ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำหนักพรหมณ์พยศ

    ลำดับตอนที่ #5 : แผนแตก

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 48


              พระอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นพื้นผืนแผ่นดินสาดแสงสีทองของวันใหม่..

    ยอดน้ำค้างกลิ้งเกลือกอยู่บนใบหญ้าโอนเอนพัดไหวตามสายลมอ่อนๆยามเช้าส่งประกายสายรุ้งแวววับจับตา..

    นกน้อยนกใหญ่ต่างแข่งกันร้องรับอรุณกันเซงแซ่...

    ภาพที่ปรากฏตรงหน้านี้น้อยนักที่คนส่วนใหญ่จะได้เชยชม..

    เพราะส่วนมากคนทั่วไปก็มัวแต่ทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆ..

    จนแทบจะลืมเลือนธรรมชาติอันงดงามเหล่านี้...



              ร่างสูงสง่าหันหน้าเข้าหาดวงสุริยาดื่มด่ำเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศตรงหน้านี้...

    พลางใช้มือไขว้หลังกางขาแข็งแรงสองข้างของตนออกเล็กน้อยในท่าที่ตนเคยชินเสมอยามสบายใจ..

    มุมปากได้รูปเผลอคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ...พลางค่อยๆก้มลงมองหน้าผาข้างล่าง...

    ยามนี้แสงแห่งอรุโนทัยทำให้ภาพขมุกขมัวตรงหน้าค่อยๆแจ่มชัดขึ้นที่ละเล็กทีละน้อย...

    ใต้หมอกสีขาวบางจุดดำๆที่เห็นอยู่ไกลๆนั่นเริ่่มปรากฏให้เห็นเป็นรูปร่างของหมู่บ้้านน้อยใหญ่ลิบๆ...

    เบียดเสียดกันอยู่แทบใต้เท้าของชายหนุ่ม...กิจวัตรตามปกติของชาวบ้านได้เริ่มขึ้นตามครรลองของมัน..

    จุดเล็กๆเคลื่อนไหวอยู่นั่นไม่สามารถแยกออกได้ว่าใครเป็นใคร...



              เสียงซวบซาบที่ค่อยๆดังขึ้นมาเรื่อยๆจากด้านหลัง

    ไม่ได้ทำให้ร่างสูงที่ดื่มด่ำกับธรรมชาติตรงหน้านี้ไหวติงได้...

    ราวกับว่าชายหนุ่มเคลิบเคลิ้มเสียจนไม่รับรู้ถึงการมาของฝ่ายตรงข้ามเลยสักนิด

    ร่างสูงใหญ่ถูกกลืนด้วยแสงสุริยันคล้ายดั่งภาพวาดของจิตกรเอกที่เห็นเพียงเงาดำๆรูปร่างคนเท่านั้น

    แต่ก็ถึงกับทำให้คนที่มาใหม่รู้สึกว่าตนเป็นส่วนเกิน ณ ที่แห่งนี้ไปได้..

    ชายคนที่ยืนอยู่ก่อนไม่ยอมหันหน้าเผชิญกับบุกรุกเสียที...จนฝ่ายที่เพิ่งมาถึงต้องอึดอัด..

    แอบกลืนน้ำลาย..ก่อนที่จะเปิดฉากสนทนาก่อน



    \"อะแฮ่ม~ท่านองครักษ์...เรามาถึงแล้ว\"



    น้ำเสียงเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาคล้ายเสียงแมงหวี่ราวกับว่าเกรงใจ

    คนตรงหน้าเสียเหลือเกิน



    คนที่ไขว้แขนตรงหน้าพูดพลางค่อยๆเบือนหน้าเข้มๆของตนช้าๆ

    ราวกับกลัวว่าจะพลาดฉากสำคัญๆอย่างไรอย่างนั้น

    \"องค์ชายทรงเสด็จมาช้า\"



    คนที่ถูกกล่าวหาหลบพระเนตรไม่กล้าจ้องตาต่อกรกับสายตาคมกริบที่มองมา

    \"ยะ..เ่อ่อ..ชายผิดเอง...โทษที\"



    คำพูดอ่อยๆของคนตรงหน้าถึงกับทำให้องครักษ์หนุ่มเลิกคิ้วของตนอย่างแปลกใจมิได้...

    เอ...แปลกแฮะ..ทุกทีเห็นทำท่าหยิ่งๆ...วันนี้เสวยอะไรผิดสำแดงมาแน่ๆ...ชายหนุ่มได้แต่คิดอยู่ในใจ...

    ท่าทางที่แสดงออกมามิได้ทำให้องค์ชายน้อยที่อยู่ตรงหน้่านี้รู้สึกผิดปกติใดๆทั้งสิ้น



    \"วันนี้ก่อนที่เราจะเริ่มเรียนศิลปะป้องกันตัว...กระหม่อมอยากทราบว่า..

    องค์ชายทรงมีพื้นฐานอย่างไร..เิพราะฉะนั้นเราจะเิริ่มบทแรก...

    ด้วยการประลองกันก่อนพะยะคะ..กระหม่อมจะให้สิทธ์พระองค์ก่อน...

    ทรงเลือกได้ว่าจะประลองอะไร...ตามที่ทรงถนัด\"



              ร่างสูงกว่าได้ผายมือไปทางด้านข้างซ้ายมือ...

    องค์ชายตัวปลอมเผลอมองตามมือได้รูปนั่น...

    ภาพที่ปรากฏต่อสายตานั่นได้ทำให้พระองค์อดแสดงพระพักตร์ตื่นๆอย่างอดไม่ได้

    เมื่อเห็นว่ามีทั้ง ดาบ หอก ธนู ... อาวุธที่พระองค์มิเคยได้สัมพัสมามาก่อน...

    ดวงตากลมหวานซึ้งค่อยๆเปลี่ยนจากตระหนกกลายเป็นตื่นเต้นแทนเสียมิได้..

    เมื่อนึกว่าตนจะไ้ด้เริ่มเรียนอาวุธเหล่านี้หลัีงจากที่เคยอ้อนวอนเสด็จพ่ออยู่เสมอ

    แต่ก็ไม่เคยได้รับการตอบรับใดๆ...



              กริยาเล็กๆน้อยๆขององค์ชายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มิอาจลอดพ้นการสังเกตุ

    จากสายตาแหลมคมดั่งเหยี่ยวทะเลของชายหนุ่มไปได้..

    และท่าทางเหล่านี้เองถึงกับสะกิดความสงสัยองครักษ์หนุ่มขึ้นมา...



              \'แปลก...แปลกมาก..องค์ชายแปลกไป..จากที่เราเคยเห็น...

    ท่านมิน่าจะใช่คนแบบนี้ เอ๊ะ..รึว่าเราจะโดนแกล้ง\'



    ชายหนุ่มเองได้รับเอกสารต่างๆเกี่ยวกับตัวองค์ชายเกือบจะทุกอย่าง

    ไม่ว่าจะเป็นอุปนิสัย..งานอดิเรก..ประวัติการศึกษานานา...

    ไม่เว้นแม้แต่ความสัมพันธ์กับคนในวังเอง...



              แถมเรื่องที่พระองค์ทรงมีพระขนิษฐาฝาแฝดซึ่งก็ไม่ซนน้อยไปกว่าพระองค์เท่าใดนัก...

    คิดได้ดังนั้น...เรื่องราวต่างๆก็เริ่มคลี่คลายเป็นเปาะๆ..

    การสันนิฐานของชายหนุ่มมีความแม่นยำเกือบร้อยเปอร์เซนต์เชียว...

    ทำให้ชายหนุ่มมีความมั่นใจตนเองเป็นอย่างมาก..

    ว่าบุคคลที่กำลังทำท่าคิดหนักตรงหน้านี้ต้องไม่ใช่องค์ชายเสียแล้ว..

    คิ้วที่ขมวดกันก็เริ่มคลี่ออกพร้อมมุมปากของชายหนุ่มก็ค่อยๆยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กๆ

    ราวกับตนเริ่มหาทางแก้เผ็ดคนตรงหน้านี้ได้แล้วอย่างไรอย่างนั้น



    \"พระองค์ทรงเลือกได้รึยังพะยะคะ\"

    เสียงห้าวที่เอ่ยมาจากข้างหลังทำให้ร่างเล็กกว่าถึงกับสะดุ้งโหยงได้เลยทีเดียว



    \"แหม~ท่านองครักษ์..เราไม่รู้นี่...ว่าจะเลือกอันไหนดี...น่าเล่นทั้งนั้น..อุ๊บ\"



    ืมือเล็กๆรีบอุดพระโอษฐ์ของตนแทบจะไม่ทัน...

    เมื่อสำนึกได้ว่าตนแอบเผลอพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดนั้นออกไป

    ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ถึงกริืยาแปลกที่เกิดขึ้น

    พลางเสหน้าไปอีกด้านหนึ่งอย่างอดขำท่าทางนั้นไม่ได้



              ร่างเล็กค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบธนูหลังจากพิจารณาแล้ว

    ว่านี่คงเป็นอาวุธที่ตนเจ็บตัวน้อยที่สุดและเบาแรงที่สุด

    โดยมิได้ทรงเหลือบไปเห็นตาพราวๆที่จ้องมาจากด้านหลังเลยซักนิด



    \"เอาละ..เราขอเลือกสิ่งนี้แล้วกัน..ท่านว่าไง\"



    ดวงตาที่มององครักษ์คนใหม่เต็มไปด้วยแววซุกซนที่พระองค์เองซ่อนไม่มิด

    ขาได้รูปแข็งแรงนั่นไ้ด้ก้าวเข้ามาหยุดที่ด้านข้างร่างเล็กพลางหยิบธนูที่เหลือ

    พลางมองพระอาทิตย์ซึ่งเวลานี้ได้ทอแสงกล้า..

    บ่งบอกว่าเวลานี้มิใช่เวลาเช้าตรู่อีกต่อไปแล้ว..



    \"อืม~องค์ชาย...ท่านแน่ใจนะว่าท่านเลือกสิ่งนี้\"



    ดวงเนตรระยับราวหยดน้ำค้างยามเช้าได้มองมือหนาที่โยนคันธนูไปมา

    คล้ายกับจะชั่งน้ำหนักของมันพร้อมจะกระฉับไว้ในมือ

    ก่อนที่จะตอบอย่างไม่ค่อยแน่ใจในพระองค์เองเท่าใดนัก



    \"อืม..เราคิดว่า..อันนี้เหมาะกับเราที่สุด\"





    \"งั้นเรามาเริ่มประลองกันก่อนด้วยการ ยิงกระต่ายที่หม่อมฉันได้เตรียมมาเพื่อการครั้งนี้\"

    พลางหยิบกรงน้อยด้านหลังของอาวุธต่างๆ..

    ที่มีกระต่ายตัวหนึ่งตัวน้อยสีขาวขนปุยน่ารักน่าใคร่นั้นออกมาวางไว้ตรงหน้าของพระองค์..

    ก่อนที่เจ้าปุยจะูถูกวางลงหน้าพระพักตร์ พระองค์ก็ได้คว้ามากอดไว้ได้เสียก่อน



    \"ไม่เอานะ..เราไม่ยอมหรอก..ท่านจะมาฆ่าสิ่งมีชีวิตต่อหน้าเราไม่ได้เด็ดขาด\"

    คำพูดที่ทรงกล่าวมานั้นไม่ได้ผิดไปจากที่ชายหนุ่มคิดไว้เลย

    \' ผู้หญิง..ยังไงก็ขี้ใจอ่อนวันยังค่ำ \'







    \"กระหม่อมของกราบขออนุญาติ..อย่าหาว่าหม่อมฉันอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ..

    ก่อนที่พระองค์จะทรงเอ่ยออกมา..กระหม่อมอยากให้พระองค์ทรงตรวจตราสถานะการณ์ก่อน..

    อย่างเช่นตอนนี้...องค์ชายได้โปรดมองที่ลูกดอกของธนูดีๆิสิพะยะคะ..

    หม่อมฉันยังไม่ได้บอกเลยนะเพคะว่า..เราจะฆ่ากระต่าย..\"



              ร่างเล็กกว่าได้มองที่ปลายของลูกดอกธนูก็ทรงสังเกตุเห็นว่า

    ที่ปลายเป็นลูกดอกยางแบนเรียบซึ่งก็ชุบผงสีๆแบ่งออกเป็นสองสี สีแดง กับสีเขียว...

    ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะทำอันตรายเจ้าสัตร์ตัวน้อยนี้ได้

    เมื่อตนรู้ว่าเผลอพูดโดยที่ไม่ได้ใครครวญให้ดี

    ทำให้พระปราง(แก้ม)ของพระองค์เริ่มประปรายไปด้วยด้วยสีแดงนิดๆ..

    เกิดความรู้สึกอายจนเผลอกอดกรงกระต่ายเล็กๆนั่นอย่างคนที่ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร

    นอกจากเอ่ยขอโทษด้วยเสียงอ่อยๆ..ทำให้คนที่เห็นรู้สึกอดเอ็นดูมิได้...



    \"เอาละ..เริ่มแข่งกันก่อนที่จะแดดร้อนไปกว่านี้ดีกว่านะกระหม่อม\"



    ชายหนุ่มรีบตัดบทก่อนเพราะไม่อยากแกล้งองค์หญิงน้อยที่น่าสงสารนั่นนัก..

    พลางเอื้อมมือไปหยิบเจ้ากระต่ายน้อยจากอ้อมกอดของพระองค์

    สะกิดกลอนที่ล๊อคอยู่ตรงด้านหน้าเล็กน้อย

    เจ้ากระต่ายขนฟูก็รีบใช้่หัวของมันมุดออกมาก่อนที่จะวิ่งกระโดดพรวดๆ

    ไปยังซุ้มต้นไม้เล็กที่มีอยู่ไม่กี่ต้นทางด้านหน้าของทั้งคู่อย่างรวดเร็ว



    \"เอ๊ะ..ท่านปล่อยเจ้าฟูทำไม?\"

    สายตาแลตามเจ้าตัวน้อยไม่คลาดคลา



              องครักษ์ร่างสูงแอบอมยิ้มขันอีกครั้งเมื่อนึกได้ว่าองค์หญิงน้อย

    เพิ่งจะเห็นเจ้ากระต่างไม่ทันไร ก็ทรงโมเมตั้งชื่อให้เสร็จสรรพเสียแล้วสิ..



    \"เราจะทำการแข่งโดยใ้ห้พระองค์ทรงเลือกสีฝุ่นที่ติดกับปลายธนูที่พระองค์โปรดเสียก่อน..

    เราจะยิงธนูออกไปที่เจ้าฟู...

    (เรียกตามพระองค์ซึ่งเจ้าตัวก็ดูเหมือนจะยังไม่รู้สักนิด

    ว่าโดนล้อเลียนแบบหน้าตายจากองครักษ์หนุ่ม)

    พร้อมๆกัน ผลแพ้ชนะคือสีที่โดนตัวของกระต่ายน้อย...ว่าจะเป็นสีของใคร..

    ถ้ามีทั้งสองสี..เราจะพิจารณา...ว่าใครยิงใกล้หัวใจมากที่สุดเป็นฝ่ายชนะ\"





    \"ตกลง...เราเลือกสีแดง\"

    ดวงเนตรระยิบระยับส่องประกายตื่นเต้นจ้องไปที่เจ้าฟูตาไม่กระพริบ...

    ทำให้ไม่ทรงเห็นว่าอีกฝ่ายแอบส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้กับอาการไร้เดียงสาของพระองค์



              ทั้งสองฝ่ายต่างฝ่ายต่างเงื้อธนูขึ้นมาพร้อมๆกัน...

    น้ำหนักที่ไม่เบานักไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆเลยกับองค์หญิง..

    เนื่องจากตนแอบเล่นของเล่นที่ชาวบ้านเรียกว่าหนักสติ๊กที่พระเชษฐา

    เอามาฝากอยู่บ่อยๆนั่นเอง..ไอ้ธนูนี่มันก็ไม่น่าเหลือบ่ากว่าแรงเราเท่าไหร่นักหรอก...

    คิดได้ดังนั้นก็เผลอยิ้มแจ่มใสออกมาไม่ได้เมื่อคิดว่าตน

    ต้องเป็นฝ่ายชนะคนตัวโตกว่าได้อย่างแน่นอน



    \"หนึ่ง สอง สาม..ยิง\"



    สิ้นเสียงห้าวๆขององครักษ์หนุ่ม มือที่เหนี่ยวไกอยู่ของทั้งคู่ก็ยิงลูกดอกของใครของมัน

    แทบจะพร้อมๆกันเลยทีเดียวออกไปยังเป้าหมายที่เล็งไว้...

    ร่างบอบบางกว่ารีบวิ่งออกไปยังพุ่มไม้ตรงหน้าอย่างสงสัยใคร่รู้ผลเป็นหนักหนา...

    แต่ยังไม่ทรงถึงที่หมายร่างสูงก็ก้าวเข้ามาขวางไว้ตรงหน้าพลางจับหูเจ้าฟูขึ้นมาจากที่ซ่อน...

    สาเหตุที่เจ้าฟูยังไม่หนีไปไหนก็เนื่องจากว่ามันถูกธนูยิงหัวจนสลบไปแล้วนั่นเอง



              พระพักตร์งามแสดงความผิดหวังอย่างเต็มที่

    ยังไม่ทันเอ่ยคำใดขึ้นมาเพียงแค่อ้าปากเตรียมพูดเท่านั้น ชายหนุ่มตรงหน้าก็พูดขึ้นมาก่อนว่า



    \"เจ้าหญิง..หม่อมฉันขอรับชัยชนะครั้งนี้ไปก่อนนะ....แล้วองค์ชายน้อยเสด็จไหนเสียแล้วละ..พะยะคะ\"



    \"ทรงแอบไปเดินเล่นที่น้ำตกหลังวัง..อุ๊บ\"

    พระหัตถ์น้อยรีบปิดโอษฐ์ของพระองค์พลางนิ่วพระพักตร์เมื่อรู้ว่าตนเผลอพูดไปเสียแล้ว



    \"ขอบคุณกระหม่อม\"

    องค์หญิงรีบรับเจ้ากระต่ายน้อยอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อชายหนุ่มยัดเจ้าขนฟูมาให้...

    แต่ยังไม่ทันที่องค์หญิงจะทรงแก้ตัวใดๆ...ร่างสูงก็ก้าวเดินไปฉับๆยังทิศทางที่ทรงเผลอบอกไปเมื่อกี้ทันที



    \"โอ๊ย~ตายแล้ว...หญิงขอโทษเพคะ..หญิงไม่ได้ตั้งใจ\"...

    คนพูดพลางได้แต่ทำตาละห้อยมองตามหลังขององครักษ์หนุ่มจนลับสายตา

    อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร..นอกจากแอบเป็นกำลังใจให้พระเชษฐาของตน...เอาตัวรอดได้เท่านั้น...







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×