ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เปิดฉาก
จิบ จิบๆ เสียงนาฬิกาดังเข้ามาในโสตประสาทที่ยังสะลึีมละลือ ของสาวน้อย(ก็คิดว่าตัวเองยังไม่แค่อะนะ)
หญิงสาว ค่อยๆ กระพริบตาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก โห...ดันตั้งนาฬิกาปลุกตัวเองไว้ตั้งแต่ไก่โห่พระอาทิตย์
ย้ังไม่ทันขึ้นเลยกระมัง(ก็จะไม่ให้ปลุกแต่เช้าได้ไงคนกรุงเทพส่วนใหญ่เค้าก้อตื่นกันอย่างนี้กันเกือบทุก
คนนะแหละ)
ร่างแน่งน้อยค่อยๆขยับนิ้วมือเรียวบางของเธอไปกดปุ่มปิดเสียงนาฬิกาที่ดังแสบแก้วหูจนตนเองก็แทบ
จะทนไม่ไหวแต่ทว่าเนื่องจากชอบเป็นโรควันจันทกำเริบร์หรือเรียกง่ายๆว่าโรคขี้เกียจจึงทำให้เธอ
เกลือกกลิ้งต่อ บนเสื่อปูนอนเล็กๆในห้องเช่าเท่ารังหนูแต่ราคาแสนแพงสำหรับตนเอง(2000/เดือน) คนอื่นอาจจะว่าถูกแต่แหม...ยังไม่ได้เริ่มทำงานนะจะเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะเชียว
วันนี้เป็นเช้าวันแรกของการทำงานในโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งแถบชานเมืองกรุงเทพฯ
จริงๆแล้ววนิดาจบจากมหาลัยมีชื่อของรัฐบาล แต่ว่า วิจัยฝุ่นซะเกือบสองปีทำให้
มีสภาพเป็นพนักงานช้ากว่าคนธรรมดาปกติเค้าเล็กน้อย
หลังจากกดปิดนาฬิการูปหมูสีชมพูที่ได้รับเป็นของขวัญวันรับปริญญาจากเพื่อนๆ
สาวเจ้าก็เอื้อมมืิอไปคว้าผ้าขนหนูสีฟ้า(อันนี้ก้อได้รับจากเพื่อนอีกนั้นแหละวันรับปริญญาเหมือนกัน)
(แบบว่าฐานะทางบ้านก้อก็ใช่ว่าจะรวยอะไรนักหนามาจากไหนอะนะ)
ทั้งๆที่ยังไม่ยอมลืมตาได้โดยไม่พลาดเป้าแม่นอย่างกับจับวางแล้วจึงสาวเท้าเข้าห้องน้ำที่ยัง
อุตส่าห์มีอยู่ในห้องรูหนูอันแสนอัตคัตห้องนี้อีกด้วยแฮะ
ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันทำงานวันแรกก็เลยฉลองด้วยการไปซื้อสบู่หอมตัวใหม่ที่เค้าโฆษณากันหนักหนา
ว่าหอมนานตลอดทั้งวัน
อาบน้ำเสร็จแล้วก้อเริ่มเช็ดตัวแต่งหน้่าแต่งตา(ทั้งๆที่ก้อแต่งหน้าไม่ค่อยเป็นหรอกนะ)
วนิดาจ้องมองเข้าไปหน้ากระจกอย่างพินิจพิจารณาเห็นสาวหน้าตาธรรมดา..หน้ารูปไข่นิดๆ ตาก้อไม่ใหญ่ไม่ค่อยจะโตเท่าไหร่นักจมูกออกจะใหญ่เล็กน้อยอย่างที่เค้าเรียกว่าจมูกชมพู่
ซึ่งเจ้าตัวอยากจะหาเงินมาทำศัลยกรรมให้มันรู้แล้วรู้แรดกันไปเลย
ริมฝีปากดีหน่อยที่ไม่ใหญ่นักออกจะดูน่ารักดีหรอกนะ(อันนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเข้าข้างตัวเองเกินไปรึเปล่าหว่า)
สีผิวออกคล้ำไม่ดำแต่ก็ไม่ขาวตามสไตร์สาวไทยเต็มร้อย
\"เฮ้อ...เมื่อไหร่จะสวยกะเค้าซะทีน้า\"
\"หน้าตาอย่างเราเนี๊ยะ จะต้องแต่งหน้าแบบไหนกัน ถึงจะสวย\"
บ่นอย่างนี้มาเป็นรอบที่ล้านแล้วมั้ง เริ่มบ่นตั่งแต่รู้ตัวว่าเป็นสาวกับเค้าแล้วนะเนี๊ยะ
บ่นไปทาครีมไปหล่อนเองไม่ได้แต่งหน้าอะไรมากหรอกนะ แค่ทาครีมบำรุง
ครีมกันแดด ทาน้ำยาอุทัยทิพย์ที่เค้าฮิตๆกันบอกว่าช่วยให้หน้าอมชมพูดั่งกลีบกุหลาบ
เหมือนสาวแรกแย้มที่เพื่อนๆของวนิดาบอกสรรพคุณมาให้ฟังก็แค่นั้นเอง
กว่าจะเสร็จทุกอย่างวนิดาเหลือบมองนาฬิกาก็แทบจะทำให้ดวงตาคมๆของเธอเบิกกว้างด้วยอาการที่บอกว่าช๊อคได้เลยทีเดียว ก็จะอะไรเสียอีกถ้าเธอไม่รีบออกจากบ้านตอนนี้มีหวังโดนเด้ง
ออกจากงานทั้งๆที่ยังไม่ได้เิริ่มทำก็ได้ใครจะไปรู้้
\"โห..ทำไมมันร้อนอย่างนี้นะ\"
หญิงสาว บ่นอุบเมื่อต้องฝึกงานในขณะที่ทางโรงแรมแห่งนี้ อยู่ในช่วงมาตรการ
ลดcostให้มากที่สุดเท่าที่ทางพนักงานทุกคนสามารถทำได้
วนิดาบ่นไปขำตัวเองไป...จะไม่ให้ขำได้ไงลองคิดถึงสภาพของเธอตอนนี้สิ
ปากบ่นมือข้างขวาถือหนังสือที่ต้องอ่านเรียนรู้งานมือข้างซ้ายก้อถือพัด
(แอบไปซื้อมาตอนพักเที่ยงเพราะทนไม่ค่อยได้กับความร้อน)โบกหยอยๆ
เพื่อคลายความร้อนไป...ไหนจะต้องจำทุกอย่างที่อ่านไปวันนี้ไปพูดให้พี่เลี้ยงฟังอีก
เป็นการเรียนรู้งานวันแรกของวันนี้อีกแหนะ...คิดแล้วเซ็ง...
แหม...ทุกส่วนของโรงแรมนี้เปิดแอร์เย็นฉ่ำชื่นใจเพื่อดึงดูด
แขกให้มาพัก...ยกเว้นส่วนของพนักงานออฟฟิสที่ไม่มีหน้าที่รับแขกกะลูกค้า
เปิดแอร์ให้พอให้หายใจแค่นั้นเอง อย่าหาว่าหญิงสาวขี้ร้อนหรือขี้เว่อร์เลยนะ
แต่ดูพี่ๆทุกคนที่ทำงานในห้องนี้ก็รู้แล้วหล่ะว่าไม่ได้พูดเกินจริงเลยซักนิด
\"เฮ้อ...จะจำอย่างไงหมดวะเนี๊ยะ\" พลางหาวหวอดๆ
\"พูดไรหน่ะ\"
\"อุ๊ย ตาแถนตกแถวบางพลี\"
วนิดาสดุ้งเฮือก หันกลับไปมองเจ้าของเสียงดุๆที่ดังมาจากข้างหลังพร้อมกับ
รีบทำทำหน้าจ๋อยๆ
\"เปล่าค่ะ...แค่บอกว่าร้อนเฉยๆหน่ะค่ะพี่แก้ว\"
\"อืม...แล้วไป...แล้วนี่จำได้หมดรึยัง...เกือบบ่ายสี่แล้วนะ\"
เจ้แกพูดจบปุ๊บก็นั่งที่ประจำของแกข้างๆวนิดา
(จริงๆแล้วก็ที่เจ้แกหน่ะแหละ เพียงแค่เอาเก้าอีมาเสริมให้อีกตัว
นั่งข้างๆกันเพราะเจ้แกจะได้ติวงานได้ถนัดๆ)
โห...ใครจะจำได้หมดวันทั้งวันให้อ่านแต่หนังสือทำแต่ทฤษฏีไม่มีปฏิบัติ
จำได้แค่วันเดียวก็เก่งแล้วหล่ะ เว่อร์ แต่ใครจะกล้าพูดได้อย่างที่คิดหล่ะ...
\"ก็จำได้พอสมควรแล้วค่ะ\"
\"อืม...ใช้ได้ ไหนลองบอกมาซิมีอะไรบ้าง กฏของโรงแรม\"
เอาละซิ เวร.....เสี่ยงดวงละกัน
วนิดาอธิบายเท่าทีหญิงสาวจำได้...แต่ดูเจ้แกจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
เพราะตาเจ้แกดูคอมฯไปมืออวบๆของแกก็จิมลงแป้นคอมฯพรวดๆ
จะเอาสมองไหนมาฟัง(จับผิด)วนิดาละเนี๊ยะ
\"อืม พอแล้ว เดียวพรุ่งนี้ทำงานไ้ด้ตามปกติ...อ้อ..วันนี้เลิกงานแล้ว
ก็กลับบ้านได้เลยนะ\"
\"ค่ะ\"...โห ดีจังแฮะ อยากกลับบ้านเร็วๆเหมือนกัน
ไม่ได้ทำอะไร เอาแต่นั่งอ่านหนังสือทั้งวันนั่งจนรากจะงอกที่ก้นได้อยู่แล้ว
ขนะที่วนิดากำลังเดินออกจากหน้าประตูโรงแรมที่่ทำงานอยู่นั้น
อย่างกับมีสัมผัสทีุ่6(ของสาวโสดที่จะมีเรด้าคอยจับคลื่นของ
หนุ่มหล่อที่อยู่้ในสเปกของตนเอง)เธอรู้สึกว่ามีอะไรผ่านเข้ามา
ในสายตาของเธอทำให้เธอต้องหันไปมองคนข้างๆ
\"โอ มายกอด\" ชายหนุ่มท่าทางสมาร์ทสูงราวๆ180
หน้าตาดูดุๆแต่ว่าเท่ห์เหลือหลายในความรู้สึกของวนิดา
สวมชุดสูทน้ำเงินออกดำ ยิ่งมองคนอะไรวะ หน้าตาเท่หมาก
หนุ่มในสเปกของสาวๆส่วนใหญ่เลยหล่ะนะ
ทำยังไงดีน้า~~~อยากได้เค้าคนนั้นมาเป็นแฟนจังแฮะ
ถ้าเค้ามาจีบเราก้อดีสิ
เพราะมัวแต่คิดอยู่นั่นแหละ พอเงยหน้ามองไปทางชายคนนั้น
อีกทีก็ได้อันตธานหายไปซะแล้ว ว้า~~นานๆจะเจอหนุ่มในฝันซะทีขอมองนานๆ
ให้สบายตาหน่อยก้อไม่ได้ไม่รู้จะรีบไปไหนนักเชียว
หญิงสาว ค่อยๆ กระพริบตาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก โห...ดันตั้งนาฬิกาปลุกตัวเองไว้ตั้งแต่ไก่โห่พระอาทิตย์
ย้ังไม่ทันขึ้นเลยกระมัง(ก็จะไม่ให้ปลุกแต่เช้าได้ไงคนกรุงเทพส่วนใหญ่เค้าก้อตื่นกันอย่างนี้กันเกือบทุก
คนนะแหละ)
ร่างแน่งน้อยค่อยๆขยับนิ้วมือเรียวบางของเธอไปกดปุ่มปิดเสียงนาฬิกาที่ดังแสบแก้วหูจนตนเองก็แทบ
จะทนไม่ไหวแต่ทว่าเนื่องจากชอบเป็นโรควันจันทกำเริบร์หรือเรียกง่ายๆว่าโรคขี้เกียจจึงทำให้เธอ
เกลือกกลิ้งต่อ บนเสื่อปูนอนเล็กๆในห้องเช่าเท่ารังหนูแต่ราคาแสนแพงสำหรับตนเอง(2000/เดือน) คนอื่นอาจจะว่าถูกแต่แหม...ยังไม่ได้เริ่มทำงานนะจะเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะเชียว
วันนี้เป็นเช้าวันแรกของการทำงานในโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งแถบชานเมืองกรุงเทพฯ
จริงๆแล้ววนิดาจบจากมหาลัยมีชื่อของรัฐบาล แต่ว่า วิจัยฝุ่นซะเกือบสองปีทำให้
มีสภาพเป็นพนักงานช้ากว่าคนธรรมดาปกติเค้าเล็กน้อย
หลังจากกดปิดนาฬิการูปหมูสีชมพูที่ได้รับเป็นของขวัญวันรับปริญญาจากเพื่อนๆ
สาวเจ้าก็เอื้อมมืิอไปคว้าผ้าขนหนูสีฟ้า(อันนี้ก้อได้รับจากเพื่อนอีกนั้นแหละวันรับปริญญาเหมือนกัน)
(แบบว่าฐานะทางบ้านก้อก็ใช่ว่าจะรวยอะไรนักหนามาจากไหนอะนะ)
ทั้งๆที่ยังไม่ยอมลืมตาได้โดยไม่พลาดเป้าแม่นอย่างกับจับวางแล้วจึงสาวเท้าเข้าห้องน้ำที่ยัง
อุตส่าห์มีอยู่ในห้องรูหนูอันแสนอัตคัตห้องนี้อีกด้วยแฮะ
ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันทำงานวันแรกก็เลยฉลองด้วยการไปซื้อสบู่หอมตัวใหม่ที่เค้าโฆษณากันหนักหนา
ว่าหอมนานตลอดทั้งวัน
อาบน้ำเสร็จแล้วก้อเริ่มเช็ดตัวแต่งหน้่าแต่งตา(ทั้งๆที่ก้อแต่งหน้าไม่ค่อยเป็นหรอกนะ)
วนิดาจ้องมองเข้าไปหน้ากระจกอย่างพินิจพิจารณาเห็นสาวหน้าตาธรรมดา..หน้ารูปไข่นิดๆ ตาก้อไม่ใหญ่ไม่ค่อยจะโตเท่าไหร่นักจมูกออกจะใหญ่เล็กน้อยอย่างที่เค้าเรียกว่าจมูกชมพู่
ซึ่งเจ้าตัวอยากจะหาเงินมาทำศัลยกรรมให้มันรู้แล้วรู้แรดกันไปเลย
ริมฝีปากดีหน่อยที่ไม่ใหญ่นักออกจะดูน่ารักดีหรอกนะ(อันนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเข้าข้างตัวเองเกินไปรึเปล่าหว่า)
สีผิวออกคล้ำไม่ดำแต่ก็ไม่ขาวตามสไตร์สาวไทยเต็มร้อย
\"เฮ้อ...เมื่อไหร่จะสวยกะเค้าซะทีน้า\"
\"หน้าตาอย่างเราเนี๊ยะ จะต้องแต่งหน้าแบบไหนกัน ถึงจะสวย\"
บ่นอย่างนี้มาเป็นรอบที่ล้านแล้วมั้ง เริ่มบ่นตั่งแต่รู้ตัวว่าเป็นสาวกับเค้าแล้วนะเนี๊ยะ
บ่นไปทาครีมไปหล่อนเองไม่ได้แต่งหน้าอะไรมากหรอกนะ แค่ทาครีมบำรุง
ครีมกันแดด ทาน้ำยาอุทัยทิพย์ที่เค้าฮิตๆกันบอกว่าช่วยให้หน้าอมชมพูดั่งกลีบกุหลาบ
เหมือนสาวแรกแย้มที่เพื่อนๆของวนิดาบอกสรรพคุณมาให้ฟังก็แค่นั้นเอง
กว่าจะเสร็จทุกอย่างวนิดาเหลือบมองนาฬิกาก็แทบจะทำให้ดวงตาคมๆของเธอเบิกกว้างด้วยอาการที่บอกว่าช๊อคได้เลยทีเดียว ก็จะอะไรเสียอีกถ้าเธอไม่รีบออกจากบ้านตอนนี้มีหวังโดนเด้ง
ออกจากงานทั้งๆที่ยังไม่ได้เิริ่มทำก็ได้ใครจะไปรู้้
\"โห..ทำไมมันร้อนอย่างนี้นะ\"
หญิงสาว บ่นอุบเมื่อต้องฝึกงานในขณะที่ทางโรงแรมแห่งนี้ อยู่ในช่วงมาตรการ
ลดcostให้มากที่สุดเท่าที่ทางพนักงานทุกคนสามารถทำได้
วนิดาบ่นไปขำตัวเองไป...จะไม่ให้ขำได้ไงลองคิดถึงสภาพของเธอตอนนี้สิ
ปากบ่นมือข้างขวาถือหนังสือที่ต้องอ่านเรียนรู้งานมือข้างซ้ายก้อถือพัด
(แอบไปซื้อมาตอนพักเที่ยงเพราะทนไม่ค่อยได้กับความร้อน)โบกหยอยๆ
เพื่อคลายความร้อนไป...ไหนจะต้องจำทุกอย่างที่อ่านไปวันนี้ไปพูดให้พี่เลี้ยงฟังอีก
เป็นการเรียนรู้งานวันแรกของวันนี้อีกแหนะ...คิดแล้วเซ็ง...
แหม...ทุกส่วนของโรงแรมนี้เปิดแอร์เย็นฉ่ำชื่นใจเพื่อดึงดูด
แขกให้มาพัก...ยกเว้นส่วนของพนักงานออฟฟิสที่ไม่มีหน้าที่รับแขกกะลูกค้า
เปิดแอร์ให้พอให้หายใจแค่นั้นเอง อย่าหาว่าหญิงสาวขี้ร้อนหรือขี้เว่อร์เลยนะ
แต่ดูพี่ๆทุกคนที่ทำงานในห้องนี้ก็รู้แล้วหล่ะว่าไม่ได้พูดเกินจริงเลยซักนิด
\"เฮ้อ...จะจำอย่างไงหมดวะเนี๊ยะ\" พลางหาวหวอดๆ
\"พูดไรหน่ะ\"
\"อุ๊ย ตาแถนตกแถวบางพลี\"
วนิดาสดุ้งเฮือก หันกลับไปมองเจ้าของเสียงดุๆที่ดังมาจากข้างหลังพร้อมกับ
รีบทำทำหน้าจ๋อยๆ
\"เปล่าค่ะ...แค่บอกว่าร้อนเฉยๆหน่ะค่ะพี่แก้ว\"
\"อืม...แล้วไป...แล้วนี่จำได้หมดรึยัง...เกือบบ่ายสี่แล้วนะ\"
เจ้แกพูดจบปุ๊บก็นั่งที่ประจำของแกข้างๆวนิดา
(จริงๆแล้วก็ที่เจ้แกหน่ะแหละ เพียงแค่เอาเก้าอีมาเสริมให้อีกตัว
นั่งข้างๆกันเพราะเจ้แกจะได้ติวงานได้ถนัดๆ)
โห...ใครจะจำได้หมดวันทั้งวันให้อ่านแต่หนังสือทำแต่ทฤษฏีไม่มีปฏิบัติ
จำได้แค่วันเดียวก็เก่งแล้วหล่ะ เว่อร์ แต่ใครจะกล้าพูดได้อย่างที่คิดหล่ะ...
\"ก็จำได้พอสมควรแล้วค่ะ\"
\"อืม...ใช้ได้ ไหนลองบอกมาซิมีอะไรบ้าง กฏของโรงแรม\"
เอาละซิ เวร.....เสี่ยงดวงละกัน
วนิดาอธิบายเท่าทีหญิงสาวจำได้...แต่ดูเจ้แกจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
เพราะตาเจ้แกดูคอมฯไปมืออวบๆของแกก็จิมลงแป้นคอมฯพรวดๆ
จะเอาสมองไหนมาฟัง(จับผิด)วนิดาละเนี๊ยะ
\"อืม พอแล้ว เดียวพรุ่งนี้ทำงานไ้ด้ตามปกติ...อ้อ..วันนี้เลิกงานแล้ว
ก็กลับบ้านได้เลยนะ\"
\"ค่ะ\"...โห ดีจังแฮะ อยากกลับบ้านเร็วๆเหมือนกัน
ไม่ได้ทำอะไร เอาแต่นั่งอ่านหนังสือทั้งวันนั่งจนรากจะงอกที่ก้นได้อยู่แล้ว
ขนะที่วนิดากำลังเดินออกจากหน้าประตูโรงแรมที่่ทำงานอยู่นั้น
อย่างกับมีสัมผัสทีุ่6(ของสาวโสดที่จะมีเรด้าคอยจับคลื่นของ
หนุ่มหล่อที่อยู่้ในสเปกของตนเอง)เธอรู้สึกว่ามีอะไรผ่านเข้ามา
ในสายตาของเธอทำให้เธอต้องหันไปมองคนข้างๆ
\"โอ มายกอด\" ชายหนุ่มท่าทางสมาร์ทสูงราวๆ180
หน้าตาดูดุๆแต่ว่าเท่ห์เหลือหลายในความรู้สึกของวนิดา
สวมชุดสูทน้ำเงินออกดำ ยิ่งมองคนอะไรวะ หน้าตาเท่หมาก
หนุ่มในสเปกของสาวๆส่วนใหญ่เลยหล่ะนะ
ทำยังไงดีน้า~~~อยากได้เค้าคนนั้นมาเป็นแฟนจังแฮะ
ถ้าเค้ามาจีบเราก้อดีสิ
เพราะมัวแต่คิดอยู่นั่นแหละ พอเงยหน้ามองไปทางชายคนนั้น
อีกทีก็ได้อันตธานหายไปซะแล้ว ว้า~~นานๆจะเจอหนุ่มในฝันซะทีขอมองนานๆ
ให้สบายตาหน่อยก้อไม่ได้ไม่รู้จะรีบไปไหนนักเชียว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น