ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Broken ชีวิตที่พังทลาย

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 : ฝ่าดงซอมบี้และจะไม่ยอมแพ้

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 61


    ฉั๊วะ

    คมมีดสบัดผ่านใบหน้าครึ่งซีกอย่างแม่นยำ 

    ฉัวะ!

    แม้เลือดแห้งข้นจะกระเด็นมากแค่ไหน คนฆ่าก็ยังไม่แสดงสีหน้าระรื่นหรือหวาดกลัว



    คิระร่างผู้ชายยังคงเดินหน้าฟันผ่าใบหน้าของซอมบี้นับร้อยเพื่อไปต่อเรื่อยๆ ผิดกับรูบี้ที่เดินหลับตาปี๋ไม่มองอะไรตลอด

    "อย่าหลับตาเดินสิ บี้ เดี๋ยวก็โดนกระชากไปหรอก" คิระฟันซอมบี้ที่นับได้เป็นตัวที่ 67

    "น-น่ากลัว!! ช่วยไม่ได้อ่ะ!!" เด็กสาวทำใจมองใบหน้าไหม้ๆอย่างสยดสยองของศพเดินได้รอบตัวไม่ไหว ได้แค่หวังว่าจะลืมใบหน้าพวกนี้ได้ไวๆ

    "งั้น......เกิดอะไรขึ้นมา ให้กรี้ดเลยนะ" คิระขยับแขน ตัวที่ 80 ถึงจะไม่ได้ยินเสียงตอบรับ ก็เดาได้ว่าเด็กสาวต้องพยักหน้าตกลงแน่



    โครม!!


    ระหว่างที่กำลังฝ่าฝูงซอมบี้ เสียงระเบิดก็ดังขึ้น




    ศพไหม้ๆหันหัวไปที่ๆหนึ่งอย่างพร้อมเพรียง  ที่เรือดำนํ้าขนาดใหญ่บนพื้นเนินสูง 

    ควันโชยโขมง ผนังด้านหนึ่งหายไป ไฟฟ้าแล่นรั่วไหลออกมาอย่างน่ากลัวผิดธรรมชาติ


    "แก๊สระเบิด....ไม่สิ ไฟฟ้าลัดวงจร" เมื่อซอมบี้ทยอยเดินออกไป คิระจึงจับเด็กสาวไว้ใกล้ตัวและถอยออกทีละนิด

    "อะไรคือไฟฟ้าลัดวงจรกับแก๊สเหรอคะ" รูบี้ถามอย่างซื่อๆ "เดี๋ยวเล่าให้ฟังทีหลัง หลังจากที่รอดออกไปได้นะ" เด็กหนุ่มพูดตัดบท

    "....อ๊ะ! เรนอยู่นั่น!!" ในจังหวะที่กำลังจะหันหลังกลับรูบี้ก็ตะโกนและชี้นิ้วไปยังจุดที่เกิดระเบิดรุนแรง "เรน?" คิระหันไปมองตาม



    ซอมบี้ปลิวออกมาทีละตัวสองตัว คิระมองเห็นบางอย่างสีฟ้าขยับอยู่ไกลๆ

    "เธอมองเห็น..นั่น....." เด็กหนุ่มกระพริบตา สายตาของเขาไม่ใช่เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้เห็นแค่สีฟ้าเหมือนเด็กสาว เขาเห็นใบหน้าที่อาบอะไรบางอย่างสีดำลางๆ ในใจอดคิดไม่ได้ว่านั่นไม่ได้เป็นคนธรรมดา

    "ต้องเข้าไปช่วย!" เธอพูดอย่างไร้เดียงสาและถีบเท้าวิ่งไป----ในดงซอมบี้

    "เด-เดี๋ยวก่อน!! มันอันตรายนะ!!" คิระตะโกนไล่หลัง แผ่นหลังนั้นวิ่งห่างไปเรื่อยๆ

    คนเอาตัวรอดเก่งกุมขมับอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะหยิบสไนเปอร์ขึ้นมา









    "เรน!!" รูบี้ฝ่าฝูงศพอย่างยากเย็น ในมือมีถังที่หนักอึ้งถ่วงนํ้าหนักเอาไว้

    "แฮ่!!" เสียงของรูบี้ทำให้ซอมบี้แถวนั้นหันมามองเธอเป็นตาเดียว "หวา---" ทิศทางการวิ่งจึงเปลี่ยนไปอีกทางแทน และการก้าวเท้าเร็วขึ้นเมื่อแขนเละๆนั่นยื่นมาใกล้เธอ


    ตึกตึกตึกตึก 


    "อย่าตามมาน้าาา!!" จากที่จะไปช่วยเขาดันกลายเป็นวิ่งหนีซะเอง เอวัง


    ปัง!!

    ปุ๊!

    รูอากาศปรากฏขึ้นบนลำคอของซอมบี้ตัวหนึ่งที่ใกล้รูบี้ มันล้มลงทันที

    ปัง!!

    เด็กสาวก้มตัวลง กลิ้งล้มคลานไปอย่างมั่วซั่ว ท่ามกลางเสียงร้องอืออาและกระสุนที่ยิงเฉียดไปมา







    เวลาต่อมา ซอมบี้ก็เหลือแต่ร่างที่ถูกแยกหัวกับตัวหรือบริเวณคอโดนเจาะทะลุ

    รูบี้นั่งหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้า เนื้อตัวเปื้อนมอมแมมและชุ่มเหงื่อ ถังในมือเปื้อนคราบของเหลวเหนียวสีดำเพราะการฟาดอย่างมั่วซั่ว

    ตึก ตึก 

    "หนีเก่งใช่ได้เลยนี่....ชักไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมถึงรอดได้ป่านนี้" คิระเดินมาหา เตะใบหน้าเละๆอย่างไม่กลัวเปื้อน

    "ก-เกือบโดนหลายรอบเลย...." รูบี้ยกแขนเปื้อนๆขึ้นดูให้สลดใจเล่น แขนเสื้อขาดฉีกเพราะการตะลุมบอน

    ".........." ไม่มีใครสังเกตุเห็นคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล

    ".....นายคือเรนงั้นเหรอ" รูบี้สะดุ้งเมื่อได้ยินคิระพูดถึงเรน เธอเงยหน้าทั้งๆที่ยังเหนื่อย

    ถึงตัวจะเปื้อนคราบสีดำ แต่ใบหน้านิ่งๆของเขา เธอจำได้ดี

    "เรน!!" เด็กสาวลืมตัว พุ่งตัวลุกขึ้นถลาเข้าหาเรนอย่างรวดเร็ว เขาไม่ทันได้ตั้งตัวจึงถูกผลักให้ล้มลง

    โครม!

    ".........." คิระยืนมอง ที่มุมปากขยับขึ้น

    "หยุด--ไม่ใช่อย่างนั้น--" โป้ก!! "เรน!! ไม่เป็นไรนะ!!" เรนพยายามแก้ตัว และโดนรูบี้กระแทกหัวเข้าใส่กลางอกจนจุกคอ

    ใบหน้าที่เหมือนคนเจอของดีแสยะยิ้มกว้างจนเรนจนลุก "หยุดยิ้มเลยนะ!! แกเป็นใคร!!??"









    ".........เธอนี่มัน" หลังจากที่ลากสังขารกลับที่พักใต้สะพานได้สำเร็จ หลังจากที่ฟังเรื่องราวจากปากของรูบี้ที่นั่งเหงื่อท่วมตัว
    "ขอโทษน้า...."
    "เสนอว่าจะให้อยู่ด้วยนี่มัน---" เรนใช้มือทั้งสองจับผมและดึงอย่างปวดหัว
    "ไม่ต้องห่วง ไม่มาเป็นก้างขวางคอแน่นอน--"  
    "สรุปจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง" คิระในร่างสาวน้อยพูดไม่ทันจบก็โดนเรนมองตาขวางและพูดเสียงเย็นใส่
    "เรน" รูบี้ที่หน้าแดงกํ่าส่งสายตาพิฆาต เรนที่เห็นจึงยอมเบือนหน้าส่งเสียงฮึดฮัด
    "ไม่ใช่เรื่องที่ต้องจริงจังนี่? จะชายหรือหญิงก็ไม่ต่างสักเท่าไหร่" คิระยักไหล่ "จะเป็นผู้หญิงแค่ตอนอยู่ในที่พักแหล่ะน่า ไม่ต้องห่วงว่าจะไปทำอะไรแฟนนายหรอก"
    "......." พอได้ยินคำว่าแฟนเรนก็ลุกขึ้น ไม่ทันได้เห็นสีหน้าสักนิด
    "เรน? จะไปไหนเหรอ?" รูบี้ถอดเสื้อนอกแขนยาวออก เธอรู้สึกร้อนขึ้นมา น่าจะเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
    "......ไปเอานํ้า" เด็กหนุ่มตอบสั้นๆ ทำให้คนที่เข้ามาใหม่ใช้มือเท้าคาง "จะเอาบ้านฉันไปทิ้งก็ว่ามาตรงๆเหอะ" 

    พอโดนอ่านท่าออกเรนก็หยุดการกระทำลง

    "....ผมก็ไม่ได้อยากจะเย็นชา แต่นายไว้ใจไม่ได้" เจ้าของที่พักใช้หางตามอง "จะมั่นใจได้ไงว่านายน่ะ......รูบี้?"
    คิระที่ตั้งใจฟังก็ยืดตัวตรงเมื่อเห็นท่าทีแปลกๆของคู่สนทนา "ทำไม?"

    พอลองมองดูที่รูบี้ ทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น

    เด็กสาวล้มนอนลงบนพื้น หอบหายใจ ทั่วทั้งตัวมีเหงื่อไหลซึม

    "ตัวร้อนมาก---อย่ามัวแต่อึ้งสิ ไปเอานํ้ามา" คิระจับช้อนเด็กสาวขึ้นและไม่ลืมที่จะฝากให้เรนไปเอานํ้ามา 
    "........" เรนไม่รอช้าที่จะวิ่งออกไป





    ด้านข้างที่เป็นรูและถูกปิดด้วยแผ่นไม้ มีบ่อกรองนํ้าสะอาดจากนํ้าฝนอยู่

    อาจจะเก่าไปหน่อย แต่ก็ไม่มีตะไคร่นํ้าหรือเชื้อราขึ้น เป็นแหล่งผลิตนํ้าที่หายาก

    ถ้าถูกเจอ ส่วนมากจะถูกเอาไปใช้ในธรุกิจโก่งราคา




    เรนถือถังนํ้า และเดินกึ่งวิ่งเข้ามา 

    "นํ้า--" วูบ-- แล้วก็เกือบปล่อยถังหลุดมือ

    "เอาวางไว้ใกล้ๆนี่--"

    "ท-ทำอะไรน่ะ!!??" 

    พอเข้ามา ภาพที่ได้เห็นคือสาวน้อยคนหนึ่งกำลังถอดเสื้อสาวน้อยอีกคน โชคดีที่เรนสามารถหันหน้าหนีไปอีกทางได้ทัน จึงไม่เห็นอะไรมากนอกจากผิวขาวนวลแว๊บๆ

    "ถามอะไรแปลกๆ ก็เช็ดตัวลดไข้ไง" พอคนที่ฝากฝังไม่เดินเข้ามา คิระจึงต้องลากถังนํ้าหนักๆเข้ามาเอง 

    "เช็ดตัว?" 

    "นายไม่เคยป่วยรึไง อ๊ะ ไม่สิ น่าจะตกใจที่เห็นร่างของผู้หญิง--"  
    "จะทำอะไรก็รีบเหอะน่า!!" เรนดึงฮู้ดปิดใบหน้าและหูที่แดงฉาด เขาจึงไม่เห็นคิระที่เหยียดยิ้มอย่างชอบใจ 
    "ขี้เก๊ก" พอพูดจบก็จัดการรักษาไข้เบื้องต้นต่อ








    "ไม่นึกว่าจะยังมียารักษาเหลืออยู่.....นายนี่เก็บทุกอย่างที่ขวางหน้าเลย" คิระปิดกระปุกใส่ยาสีขาว เรนมองดูใบหน้าของเด็กสาวที่แดงและดูสงบ
    ".......ห่วงแฟนเหรอ" พอลองพูดไปแบบนั้น เด็กหนุ่มก็ส่ายหัวอย่างรุนแรง โมโหที่อีกฝ่ายไม่เลิกเข้าใจผิดซักที
    "เห.....แต่ดูสนิทกันมากนะ" คิระพูดลอยๆ

    ".....เพราะสัญญาไปแล้ว" เสียงพูดอย่างแผ่วเบา เด็กสาว(หนุ่ม)ได้ยิน
    "หือ? อะไรนะ?" แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน 
    "สัญญาไว้แล้วว่าจะอยู่ข้างๆไปตลอด" เรนเงยหน้าขึ้น มองเพดานมืดๆ
    "จนกว่าจะถึงจุดจบ" ประโยคถัดมาทำให้คิระหน้ากระตุก


    ทั้งห้องเงียบไปวูบหนึ่ง และ-

    "อ----" เหมือนเด็กหนุ่มผมสีฟ้าจะเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป รีบใช้มือทั้งสองปิดหน้าและปิดหูจนตัวงอ
    "ม--ม-ม-ม-ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละน่า!! ค-คื---แค่สมเพชเท่านั้นแหละ!!!" ทุกครั้งที่ส่งเสียงตัวจะสั่น ความเยือกเย็นและสงบในนํ้าเสียงหายไปจนหมดสิ้น มันสูงและระรัวเหมือนอาย
    "อุ้บบ----คึคึ----อย่าบอกนะว่านาย---" เหมือนคิระจะสามารถจับจุดและยืนยันความคิดของตัวเองได้ ใบหน้าหวานแสยะยิ้มเหมือนได้รับชับชนะในชีวิต
    "ห-หุบปากไปเลย....." เรนทำเสียงเบาลง สั่นและสูงจนรู้ได้ว่าไม่สามารถนิ่งต่อไปได้แล้ว
    "ฮะๆๆ งั้นก็พยายามอย่าส่งเสียงดังมากล่ะ เดี๋ยวคนรักจะตื่นเอา" คิระเน้นคำว่าคนรักอย่างตั้งใจ เรนกำลังจะส่งเสียงโวยวาย แต่ก็ทำได้แค่ถลึงตาเพราะกลัวรูบี้จะตื่น
    "ไข้ขึ้นเพราะโดนเจ้าพวกนั้นข่วนนิดหน่อย ถ้าโชคดีล่ะก็พรุ่งนี้เช้าหายแน่" เด็กสาว(หนุ่ม)หาวออกมาหลังจากพูดจบ "หาววว----ดึกแล้วสิเนี่ย.....ฉันไปนอนก่อนล่ะ ฝันดี" 



    เรนส่งเสียงชิเบาๆไม่ให้เจ้าตัวสังเกตุ ถึงจะใช้ร่างของผู้หญิงก็มั่นใจได้ว่าเจ้านี่เลือกจะเป็นผู้ชายมากกว่าแหงๆ 

    "......กุ้ง" 

    "หืม?? ไม่ใช่สักหน่อย เป็นกระต่ายน้อยสุดน่ารักต่างหาก"

    เด็กหนุ่มที่กำลังจะปูที่นอนต้องยืนมอง เห็นคนที่เรียกตัวเองว่ากระต่ายแล้วนึกถึงกุ้งขึ้นมาพึลึก

    คิระกำลังมุดตัวลงกล่อง เหลือแค่ปิดฝา ท่าทางเหมือนแวมไพร์กำลังกลับลงโลงตัวเอง

    'กระต่ายบ้าอะไรนอนในกล่อง' คิดแบบนั้นก่อนที่จะล้มตัวลงนอนตาม























    ร้อน




    ครั้งนี้ไม่ใช่ร้อนเหมือนตอนที่ตื่นขึ้นครั้งแรกหรือเมื่อเช้า


    ร้อนจนเหมือนถูกดูดลงไป


    เธอขยับไม่ไหว ลมหายใจร้อนผ่าว หัวเองก็มึนและปวดเหมือนถูกก้อนหินทับ


    ทรมาณ


    คิดออกแค่คำเดียว คำเดียวที่อธิบายได้ดีที่สุดด้วย


    เปียกไปด้วยไฟที่ร้อนจัด ที่แขนมีความรู้สึกเหมือนถูกเข็มจิ้มลึกขึ้นเรื่อยๆและขยายเพิ่มจำนวน

    ดวงตาร้อนผ่าวเหมือนถูกนําร้อนกรอกใส่ลงไป ทั้งที่เป็นแค่นํ้าตา


    ตาย---ตายแน่ๆ







    เด็กสาวนอนขดตัว ผ้าชุบนํ้าที่แปะไว้แห้งและหล่นลงข้างๆหมอน เธอหอบหายใจและสีหน้าบิดไปมา เหงื่อไหลจนเปียกชุ่มอย่างน่ากลัวราวกับไปตกนํ้ามา

    แต่ไม่มีเสียงเล็กลอดออกมา

    ถึงสติจะเลือนราง ก็ยังพยายามทน




    จากนั้นสักพักจู่ๆก็มีบางอย่างที่เย็นห่มตัวเธอ

    ทำให้ความร้อนนั้นน้อยลง น้อยจนสามารถเข้าสู่ห้วงนิทราต่อได้














    "ต่อให้ไม่เหลือร่างกายหรือความทรงจำต้องหายไปทั้งหมด---"

    "ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้-----ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไป-----"

    "จะทำให้เห็นเอง ว่าการดิ้นรนของฉันไม่ใช่ ความสิ้นหวัง "

    "มันคือ ความหวัง "
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×