ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Pokemon Special: The War of Destiny

    ลำดับตอนที่ #5 : 2. เสียงของพระเจ้า

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 53


    กลุ่มเมฆดำลอยเหนือสิ่งก่อสร้างหลายจุดบนภูเขาก่อนที่เม็ดฝนจะตกลงมาอย่างหนัก

    ร่างของเด็กสองคนเก็บปีกที่กางอยู่ร่อนลงพื้นที่ใกล้ที่สุดด้วยความเร่งรีบ ก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในโบสถ์ขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว

    "ให้ตายสิ ทำไมฝนดันมาตกตอนนี้เนี่ย" รูบี้บ่นเพราะตัวของเขาเลอะโคลนแล้วนี่เปียกไปทั้งตัวเพราะฝนที่ตกลงมาอย่างกระทันหันทำให้ไม่สามารถบินกลับวังได้

    กรีนเดินไปตรงที่นั่งสำหรับบรรดาสัตบุรุษมาทำพิธีกรรม น้ำที่หยดตามทางเนื่องจากร่างสองร่างที่เปียกปอนเดินไปมา

    กรีนและรูบี้หย่อนตัวลงที่นั่งก่อนที่จะเคลิ้บเคลิ้มไปกับเสียงใสที่ก้องกังวานไปทั่วโบสถ์ด้วยความศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า

    เด็กหญิงในชุดที่เรียบร้อยของนักบวชกุมมือไว้ที่หน้าอก ตาสีอำพันถูกซ่อนเอาไว้ใต้เปลือกตา เสียงใสที่ออกมาจากปากที่เอิบอิ่มร้องตามทำนองของเปียโนที่บรรเลง

    นัยน์ตาสีฟ้าประกายดุจอัญมณี ผมสีน้ำเงินสะท้อนกับแสงจากเทียน มือของเธอขยับและดีดคีย์เปียโนไปตามเนื้อเพลงแห่งสวงสวรรค์ที่ชวนศรัทธา

    หยาดฝนยังคงกระทบกับพื้นดินเกิดเสียงดังแต่ก็ไม่สามารถกลบเสียงแห่งความศรัทธานี้ได้เลย บทเพลงยังคงดำเนินต่อไป..

    แม้เสียงนี้ยังคงบรรเลงดังก้องอยู่ในหูของกรีน แต่ภาพที่เกิดขึ้นในตอนนี้ที่เขาหลับตายังคงเป็นหมาป่าน้อยเจ้าของตาสีน้ำทะเล ผิดกับรูบี้ที่ดูเหมือนจะลืมทุกสิ่งไปหมดสิ้น

    เสียงดนตรีหยุดลงพร้อมกับเสียงใส

    "ท่านพี่กรีน? มาตั้งแต่เมื่อไรละค่ะเนี่ย ทำไมตัวมอมแมมอย่างนั้นล่ะค่ะ" นักบวชน้อยหันไปทางผู้มาเยือนที่มีสภาพเป็นนกตกโคลน

    "เห็นว่าท่านไม่ได้ไปเข้าเรียนด้วยนิ เกิดอะไรหรือเปล่าค่ะ" เส้นผมดังสายไหมสีนํ้าเงินปลิ้วตามแรงหันของสาวน้อย ใบหน้าแสดงความสงสัยอย่างชัดเจน เพราะหลานของท่านขุนนางออร์คิดที่ขยันขันแข็งรับผิดชอบต่อหน้าที่ขนาดนี้ หากจะทำให้เขาโดดเรียนละก็มันต้องมีเหตุผลที่จำเป็นจริงๆแน่

    แววตามรกตฉายความงวงเงียงก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อไล่ความง่วงออกไปพร้อมกับร่างด้านข้างที่ทำท่าจะหลับเพราะเสียงเพลงที่พึ่งจบไป

    "ไปที่ป่าอีกด้านของเมืองน่ะ" กรีนหลับตาลงพร้อมกับเอนหัวไปด้านหลัง

    "อีกด้าน? นั่นมันที่ของพวกเผ่าหมาป่านิค่ะ" ตาสีอำพันเบิกกว้างกับคำตอบที่ได้ เพราะชาววิหคที่ไปที่นั่นไม่มีใครรอดกลับมาได้สักคน

    "ฉันอยากจะหาที่พักผ่อนจากการเรียนน่ะ แต่ใครก็ไม่รู้พาไปที่มั่วซั่ว" กรีนเหลือบตาไปที่คนข้างๆที่ใกล้หลับเต็มทีแต่ต้องสะดุ้งเฮือกเพราะรังสีอาฆาตจากใครบางคน

    "เอ่อ..กะ..ก็ผมได้ยินจากพวกรุ่นเดียวกันว่ามีที่น่าสนใจตรงป่าตรงข้ามแหะๆ" รูบี้เกาหัวสารภาพผิด

    "เฮ้อ!" ทุกคนหร้อมกันส่ายหัว

    "แต่..แต่ท่านกรีนก็พอใจไม่ใช่หรือครับ เห็นมองสาวไม่วางตาเลย" รูบี้ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่กรีน

    "บ..บ้าหรอ! นั่นมันเผ่าหมาป่านะ มันเป็นศัตรูของพวกเรา!" กรีนลุกขึ้นตะโกนใส่รูบี้ด้วยนํ้าเสียงโมโหที่ตรงกันข้ามกับหน้าที่แดงฉ่าอย่างสิ้นเชิง

    "แล้วทำไมศัตรูที่พี่บอกถึงปล่อยพี่มาล่ะ" ร่างเด็กน้อยนักบวชขบขันกับท่าทางของพี่ชายตัวเอง

    "เยลโล่ว! ในอดีตพวกหมาป่านั่นเอาชีวิตของชาววิหคไปเท่าไรแล้ว ที่พี่รอดมาได้ไม่ใช่เรื่องเล่นเลยนะ" กรีนต่อว่าน้องสาวอย่างแข็งขัน

    "ทำไมล่ะค่ะ นั่นมันก็ในอดีต ทำไมต้องเอาความแค้นในอคีตของบรรพบุรุษเก็บมาถึงปัจจุบันด้วยล่ะ เผ่าหมาป่าก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ที่แล้วมาเราก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อนทั้งนั้นเลยไม่ใช่หรอค่ะ" เยลโล่วเถียงด้วยความหงุดหงิด

    "เยลโล่ว! นี่เดี๋ยวนี้กล้าขึ้นเสียงกับพี่หรอ" กรีนเริ่มไม่สบอารมณ์กับน้องที่ไม่ยอมเชื่อฟัง

    'เอาอีกแล้วพี่น้องคู่นี้- -\' รูบี้คิดพลางกุมขมับ

    "เอาเถอะค่ะยังไงตอนนี้ก็รีบกลับวังก่อนที่ฝนตกอีกครั้งดีกว่านะค่ะ" ดวงตาสีฟ้าวิ่งเข้ามาห้ามปราม

    "ผมก็เห็นด้วยกับพี่คริสตัล มัวแต่เถียงกับแบบนี้ทำไม...." รูบี้พูดขาดไปช่วงหนึ่ง

    "ทำไมอะไรหรอ" คริสตัลถามอย่างสงสัย

    "ทำไมไม่ตบกันเลยล่ะยะ!" รูบี้พูดล้อเลียนแล้วทำไม้ทำมือไปด้วยเรียกเสียงฮาจากผู้ที่อยู่แถวนั้น

    เสียงหัวเราะแห่งความสุขยังดังต่อเนื่องมาจากโบสถ์ใหญ่ แต่มันจะเป็นความสุขที่ยั่งยืนหรือเปล่านะ?
    ---------------------------------------------------------------------
    ช่วงนี้เกิดอาการความขี้เกียจกลืนกิน- -"

    28-29 จะไปชะอำนะ อาจจะไม่ได้อัพ-3-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×