ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 : โลกในปัจจุบัน
ปี 30××
โลกในตอนนี้ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน....
รำรวย ปานกลาง ยากจน
เหมือนถูกแบ่งตามสถานะทางการเงิน....
และแน่นอนว่าถูกแบ่งก็ต้องมีการแบ่งแยกอย่างชัดเจน
ในโดมขนาดมหึมานั่น มีประชากรจากทั่วโลกราว 10% ที่ได่อยู่ในนั้น
เต็มไปด้วยสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรที่ดี เทคโนโลยีก็ก้าวกระโดดและพัฒนาขึ้นทุกวัน
เลยออกมาหน่อย ก็จะเป็นหมู่บ้านในหมอกควันทั่ชืาอว่าแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ยังไม่เลวร้ายมาก ก็แค่สุขภาพจะอ่อนแอและไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงเท่านั้นเอง
ที่แย่จริงๆคือโลกภายนอก
ประชากรโลกกว่า 70% อาศัยอยู่ในโลกภายนอกที่มีแต่ซากปรักหักพังจากภัยพิบัติถล่มโลกเมื่อ 20 ปีก่อน
มีการแย่งชิงทรัพยากรที่เหลืออยู่น้อยนิดแทบทุกวัน ปัญหาสังคมที่รุนแรงยังคงไม่ทวีความโหดร้ายลง
ไม่แปลกที่พวกข้างนอกจะถูกเรียกว่า ขยะ
แถมเร็วๆนี้ก็มีการค้ามนุษย์และอวัยวะที่เริ่มแพร่หลายและเป็นที่นิยมมากขึ้น กฏหมายมาตราต่างๆไม่สามารถห้ามเอาไว้ได้อีกแล้ว
โลกใบนี้มันเน่าเฟะจนเกินเยียวยา....
เด็กสาวที่เสียความทรงจำ รูบี้ เมื่อได้ยินคำอธิบายถึงโลกใบนี้จากปากของเรนคร่าวๆ เธอก็ถอนหายใจ
"สงสัยที่ฉันเสียความทรงจำคงเป็นเพราะอุบัติเหตุสินะ" รูบี้เทาคางเหมือนใช้ความคิด เธอเห็นใบหน้าของเรนที่เหมือนจะถามว่า ทำไมถึงคิดแบบนั้น
"ก็ที่แขนกับขามันเจ็บแปล๊บๆเลยน่ะสิ ถึงจะไม่มีเลือดหรือผ้าพันแผลก็เถอะนะ~" เด็กสาวยิ้มบางๆ เธอรู้สึกเจ็บจี้ดที่ข้อต่อแขนกับขาอย่างไร้เหตุผลเมื่อกี้ อย่างกับว่ามันกำลังจะ ขาด ออกจากกันยังไงยังนั้น
คำตอบของเธอที่ไม่จริงจังทำเอาเด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างเงียบๆ
ดวงตาสีอ่อนหรี่เล็ก ดูอึดอัด
'....ฉันพูดอะไรผิดไปรึเปล่า??' ท่าทางของเขาทำให้เธอกังวล
"ไม่มีอะไร....เจ็บมากรึเปล่า" เสียงเรียบพูดขึ้น แต่ฟังดูเป็นห่วง
"ไม่แล้วล่ะ อาจจะ....แค่นอนผิดท่าน่ะ" รูบี้พยายามเปลี่ยนให้เป็นเรื่องทั่วๆไปอาจจะเพราะเรนทำหน้าจริงจังและเหมือนจะโทรเรียกหมอมารักษา
แต่ที่นี่ไม่มีหมอนี่นา เปลี่ยนเป็นหาคนมารักษาน่าจะเหมาะสมกว่า
"อืม........" เรนพยักหน้าก่อนที่จะหันไปมองข้างนอก แสงสีส้มเหลืองค่อยๆสาดเข้ามาใส่ผนังอิฐเก่าๆ "แค่นอนผิดท่าก็ดี....."
"หืม? เมื่อกี้พูดว่าอะไรเหรอ?" รูบี้ได้ยินเสียงพูดพึมพำ เด็กหนุ่มส่ายหัวตอบ "ไม่มีอะไร"
ถึงสีหน้าของอีกฝ่ายจะไม่แสดงออกมา แต่เด็กสาวก็รู้ได้ว่า คนตรงหน้าปิดบังเรื่องบางอย่างกับเธอเอาไว้
ซึ่งรูบี้ไม่ใช่คนที่ชอบเซ้าซี้ซักถามอะไรที่อีกฝ่ายไม่อยากตอบ เธอทำแค่ลุกขึ้นและพยายามชะโงกหัวออกไปมองข้างนอก
เงาทาบผ่านใบหน้าออกห่างไปเรื่อยๆ เสียงของนํ้าที่ไหลอย่างแผ่วเบา ทุกอย่างเกือบจะงดงามแล้วถ้าหากว่าไม่มีเมฆดำทะมึนลอยเข้ามาบังแสงแดด
"หวา.....ขนาดเช้าแล้วก็ยังมืดอยู่เลยอ่ะ" รูบี้คว้าพื้นที่อยู่เหนือกว่าตัวเอง แล้วในจังหวะที่กำลังจะไต่ขึ้นไปก็มีบางอย่างพยุงเข้าที่เอวของเธอ "หวา??" เธอส่งเสียงร้องอย่างตกใจแล้วหันไปมอง
เด็กหนุ่มที่สวมหมวกฮู้ดสีเข้ม เหมือนกำลังจะพยุงเธออยู่ เขาก้มหน้าลง ".....รีบขึ้นไปสิ" เสียงเรียบพูดอย่างแผ่วเบา ทำให้รูบี้หัวเราะเบาๆก่อนที่จะดันตัวเองขึ้นไป
สถานที่ที่รูบี้กับเรนอยู่ ดูเหมือนจะเป็นใต้สะพาน จากการที่ต้องปีนออกมา คงจะเป็นเพราะมันเคยเป็นท่อนํ้าระบายเก่าๆของโรงงานสักแห่ง ถึงจะเก่าและเล็กแต่ก็เป็นที่พักที่แข็งแรงและลับตาคนพอสมควร
"ว้าว เหมือนกับฐานทัพลับเลย" รูบี้เดินออกมาเป็นคนแรก เธอใช้มือประกอบกันเป็นทรงกล้องส่องทางไกล ท่าทางเหมือนเด็กที่ตื่นเต้นกับการเดินป่า
"......." เรนมองดูเด็กสาวที่เดินไปมา เขามองซ้ายขวาเหมือนสอดส่องบางอย่างตลอด
"นี่! ไหนๆก็ออกมาแล้ว ไปผจญภัยกันดีม้า??" เด็กสาวผมสีส้มโบกมืออย่างร่าเริง เรนก้มหน้าเงียบอยู่สักพัก
".....ต้องเตรียมของไปด้วย...." เด็กหนุ่มพูด เขายังลังเลอยู่
"เตรียม? เตรียมอะไรเหรอ? นํ้าหรือขนม-" "อาวุธ"
"......เธออย่าใช้ไอ้นั้นจะดีกว่านะ" เรนพูดเยอะขึ้น และแน่นอนว่าดุขึ้น
"เอ๋??? ทำไมง่ะ?" เด็กสาวยกสนับมือเหล็กขึ้น เรนถอนหายใจ
"ถ้าอีกฝ่ายมีปืนขึ้นมา เธอจะโดนยิงก่อนได้ต่อยแน่ๆ"
รูบี้ที่ได้ฟังเหตุผลก็สะอึก "จ-จริงด้วยเนอะ---แหะๆ"
รูบี้ยังคงยืนกรานจะออกไปผจญภัยหาเสบียง แม้จะได้ยินว่ามีคนจ้องทำร้ายอยู่เต็มไปหมดก็ตามที เมื่อเห็นแบบนั้น เรนจึงทำอะไรไม่ได้มากนอกจากยอมทำตาม แน่นอนว่ามีข้อแม้คือต้องให้เขาไปด้วยและต้องพกอาวุธติดตัวตลอด
สุดท้าย เรนก็เลือกอาวุธ(ที่มีอยู่)ให้รูบี้แทนซะเอง เขาเลือกสตันท์กันให้เธอ และสอนวิธียิงคร่าวๆ โชคร้ายที่รูบี้เรียนรู้ช้า ทำให้เวลาดีเลย์ไปทั้งวัน
วันต่อมา
ซากปรักหักพังของตึกและซากกระจกเกลื่อนกระจาย ทุกครั้งที่เดินลงไปจะมีเสียงกรอบแกรบ ถ้าคิดว่าเป็นป่า ซากตึกจะเป็นต้นไม้สูงใหญ่สลับเตี้ยเล็ก ซากกระจกเป็นเหมือนใบไม้แห้งบนพื้น
"........" เด็กหนุ่มพิงตัวกับผนัง ชะเง้อหน้าออกไปมองบนถนนใหญ่ ตั้งสมาธิมองดูว่ามีสิ่งใดเคลื่อนไหวอยู่หรือไม่
"........" เรนตั้งสมาธิมาก อยากจะให้ชัวร์ว่าไม่มี คน หรือ ตัวอะไร เดินเผ่นผ่านและดูเป็นอันตราย
เขาตั้งใจมากจนไม่รู้ตัวว่าคนที่มาด้วยเริ่มเบื่อแล้ว
และเมื่อเธอเบื่อ เธอก็คิดอะไรสนุกๆทำได้ เธอยิ้มและรอจังหวะเหมาะที่จะลงมือ
"......" ไม่มีอะไร....เมื่อเห็นแบบนั้น เรนก็หันกลับมาอย่างช้าๆเพื่อจะบอกรูบี้ว่าไปได้
"บู้!!!!!!" "!!!!!!!??"
ตัวของเขาดีดขึ้น ถอยกรูดไปข้างหลัง ท่าทีของเรนทำให้รูบี้ที่กระโดดเข้าแกล้งเขาหัวเราะออกมา
"ฮะๆๆๆ!!" เด็กสาวหัวเราะจนงอตัว เด็กหนุ่มนั่งเบิกตากว้างและนิ่งราวรูปปั้น "ข-ขอโทษนะเรน! คือ---ฮะๆๆๆๆ"
15 นาทีต่อมา
"โหดร้าย......" รูบี้บ่นขึ้นเบาๆ เธอโดนเรนโมโห(ถึงเขาจะนิ่งๆก็เถอะ)จนโดนสั่งให้นั่งอยู่แถวนี้ ในซอกตึกนี้ ห้ามไปไหน แถมยังโดนริบปืนสตันท์กันไปอีก ทั้งตัวรูบี้จึงเหลือแค่ไม้งัดเหล็กเท่านั้น
"[ห้ามไปไหนมาไหนเด็ดขาด จนกว่าผมจะมา]........ทรมาณฉันให้ตายด้วยความเบื่อหน่ายน่ะสิ....." รูบี้เท้าคางบ่น
"........" เด็กสาวเงียบพักหนึ่ง แล้วนึกขึ้นมาอย่างหนึ่ง "เขาบอกว่าไม่เกิน 10 นาที......."
เธอจำได้ จำได้ว่าเรนสัญญากับเธอที่ดื้อรั้นว่าจะกลับมาภายใน 10 นาที
"....คุณผิดคำก่อนน้า เรน" รูบี้แสยะยิ้มที่มุมปาก เธอลุกขึ้นและชูอาวุธหนึ่งเดียว "ถ้าฉันไปหาตอนนี้ก็ไม่ผิดแน่นอน!"
ทางด้านของเรน
แกร๊ก-
เด็กหนุ่มหลบอยู่หลังกำแพง คราวนี้เป็นกำแพงของร้านสะดวกซื้อด้านหลังที่ยังไม่ถูกค้นในตอนนี้
ปืนสตันท์กันในมือเหลือไฟฟ้าพอให้ยิงได้อีก 4 นัด ปืนเก็บเสียงในกระเป๋ามีกระสุนอยู่ในรัง 5 นัด อาวุธระยะประชิดก็มีแค่ปลอกแขนอะลูมิเนียมที่สวมเอาไว้ที่แขนทั้งสอง
'รู้งี้น่าจะเอาลวดด้ายมาด้วย...' เรนมองด้านหลังของตัวเองกับด้านหน้าสลับกัน ตอนนี้เขากำลังปะมือกับเจ้าของถิ่นถึง 5 คน
ในโลกภายนอก บริเวณที่มีทรัพยากร มักจะไม่ใช่ที่ร้างธรรมดา มักจะมีพวกคนที่แข็งแกร่งครอบครองอยู่และปักหลักอยู่จนกว่าของจะหมดไป ถ้าอยากได้ทรัพยากรก็ต้องยอมเป็นลูกน้อง ทำตามที่สั่ง หรือ......ฆ่าแล้วชิงมา
"ตัวก็บาง ทำไมถึงไวขนาดนี้วะ" ชายคนหนึ่งบ่นขึ้น เสียงดังจากหน้าร้าน เด็กหนุ่มสัมผัสได้ลางๆว่ามีอยู่กัน 3 คน
"หนีได้ไม่นานหรอก มีดีแค่ตัวเล็กเท่านั้นแหละ" ชายที่เลือดกำเดาไหลปาดเลือดตรงปากออก
"ผมม-ไม่คิดแบบนั้นน่ะครับ ลูกพี่ มันจัดการน๊อคพวกเราไป 2 คนแล้วนะ" ในเวลา 15 นาที โดยใช้แค่แรงต่อย ชายฉกรรรจ์ร่างใหญ่ก็ตัวปลิวและสลบไป แรงมหาศาลผิดกับร่างที่เล็กและดูบอบบาง
"แล้วทำไมล่ะ ก็แค่แรงเยอะเฉยๆนี่หว่า มันสู้กับพวกกระจอกด้วย" หัวหน้า(ที่เลือดกำเดาไหล)กล่าว สายตาเหลือบไปมองทางเข้าหลังร้าน
"เฮ้ย มึงเข้าไปเช๊คดิ" แล้วเขาก็สั่งลูกน้อง "ค-ครับ??"
"บอกให้เข้าไปไง" ชายหัวหน้ากลุ่มกำมือแน่น กล้ามเนื้อถูกเบ่งออกมา
"ค-ครับผม......" ชายที่ถูกสั่งถึงกับหงอย
ตึก
ลูกน้องเงยหน้ามองไปยังด้านข้างของประตู ทั้งซ้ายและขวา
ไม่มีคน
มันเผยยิ้มโล่งอก และหันกลับมาบอก "ไม่มีอะไรครับผม-"
ผลั๊ว!!!
"แอ๊ก!!" ของแข็งถูกฟาดลงที่ท้ายทอยอย่างแม่นยำ ทำให้ชายดวงซวยล้มลงนอนกับพื้นทันที
"ออกมาแล้วเรอะ ไอ้หนู" หัวหน้ากลุ่มแสยะยิ้ม ไม้หน้าสามถูกยกขึ้นพาดบ่า
"......." เรนเงียบตอบ ใบหน้าครึ่งซีกยังคงใช้ผ้าปิดเอาไว้ ดวงตาสีอ่อนไร้ประกาย
"ห-หัวหน้า!! มันมีปืนด้วย!!" ลูกน้องที่เหลือคนสุดท้ายชี้นิ้วเต้นเร่าอย่างหวาดกลัว จนหัวหน้าต้องหันมาดุ "ไอ้โง่!! ปืนอันนิดเดียว เล็กกว่าที่แกถืออีก!" เสียงตะโกนที่ดังลั่นทำให้เรนปวดหู แต่เขายังพอทนได้ สีหน้าจึงยังเหมือนเดิม
"ชิ- เล็งดีๆอย่าโดนกูนะเว้ย" เหลือคนเดียวให้ใช้งานได้ ชายร่างใหญ่สบัดไม้หน้าสามลงเพื่อข่มขู่
ตึก ตึก ตึก
"ฮืม~ จะได้อะไรมาบ้างรึยังน้า?" รูบี้เดินลากเท้ากึ่งกระโดดอย่างร่าเริง เธอเดินไปมาอย่างมั่วซั่วเพื่อตามหาเรน ยิ่งเดินห่างจากจุดเมื่อกี้มากเท่าไหร่ ร้านอาหารและร้านขายของก็ยิ่งเยอะขึ้น
ปัง!!
เสียงบางอย่างดังขึ้น ทำให้นกกาและเด็กสาวแตกตื่น
"ส-เสียงอะไรน่ะ??" ไม่เคยได้ยิน แต่ก็คุ้นเคย รูบี้หันมองหาต้นเสียง ฝูงนกบินออกจากที่ๆแห่งหนึ่ง
เด็กสาววิ่งสวนทางกับนกสีดำพวกนั้น เหมือนเป็นสัญชาติญาณ
"เรน เรน! คุณอยู่ไหนกันน่ะ??" ใจของเธอไม่สงบอีกแล้ว ความห่วงใยเริ่มเข้ามาปกคลุม
เป้าหมายปลายทาง คือสิ่งปลูกสร้างหนึ่งชั้นทรงสี่เหลี่ยม
ฟึ่บ
รูบี้ลดความเร็วลงและแอบมองเมื่อเห็นกระจกใส สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอไม่สามารถสงบใจได้อีก
เรน
เด็กหนุ่มสวมฮู้ดและปิดใบหน้า แต่รูบี้ก็ยังรู้ว่านั่นคือเรน เด็กหนุ่มใจดี(?)ที่เธอพบเป็นคนแรก
เขากำลังเตะต่อยกับชายร่างยักษ์สูงเกือบ 2 เมตร บนพื้นรอบๆไม่ได้มีแค่ของที่หล่นเกลื่อนกลาด ยังมีร่างคนนอนอยู่ 3 คนอีก
โชคดีหรือร้ายก็ไม่รู้ วูบหนึ่งที่เรนกำลังจะต่อยสวนอีกฝ่าย สายตาของเขาดันไปเห็นเส้นผมสีส้มเพลิงเด่นสะดุดตาเข้า ทำให้สมาธิและความคิดที่ตั้งแผนไว้หายไปทั้งหมดแทบทันที
"เธอ!!" เผลอส่งเสียงร้องออกมา ก่อนที่จะถูกมือหนาต่อยเข้ากลางอก
หมัดที่เกิดจากการฝึกฝนและแรงเหนือคนทั่วไป เมื่อโดนต่อยเข้าใส่ร่างที่บางและเล็กแบบนั้น กระดูกอาจจะหักหรือขยับไม่ได้สักพัก
"!!!" ไม่มีเสียงร้อง มีแค่เสียงกร๊อบและร่างกายที่ลอยปลิวไปชนกับกำแพงปูนดังปั๊ก
ชายร่างใหญ่แสยะยิ้ม ในที่สุดก็ต่อยโดนเสียที แต่ก็ส่งสัยว่าทำไมจู่ๆเด็กคนนี้ถึงชะงักลง และมองออกไปด้านหลังของเขา.....
หัวหน้าถิ่นหันไปมองข้างหลัง และสดุดตาเข้ากับเส้นผมสีเพลิง ใบหน้าเรียวแสดงความตื่นตระหนก
"อ---อย่า----แตะต้อง----แค่ก!!" เรนพยายามพูด แม้ว่าลมหายใจที่สูดเข้าจะทำให้ปอดขยับไปทิ่มกระดูกที่หักก็ตาม เขาไอออกมาเรื่อยๆทั้งๆที่พูดไม่จบ
"หืมมมม? ยังมีหน้ามาทำตัวเป็นพระเอกการ์ตูนอยู่อีกเรอะ?" ชายร่างใหญ่แสยะยิ้ม ไม่สนคำเตือนของเรนและเดินออกไปหาเด็กสาว
เรนพยายามตะโกนห้าม แต่เสียงที่ออกมามีแค่เสียงไอ
"ป-ปล่อยเรนออกมานะ!!" หลังจากที่เลิ่กลันทำอะไรไม่ถูก รูบี้ก็คว้าไม้งัดออกมาตั้งท่าเตรียมสู้ ที่บ้ายิ่งกว่านี้คือเธอดันวิ่งเข้ามาข้างใน
"ยัยบ้า!!อ่อก!!" เรนพยายามจะพูด ตอนนี้เลือดเริ่มไหลออกจากปากพร้อมไอออกมาเป็นสีแดง
"โอ้!! ใจกล้าดีนี่ แม่สาวน้อย" ชายร่างใหญ่หัวเราะ เหมือนหมีที่คำราม
"ถ-ถ้ายังเข้ามา--ฉันจะ---ทุบนะ!!" รูบี้พยายามทำตัวให้ดูน่ากลัว มือที่จับอาวุธเริ่มสั่นและมีเหงื่อไหลย้อม ชายเจ้าของถื่นรับรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นมือใหม่ที่รับมือง่ายมาก
"ฮ่าๆๆ เข้ามาเลยสิ!! สาวน้อย" เขาส่งเสียงเชื้อเชิญ กางมือและแขนออก ท่าทางที่เหมือนลดการ์ดแบบนี้ทำให้เด็กสาวพุ่งเข้าเตรียมฟาดใส่ทันที
"อย่า---!!" กว่าเรนจะบังคับฝืนให้ตัวเองพูดได้ก็ช้าไปเสียแล้ว
ควับ!!
ยังไม่ทันได้ทำอะไร คอบางๆของเด็กสาวก็ถูกมือหนารวบไว้ทันที
"อั๊ก!!!" รูบี้ส่งเสียงร้อง อากาศเข้าไปไม่ถึงหลอดลมของเธอ และความตกใจทำให้อาวุธในมือร่วงลงบนพื้น
ชายหัวหน้าถิ่นแสยะยิ้ม คอบางเรียบเนียนที่สัมผัสเป็นผิวหนังที่นุ่มและหาได้ยาก ยี่สิบปีที่ผ่านมาแทบไม่ได้เห็นร่างกายที่สมบูรณ์และมีค่าขนาดนี้มาก่อน
"ฮึฮึ มีเพชรลอยเข้ากระเป๋าเลยนะเนี่ย" มันพูดก่อนที่จะเพิ่มแรงบีบ เด็กสาวหน้าเริ่มเป็นสีม่วงและไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปาก มือที่ปัดไปมาเริ่มหมดแรง
เด็กหนุ่มที่เห็นแบบนั้น เขาไม่รอช้าที่จะเล็งปืนเก็บเสียงไปที่หัวของชายคนนั้น
ระยะนี้ไม่พลาดแน่นอน แต่ทว่า
"!!!"
ดวงตา
ดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูด นัยน์ตาสีทับทิมแดงที่รื้นไปด้วยนํ้าตามองอย่างอ้อนวอน ทำให้เรนชะงัก
ริมฝีปากของเด็กสาวผมสีเพลิงขยับอย่างช้าๆ ในตอนที่เวลาใกล้จะหมดลง
"อย่าฆ่าเขา"
พึ่บ
"อ๊ะ- เรียบร้อย" ชายตัวยักษ์ผ่อนแรงลงเมื่อร่างกายที่ขัดขืนหยุดขยับลง ใบหน้าของเธอซีดเซียวและดวงตาว่างเปล่า
ตายแล้ว
"ง่ายเกินไปแล้ว อย่างกะปอกกล้วยเข้าปาก" ใบหน้านั้นไม่รู้สึกผิด กลับกันดูลิงโลดได้ใจ "จะขายได้ซักเท่าไหร่กันเอ๋ย? ยังเด็กทั้งคู่เลยด้วย--"
"ฮะฮะฮะ"
เสียงหัวเราะเย็นเยียบดังขึ้น ทำให้ชายร่างใหญ่ที่กำลังจะเปิดเสื้อของเด็กสาวชะงักลง
"......ใครวะ" มันถาม กดเสียงให้ตํ่าเพื่อเสแสร้งว่าไม่กลัว
".......ยัยบ้า" เสียงปริศนาดังต่อไป ไม่สนใจชายร่างใหญ่ที่เริ่มระแวง ศัตรูที่มองไม่เห้น?
"......อีกแล้วนะ"
เป๊าะ
สิ้นเสียงพูดคุยที่ไร้คู่สนทนา เสียงของบางอย่างแตกหักดังขึ้น ทุกอย่างเงียบอยู่สักพัก จนเจ้าของร่างรู้ตัวว่าเข่าของคนอ่อนลงและ
กร๊อก
แตะพื้น
"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!"
เขากรีดร้อง
ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่สมอง ขาซ้ายหักบิดหมุนอย่างผิดปกติเหมือนเข้าเครื่องปั่น สภาพเหมือนดึงลวดออกจากขาล่าง ไม่มีเลือดหรือกล้ามเนื้อฉีกขาดออกมา มันนอนกุมหัวเข่าที่อ่อนปวกเปียกอย่างหวาดกลัว "ข-ขากู!!!!"
"อาาาาาาา.....ถามหาไอ้นี่เหรอครับ?" เสียงผิดมนุษย์ถามหา เสียงเหมือนโปรแกรมคอมพิวเตอร์พูดและขาดหายเหมือนติดบัค มันขาดช่วงและลากยาวจนไม่น่าเชื่อว่ามาจากปากของคน
ชายหัวหน้าถิ่นเงยหน้าอย่างติดขัด ความเจ็บทำให้ความกลัวพุ่งทะลุและทิ้งท่าทีอวดดีไปจนหมด
"อ--อ๊ะ-----อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!" เมื่อเห็นสิ่งที่วางไว้บนมือที่ยื่นออกมา มันก็กรีดร้องอย่างหมดหน้า
กระดูกขา
สีเหลืองนวล กระดูกที่ยังมีข้อต่อกับเท้าอยู่
"ทั้งทั้งที่กะว่าจะไม่ทำอีก....... "
เจ้าของเสียงพูดโดยไม่สนร่างกายตนเองที่หายและบิดไปมาเหมือนจอทีวีที่เสีย ไม่สนเสียงที่ขาดห้วงและขึ้นลงจนน่าปวดหัว ไม่สนใบหน้าที่ขึ้นเส้นสายเหมือนเส้นเลือดและดวงตาที่ย้อมเป็นสีดำสนิท
"ฮะฮะ แกทำผมไม่มีทางเลือก"
ฮู้ดเปิดออก ผ้าปิดหน้าถูกลดลง ใบหน้าของเรนกำลังแสยะรอยยิ้มกระหายเลือด ดวงตาทั้งสองดำมืดเหมือนกลวงโบ๋ เส้นเลือดสีแดงลาดผ่านรอบหน้าเหมือนรอยแตก เลือดข้นสีดำไหลย้อยออกมาจนน่าสะอิดสะเอียน
"ข-ขอโทษษษษษษ!!! ยังไงก็ได้ ไว้ชีวิตป๋มด้วย!!!! เอาร้านนี้ไปเลย!!!" ชายที่เคยอวดดี บัดนี้นอนนํ้าลายและนํ้าตาไหลอาบนํ้าส่งกลิ่นไม่น่าพิศมัย ขอร้องให้ อะไรบางอย่าง ตรงหน้าไว้ชีวิตตน
ใบหน้าของเด็กหนุ่มยังคงแสยะยิ้มน่าขนลุก เหมือนทุกอย่างบิดม้วนและหมุนวน ใบหน้านั้นเข้าใกล้ชายชั่วมากขึ้นเรื่อยๆจนคำร้องขอเริ่มไม่เป็นภาษา เสียงวิทยุขาดสัญญาณส่งเสียงน่ารำคาญต่อไป ป่วนประสาทเสียจนอยากตาย
"@15431@!$@^%!$#@^%!$@^"
".........."
คํ่าแล้ว
กองไฟเล็กๆถูกจุดขึ้น รอบๆมีอาหารสำเร็จรูปแบบต้มวางไว้
".....ไม่" เรนหยิบบะหมี่ที่เขียนว่าเผ็ดขึ้นสวรรค์ไว้ในกล่องที่อัดแน่นไปด้วยของอย่างพวกกรรไกรหรือขวดยาพิษ
"........" ก่อนที่จะหันไปมองร่างหนึ่งที่นอนบนฟูก
เด็กสาวหายใจอย่างช้าๆ เธอพลิกตัวเพื่อนอนอีกท่าให้สะดวกขึ้น เส้นผมสีเพลิงยังเปื้อนฝุ่นอยู่
'....อย่างน้อย...รอบนี้.....สักนิดก็ยังดี....' เด็กหนุ่มก้มหน้า ความหวังในใจที่มีรู้ว่าจะทำให้เจ็บปวดในภายหลัง เขาทำหน้าเครียดไม่รู้ตัว
"......." แปะ เรนตบหน้าตัวเองเบาๆ พยายามปั้นรอยยิ้มบนหน้า
"....ทำได้ที่ไหนกันเล่า" ใบหน้าของเขาที่สะท้อนจางๆบนกระจกนั้นเรียบเฉย ดวงตาสีอ่อนเสียประกายมากขึ้นไปทุกที
จนเธอตื่นขึ้น เรนผลักแรงทั้งหมดปิดกล่องไม้ที่แปะกระดาษเขียนตวัดไว้ว่า [ของอันตราย]
ครั้งที่ 210
"เธอชื่อว่าอะไรเหรอ" เด็กสาวยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร
ดวงตาของเขาฉายแววสิ้นหวัง
"....เรน" อีกฝ่ายตอบกลับ เด็กหนุ่มผมสีฟ้าอ่อนพูดสั้นๆ
"อืม.....ชื่อเรนสินะ ยินดีที่ได้รู้จัก!"
"ส่วนฉันจำชื่อตัวเองไม่ได้ล่ะ ยังไงก็ขอฝากตัวด้วย~"
ถึงเธอจะจำอะไรไม่ได้ เธอก็ยังยิ้มแย้ม
"...รูบี้" "งือ?"
เด็กหนุ่มพูดพึมพำออกมา
"ตาสีทับทิม....เหมือนรูบี้" เรนชี้ที่ตาสีฟ้าหม่นของเขา เหมือนจะบอกสีตาของเด็กสาว
"งั้นเหรอ.....อ่ะ! ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฉันชื่อว่ารูบี้!"
ยังช่วยเธอไว้ไม่ได้
********
12/08/2018
-แก้ไขเนื้อหาคำอธิบายเล็กน้อยเพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาในอนาคต
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น