ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Broken ชีวิตที่พังทลาย

    ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 18 : ผิดกับที่คิด

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 61




    เวลาบ่ายๆ แสงแดดส่องผ่านเมฆหนาลงมาเล็กน้อย อากาศยังคงเย็นและไม่สมควรสูดเข้าไปเหมือนเดิม

    ณ บริเวณปากหลุมของสถานที่ทิ้งขยะขนาดใหญ่ มีคนสามคนยืนอยู่

    "....กลิ่นเลวร้ายชะมัด" คิระในร่างผู้ชายยกผ้าปิดปากขึ้นสวมตามเดิมเมื่อลองสูดดมอากาศ กลิ่นเหม็นเน่าหลายอย่างทำให้จมูกของเขาชาและปวดหัวไปหมด

    "ไหนละทางลง อย่าบอกนะว่าเหมือนไอ้ทางนรกนั่น?" เรนนั่งยอเข่า หรี่ตาพยายามมองสิ่งของที่อยู่ห่างไกลจนเล็กจิ๋ว เหมือนอยู่บนตึกสูง 4 ชั้นไม่มีผิด

    "สไลเดอร์ ทำสไลเดอร์ลงไปกันเถอะ" อามายะกระโดดตบมืออย่างร่าเริง ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร

    "คิดยังไงถึงให้อามายะมาเนี่ย....ปากบอกว่าให้ผู้ชายมาจะดีกว่าแท้ๆ" คิระกดผ้าปิดจมูกให้แน่น อามายะหยุดกระโดดและหันมามอง

    "อ้าว กุ้งยังไม่รู้ได้ไง อยู่กับเจ้านี่มานานกว่าผมไม่ใช่เหรอ" เรนหันมามอง สัมผัสได้ถึงความรู้สึกเหมือนตะหงิดใจว่าเป็นไปได้ยังไง

    "เรื่องอะไรเหรอ?" สีหน้านั้นไม่เข้าใจ  

    "เราเป็นผู้ชายนะ"   
    "ค่อก!!"

    คิระสำลักอากาศเพียงน้อยนิด เรนทำสีหน้าเหมือนสะใจ

    "คนอย่างนายตกใจกับเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ"

    "เป็นใครก็ตกใจทั้งนั้นแหล่ะน่า! ตอนแรกที่นายเจอฉันก็--"



    ครืด!!


    ระหว่างที่เถียงกัน จู่ๆก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้น

    เหมือนบางอย่างขูดเข้ากับพื้นหินดินดานบนเท้า เรนที่นั่งอยู่ชะโงกคอออกไปมอง


    ดวงตา-

    ดวงตาสีเขียวใสคล้ายมรกตสะท้อนแสงวูบ ก่อนที่จะมีเสียงร้องตกใจและมันก็หายไปอย่างรวดเร็ว

    หายไปที่ว่านี่คือเจ้าของดวงตานั้นปล่อยมือออกจากหินที่เกาะและร่วงลงไปทั้งตัว


    "เจอคนแล้ว!! พี่เอซิด!" อามายะพูดใส่ไมค์หูฟังอันเล็ก เป็นคนที่คอยสื่อสารกับเอซิดเผื่อกรณีฉุกเฉิน

    /"อือ--ตามไปเลย แต่ไม่มีทางลง"/ เอซิดตอบกลับ สายตามองภาพบนจอคอม

    ข้าวของวางเรียงบนเนินระเกะระกะ ถ้าสไลด์หรือเดินลงไปต้องติดกองขยะเหล็กตรงกลางทางแน่ๆ กว่าจะถึงข้างล่างต้องใช้เวลาปีนกองขยะสักพัก นอกจากว่าจะเคลียร์เส้นทางให้โล่งซะก่อน.....

    "ฝากด้วยนะเรน!" คิระพูดทันที และเพื่อไม่ให้ตั้งตัว เขา ถีบ หลังของเรนทันที

    "เด-อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!"

    พลั่กกกก!! โครมม!!
     
    อามายะหลับตาลงอย่างหวาดเสียว มีแค่คิระที่มองลงไปและเผลอแสยะยิ้มกว้างดูน่ากลัวออกมา








    ตึกตึกตึก

    "เม! รีบหาที่หลบเถอะ! มีคนมา!" เด็กหนุ่มผู้ทั่วทั้งตัวเปื้อนฝุ่นคลุ้งวิ่งเข้าหาอีกคน เส้นผมสีขาวและเสื้อไหมพรมขนาดใหญ่เกินตัวเปื้อนคราบละอองมอมแมม
    "มีคนมา?? ที่แบบนี้เนี่ยนะ??" เด็กสาวที่สวมหมวกคลุมหัวพูดเหมือนไม่อยากเชื่อ ที่เน่าๆแบบนี้มีคนมาด้วยเหรอ
    "พูดจริงนะ สามคน" เด็กหนุ่มยกนิ้วขึ้นบอกจำนวน ไม่มีท่าทีเหนื่อยหอบ
    "......ใช่พวกคนของทางองค์กรรึเปล่า" เด็กสาวพูดอย่างใจเย็น อีกคนส่ายหัวตอบ "ไม่แน่ใจ แต่ท่าทางดูอันตราย"

    ".....นายซ่อนตัวไว้ พอฉันให้สัญญาณค่อยลงมือ" 













    ครืดดดดด กึก

    "อ๊ะ รอบนี้ฟื้นฟูช้าแฮะ" คิระที่สไลด์ขาลงมาจากเนินสูงพูดทักคนที่นอนเลือดอาบหัวบนพื้น

    "คอหัก"  
    "อุ้ป"

    คิระแกล้งหลับตาแต่แลบลิ้นใส่ ทำให้เรนที่นอนขยับไม่ได้มือสั่นเหมือนอยากต่อย

    "แล้ว-คนเมื่อกี้หายไปไหนแล้วล่ะ พี่เรนมองทันไหมอ่ะ" อามายะนั่งย่อตัวลงถามคนที่นอนบนพื้น ใบหน้าเหมือนผู้หญิงดูเป็นห่วง

    "ไม่ทัน--เห็นแค่หมอนั่นลุกขึ้นวิ่งทันทีเลย..." ร่างกายฟื้นฟูได้มากขึ้น เรนยันตัวขึ้นนั่งทั้งที่หัวและหลังยังเจ็บจี้ด

    "เดี๋ยวๆๆ ลุกขึ้นวิ่งทันที ? เจ้านั่นร่วงหงายหลังกลิ้งหนักกว่านายอีกนะ?" คิระจำภาพที่คนคนนั้นกลิ้งกลมเป็นลูกบอลได้ ไม่รู้ว่าตัวอ่อนหรือกระดูกหายไปทั้งตัว

    "ไม่รู้---อาจจะโชคดี" คนเพิ่งหายคอหักพูด เลือดบนหัวหยดไหลเป็นทางอาบเส้นผมจนแทบเปลี่ยนสี


    "ต้องการอะไร?" แกร๊ก

    อามายะยกมือขึ้นทันที อีกสองคนที่เหลือหันหน้าไปมองทางเดียวกัน

    หมวกมีหู เสื้อผ้าขาดเล็กน้อยที่แขน กางเกงขาสั้น ที่เอวแนบไปด้วยกระเป๋าอันเล็กและมีดขนาดเล็กหนึ่งเล่ม ดวงตาสีแดงมองเหมือนพยายามกดดัน ในมือถือปืนพกขนาดเล็กเล็งมาทางพวกเขา

    "ออกมาแล้ว....คุณนักฆ่า" คิระล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า ไม่ได้หยิบของในนั้นออกมา

    "บอกมา ไม่งั้นฉันจะถือว่าพวกนายเป็นศัตรู" เธอไม่หวั่นไหวหรือทำท่าทีเปิดช่องว่าง ปืนพกในมือชี้ตรงมายังกลุ่มของเด็กหนุ่มทั้งสาม

    "ใจเย็นๆน้า มีคนอยากคุยด้วยน่ะ" อามายะพูด แต่สีหน้าของเด็กสาวยังไม่เปลี่ยน "ใคร?"

    /" P-34 จินเมริ ปรับปรุงพันธุกรรม"/ จู่ๆเสียงของเอซิดก็ดังขึ้น ทำให้เด็กสาวมือสั่นวูบเล็กน้อยก่อนจะกลับมานิ่งเหมือนเดิม ดวงตาสีแดงจ้องเขม็งมากขึ้น

    /"อยากให้เป็นมิตรด้วยน่ะ โดนองค์กรโลก ไล่ล่านี่?"/ มือของเด็กสาวที่ชื่อเมริกระตุกวูบ คิ้วกระตุก

    /"ฉันเอซิด.....เป็นคนที่เธอรู้จักในนั้น"/ เมริลดปืนในมือลง สีหน้ายังเคร่งเครียด และยังไม่ยอมเก้บปืน

    ".....เจสสิก้า เมกาทรอยด์" เด็กสาวพูดชื่อของใครบางคนขึ้นมา เสียงของเอซิดเงียบไปพักหนึ่ง

    /"ว่าไงล่ะ? สนใจเข้าร่วม?"/ ไม่มีเสียงตอบ แต่เมริก็สามารถเข้าใจได้

    "..........." ปืนในมือเก็บลงเข้ากระเป๋า ดวงตาสีแดงกระพริบและลดความระแวงลง

    "ฉันยังไม่ไว้ใจพวกแก ยกเว้นเจสสิก้า" เมริไม่ลดการป้องกันลงทังหมด เธอยังเอื้อมมือไปที่มีดในมืออยู่

    "ไม่ต้องห่วง! ไว้ใจได้แน่ๆ!!" อามายะยกมือโบกอย่างเริงร่า เหมือนไม่ได้รับรู้บรรยากาศจะฆ่ากันตายเมื่อกี้

    "ฉันไม่--"



    แฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!!!

    ในจังหวะที่เด็กสาวกำลังจะพูด ก็มีบางอย่างพุ่งออกมาขากกองเหล็กด้านข้าง 

    เจ้าซอมบี้ไหม้เกรียม

    ดวงตาสีแดงขยับมอง มือคว้าด้ามมีดที่เอว แต่เพราะตกใจจึงทำให้ร่างกายไม่ตอบสนองกับความคิดที่เร็วกว่า

    "อันตราย!!" เสียงร้องของใครบางคนดังขึ้น และในเสี้ยววินาทีเกิดเสียงเครื่องจักรทำงาน







    วู้ม!


    แสงสว่างสีขาวพุ่งผ่านเลยปลายเส้นผมของเมริ และมันมีอาณุภาพรุนแรงมากพอที่จะดูดกลืนร่างของตัวประหลาดให้ขาดครึ่งไปบนอากาศ

    ตุ้บ แผละ

    ของเหลวข้นหนืดสีเข้มกระจายบนอากาศเหมือนฝน ก่อนที่ซากเน่าๆครึ่งล่างของมันจะหล่นลงกระจายเป็นเหมือนผลไม้เน่า ดูแหลกเหลวและไม่น่ามอง

    "......อ๊ะ" ทุกสายตามองไปยังร่างที่อยู่ใกล้ตู้เย็นซึ่งฝาถูกเปิดอยู่ข้างๆ เจ้าของเสียงยืนนิ่งและทำสีหน้างุนงงเหมือนเพิ่งรู้ตัว

    "ผ-เผลอไป! ขอโทษนะเม!!" คนๆนั้นสบัดมือที่มีควันขึ้นก่อนจะเดินกึ่งวิ่งเข้าหาเด็กสาวที่นั่งทรุดบนพื้น

    "เม--"

    "เจ้าบ้า----แค่ปืนก็พอ" เมริหน้ามืด มืดเหมือนปวดหัวกับอะไรบางอย่าง 

    "จริงด้วย----เฮะๆ" เด็กหนุ่มผมสีขาวหัวเราะและเกาแก้มแก้เขิน เป็นท่าทางประหลาดที่ดูไม่เข้ากับสถาณการณ์ เพราะใบหน้าของเขาเปื้อนเลือดสีดำข้นดูน่ากลัว

    "....เมื่อกี้ เลเซอร์เหรอ??" คิระกระพริบตาที่ปวด ยกมือกุมที่ปวดหนึบเหมือนเจออาฟเตอร์ช๊อกของแสงความเข้มสูง

    "ว้าววว แต่คนยิงดูโง่พึลึกเนอะ" อามายะพูดด่าอย่างไม่กลัวโดนสวน ยังไม่พอ เด็กหนุ่มผมสีขาวทำสีหน้าตกใจ "ร-รู้ได้ไง??"

    "ไอ้คนคนนี้มันยังไงกันแน่ คนโรคจิต?" เรนถามคนที่เกลี้ยกล่อมนักฆ่า เสียงของเธอลากยาวเหมือนกำลังคิด

    /"ผิดคาดนิดหน่อย สนุกดี"/ ตอบเหมือนไม่ได้ตอบ เรนถอนหายใจพลางมองคนทั้งสามที่คุยโต้ตบมุขไปมาก่อนที่จะพูดสั้นๆกับคิระ

    "กลับเหอะ"  "อืม"















    ณ ห้องรวมตัว(ห้องของเอซิด)


    "Auto Killing Machanic Doll -B4078 Type High-Hunter ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก--น้า?" เด็กหนุ่มผู้เป็นหุ่นยนตร์พูด ช่วงพูดใกล้จบยกนิ้วขึ้นมาสองนิ้วและ---ชี้เข้าหาดวงตา? ทำท่าเหมือนสาวน้อยไอดอลน่ารักทั้งที่ใบหน้าของเขาดูคมและเหมือนนายแบบมากกว่านางแบบ

    "บอกไปแบบนั้นเกิดเป็นศัตรูขึ้นมา ฉันกับนายจะซวยเอานะ...." เมริทำหน้าเหนื่อยใจ หุ่นยนตร์หนุ่มสะดุ้งและส่ายหัวไปมาสีหน้าร้อนรน

    "เอ่อ! ง-งั้น-- ชื่อ ลูท---ครับ---ลูท" เขาเปลี่ยนคำแนะนำใหม่ เรียกตัวเองว่าลูทแทน

    "ชื่อลูทสินะ ฉันชื่อรูบี้ ยินดีที่ได้รู้จัก" รูบี้ยื่นมือออกมา ลูทจับทักทายกลับและยิ้มตอบ "ครับ"

    "อ๊ะ! คนที่เหมือนผู้หญิงแต่เป็นผู้ชายชื่อคิระ คนดีตรงนี้ชื่อเรน" เด็กสาวชี้นิ้วไปทางเพื่อนอีกสองคน 

    "...ไลคลอริส"  "แอลครับ"  "อามายะจ้า"

    อีกสามคนที่เหลือเหมือนรู้หน้าที่ พูดชื่อตัวเองออกมา ไลคลอริสไม่เต็มใจที่จะพูดเท่าไหร่

    "ฉัน เอซิด" เอซิดยกมือ นอนบนเตียงและพาดตัวลงมาบนพื้นครึ่งหนึ่ง

    "อา-เดี๋ยวเลือดลงหัว-"

    "คิดยังไงถึงอยากให้ฉันเข้าร่วมกลุ่มล่ะ?" เมริพูดตัดคำที่ลูทจะพูด เขาชะงักและหันมามองเมริด้วยสีหน้าเหวอ ไม่กะให้เขาได้พูดอะไรเลยสักนิด

    "หาคนไปถล่มองค์กรน่ะ จินจังสนนี่" เอซิดชี้นิ้วขึ้นลงที่เมริ สีหน้าของเด็กสาวคนนั้นนิ่งแต่ไม่ไร้อารมณ์

    "ก็ใช่....แต่เธอเป็นเจสสิก้าตัวจริงรึเปล่า" เมริเหมือนไม่ยอมพูดตกลงง่ายๆ แม้จะเข้ามาเห็นตัวจริงแล้วก็ตาม

    ".....ฉันไม่ได้เป็นเจสสิก้าอีกต่อไปแล้ว แค่นั้นแหละ" หลายคน หลายคนในห้องยังไม่รู้จึงพลอยไม่เข้าใจความหมายของคำที่เอซิดพูดออกมาซักเท่าไหร่ เรนหรี่ตาลง เขาอาจจะเป็นไม่กี่คนที่รู้เรื่องของเธอมากกว่าใครเขา

    "....ถ้าโกหกหรือหักหลังล่ะก็...ฉันฆ่าจริงๆนะ" เมริสบตา ดวงตาสีแดงสื่อแววออกมาว่าเอาจริง


    เอซิดเงียบทั้งที่ยังยิ้ม เธอหลับตาลงก่อนที่จะลุกขึ้นนั่ง เห็นทีถ้าไม่ทำตัวให้เหมือนเจสสิก้าคนนั้นคงไม่มีทางเชื่อง่ายๆ เรื่องทักษะการคาดเดาน่ะนะ

    "ไม่โกหก พิสูจน์ได้นะ" เมริเปลี่ยนสายตาระแวงเป็นสับสน

    "ให้เดา.....วันหนึ่งเธอออกไปเดินลาดตระเวนกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งแล้วก็โดนหุ่นจักรกลไล่ทำร้าย" รูบี้เอียงคอ ในใจคิดว่ามันไม่น่าจะใช้คำว่าการเดา จากการที่เธอดูเอซิดทุกครั้งที่บอกว่าเดานั้น

    บอกว่า รู้ ไปตรงๆเลยจะดีกว่าซะอีก

    "จินเมริพังหุ่นจักรกลโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้ระบบวิเคราะห์และการควบคุมรวนและหลุดจากการสั่งการของเครื่องตัวแม่" 

    "เธอรู้---" คนที่เป็นหุ่นยนตร์ยกมือและส่งเสียงร้องเหมือนจะพูดบางอย่าง

    "และก็บังเอิญอีก--หุ่นตัวนั้นเผลอปลดระบบระเบิดและเอาออกจากสมองของเมริได้โดยบังเอิญทำให้โดนทางการเข้าใจว่าทรยศและไล่ล่าเธอแล้วเมริก็เกิดประทับ--"

    "ช-เชื่อแล้ว! เชื่อแล้ว! อย่าเล่าเพิ่มเชียวนะ!!" เมริกึ่งลุกกึ่งนั่งป่ายมือห้ามไม่ให้คนตรงหน้าเล่าต่อ เอซิดหัวเราะและยอมหยุดเล่า

    "เม จากนั้นมีอะ-"  "เงียบไปเลย! เจ้าบ้า!!"





    ผ่านมาได้สักพัก


    "....ระบบความจำนายพังรึไง?" คิระพูดอย่างอารมณ์เสีย ลูทเอียงคอท่าทางไม่เข้ากับใบหน้า 

    "ไม่ได้พัง แต่จากที่มองก่อนหน้านี้และตอนนี้ คุณไม่ได้เป็นผู้ชายเหมือนก่อนหน้านี้นี่?" มือที่อยู่ใต้เสื้อไหมพรมแตะๆเข้าที่แขน คิระร่างผู้หญิงใช้มือดันกลับอย่างรำคาญ

    "บอกแล้วไงว่าฉันเป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย" ตอบกลับเสียงเหนื่อย โดนเซ้าซี้ถามมาได้ราวๆ 2 นาที

    "เอ....หรือว่าจะลองวิเคราะห์ดูดี?" ลูทกระพริบดวงตาสีมรกตใสให้นัยน์ตาขยับเคลื่อนเป็นวงกลม คิระส่ายหัวทำหน้าปฏิเสธทันที

    "หยุดเลย ไอ้คำว่าวิเคราะห์ไม่เคยดีกับฉันสักครั้ง"

    "บันทึกคำพูด--"

    "หุ่นยนตร์มีระบบแบบนั้นด้วยเรอะ?"

    /"อืม.....พอจะรู้ระดับความเสียหายแล้วล่ะ"/ นิโคลที่สื่อสารแบบวิดีโอคอลทำยิ้มหน้าแห้งๆ 

    "ขอโทษนะคะ แต่--หุ่นยนตร์แบบคุณลูทคืออะไรเหรอ" รูบี้อยากถามมานาน 

    /"อา จริงด้วย อธิบายไว้หน่อยก็ดี หนูเมริดูไม่ค่อยรู้จักมากด้วยสินะ"/






    /" Auto Killing Machanic Doll เป็นหุ่นแอนดรอย์ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงที่เกิดสงครามแรกๆ จุดประสงค์ในการสร้างคือเอามาใช้ในการรบด้านต่างๆ มีหลายประเภทออกไปตามพื้นที่ที่ได้รับคำสั่งหรือความเหมาะสมของระบบปฏิบัติการ
    ส่วนมากมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ทั่วไปแต่ร่างกายจะยังมีข้อต่อและสมองกลที่ทำงานซับซ้อนและเรียนรู้ได้เร็วเหมือน AI ถ้าตัวเครื่องเสียหายสามารถโอนข้อมูลไปใช้งานต่อในเครื่องอื่นได้"/

    /"ปกติหุ่นพวกนี้จะมีอุปกรณ์สวมครอบหัวเอาไว้เพื่อใช้ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมหรือรับส่งสัญญาณคำสั่งจากเครื่องจักรตัวแม่......"/

    ลูทไม่มีอะไรครอบหัว

    /"แต่ของตัวที่นั่งตรงนี้....ข้างหนูเมริกับเอซิด.....ดูเหมือนจะไม่ได้พังธรรมดาสินะ?"/ นิโคลเขยิบมาใกล้เล็กน้อย ลูทแสดงท่าทีสะดุ้งและถอยเล็กน้อย

    /"......เลียนแบบได้เหมือนคนจริงๆเลย"/ นิโคลยังไม่ขยับถอยออก 

    "ไม่ได้เลียนแบบ....แค่ทำตามที่เมขอมา"  "ห๊ะ!??" ลูทชี้นิ้วไปทางเมริ เด็กสาวร้องงุนงงปนโมโหออกมาเสียงดัง

    /"ฮะๆ ดูสนิทกับหนูเมริดีนะ ไปทำยังไงให้พังล่ะ?"/

    "....รู้สึกว่า....แค่เตะหัวไปสุดแรงเอง....." ถึงจะพูดแบบบนั้น ยากที่จะเชื่อว่าแรงขาของผู้หญิงหักเหล็กหนาได้ แม้จะเป็นเด็กที่ฝึกเป็นนักฆ่าก็ตาม

    /"อ๊ะ งั้นก็คงพังตั้งแต่ตอนก่อนหน้านั้นล่ะ ไม่งั้นบาเรียที่รับนํ้าหนักได้สองตันจะเสียหายง่ายๆได้ยังไง"/ นิโคลทุบมือ พูดเข้าใจเองอยู่คนเดียว

    พร้อมกันนั้นแทบทุกคนในห้องมองสายตามาที่เมริ เมื่อได้ยินคำว่าสองตัน

    "ตอนนั้นตกใจที่เมริทำตัวไม่เหมือนกับที่วิเคราะห์ไว้เลยเผลอปลดระบบทุกอย่าง---ครับ" ลูทเกือบลืมพูดลงท้าย ใบหน้ายิ้มเหมือนเขินอาย "ชำรุดตั้งแต่แรกเลยมากกว่ามั้ง เจ้านี่น่ะ" เรนพูดลอยๆ 

    /"ว้าว เมริ ควรจะดีใจนะที่ทำให้หุ่นจักรกลพังได้เนี่ย"/  "ดีใจไม่ออก....."












    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×