ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สยบยุุทธจัก

    ลำดับตอนที่ #1 : 1. กำเนิดผู้พิทักษ์

    • อัปเดตล่าสุด 15 ส.ค. 57


    อุแว้......อุแว้.....อุแว้...ภายใต้หมอกหนายามเช้าเสียงร้องของทารกดังออกมาบริเวณบันไดยาว ซึ่งทอดไกลไปยังยอดเขาที่เป็นที่ตั้งของสำนักเสาหลิน สำนักอันมีประวัติอันยาวนานจะมีอัจฉะริยะก่อเกิดขึ้นมาทุกยุก ทุกสมัย

                 อามิตรตาพุทธ ภายใต้เสียงอันแผ้วพริ้วที่ส่งออกมายากบนยอดเขาปรากฏหลวงจีน หนวดเครายาว ผิวพรรรณขาวนวลเนีย เปล่งรัศมีคลายเซียนวิเศษ มือถือไม้กวาดที่ใช้สำหรับกวาดพื้นติดมือ กำลังปฎิบัติภาระกิจของท่านที่ทำอยู่เป็นประจำตั้งแต่ท่านได้บวชมา ซึ่งก็จำไม่ได้แล้วว่าปฏิบัติมากี่ปี  ทราบพียงแต่ว่าเจ้าอาวาธรุ่นปัจุบันยังมีรุ่นต่ำกว่าท่านถึง สามรุ่นด้วยกัน และท่านก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับทางเรื่องของทางวัดเแล้ว เพียงแต่อาศัยอยู่ในกะท่อมหลังเขา  หน้าถ้ำของท่านบรรพจารณ์ตั๊กม้อผู้ก่อตั้งวัดเส้าหลินนั้น

              เพื่อบำเพ็ญญาณ   เพียงแต่วันนี้ท่านตื่นมาทำภาระกิจประจำวัน  พลันได้ยินเสียงทารกร้องขึ้นมาท่านจึงปรากฏตัวมาดูว่าเป็นทารกจากที่ใด และของใครมาร้องอยู่  

              เมื่อท่านได้ยินเสียงท่านการเคลื่อนกายมาด้วยความรวดเร็วดังดาวตก ถ้ามีศิษย์เส้าหลิน  เห็นต้องแตกตื่นกับวิชานี้เพราะว่ามันคือวิชา ท้าเท้าดอกบัว (เน้ยไท้) อันสาบสูญจากการถ่ายทอด แม้แต่หัวหน้าหออรหัตน์ผู้ที่ถูกกล่าวข่านว่าเป็น เทพอรหัตน์พิชิตมาร หนึ่งในสามเทพยังไม่สามารถทำได้  

               เมื่อท่านมาถึงซึ่งที่ทารกร้องอยู่ ไม่เห็นมีผู้ใดอยู่ในบริเวณนี้    พบแต่หอผ้าที่มีเสียงทารกดังออกมาเท่านั้น  ท่านก็ยืนมือออกมาและกวักมือขึ้น  ทำให้ทารกที่ถูกวางอยู่บนพื้นบันได  ลอยขึ้นเข้าสู่มือท่าน    เมื่อทารกเข้าสู่ถึงมือท่านพลันเสียงร้องที่ดังออกจากปากพลันเงียบลงดังราวกับว่าไม่เคยมีเสียงมาก่อน

            ฮ่า....ฮ่า...ฮ่า...เสียงหัวร่อที่ไม่ค่อยได้เปล่งออกมาจากปากของท่านเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว ดังออกมาพร้อมกล่าวว่า เมื่อเจ้ามีวาสนากับอาตมา อาตมาก็จะสร้างสรรคเจ้า    เพื่อให้ช่วยเหลือจรรโรงคุณธรรมและจริยะธรรมช่วยเหลือผู้คน ตามที่ฟ้าได้ลิขิตชะตาของเจ้า

                 ยุทธจักรปัจุปันปันป่วนวุ่นวาย ไม่แบ่งแยกฟากฝั่งชัดเจนเข่นฆ่าล้างผลาญชีวิตกับอุตลุด ผู้เข็มแข็งกลืนกินผู้อ่อนแอ่ ข่มเหงรังแก พรรคมารเผยแพร่อำนาจ สยบยุทธจักรอยู่ภายใต้อำนาจอันโหดเหี้ยม  ผู้มีคุณธรรมบางล่มหาย บางหลบเร้น ซ่อนตัว

          ยุทธจักรฝ่ายธรรมะ อันประกอบด้วยสามเทพเจ้า และยุทธจักรฝ่ายมารอันมี สามเทพมาร  นำกำลังเข้าปะทะกันครั้งล่าสุดเมือสองปีก่อน      ทำให้ทั้งฝ่ายสูญเสียยอดฝีมือเป็นจำนวนมาก
           หลังจากนั้นยุทธจักรพลันสงบลง อาจจะมีการปะทะกันบ้างแต่ไม่ สูญเสียเมื่อที่ผ่านมา แต่ยุทธจักรถ้าสงบสูขก็ไม่ใช้ยุทธจักร 

        
          
    19 ปีต่อมา  กระท่อมหน้าถ้ำของท่านบรรพจารย์ ตั๊กม้อ มีเสียงพูดคุยดังออกมาจากภาย เล้งยี่  อาจารย์ได้เลี้ยงดูเจ้ามา 19 ปีแล้ว  อันศาสตร์วิชาต่างๆที่มีสอนให้เจ้าไปหมดแล้ว เหลือแต่กำลังภายในเท่านั้น     ที่ไม่สามารถสอนให้กันได้    

                         เจ้าเข้ามา     ให้อาจารย์ได้ดูเจ้าใกล้ๆๆ      เมื่อเล้งยี่ขยับเข้าไปใกล้กับพบว่าไม่สามารถขยับตัวได้พร้อมกับร่างกาย มือของอาจารย์ได้ยกขึ้นมาว่างด้านบนศีรษะ

        พร้อมกับมีกระแสพลังอุ่นไหลผ่านด้านบนกระหม่อมลงมา     ผ่านจุดต่างๆภายใร่างกาย ได้ยินเสียงอาจารย์ให้ตนตั้งสมาธิชักนำพลังที่ถ่ายถอดให้นี้ผ่านจุดต่างๆในร่างกาย 

    ในจุดที่ยังไม่ผ่านให้ โคจรลมปราณกระแทกกระทันเข้าไปให้ทะลุทะลวง  ได้ยินเสียงจุดต่างๆในร่างกาย  แตกปะทุดังเปรี๊ย เป็นระยะ

                 อาจารย์เล้งยี่ส่งเสียงพร้อมกับน้ำตาไหลอาบหน้า

            เล้งยี่ไม่ต้องคิดอะไรให้เจ้าตั้งใจทำสมาธิชักนำลมปราณโคจรให้ทั่วร่าง 

               ผ่านไป 7 วัน 7 คืนทั้งนี้ที่ต้องใช้เวลามาก   เพราะการที่จะปรับสภาพร่างกายของ เล้งยี่ให้สามารถรับลมปราณที่ถ่ายถอดจากอาจารย์ซึ่งมีเป็นร้อยปีได้นั้น ต้องค่อยเป็นค่อยไป จึงใช้เวลาในการถ่ายถอดนาน เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย

         หลังจากทะลวงจุดต่างๆแล้ว     ต้องขยายเส้นเลือดภายในร่างกายให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้รองรับพลังเพื่อที่จะสามารถใช้พลังที่ได้มาโดยไม่ป็น  อันตรายเมื่อใช้ออก และ ให้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด   ในการแสดงพลังของกระบวนท่าต่างๆ

         เมือผ่าน7 วันแล้ว  “ เล้งยี่” ต้องโคจรลมปราณเพื่อให้คุนเคยต่ออีก7 วันจึงจะสำเร็จ 

       เมื่อเดินลมปราณเพื่อปรับสภาพให้ร่างกายคุนเคยกับพลังใหม่ เล้งยี่ลืมตาขึ้นมา

       พบว่าร่างกายเบาสบายเมื่อลอยอยู่ในเมฆ ผิวกายที่ขาวอยุ่แล้วยิงนวลเนียนขึ้นเปล่งปลั่งดั่งหยก

          ได้ยินเสียงแมลงตัวเล็กๆตัวน้อยดังระงม   เสียงลมพัด เสียงใบไม้ร่วง  สับสนวุ่นวายไปหมด 

       จนได้ ยินเสียงของอาจารย์ว่าให้ตั้งสติสูดหายใจเข้า เสียงเหล่านั้นจึงเบาบางลง  แต่ยังได้ยินเป็นระยะแต่ไม่สับสนเหมือนตอนแรก

    “อาจารย์”   เล้งยี่ หือ..หือ.. เล้งยี่ร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นอาจารย์จากที่หนวดเครายาวผิวเปล่งปลั่ง ปรากฏลอยเหี่ยวยับย่นเหมือนคนแก่โดยทั่วไปแต่แก่กว่ามาก ไม่เหมือนเดิมที่มีอายุเหมือนคนแก่อายุ  55 ปี

             เจ้าไม่ต้องเสียใจอาจารย์สร้างสรรคส่งเสริมเจ้า     เพื่อให้ไปช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากแทนอาจารย์  ต่อจากนี้อาจารย์จะเข้าไปในถ้ำบรรพจารย์ บำเพ็ญตนเองเพื่อรอการดับสูญของสังขาร เจ้าไม่ต้องคิดมาขอให้จำคำสอนของอาจารย์และปฏิบัติตนดูแลตังเองให้ดี

           เล้งยี้โขกศีรษะคำนับอาจารย์ 9 ครั้ง   พลิกตัวการด้วยวิชาตัวเบาอันเลิศล้ำดุดดาวตกทะยาน ลงจากยอดเขาอันสูงชันเข้า เผชิญภัยในยุทธจักรอันโหดเหี้ยม พลิกแพลง ยอกย้อน เพื่อจรรโลงคุณธรรมตามคำที่อาจารย์ได้สั่งสอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×