ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : แผนแตก
          พระอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นพื้นผืนแผ่นดินสาดแสงสีทองของวันใหม่..
ยอดน้ำค้างกลิ้งเกลือกอยู่บนใบหญ้าโอนเอนพัดไหวตามสายลมอ่อนๆยามเช้าส่งประกายสายรุ้งแวววับจับตา..
นกน้อยนกใหญ่ต่างแข่งกันร้องรับอรุณกันเซงแซ่...
ภาพที่ปรากฏตรงหน้านี้น้อยนักที่คนส่วนใหญ่จะได้เชยชม..
เพราะส่วนมากคนทั่วไปก็มัวแต่ทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆ..
จนแทบจะลืมเลือนธรรมชาติอันงดงามเหล่านี้...
          ร่างสูงสง่าหันหน้าเข้าหาดวงสุริยาดื่มด่ำเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศตรงหน้านี้...
พลางใช้มือไขว้หลังกางขาแข็งแรงสองข้างของตนออกเล็กน้อยในท่าที่ตนเคยชินเสมอยามสบายใจ..
มุมปากได้รูปเผลอคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ...พลางค่อยๆก้มลงมองหน้าผาข้างล่าง...
ยามนี้แสงแห่งอรุโนทัยทำให้ภาพขมุกขมัวตรงหน้าค่อยๆแจ่มชัดขึ้นที่ละเล็กทีละน้อย...
ใต้หมอกสีขาวบางจุดดำๆที่เห็นอยู่ไกลๆนั่นเริ่่มปรากฏให้เห็นเป็นรูปร่างของหมู่บ้้านน้อยใหญ่ลิบๆ...
เบียดเสียดกันอยู่แทบใต้เท้าของชายหนุ่ม...กิจวัตรตามปกติของชาวบ้านได้เริ่มขึ้นตามครรลองของมัน..
จุดเล็กๆเคลื่อนไหวอยู่นั่นไม่สามารถแยกออกได้ว่าใครเป็นใคร...
          เสียงซวบซาบที่ค่อยๆดังขึ้นมาเรื่อยๆจากด้านหลัง
ไม่ได้ทำให้ร่างสูงที่ดื่มด่ำกับธรรมชาติตรงหน้านี้ไหวติงได้...
ราวกับว่าชายหนุ่มเคลิบเคลิ้มเสียจนไม่รับรู้ถึงการมาของฝ่ายตรงข้ามเลยสักนิด
ร่างสูงใหญ่ถูกกลืนด้วยแสงสุริยันคล้ายดั่งภาพวาดของจิตกรเอกที่เห็นเพียงเงาดำๆรูปร่างคนเท่านั้น
แต่ก็ถึงกับทำให้คนที่มาใหม่รู้สึกว่าตนเป็นส่วนเกิน ณ ที่แห่งนี้ไปได้..
ชายคนที่ยืนอยู่ก่อนไม่ยอมหันหน้าเผชิญกับบุกรุกเสียที...จนฝ่ายที่เพิ่งมาถึงต้องอึดอัด..
แอบกลืนน้ำลาย..ก่อนที่จะเปิดฉากสนทนาก่อน
\"อะแฮ่ม~ท่านองครักษ์...เรามาถึงแล้ว\"
น้ำเสียงเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาคล้ายเสียงแมงหวี่ราวกับว่าเกรงใจ
คนตรงหน้าเสียเหลือเกิน
คนที่ไขว้แขนตรงหน้าพูดพลางค่อยๆเบือนหน้าเข้มๆของตนช้าๆ
ราวกับกลัวว่าจะพลาดฉากสำคัญๆอย่างไรอย่างนั้น
\"องค์ชายทรงเสด็จมาช้า\"
คนที่ถูกกล่าวหาหลบพระเนตรไม่กล้าจ้องตาต่อกรกับสายตาคมกริบที่มองมา
\"ยะ..เ่อ่อ..ชายผิดเอง...โทษที\"
คำพูดอ่อยๆของคนตรงหน้าถึงกับทำให้องครักษ์หนุ่มเลิกคิ้วของตนอย่างแปลกใจมิได้...
เอ...แปลกแฮะ..ทุกทีเห็นทำท่าหยิ่งๆ...วันนี้เสวยอะไรผิดสำแดงมาแน่ๆ...ชายหนุ่มได้แต่คิดอยู่ในใจ...
ท่าทางที่แสดงออกมามิได้ทำให้องค์ชายน้อยที่อยู่ตรงหน้่านี้รู้สึกผิดปกติใดๆทั้งสิ้น
\"วันนี้ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนศิลปะป้องกันตัว...กระหม่อมอยากทราบว่า..
องค์ชายทรงมีพื้นฐานอย่างไร..เิพราะฉะนั้นเราจะเิริ่มบทแรก...
ด้วยการประลองกันก่อนพะยะคะ..กระหม่อมจะให้สิทธ์พระองค์ก่อน...
ทรงเลือกได้ว่าจะประลองอะไร...ตามที่ทรงถนัด\"
          ร่างสูงกว่าได้ผายมือไปทางด้านข้างซ้ายมือ...
องค์ชายตัวปลอมเผลอมองตามมือได้รูปนั่น...
ภาพที่ปรากฏต่อสายตานั่นได้ทำให้พระองค์อดแสดงพระพักตร์ตื่นๆอย่างอดไม่ได้
เมื่อเห็นว่ามีทั้ง ดาบ หอก ธนู ... อาวุธที่พระองค์มิเคยได้สัมพัสมามาก่อน...
ดวงตากลมหวานซึ้งค่อยๆเปลี่ยนจากตระหนกกลายเป็นตื่นเต้นแทนเสียมิได้..
เมื่อนึกว่าตนจะไ้ด้เริ่มเรียนอาวุธเหล่านี้หลัีงจากที่เคยอ้อนวอนเสด็จพ่ออยู่เสมอ
แต่ก็ไม่เคยได้รับการตอบรับใดๆ...
          กริยาเล็กๆน้อยๆขององค์ชายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มิอาจลอดพ้นการสังเกตุ
จากสายตาแหลมคมดั่งเหยี่ยวทะเลของชายหนุ่มไปได้..
และท่าทางเหล่านี้เองถึงกับสะกิดความสงสัยองครักษ์หนุ่มขึ้นมา...
          \'แปลก...แปลกมาก..องค์ชายแปลกไป..จากที่เราเคยเห็น...
ท่านมิน่าจะใช่คนแบบนี้ เอ๊ะ..รึว่าเราจะโดนแกล้ง\'
ชายหนุ่มเองได้รับเอกสารต่างๆเกี่ยวกับตัวองค์ชายเกือบจะทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นอุปนิสัย..งานอดิเรก..ประวัติการศึกษานานา...
ไม่เว้นแม้แต่ความสัมพันธ์กับคนในวังเอง...
          แถมเรื่องที่พระองค์ทรงมีพระขนิษฐาฝาแฝดซึ่งก็ไม่ซนน้อยไปกว่าพระองค์เท่าใดนัก...
คิดได้ดังนั้น...เรื่องราวต่างๆก็เริ่มคลี่คลายเป็นเปาะๆ..
การสันนิฐานของชายหนุ่มมีความแม่นยำเกือบร้อยเปอร์เซนต์เชียว...
ทำให้ชายหนุ่มมีความมั่นใจตนเองเป็นอย่างมาก..
ว่าบุคคลที่กำลังทำท่าคิดหนักตรงหน้านี้ต้องไม่ใช่องค์ชายเสียแล้ว..
คิ้วที่ขมวดกันก็เริ่มคลี่ออกพร้อมมุมปากของชายหนุ่มก็ค่อยๆยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กๆ
ราวกับตนเริ่มหาทางแก้เผ็ดคนตรงหน้านี้ได้แล้วอย่างไรอย่างนั้น
\"พระองค์ทรงเลือกได้รึยังพะยะคะ\"
เสียงห้าวที่เอ่ยมาจากข้างหลังทำให้ร่างเล็กกว่าถึงกับสะดุ้งโหยงได้เลยทีเดียว
\"แหม~ท่านองครักษ์..เราไม่รู้นี่...ว่าจะเลือกอันไหนดี...น่าเล่นทั้งนั้น..อุ๊บ\"
ืมือเล็กๆรีบอุดพระโอษฐ์ของตนแทบจะไม่ทัน...
เมื่อสำนึกได้ว่าตนแอบเผลอพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดนั้นออกไป
ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ถึงกริืยาแปลกที่เกิดขึ้น
พลางเสหน้าไปอีกด้านหนึ่งอย่างอดขำท่าทางนั้นไม่ได้
          ร่างเล็กค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบธนูหลังจากพิจารณาแล้ว
ว่านี่คงเป็นอาวุธที่ตนเจ็บตัวน้อยที่สุดและเบาแรงที่สุด
โดยมิได้ทรงเหลือบไปเห็นตาพราวๆที่จ้องมาจากด้านหลังเลยซักนิด
\"เอาละ..เราขอเลือกสิ่งนี้แล้วกัน..ท่านว่าไง\"
ดวงตาที่มององครักษ์คนใหม่เต็มไปด้วยแววซุกซนที่พระองค์เองซ่อนไม่มิด
ขาได้รูปแข็งแรงนั่นไ้ด้ก้าวเข้ามาหยุดที่ด้านข้างร่างเล็กพลางหยิบธนูที่เหลือ
พลางมองพระอาทิตย์ซึ่งเวลานี้ได้ทอแสงกล้า..
บ่งบอกว่าเวลานี้มิใช่เวลาเช้าตรู่อีกต่อไปแล้ว..
\"อืม~องค์ชาย...ท่านแน่ใจนะว่าท่านเลือกสิ่งนี้\"
ดวงเนตรระยับราวหยดน้ำค้างยามเช้าได้มองมือหนาที่โยนคันธนูไปมา
คล้ายกับจะชั่งน้ำหนักของมันพร้อมจะกระฉับไว้ในมือ
ก่อนที่จะตอบอย่างไม่ค่อยแน่ใจในพระองค์เองเท่าใดนัก
\"อืม..เราคิดว่า..อันนี้เหมาะกับเราที่สุด\"
\"งั้นเรามาเริ่มประลองกันก่อนด้วยการ ยิงกระต่ายที่หม่อมฉันได้เตรียมมาเพื่อการครั้งนี้\"
พลางหยิบกรงน้อยด้านหลังของอาวุธต่างๆ..
ที่มีกระต่ายตัวหนึ่งตัวน้อยสีขาวขนปุยน่ารักน่าใคร่นั้นออกมาวางไว้ตรงหน้าของพระองค์..
ก่อนที่เจ้าปุยจะูถูกวางลงหน้าพระพักตร์ พระองค์ก็ได้คว้ามากอดไว้ได้เสียก่อน
\"ไม่เอานะ..เราไม่ยอมหรอก..ท่านจะมาฆ่าสิ่งมีชีวิตต่อหน้าเราไม่ได้เด็ดขาด\"
คำพูดที่ทรงกล่าวมานั้นไม่ได้ผิดไปจากที่ชายหนุ่มคิดไว้เลย
\' ผู้หญิง..ยังไงก็ขี้ใจอ่อนวันยังค่ำ \'
\"กระหม่อมของกราบขออนุญาติ..อย่าหาว่าหม่อมฉันอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ..
ก่อนที่พระองค์จะทรงเอ่ยออกมา..กระหม่อมอยากให้พระองค์ทรงตรวจตราสถานะการณ์ก่อน..
อย่างเช่นตอนนี้...องค์ชายได้โปรดมองที่ลูกดอกของธนูดีๆิสิพะยะคะ..
หม่อมฉันยังไม่ได้บอกเลยนะเพคะว่า..เราจะฆ่ากระต่าย..\"
          ร่างเล็กกว่าได้มองที่ปลายของลูกดอกธนูก็ทรงสังเกตุเห็นว่า
ที่ปลายเป็นลูกดอกยางแบนเรียบซึ่งก็ชุบผงสีๆแบ่งออกเป็นสองสี สีแดง กับสีเขียว...
ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะทำอันตรายเจ้าสัตร์ตัวน้อยนี้ได้
เมื่อตนรู้ว่าเผลอพูดโดยที่ไม่ได้ใครครวญให้ดี
ทำให้พระปราง(แก้ม)ของพระองค์เริ่มประปรายไปด้วยด้วยสีแดงนิดๆ..
เกิดความรู้สึกอายจนเผลอกอดกรงกระต่ายเล็กๆนั่นอย่างคนที่ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร
นอกจากเอ่ยขอโทษด้วยเสียงอ่อยๆ..ทำให้คนที่เห็นรู้สึกอดเอ็นดูมิได้...
\"เอาละ..เริ่มแข่งกันก่อนที่จะแดดร้อนไปกว่านี้ดีกว่านะกระหม่อม\"
ชายหนุ่มรีบตัดบทก่อนเพราะไม่อยากแกล้งองค์หญิงน้อยที่น่าสงสารนั่นนัก..
พลางเอื้อมมือไปหยิบเจ้ากระต่ายน้อยจากอ้อมกอดของพระองค์
สะกิดกลอนที่ล๊อคอยู่ตรงด้านหน้าเล็กน้อย
เจ้ากระต่ายขนฟูก็รีบใช้่หัวของมันมุดออกมาก่อนที่จะวิ่งกระโดดพรวดๆ
ไปยังซุ้มต้นไม้เล็กที่มีอยู่ไม่กี่ต้นทางด้านหน้าของทั้งคู่อย่างรวดเร็ว
\"เอ๊ะ..ท่านปล่อยเจ้าฟูทำไม?\"
สายตาแลตามเจ้าตัวน้อยไม่คลาดคลา
          องครักษ์ร่างสูงแอบอมยิ้มขันอีกครั้งเมื่อนึกได้ว่าองค์หญิงน้อย
เพิ่งจะเห็นเจ้ากระต่างไม่ทันไร ก็ทรงโมเมตั้งชื่อให้เสร็จสรรพเสียแล้วสิ..
\"เราจะทำการแข่งโดยใ้ห้พระองค์ทรงเลือกสีฝุ่นที่ติดกับปลายธนูที่พระองค์โปรดเสียก่อน..
เราจะยิงธนูออกไปที่เจ้าฟู...
(เรียกตามพระองค์ซึ่งเจ้าตัวก็ดูเหมือนจะยังไม่รู้สักนิด
ว่าโดนล้อเลียนแบบหน้าตายจากองครักษ์หนุ่ม)
พร้อมๆกัน ผลแพ้ชนะคือสีที่โดนตัวของกระต่ายน้อย...ว่าจะเป็นสีของใคร..
ถ้ามีทั้งสองสี..เราจะพิจารณา...ว่าใครยิงใกล้หัวใจมากที่สุดเป็นฝ่ายชนะ\"
\"ตกลง...เราเลือกสีแดง\"
ดวงเนตรระยิบระยับส่องประกายตื่นเต้นจ้องไปที่เจ้าฟูตาไม่กระพริบ...
ทำให้ไม่ทรงเห็นว่าอีกฝ่ายแอบส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้กับอาการไร้เดียงสาของพระองค์
          ทั้งสองฝ่ายต่างฝ่ายต่างเงื้อธนูขึ้นมาพร้อมๆกัน...
น้ำหนักที่ไม่เบานักไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆเลยกับองค์หญิง..
เนื่องจากตนแอบเล่นของเล่นที่ชาวบ้านเรียกว่าหนักสติ๊กที่พระเชษฐา
เอามาฝากอยู่บ่อยๆนั่นเอง..ไอ้ธนูนี่มันก็ไม่น่าเหลือบ่ากว่าแรงเราเท่าไหร่นักหรอก...
คิดได้ดังนั้นก็เผลอยิ้มแจ่มใสออกมาไม่ได้เมื่อคิดว่าตน
ต้องเป็นฝ่ายชนะคนตัวโตกว่าได้อย่างแน่นอน
\"หนึ่ง สอง สาม..ยิง\"
สิ้นเสียงห้าวๆขององครักษ์หนุ่ม มือที่เหนี่ยวไกอยู่ของทั้งคู่ก็ยิงลูกดอกของใครของมัน
แทบจะพร้อมๆกันเลยทีเดียวออกไปยังเป้าหมายที่เล็งไว้...
ร่างบอบบางกว่ารีบวิ่งออกไปยังพุ่มไม้ตรงหน้าอย่างสงสัยใคร่รู้ผลเป็นหนักหนา...
แต่ยังไม่ทรงถึงที่หมายร่างสูงก็ก้าวเข้ามาขวางไว้ตรงหน้าพลางจับหูเจ้าฟูขึ้นมาจากที่ซ่อน...
สาเหตุที่เจ้าฟูยังไม่หนีไปไหนก็เนื่องจากว่ามันถูกธนูยิงหัวจนสลบไปแล้วนั่นเอง
          พระพักตร์งามแสดงความผิดหวังอย่างเต็มที่
ยังไม่ทันเอ่ยคำใดขึ้นมาเพียงแค่อ้าปากเตรียมพูดเท่านั้น ชายหนุ่มตรงหน้าก็พูดขึ้นมาก่อนว่า
\"เจ้าหญิง..หม่อมฉันขอรับชัยชนะครั้งนี้ไปก่อนนะ....แล้วองค์ชายน้อยเสด็จไหนเสียแล้วละ..พะยะคะ\"
\"ทรงแอบไปเดินเล่นที่น้ำตกหลังวัง..อุ๊บ\"
พระหัตถ์น้อยรีบปิดโอษฐ์ของพระองค์พลางนิ่วพระพักตร์เมื่อรู้ว่าตนเผลอพูดไปเสียแล้ว
\"ขอบคุณกระหม่อม\"
องค์หญิงรีบรับเจ้ากระต่ายน้อยอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อชายหนุ่มยัดเจ้าขนฟูมาให้...
แต่ยังไม่ทันที่องค์หญิงจะทรงแก้ตัวใดๆ...ร่างสูงก็ก้าวเดินไปฉับๆยังทิศทางที่ทรงเผลอบอกไปเมื่อกี้ทันที
\"โอ๊ย~ตายแล้ว...หญิงขอโทษเพคะ..หญิงไม่ได้ตั้งใจ\"...
คนพูดพลางได้แต่ทำตาละห้อยมองตามหลังขององครักษ์หนุ่มจนลับสายตา
อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร..นอกจากแอบเป็นกำลังใจให้พระเชษฐาของตน...เอาตัวรอดได้เท่านั้น...
ยอดน้ำค้างกลิ้งเกลือกอยู่บนใบหญ้าโอนเอนพัดไหวตามสายลมอ่อนๆยามเช้าส่งประกายสายรุ้งแวววับจับตา..
นกน้อยนกใหญ่ต่างแข่งกันร้องรับอรุณกันเซงแซ่...
ภาพที่ปรากฏตรงหน้านี้น้อยนักที่คนส่วนใหญ่จะได้เชยชม..
เพราะส่วนมากคนทั่วไปก็มัวแต่ทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆ..
จนแทบจะลืมเลือนธรรมชาติอันงดงามเหล่านี้...
          ร่างสูงสง่าหันหน้าเข้าหาดวงสุริยาดื่มด่ำเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศตรงหน้านี้...
พลางใช้มือไขว้หลังกางขาแข็งแรงสองข้างของตนออกเล็กน้อยในท่าที่ตนเคยชินเสมอยามสบายใจ..
มุมปากได้รูปเผลอคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ...พลางค่อยๆก้มลงมองหน้าผาข้างล่าง...
ยามนี้แสงแห่งอรุโนทัยทำให้ภาพขมุกขมัวตรงหน้าค่อยๆแจ่มชัดขึ้นที่ละเล็กทีละน้อย...
ใต้หมอกสีขาวบางจุดดำๆที่เห็นอยู่ไกลๆนั่นเริ่่มปรากฏให้เห็นเป็นรูปร่างของหมู่บ้้านน้อยใหญ่ลิบๆ...
เบียดเสียดกันอยู่แทบใต้เท้าของชายหนุ่ม...กิจวัตรตามปกติของชาวบ้านได้เริ่มขึ้นตามครรลองของมัน..
จุดเล็กๆเคลื่อนไหวอยู่นั่นไม่สามารถแยกออกได้ว่าใครเป็นใคร...
          เสียงซวบซาบที่ค่อยๆดังขึ้นมาเรื่อยๆจากด้านหลัง
ไม่ได้ทำให้ร่างสูงที่ดื่มด่ำกับธรรมชาติตรงหน้านี้ไหวติงได้...
ราวกับว่าชายหนุ่มเคลิบเคลิ้มเสียจนไม่รับรู้ถึงการมาของฝ่ายตรงข้ามเลยสักนิด
ร่างสูงใหญ่ถูกกลืนด้วยแสงสุริยันคล้ายดั่งภาพวาดของจิตกรเอกที่เห็นเพียงเงาดำๆรูปร่างคนเท่านั้น
แต่ก็ถึงกับทำให้คนที่มาใหม่รู้สึกว่าตนเป็นส่วนเกิน ณ ที่แห่งนี้ไปได้..
ชายคนที่ยืนอยู่ก่อนไม่ยอมหันหน้าเผชิญกับบุกรุกเสียที...จนฝ่ายที่เพิ่งมาถึงต้องอึดอัด..
แอบกลืนน้ำลาย..ก่อนที่จะเปิดฉากสนทนาก่อน
\"อะแฮ่ม~ท่านองครักษ์...เรามาถึงแล้ว\"
น้ำเสียงเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาคล้ายเสียงแมงหวี่ราวกับว่าเกรงใจ
คนตรงหน้าเสียเหลือเกิน
คนที่ไขว้แขนตรงหน้าพูดพลางค่อยๆเบือนหน้าเข้มๆของตนช้าๆ
ราวกับกลัวว่าจะพลาดฉากสำคัญๆอย่างไรอย่างนั้น
\"องค์ชายทรงเสด็จมาช้า\"
คนที่ถูกกล่าวหาหลบพระเนตรไม่กล้าจ้องตาต่อกรกับสายตาคมกริบที่มองมา
\"ยะ..เ่อ่อ..ชายผิดเอง...โทษที\"
คำพูดอ่อยๆของคนตรงหน้าถึงกับทำให้องครักษ์หนุ่มเลิกคิ้วของตนอย่างแปลกใจมิได้...
เอ...แปลกแฮะ..ทุกทีเห็นทำท่าหยิ่งๆ...วันนี้เสวยอะไรผิดสำแดงมาแน่ๆ...ชายหนุ่มได้แต่คิดอยู่ในใจ...
ท่าทางที่แสดงออกมามิได้ทำให้องค์ชายน้อยที่อยู่ตรงหน้่านี้รู้สึกผิดปกติใดๆทั้งสิ้น
\"วันนี้ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนศิลปะป้องกันตัว...กระหม่อมอยากทราบว่า..
องค์ชายทรงมีพื้นฐานอย่างไร..เิพราะฉะนั้นเราจะเิริ่มบทแรก...
ด้วยการประลองกันก่อนพะยะคะ..กระหม่อมจะให้สิทธ์พระองค์ก่อน...
ทรงเลือกได้ว่าจะประลองอะไร...ตามที่ทรงถนัด\"
          ร่างสูงกว่าได้ผายมือไปทางด้านข้างซ้ายมือ...
องค์ชายตัวปลอมเผลอมองตามมือได้รูปนั่น...
ภาพที่ปรากฏต่อสายตานั่นได้ทำให้พระองค์อดแสดงพระพักตร์ตื่นๆอย่างอดไม่ได้
เมื่อเห็นว่ามีทั้ง ดาบ หอก ธนู ... อาวุธที่พระองค์มิเคยได้สัมพัสมามาก่อน...
ดวงตากลมหวานซึ้งค่อยๆเปลี่ยนจากตระหนกกลายเป็นตื่นเต้นแทนเสียมิได้..
เมื่อนึกว่าตนจะไ้ด้เริ่มเรียนอาวุธเหล่านี้หลัีงจากที่เคยอ้อนวอนเสด็จพ่ออยู่เสมอ
แต่ก็ไม่เคยได้รับการตอบรับใดๆ...
          กริยาเล็กๆน้อยๆขององค์ชายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มิอาจลอดพ้นการสังเกตุ
จากสายตาแหลมคมดั่งเหยี่ยวทะเลของชายหนุ่มไปได้..
และท่าทางเหล่านี้เองถึงกับสะกิดความสงสัยองครักษ์หนุ่มขึ้นมา...
          \'แปลก...แปลกมาก..องค์ชายแปลกไป..จากที่เราเคยเห็น...
ท่านมิน่าจะใช่คนแบบนี้ เอ๊ะ..รึว่าเราจะโดนแกล้ง\'
ชายหนุ่มเองได้รับเอกสารต่างๆเกี่ยวกับตัวองค์ชายเกือบจะทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นอุปนิสัย..งานอดิเรก..ประวัติการศึกษานานา...
ไม่เว้นแม้แต่ความสัมพันธ์กับคนในวังเอง...
          แถมเรื่องที่พระองค์ทรงมีพระขนิษฐาฝาแฝดซึ่งก็ไม่ซนน้อยไปกว่าพระองค์เท่าใดนัก...
คิดได้ดังนั้น...เรื่องราวต่างๆก็เริ่มคลี่คลายเป็นเปาะๆ..
การสันนิฐานของชายหนุ่มมีความแม่นยำเกือบร้อยเปอร์เซนต์เชียว...
ทำให้ชายหนุ่มมีความมั่นใจตนเองเป็นอย่างมาก..
ว่าบุคคลที่กำลังทำท่าคิดหนักตรงหน้านี้ต้องไม่ใช่องค์ชายเสียแล้ว..
คิ้วที่ขมวดกันก็เริ่มคลี่ออกพร้อมมุมปากของชายหนุ่มก็ค่อยๆยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กๆ
ราวกับตนเริ่มหาทางแก้เผ็ดคนตรงหน้านี้ได้แล้วอย่างไรอย่างนั้น
\"พระองค์ทรงเลือกได้รึยังพะยะคะ\"
เสียงห้าวที่เอ่ยมาจากข้างหลังทำให้ร่างเล็กกว่าถึงกับสะดุ้งโหยงได้เลยทีเดียว
\"แหม~ท่านองครักษ์..เราไม่รู้นี่...ว่าจะเลือกอันไหนดี...น่าเล่นทั้งนั้น..อุ๊บ\"
ืมือเล็กๆรีบอุดพระโอษฐ์ของตนแทบจะไม่ทัน...
เมื่อสำนึกได้ว่าตนแอบเผลอพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดนั้นออกไป
ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ถึงกริืยาแปลกที่เกิดขึ้น
พลางเสหน้าไปอีกด้านหนึ่งอย่างอดขำท่าทางนั้นไม่ได้
          ร่างเล็กค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบธนูหลังจากพิจารณาแล้ว
ว่านี่คงเป็นอาวุธที่ตนเจ็บตัวน้อยที่สุดและเบาแรงที่สุด
โดยมิได้ทรงเหลือบไปเห็นตาพราวๆที่จ้องมาจากด้านหลังเลยซักนิด
\"เอาละ..เราขอเลือกสิ่งนี้แล้วกัน..ท่านว่าไง\"
ดวงตาที่มององครักษ์คนใหม่เต็มไปด้วยแววซุกซนที่พระองค์เองซ่อนไม่มิด
ขาได้รูปแข็งแรงนั่นไ้ด้ก้าวเข้ามาหยุดที่ด้านข้างร่างเล็กพลางหยิบธนูที่เหลือ
พลางมองพระอาทิตย์ซึ่งเวลานี้ได้ทอแสงกล้า..
บ่งบอกว่าเวลานี้มิใช่เวลาเช้าตรู่อีกต่อไปแล้ว..
\"อืม~องค์ชาย...ท่านแน่ใจนะว่าท่านเลือกสิ่งนี้\"
ดวงเนตรระยับราวหยดน้ำค้างยามเช้าได้มองมือหนาที่โยนคันธนูไปมา
คล้ายกับจะชั่งน้ำหนักของมันพร้อมจะกระฉับไว้ในมือ
ก่อนที่จะตอบอย่างไม่ค่อยแน่ใจในพระองค์เองเท่าใดนัก
\"อืม..เราคิดว่า..อันนี้เหมาะกับเราที่สุด\"
\"งั้นเรามาเริ่มประลองกันก่อนด้วยการ ยิงกระต่ายที่หม่อมฉันได้เตรียมมาเพื่อการครั้งนี้\"
พลางหยิบกรงน้อยด้านหลังของอาวุธต่างๆ..
ที่มีกระต่ายตัวหนึ่งตัวน้อยสีขาวขนปุยน่ารักน่าใคร่นั้นออกมาวางไว้ตรงหน้าของพระองค์..
ก่อนที่เจ้าปุยจะูถูกวางลงหน้าพระพักตร์ พระองค์ก็ได้คว้ามากอดไว้ได้เสียก่อน
\"ไม่เอานะ..เราไม่ยอมหรอก..ท่านจะมาฆ่าสิ่งมีชีวิตต่อหน้าเราไม่ได้เด็ดขาด\"
คำพูดที่ทรงกล่าวมานั้นไม่ได้ผิดไปจากที่ชายหนุ่มคิดไว้เลย
\' ผู้หญิง..ยังไงก็ขี้ใจอ่อนวันยังค่ำ \'
\"กระหม่อมของกราบขออนุญาติ..อย่าหาว่าหม่อมฉันอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ..
ก่อนที่พระองค์จะทรงเอ่ยออกมา..กระหม่อมอยากให้พระองค์ทรงตรวจตราสถานะการณ์ก่อน..
อย่างเช่นตอนนี้...องค์ชายได้โปรดมองที่ลูกดอกของธนูดีๆิสิพะยะคะ..
หม่อมฉันยังไม่ได้บอกเลยนะเพคะว่า..เราจะฆ่ากระต่าย..\"
          ร่างเล็กกว่าได้มองที่ปลายของลูกดอกธนูก็ทรงสังเกตุเห็นว่า
ที่ปลายเป็นลูกดอกยางแบนเรียบซึ่งก็ชุบผงสีๆแบ่งออกเป็นสองสี สีแดง กับสีเขียว...
ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะทำอันตรายเจ้าสัตร์ตัวน้อยนี้ได้
เมื่อตนรู้ว่าเผลอพูดโดยที่ไม่ได้ใครครวญให้ดี
ทำให้พระปราง(แก้ม)ของพระองค์เริ่มประปรายไปด้วยด้วยสีแดงนิดๆ..
เกิดความรู้สึกอายจนเผลอกอดกรงกระต่ายเล็กๆนั่นอย่างคนที่ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร
นอกจากเอ่ยขอโทษด้วยเสียงอ่อยๆ..ทำให้คนที่เห็นรู้สึกอดเอ็นดูมิได้...
\"เอาละ..เริ่มแข่งกันก่อนที่จะแดดร้อนไปกว่านี้ดีกว่านะกระหม่อม\"
ชายหนุ่มรีบตัดบทก่อนเพราะไม่อยากแกล้งองค์หญิงน้อยที่น่าสงสารนั่นนัก..
พลางเอื้อมมือไปหยิบเจ้ากระต่ายน้อยจากอ้อมกอดของพระองค์
สะกิดกลอนที่ล๊อคอยู่ตรงด้านหน้าเล็กน้อย
เจ้ากระต่ายขนฟูก็รีบใช้่หัวของมันมุดออกมาก่อนที่จะวิ่งกระโดดพรวดๆ
ไปยังซุ้มต้นไม้เล็กที่มีอยู่ไม่กี่ต้นทางด้านหน้าของทั้งคู่อย่างรวดเร็ว
\"เอ๊ะ..ท่านปล่อยเจ้าฟูทำไม?\"
สายตาแลตามเจ้าตัวน้อยไม่คลาดคลา
          องครักษ์ร่างสูงแอบอมยิ้มขันอีกครั้งเมื่อนึกได้ว่าองค์หญิงน้อย
เพิ่งจะเห็นเจ้ากระต่างไม่ทันไร ก็ทรงโมเมตั้งชื่อให้เสร็จสรรพเสียแล้วสิ..
\"เราจะทำการแข่งโดยใ้ห้พระองค์ทรงเลือกสีฝุ่นที่ติดกับปลายธนูที่พระองค์โปรดเสียก่อน..
เราจะยิงธนูออกไปที่เจ้าฟู...
(เรียกตามพระองค์ซึ่งเจ้าตัวก็ดูเหมือนจะยังไม่รู้สักนิด
ว่าโดนล้อเลียนแบบหน้าตายจากองครักษ์หนุ่ม)
พร้อมๆกัน ผลแพ้ชนะคือสีที่โดนตัวของกระต่ายน้อย...ว่าจะเป็นสีของใคร..
ถ้ามีทั้งสองสี..เราจะพิจารณา...ว่าใครยิงใกล้หัวใจมากที่สุดเป็นฝ่ายชนะ\"
\"ตกลง...เราเลือกสีแดง\"
ดวงเนตรระยิบระยับส่องประกายตื่นเต้นจ้องไปที่เจ้าฟูตาไม่กระพริบ...
ทำให้ไม่ทรงเห็นว่าอีกฝ่ายแอบส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้กับอาการไร้เดียงสาของพระองค์
          ทั้งสองฝ่ายต่างฝ่ายต่างเงื้อธนูขึ้นมาพร้อมๆกัน...
น้ำหนักที่ไม่เบานักไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆเลยกับองค์หญิง..
เนื่องจากตนแอบเล่นของเล่นที่ชาวบ้านเรียกว่าหนักสติ๊กที่พระเชษฐา
เอามาฝากอยู่บ่อยๆนั่นเอง..ไอ้ธนูนี่มันก็ไม่น่าเหลือบ่ากว่าแรงเราเท่าไหร่นักหรอก...
คิดได้ดังนั้นก็เผลอยิ้มแจ่มใสออกมาไม่ได้เมื่อคิดว่าตน
ต้องเป็นฝ่ายชนะคนตัวโตกว่าได้อย่างแน่นอน
\"หนึ่ง สอง สาม..ยิง\"
สิ้นเสียงห้าวๆขององครักษ์หนุ่ม มือที่เหนี่ยวไกอยู่ของทั้งคู่ก็ยิงลูกดอกของใครของมัน
แทบจะพร้อมๆกันเลยทีเดียวออกไปยังเป้าหมายที่เล็งไว้...
ร่างบอบบางกว่ารีบวิ่งออกไปยังพุ่มไม้ตรงหน้าอย่างสงสัยใคร่รู้ผลเป็นหนักหนา...
แต่ยังไม่ทรงถึงที่หมายร่างสูงก็ก้าวเข้ามาขวางไว้ตรงหน้าพลางจับหูเจ้าฟูขึ้นมาจากที่ซ่อน...
สาเหตุที่เจ้าฟูยังไม่หนีไปไหนก็เนื่องจากว่ามันถูกธนูยิงหัวจนสลบไปแล้วนั่นเอง
          พระพักตร์งามแสดงความผิดหวังอย่างเต็มที่
ยังไม่ทันเอ่ยคำใดขึ้นมาเพียงแค่อ้าปากเตรียมพูดเท่านั้น ชายหนุ่มตรงหน้าก็พูดขึ้นมาก่อนว่า
\"เจ้าหญิง..หม่อมฉันขอรับชัยชนะครั้งนี้ไปก่อนนะ....แล้วองค์ชายน้อยเสด็จไหนเสียแล้วละ..พะยะคะ\"
\"ทรงแอบไปเดินเล่นที่น้ำตกหลังวัง..อุ๊บ\"
พระหัตถ์น้อยรีบปิดโอษฐ์ของพระองค์พลางนิ่วพระพักตร์เมื่อรู้ว่าตนเผลอพูดไปเสียแล้ว
\"ขอบคุณกระหม่อม\"
องค์หญิงรีบรับเจ้ากระต่ายน้อยอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อชายหนุ่มยัดเจ้าขนฟูมาให้...
แต่ยังไม่ทันที่องค์หญิงจะทรงแก้ตัวใดๆ...ร่างสูงก็ก้าวเดินไปฉับๆยังทิศทางที่ทรงเผลอบอกไปเมื่อกี้ทันที
\"โอ๊ย~ตายแล้ว...หญิงขอโทษเพคะ..หญิงไม่ได้ตั้งใจ\"...
คนพูดพลางได้แต่ทำตาละห้อยมองตามหลังขององครักษ์หนุ่มจนลับสายตา
อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร..นอกจากแอบเป็นกำลังใจให้พระเชษฐาของตน...เอาตัวรอดได้เท่านั้น...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น