ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : oh~no!
ในห้องสูทชั้นบนของโรงแรมที่เปิดให้เช่าเป็นรายปีสำหรับคนมีรายได้ไม่ธรรมดาแห่งหนึ่ง
มีร่างๆหนึ่งกำลังเคลื่นไหวอยู่ในห้องที่มีเพียงโคมไฟสีเหลืองคอยชี้ทางเท่านั้น
มือเล็กบอบบางค่อยๆนำเสื้อในตระกล้าทิ้งลงในเครื่องซักผ้าทีละชิ้นทีละชิ้น
ราวกับว่าจิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวอย่างไงอย่างงั้น...
.
“เอาไงดีละที่นี้....”
พลางยกข้อมือข้างขวาที่สวมนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา...ซึ่งก็ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วของวันนี้
“เฮ้อ....เวลาผ่านไปช้าจริง...เหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมงแหน่ะ กว่าจะถึงเวลาเค้ากลับ”
คึก คึก ครืด...ด....เสียงเครื่องซักผ้าเริ่มปั่นเมื่อนิ้วชี้ของหญิงสาวกดปุ่นสตาทร์เครื่องให้ทำงาน
“แล้วจะทำอะไรอีกหล่ะทีนี้.....ทำเกือบจะหมดแล้วนะเนี๊ยะ....”
“ฟุ๊บ” เสียงของโซฟาตัวสวยที่วนิดาชอบดังขึ้นเมื่อหญิงสาวทิ้งตัวลงอย่างรวดเร็ว
อยู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงเหมือนใครพยายามเปิดห้องเข้ามาทำให้หญิงสาวรีบลุกขึ้นสาวเท้าไปยังเครื่อง
ซักผ้าที่ตั้งไว้อยู่ริมสุดของห้องครัวทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ในการมาของเจ้าของห้อง
“แกร๊ก” ทันใดที่ชายหนุ่มเปิดประตูห้องมาก็ต้องขมวดคิ้วเข็มได้รูปของตนเล็กน้อยเมื่อเห็น
คนดูแลห้องที่ชายหนุ่มจ้างผ่านเอเยนต์ของโรงแรมแห่งนี้เพื่อความสะดวกสะบายของตนเอง
เค้าไม่ต้องการปวดหัวกับการทำงานบ้านเนื่องจากวันทั้งวันต้องเผชิญงานที่ใช้สมองมามากมายแล้ว
พอกลับบ้านชายหนุ่มก็ต้องการการพักผ่อนให้เต็มที่
“ยังไม่กลับอีกเหรอ?”
ถามพร้อมกับถอดเนคไทของตนเองออกแล้ววางพาดไว้กับที่ห้อยที่ตั้งอยู่ข้างทางเข้า
หญิงสาวที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้ทำเป็นยืนหันหน้าเข้าหาเครื่องซักผ้าได้หันหน้ากลับมาเมื่อได้ยินเสียงของ
ชายหนุ่มพร้อมกับรีบเดินเข้าไปหาเจ้าของเสียงเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังถอดเสื้อสูทของตนออก
“ผมช่วยครับ” เสียงของหญิงสาวที่เคยหวานได้ถูกเจ้าตัวดัดให้แหบที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังจากซ้อม
พูดกับเพื่อนๆหลายครั้งจนได้มติเป็นเอกฉันท์ว่าเสียงที่ดัดอยู่นี่ใกล้เคียงเด็กผู้ชายที่สุด
เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ๆทำให้ชายหนุ่มเริ่มสังเกตเห็นว่าคนที่เข้ามาช่วยเค้าเอาเสื้อไปแขวนนี่ไม่ใช่
คนเดิมที่เค้าเคยเห็นอยู่เป็นประจำเวลาที่เค้ากลับถึงบ้านเร็วกว่าปกติ
“น้าสุทัดไปไหน?”
“ไปเยี่ยมแฟนที่ต่างจังหวัดครับ...ได้ข่าวว่าไม่ค่อยสบาย น้าเค้าก็เลยฝากผมให้ผมมาดูแลห้องแทนเค้าครับ”
หญิงสาวตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติหลังจากคราวที่แล้วแห้ว ไม่ได้พูดออกไป
“อืม...เหรอ?” เนื่องจากชายหนุ่มเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจคนอื่นนอกจากงาน..ทำให้เค้าไม่รู้ว่าจะชวนพูดยังไงจึง
ได้แต่พูดอย่างนั้นแล้วเงียบไปพร้อมกับหย่อนตัวลงนั่งที่โซฟาตัวเดียวกันกับที่หญิงสาวเคยนั่งเมื่อห้านาทีที่แล้ว
“เหนื่อยไหมครับ? เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”
ร่างแน่งน้อยไม่รอให้ชายหนุ่มได้ตอบก็รีบเดินไปหยิบแก้วพร้อมกับรินน้ำส้มที่ตนซื้อมาแช่ไว้ในตู้เย็นก่อนหน้านี้
“นี่ครับ”
ชายหนุ่มมองไล่จากมือที่ยื่นแก้วน้ำส้มให้เขาจนกระทั่งได้เห็นหน้าหญิงสาวชัดๆที่เจ้าตัวได้แปลงโฉมเรียบร้อยแล้ว
(สวมวิกผมสั้น สวมแว่นตาทรงเด็กคงแก่เรียนโตๆ กรอบสีดำ) เผื่อไม่ให้ชายหนุ่มดูออกว่าเธอไม่ใช่ชายแท้
พร้อมรับแก้วน้ำขึ้นมาดื่มทั้งๆที่สายตายังคงจ้องหน้าหญิงสาว
สายตาคมๆนั้นเล่นเอาหญิงสาวแก้มแดง ใจเต้นตุ๊บๆต่อมๆ ไม่เป็นจังหวะไปเหมือนกันนะ
“มะ....มี อะไรติดหน้าผมเหรอครับ?” ถามพลางหลุบสายตาหลบ
“เปล่า...เพียงแต่สงสัยว่านายอายุเท่าไหร่หน่ะ?”
“เอ่อ...ยะ...ยี่สิบ....ห้า..ครับ”
เจ้าตัวตอบราวกับว่าไม่ค่อยแน่ใจนักที่จะบอกอายุจริง
“ออ...ยี่สิบห้าแล้วเหรอ? เห็นตัวเล็กๆหน้าอ่อนๆ นึกว่าจะแค่เพิ่งจบม.ปลาย”
หญิงสาวในคราบชายหนุ่มได้แต่หัวเราะฝืดๆ
“แฮะๆ...มีคนบอกหลายคนเหมือนกันครับ”
“เอ่อ...แล้วคุณ...เอก...ทำไมวันนี้กลับเร็วจังค...ครับ”  เกือบลืมตัวพูดคะซะแล้วซิ
“อืม...ก็วันนี้วันศุกร์ทุกคนเค้าก็ต้องรีบกลับบ้าน...ฉันเองก็เบื่อๆ ก็เลยกลับมาก่อนหน่ะ”
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
“แล้วนายไม่รีบกลับบ้านรึไง?”
“เอ่อ...ผม...ไม่มีใครรอผมที่บ้านหน่ะครับ ก็เลยไม่ค่อยอยากกลับ...กลับไปก็เหงา”
ใครจะรู้นอกจากตัววนิดาเองเท่านั้นว่าเหตุผลที่แท้จริงแล้วเธออยากอยู่ใกล้ๆกับเอกรัฐ
ให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ต่างหาก
“อืม...เหรอ?...งั้นวันนี้ค้างบ้านฉันไม่หล่ะ?”
ไม่รู้ทำไมทำให้เอกรัฐได้ถามคำถามนี้ออกไป
ซึ่งโดยปกติแล้วเค้าก็ไม่ค่อยชอบให้ใครมาป้วนเปี้ยนเกะกะข้างๆตัวของเค้าเท่าไหร่นักหรอก
แต่อาจจะเป็นว่าช่วงนี้เค้ารู้สึกเครียด เบื่อๆ เซ็งๆ ไม่ค่อยอยากอยู่คนเดียวก็ได้บวกกับรู้สึกถูก
ชะตาชายร่างเล็กที่สนทนากับเค้าอยู่ก็เป็นได้
ทันทีที่วนิดาได้ยินคำถามนั้นเล่นเอาวนิดาถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ...เอ...เอาละซิ รึว่าเค้าจับได้แล้วว่าฉัน
ไม่ใช่ผู้ชายจริงๆ....นึกได้ดังนั้นทำเอาวนิดาใจสั่นขึ้นมาทันใด
“เอ่อ...” จะตอบไงดีละ
“ว่าไง? ไหนนายบอกว่าไม่มีใครรอที่บ้านไง...นอนด้วยกันที่ห้องของฉันก็ได้ แล้วเอาที่นอนลูกฝูกที่
เก็บเอาไว้ในตู้เสื้อผ้ามาปูนอนที่พื้น” พร้อมกับจ้องหน้านวนตรงหน้าอย่างรอคอยคำตอบ
ตายละหว่า....รึเค้าจะเป็นเกย์ จริงๆหล่ะเนี๊ยะ เอาไงดีละ? อยู่ไม่อยู่ดี?
แต่เมื่อวนิดามองหน้าชายหนุ่มอีกทีก็เผลอตอบตกลงไปโดยไม่รู้ตัว
“โอเคครับ”
ไงงั้นละยายวนิดา....คิดแล้วมันน่าตบปากตัวเอง...ถ้าเค้าจับได้ละ? มิยิ่งแย่ไปกันใหญ่รึไงเนี๊ยะ
เอกรัฐมองหน้าคนตรงข้ามซึ้งเค้าเข้าใจว่าเธอเป็นชายมากกว่าจะเป็นหญิงแสดงอาการขมวดคิ้วที่ผูกกันจนจะ
เป็นโบได้อยู่แล้วของเจ้าตัวทำให้เอกรัฐรู้สึกไม่ค่อยพอใจ
“ถ้าไม่อยากอยู่ก็กลับไปก็ได้นะ”
เธอรับรู้อารมณ์ที่ไม่ค่อยจะเอนจอยของเอกรัฐได้ถึงได้รู้ตัว ปรับสีหน้าของตนให้เป็นปกติ
“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่คิดว่าไม่ได้เอาชุดนอนมาด้วยเท่านั้นเอง”
“โห....นาย.....”
“ผมชื่อทรครับ หลานของน้าสุทัด” หญิงสาวรีบตอบเมื่อนึกได้ว่าตนยังไม่ได้บอกชื่อตัวเองให้กับคนตรงหน้า
“อืม..นายทร...นายนี่คิดมากยังกับผู้หญิงเชียว แค่นี้เอง....สบายมาก...ไม่ต้องคิดมากหรอก....
เออ...ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน รู้สึกเหนียวตัวยังไงไม่รู้....”
พูดจบชายหนุ่มก็เดินริ่วๆเข้าไปในห้องน้ำปล่อยให้วนิดาได้คิดอะไรคนเดียว
“บ้า...บ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....วนิดาเอ๋ย...หล่อนเป็นบ้าไปแล้วรึไงเนี๊ยะ?...ไปรับปากเค้าได้ไงฮึ?..
สงสัยจะเป็นเอามาก...แล้วงี้จะทำไงต่อไปดีละ? ยิ่งคิดก็ยิ่งบ้า....”
บ่นตัวเองไปพร้อมกับยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองเบาๆสองสามทีราวกับสิ่งที่ทำจะเรียกสติกลับคืนมา
ได้อย่างนี้แหละ
ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมด้วยร่างของชายหนุ่มที่ก้าวออกมาเผยให้เห็นร่างกายแข็งแรงสมส่วน
ผิวขาวผ่องจนหญิงสาวอย่างวนิดาได้เห็นยังรู้สึกอิจฉา...
ตายแล้ว...เค้าใส่แค่ผ้าคนหนูสีขาวตัวเล็กๆพันตัวเท่านั้นเอง....อย่าไปมองเค้าเชียวนะ...สมองสั่งให้
เธอหันหน้ากลับไม่ก็หลับตาซะ...แต่ส่วนลึกธาตุแท้ทำให้เธอไม่ทำตามคำสั่ง...เธอยังคงมองคนที่
เพิ่งก้าวออกมาจากห้องน้ำด้วยดวงตาที่โตขึ้นราวกับไข่ห่านโดยไม่กระพิบแล้วในนาทีต่อมาหน้าของเธอ
ก็ค่อยๆแดงระเรื่อขึ้นมาทันใด
“อ้าว...ทำไมจ้องกันอย่างนั้นหล่ะ...ฉันอาบเสร็จแล้ว...เธอก็อาบน้ำต่อฉันเลยสิ”
เพราะเสียงของชายหนุ่มที่ทักขึ้นมานั่นแหละ ทำให้หญิงสาวได้รู้ตัวรีบเมินหน้าหนีจากภาพที่แสนจะเย้ายวน
ยวนตรงหน้า
“คะ...ครับ อาบน้ำครับ”
หญิงสาวในคราวชายหนุ่มราวกับต้องการเวลาสงบจิตสงบใจที่พรุ่งปรี๊ดขึ้นมาของตน
ทำให้รีบเดินจนเกือบจะเป็นวิ่งเข้าห้องน้ำ
ด้วยความที่รีบร้อนเกินไปนี่แหละทำให้หญิงสาวสะดุดเท้าของตนเองล้มลงไปข้างหน้าแต่สัญชาตญาณป้องกัน
ตัวไม่บาดเจ็บของวนิดาทำให้เอื้อมมือไปข้างหน้าเพื่อหาสิ่งยึดเหนี่ยวไม่ให้ตนล้มลงไปแต่สิ่งที่หญิงสาวคว้าได้นั้น
ก็คือผ้าขนหนูสีขาวของเอกรัฐนั่นเอง ส่วนด้านชายหนุ่มเพื่อต้องการช่วยเหลือวนิดาแต่เนื่องจากวนิดาได้คว้านั้นทำ
ให้ชายหนุ่มถึงกับหน้าถอดสีด้วยความเจ็บปวด....น้ำหนักของหญิงสาวดันให้เอกรัฐล้มไปด้านหลังส่วนหญิงสาว
นั้นทับอยู่บ้นตัวของชายหนุ่ม
“โอ๊ย...อุ๊บ....”
หน้าของหญิงสาวตรงกันกับอกของชายหนุ่มด้วยความตกใจกลัวชายหนุ่มจะจับได้ว่าตนเป็นหญิง
จึงได้ใช้มือกันหน้าอกของตนเองข้างหนึ่งอีกข้างหนึ่งยังจับอยู่ที่ส่วนของผ้าขนหนู
“อา...อั๊ก....” เสียงร้องของเอกรัฐทำให้หญิงสาวรีบเงยหน้ามองชายหนุ่ม
“คุณเอก...คุณไม่เป็นไรมากใช่ไหมครับ?”
“มะ...มะ...ไม่เป็นไรหรอก ถ้านายจะเอามือออกจากไอ้นั่นของฉันที....จับซะ...แน่น..เชียว...จะ...เจ็บหน่ะ..”
อะ...ไอ้...ไอ้นั่น? ไอ้นั่นคืออะไร? หญิงสาวค่อยๆเหลือบมองมืออีกข้างหนึ่งของตนที่ตนคิดว่าจับส่วนของ
ผ้าขนหนู....ว้าย....ตายแล้ว....
เมื่อเห็นว่าตนจับถูก....ของเค้าแล้วหญิงสาวถึงกับรีบปล่อยมือแล้วลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วราวกับโดนของร้อน
ยังไงยังงั้น....
“เอ่อ....ขะ...ขอโทษครับ....”
“มะ..ไม่เป็นไร”
ชายหนุ่มค่อยๆกัดฟันลุกขึ้นมาแล้วพันผ้าขนหนูใหม่อีกครั้งเพราะปมมันได้หลุดออกแล้ว
ด้วยฝีมือของหญิงสาว
วนิดาอายมากถึงกับทำอะไรไม่ถูก...ในขณะที่ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเนื่องจากว่าเค้าได้คิดว่าคนที่อยู่ตรง
หน้านี้เป็นผู้ชายจริงๆ
“เอ่อ...เอ่อ...ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” พูดยังไม่ทันได้จบหญิงสาวก็รีบเดินเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตู
ดังปัง....
มีร่างๆหนึ่งกำลังเคลื่นไหวอยู่ในห้องที่มีเพียงโคมไฟสีเหลืองคอยชี้ทางเท่านั้น
มือเล็กบอบบางค่อยๆนำเสื้อในตระกล้าทิ้งลงในเครื่องซักผ้าทีละชิ้นทีละชิ้น
ราวกับว่าจิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวอย่างไงอย่างงั้น...
.
“เอาไงดีละที่นี้....”
พลางยกข้อมือข้างขวาที่สวมนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา...ซึ่งก็ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วของวันนี้
“เฮ้อ....เวลาผ่านไปช้าจริง...เหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมงแหน่ะ กว่าจะถึงเวลาเค้ากลับ”
คึก คึก ครืด...ด....เสียงเครื่องซักผ้าเริ่มปั่นเมื่อนิ้วชี้ของหญิงสาวกดปุ่นสตาทร์เครื่องให้ทำงาน
“แล้วจะทำอะไรอีกหล่ะทีนี้.....ทำเกือบจะหมดแล้วนะเนี๊ยะ....”
“ฟุ๊บ” เสียงของโซฟาตัวสวยที่วนิดาชอบดังขึ้นเมื่อหญิงสาวทิ้งตัวลงอย่างรวดเร็ว
อยู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงเหมือนใครพยายามเปิดห้องเข้ามาทำให้หญิงสาวรีบลุกขึ้นสาวเท้าไปยังเครื่อง
ซักผ้าที่ตั้งไว้อยู่ริมสุดของห้องครัวทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ในการมาของเจ้าของห้อง
“แกร๊ก” ทันใดที่ชายหนุ่มเปิดประตูห้องมาก็ต้องขมวดคิ้วเข็มได้รูปของตนเล็กน้อยเมื่อเห็น
คนดูแลห้องที่ชายหนุ่มจ้างผ่านเอเยนต์ของโรงแรมแห่งนี้เพื่อความสะดวกสะบายของตนเอง
เค้าไม่ต้องการปวดหัวกับการทำงานบ้านเนื่องจากวันทั้งวันต้องเผชิญงานที่ใช้สมองมามากมายแล้ว
พอกลับบ้านชายหนุ่มก็ต้องการการพักผ่อนให้เต็มที่
“ยังไม่กลับอีกเหรอ?”
ถามพร้อมกับถอดเนคไทของตนเองออกแล้ววางพาดไว้กับที่ห้อยที่ตั้งอยู่ข้างทางเข้า
หญิงสาวที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้ทำเป็นยืนหันหน้าเข้าหาเครื่องซักผ้าได้หันหน้ากลับมาเมื่อได้ยินเสียงของ
ชายหนุ่มพร้อมกับรีบเดินเข้าไปหาเจ้าของเสียงเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังถอดเสื้อสูทของตนออก
“ผมช่วยครับ” เสียงของหญิงสาวที่เคยหวานได้ถูกเจ้าตัวดัดให้แหบที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังจากซ้อม
พูดกับเพื่อนๆหลายครั้งจนได้มติเป็นเอกฉันท์ว่าเสียงที่ดัดอยู่นี่ใกล้เคียงเด็กผู้ชายที่สุด
เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ๆทำให้ชายหนุ่มเริ่มสังเกตเห็นว่าคนที่เข้ามาช่วยเค้าเอาเสื้อไปแขวนนี่ไม่ใช่
คนเดิมที่เค้าเคยเห็นอยู่เป็นประจำเวลาที่เค้ากลับถึงบ้านเร็วกว่าปกติ
“น้าสุทัดไปไหน?”
“ไปเยี่ยมแฟนที่ต่างจังหวัดครับ...ได้ข่าวว่าไม่ค่อยสบาย น้าเค้าก็เลยฝากผมให้ผมมาดูแลห้องแทนเค้าครับ”
หญิงสาวตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติหลังจากคราวที่แล้วแห้ว ไม่ได้พูดออกไป
“อืม...เหรอ?” เนื่องจากชายหนุ่มเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจคนอื่นนอกจากงาน..ทำให้เค้าไม่รู้ว่าจะชวนพูดยังไงจึง
ได้แต่พูดอย่างนั้นแล้วเงียบไปพร้อมกับหย่อนตัวลงนั่งที่โซฟาตัวเดียวกันกับที่หญิงสาวเคยนั่งเมื่อห้านาทีที่แล้ว
“เหนื่อยไหมครับ? เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”
ร่างแน่งน้อยไม่รอให้ชายหนุ่มได้ตอบก็รีบเดินไปหยิบแก้วพร้อมกับรินน้ำส้มที่ตนซื้อมาแช่ไว้ในตู้เย็นก่อนหน้านี้
“นี่ครับ”
ชายหนุ่มมองไล่จากมือที่ยื่นแก้วน้ำส้มให้เขาจนกระทั่งได้เห็นหน้าหญิงสาวชัดๆที่เจ้าตัวได้แปลงโฉมเรียบร้อยแล้ว
(สวมวิกผมสั้น สวมแว่นตาทรงเด็กคงแก่เรียนโตๆ กรอบสีดำ) เผื่อไม่ให้ชายหนุ่มดูออกว่าเธอไม่ใช่ชายแท้
พร้อมรับแก้วน้ำขึ้นมาดื่มทั้งๆที่สายตายังคงจ้องหน้าหญิงสาว
สายตาคมๆนั้นเล่นเอาหญิงสาวแก้มแดง ใจเต้นตุ๊บๆต่อมๆ ไม่เป็นจังหวะไปเหมือนกันนะ
“มะ....มี อะไรติดหน้าผมเหรอครับ?” ถามพลางหลุบสายตาหลบ
“เปล่า...เพียงแต่สงสัยว่านายอายุเท่าไหร่หน่ะ?”
“เอ่อ...ยะ...ยี่สิบ....ห้า..ครับ”
เจ้าตัวตอบราวกับว่าไม่ค่อยแน่ใจนักที่จะบอกอายุจริง
“ออ...ยี่สิบห้าแล้วเหรอ? เห็นตัวเล็กๆหน้าอ่อนๆ นึกว่าจะแค่เพิ่งจบม.ปลาย”
หญิงสาวในคราบชายหนุ่มได้แต่หัวเราะฝืดๆ
“แฮะๆ...มีคนบอกหลายคนเหมือนกันครับ”
“เอ่อ...แล้วคุณ...เอก...ทำไมวันนี้กลับเร็วจังค...ครับ”  เกือบลืมตัวพูดคะซะแล้วซิ
“อืม...ก็วันนี้วันศุกร์ทุกคนเค้าก็ต้องรีบกลับบ้าน...ฉันเองก็เบื่อๆ ก็เลยกลับมาก่อนหน่ะ”
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
“แล้วนายไม่รีบกลับบ้านรึไง?”
“เอ่อ...ผม...ไม่มีใครรอผมที่บ้านหน่ะครับ ก็เลยไม่ค่อยอยากกลับ...กลับไปก็เหงา”
ใครจะรู้นอกจากตัววนิดาเองเท่านั้นว่าเหตุผลที่แท้จริงแล้วเธออยากอยู่ใกล้ๆกับเอกรัฐ
ให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ต่างหาก
“อืม...เหรอ?...งั้นวันนี้ค้างบ้านฉันไม่หล่ะ?”
ไม่รู้ทำไมทำให้เอกรัฐได้ถามคำถามนี้ออกไป
ซึ่งโดยปกติแล้วเค้าก็ไม่ค่อยชอบให้ใครมาป้วนเปี้ยนเกะกะข้างๆตัวของเค้าเท่าไหร่นักหรอก
แต่อาจจะเป็นว่าช่วงนี้เค้ารู้สึกเครียด เบื่อๆ เซ็งๆ ไม่ค่อยอยากอยู่คนเดียวก็ได้บวกกับรู้สึกถูก
ชะตาชายร่างเล็กที่สนทนากับเค้าอยู่ก็เป็นได้
ทันทีที่วนิดาได้ยินคำถามนั้นเล่นเอาวนิดาถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ...เอ...เอาละซิ รึว่าเค้าจับได้แล้วว่าฉัน
ไม่ใช่ผู้ชายจริงๆ....นึกได้ดังนั้นทำเอาวนิดาใจสั่นขึ้นมาทันใด
“เอ่อ...” จะตอบไงดีละ
“ว่าไง? ไหนนายบอกว่าไม่มีใครรอที่บ้านไง...นอนด้วยกันที่ห้องของฉันก็ได้ แล้วเอาที่นอนลูกฝูกที่
เก็บเอาไว้ในตู้เสื้อผ้ามาปูนอนที่พื้น” พร้อมกับจ้องหน้านวนตรงหน้าอย่างรอคอยคำตอบ
ตายละหว่า....รึเค้าจะเป็นเกย์ จริงๆหล่ะเนี๊ยะ เอาไงดีละ? อยู่ไม่อยู่ดี?
แต่เมื่อวนิดามองหน้าชายหนุ่มอีกทีก็เผลอตอบตกลงไปโดยไม่รู้ตัว
“โอเคครับ”
ไงงั้นละยายวนิดา....คิดแล้วมันน่าตบปากตัวเอง...ถ้าเค้าจับได้ละ? มิยิ่งแย่ไปกันใหญ่รึไงเนี๊ยะ
เอกรัฐมองหน้าคนตรงข้ามซึ้งเค้าเข้าใจว่าเธอเป็นชายมากกว่าจะเป็นหญิงแสดงอาการขมวดคิ้วที่ผูกกันจนจะ
เป็นโบได้อยู่แล้วของเจ้าตัวทำให้เอกรัฐรู้สึกไม่ค่อยพอใจ
“ถ้าไม่อยากอยู่ก็กลับไปก็ได้นะ”
เธอรับรู้อารมณ์ที่ไม่ค่อยจะเอนจอยของเอกรัฐได้ถึงได้รู้ตัว ปรับสีหน้าของตนให้เป็นปกติ
“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่คิดว่าไม่ได้เอาชุดนอนมาด้วยเท่านั้นเอง”
“โห....นาย.....”
“ผมชื่อทรครับ หลานของน้าสุทัด” หญิงสาวรีบตอบเมื่อนึกได้ว่าตนยังไม่ได้บอกชื่อตัวเองให้กับคนตรงหน้า
“อืม..นายทร...นายนี่คิดมากยังกับผู้หญิงเชียว แค่นี้เอง....สบายมาก...ไม่ต้องคิดมากหรอก....
เออ...ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน รู้สึกเหนียวตัวยังไงไม่รู้....”
พูดจบชายหนุ่มก็เดินริ่วๆเข้าไปในห้องน้ำปล่อยให้วนิดาได้คิดอะไรคนเดียว
“บ้า...บ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....วนิดาเอ๋ย...หล่อนเป็นบ้าไปแล้วรึไงเนี๊ยะ?...ไปรับปากเค้าได้ไงฮึ?..
สงสัยจะเป็นเอามาก...แล้วงี้จะทำไงต่อไปดีละ? ยิ่งคิดก็ยิ่งบ้า....”
บ่นตัวเองไปพร้อมกับยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองเบาๆสองสามทีราวกับสิ่งที่ทำจะเรียกสติกลับคืนมา
ได้อย่างนี้แหละ
ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมด้วยร่างของชายหนุ่มที่ก้าวออกมาเผยให้เห็นร่างกายแข็งแรงสมส่วน
ผิวขาวผ่องจนหญิงสาวอย่างวนิดาได้เห็นยังรู้สึกอิจฉา...
ตายแล้ว...เค้าใส่แค่ผ้าคนหนูสีขาวตัวเล็กๆพันตัวเท่านั้นเอง....อย่าไปมองเค้าเชียวนะ...สมองสั่งให้
เธอหันหน้ากลับไม่ก็หลับตาซะ...แต่ส่วนลึกธาตุแท้ทำให้เธอไม่ทำตามคำสั่ง...เธอยังคงมองคนที่
เพิ่งก้าวออกมาจากห้องน้ำด้วยดวงตาที่โตขึ้นราวกับไข่ห่านโดยไม่กระพิบแล้วในนาทีต่อมาหน้าของเธอ
ก็ค่อยๆแดงระเรื่อขึ้นมาทันใด
“อ้าว...ทำไมจ้องกันอย่างนั้นหล่ะ...ฉันอาบเสร็จแล้ว...เธอก็อาบน้ำต่อฉันเลยสิ”
เพราะเสียงของชายหนุ่มที่ทักขึ้นมานั่นแหละ ทำให้หญิงสาวได้รู้ตัวรีบเมินหน้าหนีจากภาพที่แสนจะเย้ายวน
ยวนตรงหน้า
“คะ...ครับ อาบน้ำครับ”
หญิงสาวในคราวชายหนุ่มราวกับต้องการเวลาสงบจิตสงบใจที่พรุ่งปรี๊ดขึ้นมาของตน
ทำให้รีบเดินจนเกือบจะเป็นวิ่งเข้าห้องน้ำ
ด้วยความที่รีบร้อนเกินไปนี่แหละทำให้หญิงสาวสะดุดเท้าของตนเองล้มลงไปข้างหน้าแต่สัญชาตญาณป้องกัน
ตัวไม่บาดเจ็บของวนิดาทำให้เอื้อมมือไปข้างหน้าเพื่อหาสิ่งยึดเหนี่ยวไม่ให้ตนล้มลงไปแต่สิ่งที่หญิงสาวคว้าได้นั้น
ก็คือผ้าขนหนูสีขาวของเอกรัฐนั่นเอง ส่วนด้านชายหนุ่มเพื่อต้องการช่วยเหลือวนิดาแต่เนื่องจากวนิดาได้คว้านั้นทำ
ให้ชายหนุ่มถึงกับหน้าถอดสีด้วยความเจ็บปวด....น้ำหนักของหญิงสาวดันให้เอกรัฐล้มไปด้านหลังส่วนหญิงสาว
นั้นทับอยู่บ้นตัวของชายหนุ่ม
“โอ๊ย...อุ๊บ....”
หน้าของหญิงสาวตรงกันกับอกของชายหนุ่มด้วยความตกใจกลัวชายหนุ่มจะจับได้ว่าตนเป็นหญิง
จึงได้ใช้มือกันหน้าอกของตนเองข้างหนึ่งอีกข้างหนึ่งยังจับอยู่ที่ส่วนของผ้าขนหนู
“อา...อั๊ก....” เสียงร้องของเอกรัฐทำให้หญิงสาวรีบเงยหน้ามองชายหนุ่ม
“คุณเอก...คุณไม่เป็นไรมากใช่ไหมครับ?”
“มะ...มะ...ไม่เป็นไรหรอก ถ้านายจะเอามือออกจากไอ้นั่นของฉันที....จับซะ...แน่น..เชียว...จะ...เจ็บหน่ะ..”
อะ...ไอ้...ไอ้นั่น? ไอ้นั่นคืออะไร? หญิงสาวค่อยๆเหลือบมองมืออีกข้างหนึ่งของตนที่ตนคิดว่าจับส่วนของ
ผ้าขนหนู....ว้าย....ตายแล้ว....
เมื่อเห็นว่าตนจับถูก....ของเค้าแล้วหญิงสาวถึงกับรีบปล่อยมือแล้วลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วราวกับโดนของร้อน
ยังไงยังงั้น....
“เอ่อ....ขะ...ขอโทษครับ....”
“มะ..ไม่เป็นไร”
ชายหนุ่มค่อยๆกัดฟันลุกขึ้นมาแล้วพันผ้าขนหนูใหม่อีกครั้งเพราะปมมันได้หลุดออกแล้ว
ด้วยฝีมือของหญิงสาว
วนิดาอายมากถึงกับทำอะไรไม่ถูก...ในขณะที่ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเนื่องจากว่าเค้าได้คิดว่าคนที่อยู่ตรง
หน้านี้เป็นผู้ชายจริงๆ
“เอ่อ...เอ่อ...ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” พูดยังไม่ทันได้จบหญิงสาวก็รีบเดินเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตู
ดังปัง....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น