ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6 : ทำความรู้จัก
อุ่น
เด็กหนุ่มที่หลับลึกสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่แต่เขาก็กอดมันเอาไว้
คล้ายกับตอนที่เธอคนนั้นยื่นมือเข้ามาหา ถึงแม้จะถูกทำร้ายสารพัดหรือพูดจาขับไล่ไสส่งไป
เธอก็ยังยิ้ม ยํ้าซํ้าๆว่าอยากจะอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม
แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวที่อบอุ่น อยากจะสัมผัสและยื้อไว้ให้นานที่สุด
อยากจะช่วยเธอออกมา อย่าให้เธอต้องทรมาณไปมากกว่านี้
"ร....."
"......."
"เรน....?" เสียงใสดังขึ้นไม่ไกล ทำให้เรนที่ถึงเวลาตื่นปรือตาขึ้นช้าๆ สติพร่าเพราะได้หลับลึกขนาดนี้เป็นครั้งแรกหลังจากผ่านเหตุการณ์จำเป็นมาหลายอย่าง
เช้าแล้ว?
"......เอ่อ.....เรน?" สัมผัสได้ถึงฝ่ามือที่จับบนแขนซ้าย กลิ่นจางๆคล้ายกลิ่นของหอมของไม้เผา
สมองของเด็กหนุ่มทำงานเมื่อดวงตาที่ปรือออกมองเห็นเส้นผมสีเพลิงในระยะใกล้--
รู้สึกเหมือนกำลัง กอด อะไรเอาไว้ชิดตัว เมื่อผ่านไปไม่ถึงสามวิ คนที่เพิ่งตื่นก็ดีดตัวเองออกจนปลิวทันที
โครม!!!
"อุ้ก!!" หัวเหมือนจะกระแทกบางอย่างเข้า เรนใช้มือกุมหัวที่กระแทกเข้ากับบางอย่าง
"ร-เรน!! ไม่เป็นไรใช่มั้ย??" เด็กสาวลุกขึ้นนั่งและคลานมาหา
"หย--หยุดก่อน!!!" มือยื่นออกมาห้าม รูบี้หยุดทันที
".........." เรนกึ่งนั่งกึ่งนอน ใบหน้าเหมือนคนเห็นอะไรที่เซอร์ไพรส์ที่สุดในชีวิต เขายกมือทั้งสองข้างที่สั่นหั่นฝ่ามือมามอง "เรน?" เด็กสาวนั่งงงเป็นไก่ตาแตก
"อ--อ-อ-ออ--อ-ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่" ท่าทางของเด็กหนุ่มเหมือนปลาขาดนํ้า ทั่วทั้งตัวสั่นเหมือนไม่ยอมรับบางอย่าง เสียงแหบเสียด้วย
"ไม่อะไรเหรอ? ไม่ให้กอด-"
"ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!" เมื่อได้ยินคำว่ากอด ราวกับคำสั่งพลีชีพจากหัวหน้า เรนพุ่งตัวขึ้นกระชากฝากล่องจนปลิวออกไปและกระโจนล้มตัวลงไปในนั้นโดยลืมไปว่ามีใครบางคนอยู่ในนั้น
"โอ้ย! นาย-- กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!" เสียงโทนผู้หญิงร้องโวยวายและกรีดร้องเมื่อโดนสวมกอดรัดอย่างแน่นหนา
"ไปไกลๆนะเว้ย!!! หยะแหยงชิปเป๋ง!!!"
โป้ก!!!
ฉ่า---
เรื่องจบลงด้วยกำปั้นหนักของคิระร่างผู้ชาย ซึงตอนนี้ได้กลับร่างเป็นสาวน้อยที่นั่งลูบแขนทำตาขวางใส่เรนผู้ทำอาหารเช้า ส่วนรูบี้นั่งจัดจานและช้อนส้อมบนผ้าปูอย่างเพลิดเพลินโดยไม่รู้เรื่องอะไร
"นายไม่เคยนอนละเมอรึไง ดีใจซะที่ทำไปแค่นอนกอดเฉยๆ" คิระนั่งขัดสมาธิกับพื้น ไม่ลืมที่จะพูดจิกใส่เรน
"เคยซะที่ไหนเล่า ไม่เคยหลับลึกนี่นา" เด็กหนุ่มลูบหัวที่โนจะเป็นมะนาวพลางโรยผงปรุงอาหารลงไปในหม้อ คำตอบทำให้คนฟังขมวดคิ้ว
"ไม่เคยหลับลึก? พูดอย่างกับ--" พอพูดไปได้ครึ่งนึงก็นึกขึ้นได้ สายตามองไปยังเด็กสาวผมสีเพลิงที่นั่งพับทิชชู่
"อ๋อ....ถือว่าไม่เคยพูดละกัน" ใช่ งานดูแลเด็กนั่นแหละ
"......." หลังจากที่กินจานแรกหมด คิระมองจานในมือสลับกับใบหน้าของเรนที่นิ่งเฉย
"มีอะไร?" พอโดนจ้องก็ถามออกไป
"ไม่นึกว่าพวกขี้เก๊กแบบนายจะทำอาหารอร่อย"
"หาเรื่องเรอะ"
รูบี้หัวเราะเบาๆ รู้สึกสนุกและดีไปพร้อมๆกัน ไม่เคยเห็นเรนแสดงสีหน้าหลากหลายขนาดนี้มาก่อน บางทีที่ตัดสินใจให้คิระมาอยู่ด้วยอาจจะไม่เลวร้ายนักก็ได้
10 นาทีต่อมา
"ไม่อยากเชื่อว่าพวกนายจะอยู่กันมาได้ถึงขนาดนี้....." คิระหยิบฝาบ้านของตัวเองขึ้น เพราะความโมโหเมื่อเช้าทำให้ลืมเก็บข้าวของเข้าที่
"นั่นชมหรือด่า??" "ฮะๆๆ เขินจัง"
ปฏิกริยาต่างกันออกไปคนหนึ่งพยายามแขวะ คนหนึ่งเข้าใจว่าชม
"ผู้ชายที่สมองแลดูผิดปกติกับผู้หญิงที่ความจำเสื่อม" เด็กสาว(หนุ่ม)เกาหัว ดวงตาเหมือนสัตว์ป่ามองอย่างไม่อยากเชื่อ เด็กหนุ่มที่ถูกบอกว่าสมองผิดปกติมือกระตุกอยากต่อยคนตะหงืดๆ
"รอดมาถึงขนาดนี้โดยไม่มีแผลหรือสูญเสียสักแอะ....ทำไปได้นะ"
พอพูดจบดวงตาของเธอก็ขยับ หูขยับเล็กน้อยและเพิ่มการรับรู้ขึ้น
เรนทำหน้านิ่ง แต่ดวงตาดูลอกแลกเล็กน้อยเหมือนปกปิดบางอย่าง
รูบี้ทำหน้าเล่อหล่า หัวใจของเธอเต้นรัวพักหนึ่ง
แค่ 5 วินาที ที่ทุกอย่างเงียบ
".....อีกไม่นานต้องออกไปหาสัมภาระเพิ่ม" คิระพูดตัดความเงียบ ดวงตาจริงจัง
"ในเมื่อจะอยู่เป็นกลุ่ม ต้องบอกเรื่องที่จำเป็นมาด้วย"
"เรื่องที่จำเป็น?" รูบี้ยกมือขึ้นครึ่งหนึ่ง เอียงคออย่างงุนงง
"อย่างพวกพลังพิเศษไง"
20 นาทีต่อมา
"......ตอนแรกฉันบอกว่าให้บอกพลังพิเศษนี่หว่า....." คิระใช้มือจับใบหน้าที่สิ้นหวัง เพราะตลอด 20 นาทีที่ผ่านมา เธอต้องอธิบายเรื่องต่างๆให้รูบี้ผู้ไม่รู้อะไรเลย!!
"อ่า! ฉ-ฉันเข้าใจแล้วล่ะ!! งั้น งั้น!! เรนบอกพลังเจ๋งๆออกมาเลย!" รูบี้ส่ายมืออย่างตื่นตระหนก ในใจคิดขอโทษที่เล่นถามซะทุกอย่าง
"ห-ห๊ะ?? ผมไม่มี---"
"นาย-มี-แน่-แน่----ไม่งั้นเมื่อวานมันคืออะไร??" คิระชูสองนิ้วเหมือนปืนเล็งใส่เรนที่ลอบกลืนนํ้าลาย
ฝูงซอมบี้ปลิวว่อนเหมือนโดนเหวี่ยงเป็นตุ๊กตายัดนุ่น ไม่ใช่แรงที่คนตัวเล็กบางทำได้แน่
สายตาสีฟ้าอ่อนมองไปด้านข้างเล็กน้อยก่อนที่จะถอนหายใจ
"......พลังจิต" เรนหลับตาและพูดออกมา คิระไม่ได้ยินเสียงหัวใจเต้น
"หรืออะไรสักอย่างที่คล้ายพลังจิต....." เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นมา สิ่งที่เขาทำทำให้อีกสองคนในห้องสะดุ้งเฮือก
ลูกตาข้างซ้ายเป็นสีดำสนิท ตาอีกข้างขึ้นและเรืองแสงสีแดงจางๆแทนสีฟ้าแบบทุกที
ใบหน้าปรากฏเส้นสายคล้ายเส้นเลือดสีแดงเหมือนรอยแตก
"เคลื่อนย้ายของที่ผมรู้จักไปมาได้.....ไม่ว่าจะถูกผนึกไว้แน่นหนาขนาดไหน.....ผมก็เคลื่อนย้ายมันไปอีกจุดหนึ่งหรือมาอยู่ในมือก็ได้"
พอพูดจบ เรนก็แบมือออก
มีดสีดำลวดลายแปลกประหลาดสีฟ้าซีด ขนาดใหญ่พอๆกับมีดทำครัว
"!???" คนที่ทำท่าทีตื่นตระหนกคือคิระ เธอใช้มือล้วงเข้ากระเป๋าเสื้อและจับที่หลังของตัวเอง เมื่อสัมผัสถึงความว่างเปล่าก็สูดลมหายใจดังเฮือก เหมือนของสำคัญหายไป
"และอีกอย่าง....." เหมือนได้เล่นกับเหยื่อ เรนฉีกยิ้มเหมือนรุกฆาต
"ผมสามารถรับรู้ ทุกอย่าง ของสิ่งต่างๆได้ผ่านสิ่งที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ตัวแทน ผมเรียกมันว่า คีย์หลัก" รูบี้ทำตาเป็นประกาย ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย
"ที่แคบ กระต่าย มีด" คิระเบิกตากว้าง เมื่อได้ยินสิ่งที่เรียกว่าคีย์หลัก เหมือนกับเป็นสิ่งที่ไม่ไกลตัวเธอ
"ขอโทษนะ----ผมรู้ทุกอย่างตั้งแต่ที่เห็นนายไล่ฟันซอมบี้เลยล่ะ" เรนแกว่งมีดในมือ คิระนั่งเงียบ
"ผมเลยไม่ไว้ใจทันทีไงล่ะ----คุณแบล๊กแรบบิท" ชื่อของฆาตกรถูกเอ่ยขึ้นมา เจ้าของชื่อที่เป็นเพียงเด็กวัยรุ่นเผลอยกมือป้องหน้า
"........"
"เอ๊ะ...." รูบี้นั่งเงิบ เหมือนได้ยินคำที่คุ้นหู---
"บ-แบล๊กรับบี้!!!!"
"แบล๊กแรบบิทฮะ บี้!! แบล๊กแรบบิท!!!"
"อึก....รู้สึกเหมือนเป้นลูกไก่ไปซะแล้ว...." คิระหรือฆาตกรต่อเนื่อง แบล๊กแรบบิท กอดเข่านั่งเหมือนหมดทางสู้
"ขอบคุณรูบี้ซะ ไม่งั้นผมคงเผลอเอากระดูกขากับมือนายไปบดทิ้งแล้ว" เมื่อเล่าความลับไปเกือบหมด เรนจึงสามารถขู่อีกฝ่ายได้อย่างเต็มที่ ใบหน้าขึ้นเส้นสายนั้นแสยะยิ้ม
"เรน!เรน! งดใช้ความโหดร้าย!!" รูบี้สับมือลงคั่นระหว่างเรนกับคิระ ซึ่งใบหน้าก็หลับตาปี๋
"อึก---ทั้งๆที่--ฉันเป็นสาวน้อยอ่ะนะ??" เธอส่งสายตาอ้อนวอน ดวงตาสั่นระริกขอความเมตตา
"โกหก ยึดตัวเองเป็นผู้ชายชัดๆ หลุดคำลงท้ายออกมาขนาดนั้น" คิระไอค่อกแค่ก เมื่อโดนเรนสวนกลับอย่างไร้เยื่อใย
"ฮือ---น-ในเมื่อยอมบอกซะขนาดนี้---ฉันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากบอกความจริงด้วยสินะ..." ไม่สามารถโกหกได้ เพราะอีกฝ่ายมีพลังสามารถดูอดีตได้ คิระทำได้แค่พูดให้รูบี้รับรู้ได้อีกคนเท่านั้น
"เออ....ก่อนอื่นต้อง.....เปลี่ยนเพศได้" คิระนั่งคุกเข่า โดนเรนที่ตอนนี้ใบหน้ากลับมาเป็นปกติจ้องเขม็ง
"ฉันเล่าความจริงน่า!! อย่ากดดันซี่!!!" เขาหลบตาเรน รูบี้ผู้นั่งกระพริบตาไม่รู้จักการกดดัน
"ฉัน--เปลี่ยนเพศตัวเองได้ ร่างผู้หญิงจะยืดหยุ่นและเร็วกว่าผู้ชาย ส่วนร่างผู้ชายจะแรงเยอะและเหมาะที่จะสู้มากกว่า แต่ขนาดร่างกายจะเปลี่ยนไปด้วย" คิระยกแขนเสื้อหลวมๆขึ้น เขาต้องใส่เสื้อที่หลวมไว้ก่อนเพื่อให้สะดวกเวลาเปลี่ยนร่างไปมา
"และอีกอย่างที่บี้อาจจะสังเกตุไม่ทัน" พอได้ยินคำว่าบี้ เรนก็คิ้วกระตุกเล็กน้อย
"ฉันมีสัญชาตญาณและร่างกายบางส่วนเป็นของสัตว์ป่า" คิระเพ่งตามองที่รูบี้ เธอนั่งตัวแข็งอย่างงุนงง จู่ๆก็ขยับไม่ได้!!
"ขยับไม่ได้ล่ะซิ--โฮะๆ---โอ้ย!!!" โป๊ก เรนฟาดมือไปที่หัวของคิระ เมื่อสายตาเบี่ยงออก รูบี้ก็ขยับตัวได้
"อะไรอ่ะ!! เจ๋งดีจัง!" เธอไม่มีความกลัวสักนิด กลับกันดูตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็นเต็มที
"[สายตานักล่า]--พวกคนที่รอดจากมือฉันไปตั้งชื่อไว้อย่างนี้" คิระลูบหัวที่โดนฟาด แอบอึ้งที่เด็กสาวไม่กลัวอะไรเลย
"ขาฉันเหมือนกระต่ายและหูเหมือนค้างคาว เท่าที่รู้ยังมีแค่นี้" เหมือนพูดเท่าที่รู้ เป็นเรื่องจริงที่เด็กสาว(หนุ่ม)นั้นไม่ค่อยเข้าใจร่างกายของตัวเอง ขนาดอยู่มาจนอายุ 16 แล้วก็ยังอธิบายไม่ถูก
"นายเป็นคนแค่เฉพาะบางส่วนเท่านั้นแหละ คล้ายมัลติคอร์" เรนโยนมีดคืนให้อีกฝ่าย
"เอ๊ะ?? รู้จักมัลติคอร์ด้วย?" หน้าคิระเหมือนไม่เชื่อความจริงบางอย่าง ท่าทีแบบนั้นทำให้เส้นขมับของเรนปูด "ผมรู้ซักเรื่องมันผิดด้วยรึไง"
"งั้นต่อไป ตา--" แปะ เรนแปะมือลงบนไหล่ของคิระที่กำลังจะเปลี่ยนเรื่อง เขาหันมามองด้วยใบหน้าของสาวน้อยที่งุนงง
รูบี้นั่งเย็บเสื้อผ้าขาดๆตรงหลังแผ่นไม้ เธอร้องเพลงฮึมฮัมในขณะที่สอยเข็มกับด้ายอย่างเพลิดเพลิน อย่างน้อยเธอก็ไม่ลืมวิธีเย็บเสื้อผ้า
ในใจแอบสงสัย ทำไมเรนถึงลากเธอมานั่งเย็นเสื้อตรงนี้ก็ไม่รู้ ซึ่งรูบี้ได้ทำการสรุปแบบง่ายๆไปว่า ลูกผู้ชายเขาจะคุยกัน
".......แฟนตาซี" คิระหลุดปากพูดเมื่อฟังทุกอย่าง
"........" เรนเงียบเมื่อเห็นท่าทีของเขา
"ฟังแล้วเป็นไงล่ะ แล้วยังอยากจะอยู่ต่อมั้ย" เด็กหนุ่มขยับหลังผิงกับกำแพง คิระนั่งนึกทบทวนสิ่งที่ได้ยิน
รูบี้---ไม่ใช่แค่นั้น รูบี้ เฟรย์ เด็กสาวผู้เหลือรอดจากการทำลายกวาดล้างตระกูลของเผ่าพันธุ์ที่กลายพันธุ์มาจากมนุษย์อีกที เฟนิกซ์หรืออีกชื่อคือนกเพลิง
เรนสามารถเล่าได้คร่าวๆแค่ว่า รูบี้สามารถฟื้นคืนชีพได้เรื่อยๆไม่ว่าจะตายไปกี่ครั้งก็ตาม แต่ทุกครั้งที่ฟื้นความทรงจำจะหายไปส่วนหนึ่ง และมีแนวโน้มว่าจะลืมมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงนี้ ยิ่งตายยิ่งเหมือนเด็กเข้าไปทุกที
และไม่ลืมที่จะบอกข้อมูลที่เพิ่งได้มา-----อัญมณีปริศนา
อัญมณีที่ไม่น่าจะเกิดตามปกติ อาจจะเป็นของลับที่สร้างด้วยวิธีการซับซ้อน
เมื่อ คีย์หลัก ต้นกำเนิดของเผ่าคืออัญมณีที่ว่า และเรนยังไม่ค้นพบมัน ทำให้เขาขาดข้อมูลและไม่รู้อะไรมาก
แต่ยืนยันได้ว่าอัญมณีต้องมีส่วนเกี่ยวข้องสักอย่างกับรูบี้แน่ๆ
"แบบนี้ ยิ่งอยากอยู่เลยล่ะ" คิระยิ้มออกมา ชวนให้คนที่นั่งผิงผนังฟังเหตุผล
"นายเองก็ดูรับมือกับนิสัยฉันได้นี่? รับมือได้ดีจนฉันรู้สึกปลอดภัยเลยด้วย" พูดถึงนิสัยป่าเถื่อนเหมือนสัตว์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก
"โรคจิต....." เรนทำหน้านิ่ง ในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์ที่ได้เจ้านี่มาร่วมกลุ่ม
"โทษที ฮะๆๆ ไม่งั้นฉันจะเป็นฆาตกรได้ไงเล่า" คิระหัวเราะเบาๆ
"......เห็นแบบนี้ฉันควบคุมตัวเองได้นะ" ดวงตาที่เหลือบมองขึ้นมา ดวงตาของสัตว์ที่ป่าเถื่อนแต่สงบมองที่เรน
"ถ้านายฆ่ารูบี้ขึ้นมา ผมไม่จบที่ดึงแค่กระดูกมือแน่ " เสียงเรียบพูดเอาจริง การฆ่าไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับเขา ทำให้สัตว์ร้ายยิ้มอยู่พักหนึ่ง
"....เข้าใจแล้ว" คิระพยักหน้า ใบหน้ากลับมาดูปกติเหมือนเดิม
'ฉันฆ่าคนที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยไม่ได้หรอก.....' ฆาตกรคิดในใจ
--------------------------------------------------------------------------------------
ในห้องมืดๆที่เย็นเพราะเครื่องปรับอากาศ
แสงสีฟ้าจากหน้าจอสาดส่องมายังร่างของคนที่นอนฟุบบนโต๊ะ
"พี่สาว อย่านอนตรงนี้ เดี๋ยวไข้จะขึ้น" เด็กผู้หญิงที่มีรอยปะบนหน้าแตะไหล่ของคนที่นอนบนกองเอกสารจนสะดุ้งตื่น
"อ๊ะ--จริงด้วย ขอบคุณนะ แพทตี้" หญิงสาวที่หลับลูบหัวของเด็กสาวนามแพทตี้ ใบหน้าที่มีรอยปะหลับตายิ้มอย่างมีความสุข
นิโคลลุกขึ้น จอทั้งห้าที่ส่องแสงสีฟ้าชวนให้เธอทำงานต่อ แต่ร่างกายนี้ต้องการพักผ่อนแล้ว หญิงสาวยิ้ม ดวงตาสีฟ้ารูม่านตาขยับขยายเข้าออกปิดเปลือกตาลง
"ความลับขั้นสุดยอด...ขนาดผ่านมาเป็น 20 ปีก็ยังเจาะลำบาก.... คุณ AI ขององค์กรโลกเนี่ยน่ารำคาญจังนะ"
--------------------------------------------------------------------------------------
ในเมืองเล็กๆที่มีเสียงเครื่องจักรไอนํ้าทำงาน
"คลอริส----แบบนี้มันจัดการลำบากนะครับ..."
"อย่าบ่น"
"อึก---โหดร้ายจังนะครับ แฮะๆๆ"
พลั่วตักดินออก ก่อนที่จะโยนชิ้นส่วนศพอาบเลือดลงไป ทั้งจับลำบากเพราะกระดูกบดละเอียดและเหนียวเลือดไปหมด คนที่สามารถทำลายหลักฐานได้กลับยิ้มทั้งที่ถูกใช้แรงงาน
"ต่อไป.....ขอแบบหัวแตกเลยนะ"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น