ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12 : ไม่ให้พักเลย
".............."
"ร------"
ท่ามกลางเกล็ดหิมะสีขาวที่โรยจากฟ้าลงมา บนทุ่งหญ้าสีดำมืดเหมือนถ่าน
ในรูโพรงต้นไม้ขนาดใหญ่ มีร่างหนึ่งกำลังนอนขดตัวบนกองซากไม้และหญ้าแห้ง
หัวยืดยาวทั้งสองหันคนละทาง ลำตัวที่ปกคลุมไปด้วยขนขยับขึ้นลงช้าๆ ดูเหมือนกับก้อนลูกบอลที่หนาและดูนุ่มผิดธรรมชาติ
"......นอน.....ทั้งๆที่ไม่น่าจะอยู่ได้เนี่ยนะ" คิระร่างผู้ชายที่แอบหลบอยู่หลังขอนไม้ขนาดใหญ่กับอีกสองคนพูดเบาๆ ถ้าจำไม่ผิดนกกระจอกเทษมันสัตว์ที่อยู่อาศัยในที่แห้งแล้งไม่มีหิมะ
"สัตว์กลายพันธุ์.....ปรับร่างกายให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่อยู่....." เรนถือไม้ช๊อตไฟฟ้าเอาไว้ สายตาปรือเหมือนง่วงนอน
"นายไปนอนเหอะ ฉันดูรูบี้ให้ได้" คิระเกาหัว ก่อนหน้านี้ก็พูดประโยคนี้ไปรอบหนึ่ง คนตรงหน้าก็ดันดื้อดึงไม่ยอมไปนอนมุ่งมั่นที่จะจับตาดูรูบี้อยู่ดี
"......หรือว่าเพราะเมื่อคืน--"
"ไม่---เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่มีหิมะ---" เรนปฏิเสธคำพูดของเด็กสาว เผลอหาวออกมาเมื่อพูดจบ
"เป็นคนบอกว่าสัตว์จำศีลเองแล้วก็ง่วงนอนเอง....นายเป็นปลาไหลไฟฟ้ากลายพันธุ์รึไง" คิระหยิกผมสีฟ้าอย่างหมั่นไส้ เจ้าของเส้นผมมองเหม่อไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ตัว "เหรอ.....ผมพูดสินะ"
"เอ่อ--ฉันว่าเรนไม่ไหวแน่ๆเลย" รูบี้ยังมองออกว่าเกินเยียวยา คิดว่าแบบนี้เรนคงโดนเตะเป็นคนแรก
"เฮ้อ....ขนาดง่วงยังทำตัวเหมือนแม่ขนาดนี้ อิจฉาเธอขึ้นมายังไงก็ไม่รู้" คิระเกือบนึกถึงอดีตของตัวเอง เขาทำให้เด็กสาวงุนงง
พรึ่บ-
"เอ๊ะ ฝนจะตก-" รูบี้พูดทักเมื่อจู่ๆรอบตัวก็มืดลง แล้วเงยหน้าขึ้นเพื่อยิ้มทักทายฝน
แล้วก็เจอกับ---ดวงตากลมสีฟ้าหม่นและนํ้าลายที่ไหลยืดลงมา
แปะ แปะ
"........." ทั้งสามเงียบ มีเรนที่เงยหน้ามองขึ้นไปอีกคน
"อ๊ะ มันตื่นแล้ว"
โครม!!!
ขาที่ใหญ่และแข็งแกร่งฟาดตะปบลงเข้ากลางวงคนทั้งสาม แรงนั้นมากพอที่จะบดไม้ท่อนข้างๆให้ละเอียดเป็นชิ้นๆได้ แรงนั้นทำให้ทั้งสามกระเด็นกระดอนแยกออกจากกัน
"แกว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!" นกยักษ์กระทืบเท้าดังตึงตัง สะบัดหัวทั้งสองไปมาพร้อมเหวี่ยงอย่างมั่วซั่ว
"วิ่ง!!" คิระที่มีสติรีบพูดบอกคนที่เหลือ ก่อนที่จะถีบเท้าเข้าเกียร์และวิ่งแยกกันออกไป
ตึกตึกตึกตึก
"....รัง-รัง-รัง" คิระที่วิ่งเร็วที่สุดมุ่งเข้าหารังใต้ต้นไม้ ไม่ลืมที่จะหันไปมองข้างหลังเพื่อดูว่ามีอะไรตามมาบ้าง
ตึง ตึง ตึง
"เวรเอ้ย!! จะเร็วไปไหน!" เขาสถบเสียงดังด้วยใบหน้าหวาดผวา เพราะนกตัวนั้นวิ่งไม่กี่ก้าวก็เข้าใกล้ตัวเขาได้แล้ว!!
เปรี๊ยะ!!
กระแสไฟฟ้าแล่นวูบ ทำให้ร่างใหญ่นั้นกระตุกวูบ ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด
"อา---ช๊อตไฟ" เรนพูดเหมือนยํ้าว่าตัวเองทำอะไรลงไป ดวงตาสีซีดกำลังจะปิดเต็มที ในมือถืออาวุธค้างไว้อยู่
"ฝากด้วย!!" คิระตะโกนบอกเรน เขาวิ่งเข้าใกล้เศษหญ้าแห้งๆนั่นแล้ว
"แกว๊กกกกกกกกกกกก!!!"
พรึ่บ!!
"อ๊ะ---"
หัวของนกกระจอกเทศโน้มลงใกล้ตัวเด็กหนุ่มที่ไม่ระวังตัว จะงอยปากงับเข้าที่หมวกเสื้อและยกขึ้นโดยมีเสียงร้องอย่างงุนงงเพียงอย่างเดียว
ผลั๊วะ!!!
"!!!!!"
ขานกที่ใหญ่และแข็งแกร่งของมันพุ่งขึ้นข้างบนอย่างรวดเร็วและเตะเข้าใส่กลางตัวของเป้าหมาย ร่างของเขาถูกผลักไปตามแรงก่อนที่จะพุ่งไปเกลือกกลิ้งบนพื้นสีดำโดยไม่ทันได้ร้องอะไร ถ้าเป็นคนธรรมดาคงแค่กระดูกหักโชคร้ายหน่อยก็กระดูกทิ่มปอดตายแทบทันที
"เรนนนน!!!" รูบี้ร้องอย่างตกใจ แรงเตะนั้นแรงมากจนร่างบางบิดงอ เธอที่บังเอิญหันไปเห็นจึงร้องออกมาดังลั่น
นกกระเทศที่หูดีอยู่แล้ว หันไปมองเด็กสาว
"!!!" คิระเข้าใกล้รังได้แล้ว---แต่สิ่งที่เห็นทำให้เบี่ยงความสนใจไปจนหมด
รูบี้ยืนนิ่ง สีหน้าตื่นตกใจ มองร่างใหญ่ที่วิ่งเข้าใกล้ขึ้นทุกที
"แกว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!"
"ร------"
ฉึก
หูของเขาได้ยินบางอย่าง
คิระกลืนเสียงลงไปในลำคอ ได้ยินเสียงเหมือนบางอย่างปักเข้าเนื้อ
ฉึก
โครม!!
นกยักษ์ตัวกระตุกครั้งที่สอง เหมือนกับโดนไฟช๊อต แล้วสุดท้ายมันก็เหวี่ยงหัวทั้งสองไปมาแล้วล้มลงอย่างแรงจนพื้นสั่นสะเทือน
"..................."
รูบี้ยืนค้าง
ในมือที่มักจะถูกปิดด้วยแขนเสื้อยาวถือบางอย่างสะท้อนแสงเอาไว้ เธอหอบหายใจและขยับมือที่ไขว้กันไว้ออกอย่างเก๋ๆกังๆ
"บี้!!" คิระเลิกสนรังขนาดใหญ่แล้ววิ่งไปหาเด็กสาวที่อยู่ไม่ไกล ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่สัมผัสได้ว่าเสียงหัวใจของนกนั้นเต้นช้าลงมาก
"ต-ตกใจหมดเลย" รูบี้พยายามหายใจให้ทั่วปอด ขาทั้งสองทรุดลงนั่งกับพื้นหญ้า
"บี้ ไม่เป็นไรใช่ไหม" คิระชะลอความเร็วเมื่อเข้าใกล้ มองนกยักษ์ที่นอนไม่ห่างจากตัวเด็กสาวเกิน 20 เซน
"ย-ยังไม่โดนจิกหรือเตะนะ......จู่ๆมันก็ล้มลง" ดวงตาสีทับทิมมองที่นกลิ้นห้อยอย่างหวาดผวา เมื่อกี้อีกนิดเดียวก็จะโดนเตะหรือจิกตายแล้ว
"เอ๋ ไม่ใช่ว่าบี้จัดการมันเองเหรอ"
"??"
เด็กสาวไม่รู้ตัว เธอเอียงคอทำหน้าตางุนงง
"เออ.....บี้ยังกำไว้อยู่เลยนะ....ของในมือน่ะ"
เธอไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าตัวเองถือเข็มบางยาวประมาณ 15 เซนติเมตรไว้ในมือร่วม 8 อัน
"หว่า!! มาจากไหนอ่ะ" รูบี้กางมือออก เข็มบางๆร่วงกราวลงบนพื้นหญ้าสีดำ
คิระหัวเราะเบาๆ สายตาเหลือบไปมองร่างตรงหลัง
เสียงหัวใจเงียบไปแล้ว
"ก่อนที่จะไปรังของมัน ไปหาเจ้าไฟฟ้าก่อนดีกว่า" คิระเห็นเส้นผมสีฟ้าลู่กับลมแล้วอดพูดไม่ได้ ในหัวนึกภาพตัวคนหักครึ่งท่อนไว้เรียบร้อย
"หลับอยู่ล่ะ" รูบี้ใช้เข็มจิ้มใบหน้าที่หลับตา สภาพของเรนไม่ได้หักบิดเหมือนที่คิดไว้ ตัวยังตรงและกระดูกติดกันดีอยู่
"อึดชมัดยาก ขนาดโดนเข้าจังๆยังหายใจอยู่" คิระแปลกใจ ทั้งตอนลงท่อผิดท่าหรือตอนนี้เรนก็ยังไม่ตาย เริ่มคิดว่าร่างกายของเจ้านี่เป็นหุ่นยนต์ขึ้นมาตะหงิดๆ
"เจ็บโครต----" เรนพูดอย่างสะลึมสะลือ ดวงตาปิดแน่นและสั่นเหมือนยังไม่ลืม
"ดูท่าจะยังมีสติอยู่.......รีบไปแล้วรีบกลับกันเถอะ"
ในรังขนาดใหญ่ ข้างในที่อยู่หลังเศษไม้ที่กองบนพื้น มีของที่กำลังแข่งกันส่งแสงประกายวิ้งวับ
"ว้าววว ปิ๊งๆล่ะ"
รูบี้ทำสีหน้าตื่นเต้น มีของที่ไม่คุ้นอยู่เต็มไปหมด
"บี้ตามหาหิน ส่วนฉันจะหาของไปให้งูพิษ" คิระเดินเข้าหากองสิ่งของที่ส่งแสง เด็กสาวพยักหน้า "...แล้ว....ผมล่ะ" เรนถามหาหน้าที่ตัวเอง
"ลุกขึ้นได้เมื่อไหร่ก็มาช่วยละกัน" เรนนอนฟุบกับพื้น ส่งเสียงอือก่อนที่จะก้มหน้าลงหลับต่อ
"ฮะๆๆ...." รูบี้หัวเราะแห้งๆ เห็นคนที่ปกติก็ง่วงอยู่แล้วง่วงหนักขนาดนี้ ทำให้เธออยากรีบพากลับยังไงก็ไม่รู้
'รีบหาดีกว่า จะได้กลับเร็วๆ' คิดแบบนั้นแล้วก็หันไปข้างๆ
กึก
เท้าของเด็กสาวโดนอะไรยางอย่าง เธอชงักและก้มหน้าลงไปมอง
ลูกบอล?
หรืออะไรที่เหมือนลูกบอลสีดำขลับขนาดเท่าลูกแตงโมกลิ้งบนพื้น รูบี้หยิบมันขึ้นอย่างสงสัย นํ้าหนักก็เหมือนกับตอนที่ยกถังนํ้าที่เติมนํ้าจนเต็ม
'หิน? แต่อันใหญ่จัง ไม่ส่งแสงวิ้งๆด้วย' รูบี้อุ้มของปริศนาเอาไว้ เจ้านี่ไม่ใช่ของที่ส่งแสงวิ้งวับ เพราะงั้นนกตัวก่อนหน้านี้ไม่น่าจะขนของแบบนี้มาไว้ในรังนี่นา
"บี้ เจอรึยัง--- อะไรน่ะ" คิระยกตู้ไมโครเวฟสีเทาขึ้นแล้วหรี่ตาลงมองของในมือเด็กสาว ได้ยินเสียงบางอย่างจากในนั้น
"ไม่รู้สิ.....หินมั้ง?"
"มันเรียบไปนะบี้ ไม่ใช่หินแล้ว"
"ไข่"
จู่ๆเรนก็พูดออกมา ทำให้ทั้งสองหันขวับอย่างพร้อมเพรียง
"วางไข่ปีละฟอง......เพราะกลายพันธุ์.....หาววว" เรนพลิกมานอนหงาย มือยกมาปิดปาก ดวงตามีนํ้าตาไหล
"ข-ไข่-----ไอ้นกตัวยักษ์นั่น----ตัวเมีย??" เหมือนคิระไม่อยากจะเชื่อ คิ้วกระตุกและรอยยิ้มเก้ๆกังๆ
"อ๋ออออ ก็ว่าทำไมมันอุ่นๆ-"
3 ชั่วโมงต่อมา
"อือ....ทำหน้าตาน่ากลัวจังนะครับ...." ตอนนี้ทั้งสามได้ทำการเดินทางมาส่งของให้เอซิด และในจังหวะที่กำลังจะเคาะประตูห้องของหล่อนก็เจอเข้ากับไลคลอริสและแอล
"....บี้.....เอามันกลับไปวางที่เดิมเถอะ" คิระทำสีหน้าอ้อนวอน อยากให้คนที่กอดไข่สีดำเปลี่ยนใจ
"ไม่ได้นะ คิระ!! ถ้าปล่อยไว้มันก็จะตายนะสิ!!" รูบี้แข็งขืนกระชับไข่ลูกนกยักษ์ไว้ในแขน
"ดูสนิทกันมากขึ้นนะ ไปทำอะไรมากันรึเปล่า" ไลคลอริสเหมือนจะจับความเปลี่ยนแปลงของเด็กสาวได้ คนที่โดนเรียกสะอึกทีนึง
"แค่ขู่ไว้ว่าจะริบอาหารของเจ้ากุ้งถ้าเถียงกับเธอน่ะ" เรนโกหกหน้าตาย ตอนนี้เขาตื่นและไม่ง่วงนอนแล้ว
"ขู่ไว้แปลกจริงนะ....แต่ถ้าเป็นคิระก็ไม่แปลก"
"ห-หมายความว่ายังไง?? จะว่าฉันเห็นแก่กินเหรอ"
"อ้าวๆ มุงอะไรกัน เข้ามาสิ" เอซิดแง้มประตูออก ดูเหมือนจะรู้ว่ามีคนยืนอยู่ถึง 5 คน
"เห้? เป็นตัวเมีย ฆ่าเอาไข่มา" เอซิดมองไข่ขนาดใหญ่สีดำที่วางไว้บนหมอน ห่อเอาไว้ด้วยผ้าขนหนูหลายชั้น เธอเคาะเปลือกด้วยนิ้วเบาๆ
"อุ่นๆอยู่ด้วยล่ะ ยังมีชีวิตอยู่นะ!" รูบี้อยากจะยื้อชีวิตของลูกนกตัว(ไม่)น้อย คิระอยากจะเถียงแต่ก็เถียงไม่ออก
ทำไมน่ะเหรอ?
เพราะก่อนหน้านี้ หลังจากที่รูบี้เก็บเศษหินสีแดงเล็กๆได้ เธอก็พูดและเปลี่ยนท่าทีไปเล็กน้อย
ดูเหมือนเด็กที่โตขึ้น การคิดไม่ได้คิดง่ายๆแบบเด็กๆ ดวงตาแน่วแน่
เปลี่ยนไปแต่ก็ดูไม่ขัดแย้งมาก ถึงอย่างนั้นคิระก็ปรับตัวไม่ทัน
"ช่าย--ยังมีชีวิตอยู่" เอซิดใช้มือทั้งสองจับเปลือกไข่ ดวงตามองที่เด็กสาวผมสีเพลิง "แต่จะฟักรึเปล่า"
"......" รูบี้หยุดหายใจไปห้วงนึง
"ฮิๆๆๆ ใจเย็นๆ แค่ยังไม่ถึงเวลา" เอซิดหัวเราะที่แกล้งเด็กสาวได้สำเร็จ ไลคลอริสทำสีหน้าไม่ชอบใจ
"ขอบคุณ ไมโครเวฟ" ตุ้บ เอซิดยกกล่องที่ชื่อว่าไมโครเวฟขึ้นจากพื้น และวางไว้บนที่นอนตัวเองที่อยู่ไม่ห่าง
"สไปเดอร์ลิลลี่ มีอะไร" เอซิดหยิบสายไฟที่ขดอยู่ในตัวเก็บสายของเครื่อง เรนกระตุกคิระกับรูบี้ว่ากลับกันได้แล้ว
"คนขององค์การโลกเริ่มทำตัวไร้สาระอีกแล้ว เธอรู้รึยัง"
กึก
มือที่ขยับจับสายไฟสีดำหยุดชะงัก ใบหน้าของเธอหุบยิ้มและดวงตาเปิดออก
"ผมรู้ตอนที่ไปเดินเล่นข้างนอกรั้วไฟฟ้า พวกคนใส่ชุดน่าสงสัยเกือบสิบคนกำลังเดินตรวจหาบางอย่าง" แอลไม่พูดจาน่าขนลุกหรือเอนอ่อน เขาพูดเหมือนแค่จะบอกเรื่องที่รู้ด้วยเสียงเรียบเฉย
"เอ..... หรือว่า จะโดนเจอ" เอซิดขยับหูฟังให้เข้าหูมากขึ้น ใบหน้าไม่ได้ยิ้มระรื่น
"เฮ้ๆ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวพวกเราใช่มั้ย" คิระยกมือขึ้นถาม ใบหน้าของเด็กสาวอัจฉริยะพยักตอบ
"แผนกวาดล้าง4.0 กำจัดพวกกลายพันธุ์และผู้มีพลังพิเศษ" เอซิดกัดเล็บตัวเอง เธอไม่รู้ตัวได้ยังไงกัน
"ก-กำจัด??" รูบี้ไม่ใจเย็นหรือทำสีหน้างุนงง เธอพูดเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง
"อือ.....เคยเกิดขึ้นมา 3 ครั้งแล้ว ครั้งนี้ครั้งที่ 4" แอลผิงประตูไม้ มือเลื่อนไปจับลูกบิด
"เมืองนี้มีรั้วล้อมไว้อยู่ แต่แทรกเข้ามาผ่านจุดที่ชำรุดได้" ไลคลอริสเขยิบไม้เท้าในมือ เธอไม่ได้ยินเสียงประหลาดจึงพอคลายความระแวงได้บ้าง
"......จะบอกว่าให้ระวังตัวงั้นเหรอ" เรนลองถามจุดสำคัญที่ถูกยกขึ้นมาคุย
"ประมาณนั้น แอลก็ตายได้ ถ้าไปเจอ" รูบี้เผลอสูดลมหายใจเสียงดังเมื่อได้ยิน แอลที่บอกว่าตัวเองพลังฟื้นฟูเร็วน่ะเหรอ ตายได้เลย
"อืม---เมืองนี้โดนเล็ง เป็นไปได้สูง" เอซิดปล่อยมือจากเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่ เดินเข้าไปใกล้ตู้เก็บขวดยา
"ง-งั้น ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็อันตรายน่ะสิ?" รูบี้มองขวดยาที่ถูกหยิบออกมาจากตู้
"อืม" ตอบสั้นๆ เอซิดกำลังใช้สมาธินึกคำนวณบางอย่าง ขณะที่นิ้วมือก็ขยับเข็มฉีดยาให้สูบของเหลวในขวดออกมา
"อามายะน่าจะจัดการไหวอยู่ ถึงจะเป็นฤดูหนาวก็เถอะ" ไลคลอริสปิดจมูก เหมือนได้กลิ่นฉุนรุนแรง
"อืม" เด็กสาวตอบสั้นๆ เธอฉีดของเหลวบางอย่างเข้าร่างกายตัวเอง รูบี้สงสัยว่ามันคือยาอะไรในขณะเดียวกันก็ไม่อยากถาม
"อยากให้ถ่วงเวลา"
"?" ไลคลอริสเงยหน้าที่ก้มอยู่ขึ้น ทั้งสงสัยและรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างลางๆ
"ยิ่งโต้กลับไปเยอะ ฆ่าไปเยอะ ยิ่งเป็นจุดเด่น จะลำบาก" เอซิดสูดลมหายใจเมื่อของเหลวในหลอดถูกฉีดจนหมด
"เหรอ----!!!" ไลคลอริสรู้สึกได้ยินบางอย่าง หัวของเธอหันขวับ ดวงตาสีซีดมองไปทางประตูที่แอลกับรูบี้ยืนอยู่ เด็กสาวผมสีเพลิงทำสีหน้าตกใจ "ค-คลอริส??"
"12 คน"
โครม!!!
ครืนนนน
ปัง!
"คิระ เรน รูบี้ รีบออกไป!!" เอซิดทุบมือลงกับโต๊ะ ดวงตาที่ดำคลํ้าเบิกกว้างเหมือนตกใจ เพราะเสียงระเบิดหรืออาจจะเพราะบางอย่างที่ยิ่งกว่าระเบิด
"อ-เอ๋!!? เกิดอะไรขึ้น!!" รูบี้ถามอย่างสับสน พื้นสั่นไหวเหมือนเกิดแผ่นดินไหว คนในห้องพากับคว้าหรือจับผนังเพื่อทรงตัวกัน
"ชิ--เสียงมัน---" ไลคลอริสโมโห แก้วหูปวดไปหมดเพราะมีเสียงมากมายดังขึ้นทั้งเสียงคนบนถนน เสียงแผ่นดินที่เคลื่่อนไหว เสียงเครื่องจักรไอนํ้าที่กระทบเคร้งครัง
"รูบี้ห้ามใช้ไฟหรือให้ใครเห็นสีผม เรนเตรียมรับคลื่นจากนิโคล คิระคอยป้องกันทั้งสอง" เอซิดขยับตัวพุ่งเข้าที่คอมพิวเตอร์ ปากสั่งและนิ้วมือพิมพ์ลงไปบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว
เรนไม่รอช้าที่จะคว้าคิระและรูบี้ที่อยู่ข้างๆและพลักประตูวิ่งออกไป
"ฮิกังบานะ แอล อยู่กับฉัน รอสัญญาณจากอามายะ" เอซิดกวาดสายตามองข้อมูลบนจอที่ถูกพิมพ์ หน้าต่างกล้องวงจรปิดถูกเปิดอย่างต่อเนื่อง เธอลากบางส่วนออกมาไว้ข้างนอกจอ
แอลปิดหูของไลคลอริส มองดูคนตรงหน้าและเสียงพิมพ์อย่างร้อนใจ
จริงอยู่ที่เขานั่นไม่ตายง่ายๆ จะออกไปเหวี่ยงอาวุธสู้กับคนเลยก็ได้
เพียงแต่มีเงื่อนไขที่ทำให้ไปไม่ได้
เขาสู้ไม่เป็น
"ทั้งสามคน....ขอให้รอดตายนะ" แอลภาวนา
"-ซ่า- ขอยํ้าอีกครั้ง ให้ทำลายทุกอย่างพร้อมจับเป็นรูบี้ เฟรย์"
"และหากพบ The giltch ให้กำจัดได้ทันทีไม่ต้องรอคำสั่ง"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น