ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำหนักพรหมณ์พยศ

    ลำดับตอนที่ #1 : พระประสูติ

    • อัปเดตล่าสุด 23 มิ.ย. 48


    ลึกเข้าไปกลางหุบเขาแห่งหนึ่งมีเมืองเล็กๆที่ชื่อว่าเชียงเหนือซึ่งถูกล้อมรอบไว้ด้วยเมืองต่างๆอีก4ด้านจะว่าไปแล้ว

    เมืองแห่งนี้ก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าเมืองทั้ง4เลยซักนิดแต่ว่าด้วยการทหารทำให้ไม่ถูกเมืองรอบ

    ข้างกลืนไปซะทีเดียว....

    ลมหนาวพัดผ่าน ต้นไม้ทุกต้นสั่นไหว ประตูทุกบานปิดสนิทเพื่อกั้นไม่ให้ลมแทรกผ่านได้ ประชาชนทุกครัว

    เรือนหลับไหลนิทรา แต่ยังมีร่างของพระองค์พระองค์หนึ่งที่เสด็จพระราชดำเนินวนไปวนมาอยู่หน้าพระตำหนัก

    ของพระมเหสีอย่างทรงพระกระวนกระวายพระหฤทัยยิ่งนักพระอริยาบทของพระองค์ทรงนำเนินติดต่อกันมา

    เป็นเวลาเนิ่นนานเกือบๆค่อนราตรีนี้เลยทีเดียว



    \"ทรงพระระงับพระอาการก่อนเถิดพระเจ้าค่ะ\"

    องครักษ์คู่ทุกข์คู่ยากคงปวดหัวหน้าดูเมื่อต้องทนดูพระอาการกระวนกระวายของพระองค์เจ้าหลวง

    \"เจ้าจะให้เราระงับอย่างไร? เราระงับไม่ไหวแล้วนะ...อังสา...ท่านดูสิ นี่ล่วงไปกว่า 2 ชั่วโมงแล้วนะ!\"



    \"อุ๊แว้ อุ๊แว้\" เสียงแผดร้องของเด็กทำให้องค์เจ้าหลวงทรงผลักบานทวารห้องของพระมเหสีอันเป็นที่รักยิ่ง

    ก้าวเข้าไป

    \"ธิดาหรือโอรส?\"

    \"ทรงเป็นฝาแฝดเพคะ...แฝดชาย แฝดหญิง\"



    แม่นมที่ถวายการดูแลพระมเหสีพร้อมกับทำคลอดให้กับพระองค์ด้วยตนเองเป็นคนทูลพร้อมกับเรียก

    นางกำำนันทั้งสองให้นำพระราชธิดากับพระราชโอรสให้องค์เจ้าหลวงได้ทรงทอดพระเนตร

    เมื่อองค์เจ้าหลวงได้ยินดังนั้นจึงทรงแย้มพระสรวนแต่ทว่าเมื่อได้ทอดพระเนตรพระราชโอรสและธิดาตรง

    หน้าแล้วทรงทำให้พระองค์ทรงตกพระทัยตะลึงเลยทีเดียว  

    \"ทำไมโอรสเราดูบอบบางเช่นนี้ ตามหมอหลาง พร้อมโหรหลวงด่วน\"





    ลมหนาวพัดผ่านหุบเขาแห่งนี้ได้เกือบ16ปีแล้วสินะการเวลาได้ทิ้งร่องรอยไว้บนพระพักตร์อันอ่อนหวาน

    ของพระมเหสีร่องรอยแห่งการเวลานี้มิได้ทำให้พระราศีของพระองค์หมดหมองไปแม้แต่อย่างใด

    กลับกลายเป็นว่าช่วยเพิ่มให้พระองค์ทรงดูมีพระอำนาจและราศีเพิ่มขึ้นเสียอีก

    \"เฮ้อ\" เีสียงถอนพระทััยดังออกมาเมื่อทรงทอดพระเนตรมองนอกหน้าต่าง



    ซึ่ง ณ ที่แห่งนั้น เป็นสวนอุธยานภายในซึ่งบุคคลภายนอกมิส่ามารถเข้าออกได้ง่ายๆ



    \"เฮ้…เจ้ายอมแพ้เรารึยัง?\" ร่างพระราชโอรสองค์น้อยทรงชี้พระแสงกระบี่เล็กๆที่เบากระชับมือชี้

    ไปที่ปลายคอของมหาดเล็กซึ่ง ณ บัดนี้นั่งก้นกระแทกอยู่ที่แทบเท้าของพระองค์เอง

    \"พระเจ้าค่ะ....ทรงโปรด....เสพระ...พระแสง....ไป...ไปทางอื่น...ได้ไหม..พะยะค่ะ

    กระหม่อมกลัวว่ามันจะผิดผลาดอันใด..เกิดทิ่มคอประหม่อมละก็....\"



    พระองค์ชายน้อยทรงปรายพระเนตรที่แวววับเต็นระริกๆแม้แต่ดาวหรือเดือนยังมิกล้าที่จะพราวแสงแข่งกับพระองค์

    …ดวงเนตรนี้เมื่ออารมร์ทรงพระสุนทรีละก็แม้ชีวิตก็ถวายได้ แต่เมื่อยามใดที่พระองค์่ทรงขุ่นข้อง

    หมองพระทัยละก็...แม้แต่ฟ้าเบื้องบนยังสะเทือน เมื่อทรงพระเนตรเห็นท่าทางคงจะกลัวมากถึงขนาด

    เหงื่อเม็ดเล็กๆแย่งกันผุดที่หน้าของมหาดเล็กแล้ว

    พระองค์ทรงถึงขนาดระเบิดหัวเราะออกมาเต็มที่



    \"ฮะๆ..อังสา...เจ้ากลัวเราหรือไร?\" พระองค์ชายน้อยกลัวว่าจะแกล้งมหาดเล็กคู่ใจของเสด็จพ่อมากเกินไป

    จีงได้ทรงเก็บพระแสงกระบี่เหน็บไว้ที่ปลายเอวด้านซ้ายเหมือนเดิม

    \"แหม~~กระหม่อม....ข้าพระพุทธเจ้า...หม่อมฉันแก่แล้วนะพะยะค่ะ...

    จะเอาแรงที่ไหนมาเป็นคู่ต่อกรให้กับพระองค์ได้อีกละ!”



    \"ชาย นรินทร์\"

    \"อ้าว~~เสด็จพ่อทรงเสร็ดมาถึงพระตำหนักในของเสด็จแม่เลยเชียวนะพะยะค่ะ\"

    องค์ชายน้อยนรินทร์พร(พรของพระราชา)ทรงหันพระเศียรไปทางขวามือทิศทางของต้นเสียง

    ที่สมเด็จเจ้าหลวงจิตตนาถ(เจ้าแห่งใจ)ทรงเสด็จ



    \"สนุกไหม?ชายน้อย\" เมื่อพระเจ้าหลวงทรงเสด็จถึงข้างตัวพระองค์ชายน้อยก็ใช้พระหัตถ์ลูบเกศา

    ของเจ้าชายอย่างเอ็ดดูพร้อมใช้พระหัตถ์อีกข้างของพระองค์เองทรงลูบพระมัสสุ(หนวด)เบาๆ

    เมื่อเจ้าชายนรินท์พรทรงพระเนตรเห็นกริยาของเสด็จพ่อ

    ก็เริ่มทรงหรี่พระเนตรเล็กๆชำเลืองมองอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจเจ้าพ่อซักเท่าไหร่นักเวลาสมเด็จเจ้าหลวง

    ทำท่านี้ทีไรต้องทรงใช้ความคิด หรือไม่ก็ เมื่อต้องการหลอกล่อให้เจ้าชายน้อยยอมทำตามพระทัยซักอย่าง



    \"เสด็จพ่อ....ทรงมีแผนอะไรอีกหล่ะเพคะ?\"

    เสียงของเจ้าชายพระองค์น้อยทำให้เจ้าหลวงถึงกับทรงสะดุ้งเฮือก

    \"เปล่า...พ่อไม่ได้มีแผนอะไรซักหน่อย ชายเอาความคิดนี้มาจากไหนกัน?\" พร้อมกับหลบสายตาชายน้อย

    \"ก็...เสด็จพ่อลูบพระมัสสุทีไรเป็นต้องมีเรื่องให้ชายต้องทำทุกทีสิหน่า\"

    \"คิก คิก....\"

    \"หัวเราะอะไร อังสา\"



    เสียงเขียวๆขององค์เจ้าหลวงไม่สามารถทำให้ มหาเล็กคู่ใจหยุดหัวเราะได้ หนำซ้ำยังดังกว่าเดิมอีกแหนะ

    \"เออ...เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ...เดี๋ยวนี้มีชายน้อยแล้วนี่...ฉันเลยไม่เป็นที่รักใคร่เหมือนเดิมแล้ว

    ใช่ไหม?\"

    \"ประ...เปล่านะพะยะค่ะ...หม่อมฉันก็เคารพและรักองค์เจ้าหลวงไม่แพ้องค์ชายน้อยเลยนะพะยะค่ะ\"

    มหาดเล็กหลวงรีบพูดอย่างละล่ำละลักเมื่อเห็นพระเจ้าหลวงที่ทรงเป็นที่เกรงขามของประชาชน

    ทั่วไปนั้นทรงงอนเหมือนเด็ก

    \"เอาหล่ะพ่อจะไม่พูดเล่นกับเจ้าแล้วนะชายน้อย\"

    อยู่ๆสมเด็จเจ้าหลวงก็ทรงทำพระกรรณเสียงขรึมทำให้ชายน้อยแอบกลืนพระเขฬะ(น้ำลาย)ดังเฮือก

    \"วันพรุ่งนี้จะมีการประลองเลือกองค์รักษ์ประจำตัวเจ้าพร้อมกับเป็นอาจารย์สอนฝีมือเชิงรบให้กับเจ้าด้วย

    เพราะฉะนั้นเจ้าสมควรไปดูซะว่าใครจะได้เป็นองค์รักษ์ซึ่งจะอยู่กับเจ้าไปตลอด\"

    กว่าองค์ชายน้อยจะรู้สึกพระองค์ก็เมื่อสายไปแล้วพอตรัสจบองค์เจ้าหลวงก็

    ทรงเสด็จพระราชดำเนินจากไปเสียแล้ว



    \"ชิ\"

    \'โครม\' อังสาผู้อยู่ใกล้ถึงกับสะดุ้งเฮือก

    \"เสด็จพ่อทรงทำอย่างนี้ได้ไง ฮึ! อังสา...ทั้งๆที่พระองค์ก็ทรงทราบว่าเราไม่ต้องการองครักษ์ใดๆทั้งนั้น...

    เราสามารถดูแลตัวเองได้...เราไม่ต้องการ....เจ้าก็รู้อยู่นี่นาว่าทหารในวังนี่ก็เกือบจะถูกเรา

    เอาชนะได้จนหมดแล้ว...ฮึ...ยิ่งพูดก็ิยิ่งโกรธ ว่าไหม อังสา?\"

    เพียงแค่ประกายตาของเด็กอายุแค่15-16ก็มีอิทธิพลสามารถทำเอาอังสาถึงกับไม่กล้าสบตาทำได้แค่

    หลบตาไม่สามารถตอบใดๆได้ทั้งสิ้น



    เสียงลงพระบาทหนักๆขนาดมีพรมปูยังสามารถทำให้เกิดเสียงตึงๆได้กำลังใกล้เข้าๆใกล้เข้ามา

    พระองค์เจ้าเกดรังสีเงยหน้าจากหนังสือที่ทรงอ่านอยู่แล้วทรงส่ายพระเศียรอย่างเอือมระอาแกมเอ็นดู



    \"เสด็จแม่ เสด็จแม่ ทรงดูเสด็จพ่อสิเพคะ\"

    เจ้าเกดรังสีทรงอมยิ้มน้อยๆที่ได้ยินแต่เสียงยังไม่ได้ทันได้เห็นองค์เลยซักนิด

    รอยยิ้มยังไม่ทรงจางร่างเล็กๆขององค์ชายน้อยก็ทรงเสด็จมาถึงข้างวรกายเสด็จแม่เพร้อมทรงนั่ง

    พับเพียบรียบร้อยผิดกับพระน้ำเสียงเสียนี่กระไร



    \"อะไรจ๊ะ ชายน้อย\"

    อารมณ์ขององค์ชายนรินทร์พรดูเหมือนจะทรงเย็นลงเมื่อเห็นว่าเสด็จแม่ทอดพระเนตรอย่างอ่อนโยน

    พร้อมกับลูบพระเกศาน้อยๆนั้นอย่างรักใคร่

    \"ก็จะอะไรอีกหล่ะเพคะ เสด็จพ่อจะหาองครักษ์ให้ชายหน่ะสิเพคะ\"

    \"อ้าว~ ก็ดีแล้วนี่นา\"

    คนฟังถึงกับทำตาโต

    \" เสด็จแม่! เสด็จแม่เข้าข้างเสด็จพ่อหรือเพคะ?\"

    \"เปล่านะจ๊ะ...แต่ว่าลูกก็สมควรมีคนคุ้มครองได้แล้วนี่\"

    เจ้าเกดรังสีทรงใช้น้ำเสียงราบเรียบอ่อนโยนเพราะรู้ว่าโอรส

    ท่านพระทัยร้อนยังกับไฟสามารถเผาทุกอย่างที่เข้่าใกล้ได้เลยทีเดียว

    \"เสด็จแม่ก็เห็นด้วยกับท่านพ่อหรือเพคะ? ชายแข็งแรงพอที่จะคุ้มครองตัวเองนะเพคะ?\"



    เจ้าเกดรังสีทรงส่ายพระเศียรอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับท่าทางที่โอรสทรงยกแขนเล็กๆขึ้นมา

    โชว์กล้ามที่ตนคิดว่าแข็งแรงพอที่จะสู้กับพวกศัตรูต่างๆได้

    \"มันไม่เหมือนกันนะจ๊ะ...อนาคตชายน้อยเองก็ต้องเจอกับอันตรายมากมายชายจะเป็นอะไรไม่ได้นะจ๊ะ

    ถ้าชายเป็นอะไรไปแล้วแม่จะอยู่ได้อย่างไร\"

    เมื่อพระองค์ชายน้อยทอดพระเนตรเห็นเสด็จแม่เริ่มปริ่มพระกรรณแสงเท่านั้นแหละ

    ความที่จะอาละวาดให้มากกว่านี้ก็เป็นอันต้องยุบไปโดยปริยาย...







    อีกฝากหนึ่งของอุธยานมีร่างน้อยๆกำลังยืนใช้สองพระหัตถ์เกาะกำแพงมองภาพเหตุการณ์

    ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็นเต็มที่

    \"นี่ นารี...เธอทำหลังดีๆหน่อยสิ กระดุกกระดิกอยากนี้เมื่อไหร่เราจะเห็นได้ชัดเล่า\"

    เสียงทุ้มก้องกังวานอย่างมีจังหวะไพเราะไม่ได้ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างรู้สึกดีขึ้นไปได้เลย

    \"โถ่...องค์หญิง...จะทรงทอดพระเนตรไปไยเพคะ อยากทอดพระเนตรก็ทรงเด็จไปหาเด็จพี่สิเพคะ?\"

    หญิงนางกำนัลนามนารีเิริ่มโอดครวญเมื่อพระองค์หญิงเล็กไม่ยอมเลิกทอดพระเนตรดูเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่ทันที

    \"แหม~~อย่างกับเราทำได้อย่างนั้นแหละ...ถ้าเราทำได้เราก็ไม่มาทรมาณสังขารตนเองให้เมื่อยหรอกหน่า\"

    นัยตาที่คล้ายกับองค์ชายน้อยได้ระยับไม่แพ้พระองค์พี่นั้นพราวแสงราวกับจะแย้มยิ้มได้ด้วยดวงเนตร

    อย่างไรอย่างนั้น

    \" แน๊ะ~ บอกว่าอยู่นิ่งๆไงละ...ดูสิ ท่านพี่ใช้พระแสงกระบี่แทงไปที่คอของ อังสาแล้ว เห็นไหม? \"

    องค์หญิงน้อยเิริ่มคันไม้คันมือเหมือนอยากจะลงไปร่วมวงด้วยกระนั้น

    \"ดูสิ นารี เสด็จพ่อก็มาด้วยแฮะ!\"



    \"องค์หญิง!\"

    \"ว้าย\"

    โครม~

    \"อูย~~แม่นมมาเมื่อไหร่ไม่ให้สุ้มให้เสียง ดูสิ หญิง เจ็บไปหมดแล้ว\"

    เจ้าของเสียงโอดครวญทรงใช้พระหัตถ์คลำพระบั้นท้ายป้อยๆ

    \"ก็ดูพระองค์ทรงเล่นพิเรนสิเพคะ\"

    พูดพร้อมกับประครององค์หญิงที่ตัวไม่ค่อยจะน้อยเท่าไหร่แล้วขึ้น

    แต่ดูเหมือนจะเกินแรงสำหรับหญิงชราที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่นมคนนี้ซะแล้วซิ



    \"นารี มาช่วยกันพยุงองค์หญิงสิ!\"

    \"โห~~นม~~นารีเองยังลุกไม่ขึ้นเลยนะคะ~~เป็นม้านั่งให้องค์หญิงทรงประทับพระบาท(เหยียบ)

    อยู่ตั้งนาน เหน็บกินหมดแล้วเจ้าค่ะ\"

    หญิงชราเห็นนารีหมอบราบก้มไปกับพื้นก็ดูเหมือนจะไม่ไหวเหมือนกัน จึงได้แต่ส่ายหน้าพอหันกลับมา

    ทางองค์หญิงดูเหมือนว่า

    \"อุ๊ย ตาเถร\" แม่นมก็โดนแขนแข็งแรงโอบกอดจากด้านหลังเสียแล้ว

    \"อืม~~นมของหญิงหอมจัง ขอหญิงหอมฟอดหนึ่งนะ\" เสียงยังไม่ทันได้จบประโยค พระพักตร์หวานๆของ

    องค์หญิงก็ฝังลงจมแก้มอ้วนๆของหญิงชราไปแล้ว

    \"องค์หญิงละก็~~มันน่าตีจริง~ทำให้คนแก่ตกอกตกใจไปได้...นี่แหนะ\"



    \'เพี๊ยะ\'

    \"โอ้ย~นม~ หญิงเจ็บนะ~ดูสิ มือหญิงแดงเลย นารีต้องช่วยหญิงด้วยนะ\"

    เมื่อไม่เห็นว่าหญิงชราจะโอนอ่อนผ่อนตามก็ดูเหมือนว่าจะหาพวกร่วมโดยการหันหน้าไปขอเสียง

    สนับสนุนจากนารีเสียนี่

    \"คิก คิก งานนี้นารีไม่เกี่ยวนะเพคะ \"

    \"ก็ลองเกี่ยวสิ แม่จะใช้ให้ถูพระตำหนักในให้หมดคนเดียวเลยนี่\"

    หญิงชราขู่กำชับ

    \"เมื่อไหร่จะปล่อยนมเพคะ? นมอึดอัดจะแย่แล้ว องค์หญิงตัวไม่เล็กเหมือนตอนเด็กๆแล้วนะเพคะ~โอ๊ย\"

    ดูเหมือนว่าองค์หญิงจะแกล้งรัดแน่นกว่าเดิมอีกแหนะ

    \"ก็หญิงรักนมนี่นา~~แถมตัวของนมก็นุ่มนิ่มกว่าตุ๊กตาในห้องเป็นไหนๆ\"

    พร้อมกับซบหน้าลงกับต้นคอขอแม่นมจากด้านหลัง

    \"แหม~~ไม่ต้องมาอ้อนเลยค่ะ นมไม่หลงกลหรอก~\" แม่นมพูดยิ้มๆ

    \"ว้า~~แย่จัง..วิธีนี้หญิงใช้กับใครๆ ใครๆก็หลงกลทั้งนั้นนี่นา...

    เอ๊~~รึว่าแม่นมผิดปกติจากชาวบ้านคนอื่นๆรึไง?\"

    \"ว้าย~องค์หญิง~~พูดอย่างนี้ได้ไงคะ? นารีใช่ไหม? เพราะหล่อนเชียว หล่อนแน่ๆเลย\"

    \"โห~นม เอะอะว่านารีอยู่เรื่อยเชียว~~\"



    คนถูกโทษทำหน้าเง้าใ่ส่หญิงชรา

    \"คิก..คิก…ไม่ต้องโทษใครหรอกค่ะ…หญิงเป็นของหญิงเอง\" ว่าแล้วก็ใช้พระหัตถ์ข้างหนึ่งป้องกุ้ม

    ที่พระอุทร(ท้อง)เพราะทรงเกิดอาการสรวลจนเจ็บท้องอย่างที่ใครๆเค้าชอบพูดกัน

    \"หยุดทรงขำเถอะเพคะ ตอนนี้ได้เวลาเรียนวิิชาภูมิศาตร์โลกแล้วเพคะ...พระอาจารย์ก็มารอแล้วด้วย\"

    เท่านั้นแหละ พระอาการทรงสรวลเมื่อกี้ก็หายวับไปกับตา

    \"ว้า~ทำไมหญิงต้องเรียนด้วยละ? มันต้องให้ท่านพี่นรินทร์เรียนมิใช่หรือ?\" หญิงสาวเริ่มโอดครวญ

    \"ให้หญิงเรียนอย่างอื่นได้ไหมคะ? หญิงเบื่อเรียนแต่พวกประวัติศาตร์ วิชาว่าด้วยการจับศึก กลลวงข้าศึก

    เศรษฐศาสตร์ ฯลฯ....\"



    หญิงชราได้แต่ถอนหายใจ ไม่รู้จะหาคำตอบแก่พระองค์หญิงน้อยที่ตนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กอย่างไรดีไปกว่า

    \"เรียนไปเถอะค่ะ ผู้หญิงเรา เรียนเยอะๆ ก็ไม่เสียหาย ท่านพี่เค้าก็ทรงเรียนเยอะเหมือนกันแหละค่ะ\"



    **********************************************************************************

    หวัดดีค่ะ

    นี่เป็นการลองแต่งแบบต้องใช้ราชาศัพท์ครั้งแรกหน่ะค่ะ

    ถ้าผิดพลาดละก็ช่วยเม้นท์บอกด้วยนะคะ จะได้ปรับปรุงแก้ไขค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×