ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พระประสูติ
ลึกเข้าไปกลางหุบเขาแห่งหนึ่งมีเมืองเล็กๆที่ชื่อว่าเชียงเหนือซึ่งถูกล้อมรอบไว้ด้วยเมืองต่างๆอีก4ด้านจะว่าไปแล้ว
เมืองแห่งนี้ก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าเมืองทั้ง4เลยซักนิดแต่ว่าด้วยการทหารทำให้ไม่ถูกเมืองรอบ
ข้างกลืนไปซะทีเดียว....
ลมหนาวพัดผ่าน ต้นไม้ทุกต้นสั่นไหว ประตูทุกบานปิดสนิทเพื่อกั้นไม่ให้ลมแทรกผ่านได้ ประชาชนทุกครัว
เรือนหลับไหลนิทรา แต่ยังมีร่างของพระองค์พระองค์หนึ่งที่เสด็จพระราชดำเนินวนไปวนมาอยู่หน้าพระตำหนัก
ของพระมเหสีอย่างทรงพระกระวนกระวายพระหฤทัยยิ่งนักพระอริยาบทของพระองค์ทรงนำเนินติดต่อกันมา
เป็นเวลาเนิ่นนานเกือบๆค่อนราตรีนี้เลยทีเดียว
\"ทรงพระระงับพระอาการก่อนเถิดพระเจ้าค่ะ\"
องครักษ์คู่ทุกข์คู่ยากคงปวดหัวหน้าดูเมื่อต้องทนดูพระอาการกระวนกระวายของพระองค์เจ้าหลวง
\"เจ้าจะให้เราระงับอย่างไร? เราระงับไม่ไหวแล้วนะ...อังสา...ท่านดูสิ นี่ล่วงไปกว่า 2 ชั่วโมงแล้วนะ!\"
\"อุ๊แว้ อุ๊แว้\" เสียงแผดร้องของเด็กทำให้องค์เจ้าหลวงทรงผลักบานทวารห้องของพระมเหสีอันเป็นที่รักยิ่ง
ก้าวเข้าไป
\"ธิดาหรือโอรส?\"
\"ทรงเป็นฝาแฝดเพคะ...แฝดชาย แฝดหญิง\"
แม่นมที่ถวายการดูแลพระมเหสีพร้อมกับทำคลอดให้กับพระองค์ด้วยตนเองเป็นคนทูลพร้อมกับเรียก
นางกำำนันทั้งสองให้นำพระราชธิดากับพระราชโอรสให้องค์เจ้าหลวงได้ทรงทอดพระเนตร
เมื่อองค์เจ้าหลวงได้ยินดังนั้นจึงทรงแย้มพระสรวนแต่ทว่าเมื่อได้ทอดพระเนตรพระราชโอรสและธิดาตรง
หน้าแล้วทรงทำให้พระองค์ทรงตกพระทัยตะลึงเลยทีเดียว 
\"ทำไมโอรสเราดูบอบบางเช่นนี้ ตามหมอหลาง พร้อมโหรหลวงด่วน\"
ลมหนาวพัดผ่านหุบเขาแห่งนี้ได้เกือบ16ปีแล้วสินะการเวลาได้ทิ้งร่องรอยไว้บนพระพักตร์อันอ่อนหวาน
ของพระมเหสีร่องรอยแห่งการเวลานี้มิได้ทำให้พระราศีของพระองค์หมดหมองไปแม้แต่อย่างใด
กลับกลายเป็นว่าช่วยเพิ่มให้พระองค์ทรงดูมีพระอำนาจและราศีเพิ่มขึ้นเสียอีก
\"เฮ้อ\" เีสียงถอนพระทััยดังออกมาเมื่อทรงทอดพระเนตรมองนอกหน้าต่าง
ซึ่ง ณ ที่แห่งนั้น เป็นสวนอุธยานภายในซึ่งบุคคลภายนอกมิส่ามารถเข้าออกได้ง่ายๆ
\"เฮ้ เจ้ายอมแพ้เรารึยัง?\" ร่างพระราชโอรสองค์น้อยทรงชี้พระแสงกระบี่เล็กๆที่เบากระชับมือชี้
ไปที่ปลายคอของมหาดเล็กซึ่ง ณ บัดนี้นั่งก้นกระแทกอยู่ที่แทบเท้าของพระองค์เอง
\"พระเจ้าค่ะ....ทรงโปรด....เสพระ...พระแสง....ไป...ไปทางอื่น...ได้ไหม..พะยะค่ะ
กระหม่อมกลัวว่ามันจะผิดผลาดอันใด..เกิดทิ่มคอประหม่อมละก็....\"
พระองค์ชายน้อยทรงปรายพระเนตรที่แวววับเต็นระริกๆแม้แต่ดาวหรือเดือนยังมิกล้าที่จะพราวแสงแข่งกับพระองค์
ดวงเนตรนี้เมื่ออารมร์ทรงพระสุนทรีละก็แม้ชีวิตก็ถวายได้ แต่เมื่อยามใดที่พระองค์่ทรงขุ่นข้อง
หมองพระทัยละก็...แม้แต่ฟ้าเบื้องบนยังสะเทือน เมื่อทรงพระเนตรเห็นท่าทางคงจะกลัวมากถึงขนาด
เหงื่อเม็ดเล็กๆแย่งกันผุดที่หน้าของมหาดเล็กแล้ว
พระองค์ทรงถึงขนาดระเบิดหัวเราะออกมาเต็มที่
\"ฮะๆ..อังสา...เจ้ากลัวเราหรือไร?\" พระองค์ชายน้อยกลัวว่าจะแกล้งมหาดเล็กคู่ใจของเสด็จพ่อมากเกินไป
จีงได้ทรงเก็บพระแสงกระบี่เหน็บไว้ที่ปลายเอวด้านซ้ายเหมือนเดิม
\"แหม~~กระหม่อม....ข้าพระพุทธเจ้า...หม่อมฉันแก่แล้วนะพะยะค่ะ...
จะเอาแรงที่ไหนมาเป็นคู่ต่อกรให้กับพระองค์ได้อีกละ!”
\"ชาย นรินทร์\"
\"อ้าว~~เสด็จพ่อทรงเสร็ดมาถึงพระตำหนักในของเสด็จแม่เลยเชียวนะพะยะค่ะ\"
องค์ชายน้อยนรินทร์พร(พรของพระราชา)ทรงหันพระเศียรไปทางขวามือทิศทางของต้นเสียง
ที่สมเด็จเจ้าหลวงจิตตนาถ(เจ้าแห่งใจ)ทรงเสด็จ
\"สนุกไหม?ชายน้อย\" เมื่อพระเจ้าหลวงทรงเสด็จถึงข้างตัวพระองค์ชายน้อยก็ใช้พระหัตถ์ลูบเกศา
ของเจ้าชายอย่างเอ็ดดูพร้อมใช้พระหัตถ์อีกข้างของพระองค์เองทรงลูบพระมัสสุ(หนวด)เบาๆ
เมื่อเจ้าชายนรินท์พรทรงพระเนตรเห็นกริยาของเสด็จพ่อ
ก็เริ่มทรงหรี่พระเนตรเล็กๆชำเลืองมองอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจเจ้าพ่อซักเท่าไหร่นักเวลาสมเด็จเจ้าหลวง
ทำท่านี้ทีไรต้องทรงใช้ความคิด หรือไม่ก็ เมื่อต้องการหลอกล่อให้เจ้าชายน้อยยอมทำตามพระทัยซักอย่าง
\"เสด็จพ่อ....ทรงมีแผนอะไรอีกหล่ะเพคะ?\"
เสียงของเจ้าชายพระองค์น้อยทำให้เจ้าหลวงถึงกับทรงสะดุ้งเฮือก
\"เปล่า...พ่อไม่ได้มีแผนอะไรซักหน่อย ชายเอาความคิดนี้มาจากไหนกัน?\" พร้อมกับหลบสายตาชายน้อย
\"ก็...เสด็จพ่อลูบพระมัสสุทีไรเป็นต้องมีเรื่องให้ชายต้องทำทุกทีสิหน่า\"
\"คิก คิก....\"
\"หัวเราะอะไร อังสา\"
เสียงเขียวๆขององค์เจ้าหลวงไม่สามารถทำให้ มหาเล็กคู่ใจหยุดหัวเราะได้ หนำซ้ำยังดังกว่าเดิมอีกแหนะ
\"เออ...เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ...เดี๋ยวนี้มีชายน้อยแล้วนี่...ฉันเลยไม่เป็นที่รักใคร่เหมือนเดิมแล้ว
ใช่ไหม?\"
\"ประ...เปล่านะพะยะค่ะ...หม่อมฉันก็เคารพและรักองค์เจ้าหลวงไม่แพ้องค์ชายน้อยเลยนะพะยะค่ะ\"
มหาดเล็กหลวงรีบพูดอย่างละล่ำละลักเมื่อเห็นพระเจ้าหลวงที่ทรงเป็นที่เกรงขามของประชาชน
ทั่วไปนั้นทรงงอนเหมือนเด็ก
\"เอาหล่ะพ่อจะไม่พูดเล่นกับเจ้าแล้วนะชายน้อย\"
อยู่ๆสมเด็จเจ้าหลวงก็ทรงทำพระกรรณเสียงขรึมทำให้ชายน้อยแอบกลืนพระเขฬะ(น้ำลาย)ดังเฮือก
\"วันพรุ่งนี้จะมีการประลองเลือกองค์รักษ์ประจำตัวเจ้าพร้อมกับเป็นอาจารย์สอนฝีมือเชิงรบให้กับเจ้าด้วย
เพราะฉะนั้นเจ้าสมควรไปดูซะว่าใครจะได้เป็นองค์รักษ์ซึ่งจะอยู่กับเจ้าไปตลอด\"
กว่าองค์ชายน้อยจะรู้สึกพระองค์ก็เมื่อสายไปแล้วพอตรัสจบองค์เจ้าหลวงก็
ทรงเสด็จพระราชดำเนินจากไปเสียแล้ว
\"ชิ\"
\'โครม\' อังสาผู้อยู่ใกล้ถึงกับสะดุ้งเฮือก
\"เสด็จพ่อทรงทำอย่างนี้ได้ไง ฮึ! อังสา...ทั้งๆที่พระองค์ก็ทรงทราบว่าเราไม่ต้องการองครักษ์ใดๆทั้งนั้น...
เราสามารถดูแลตัวเองได้...เราไม่ต้องการ....เจ้าก็รู้อยู่นี่นาว่าทหารในวังนี่ก็เกือบจะถูกเรา
เอาชนะได้จนหมดแล้ว...ฮึ...ยิ่งพูดก็ิยิ่งโกรธ ว่าไหม อังสา?\"
เพียงแค่ประกายตาของเด็กอายุแค่15-16ก็มีอิทธิพลสามารถทำเอาอังสาถึงกับไม่กล้าสบตาทำได้แค่
หลบตาไม่สามารถตอบใดๆได้ทั้งสิ้น
เสียงลงพระบาทหนักๆขนาดมีพรมปูยังสามารถทำให้เกิดเสียงตึงๆได้กำลังใกล้เข้าๆใกล้เข้ามา
พระองค์เจ้าเกดรังสีเงยหน้าจากหนังสือที่ทรงอ่านอยู่แล้วทรงส่ายพระเศียรอย่างเอือมระอาแกมเอ็นดู
\"เสด็จแม่ เสด็จแม่ ทรงดูเสด็จพ่อสิเพคะ\"
เจ้าเกดรังสีทรงอมยิ้มน้อยๆที่ได้ยินแต่เสียงยังไม่ได้ทันได้เห็นองค์เลยซักนิด
รอยยิ้มยังไม่ทรงจางร่างเล็กๆขององค์ชายน้อยก็ทรงเสด็จมาถึงข้างวรกายเสด็จแม่เพร้อมทรงนั่ง
พับเพียบรียบร้อยผิดกับพระน้ำเสียงเสียนี่กระไร
\"อะไรจ๊ะ ชายน้อย\"
อารมณ์ขององค์ชายนรินทร์พรดูเหมือนจะทรงเย็นลงเมื่อเห็นว่าเสด็จแม่ทอดพระเนตรอย่างอ่อนโยน
พร้อมกับลูบพระเกศาน้อยๆนั้นอย่างรักใคร่
\"ก็จะอะไรอีกหล่ะเพคะ เสด็จพ่อจะหาองครักษ์ให้ชายหน่ะสิเพคะ\"
\"อ้าว~ ก็ดีแล้วนี่นา\"
คนฟังถึงกับทำตาโต
\" เสด็จแม่! เสด็จแม่เข้าข้างเสด็จพ่อหรือเพคะ?\"
\"เปล่านะจ๊ะ...แต่ว่าลูกก็สมควรมีคนคุ้มครองได้แล้วนี่\"
เจ้าเกดรังสีทรงใช้น้ำเสียงราบเรียบอ่อนโยนเพราะรู้ว่าโอรส
ท่านพระทัยร้อนยังกับไฟสามารถเผาทุกอย่างที่เข้่าใกล้ได้เลยทีเดียว
\"เสด็จแม่ก็เห็นด้วยกับท่านพ่อหรือเพคะ? ชายแข็งแรงพอที่จะคุ้มครองตัวเองนะเพคะ?\"
เจ้าเกดรังสีทรงส่ายพระเศียรอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับท่าทางที่โอรสทรงยกแขนเล็กๆขึ้นมา
โชว์กล้ามที่ตนคิดว่าแข็งแรงพอที่จะสู้กับพวกศัตรูต่างๆได้
\"มันไม่เหมือนกันนะจ๊ะ...อนาคตชายน้อยเองก็ต้องเจอกับอันตรายมากมายชายจะเป็นอะไรไม่ได้นะจ๊ะ
ถ้าชายเป็นอะไรไปแล้วแม่จะอยู่ได้อย่างไร\"
เมื่อพระองค์ชายน้อยทอดพระเนตรเห็นเสด็จแม่เริ่มปริ่มพระกรรณแสงเท่านั้นแหละ
ความที่จะอาละวาดให้มากกว่านี้ก็เป็นอันต้องยุบไปโดยปริยาย...
อีกฝากหนึ่งของอุธยานมีร่างน้อยๆกำลังยืนใช้สองพระหัตถ์เกาะกำแพงมองภาพเหตุการณ์
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็นเต็มที่
\"นี่ นารี...เธอทำหลังดีๆหน่อยสิ กระดุกกระดิกอยากนี้เมื่อไหร่เราจะเห็นได้ชัดเล่า\"
เสียงทุ้มก้องกังวานอย่างมีจังหวะไพเราะไม่ได้ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างรู้สึกดีขึ้นไปได้เลย
\"โถ่...องค์หญิง...จะทรงทอดพระเนตรไปไยเพคะ อยากทอดพระเนตรก็ทรงเด็จไปหาเด็จพี่สิเพคะ?\"
หญิงนางกำนัลนามนารีเิริ่มโอดครวญเมื่อพระองค์หญิงเล็กไม่ยอมเลิกทอดพระเนตรดูเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่ทันที
\"แหม~~อย่างกับเราทำได้อย่างนั้นแหละ...ถ้าเราทำได้เราก็ไม่มาทรมาณสังขารตนเองให้เมื่อยหรอกหน่า\"
นัยตาที่คล้ายกับองค์ชายน้อยได้ระยับไม่แพ้พระองค์พี่นั้นพราวแสงราวกับจะแย้มยิ้มได้ด้วยดวงเนตร
อย่างไรอย่างนั้น
\" แน๊ะ~ บอกว่าอยู่นิ่งๆไงละ...ดูสิ ท่านพี่ใช้พระแสงกระบี่แทงไปที่คอของ อังสาแล้ว เห็นไหม? \"
องค์หญิงน้อยเิริ่มคันไม้คันมือเหมือนอยากจะลงไปร่วมวงด้วยกระนั้น
\"ดูสิ นารี เสด็จพ่อก็มาด้วยแฮะ!\"
\"องค์หญิง!\"
\"ว้าย\"
โครม~
\"อูย~~แม่นมมาเมื่อไหร่ไม่ให้สุ้มให้เสียง ดูสิ หญิง เจ็บไปหมดแล้ว\"
เจ้าของเสียงโอดครวญทรงใช้พระหัตถ์คลำพระบั้นท้ายป้อยๆ
\"ก็ดูพระองค์ทรงเล่นพิเรนสิเพคะ\"
พูดพร้อมกับประครององค์หญิงที่ตัวไม่ค่อยจะน้อยเท่าไหร่แล้วขึ้น
แต่ดูเหมือนจะเกินแรงสำหรับหญิงชราที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่นมคนนี้ซะแล้วซิ
\"นารี มาช่วยกันพยุงองค์หญิงสิ!\"
\"โห~~นม~~นารีเองยังลุกไม่ขึ้นเลยนะคะ~~เป็นม้านั่งให้องค์หญิงทรงประทับพระบาท(เหยียบ)
อยู่ตั้งนาน เหน็บกินหมดแล้วเจ้าค่ะ\"
หญิงชราเห็นนารีหมอบราบก้มไปกับพื้นก็ดูเหมือนจะไม่ไหวเหมือนกัน จึงได้แต่ส่ายหน้าพอหันกลับมา
ทางองค์หญิงดูเหมือนว่า
\"อุ๊ย ตาเถร\" แม่นมก็โดนแขนแข็งแรงโอบกอดจากด้านหลังเสียแล้ว
\"อืม~~นมของหญิงหอมจัง ขอหญิงหอมฟอดหนึ่งนะ\" เสียงยังไม่ทันได้จบประโยค พระพักตร์หวานๆของ
องค์หญิงก็ฝังลงจมแก้มอ้วนๆของหญิงชราไปแล้ว
\"องค์หญิงละก็~~มันน่าตีจริง~ทำให้คนแก่ตกอกตกใจไปได้...นี่แหนะ\"
\'เพี๊ยะ\'
\"โอ้ย~นม~ หญิงเจ็บนะ~ดูสิ มือหญิงแดงเลย นารีต้องช่วยหญิงด้วยนะ\"
เมื่อไม่เห็นว่าหญิงชราจะโอนอ่อนผ่อนตามก็ดูเหมือนว่าจะหาพวกร่วมโดยการหันหน้าไปขอเสียง
สนับสนุนจากนารีเสียนี่
\"คิก คิก งานนี้นารีไม่เกี่ยวนะเพคะ \"
\"ก็ลองเกี่ยวสิ แม่จะใช้ให้ถูพระตำหนักในให้หมดคนเดียวเลยนี่\"
หญิงชราขู่กำชับ
\"เมื่อไหร่จะปล่อยนมเพคะ? นมอึดอัดจะแย่แล้ว องค์หญิงตัวไม่เล็กเหมือนตอนเด็กๆแล้วนะเพคะ~โอ๊ย\"
ดูเหมือนว่าองค์หญิงจะแกล้งรัดแน่นกว่าเดิมอีกแหนะ
\"ก็หญิงรักนมนี่นา~~แถมตัวของนมก็นุ่มนิ่มกว่าตุ๊กตาในห้องเป็นไหนๆ\"
พร้อมกับซบหน้าลงกับต้นคอขอแม่นมจากด้านหลัง
\"แหม~~ไม่ต้องมาอ้อนเลยค่ะ นมไม่หลงกลหรอก~\" แม่นมพูดยิ้มๆ
\"ว้า~~แย่จัง..วิธีนี้หญิงใช้กับใครๆ ใครๆก็หลงกลทั้งนั้นนี่นา...
เอ๊~~รึว่าแม่นมผิดปกติจากชาวบ้านคนอื่นๆรึไง?\"
\"ว้าย~องค์หญิง~~พูดอย่างนี้ได้ไงคะ? นารีใช่ไหม? เพราะหล่อนเชียว หล่อนแน่ๆเลย\"
\"โห~นม เอะอะว่านารีอยู่เรื่อยเชียว~~\"
คนถูกโทษทำหน้าเง้าใ่ส่หญิงชรา
\"คิก..คิก ไม่ต้องโทษใครหรอกค่ะ หญิงเป็นของหญิงเอง\" ว่าแล้วก็ใช้พระหัตถ์ข้างหนึ่งป้องกุ้ม
ที่พระอุทร(ท้อง)เพราะทรงเกิดอาการสรวลจนเจ็บท้องอย่างที่ใครๆเค้าชอบพูดกัน
\"หยุดทรงขำเถอะเพคะ ตอนนี้ได้เวลาเรียนวิิชาภูมิศาตร์โลกแล้วเพคะ...พระอาจารย์ก็มารอแล้วด้วย\"
เท่านั้นแหละ พระอาการทรงสรวลเมื่อกี้ก็หายวับไปกับตา
\"ว้า~ทำไมหญิงต้องเรียนด้วยละ? มันต้องให้ท่านพี่นรินทร์เรียนมิใช่หรือ?\" หญิงสาวเริ่มโอดครวญ
\"ให้หญิงเรียนอย่างอื่นได้ไหมคะ? หญิงเบื่อเรียนแต่พวกประวัติศาตร์ วิชาว่าด้วยการจับศึก กลลวงข้าศึก
เศรษฐศาสตร์ ฯลฯ....\"
หญิงชราได้แต่ถอนหายใจ ไม่รู้จะหาคำตอบแก่พระองค์หญิงน้อยที่ตนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กอย่างไรดีไปกว่า
\"เรียนไปเถอะค่ะ ผู้หญิงเรา เรียนเยอะๆ ก็ไม่เสียหาย ท่านพี่เค้าก็ทรงเรียนเยอะเหมือนกันแหละค่ะ\"
**********************************************************************************
หวัดดีค่ะ
นี่เป็นการลองแต่งแบบต้องใช้ราชาศัพท์ครั้งแรกหน่ะค่ะ
ถ้าผิดพลาดละก็ช่วยเม้นท์บอกด้วยนะคะ จะได้ปรับปรุงแก้ไขค่ะ ขอบคุณค่ะ
เมืองแห่งนี้ก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าเมืองทั้ง4เลยซักนิดแต่ว่าด้วยการทหารทำให้ไม่ถูกเมืองรอบ
ข้างกลืนไปซะทีเดียว....
ลมหนาวพัดผ่าน ต้นไม้ทุกต้นสั่นไหว ประตูทุกบานปิดสนิทเพื่อกั้นไม่ให้ลมแทรกผ่านได้ ประชาชนทุกครัว
เรือนหลับไหลนิทรา แต่ยังมีร่างของพระองค์พระองค์หนึ่งที่เสด็จพระราชดำเนินวนไปวนมาอยู่หน้าพระตำหนัก
ของพระมเหสีอย่างทรงพระกระวนกระวายพระหฤทัยยิ่งนักพระอริยาบทของพระองค์ทรงนำเนินติดต่อกันมา
เป็นเวลาเนิ่นนานเกือบๆค่อนราตรีนี้เลยทีเดียว
\"ทรงพระระงับพระอาการก่อนเถิดพระเจ้าค่ะ\"
องครักษ์คู่ทุกข์คู่ยากคงปวดหัวหน้าดูเมื่อต้องทนดูพระอาการกระวนกระวายของพระองค์เจ้าหลวง
\"เจ้าจะให้เราระงับอย่างไร? เราระงับไม่ไหวแล้วนะ...อังสา...ท่านดูสิ นี่ล่วงไปกว่า 2 ชั่วโมงแล้วนะ!\"
\"อุ๊แว้ อุ๊แว้\" เสียงแผดร้องของเด็กทำให้องค์เจ้าหลวงทรงผลักบานทวารห้องของพระมเหสีอันเป็นที่รักยิ่ง
ก้าวเข้าไป
\"ธิดาหรือโอรส?\"
\"ทรงเป็นฝาแฝดเพคะ...แฝดชาย แฝดหญิง\"
แม่นมที่ถวายการดูแลพระมเหสีพร้อมกับทำคลอดให้กับพระองค์ด้วยตนเองเป็นคนทูลพร้อมกับเรียก
นางกำำนันทั้งสองให้นำพระราชธิดากับพระราชโอรสให้องค์เจ้าหลวงได้ทรงทอดพระเนตร
เมื่อองค์เจ้าหลวงได้ยินดังนั้นจึงทรงแย้มพระสรวนแต่ทว่าเมื่อได้ทอดพระเนตรพระราชโอรสและธิดาตรง
หน้าแล้วทรงทำให้พระองค์ทรงตกพระทัยตะลึงเลยทีเดียว 
\"ทำไมโอรสเราดูบอบบางเช่นนี้ ตามหมอหลาง พร้อมโหรหลวงด่วน\"
ลมหนาวพัดผ่านหุบเขาแห่งนี้ได้เกือบ16ปีแล้วสินะการเวลาได้ทิ้งร่องรอยไว้บนพระพักตร์อันอ่อนหวาน
ของพระมเหสีร่องรอยแห่งการเวลานี้มิได้ทำให้พระราศีของพระองค์หมดหมองไปแม้แต่อย่างใด
กลับกลายเป็นว่าช่วยเพิ่มให้พระองค์ทรงดูมีพระอำนาจและราศีเพิ่มขึ้นเสียอีก
\"เฮ้อ\" เีสียงถอนพระทััยดังออกมาเมื่อทรงทอดพระเนตรมองนอกหน้าต่าง
ซึ่ง ณ ที่แห่งนั้น เป็นสวนอุธยานภายในซึ่งบุคคลภายนอกมิส่ามารถเข้าออกได้ง่ายๆ
\"เฮ้ เจ้ายอมแพ้เรารึยัง?\" ร่างพระราชโอรสองค์น้อยทรงชี้พระแสงกระบี่เล็กๆที่เบากระชับมือชี้
ไปที่ปลายคอของมหาดเล็กซึ่ง ณ บัดนี้นั่งก้นกระแทกอยู่ที่แทบเท้าของพระองค์เอง
\"พระเจ้าค่ะ....ทรงโปรด....เสพระ...พระแสง....ไป...ไปทางอื่น...ได้ไหม..พะยะค่ะ
กระหม่อมกลัวว่ามันจะผิดผลาดอันใด..เกิดทิ่มคอประหม่อมละก็....\"
พระองค์ชายน้อยทรงปรายพระเนตรที่แวววับเต็นระริกๆแม้แต่ดาวหรือเดือนยังมิกล้าที่จะพราวแสงแข่งกับพระองค์
ดวงเนตรนี้เมื่ออารมร์ทรงพระสุนทรีละก็แม้ชีวิตก็ถวายได้ แต่เมื่อยามใดที่พระองค์่ทรงขุ่นข้อง
หมองพระทัยละก็...แม้แต่ฟ้าเบื้องบนยังสะเทือน เมื่อทรงพระเนตรเห็นท่าทางคงจะกลัวมากถึงขนาด
เหงื่อเม็ดเล็กๆแย่งกันผุดที่หน้าของมหาดเล็กแล้ว
พระองค์ทรงถึงขนาดระเบิดหัวเราะออกมาเต็มที่
\"ฮะๆ..อังสา...เจ้ากลัวเราหรือไร?\" พระองค์ชายน้อยกลัวว่าจะแกล้งมหาดเล็กคู่ใจของเสด็จพ่อมากเกินไป
จีงได้ทรงเก็บพระแสงกระบี่เหน็บไว้ที่ปลายเอวด้านซ้ายเหมือนเดิม
\"แหม~~กระหม่อม....ข้าพระพุทธเจ้า...หม่อมฉันแก่แล้วนะพะยะค่ะ...
จะเอาแรงที่ไหนมาเป็นคู่ต่อกรให้กับพระองค์ได้อีกละ!”
\"ชาย นรินทร์\"
\"อ้าว~~เสด็จพ่อทรงเสร็ดมาถึงพระตำหนักในของเสด็จแม่เลยเชียวนะพะยะค่ะ\"
องค์ชายน้อยนรินทร์พร(พรของพระราชา)ทรงหันพระเศียรไปทางขวามือทิศทางของต้นเสียง
ที่สมเด็จเจ้าหลวงจิตตนาถ(เจ้าแห่งใจ)ทรงเสด็จ
\"สนุกไหม?ชายน้อย\" เมื่อพระเจ้าหลวงทรงเสด็จถึงข้างตัวพระองค์ชายน้อยก็ใช้พระหัตถ์ลูบเกศา
ของเจ้าชายอย่างเอ็ดดูพร้อมใช้พระหัตถ์อีกข้างของพระองค์เองทรงลูบพระมัสสุ(หนวด)เบาๆ
เมื่อเจ้าชายนรินท์พรทรงพระเนตรเห็นกริยาของเสด็จพ่อ
ก็เริ่มทรงหรี่พระเนตรเล็กๆชำเลืองมองอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจเจ้าพ่อซักเท่าไหร่นักเวลาสมเด็จเจ้าหลวง
ทำท่านี้ทีไรต้องทรงใช้ความคิด หรือไม่ก็ เมื่อต้องการหลอกล่อให้เจ้าชายน้อยยอมทำตามพระทัยซักอย่าง
\"เสด็จพ่อ....ทรงมีแผนอะไรอีกหล่ะเพคะ?\"
เสียงของเจ้าชายพระองค์น้อยทำให้เจ้าหลวงถึงกับทรงสะดุ้งเฮือก
\"เปล่า...พ่อไม่ได้มีแผนอะไรซักหน่อย ชายเอาความคิดนี้มาจากไหนกัน?\" พร้อมกับหลบสายตาชายน้อย
\"ก็...เสด็จพ่อลูบพระมัสสุทีไรเป็นต้องมีเรื่องให้ชายต้องทำทุกทีสิหน่า\"
\"คิก คิก....\"
\"หัวเราะอะไร อังสา\"
เสียงเขียวๆขององค์เจ้าหลวงไม่สามารถทำให้ มหาเล็กคู่ใจหยุดหัวเราะได้ หนำซ้ำยังดังกว่าเดิมอีกแหนะ
\"เออ...เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ...เดี๋ยวนี้มีชายน้อยแล้วนี่...ฉันเลยไม่เป็นที่รักใคร่เหมือนเดิมแล้ว
ใช่ไหม?\"
\"ประ...เปล่านะพะยะค่ะ...หม่อมฉันก็เคารพและรักองค์เจ้าหลวงไม่แพ้องค์ชายน้อยเลยนะพะยะค่ะ\"
มหาดเล็กหลวงรีบพูดอย่างละล่ำละลักเมื่อเห็นพระเจ้าหลวงที่ทรงเป็นที่เกรงขามของประชาชน
ทั่วไปนั้นทรงงอนเหมือนเด็ก
\"เอาหล่ะพ่อจะไม่พูดเล่นกับเจ้าแล้วนะชายน้อย\"
อยู่ๆสมเด็จเจ้าหลวงก็ทรงทำพระกรรณเสียงขรึมทำให้ชายน้อยแอบกลืนพระเขฬะ(น้ำลาย)ดังเฮือก
\"วันพรุ่งนี้จะมีการประลองเลือกองค์รักษ์ประจำตัวเจ้าพร้อมกับเป็นอาจารย์สอนฝีมือเชิงรบให้กับเจ้าด้วย
เพราะฉะนั้นเจ้าสมควรไปดูซะว่าใครจะได้เป็นองค์รักษ์ซึ่งจะอยู่กับเจ้าไปตลอด\"
กว่าองค์ชายน้อยจะรู้สึกพระองค์ก็เมื่อสายไปแล้วพอตรัสจบองค์เจ้าหลวงก็
ทรงเสด็จพระราชดำเนินจากไปเสียแล้ว
\"ชิ\"
\'โครม\' อังสาผู้อยู่ใกล้ถึงกับสะดุ้งเฮือก
\"เสด็จพ่อทรงทำอย่างนี้ได้ไง ฮึ! อังสา...ทั้งๆที่พระองค์ก็ทรงทราบว่าเราไม่ต้องการองครักษ์ใดๆทั้งนั้น...
เราสามารถดูแลตัวเองได้...เราไม่ต้องการ....เจ้าก็รู้อยู่นี่นาว่าทหารในวังนี่ก็เกือบจะถูกเรา
เอาชนะได้จนหมดแล้ว...ฮึ...ยิ่งพูดก็ิยิ่งโกรธ ว่าไหม อังสา?\"
เพียงแค่ประกายตาของเด็กอายุแค่15-16ก็มีอิทธิพลสามารถทำเอาอังสาถึงกับไม่กล้าสบตาทำได้แค่
หลบตาไม่สามารถตอบใดๆได้ทั้งสิ้น
เสียงลงพระบาทหนักๆขนาดมีพรมปูยังสามารถทำให้เกิดเสียงตึงๆได้กำลังใกล้เข้าๆใกล้เข้ามา
พระองค์เจ้าเกดรังสีเงยหน้าจากหนังสือที่ทรงอ่านอยู่แล้วทรงส่ายพระเศียรอย่างเอือมระอาแกมเอ็นดู
\"เสด็จแม่ เสด็จแม่ ทรงดูเสด็จพ่อสิเพคะ\"
เจ้าเกดรังสีทรงอมยิ้มน้อยๆที่ได้ยินแต่เสียงยังไม่ได้ทันได้เห็นองค์เลยซักนิด
รอยยิ้มยังไม่ทรงจางร่างเล็กๆขององค์ชายน้อยก็ทรงเสด็จมาถึงข้างวรกายเสด็จแม่เพร้อมทรงนั่ง
พับเพียบรียบร้อยผิดกับพระน้ำเสียงเสียนี่กระไร
\"อะไรจ๊ะ ชายน้อย\"
อารมณ์ขององค์ชายนรินทร์พรดูเหมือนจะทรงเย็นลงเมื่อเห็นว่าเสด็จแม่ทอดพระเนตรอย่างอ่อนโยน
พร้อมกับลูบพระเกศาน้อยๆนั้นอย่างรักใคร่
\"ก็จะอะไรอีกหล่ะเพคะ เสด็จพ่อจะหาองครักษ์ให้ชายหน่ะสิเพคะ\"
\"อ้าว~ ก็ดีแล้วนี่นา\"
คนฟังถึงกับทำตาโต
\" เสด็จแม่! เสด็จแม่เข้าข้างเสด็จพ่อหรือเพคะ?\"
\"เปล่านะจ๊ะ...แต่ว่าลูกก็สมควรมีคนคุ้มครองได้แล้วนี่\"
เจ้าเกดรังสีทรงใช้น้ำเสียงราบเรียบอ่อนโยนเพราะรู้ว่าโอรส
ท่านพระทัยร้อนยังกับไฟสามารถเผาทุกอย่างที่เข้่าใกล้ได้เลยทีเดียว
\"เสด็จแม่ก็เห็นด้วยกับท่านพ่อหรือเพคะ? ชายแข็งแรงพอที่จะคุ้มครองตัวเองนะเพคะ?\"
เจ้าเกดรังสีทรงส่ายพระเศียรอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับท่าทางที่โอรสทรงยกแขนเล็กๆขึ้นมา
โชว์กล้ามที่ตนคิดว่าแข็งแรงพอที่จะสู้กับพวกศัตรูต่างๆได้
\"มันไม่เหมือนกันนะจ๊ะ...อนาคตชายน้อยเองก็ต้องเจอกับอันตรายมากมายชายจะเป็นอะไรไม่ได้นะจ๊ะ
ถ้าชายเป็นอะไรไปแล้วแม่จะอยู่ได้อย่างไร\"
เมื่อพระองค์ชายน้อยทอดพระเนตรเห็นเสด็จแม่เริ่มปริ่มพระกรรณแสงเท่านั้นแหละ
ความที่จะอาละวาดให้มากกว่านี้ก็เป็นอันต้องยุบไปโดยปริยาย...
อีกฝากหนึ่งของอุธยานมีร่างน้อยๆกำลังยืนใช้สองพระหัตถ์เกาะกำแพงมองภาพเหตุการณ์
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็นเต็มที่
\"นี่ นารี...เธอทำหลังดีๆหน่อยสิ กระดุกกระดิกอยากนี้เมื่อไหร่เราจะเห็นได้ชัดเล่า\"
เสียงทุ้มก้องกังวานอย่างมีจังหวะไพเราะไม่ได้ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างรู้สึกดีขึ้นไปได้เลย
\"โถ่...องค์หญิง...จะทรงทอดพระเนตรไปไยเพคะ อยากทอดพระเนตรก็ทรงเด็จไปหาเด็จพี่สิเพคะ?\"
หญิงนางกำนัลนามนารีเิริ่มโอดครวญเมื่อพระองค์หญิงเล็กไม่ยอมเลิกทอดพระเนตรดูเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่ทันที
\"แหม~~อย่างกับเราทำได้อย่างนั้นแหละ...ถ้าเราทำได้เราก็ไม่มาทรมาณสังขารตนเองให้เมื่อยหรอกหน่า\"
นัยตาที่คล้ายกับองค์ชายน้อยได้ระยับไม่แพ้พระองค์พี่นั้นพราวแสงราวกับจะแย้มยิ้มได้ด้วยดวงเนตร
อย่างไรอย่างนั้น
\" แน๊ะ~ บอกว่าอยู่นิ่งๆไงละ...ดูสิ ท่านพี่ใช้พระแสงกระบี่แทงไปที่คอของ อังสาแล้ว เห็นไหม? \"
องค์หญิงน้อยเิริ่มคันไม้คันมือเหมือนอยากจะลงไปร่วมวงด้วยกระนั้น
\"ดูสิ นารี เสด็จพ่อก็มาด้วยแฮะ!\"
\"องค์หญิง!\"
\"ว้าย\"
โครม~
\"อูย~~แม่นมมาเมื่อไหร่ไม่ให้สุ้มให้เสียง ดูสิ หญิง เจ็บไปหมดแล้ว\"
เจ้าของเสียงโอดครวญทรงใช้พระหัตถ์คลำพระบั้นท้ายป้อยๆ
\"ก็ดูพระองค์ทรงเล่นพิเรนสิเพคะ\"
พูดพร้อมกับประครององค์หญิงที่ตัวไม่ค่อยจะน้อยเท่าไหร่แล้วขึ้น
แต่ดูเหมือนจะเกินแรงสำหรับหญิงชราที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่นมคนนี้ซะแล้วซิ
\"นารี มาช่วยกันพยุงองค์หญิงสิ!\"
\"โห~~นม~~นารีเองยังลุกไม่ขึ้นเลยนะคะ~~เป็นม้านั่งให้องค์หญิงทรงประทับพระบาท(เหยียบ)
อยู่ตั้งนาน เหน็บกินหมดแล้วเจ้าค่ะ\"
หญิงชราเห็นนารีหมอบราบก้มไปกับพื้นก็ดูเหมือนจะไม่ไหวเหมือนกัน จึงได้แต่ส่ายหน้าพอหันกลับมา
ทางองค์หญิงดูเหมือนว่า
\"อุ๊ย ตาเถร\" แม่นมก็โดนแขนแข็งแรงโอบกอดจากด้านหลังเสียแล้ว
\"อืม~~นมของหญิงหอมจัง ขอหญิงหอมฟอดหนึ่งนะ\" เสียงยังไม่ทันได้จบประโยค พระพักตร์หวานๆของ
องค์หญิงก็ฝังลงจมแก้มอ้วนๆของหญิงชราไปแล้ว
\"องค์หญิงละก็~~มันน่าตีจริง~ทำให้คนแก่ตกอกตกใจไปได้...นี่แหนะ\"
\'เพี๊ยะ\'
\"โอ้ย~นม~ หญิงเจ็บนะ~ดูสิ มือหญิงแดงเลย นารีต้องช่วยหญิงด้วยนะ\"
เมื่อไม่เห็นว่าหญิงชราจะโอนอ่อนผ่อนตามก็ดูเหมือนว่าจะหาพวกร่วมโดยการหันหน้าไปขอเสียง
สนับสนุนจากนารีเสียนี่
\"คิก คิก งานนี้นารีไม่เกี่ยวนะเพคะ \"
\"ก็ลองเกี่ยวสิ แม่จะใช้ให้ถูพระตำหนักในให้หมดคนเดียวเลยนี่\"
หญิงชราขู่กำชับ
\"เมื่อไหร่จะปล่อยนมเพคะ? นมอึดอัดจะแย่แล้ว องค์หญิงตัวไม่เล็กเหมือนตอนเด็กๆแล้วนะเพคะ~โอ๊ย\"
ดูเหมือนว่าองค์หญิงจะแกล้งรัดแน่นกว่าเดิมอีกแหนะ
\"ก็หญิงรักนมนี่นา~~แถมตัวของนมก็นุ่มนิ่มกว่าตุ๊กตาในห้องเป็นไหนๆ\"
พร้อมกับซบหน้าลงกับต้นคอขอแม่นมจากด้านหลัง
\"แหม~~ไม่ต้องมาอ้อนเลยค่ะ นมไม่หลงกลหรอก~\" แม่นมพูดยิ้มๆ
\"ว้า~~แย่จัง..วิธีนี้หญิงใช้กับใครๆ ใครๆก็หลงกลทั้งนั้นนี่นา...
เอ๊~~รึว่าแม่นมผิดปกติจากชาวบ้านคนอื่นๆรึไง?\"
\"ว้าย~องค์หญิง~~พูดอย่างนี้ได้ไงคะ? นารีใช่ไหม? เพราะหล่อนเชียว หล่อนแน่ๆเลย\"
\"โห~นม เอะอะว่านารีอยู่เรื่อยเชียว~~\"
คนถูกโทษทำหน้าเง้าใ่ส่หญิงชรา
\"คิก..คิก ไม่ต้องโทษใครหรอกค่ะ หญิงเป็นของหญิงเอง\" ว่าแล้วก็ใช้พระหัตถ์ข้างหนึ่งป้องกุ้ม
ที่พระอุทร(ท้อง)เพราะทรงเกิดอาการสรวลจนเจ็บท้องอย่างที่ใครๆเค้าชอบพูดกัน
\"หยุดทรงขำเถอะเพคะ ตอนนี้ได้เวลาเรียนวิิชาภูมิศาตร์โลกแล้วเพคะ...พระอาจารย์ก็มารอแล้วด้วย\"
เท่านั้นแหละ พระอาการทรงสรวลเมื่อกี้ก็หายวับไปกับตา
\"ว้า~ทำไมหญิงต้องเรียนด้วยละ? มันต้องให้ท่านพี่นรินทร์เรียนมิใช่หรือ?\" หญิงสาวเริ่มโอดครวญ
\"ให้หญิงเรียนอย่างอื่นได้ไหมคะ? หญิงเบื่อเรียนแต่พวกประวัติศาตร์ วิชาว่าด้วยการจับศึก กลลวงข้าศึก
เศรษฐศาสตร์ ฯลฯ....\"
หญิงชราได้แต่ถอนหายใจ ไม่รู้จะหาคำตอบแก่พระองค์หญิงน้อยที่ตนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กอย่างไรดีไปกว่า
\"เรียนไปเถอะค่ะ ผู้หญิงเรา เรียนเยอะๆ ก็ไม่เสียหาย ท่านพี่เค้าก็ทรงเรียนเยอะเหมือนกันแหละค่ะ\"
**********************************************************************************
หวัดดีค่ะ
นี่เป็นการลองแต่งแบบต้องใช้ราชาศัพท์ครั้งแรกหน่ะค่ะ
ถ้าผิดพลาดละก็ช่วยเม้นท์บอกด้วยนะคะ จะได้ปรับปรุงแก้ไขค่ะ ขอบคุณค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น