ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Broken ชีวิตที่พังทลาย

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 : โลกในปัจจุบัน

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 61


    ปี 30××
    โลกในตอนนี้ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน....
    รำรวย ปานกลาง ยากจน

    เหมือนถูกแบ่งตามสถานะทางการเงิน....

    และแน่นอนว่าถูกแบ่งก็ต้องมีการแบ่งแยกอย่างชัดเจน

    ในโดมขนาดมหึมานั่น มีประชากรจากทั่วโลกราว 10% ที่ได่อยู่ในนั้น

    เต็มไปด้วยสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรที่ดี เทคโนโลยีก็ก้าวกระโดดและพัฒนาขึ้นทุกวัน


    เลยออกมาหน่อย ก็จะเป็นหมู่บ้านในหมอกควันทั่ชืาอว่าแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
    ยังไม่เลวร้ายมาก ก็แค่สุขภาพจะอ่อนแอและไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงเท่านั้นเอง

    ที่แย่จริงๆคือโลกภายนอก

    ประชากรโลกกว่า 70% อาศัยอยู่ในโลกภายนอกที่มีแต่ซากปรักหักพังจากภัยพิบัติถล่มโลกเมื่อ 20 ปีก่อน

    มีการแย่งชิงทรัพยากรที่เหลืออยู่น้อยนิดแทบทุกวัน ปัญหาสังคมที่รุนแรงยังคงไม่ทวีความโหดร้ายลง

    ไม่แปลกที่พวกข้างนอกจะถูกเรียกว่า ขยะ

    แถมเร็วๆนี้ก็มีการค้ามนุษย์และอวัยวะที่เริ่มแพร่หลายและเป็นที่นิยมมากขึ้น กฏหมายมาตราต่างๆไม่สามารถห้ามเอาไว้ได้อีกแล้ว

    โลกใบนี้มันเน่าเฟะจนเกินเยียวยา....






    เด็กสาวที่เสียความทรงจำ รูบี้ เมื่อได้ยินคำอธิบายถึงโลกใบนี้จากปากของเรนคร่าวๆ เธอก็ถอนหายใจ

    "สงสัยที่ฉันเสียความทรงจำคงเป็นเพราะอุบัติเหตุสินะ" รูบี้เทาคางเหมือนใช้ความคิด เธอเห็นใบหน้าของเรนที่เหมือนจะถามว่า ทำไมถึงคิดแบบนั้น

    "ก็ที่แขนกับขามันเจ็บแปล๊บๆเลยน่ะสิ ถึงจะไม่มีเลือดหรือผ้าพันแผลก็เถอะนะ~" เด็กสาวยิ้มบางๆ เธอรู้สึกเจ็บจี้ดที่ข้อต่อแขนกับขาอย่างไร้เหตุผลเมื่อกี้ อย่างกับว่ามันกำลังจะ ขาด ออกจากกันยังไงยังนั้น
    คำตอบของเธอที่ไม่จริงจังทำเอาเด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างเงียบๆ

    ดวงตาสีอ่อนหรี่เล็ก ดูอึดอัด

    '....ฉันพูดอะไรผิดไปรึเปล่า??' ท่าทางของเขาทำให้เธอกังวล
    "ไม่มีอะไร....เจ็บมากรึเปล่า" เสียงเรียบพูดขึ้น แต่ฟังดูเป็นห่วง
    "ไม่แล้วล่ะ อาจจะ....แค่นอนผิดท่าน่ะ" รูบี้พยายามเปลี่ยนให้เป็นเรื่องทั่วๆไปอาจจะเพราะเรนทำหน้าจริงจังและเหมือนจะโทรเรียกหมอมารักษา
    แต่ที่นี่ไม่มีหมอนี่นา เปลี่ยนเป็นหาคนมารักษาน่าจะเหมาะสมกว่า
    "อืม........" เรนพยักหน้าก่อนที่จะหันไปมองข้างนอก แสงสีส้มเหลืองค่อยๆสาดเข้ามาใส่ผนังอิฐเก่าๆ "แค่นอนผิดท่าก็ดี....."
    "หืม? เมื่อกี้พูดว่าอะไรเหรอ?" รูบี้ได้ยินเสียงพูดพึมพำ เด็กหนุ่มส่ายหัวตอบ "ไม่มีอะไร"

    ถึงสีหน้าของอีกฝ่ายจะไม่แสดงออกมา แต่เด็กสาวก็รู้ได้ว่า คนตรงหน้าปิดบังเรื่องบางอย่างกับเธอเอาไว้
    ซึ่งรูบี้ไม่ใช่คนที่ชอบเซ้าซี้ซักถามอะไรที่อีกฝ่ายไม่อยากตอบ เธอทำแค่ลุกขึ้นและพยายามชะโงกหัวออกไปมองข้างนอก

    เงาทาบผ่านใบหน้าออกห่างไปเรื่อยๆ เสียงของนํ้าที่ไหลอย่างแผ่วเบา ทุกอย่างเกือบจะงดงามแล้วถ้าหากว่าไม่มีเมฆดำทะมึนลอยเข้ามาบังแสงแดด

    "หวา.....ขนาดเช้าแล้วก็ยังมืดอยู่เลยอ่ะ" รูบี้คว้าพื้นที่อยู่เหนือกว่าตัวเอง แล้วในจังหวะที่กำลังจะไต่ขึ้นไปก็มีบางอย่างพยุงเข้าที่เอวของเธอ "หวา??" เธอส่งเสียงร้องอย่างตกใจแล้วหันไปมอง
    เด็กหนุ่มที่สวมหมวกฮู้ดสีเข้ม เหมือนกำลังจะพยุงเธออยู่ เขาก้มหน้าลง ".....รีบขึ้นไปสิ" เสียงเรียบพูดอย่างแผ่วเบา ทำให้รูบี้หัวเราะเบาๆก่อนที่จะดันตัวเองขึ้นไป





    สถานที่ที่รูบี้กับเรนอยู่ ดูเหมือนจะเป็นใต้สะพาน จากการที่ต้องปีนออกมา คงจะเป็นเพราะมันเคยเป็นท่อนํ้าระบายเก่าๆของโรงงานสักแห่ง ถึงจะเก่าและเล็กแต่ก็เป็นที่พักที่แข็งแรงและลับตาคนพอสมควร
    "ว้าว เหมือนกับฐานทัพลับเลย" รูบี้เดินออกมาเป็นคนแรก เธอใช้มือประกอบกันเป็นทรงกล้องส่องทางไกล ท่าทางเหมือนเด็กที่ตื่นเต้นกับการเดินป่า 
    "......." เรนมองดูเด็กสาวที่เดินไปมา เขามองซ้ายขวาเหมือนสอดส่องบางอย่างตลอด
    "นี่! ไหนๆก็ออกมาแล้ว ไปผจญภัยกันดีม้า??" เด็กสาวผมสีส้มโบกมืออย่างร่าเริง เรนก้มหน้าเงียบอยู่สักพัก
    ".....ต้องเตรียมของไปด้วย...." เด็กหนุ่มพูด เขายังลังเลอยู่
    "เตรียม? เตรียมอะไรเหรอ? นํ้าหรือขนม-"  "อาวุธ"




    "......เธออย่าใช้ไอ้นั้นจะดีกว่านะ" เรนพูดเยอะขึ้น และแน่นอนว่าดุขึ้น
    "เอ๋??? ทำไมง่ะ?" เด็กสาวยกสนับมือเหล็กขึ้น เรนถอนหายใจ 
    "ถ้าอีกฝ่ายมีปืนขึ้นมา เธอจะโดนยิงก่อนได้ต่อยแน่ๆ" 
    รูบี้ที่ได้ฟังเหตุผลก็สะอึก "จ-จริงด้วยเนอะ---แหะๆ"
    รูบี้ยังคงยืนกรานจะออกไปผจญภัยหาเสบียง แม้จะได้ยินว่ามีคนจ้องทำร้ายอยู่เต็มไปหมดก็ตามที เมื่อเห็นแบบนั้น เรนจึงทำอะไรไม่ได้มากนอกจากยอมทำตาม แน่นอนว่ามีข้อแม้คือต้องให้เขาไปด้วยและต้องพกอาวุธติดตัวตลอด




    สุดท้าย เรนก็เลือกอาวุธ(ที่มีอยู่)ให้รูบี้แทนซะเอง เขาเลือกสตันท์กันให้เธอ และสอนวิธียิงคร่าวๆ โชคร้ายที่รูบี้เรียนรู้ช้า ทำให้เวลาดีเลย์ไปทั้งวัน





    วันต่อมา

    ซากปรักหักพังของตึกและซากกระจกเกลื่อนกระจาย ทุกครั้งที่เดินลงไปจะมีเสียงกรอบแกรบ ถ้าคิดว่าเป็นป่า ซากตึกจะเป็นต้นไม้สูงใหญ่สลับเตี้ยเล็ก ซากกระจกเป็นเหมือนใบไม้แห้งบนพื้น 

    "........" เด็กหนุ่มพิงตัวกับผนัง ชะเง้อหน้าออกไปมองบนถนนใหญ่ ตั้งสมาธิมองดูว่ามีสิ่งใดเคลื่อนไหวอยู่หรือไม่



    "........" เรนตั้งสมาธิมาก อยากจะให้ชัวร์ว่าไม่มี คน หรือ ตัวอะไร เดินเผ่นผ่านและดูเป็นอันตราย



    เขาตั้งใจมากจนไม่รู้ตัวว่าคนที่มาด้วยเริ่มเบื่อแล้ว


    และเมื่อเธอเบื่อ เธอก็คิดอะไรสนุกๆทำได้ เธอยิ้มและรอจังหวะเหมาะที่จะลงมือ

    "......" ไม่มีอะไร....เมื่อเห็นแบบนั้น เรนก็หันกลับมาอย่างช้าๆเพื่อจะบอกรูบี้ว่าไปได้


    "บู้!!!!!!"   "!!!!!!!??" 

    ตัวของเขาดีดขึ้น ถอยกรูดไปข้างหลัง ท่าทีของเรนทำให้รูบี้ที่กระโดดเข้าแกล้งเขาหัวเราะออกมา

    "ฮะๆๆๆ!!" เด็กสาวหัวเราะจนงอตัว เด็กหนุ่มนั่งเบิกตากว้างและนิ่งราวรูปปั้น "ข-ขอโทษนะเรน! คือ---ฮะๆๆๆๆ"








    15 นาทีต่อมา



    "โหดร้าย......" รูบี้บ่นขึ้นเบาๆ เธอโดนเรนโมโห(ถึงเขาจะนิ่งๆก็เถอะ)จนโดนสั่งให้นั่งอยู่แถวนี้ ในซอกตึกนี้ ห้ามไปไหน แถมยังโดนริบปืนสตันท์กันไปอีก ทั้งตัวรูบี้จึงเหลือแค่ไม้งัดเหล็กเท่านั้น
    "[ห้ามไปไหนมาไหนเด็ดขาด จนกว่าผมจะมา]........ทรมาณฉันให้ตายด้วยความเบื่อหน่ายน่ะสิ....." รูบี้เท้าคางบ่น 
    "........" เด็กสาวเงียบพักหนึ่ง แล้วนึกขึ้นมาอย่างหนึ่ง "เขาบอกว่าไม่เกิน 10 นาที......."
    เธอจำได้ จำได้ว่าเรนสัญญากับเธอที่ดื้อรั้นว่าจะกลับมาภายใน 10 นาที
    "....คุณผิดคำก่อนน้า เรน" รูบี้แสยะยิ้มที่มุมปาก เธอลุกขึ้นและชูอาวุธหนึ่งเดียว "ถ้าฉันไปหาตอนนี้ก็ไม่ผิดแน่นอน!"





     ทางด้านของเรน

    แกร๊ก-

    เด็กหนุ่มหลบอยู่หลังกำแพง คราวนี้เป็นกำแพงของร้านสะดวกซื้อด้านหลังที่ยังไม่ถูกค้นในตอนนี้

    ปืนสตันท์กันในมือเหลือไฟฟ้าพอให้ยิงได้อีก 4 นัด ปืนเก็บเสียงในกระเป๋ามีกระสุนอยู่ในรัง 5 นัด อาวุธระยะประชิดก็มีแค่ปลอกแขนอะลูมิเนียมที่สวมเอาไว้ที่แขนทั้งสอง

    'รู้งี้น่าจะเอาลวดด้ายมาด้วย...' เรนมองด้านหลังของตัวเองกับด้านหน้าสลับกัน ตอนนี้เขากำลังปะมือกับเจ้าของถิ่นถึง 5 คน

    ในโลกภายนอก บริเวณที่มีทรัพยากร มักจะไม่ใช่ที่ร้างธรรมดา มักจะมีพวกคนที่แข็งแกร่งครอบครองอยู่และปักหลักอยู่จนกว่าของจะหมดไป ถ้าอยากได้ทรัพยากรก็ต้องยอมเป็นลูกน้อง ทำตามที่สั่ง หรือ......ฆ่าแล้วชิงมา

    "ตัวก็บาง ทำไมถึงไวขนาดนี้วะ" ชายคนหนึ่งบ่นขึ้น เสียงดังจากหน้าร้าน เด็กหนุ่มสัมผัสได้ลางๆว่ามีอยู่กัน 3 คน

    "หนีได้ไม่นานหรอก มีดีแค่ตัวเล็กเท่านั้นแหละ" ชายที่เลือดกำเดาไหลปาดเลือดตรงปากออก 

    "ผมม-ไม่คิดแบบนั้นน่ะครับ ลูกพี่ มันจัดการน๊อคพวกเราไป 2 คนแล้วนะ" ในเวลา 15 นาที โดยใช้แค่แรงต่อย ชายฉกรรรจ์ร่างใหญ่ก็ตัวปลิวและสลบไป แรงมหาศาลผิดกับร่างที่เล็กและดูบอบบาง

    "แล้วทำไมล่ะ ก็แค่แรงเยอะเฉยๆนี่หว่า มันสู้กับพวกกระจอกด้วย" หัวหน้า(ที่เลือดกำเดาไหล)กล่าว สายตาเหลือบไปมองทางเข้าหลังร้าน

    "เฮ้ย มึงเข้าไปเช๊คดิ" แล้วเขาก็สั่งลูกน้อง "ค-ครับ??"
    "บอกให้เข้าไปไง" ชายหัวหน้ากลุ่มกำมือแน่น กล้ามเนื้อถูกเบ่งออกมา
    "ค-ครับผม......" ชายที่ถูกสั่งถึงกับหงอย 



    ตึก

    ลูกน้องเงยหน้ามองไปยังด้านข้างของประตู ทั้งซ้ายและขวา

    ไม่มีคน

    มันเผยยิ้มโล่งอก และหันกลับมาบอก "ไม่มีอะไรครับผม-"


    ผลั๊ว!!!


    "แอ๊ก!!" ของแข็งถูกฟาดลงที่ท้ายทอยอย่างแม่นยำ ทำให้ชายดวงซวยล้มลงนอนกับพื้นทันที

    "ออกมาแล้วเรอะ ไอ้หนู" หัวหน้ากลุ่มแสยะยิ้ม ไม้หน้าสามถูกยกขึ้นพาดบ่า

    "......." เรนเงียบตอบ ใบหน้าครึ่งซีกยังคงใช้ผ้าปิดเอาไว้ ดวงตาสีอ่อนไร้ประกาย

    "ห-หัวหน้า!! มันมีปืนด้วย!!" ลูกน้องที่เหลือคนสุดท้ายชี้นิ้วเต้นเร่าอย่างหวาดกลัว จนหัวหน้าต้องหันมาดุ "ไอ้โง่!! ปืนอันนิดเดียว เล็กกว่าที่แกถืออีก!" เสียงตะโกนที่ดังลั่นทำให้เรนปวดหู แต่เขายังพอทนได้ สีหน้าจึงยังเหมือนเดิม

    "ชิ- เล็งดีๆอย่าโดนกูนะเว้ย" เหลือคนเดียวให้ใช้งานได้ ชายร่างใหญ่สบัดไม้หน้าสามลงเพื่อข่มขู่







    ตึก ตึก ตึก

    "ฮืม~ จะได้อะไรมาบ้างรึยังน้า?" รูบี้เดินลากเท้ากึ่งกระโดดอย่างร่าเริง เธอเดินไปมาอย่างมั่วซั่วเพื่อตามหาเรน ยิ่งเดินห่างจากจุดเมื่อกี้มากเท่าไหร่ ร้านอาหารและร้านขายของก็ยิ่งเยอะขึ้น

    ปัง!!

    เสียงบางอย่างดังขึ้น ทำให้นกกาและเด็กสาวแตกตื่น

    "ส-เสียงอะไรน่ะ??" ไม่เคยได้ยิน แต่ก็คุ้นเคย รูบี้หันมองหาต้นเสียง ฝูงนกบินออกจากที่ๆแห่งหนึ่ง

    เด็กสาววิ่งสวนทางกับนกสีดำพวกนั้น เหมือนเป็นสัญชาติญาณ

    "เรน เรน! คุณอยู่ไหนกันน่ะ??" ใจของเธอไม่สงบอีกแล้ว ความห่วงใยเริ่มเข้ามาปกคลุม


    เป้าหมายปลายทาง คือสิ่งปลูกสร้างหนึ่งชั้นทรงสี่เหลี่ยม



    ฟึ่บ

    รูบี้ลดความเร็วลงและแอบมองเมื่อเห็นกระจกใส สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอไม่สามารถสงบใจได้อีก

    เรน


    เด็กหนุ่มสวมฮู้ดและปิดใบหน้า แต่รูบี้ก็ยังรู้ว่านั่นคือเรน เด็กหนุ่มใจดี(?)ที่เธอพบเป็นคนแรก

    เขากำลังเตะต่อยกับชายร่างยักษ์สูงเกือบ 2 เมตร บนพื้นรอบๆไม่ได้มีแค่ของที่หล่นเกลื่อนกลาด ยังมีร่างคนนอนอยู่ 3 คนอีก

    โชคดีหรือร้ายก็ไม่รู้ วูบหนึ่งที่เรนกำลังจะต่อยสวนอีกฝ่าย สายตาของเขาดันไปเห็นเส้นผมสีส้มเพลิงเด่นสะดุดตาเข้า ทำให้สมาธิและความคิดที่ตั้งแผนไว้หายไปทั้งหมดแทบทันที


    "เธอ!!" เผลอส่งเสียงร้องออกมา ก่อนที่จะถูกมือหนาต่อยเข้ากลางอก


    หมัดที่เกิดจากการฝึกฝนและแรงเหนือคนทั่วไป เมื่อโดนต่อยเข้าใส่ร่างที่บางและเล็กแบบนั้น กระดูกอาจจะหักหรือขยับไม่ได้สักพัก

    "!!!" ไม่มีเสียงร้อง มีแค่เสียงกร๊อบและร่างกายที่ลอยปลิวไปชนกับกำแพงปูนดังปั๊ก

    ชายร่างใหญ่แสยะยิ้ม ในที่สุดก็ต่อยโดนเสียที แต่ก็ส่งสัยว่าทำไมจู่ๆเด็กคนนี้ถึงชะงักลง และมองออกไปด้านหลังของเขา.....

    หัวหน้าถิ่นหันไปมองข้างหลัง และสดุดตาเข้ากับเส้นผมสีเพลิง ใบหน้าเรียวแสดงความตื่นตระหนก

    "อ---อย่า----แตะต้อง----แค่ก!!" เรนพยายามพูด แม้ว่าลมหายใจที่สูดเข้าจะทำให้ปอดขยับไปทิ่มกระดูกที่หักก็ตาม เขาไอออกมาเรื่อยๆทั้งๆที่พูดไม่จบ
    "หืมมมม? ยังมีหน้ามาทำตัวเป็นพระเอกการ์ตูนอยู่อีกเรอะ?" ชายร่างใหญ่แสยะยิ้ม ไม่สนคำเตือนของเรนและเดินออกไปหาเด็กสาว

    เรนพยายามตะโกนห้าม แต่เสียงที่ออกมามีแค่เสียงไอ


    "ป-ปล่อยเรนออกมานะ!!" หลังจากที่เลิ่กลันทำอะไรไม่ถูก รูบี้ก็คว้าไม้งัดออกมาตั้งท่าเตรียมสู้ ที่บ้ายิ่งกว่านี้คือเธอดันวิ่งเข้ามาข้างใน

    "ยัยบ้า!!อ่อก!!" เรนพยายามจะพูด ตอนนี้เลือดเริ่มไหลออกจากปากพร้อมไอออกมาเป็นสีแดง

    "โอ้!! ใจกล้าดีนี่ แม่สาวน้อย" ชายร่างใหญ่หัวเราะ เหมือนหมีที่คำราม

    "ถ-ถ้ายังเข้ามา--ฉันจะ---ทุบนะ!!" รูบี้พยายามทำตัวให้ดูน่ากลัว มือที่จับอาวุธเริ่มสั่นและมีเหงื่อไหลย้อม ชายเจ้าของถื่นรับรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นมือใหม่ที่รับมือง่ายมาก

    "ฮ่าๆๆ เข้ามาเลยสิ!! สาวน้อย" เขาส่งเสียงเชื้อเชิญ กางมือและแขนออก ท่าทางที่เหมือนลดการ์ดแบบนี้ทำให้เด็กสาวพุ่งเข้าเตรียมฟาดใส่ทันที

    "อย่า---!!" กว่าเรนจะบังคับฝืนให้ตัวเองพูดได้ก็ช้าไปเสียแล้ว



    ควับ!!

    ยังไม่ทันได้ทำอะไร คอบางๆของเด็กสาวก็ถูกมือหนารวบไว้ทันที 

    "อั๊ก!!!" รูบี้ส่งเสียงร้อง อากาศเข้าไปไม่ถึงหลอดลมของเธอ และความตกใจทำให้อาวุธในมือร่วงลงบนพื้น

    ชายหัวหน้าถิ่นแสยะยิ้ม คอบางเรียบเนียนที่สัมผัสเป็นผิวหนังที่นุ่มและหาได้ยาก ยี่สิบปีที่ผ่านมาแทบไม่ได้เห็นร่างกายที่สมบูรณ์และมีค่าขนาดนี้มาก่อน

    "ฮึฮึ มีเพชรลอยเข้ากระเป๋าเลยนะเนี่ย" มันพูดก่อนที่จะเพิ่มแรงบีบ เด็กสาวหน้าเริ่มเป็นสีม่วงและไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปาก มือที่ปัดไปมาเริ่มหมดแรง

    เด็กหนุ่มที่เห็นแบบนั้น เขาไม่รอช้าที่จะเล็งปืนเก็บเสียงไปที่หัวของชายคนนั้น


    ระยะนี้ไม่พลาดแน่นอน แต่ทว่า


    "!!!"

    ดวงตา

    ดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูด นัยน์ตาสีทับทิมแดงที่รื้นไปด้วยนํ้าตามองอย่างอ้อนวอน ทำให้เรนชะงัก

    ริมฝีปากของเด็กสาวผมสีเพลิงขยับอย่างช้าๆ ในตอนที่เวลาใกล้จะหมดลง 

    "อย่าฆ่าเขา"












    พึ่บ

    "อ๊ะ- เรียบร้อย" ชายตัวยักษ์ผ่อนแรงลงเมื่อร่างกายที่ขัดขืนหยุดขยับลง ใบหน้าของเธอซีดเซียวและดวงตาว่างเปล่า

    ตายแล้ว

    "ง่ายเกินไปแล้ว อย่างกะปอกกล้วยเข้าปาก" ใบหน้านั้นไม่รู้สึกผิด กลับกันดูลิงโลดได้ใจ "จะขายได้ซักเท่าไหร่กันเอ๋ย? ยังเด็กทั้งคู่เลยด้วย--" 


    "ฮะฮะฮะ"

    เสียงหัวเราะเย็นเยียบดังขึ้น ทำให้ชายร่างใหญ่ที่กำลังจะเปิดเสื้อของเด็กสาวชะงักลง 

    "......ใครวะ" มันถาม กดเสียงให้ตํ่าเพื่อเสแสร้งว่าไม่กลัว

    ".......ยัยบ้า" เสียงปริศนาดังต่อไป ไม่สนใจชายร่างใหญ่ที่เริ่มระแวง ศัตรูที่มองไม่เห้น?

    "......อีกแล้วนะ"



    เป๊าะ


    สิ้นเสียงพูดคุยที่ไร้คู่สนทนา เสียงของบางอย่างแตกหักดังขึ้น ทุกอย่างเงียบอยู่สักพัก จนเจ้าของร่างรู้ตัวว่าเข่าของคนอ่อนลงและ


    กร๊อก

    แตะพื้น


    "อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!"

    เขากรีดร้อง

    ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่สมอง ขาซ้ายหักบิดหมุนอย่างผิดปกติเหมือนเข้าเครื่องปั่น สภาพเหมือนดึงลวดออกจากขาล่าง ไม่มีเลือดหรือกล้ามเนื้อฉีกขาดออกมา มันนอนกุมหัวเข่าที่อ่อนปวกเปียกอย่างหวาดกลัว "ข-ขากู!!!!"

    "อาาาาาาา.....ถามหาไอ้นี่เหรอครั?" เสียงผิดมนุษย์ถามหา เสียงเหมือนโปรแกรมคอมพิวเตอร์พูดและขาดหายเหมือนติดบัค มันขาดช่วงและลากยาวจนไม่น่าเชื่อว่ามาจากปากของคน

    ชายหัวหน้าถิ่นเงยหน้าอย่างติดขัด ความเจ็บทำให้ความกลัวพุ่งทะลุและทิ้งท่าทีอวดดีไปจนหมด

    "อ--อ๊ะ-----อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!" เมื่อเห็นสิ่งที่วางไว้บนมือที่ยื่นออกมา มันก็กรีดร้องอย่างหมดหน้า



    กระดูกขา


    สีเหลืองนวล กระดูกที่ยังมีข้อต่อกับเท้าอยู่


    "ทั้งทั้งที่กะว่าจะไม่ทำอีก....... "

    เจ้าของเสียงพูดโดยไม่สนร่างกายตนเองที่หายและบิดไปมาเหมือนจอทีวีที่เสีย ไม่สนเสียงที่ขาดห้วงและขึ้นลงจนน่าปวดหัว ไม่สนใบหน้าที่ขึ้นเส้นสายเหมือนเส้นเลือดและดวงตาที่ย้อมเป็นสีดำสนิท

    "ฮะฮะ แกทำผมไม่มีทางเลือก"

    ฮู้ดเปิดออก ผ้าปิดหน้าถูกลดลง ใบหน้าของเรนกำลังแสยะรอยยิ้มกระหายเลือด ดวงตาทั้งสองดำมืดเหมือนกลวงโบ๋ เส้นเลือดสีแดงลาดผ่านรอบหน้าเหมือนรอยแตก เลือดข้นสีดำไหลย้อยออกมาจนน่าสะอิดสะเอียน

    "ข-ขอโทษษษษษษ!!! ยังไงก็ได้ ไว้ชีวิตป๋มด้วย!!!! เอาร้านนี้ไปเลย!!!" ชายที่เคยอวดดี บัดนี้นอนนํ้าลายและนํ้าตาไหลอาบนํ้าส่งกลิ่นไม่น่าพิศมัย ขอร้องให้ อะไรบางอย่าง ตรงหน้าไว้ชีวิตตน

    ใบหน้าของเด็กหนุ่มยังคงแสยะยิ้มน่าขนลุก เหมือนทุกอย่างบิดม้วนและหมุนวน ใบหน้านั้นเข้าใกล้ชายชั่วมากขึ้นเรื่อยๆจนคำร้องขอเริ่มไม่เป็นภาษา เสียงวิทยุขาดสัญญาณส่งเสียงน่ารำคาญต่อไป ป่วนประสาทเสียจนอยากตาย



    "@15431@!$@^%!$#@^%!$@^"














    ".........."

    คํ่าแล้ว


    กองไฟเล็กๆถูกจุดขึ้น รอบๆมีอาหารสำเร็จรูปแบบต้มวางไว้

    ".....ไม่" เรนหยิบบะหมี่ที่เขียนว่าเผ็ดขึ้นสวรรค์ไว้ในกล่องที่อัดแน่นไปด้วยของอย่างพวกกรรไกรหรือขวดยาพิษ

    "........" ก่อนที่จะหันไปมองร่างหนึ่งที่นอนบนฟูก


    เด็กสาวหายใจอย่างช้าๆ เธอพลิกตัวเพื่อนอนอีกท่าให้สะดวกขึ้น เส้นผมสีเพลิงยังเปื้อนฝุ่นอยู่

    '....อย่างน้อย...รอบนี้.....สักนิดก็ยังดี....' เด็กหนุ่มก้มหน้า ความหวังในใจที่มีรู้ว่าจะทำให้เจ็บปวดในภายหลัง เขาทำหน้าเครียดไม่รู้ตัว

    "......." แปะ เรนตบหน้าตัวเองเบาๆ พยายามปั้นรอยยิ้มบนหน้า

    "....ทำได้ที่ไหนกันเล่า" ใบหน้าของเขาที่สะท้อนจางๆบนกระจกนั้นเรียบเฉย ดวงตาสีอ่อนเสียประกายมากขึ้นไปทุกที







    จนเธอตื่นขึ้น เรนผลักแรงทั้งหมดปิดกล่องไม้ที่แปะกระดาษเขียนตวัดไว้ว่า [ของอันตราย]


    ครั้งที่ 210



    "เธอชื่อว่าอะไรเหรอ" เด็กสาวยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร 

    ดวงตาของเขาฉายแววสิ้นหวัง

    "....เรน" อีกฝ่ายตอบกลับ เด็กหนุ่มผมสีฟ้าอ่อนพูดสั้นๆ
    "อืม.....ชื่อเรนสินะ ยินดีที่ได้รู้จัก!" 
    "ส่วนฉันจำชื่อตัวเองไม่ได้ล่ะ ยังไงก็ขอฝากตัวด้วย~"

    ถึงเธอจะจำอะไรไม่ได้ เธอก็ยังยิ้มแย้ม

    "...รูบี้"  "งือ?"
    เด็กหนุ่มพูดพึมพำออกมา
    "ตาสีทับทิม....เหมือนรูบี้" เรนชี้ที่ตาสีฟ้าหม่นของเขา เหมือนจะบอกสีตาของเด็กสาว
    "งั้นเหรอ.....อ่ะ! ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฉันชื่อว่ารูบี้!"



    ยังช่วยเธอไว้ไม่ได้




    ********
    12/08/2018
    -แก้ไขเนื้อหาคำอธิบายเล็กน้อยเพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาในอนาคต
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×