ลำดับตอนที่ #18
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 16 : สอบปากคำ
----เนื้อหาในตอนนี้จะมีการแก้ไขรีไรท์ในอนาคต เพราะมันอ่านแล้วขัดใจเกินไปค่ะ(??) ตอนนี้ขอลงเนื้อหาแบบพึลึกๆไปก่อนนะคะ ขออภัยในความขัดใจและสะดุดควํานี้ด้วยค่ะ---
"กินซุปมิโสะซะสิ"
"............."
บุคคลทั้งสามถูกมัดแขนขาและบังคับนั่งบนเก้าอี้ไม้ เบื้องหน้าของพวกเขามีโต๊ะยาววางตั้ง บนโต๊ะมีโคมไฟส่งแสงสลัว กล้องตั้งโต๊ะขนาดเล็ก และ.....ซุปมิโสะในถ้วยที่กำลังส่งกลิ่นหอมยั่วยวน
"อ๊ะ---ลืมไป---โดนมัดมืออยู่นี่นะ ฮิๆๆๆๆ" เด็กสาวขอบตาคลํ้าหัวเราะอย่างซาดิสต์ ข้างๆมีไลคลอริสและอามายะยืนอยู่ไม่ห่าง
"เลิกเล่นได้แล้ว เอซิด รีบถามพวกมันก่อนที่มันจะวางแผนทำอะไรแปลกๆ" ไลคลอริสกอดอก กำลังฟังเสียงการเต้นของหัวใจและการเคลื่อนไหวของคนทั้งสาม
"โอ้! บางทีอาจจะต้องทรมาณหรือซ้อมซักสองสามทีก่อนล่ะ!!" อามายะพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม จำมาจากในหนังบางเรื่องหรือข่าวในอดีต
"โนๆๆ ไม่จำเป็น" เอซิดยกนิ้วส่ายส่งเสียงจิ๊จะ เธอมีวิธีที่ดีกว่านั้น
ตุ้บ
มือเล็กสีซีดวางบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา เรียกให้บุคคลทั้งสามเงยหน้ามอง
"ใครสั่งให้มา" เด็กสาวโน้มตัวลง มองดูึวันซุปที่ลอยคลุ้ง
".........." เงียบ ไม่มีใครตอบ
".....สงสัยยาจะน้อยไป" เอซิดพูด เธอเห็นคนตัวเล็กสะดุ้ง
"น-นายพลจวงจีอึน" สายตาเคร่งเครียดของซี15หันมามอง กัดฟันและมีเส้นเลือดขึ้นที่ขมับ
"เอ๋? เชื่อได้ไหมนะ"
"พ-พูดจริงๆนะ!! นายพลจวงจีอึนสั่งให้พวกเรา--"
"อี45!!"
เอซิดมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง มองคนร่างเล็กอย่างอี45ส่ายหัวไปมาอย่างหวาดระแวง ราวกับกลัวว่ากำลังโดนจับตามอง
"ฉันตัดสัญญาณในชุดและปิดระบบตามตัวไว้ชั่วคราวแล้ว และพร้อมเปิดใช้ทุกเมื่อ" ในมือเด็กสาวถือรีโมตทีวีเอาไว้ แน่นอนว่าในมือเธอไม่ใช่รีโมตธรรมดาอย่างที่เห็น
สัญญาณที่อี45หรืออีกสองคนกลัว คือสัญญาณระเบิด
ถ้าพูดหรือแพร่งพรายกระจายไปว่าใครออกคำสั่งขึ้นมา หัวของพวกเขาจะระเบิดโดยชิปที่ฝังอยู่ในสมอง
"วางใจได้ อย่าลืมว่าฉันเคยเป็นใคร" เอซิดพาดพึ่งตำแหน่งเก่า ดวงตาของคนที่ตัวสั่นวูบไหวและพยักหน้าอย่างหวาดกลัว
"มาต่อกัน คำสั่งที่ว่า คืออะไร"
"ทำลายเมืองแห่งนี้-ตามหารูบี้ เฟรย์และจับเป็นกลับไป" ซี15ตอบแทนคนที่เหลือ เอฟ07ไม่พร้อมพูดเพราะหัวบาดเจ็บอยู่ อี45หวาดกลัวจนไม่กล้าตอบอะไรมาก
"ขี่ช้างจับตั๊กแตน" เอซิดพูดเมื่อได้ยินคำตอบที่ตรงกับที่คาดไว้
"ส่งหัวกะทิมาถึงสามคน เพียงเพื่อจับตัวคนๆเดียว" ภาพของเส้นผมสีเพลิงปรากฏขึ้นบนหัว เด็กสาวผู้กึ่งอมตะคนนั้น
"ตอนแรกได้รับรายงานข้อมูลภารกิจมา ว่ารูบี้ เฟรย์ เป็นทายาทตระกูลเฟรย์ที่เหลือไม่กี่คนที่สืบความสามารถด้านการต่อสู้ระดับปรมาจารย์มา แต่--" เอฟ07พูดออกมาอย่างลืมตัว ซี15อยากจะทุบหัวเจ้าหมอนี่ให้หลับไปอีกรอบไม่ก็ให้สมองกระทบกระเทือนไปเลย คนในทีมมีแต่พวกปากสว่าง
"แต่รูบี้ เฟรย์ที่เจอ กลับเป็นแค่เด็กผู้หญิงบอบบางสู้ไม่ได้เรื่อง ใช่มั้ยล่ะ?" เอซิดใช้มือเท้าคางกับโต๊ะ โน้มหน้าเข้าใกล้ซี15ที่ทำสีหน้าตกใจ ดวงตาสีดำมองซึ่งกันและกัน
"ไล่ตามล่าฆ่าแทบตายมาเกือบหนึ่งปีเต็ม พอเจออีกทีกลับกลายเป็นคนละคนกับตอนแรก" เธอจิ้มนิ้วกับโต๊ะและหมุนเป็นวงกลม
"ฝีมือพวกตัวเองล้วนๆแล้วยังจะมาสับสนอีกนะ" รอยยิ้มว่างเปล่าฉีกยิ้มขึ้น ทุกอย่างไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด
แต่
"ไม่.....ที่อันตรายจริงๆไม่ใช่รูบี้ เฟรย์ พวกเราไม่ได้กังวลเรื่องการฆ่าลูกเจี้ยบเลยซักนิด คุณน้องสาว" ชายผู้เรียบนิ่งกล่าวขึ้น ส่งสายตาอ่านไม่ออกใส่น้องสาวเมื่อเธอเข้าใจผิดประเด็น เหมือนจะเยาะเย้ยราวกับบอกว่ายังอ่อนหัด
"สัตว์ประหลาดที่อยู่กับหล่อนต่างหาก ที่อันตราย"
"เอาล่ะ! สะอาดเอี่ยมอ่องเลย!!" รูบี้วางผ้าชุบนํ้าหมาดๆในมือลง หลังจากที่ทำการทำความสะอาดไข่นกยักษ์ในฉบับของตัวเองเสร็จ เปลือกไข่มันวับเป็นประกายเหมือนแร่หินอัญมณีสีดำขลับ
"ร่าเริงจังนะบี้ ทั้งที่เมื่อวานเจอเรื่องแบบนั้นเข้าไป" คิระที่นั่งอยู่บนพื้นพูดขึ้น หนังสือการ์ตูนในมืออ่านไปได้ครึ่งเล่ม เด็กสาวส่ายหัวทั้งที่ยังยิ้ม
"ไม่หรอก ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งผ่านไปแค่ห้านาทีอยู่เลย" เด็กสาวผมสีเพลิงยกผ้าขึ้นคลุมเปลือกไข่ที่อุ่นอีกครั้ง ดวงตาสีทับทิมสะท้อนประกายบางอย่าง มือที่จับผ้ากำแน่น
".....บี้กลัวฉันเหรอ" คำถามของเด็กสาว(หนุ่ม)ฉุกให้อีกคนรู้ตัว
"ไม่ใช่หรอก! คิระน่ะใจดี ฉัน-"
"ฉันเกือบฆ่าเธอไปนะ"
เสียงนั้นไม่ได้พูดอย่างสบายอารมณ์ มันหนักแน่นและไม่ได้ล้อเล่นตลก
"........" รูบี้หันมามอง คนที่บาดเจ็บยกหนังสือขึ้นปิดหน้า บังไม่ให้เห็นว่ากำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่
"ถ้าฉันไม่ประมาทล่ะก็....เธอก็คงไม่ต้อง........" เขาพยายามเก็บความรู้สึก รู้สึกเหมือนตัวเองนั้นไร้ประโยชน์
เขาก็แค่คิด คิดว่าถ้าตัวเองพุ่งเข้าตะปบเจ้านั่นซะตั้งแต่แรก ถ้าไม่มัวแต่ตกใจที่มีดถูกแย่งไปล่ะก็--
"ไม่หรอก"
"ไม่หรอก ไม่ว่าคิระจะฆ่าฉันหรือไม่ฆ่าฉันตั้งแต่แรก" รูบี้หลับตาลง พูดด้วยเสียงที่ปลอบโยน
"ฉันไม่หนักใจ เกลียด หรือโมโหหรอก มันเกิดขึ้นเร็วมากนี่นา แม้แต่เอซิดหรือเรนยังนึกไม่ถึงเลย แล้วฉันกับคิระยิ่งแล้วใหญ่" เด็กสาวนั่งลงใกล้กับคนที่มุดหน้ากับหนังสือ
"ตอนนี้ฉันก็ยังหายใจและนั่งคุยกับคิระอยู่นะ อย่าคิดว่าฉันโดนเธอฆ่าไปแล้วเลย" เธอยิ้ม ยิ้มด้วยความบริสุทธิ์ใจ
"........." คิระมุดหน้ากลับลงไปในหนังสือที่เปิดค้างไว้ เด็กสาวข้างๆยังคงนั่งและไม่ขยับไปไหน
"....ขอบคุณ" เสียงขอบคุณที่แผ่วเบา นํ้าเสียงเดาได้ยากว่ากำลังดีใจหรือเศร้าอยู่
รูบี้ผู้ใสซื่อไม่ได้ยิน
"เอ๋? พูดเบาจัง ขอโทษนะ พูดอีก--"
"ขอบคุณ ขอบคุณที่ไม่โกรธ---"
"หวา!! คิระ! ทำใจดีๆไว้!!"
แปะ
"........" เรนที่ตัวเปียกยืนอยู่หน้าประตูได้ยินทุกอย่าง แม้ไม่ได้เปิดเข้าไปก็ได้ยินเสียงสนทนาปลอบโยนนั้น ใบหน้าของเขาคาดเดาอารมร์ไม่ออก มันเรียบนิ่งเกินไป
"....ยัยบ้า" เขาพูดเบาๆ กำมือแน่น อารมณ์มากมายกำลังผุดขึ้นมาในตัว
"จะกี่ครั้งก็ยัง---เหมือนเดิมเลย"
"คนร้ายหนีไปซะแล้วล่ะน้า" มือของเด็กผู้ร่าเริงยกขึ้น ไม่สนใจสีหน้าเงิบๆของคนในห้อง
"น-หนีไปแล้ว" คิระไม่อยากเชื่อหู ทำอีท่าไหนให้ตัวอันตรายหลุดออกมาง่ายๆกัน
"โดนหลอกประสาทเข้าให้อ่ะนะ หนีเก่งกว่าสู้จริงๆเล้ย" อามายะยกมือยักไหล่ทำสีหน้าบอกว่าช่วยไม่ได้
"พูดความจริง เพราะกลัวระเบิด" เอซิดโยนรีโมตในมือลงบนพื้น เธอแค่บลัฟไปว่าสามารถควบคุมระเบิดได้ ความจริงก็แค่ฝากเรนกับอามายะคอยรบกวนสัญญาณให้ พายุฝนฟ้าคะนองทำให้สัญญาณไม่ดี เมื่อพวกนั้นพูดอะไรออกมาสัญญาณคลื่นก็พลอยไม่ได้รับสัญญาณไปด้วยจากการที่ถูกรบกวนโดยไฟฟ้าและฝนที่หนาแน่นผิดปกติ
"ไม่เก็บตัวไว้จะดีกว่า พวกนั้นเป็นถึงทหารพิเศษที่ถูกองค์กรโลกเลี้ยงมา" ไลคลอริสพูดเสริม เป็นความจริงที่ว่าพวกนั้นอาจจะหักหลังหรือตีลับหลังเมื่อไหร่ก็ได้
"เอาล่ะๆ ช่างเรื่ององค์กรนั่นก่อน พวกเธอทั้งสองเป็นใครอ่ะ?" อามายะยังไม่รู้จักเพื่อนใหม่ทั้งสอง จึงถามด้วยเสียงที่ร่าเริง
"เมื่อกี้วุ่นวายมากนี่นะ คนหัวฟ้าขี้เก๊กชื่อเรน ส่วนผู้หญิงใจดีนี่ชื่อรูบี้" คิระแนะนำตัวทั้งสองแบบเรียบง่ายและรวดเร็ว พร้อมกับไม่ลืมที่จะกัดคนที่ทำหน้าดุใส่
"เราชื่ออามายะ ยินดีที่ได้รู้จัก เย้" อามายะชูสองนิ้ว ใบหน้ากลมน่ารักและยิ้มแฉ่ง รูบี้พยักหน้าพลางคิดในใจว่าคนๆนี้ดูร่าเริงดี
ไม่เหมือนเอซิดที่ยิ้มตลอดเวลาหรือแอลที่ดูมีลับลมคมใน อามายะยิ้มเหมือนคนขี้เล่นและชวนให้รู้สึกสบายใจมากกว่า
"เมื่อกี้ได้เรนมาช่วยงานด้วยล่ะ ขอบใจด้วยนะ" อามายะพูดขอบคุณเรน เขาพยักหน้าเงียบๆ
"....?" รูบี้เห็นท่าทีของเรนแล้วเธอเกิดรู้สึกแปลกๆขึ้นมา เขาดูเงียบผิดปกติหลังจากเรื่องเมื่อวานมาก ยังกังวลอะไรอยู่รึเปล่านะ
"ไม่มีอะไร" เรนเหมือนจะเห็นใบหน้าสงสัยของรูบี้ เขาเบือนหน้าหลบและบอกออกไปแบบนั้น
ไม่ใช่แล้ว....มีปัญหาในใจชัดๆ รูบี้คิดแบบนั้น ตอนนี้เธอได้ความทรงจำกลับมาบ้างแล้ว ทำให้เธอคิดและอ่านสถาณการณ์ได้ดีขึ้นมากโข
"......." เอซิดมองเห็นบรรยากาศอึดอัดลางๆแม้ทั้งห้องจะกำลังพูดคุยสบายอารมณ์กันก็ตาม
"นิโคลอยากจะคุยด้วย" "?"
เด็กสาวพูดขัดขึ้น จงใจให้เรนได้ยิน
"จะต้องอยู่ด้วยกัน แนะนำให้รู้กันทั่ว"
".....เรื่องใหญ่กว่าที่คิดแฮะ" คิระที่ได้ฟังเรื่องจากเสียงของนิโคลผ่านจอคอมพิวเตอร์ นึกไม่ถึงว่าการได้เจอกับรูบี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้
/"รู้สึกผิดนิดๆนะเนี่ยที่ลากเด็กแบบพวกเธอมาเกี่ยวถึง 6 คน"/ นิโคลเกาหัว รู้สึกแย่ที่ลากคนอายุน้อยกว่าตัวเองร่วมสิบปีมาร่วมชะตากรรม
"งั้นแสดงว่าพี่รูบี้โดนเล็งมาตั้งแต่หนึ่งปีที่แล้วน่ะสิ?" อามายะยกมือชี้จรดปาก นิโคลพยักหน้า
/"ในช่วงนั้นฉันวุ่นกับการหาที่หลบภัย กับช่วยรักษาแพทตี้ด้วย"/ เด็กผู้หญิงที่ใบหน้ามีรอยปะโผล่หัวขึ้นมา ใช้นิ้วจิ้มบนหน้าจอ
/"เรื่องภายในอะไรนั่นฉันไม่ค่อยรู้มาก แต่ที่รู้คือเผ่านกเพลิงยังไม่ได้ถูกกวาดล้างไปทั้งหมด"/ นิโคลปัดหน้าจอ ปรากฏภาพบางอย่างขึ้นบนจอฝั่งของเอซิด ทุกคนเขยิบเข้าใกล้
/"ตระกูลเฟนิคอนถูกยืนยันว่าเหลือไม่ถึง 20 คน ตระกูลเฟรย์ยืนยันไม่ได้ ส่วนตระกูลฮวงไม่มีข้อมูล พวกเฟนิคอนหนีไปหลบอยู่ใต้ดินตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว แถมยังตัดขาดกับโลกภายนอกโดยสมบูรณ์"/
"คนที่ออกมาข้างนอก ถูกเจอ แค่รูบี้" เอซิดพูดสรุปง่ายๆ
"แล้วจะไล่จับไปทำไมล่ะ ในเมื่อพวกนี้ตายไม่ได้??" คิระงุนงง มันดูแปลกๆพิกล จับไปก็วุ่นวาย ทั้งก่อกบฏหรือฟื้นคืนชีพมาไล่ล้างแค้นอีก
/"จริงอยู่ที่ฆ่าตายแล้วจะฟื้นขึ้นมาไร้บาดแผล เพราะงั้นเลยถูกจับเป็นกันทั้งหมดเลยไงล่ะ"/
รูบี้ตัวเย็นเฉียบ
/"ควักลูกตาทิ้งโดยไม่ให้ถึงตายป้องกันไม่ให้หนี ตรึงร่างโดยโซ่ล่ามหรือปักหมุด"/
"ง-งั้น พี่ก็--"
/"ยังยืนยันไม่ได้แน่นอนหรอก สาวน้อย บางคนหนีไปได้ทั้งๆที่ตาบอดหรือขาขาดไปแล้ว"/ นิโคลรีบพูด แต่ไม่ได้ช่วยให้รูบี้เบาใจขึ้น
/" เอซิด เธอพอจะเดาคำตอบได้ใช่ไหม?.....สิ่งที่ฉันต้องการน่ะ?"/ หญิงสาวเล่ามาทั้งหมดไม่ได้มีเป้าหมายอย่างต้องการให้ตามหาคน
".......ฮะๆๆ"
เอซิดหัวเราะ หัวเราะด้วยเสียงที่เหมือนหัวเราะใส่เด็กๆ
"พันธมิตร สร้างกองทัพ" หลายคนหันมามองเอซิดอย่างแตกตื่น
/"ฉันรู้สึกผิดนะ....แต่ก็ตามนั้นแหละ" นิโคลขอโทษ ขอโทษที่ตัวเองขออะไรที่มันเกินตัวและลำบาก
/"รวบรวมผู้คน-และบุกเข้าไปช่วยคนในนั้น"/ คำขอที่เห็นแก่ตัวแต่ก็รู้ตัวดี
/"ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา ฉันผิดเองที่ไม่รู้ตัวให้เร็วกว่านี้"/ เธอลูบหัวของแพทตี้ น้องสาวเพียงคนเดียวของเธอ
/"ขอโทษด้วยที่ฉันเห็นแก่ตัว-"/
"ไม่"
นิโคลพูดยังไม่ทันจบ ก็มีเสียงของเด็กสาวผมสีเพลิงพูดขัด ดวงตาของเธอแน่วแน่
"คุณไม่ได้เห็นแก่ตัว คุณแค่อยากช่วยเหลือคนอื่น.." รูบี้พูดความคิดของตนออกไป
/".....ฮ่าๆๆ เดี๋ยวนี้ฉันต้องโดนเด็กปลอบใจแล้วงั้นเหรอ แก่ซะแล้วสิ"/ นิโคลยิ้มทั้งที่ถอนหายใจ
"บอกแผนมาเลย คุณพี่สาว" เอซิดเห็นท่าทีไม่ปฏิเสธของทุกคน เธอจึงตัดสินใจไปว่าทุกคนคงเห็นด้วยที่ว่าจะช่วยคนนับร้อย
/"ฉันต้องใช้ของนิดหน่อยกับขอร้องเอซิดให้สร้างอะไรอีดนิด.....พวกเรามีเวลาสักสามปีได้ เพราะฉะนั้น ไม่จำเป็นต้องรีบจนเกินไป"/
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น