือหยาบกร้านก็เอื้อมเข้ามาปิดปากของเด็กหนุ่มไว้แน่น สติของเด็กหนุ่มเริ่มเลือนรางจากกลิ่นหอมแปลกๆที่โชยมาจากที่มือคู่นั้น

    หยิบมีดสิ

    แล้วฉันจะหยิบได้ไงล่ะ

    มีดอยู่ในแขนเสื้อข้างขวาของคนที่ปิดปากนายอยู่ ทุบให้มันหล่นออกสิ

    อื้ม..เข้าใจแล้ว

    เชนทุบแขนข้างขวานั้นจนเขาปล่อย ก่อนหยิบมีดสั้นสีเงินแวววาวคมกริบขึ้นมา

    ทีนี้..นายต้องเลือกแล้ว..ว่าจะวิ่งหนีไป..หรือจะจัดการกับคนพวกนี้ก่อน

    ฉันต้อง..ฆ่า..ฆ่าเหรอ

    คนพวกนี้ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา..ถึงแม้นายจะหนี..ก็หนีไม่พ้น พอถึงตอนนั้น นายก็ต้องเลือกเองเด็กหนุ่มมองไปยังคนคนนั้น ชายวัยกลางคนที่ดวงตาเหลือกขึ้นจนไม่รู้ว่าดวงตาสีอะไรกันแน่ ดูไม่มีสติอะไร บาดแผลเต็มตัวและมีคนที่เหมือนแบบนั้นนับสิบยืนอยู่รอบเขา

    เด็กหนุ่มกัดฟันแน่น กระชับมีดในมือ ถึงแม้จะไม่รู้วิธีใช้ แต่เขากลับมีความรู้สึกแปลกๆยามจับมีด เป็นความรู้สึกคุ้นเคยจนสบายใจที่จะมีมัน เด็กหนุ่มวิ่งเข้าไปกระโดดข้ามชายคนนั้น ก่อนจะกระหน่ำแทงชายลึกลับจนลิ่มเลือดสีแดงข้นพุ่งออกมาราวกับเป็นน้ำตก เด็กหนุ่มย่อตัวลงนั่งหลังจากกระโดดแล้วมองตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ

    เชนไม่หยุดชะงักนานเกินไป เริ่มจัดการกระหน่ำแทงอย่างไม่รู้ทิศรู้ทางต่อไป เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก และเมื่อทุกอย่างจบลง

    เด็กหนุ่มแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่าตัวเองยิ้มไปเองตั้งแต่เมื่อไร

    นายยิ้ม

    “ไม่รู้สินะ..แต่ว่า...”เด็กหนุ่มหันมองลานกว้างที่ตอนนี้ย้อมไปด้วยสีแดงฉานของเลือด

     

    ทั้งหมดนี่...เขาเป็นคนทำ

     

    เด็กหนุ่มทรุดลงไปอีกครั้ง ด้วยใบหน้าช๊อคอย่างถึงที่สุด ความเจ็บปวดเหนื่อยล้าและอะไรหลายๆอย่างเริ่มเข้าจู่โจมเชนอีกครั้ง

    จนกระทั่งเด็กหนุ่มร้องไห้ออกมา

    ไม่เป็นไรหรอก ไปต่อเถอะ

    “อื้อ....”เด็กหนุ่มตอบรับเบาๆแล้วลุกขึ้นเดินเซๆด้วยความรู้สึกเลื่อนลอย เด็กหนุ่มเดินต่อไปอย่างไร้จุดหมายโดยไม่รับรู้อะไร

    แปะๆๆๆ

    สายฝนก็กระหน่ำสาดลงมาจนเสื้อผ้าสีขาวที่ย้อมไปด้วยเลือดเปียกลู่ไปกับตัวของเด็กหนุ่ม

    และแล้วเด็กหนุ่มก็สลบล้มลงไปท่ามกลางป่าและสายฝนที่ตกลงมาเรื่อยๆอย่างเหนื่อยล้า

    นึกไม่ถึงเลยนะว่าจะออกมาได้ด้วยตัวเอง...เชน

     

    ........................................................................

    Talk..

    สวัสดีจ้า.....

    ได้ฤกษ์อัพตอนที่1ซะที ตอนที่1ที่เขียนโดยใช้เวลา20นาทีได้ เรื่องความยาวบ่นได้นะจ้ะ ตอนนี้เขียนประมาณ5เกือบ6หน้ากระดาษ (ปาดเหงื่อ) ตอนหลังๆอาจจะยาวกว่านี้

    อ้อ ตั้งแต่ตอนที่2เป็นต้นไปขอเปลี่ยนสรรพนามเรียกเชนจากเด็กหนุ่ม เป็น เด็กน้อย หรือตามสถานการณ์นะจ้ะ เพราะเดี๋ยวจะมีตอนนึง ต้องติดตาม*-*

    วันนี้ก็ไม่อยากจะบ่น (?) อะไรมาก แต่มีคำเดียวที่อยากบอกก็คือ..


       เมื่อไหร่ข้าพเจ้าจะได้เชยชมKuroshisuji(Black Butler)แผ่นพากย์ไทยซะที อ๊ากกกกกกกก อยากดูมากมาย

    ขอบคุณสำหรับการรับฟังการบ่นของข้าพเจ้า

     



    ด้วยรักและหลงเซบาสเตียน


    nongrere

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×