ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7 : เมืองอันตราย
กึง กึก
"....ไม่เป็นไรแน่ๆนะ" ดวงตาสีฟ้าอ่อนฉายแววไม่เชื่อ มือที่ถือไฟฉายเคาะไปบนท่อนํ้าขึ้นสนิม
"รับประกันได้เกินร้อยเปอร์เซ็นต์" เด็กสาวในชุดฮู้ดกระต่ายยืนยันคำเดิม ไม่มีใครสนใจสาวน้อยผมสีเพลิงที่ชะเง้อหน้ามองลงไปในท่อนํ้าขนาดใหญ่ข้างๆ
"ฮัลโหล----?? ไม่มีเสียงตอบกลับด้วยล่ะ!!" รูบี้ตบพื้นเหล็กเรียบๆอย่างเริงร่า ขัดกับอีกคนที่ยืนทำหน้าไม่ไว้ใจ
"ดูยังไงก็ไม่น่าจะปลอดภัย ไม่ได้หลอกเอาผมมาฆ่าหมกท่อใช่มั้ย" เรนไม่คิดเหมือนรูบี้ที่ว่าน่าสนใจ มองว่าเป็นของอันตรายมากกว่า
"ไม่ได้หรอกน่า ฆ่าหมกท่อมันโดนเจอศพเร็วไป"
"อะไรคือฆ่าหมกเหรอ?"
คิระบอกว่ารู้จักเมืองแห่งหนึ่งถูกเรียกโดยคนใกล้ๆว่า สตีม(Steam) มีประชากรอาศัยอยู่อย่างสงบในระดับหนึ่ง ถึงแม้จะมีการฆ่าตามถนนและดักปล้นชิงทรัพย์ อย่างน้อยก็ไม่มีการตั้งตนว่าเป็นเจ้าของถิ่นและลากหาลูกน้อง ที่สำคัญคือไม่มีพวกบ้าควักเครื่องในไปขายด้วย
ทรัพยากรยังเหลือและถูกผลิตเรื่อยๆ-- และทางเข้าเมืองที่ค่อนข้างอันตรายเพราะมีรั้วไฟฟ้าแรงสูงล้อมไว้ ถ้าเข้าพลาดขึ้นมาจะโดนไฟดูดจนกลายเป็นซากคนตากแห้งประดับไว้ให้ดูเล่น
แน่นอนว่าคนมากประสบการณ์อย่างคิระมีหนทางในการเข้าออกที่ดีกว่าทางนั้น
และสุดท้ายก็มานั่งมองปากท่อนํ้าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางรวม 4 เมตร ขึ้นสนิท เก่า ไม่มีนํ้า ซํ้าข้างล่างยังดำมืดตือและเสียงสะท้อนก็ไม่ดังกลับมา
หลุมฆ่าตัวตายชัดๆ
"ฉันไปเมืองนั่นมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ว และทางนี้ปลอดภัยกว่าเข้าด้านหน้า" คิระยกมือค้างไว้หน้ารูบี้เหมือนกั้นไม่ให้เธอเข้ามาใกล้ เด็กสาวทำตาปริบๆ
".........." เรนยังจ้องเขม็ง ไม่อยากเชื่อสิ่งที่ขัดกันขนาดนี้
"ไม่มีไฟฟ้าเหมือนทางอื่น และนี่เป็นทางลับด้วย ไม่คิดว่าวีไอพีเหรอ" คิระนั่งบนปากท่อ พยายามเกลี้ยกล่อมให้อีกคนยอมโดดลงไป
"..........." ใบหน้านั้นยังมองที่ท่อนํ้าลึกเหมือนเด็กไม่ยอมไปโรงเรียน
"งั้น----ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!"
"!!!???"
จู่ๆคิระก็สปริงตัวออกจากท่อ ตะโกนเสียงดังลั่นจนเรนตกใจและย่อตัวลง
เมื่อย่อตัวลงและอยู่ในระดับความสูงที่ตํ่ากว่า มือที่มีเรี่ยวแรงเหมือนแขนหมีก็ตะปปเข้ากลางตัวของอีกฝ่ายไม่สนเสียงร้องดังอั๊กอย่างเจ็บปวด
และพลักลงไปในท่ออย่างง่ายดาย
"อ๊ะ" เรนส่งเสียงร้องสั้นๆหลังจากที่โดนแรงหมีควายชกเข้าที่กลางอก ขาเบาและว่างเปล่าเหมือนไม่มีที่เหยียบ จู่ๆภาพเบื้องหน้าก็เลื่อนลงและ-
"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก-ก---อ-อ้าากกกกกกกกก!!!!!"
เด็กหนุ่มส่งเสียงร้องอย่างตกใจ มันดังแค่แปปเดียวและก็เงียบแล้วก็ดังอีกรอบ พร้อมกับมีเสียงกระแทกเหล็กดังปึกปั๊กสะท้อนมาเบาๆค่อยๆเงียบไป
"......เรนจะเป็นอะไรรึเปล่า??" รูบี้เหงื่อตก ได้ยินเสียงขาดๆหายๆแล้วใจคอไม่ดี
"ไม่ต้องห่วงฮะบี้.....ถึงจะลงผิดท่านิดหน่อยกระดูกไม่น่าหักเยอะ" คิระหัวเราะแห้งๆ เผลอต่อย-ไม่สิคว้าซะเต็มแรงด้วยแรงเท่าหมีซํ้ายังทุ่มลงไปอีก ถึงจะไปได้ในที่สุดแต่คงบาดเจ็บไม่น้อย
"บี้ ให้หย่อนขาลงไปก่อนนะ แล้วค่อยปล่อยมือแล้วสไลด์ลงไป....ไขว้แขนติดกับตัวด้วย จะได้ไม่หัก"
"โอเช!!"
ปั๊ก โครม!!
"อั๊กกก--!!" เรนหยุดกระแทกกับเหล็กบางๆเมื่อสามารถไถลกลิ้งบนพื้นเรียบๆเป็นเส้นตรงได้
เลือดไหลออกจากปากเพราะกัดลิ้น เลือดกำเดาก็ไหลเพราะหัวกระแทกไปเมื่อกี้ สีหน้าเจ็บปวดเพราะจำสัมผัสที่กระดูกหักทั่วร่างได้ ยังดีที่คอไม่หักไปด้วย ไม่งั้นไม่ทันการแน่
"ต้อง---แก้-แค้น--" เรนลุกขึ้นและพยายามใช้แขนที่กระดูกเข้าที่แล้วยันตัวให้นั่ง ร่างกายขึ้นสี่เหลี่ยมและไม่เสถียรเหมือนจอทีวี ถึงการใช้ [บัค] จะช่วยให้ร่างกายกลับสภาพเดิมได้เร็ว แต่แลกกับการที่เขาจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ไปชั่วขณะ
ไอ้ที่ไปขู่ฆ่าโจรนั่น ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ โชคดีที่ไม่ได้ลงมือฆ่าไป รอดตายไปเป็นบ้าแทนก็สุดกำลังแล้ว
"ฟุ่บ! แลนดิ้งอย่างสวยงาม!" รูบี้ตามลงมา เธอสามารถเดินออกมาจากท่อได้โดยไร้รอยขีดข่วย "อ๊ะ---เรนเลือดออก!!" ใบหน้ายิ้มแย้มหุบยิ้มทันทีเหมือนเห็นเด็กหนุ่มใบหน้าอาบเลือด
"ไม่เป็นไร---แค่หัวกระแทก" เรนพูดทั้งๆที่เลือดกลบปาก รูบี้ส่ายหัวไม่เห็นด้วย "เดี๋ยวจะเหมือนฉันเอาได้นะ ความจำเสื่อมเชียวนะ!!"
"ว้าว แค่หัวแตกเหรอเนี่ย โชคดีจังนะนาย" คิระยิ้มไร้เดียงสาในใบหน้าของสาวน้อย ไร้รอยขีดข่วนอีกคน
"กลับขึ้นไปเมื่อไหร่....จะเผาบ้านนายทิ้ง" เรนเช็ดเลือดที่มุมปาก สายตาโกรธแค้น
"ขอโทษน่าาา ถ้าไม่โยนลงมานายก็ไม่ยอมลงนะสิ" คิระยกมือขึ้นเหมือนบอกช่วยไม่ได้นี่นา
"อย่างน้อยเรนก็แค่หัวแตกสินะ ไม่ได้ลืมอะไรไปเนอะ" รูบี้ผู้ไม่รู้จักความร้ายแรงของหัวแตกยิ้มอย่างโล่งอก คิระเหงื่อตกและคิดในใจ 'ไม่หรอกบี้.....อีกสักพักหมอนี่อาจจะสมองไหลออกมาก็ได้นะ'
"แล้ว--ตรงนี้คือแถวไหนของเมืองที่ว่าล่ะ" เรนหยิบผ้าจากในกระเป๋าออกมาซับเลือดบนหัว คิระกลอกตานึกสักพักแล้วตอบ
"แถวชานเมือง ใกล้ๆกับสุสานคนไร้ญาติ"
ด้านข้างเป็นแม่นํ้าที่ถูกขุดและเทพื้นด้วยปูน ยังมีนํ้าใสไหลผ่านอยู่ แถวนี้น่าจะเป็นคูของเมือง
ท้องฟ้าถูกปิดด้วยหลังคาคล้ายของโดมในสยามยิมคลุมไว้ มีรูและรอยขาดเล็กน้อย ท้องฟ้าอีกครึ่งซีกของเมืองถูกเปิดโล่งและมีควันไอนํ้าจางๆลอยขึ้นสูง
เสียงเครื่องจักรทำงาน ไม่ใช่เครื่องจักรเหมือนที่เห็นทั่วไป--เป็นเครื่องจักรพลังไอนํ้าที่ส่งเสียงทำงานเบาๆฟังเพลินหู
"สารพิษที่นี่มีน้อยกว่าเมืองอื่น ประชากรก็น้อยแต่ทำงานประกอบอาชีพแทบทุกคน ที่สำคัญคือไม่บ้าเงินมากด้วย " คิระเดินนำหน้าทั้งสอง รูบี้เดินตามอย่างเริงร่า เรนเดินด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ขอแค่อย่ามาตอนพลบคํ่าหรือเข้าซอยตรอก" ประโยคนี้ของคิระทำให้รูบี้เกิดอาการอยากถาม
"ทำไมเหรอ? เวลาโจรชุกชุม?"
"ถูกส่วนหนึ่ง เป็นเวลาของ-"
พลั่ก!!
"โอ้ยยย!!"
พูดไม่ทันจบ เท้าของคิระก็เหยียบเข้ากับบางอย่าง ส่งเสียงร้องเปร๋งๆ สัมผัสคุ้นเคยเหมือนเหยียบหลังคน-
"หวา!! มีคนนอนอยู่บนพื้น!!"
รูบี้ชี้นิ้วพูดอย่างตกใจ เรนชะเง้อหน้านิ่งๆมามองแล้วนิ่งไปจริงๆ
มีคนนอนอยู่---ไม่ใช่นอนธรรมดา ทั้งตัวมีรอยเท้าเหยียบและนอนควํ่าบนกองกิ่งไม้หนาม ตัวสั่นและเบาลงเรื่อยๆเหมือนหมดแรง
"เขาจะตายไหมอ่า!! รีบช่วยกันเถอะ!!" รูบี้ถลาลงนั่งข้างร่างที่สั่นหงึกๆ เรนเหงื่อตกและไม่ค่อยอยากมีเมตตาไปกับรูบี้สักเท่าไหร่ จึงต้องจำใจเข้าไปช่วยพยุงร่างบนไม้หนาม
"แฮะๆๆ ขอบคุณนะครับ พวกคุณเป็นคนดีสุดๆไปเลย" เด็กหนุ่มผู้มีร่างกายเปื้อนฝุ่นยิ้มขอบคุณ ใบหน้าที่แปะผ้าก๊อซและมีรอยแผลบวมโดยเสี้ยมมากมายดูชวนเจ็บแทน
"อ-อือ....ไม่เป็นไร" แม้แต่รูบี้ผู้ใสซื่อยังดูออกว่าคนคนนี้ไม่น่าจะปกติ
"แอลเขามีรสนิยมพึลึกอยู่แล้วล่ะ นึกไม่ถึงว่ารอบนี้จะนอนบนหนาม" เหมือนคิระจะรู้จัก มือปิดกล่องปฐมพยาบาล
"อืออออ ผมไม่ได้ลงไปนอนนะ คลอริสขอร้องมาต่างหาก" แอลปากแข็งไม่ยอมรับว่าสมัครใจทำ
"........หมอนี่ชื่อแอล แอล ลิรัส เป็นคนขายเลือดให้พวกหมอเถื่อน" คิระไม่คิดที่จะสนทนาต่อ เขาวางมือบนไหล่ของแอลอย่างแผ่วเบาเหมือนไม่ต้องการลงแรงอะไรใส่
ใบหน้าเต็มไปด้วยผ้าก๊อซ ดวงตาประกายสีอิฐแดงดูเหมือนธรรมดา เส้นผมสั้นสีดำอ่อนเกือบเทา เขาสวมหมวกไหมพรมสีนํ้าตาลเหมือนดินและผ้าพันคอสีนํ้าเงินซีดทำให้ดูจดจำได้ง่าย ดูๆไปก็เหมือนเด็กผู้ชายวัยรุ่นธรรมดาที่มีแผลเต็มตัวตลอดเวลา
"คนขายเลือด?" รูบี้มีคำถามขึ้นมา จำได้ว่าคิระบอกว่าไม่มีการค้าอวัยวะมนุษย์
"ผมขายเลือดจากคนที่ตั้งใจบริจาคและศพที่เพิ่งตายครับ ไม่ได้ฆ่าหรือเอาอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้" แอลยิ้มตอบด้วยเสียงค่อย เรนมองหน้าของแอล
"อือ....แล้วพวกคุณคือ....เพื่อนใหม่ของคิระคุง?" เหมือนจะได้โอกาศถาม แอลไม่ลืมว่ามีคนไม่คุ้นหน้าอยู่สองคน
"อ๋อ ประมาณนั่นแหละ ผู้หญิงผมสีสวยๆชื่อรูบี้ ส่วนคนขี้เก๊กชื่อเรน" เรนทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่าขี้เก้ก
"รูบี้.....เรน......" แอบทบทวนชื่อ ก่อนที่จะยื่นมือซ้ายที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลออกมา "ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
"มาซื้อของ..อืออ...ช่วงนี้พวกพ่อค้าแม่ค้าต้องการเนื้อครับ ถ้าหาได้จะช่วยต่อรองราคาได้ดีเลย" ทั้งสี่เดินออกมาจากแถวคูนํ้า มีแค่แอลกับคิระที่คุยกันรู้เรื่อง รูบี้เดินตามแบบงงๆ เรนฟังคำพูดเพื่อหาสิ่งที่เรียกว่าคีย์หลัก
"อืม...ขอบใจนะ แล้ว ยัยนั่นเป็นไงบ้าง" พอคุยได้สักพักก็ถามถึงอีกคน แอลทำหน้าสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบาๆและหันไปมองอีกทาง
"สบายดีครับ เธอมีความสุขดี"
"?"
รูบี้เห็นท่าทางแปลกๆของแอลแล้วงุนงง เสียงที่พูดว่าเบาอยู่แล้วยิ่งเบาแทบเท่าเสียงกระซิบ
".....ยังอยู่กันเหมือนเดิมสินะ" คิระทำสีหน้าเหมือนหวาดระแวง เห็นได้ยาก ยิ่งทำให้รูบี้และเรนไม่เข้าใจว่าพูดถึงอะไรเข้าไปอีก
"ฮะๆๆ พอพูดถึงแล้วก็อยากให้ถึงเวลาเร็วๆจังนะครับ" แอลหัวเราะเหมือนมีความสุข สำหรับคิระกลับดูน่าขนลุกเป็นที่สุด
"อุ้.....อุส่าต์คิดว่าเรนน่ากลัวกว่านายได้แล้วแท้ๆ.....รู้สึกแย่จัง"
"หาเรื่องรึไง เจ้ากุ้ง"
หลังจากนั้นก็เดินไปซื้อของด้วยเงินที่คิระพอมีติดตัว และต้องอึ้งเมื่อเห็นเหรียญที่เรนยื่นให้ เมื่อได้ยินคำตอบที่บอกว่าเก็บมาจากคนที่เคยจัดการก็ทำให้พอเบาใจไปได้ว่าไม่ได้ใช้พลังจิตขโมยมา
เพราะลำพังก็มีขโมยเยอะแยะไปหมดอยู่แล้ว ถ้าคนที่เดินทางร่วมด้วยเป็นขโมยขึ้นมาอีกคงกลายเป็นกลุ่มอาชญากรรมโดยสมบูรณ์ และการอยู่ที่นี่จะไม่ง่ายอีกต่อไปด้วย....
"เท่านี้น่าจะพอแล้ว" คิระปิดกระเป๋าลง ซื้อกระสุนปืนและอาหารกระป๋องมามากพอ รูบี้ที่เดินซื้อของครั้งแรก(หลังจากที่เสียความทรงจำ)กระโดดอย่างสนุกสนาน "คราวหน้าไว้มาเดินด้วยกันอีกนะ แอล!!"
เด็กหนุ่มที่มีผ้าพันแผลทั่วตัวทำสีหน้าอึ้งเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มตอบ "อือ ไว้เจอกันใหม่นะ"
"........." เรนมองดูแอล พยายามมองหาบางอย่างและนึกคำไปเรื่อยเปื่อย อย่างพวก แผล การทรมาณ เลือด ผ้าพันแผล แต่แปลกที่ไม่เจอคีย์หลักเลย หรือว่าจะเป็นคนธรรมดาที่ไม่วิเศษวิโสอะไร?
"งั้น ผมไปหาคลอริสก่อนน้า"
"...!...."
เมื่อคำๆหนึ่งเอ่ยออกมาจากปากของเขาที่กำลังจะโบกมือ เหมือนกับเป็นประกายไฟให้ใครบางคน
"บ๊ายบาย!" รูบี้โบกมือลาอย่างเริงร่า ส่วนคิระแค่โบกมือเงียบๆ
"บี้.....อย่าไปสนิทกับแอลมากนะ....." คิระพูดขึ้นเมื่อแอลเดินลับสายตาไป รูบี้หันมามองอย่างงุนงง
"เห็นแบบนั้น.....เป็นคนที่น่ากลัวสุดๆเลยล่ะ...." แม้แต่คิระยังไม่กล้าพูดถึงมาก เด็กสาวเอียงคอส่งสัญญาณไม่เข้าใจ
"........น่าขนลุก" เรนพูดเบาๆ คิระได้ยินคนเดียว
"เอ.....อย่าบอกนะว่าทุกครั้งที่เจอคีย์อะไรนั่น....ตาจะเป็นแบบนั้น?" เด็กสาว(หนุ่ม)ชี้นิ้วไปที่ตาของตัวเองเหมือนบอกให้เรนรับรู้ เหมือนจะเพิ่งรู้ตัวจริงๆ ดวงตาถูกย้อมเป็นสีดำสนิท
".....พึลึก......เป็นคนจริงๆเหรอ" เรนทำหน้าเหมือนเจอของน่าขยะขแยง รูบี้งงหนัก
"อะไรอ่าาาา ฉันไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียวเลย" รูบี้งอน ทำหน้างอแง อยากตามคนอื่นทันบ้าง
"....อธิบายยากนะบี้...เอาเป็นว่าแอลชอบวิ่งเข้าหาเรื่องเจ็บตัวน่ะ"
ตึกตึกตึก
ครืดดดด
ฝ่าเท้ายํ่าไปบนพื้นอิฐเก่าๆ ฝ่ามือจับผนังที่ไม่เรียบ มืออีกข้างลากของที่หนักอึ้งอย่างไม่สะทกสะท้าน
"อ๊ะ เจอแล้ว" เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา เจ้าของฝ่าเท้ามือและของหนักๆหยุดเดินทันที และหันไปทางต้นเสียง
"สายันต์สวัสดิ์.....แอล" เด็กสาวตอบกลับด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง เปลือกตาปิดไว้แน่น
"อือ วันนี้จะซักกี่คนเหรอ??" แอลถามด้วยเสียงตื่นเต้นราวกับเด็กที่รอรายการซื้อของจากแม่
"......วันนี้มีเข้ามาน้อย อาจจะซักสี่คน" เธอตอบพร้อมหันหน้ากลับไป
"อืออ.... งั้นผม-"
"อย่าเข้ามาใกล้ตอนที่ฉันฆ่าอีกล่ะ มันเกะกะ" เด็กสาวตอบอย่างไร้เยื่อใย ทำให้เด็กหนุ่มยิ้มแห้ง
"ครับ.....จะพยายาม" แอลเสียดาย แต่ก็ยอมฝืนใจตามที่เด็กสาวตรงหน้าต้องการ
"คลอริส" นั่นคือชื่อย่อๆของเธอ เด็กสาวที่เดินตระเวนในยามราตรี
ไลคลอริส
********
12/08/2018
-แก้ไขเนื้อหาคำอธิบายเล็กน้อยเพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาในอนาคต
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น