ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Broken ชีวิตที่พังทลาย

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8 : เมืองที่ไม่ค่อยวุ่นวาย....?

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 61


    "กุ้ง....ไหนว่าเมืองนี้สงบไง"
    "เออออ--ทุกทีมันดีกว่านี้อ่ะนะ"
    "แล้วไม่บอกก่อนล่ะว่ามันจะมีโจรดักอยู่น่ะ!!?"

    เรนไม่สามารถทนพูดเบาๆได้อีกต่อไป เขาโดนของบางอย่างรัดมือไว้และตอนนี้ก็ขยับไม่ได้เพราะพลังของไฟฟ้าที่ไหลทั่วร่าง
    คิระร่างผู้หญิงหัวเราะอย่างจนปัญญา โดนใส่กุญแจมือคล้องติดไว้กับท่อนํ้าประปาข้างๆ
    รูบี้กระพริบตาอย่างงุนงงทั้งตัวโดนมัดรวบไว้ด้วยเชือกเส้นหนาสภาพเหมือนก้อนซูชิ


         ย้อนกลับไปเมื่อไม่นาน

    จู่ๆก็มีคนปิดหน้าปิดตาพุ่งพรวดออกมาจากซอกตึก เข้าช๊อตไฟฟ้าใส่เรนจนล้มเป็นคนแรก ในจังหวะที่คิระกำลังจะเปลี่ยนร่างก็ดันโดนคล้องกุญแจมือและผลักกระแทกเข้าใส่กำแพงจนมึนหัวและเปลี่ยนร่างไม่ได้ชั่วคราว ส่วนรูบี้ได้แค่ยืนงงปล่อยให้โดนพันเชือกอย่างง่ายดาย

    "น่าๆ ไม่ต้องเถียงกัน พวกเราไม่ต้องการอะไรมากนอกจากเงินและปืนดีๆซักสองสามกระบอกเองจ๊ะ" ชายสวมถุงผ้าหน้ากากยิ้มพยายามปลอบเหยื่อของตัวเอง
    "ไปใจดีทำไมเล่า!! เอ็งเป็นโจรนะเฟ้ย!!" คนสวมถุงผ้าลายดอกไม้ตะโกนด่าแว้ดๆ
    "เอ๋ เราเป็นโจรเหย๋อ"  
    "หัดกินยาให้ตรงเวลาด้วยสิเฟ้ย!!"
    "อา หงุดหงิดเวยยย รีบๆปล้นพวกมันซักทีเหอะ" คนสวมถุงผ้ารูปพระจันทร์เสี้ยวทำมือเหมือนป้องปากหาว เสียงเรียบเฉยและเบื่อหน่ายโลกมาก
    "ไม่บอกก็ทำอยู่แล้วเฟ้ย ฝากดูไอ้หน้ายิ้มด้วย" ไม่ต้องสั่ง คนที่สวมหน้ากากดอกไม้เดินเข้าไปใกล้และเปิดกระเป๋าของคิระอย่างไม่เกรงใจ 
    "ใจกล้านะที่พาผู้หญิงมาเดินตอนดึกๆ เป็นฉันคงมุดหัวอยู่ในบ้าน" มือนั้นล้วงและค้นกระเป๋าไปเรื่อยๆ คิระยังคงพิงตัวกับกำแพงอย่างใจเย็น 

    แล้วก็หันหัวไปข้างหลังเมื่อเพิ่งรู้ตัวว่าสิ่งที่ควรอยู๋ในกระเป๋าหน้าท้องนั้นไม่มีอยู่

    "? ทำหน้าแปลกๆแฮะ มีของสำคัญอยู่รึไง" โจรที่ค้นกระเป๋ายังคงค้นหาของมีค่า เจอแต่อาหารอัดแน่นจนไม่กล้าค้น
    "........." ดวงตาเหมือนสัตว์ป่าหรี่มองเหมือนข่มขู่ ทำให้โจรคนนั้นผงะและถอยออกมา
    "อะไร.....เจอชิ้นส่วนศพในนั้นเหรอ" โจรที่เบื่อโลกพูดติดตลกด้วยเสียงเหนื่อยหน่าย
    "........." ตอบไม่ได้ ทั้งๆที่คิดไว้ว่าต้องหันหลังเดินไปตอบ แต่โจรในผ้าคลุมดอกไม้ไม่สามารถตอบโต้หรือขยับร่างกายที่แข็งทื่อได้

    เกิดอะไรขึ้น??

    "ว้าวววว มีดสวยจังเยย" 
    "!!!"

    โจรหน้ายิ้มแกว่งของที่คิระหวงไปมา มีดที่มีดีไซน์แปลกประหลาด-

    ผลั๊วะ!!
    "แอ้ก!!"

    จังหวะที่กำลังจะแกว่งโชว์ จู่ๆก็มีของเหลวสีแดงสาดเข้าใส่โจรคนนั้นจนเปียกโชก เหมือนโดนลูกโป่งนํ้า เขายืนนิ่งอย่างงุนงงก่อนที่จะมองมือและจับถุงผ้าบนหัวที่เปียก-

    "กรี้ดดดดดดดดดดดดด เลือดดดดดดดดดดดดดด!!!" เขากรีดร้องอย่างผู้หญิงสบัดหัวและมืออย่างขยะแขยง คนใส่หน้ากากพระจันทร์เสี้ยวหันไปมองฝั่งที่มืดทึบ ดวงตามองในที่มืดสามารถมองเห็นใครบางคนยืนอยู่

    เด็กหนุ่มที่สวมผ้าพันคอสีซีด ใบหน้าตื่นตกใจและในมือถือถุงบรรจุของเหลวสีแดงเอาไว้

    "หวา!! พวกทริโอ้ไนท์สไมล์!!" แอล ผู้โผล่เข้ามาปาถุงเลือดถอยไปข้างหลังเล็กน้อย เขาบังเอิญเดินผ่านมาแถวนี้เพราะหลงทางกับอีกคนเข้า
    "รู้จักพวกเราด้วย....คนขายข่าว" โจรที่พูดได้แค่คนเดียวพูดพึมพำ ในมือตวัดมีดพกที่ซ่อนไว้ใต้แขนเสื้อ
    "ย-แย่แล้ว!!" แอลหันหลังวิ่งออกไป ตามด้วยโจรที่ขยับตัวได้วิ่งออกไป อีกสองคนที่เหลือนอนกอดเข่าสั่นร้องไห้เป็นเด็กและยืนแข็งทื่อ

    กึก กึก

    พยามยามขัดขืน แต่ร่างกายไม่ยอมขยับเกินสองเซน




    แล้วจู่ๆร่างกายก็ขยับได้ทำให้โจรหน้ากากดอกไม้รีบหันไปอีกทาง มันคว้าของในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาแต่ช้าไปหน่อย

    "ขอโทษนะค้า!!!"

    โป้ก!!

    เสียงขอร้องของเด็กสาวดังลั่น พร้อมกับร่างกายที่ขยับได้เหมือนเดิม ท่อนไม้เล็กๆถูกฟาดเข้าใส่ใบหน้าถุงผ้าของมันจนหันไปอีกข้าง 

    รูบี้ที่เป็นอิสระจากเชือกหนาทำสีหน้ารู้สึกผิด ที่ตามีนํ้าตาคลอออกมาเบาๆ

    "กุญแจมือ! เอากุญแจมือออกด้วยสิเฟ้ย!!"
    "รอหน่อยสิเจ้ากุ้ง!!"

    เด็กหนุ่มเถียงกับเด็กสาว(หนุ่ม)อย่างลืมตัว คิระเคืองมากที่เรนดันช่วยปลดเชือกให้รูบี้แทนที่จะปลดกุญแจมือให้เขาก่อน ในใจคิดว่าไอ้หมอนี่ควรเรียงลำดับความจำเป็นให้ถูก!

    "โอ้ยยย เจ็บจังเลยยยยย" โจรหน้าดอกไม้ทำเสียงลากประชด แค่ท่อนไม้ฟาดหน้ายังเบากว่าหมัดคนเสียอีก รูบี้เห็นอีกฝ่ายไม่เป็นอะไรก็เกิดตื่นกลัวขึ้น "ถ-ถ้าเข้ามาฟาดไม่เลี้ยงนะ!!"

    เปรี๊ยะะะะ!!!

    "เร็วสิเฮ้ย!!"  "รู้--แล้ว!!!" ทั้งสองยังคงเถียง ไฟฟ้าบนตัวเรนส่งประกายไหลผ่านเร็วและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าสื่อแววเจ็บปวดแต่คนที่โดนล๊อคมือไม่ได้สนใจ

    "ลองเจอนี่หน่อย!!" โจรที่หน้าหันชักปืนออกมา ทำให้เด็กสาวยืนนิ่งและตาเหม่อมองอย่างลืมตัว

    ปัง!!


    ".............."


    ทุกอย่างเงียบลง มีเพียงเสียงไฟฟ้าที่ช๊อตดังเปรี๊ยะๆ แม้แต่เสียงร้องไห้ของโจรกลัวเลือดก็เงียบลง


    "....เจอนี่สิ" เสียงเกือบทุ้มเอ่ยขึ้น พร้อมกับส่งสายตานักล่า

    "อึก!! อ--อ-" โจรคนนั้นถึงกับขยับไม่ได้ ยืนค้างในท่าเล็งปืนพกอัดลม ที่ยิงไปทำได้แค่สร้างความเจ็บระดับมดกัด

    "กล้ามากนะที่เอาของสำคัญของฉันไป......" รอยยิ้มเหี้ยมหิวอาหารแสยะออก เขี้ยวคมกริบและประกายบ้าคลั่งสะท้อนในตาของโจรมือใหม่ที่ขยับไม่ได้
    "อ-อ-อ-อ-อ-" ตัวของมันสั่น โจรคนนั้นตัวสั่น รู้ว่าต้องหนีไปแต่ก็ขยับตัวไม่ได้และถูกดวงตาสีเข้มนั้นดึงดูดให้ยอมคุกเข่าลงนั่ง

    แม้แต่คนที่สติไม่ดียังนอนนํ้าลายฟูมปากตาถลน--- คิระเริ่มทนความกระหายของตัวเองไม่ไหว คมมีดสีซีดเริ่มมีควันลอยออกมา ลวดลายส่งแสงสีฟ้าดูสวยงาม

    ความร้อนที่สูงเกิน 100 องศา---สามารถผ่าร่างคนออกได้อย่างสวยงามและเรียบร้อย เลือดจะไหลออกมาไม่เยอะเพราะถูกไอร้อนระเหย


    "........" รูบี้ที่ยืนข้างหลังก็โดนผลกระทบ ขาของเธอสั่นและไม่สามารถระงับความกลัวไว้ได้ ดวงตาไหววูบและมีนํ้าตาคลอ ความรู้สึกที่สัมผัสครั้งแรกแต่กลับคุ้นเคยอย่างดี เธอจำชื่อของมันไม่ได้


    "หึหึหึหึหึหึ" เสียงหัวเราะไม่น่าไว้ใจลอดออกมาจากปากของเด็กหนุ่มที่ดึงฮู้ดขึ้นสวม เมื่อได้เห็นรูปร่างนั้น โจรที่นอนนํ้าลายฟูมปากถึงกับร้องเสียงหลงเหมือนสาวน้อย

    "กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด กระต่ายสีดำ!!!!!!!!!!" 

    "บ--บ---แบล๊กแรบ----แล๊กแรบบิท---" ชื่อนี้โด่งดังในเวลาสั้นๆ เพราะซากศพที่ถูกพบนับสิบ



    ถูกกินเครื่องในจนเกลี้ยง เนื้อบางส่วนและสมองมีรอยกัดเหมือนถูกกินโดยสัตว์ป่า บางครั้งศพพวกนั้นจะไม่มีดวงตาหรือเนื้อบางส่วน สภาพเละมากเหมือนถูกอีแร้งรุมทึ้ง

    คนที่รอดมีเพียงไม่กี่คนและเป็นบ้ากันไปหมด----พูดเป็นเสียงเดียวว่ากระต่ายสีดำ




    ขวับ!!!

    "!!!"

    ในช่วงพริบตาที่กำลังจะจัดการ จู่ๆทั้งโจรและคิระก็ถูกแรงบางอย่างกระชากไปข้างหลัง ยกเว้นรูบี้ที่หลับตาแน่นและนั่งยองบนพื้นพร้อมกดหัวตัวเองลง

    โครม!!

    โจรทั้งสองโดนลากขึ้นฟ้าและเขวี้ยงลงถังขยะข้างๆ ฝาปิดลงกลบเสียงร้องหวาดกลัวจนหมด พวกนั้นคงนอนสลบในถังเปล่าไปเรียบร้อยแล้ว

    คิระโดนชนกระแทกกับผนังปูนอย่างแรง มากพอให้หัวคนปกติเกือบแตกได้


    เมื่อโดนกระแทกอย่างรุนแรง ดวงตาที่หิวโหยก็กลายเป็นดวงตาตื่นตกใจ

    "อ-อ๊ะ!! เจ็บ--" ราวกับเพิ่งตื่น คิระหลับตาแน่นและรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หลังและหัว สบัดหัวเบาๆอย่างมึนงง
    ".....จะฆ่าก็ฆ่านอกเวลา---" เปรี๊ยะ!  "อั๊ก!!" ไฟฟ้าช๊อตร่างของเรนอีกครั้งจนเขาร้องออกมาอย่างลืมตัว
    "โทษที---ไม่ได้ฆ่านานไปหน่อยเลยตื่นเต้นน่ะ..." คิระหัวเราะแล้วก็ต้องหายขำเมื่อเห็นเด็กสาวนั่งหอบหายใจ ทำหน้าหวาดกลัว หัวใจที่เต้นเมื่อกี้แทบหยุดลง
    "ข-ขอโทษนะบี้ ไม่ได้เห็นหน้าฉันใช่มั้ย" เขาปล่อยอามรณ์บ้าคลั่งทิ้งไปได้จนหมด ถามเด็กสาวด้วยนํ้าเสียงขอโทษ
    "ม-ไม่-----แต่----คิระน่ากลัว---" รูบี้ไม่ได้เห็นดวงตานักล่าของจริง ทำให้คิระถอนหายใจอย่างโล่งอก
    "ใจเย็นๆนะ ฉันกลับมาปกติแล้ว ชู่----" เหมือนพ่อกล่อมลูก เรนมองภาพนั้นด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ
    "ช่วยผมด้วยสิ"








    ชี่---

    ไอร้อนพุ่งเข้าแทรกอากาศ และหน้าที่ของมันก็หมดลงเมื่อสามารถตัดสายเคเบิลทองแดงออกได้

    "ฟู่ว--เรียบร้อย ไม่ยักกะรู้ว่านายตัวเป็นไฟฟ้า" คิระตัดสายทองแดงด้วยมีดเคลือบฉนวนไฟฟ้า เรนขยับตัวลุกอย่างยากลำบาก รูบี้มองอย่างเป็นห่วง
    "แค่บางครั้ง......พวกมันก็ฉลาดนะที่เอาสายทองแดงมารัดคน" เรนพูดเสียงหงุดหงิด เหมือนแจ๊คพอตมาลงที่ตัว
    "หลังจากช๊อตไฟฟ้าใส่ก็รัดด้วยของที่นำไฟฟ้าต่อ พวกนั้นน่าจะไม่ใช่โจรธรรมดานะ" คิระสบัดมีดทีหนึ่ง แสงสีฟ้าจางลง ถ้าเป้นโจรปกติแค่ช๊อตไฟแล้วรัดเชือกธรรมดาก็ได้ ง่ายกว่าตั้งเยอะด้วยซํ้า เว้นแต่จะรู้ว่าของพวกนี้ใช้ไม่ได้ผลกับเรน
    "หนึ่งในพวกมันคงจะมีคนที่สแกนจุดอ่อนพวกเราได้"
    "ไม่ใช่เวลามาสบายใจนะ แล้วแอลล่ะ??" 
    รูบี้เป็นคนเดียวที่ไม่ลืม เธอจำได้ว่าแอลวิ่งเข้ามาช่วย
    "เออ.....บี้อยากจะช่วยเขาเหรอ" คิระทำสีหน้าไม่อยากยุ่งเกียว รูบี้พยักหน้าตอบ
    ".....งั้นผมจะฝากให้เธอช่วยดูแถวนี้ให้หน่อย ฝากเฝ้าของด้วย" เรนเหมือนจะอ่านใจคิระได้ เขายัดหน้าที่ที่ไม่จำเป็นให้รูบี้ทันที 
    "เอ๋? ทำไมไม่ให้ฉันไปด้วยล่ะ??" เธอสงสัย
    "มันอันตรายมาก และผมกลัวว่าเธอจะโดนยิง" เรนยื่นของในมือให้รูบี้ ปืนอัดลมของโจรคนเมื่อกี้
    "ถือไอ้นี่ไว้ ถ้าใครมาก็ยิงใส่ได้เลย มันเป็นลม" เด็กหนุ่มผมสีฟ้ายัดอาวุธใส่ในมือเด็กสาวและไม่ลืมที่จะถอดกระเป๋าวางไว้ข้างๆ 
    "ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็รีบกลับมานะ ฉันจะส่งกำลังใจไปให้!" เด็กสาวยังงง ก่อนที่จะยิ้มและยอมรับข้อเสนอ












    ตึก ตึก

    คิระกระโดดไปมา เหยียบลงบนรั้วระเบียงหลังหนึ่งแล้วมองลงมา

    ไม่เจอ

    เพราะผ่านไปสักพักแล้วด้วย แอลและโจรคนนั้นน่าจะวิ่งไปไกลแต่ไม่มากเกินครึ่งเมือง

    ".........." เมื่อมองไม่เห็นก็ใช้หูแทน ใบหูกระดิกและกระเดาะลิ้นเบาๆ


    การทำงานคล้ายค้างคาว ส่งคลื่นเสียงออกไปให้สะท้อนกับสิ่งของแล้วสะท้อนกลับมา เพราะแบบนี้ค้างคาวที่สายตาแย่ถึงสามารถบินไปมาในถํ้าได้

    ตึกตึกตึก

    "หยุดนะ!!!" "หวา-หวา-หวา"

    เสียงนั้นดังอย่างแผ่วเบา มาจากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

    "เจอตัวแล้ว---ตามมาได้เลย" คิระส่งสัญญาณบอกคนที่ยืนรออยู่ข้างล่าง เรนพยักหน้าเงียบๆก่อนที่จะวิ่งตามคิระไป













    "หน๊อยย วิ่งเร็วชะมัด" หน้ากากยิ้มพูดบ่นกับตัวเอง คนที่กำลังวิ่งไล่ตามวิ่งเร็วมาก ทั้งๆที่ร่างกายดูบาดเจ็บอยู่แท้ๆ
    "อือออออ--- ผมไม่อยากโดนตอนนี้นะะะะ" แอลวิ่งพร้อมส่งเสียงร้อง ร่างกายเริ่มมีท่าทีกระตุกเพราะสูดลมหายใจไม่ทัน 
    'เริ่มเหนื่อยแล้ว' เห็นแล้วคิดได้แบบนี้แน่นอน โจรเบื่อโลกไม่คิดที่จะวิ่งไล่ตามอีก มันขยับนิ้วมือออกปรากฏให้เห็นมีดเล่มเล็กเกือบสิบอัน
    "พอกันที!!"

    ฉึก ฉึก ฉึก!!

    "อ---" มีดบินถูกขว้างโดยมือที่มีแรงหยืดหยุ่นสูง พุ่งเข้าปักไหล่หลังกับขาทั้งสองข้างตรงเข่าอย่างแม่นยำ เป้าหมายที่เหนื่อยล้าหยุดวิ่งและลื่นล้มหน้าเถลิดกับพื้นทันที ส่งเสียงร้องได้แค่นิดเดียว

    "แฮ่กแฮ่ก-- คิดจะเก็บไว้ซื้อข่าวซักหน่อยแต่เห็นทีคงไม่ได้" คนขว้างมีดบินหอบหายใจ ใบหน้าใต้หน้ากากชุ่มเหงื่อ 

    เมื่อเห็นเป้าหมายแน่นิ่ง โจรหน้ากากพระจันทร์เสี้ยวจึงเดินเข้ามาใกล้เพื่อเช๊คดู

    พลั่ก!!
    เตะเข้าที่ตัวทีนึง ร่างนั้นงอเอามือกุมท้องด้านข้าง มีเสียงร้องอู้อี้เพราะแผลที่หลังเปิด

    "ไม่ได้ซาดิสต์หรอกนะ แค่คนในเมืองนี้มันไม่ธรรมดาซักคน" พลั่ก เขาเหยียบซํ้าลงไป ใส่มีดที่ปักบนหลัง แอลร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด

    "มีถุงเลือดกับตัว เป็นคนขายเลือดด้วยงั้นสิ" โจรถาม สิ่งที่ตอบมามีเพียงการไอค่อกแค่ก ยิ่งทำให้อารมณ์เสียขึ้นไปอีก

    ขวับ!!

    มือเรียวคว้าผมของเด็กหนุ่ม กระชากมาข้างหลังอย่างรุนแรงจนตัวแทบหัก

    "ตอบมาสิ!!!" 
    "ค-ครับ"

    แอลถูกจิกผมและบังคับให้หันหน้าไปข้างหลัง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือดกำเดาที่ไหลออกมา ผ้าก๊อซถูกยอมด้วยสีแดง

    "ถ้าแกเอาเงินที่ได้จากการขายเลือดมา ฉันจะพิจารณาชีวิตใหม่" มีดเงินเล่มเล็กชี้จ่อเข้าที่คอ แอลกลืนนํ้าลายดังเอื้อก

    "ผ-ผมขอถามอะไรก่อน---" แอลพูดอย่างยากลำบาก เมื่อโจรได้ยินก็ผ่อนแรงที่จิกผมลงเล็กน้อย "ว่ามา"
    "ข-ขอ---" ใบหน้าใต้หน้ากากชมวดคิ้ว จะตายอยู่แล้วยังกล้าขอต่อรองอีกเหรอ

    "ขอรบกวน......ผ่าสันหลังแทนที่จะเชือดคอได้ไหมครับ ❤"











    "อึก---จู่ๆก็ขนลุก" เรนพึมพำเบาๆ คิระทำสีหน้าไม่ต่างกัน
    "บางที.....เจ้าบ้านั่นคงจะขอร้องอะไรแปลกๆอยู่....ซุ่มดูใกล้ๆจะดีที่สุด" คิระได้ยินเสียงสนทนา มั่นใจได้ว่าแอลคงสำแดงฤทธิ์แล้ว
    ".....ไม่อยากได้คีย์หลักไปมากกว่านี้แล้ว...." เรนพูด มองเห็นกองเลือดอยู่ไม่ไกล 
    "เอ๋ จะรู้มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับจำนวนด้วยเรอะ อย่างกับคอมพิวเตอร์" คิระหยุดกระโดดเมื่อถึงจุดที่ใกล้พอ ดวงตาที่มองในที่มืดได้ดีหรี่มอง 
    "อยู่ตรงนี้แหละ ถ้ายัยนั่นมาก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว"










    "ห-หา??" โจรถึงกับอึ้งและเผลอปล่อยมือที่จิกผมของเด็กหนุ่มไป เมื่อกี้ได้ยินคำว่า สันหลัง
    "แหะๆๆ...ผมขอมากไปรึเปล่านะ...." แอลหัวเราะ มือขยับเลื่อนไปที่ไหล่และจับมีดที่ปักอยู่
    "แก---ล้อฉันเล่นอยู่งั้นเหรอ!!?" เริ่มระแวง เมื่อกี้ยังทำหน้าเจ็บปวดเจียนตายอยู่แท้ๆ บัดนี้กลับยิ้มร่าเริงเหมือนแค่โดนตบเบาๆ
    "ไม่ครับ---อุ้----แหะๆๆ" ดึงมีดออก แอลไม่กลัวเลือดที่พุ่งฉีดออกมาหรือผลกระทบอย่างกระดูกขาเคลื่อน เขาดึงออกและตัวกระตุกด้วยความเจ็บที่แล่นไปมา
    "อาาาาา ดีจังน้าาาาา ไม่ค่อยโดนที่หลังด้วย" เด็กหนุ่มลากเสียงยาว เหมือนหลงไหลบางอย่าง ท่าทีประหลาดทำให้โจรต้องถอยหลังหนี
    "แก----พวกฟื้นฟูตัวเร็ว" โจรผู้หวาดระแวงพยายามคุมสติให้นิ่ง เมื่อเห็นรอยแผลและเลือดใต้เสื้อที่ขาดนั้นจางลง
    "แฮะๆๆๆ เพราะงั้นจะโยนมีดปักผมเท่าไหร่ก็ได้น้าาา ผมยินดี ❤" เสียงนั้นควรจะชวนให้ผ่อนคลาย แต่ถ้อยคำกลับน่าขนลุก
    "อ-อะไรของแกน่ะ!? สมอง-"



    ผลั๊วะ!!!


    ยังไม่ทันคุยกันจบร่างของแอลก็ถูกบางอย่างกระแทกจนควํ่าลงพื้นอีกรอบ ครั้งนี้รุนแรงและน่าหวาดเสียวมากขึ้นด้วยพื้นที่แตกออกพร้อมเลือดที่พุ่งออกมาเหมือนนํ้าพุ

    ฉูดดดดด!!

    "อี้!!" โจรผ้าคลุมพระจันทร์เสี้ยวเผลอส่งเสียงร้องที่แท้จริง สูงและเบาเหมือนผู้หญิง เท้าขยับถอยไปข้างหลังเพราะเห็นตัวการที่ทำให้เด็กหนุ่มหัวจมดิน

    ใบหน้าเรียบเฉย ดวงตาปิดแน่น เส้นผมยาวสลวยสีกาแฟ เสื้อผ้าการแต่งตัวเหมือนกับเด็กนักเรียนหญิงในชุดเสวตเตอร์สีข้าวโพด

    ทั่วทั้งร่างเปรอะไปด้วยเลือด--- ค้อนในมือก็เปื้อนเลือดจนผ้ายางที่พันอยู่สีเข้มขึ้น

    "ช้ามาก..... บอกแล้วว่าอย่าออกนอกลู่นอกทาง" เธอกล่าวเสียงเรียบไร้อารมณ์ ยกค้อนออกจากหัวที่โดนทุบเหมือนเป็นแค่ไม้กวาด
    "อ--อ-อ--" โจรหญิงเบื่อโลกถึงกับอึ้ง ผู้หญิงคนนี้จู่ๆก็วิ่งเข้ามาฟาดหัวคนด้วยค้อนเหล็ก!!

    "คุณเองก็ด้วย อย่าทำให้มันโดยไม่จำเป็นสิ หรือว่าคุณเป็นพวกบ้าเลือด?" เด็กสาวไม่หันหน้ามาคุยกับโจรสาว เธอพูดเสียงเรียบและไร้อารมณ์จนน่ากลัว

    "ห-หมายความว่ายังไง??"

    พลั๊วะ!!

    "เสียงนี้ มาใหม่สินะ....คงไม่เคยได้ยินชื่อเสียงน่าสมเพชของแอล ลิรัส" เด็กสาวยกค้อนและทุบลงไปบริเวณเดิม โจรสาวหลับตาเพื่อไม่มองภาพนั้น

    "เห็นว่ายังไม่สร้างความวุ่นวายมาก...จะช่วยบอกเตือนไว้ให้" เธอยกค้อนออก 

    "ฉันชื่อไลคลอริส เป็นหนึ่งในผู้รักษาความสงบของเมืองนี้...... คนที่ฆ่าหรือสร้างความวุ่นวายมากเกินไปจะถูกลงชื่อไว้ในบัญชีสีดำ" เด็กสาวยังคงไม่หันหน้าไปมองโจรสาว เธอก้มหน้าพูด
    "บริเวณสุสานเป็นเขตของฉัน พวกบัญชีดำที่เดินผ่านมาและสร้างความวุ่นวายจะต้องโดนลงโทษ" มือที่อาบเลือดนั้นขยับอย่างทุลักทุเล ขยับขึ้นเข้าใกล้กระโปรง-

    กร๊อบ!!

    คราวนี้ตำแหน่งเปลี่ยน ขยับเลื่อนลงมาบริเวณกลางหลังของเด็กหนุ่ม เขาส่งเสียงร้องโอดโอยและฟุบเงียบไป

    "คนที่ฉันกำลังลงโทษอยู่ ชื่อว่าแอล ลิรัส เป็นพ่อค้าขายเลือดและคนขายข่าว" ไลคลอริสยกค้อยขึ้น โจรสาวเริ่มเหงื่อตกและมั่นใจว่าคนพวกนี้บ้า บ้าโครตๆเลยด้วย
    "วิธีรีดข่าวหรือต่อรองลดราคากับหมอนี่ ง่ายมาก--- แค่ทรมาณให้เจ็บปวดที่สุด" เด็กสาวถีบเท้าลงใส่หน้าของเด็กหนุ่มที่ชะโงกขึ้นมาดังพลั้กอย่างไม่เกรงใจ
    "ท-ทรมาณ?? ใครจะไปทำ-"
    "พูดจริง ถ้าไม่อยากโดนรังควานก็ต้องห้ามแตะตัวมันด้วยแรงแม้แต่นิดเดียว" ไลคลอริสขยี้ใบหน้าของแอลด้วยเท้า รอยยิ้มจางๆผุดขึ้นมาจากหน้าของเขา
    "ฉันต้องการหมอนี่อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง" เด็กสาวถีบเท้าออกด้วยแรงมหาศาล ร่างของแอลพุ่งถลากระแทกพื้นอย่างแรง 
    โครม-เขาหัวเราะทั้งที่ใบหน้าอาบเลือดอย่างสยดสยอง
    "อึ้ยยยย" โจรสาวสะอิดสะเอียนเต็มทน หัวก็เริ่มปวดหน่อยๆ ไม่ใช่แค่เพราะกลิ่นเลือดแต่เป็นการกระทำของคนสองคนตรงหน้ามากกว่า
    "ป-ไปก็ได้!! รบกวนรั้งไว้ให้ที!!" 






    ".....พวคุณก็มาใหม่สินะ" เมื่อโจรสาววิ่งหนีไป ไลคลอริสก็ทักทายคนที่หลบตัวอยู่
    "อุ้ก----ใช่" คิระสะดุ้งเมื่อเห็นร่างอาบเลือดขยับ เด็กสาวจัดการเหยียบมือของแอลทันที "โอ้ยยยยยย ❤"
    "เรนกับรูบี้.....ขอโทษที่ทำให้ต้องมาลำบากตั้งแต่วันแรก" เธอพูดต่อทั้งๆที่ยังเหยียบและขยี้มือของแอล เรนรู้สึกขนลุกอย่างต่อเนื่องไม่กล้ามองรอยยิ้มบนหน้านั่น
    "ไม่เป็นไร....อย่างน้อยก็ดีกว่าโลกข้างนอก"นิดนึงน่ะนะ เรนมองไลคลอริสแทน ใบหน้านั้นยังคงหลับตาเอาไว้
    "ได้ยินแบบนั้นฉันก็ดีใจ" ไลคลอริสหยุดขยี้มือของแอล เขาตัวกระตุกเหมือนช๊อค
    "อยากโดน----ผ่าสันหลังจัง---" พลั่ก!! เธอตวัดค้อนกระแทกหน้าแอลที่พูดประโยคน่าขนลุกออกมาจนเขาล้มหงายหลังกับพื้น
    "........" เรนอยากจะอาเจียนของเก่าออกมาพึลึก ไม่อยากให้คนที่อาบเลือดกระทำหรือพูดอะไรที่เป็นคีย์หลักออกมาอีก ลำพังแค่ได้รู้นิสัยก็ไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้แล้ว ไม่สิ แค่การพูดการจาก็น่ากลัวมากพอ
    "ตอนนี้เข้าช่วงคํ่าแล้ว เดินทางออกไปตอนนี้ไม่ดี" ไลคลอริสถือค้อนวางตั้งพื้นแนบลำตัว ไม่คิดจะทรมาณแอลเพิ่ม
    "ฉันก็คิดอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวนี้กลางวันสั้นลงทุกที" คิระกลับร่างเป็นผู้หญิง 
    "ฤดูหนาวกำลังมา เสียงของสัตว์สงบและเงียบลง" 
    "เอ ไวจังนะ"
    ดูเหมือนคุยกันตามประสาเพื่อน ถ้าไม่ติดที่มีคนร่างอาบเลือดพยายามคลานและเกาะขาของไลคลอริสอยู่










    "ไปนานกันจัง" รูบี้นั่งกอดเข่าเหงาๆ กองไฟตรงหน้าเป็นเพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของเธอในตอนนี้

    "ยังไม่ลืมฉันกันใช่ไหม" เธอฟุบหน้ากับหัวเข่า ซ่อนใบหน้าร้องไห้ตลกๆไว้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×