ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจลุ้นรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : เปิดฉาก

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 48


    จิบ จิบๆ เสียงนาฬิกาดังเข้ามาในโสตประสาทที่ยังสะลึีมละลือ ของสาวน้อย(ก็คิดว่าตัวเองยังไม่แค่อะนะ)

    หญิงสาว ค่อยๆ กระพริบตาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก โห...ดันตั้งนาฬิกาปลุกตัวเองไว้ตั้งแต่ไก่โห่พระอาทิตย์

    ย้ังไม่ทันขึ้นเลยกระมัง(ก็จะไม่ให้ปลุกแต่เช้าได้ไงคนกรุงเทพส่วนใหญ่เค้าก้อตื่นกันอย่างนี้กันเกือบทุก

    คนนะแหละ)



    ร่างแน่งน้อยค่อยๆขยับนิ้วมือเรียวบางของเธอไปกดปุ่มปิดเสียงนาฬิกาที่ดังแสบแก้วหูจนตนเองก็แทบ

    จะทนไม่ไหวแต่ทว่าเนื่องจากชอบเป็นโรควันจันทกำเริบร์หรือเรียกง่ายๆว่าโรคขี้เกียจจึงทำให้เธอ

    เกลือกกลิ้งต่อ…บนเสื่อปูนอนเล็กๆในห้องเช่าเท่ารังหนูแต่ราคาแสนแพงสำหรับตนเอง(2000/เดือน) คนอื่นอาจจะว่าถูกแต่แหม...ยังไม่ได้เริ่มทำงานนะจะเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะเชียว



    วันนี้เป็นเช้าวันแรกของการทำงานในโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งแถบชานเมืองกรุงเทพฯ

    จริงๆแล้ววนิดาจบจากมหาลัยมีชื่อของรัฐบาล แต่ว่า วิจัยฝุ่นซะเกือบสองปีทำให้

    มีสภาพเป็นพนักงานช้ากว่าคนธรรมดาปกติเค้าเล็กน้อย



    หลังจากกดปิดนาฬิการูปหมูสีชมพูที่ได้รับเป็นของขวัญวันรับปริญญาจากเพื่อนๆ

    สาวเจ้าก็เอื้อมมืิอไปคว้าผ้าขนหนูสีฟ้า(อันนี้ก้อได้รับจากเพื่อนอีกนั้นแหละวันรับปริญญาเหมือนกัน)

    (แบบว่าฐานะทางบ้านก้อก็ใช่ว่าจะรวยอะไรนักหนามาจากไหนอะนะ)

    ทั้งๆที่ยังไม่ยอมลืมตาได้โดยไม่พลาดเป้าแม่นอย่างกับจับวางแล้วจึงสาวเท้าเข้าห้องน้ำที่ยัง

    อุตส่าห์มีอยู่ในห้องรูหนูอันแสนอัตคัตห้องนี้อีกด้วยแฮะ



    ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันทำงานวันแรกก็เลยฉลองด้วยการไปซื้อสบู่หอมตัวใหม่ที่เค้าโฆษณากันหนักหนา

    ว่าหอมนานตลอดทั้งวัน

    อาบน้ำเสร็จแล้วก้อเริ่มเช็ดตัวแต่งหน้่าแต่งตา(ทั้งๆที่ก้อแต่งหน้าไม่ค่อยเป็นหรอกนะ)



    วนิดาจ้องมองเข้าไปหน้ากระจกอย่างพินิจพิจารณาเห็นสาวหน้าตาธรรมดา..หน้ารูปไข่นิดๆ ตาก้อไม่ใหญ่ไม่ค่อยจะโตเท่าไหร่นักจมูกออกจะใหญ่เล็กน้อยอย่างที่เค้าเรียกว่าจมูกชมพู่

    ซึ่งเจ้าตัวอยากจะหาเงินมาทำศัลยกรรมให้มันรู้แล้วรู้แรดกันไปเลย…

    ริมฝีปากดีหน่อยที่ไม่ใหญ่นักออกจะดูน่ารักดีหรอกนะ(อันนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเข้าข้างตัวเองเกินไปรึเปล่าหว่า)

    สีผิวออกคล้ำไม่ดำแต่ก็ไม่ขาวตามสไตร์สาวไทยเต็มร้อย

    \"เฮ้อ...เมื่อไหร่จะสวยกะเค้าซะทีน้า\"

    \"หน้าตาอย่างเราเนี๊ยะ จะต้องแต่งหน้าแบบไหนกัน ถึงจะสวย\"

    บ่นอย่างนี้มาเป็นรอบที่ล้านแล้วมั้ง เริ่มบ่นตั่งแต่รู้ตัวว่าเป็นสาวกับเค้าแล้วนะเนี๊ยะ

    บ่นไปทาครีมไปหล่อนเองไม่ได้แต่งหน้าอะไรมากหรอกนะ แค่ทาครีมบำรุง

    ครีมกันแดด ทาน้ำยาอุทัยทิพย์ที่เค้าฮิตๆกันบอกว่าช่วยให้หน้าอมชมพูดั่งกลีบกุหลาบ

    เหมือนสาวแรกแย้มที่เพื่อนๆของวนิดาบอกสรรพคุณมาให้ฟังก็แค่นั้นเอง



    กว่าจะเสร็จทุกอย่างวนิดาเหลือบมองนาฬิกาก็แทบจะทำให้ดวงตาคมๆของเธอเบิกกว้างด้วยอาการที่บอกว่าช๊อคได้เลยทีเดียว ก็จะอะไรเสียอีกถ้าเธอไม่รีบออกจากบ้านตอนนี้มีหวังโดนเด้ง

    ออกจากงานทั้งๆที่ยังไม่ได้เิริ่มทำก็ได้ใครจะไปรู้้

    ………………………………………………………………………………



    \"โห..ทำไมมันร้อนอย่างนี้นะ\"

    หญิงสาว บ่นอุบเมื่อต้องฝึกงานในขณะที่ทางโรงแรมแห่งนี้ อยู่ในช่วงมาตรการ

    ลดcostให้มากที่สุดเท่าที่ทางพนักงานทุกคนสามารถทำได้

    วนิดาบ่นไปขำตัวเองไป...จะไม่ให้ขำได้ไงลองคิดถึงสภาพของเธอตอนนี้สิ

    ปากบ่นมือข้างขวาถือหนังสือที่ต้องอ่านเรียนรู้งานมือข้างซ้ายก้อถือพัด

    (แอบไปซื้อมาตอนพักเที่ยงเพราะทนไม่ค่อยได้กับความร้อน)โบกหยอยๆ



    เพื่อคลายความร้อนไป...ไหนจะต้องจำทุกอย่างที่อ่านไปวันนี้ไปพูดให้พี่เลี้ยงฟังอีก

    เป็นการเรียนรู้งานวันแรกของวันนี้อีกแหนะ...คิดแล้วเซ็ง...

    แหม...ทุกส่วนของโรงแรมนี้เปิดแอร์เย็นฉ่ำชื่นใจเพื่อดึงดูด

    แขกให้มาพัก...ยกเว้นส่วนของพนักงานออฟฟิสที่ไม่มีหน้าที่รับแขกกะลูกค้า

    เปิดแอร์ให้พอให้หายใจแค่นั้นเอง อย่าหาว่าหญิงสาวขี้ร้อนหรือขี้เว่อร์เลยนะ

    แต่ดูพี่ๆทุกคนที่ทำงานในห้องนี้ก็รู้แล้วหล่ะว่าไม่ได้พูดเกินจริงเลยซักนิด



    \"เฮ้อ...จะจำอย่างไงหมดวะเนี๊ยะ\" พลางหาวหวอดๆ

    \"พูดไรหน่ะ\"

    \"อุ๊ย ตาแถนตกแถวบางพลี\"

    วนิดาสดุ้งเฮือก หันกลับไปมองเจ้าของเสียงดุๆที่ดังมาจากข้างหลังพร้อมกับ

    รีบทำทำหน้าจ๋อยๆ



    \"เปล่าค่ะ...แค่บอกว่าร้อนเฉยๆหน่ะค่ะพี่แก้ว\"

    \"อืม...แล้วไป...แล้วนี่จำได้หมดรึยัง...เกือบบ่ายสี่แล้วนะ\"



    เจ้แกพูดจบปุ๊บก็นั่งที่ประจำของแกข้างๆวนิดา

    (จริงๆแล้วก็ที่เจ้แกหน่ะแหละ เพียงแค่เอาเก้าอีมาเสริมให้อีกตัว

    นั่งข้างๆกันเพราะเจ้แกจะได้ติวงานได้ถนัดๆ)



    โห...ใครจะจำได้หมดวันทั้งวันให้อ่านแต่หนังสือทำแต่ทฤษฏีไม่มีปฏิบัติ

    จำได้แค่วันเดียวก็เก่งแล้วหล่ะ เว่อร์…แต่ใครจะกล้าพูดได้อย่างที่คิดหล่ะ...



    \"ก็จำได้พอสมควรแล้วค่ะ\"

    \"อืม...ใช้ได้ ไหนลองบอกมาซิมีอะไรบ้าง กฏของโรงแรม\"



    เอาละซิ เวร.....เสี่ยงดวงละกัน



    วนิดาอธิบายเท่าทีหญิงสาวจำได้...แต่ดูเจ้แกจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่

    เพราะตาเจ้แกดูคอมฯไปมืออวบๆของแกก็จิมลงแป้นคอมฯพรวดๆ

    จะเอาสมองไหนมาฟัง(จับผิด)วนิดาละเนี๊ยะ



    \"อืม พอแล้ว เดียวพรุ่งนี้ทำงานไ้ด้ตามปกติ...อ้อ..วันนี้เลิกงานแล้ว

    ก็กลับบ้านได้เลยนะ\"

    \"ค่ะ\"...โห ดีจังแฮะ อยากกลับบ้านเร็วๆเหมือนกัน

    ไม่ได้ทำอะไร เอาแต่นั่งอ่านหนังสือทั้งวันนั่งจนรากจะงอกที่ก้นได้อยู่แล้ว



    ขนะที่วนิดากำลังเดินออกจากหน้าประตูโรงแรมที่่ทำงานอยู่นั้น

    อย่างกับมีสัมผัสทีุ่6(ของสาวโสดที่จะมีเรด้าคอยจับคลื่นของ

    หนุ่มหล่อที่อยู่้ในสเปกของตนเอง)เธอรู้สึกว่ามีอะไรผ่านเข้ามา

    ในสายตาของเธอทำให้เธอต้องหันไปมองคนข้างๆ



    \"โอ มายกอด\" ชายหนุ่มท่าทางสมาร์ทสูงราวๆ180

    หน้าตาดูดุๆแต่ว่าเท่ห์เหลือหลายในความรู้สึกของวนิดา

    สวมชุดสูทน้ำเงินออกดำ ยิ่งมองคนอะไรวะ หน้าตาเท่หมาก



    หนุ่มในสเปกของสาวๆส่วนใหญ่เลยหล่ะนะ

    ทำยังไงดีน้า~~~อยากได้เค้าคนนั้นมาเป็นแฟนจังแฮะ

    ถ้าเค้ามาจีบเราก้อดีสิ

    เพราะมัวแต่คิดอยู่นั่นแหละ พอเงยหน้ามองไปทางชายคนนั้น

    อีกทีก็ได้อันตธานหายไปซะแล้ว ว้า~~นานๆจะเจอหนุ่มในฝันซะทีขอมองนานๆ

    ให้สบายตาหน่อยก้อไม่ได้ไม่รู้จะรีบไปไหนนักเชียว









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×