ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Sweet Dreams
ถ้าใครเข้ามาในบ้านวิล แกรห์มตอนนี้ก็คงเห็นภาพน่าตลกของเจ้าสุนัขตัวนึงที่ปีนขึ้นมาบนอ่างล้างหน้าและกำลังยื่นหน้าเข้าใกล้กระจกเหมือนกำลังส่องหน้าตัวเอง และถ้าสุนัขพูดได้-- ถ้าวิล แกรห์มในตอนนี้พูดได้ เขาก็คงตอบไปว่า ใช่ ผมกำลังส่องดูหน้าตัวเองอยู่
อุ้งเท้าที่ปกคลุมด้วยขนปุยสีดำขยับแตะใบหน้าของตนแต่ก็ทำได้แค่สัมผัสปลายคางเพราะขาของเจ้าตัวสั้นเกินไป วิลกระโดดลงมาที่พื้น และยืนนิ่งอยู่พักใหญ่ เขายังทำใจเชื่อไม่ได้ว่านี่คือเรื่องจริง ทั้งๆที่เมื่อวานเขาก็ใช้ชีวิตปกติ ไปทำงาน กินข้าว กลับเข้านอนในเวลาเดิม แต่พอตื่นขึ้นมาตอนเช้าวันนี้กลับพบว่าร่างสูงเกือบ180ซม. กลายเป็นสุนัขตัวเล็กขนสีดำ และยังดวงตาสีเหมือนกันกับเขาอีกต่างหาก... ในขณะที่วิลกำลังสับสนว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อไป เสียงสุนัขหลายตัวจากทางหน้าบ้านทำให้เขานึกอะไรขึ้นมาได้ วิลวิ่งไปหากลุ่มหมาของเขาที่ตอนนี้น่าจะนอนอยู่หน้าเตาผิงอย่างทุลักทุเลเพราะยังไม่ชินกับการเดินสี่ขา เขาไม่คิดว่าคนที่กลายเป็นหมาจะพูดกับคนได้ แค่ถ้าเป็นหมาด้วยกันเอง บางทีอาจจะพอเข้าใจ…
แต่เหมือนว่าวิลจะคิดผิดไป
ร่างสุนัขตัวเล็กตอนนี้กำลังจมอยู่ในฝูงหมาหลง วินสตั้นเลียขนของเขาจนชุ่ม หมาตัวอื่นก็เอาตัวมาถูเขา บ้างก็นอนทับจนขยับตัวไม่ได้ และเขา ก็ไม่เข้าใจที่พวกมันคุยกันเลยสักนิด แต่ดูท่ากลิ่นตัวของเขาจะไม่ต่างจากตอนเป็นคน เพราะเจ้าพวกนี้ดูจะเป็นมิตรกับเขามาก มากเกินไปด้วยซ้ำ
ในขณะที่วิลกำลังคิดหาทางรอดพ้นจากกลุ่มก้อนสุนัข เสียงเครื่องยนต์ของรถก็ดังเข้ามาใกล้บ้านของเขา และหลังจากนั้นไม่นาน ก็ตามมาด้วยเสียงเคาะประตู วิลส่ายหางดีใจโดยไม่รู้ตัว และถึงเขารู้ก็ควบคุมไม่ได้ เขาพยายามจะตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนหลังประตูนั่นแต่เสียงที่ออกมาก็มีแค่เสียงเห่าแหลมเล็กเท่านั้น.. ถ้าต้องกลายเป็นหมาทำไมเขาไม่เป็นไซบีเรียนหรือโกลเด้นกันนะ
ดูเหมือนว่าโชคยังเข้าข้างวิลอยู่บ้าง เมื่ออลาน่าตัดสินใจใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปในบ้านเมื่อเจ้าของบ้านไม่ยอมมาเปิดสักที ทั้งๆที่ปกติแค่ได้ยินเสียงหมาเห่าขนาดนี้ต้องรีบออกมาดูแล้ว เมื่อเธอเปิดเข้าไปกลุ่มสุนัขของวิลก็เข้ามาพันขา ยกเว้นอยู่ตัวหนึ่งที่ตอนนี้นอนคว่ำอยู่บนพื้น เธอไม่เคยเห็นสุนัขตัวนี้มาก่อน บางทีวิลคงพึ่งเก็บมาเลี้ยง มันเงยหน้ามองเธอ สีตาของมันดูคล้ายกับเจ้าของ
“ว่าไงเจ้าหนู วิลไปไหนแล้วล่ะ”
“โฮ่ง!” เธอหัวเราะเบาๆเมื่อเจ้าขนปุยร้องขึ้นมาเหมือนจะตอบเธอ
“ฉันฟังเธอไม่รู้เรื่องหรอกนะ”
อลาน่าเดินไปทางที่คิดว่าเป็นห้องนอนของวิล เธอเห็นประตูเปิดค้างเอาไว้ ข้าวของในห้องหล่นกระจาย แต่ไร้วี่แววของเจ้าของห้อง
“อ้าว วิลออกไปทำงานแล้วหรอ” เธอรู้สึกแปลกใจ เพราะจานอาหารของเจ้าหมาที่วางอยู่หน้าประตูยังว่างเปล่า ถึงจะรีบอย่างไรวิลก็ไม่ลืมให้อาหารเจ้าพวกนี้แน่ เธอตัดสินใจโทรไปหาแจ็ค ครอว์ฟอร์ดเพื่อแจ้งเรื่องนี้ อีกฝ่ายตอบกลับมาว่าวิลยังมาไม่ถึง FBI
‘หวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรนะ’
หลังจากให้อาหารพวกสุนัขเสร็จเธอก็กลับไปขึ้นรถ
แต่เจ้าขนปุยสีดำ สุนัขตัวใหม่ของวิลกลับวิ่งตัดหน้าเธอ กระโดดขึ้นรถในทันทีที่เธอเปิดประตู
“เฮ้! ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”
.
“ดร.ต้องไม่ชอบใจแน่ถ้าเธอเข้าไปข้างในน่ะ” เธอพูด
วิลรู้ว่าดร.ไม่มีทางชอบแน่กับคนที่ระเบียบจัดแบบนั้น ถ้าเห็นเส้นขนร่วงตามพื้น หรือของในบ้านหล่นเพราะสุนัขตัวนึง หรือไม่ว่าสัตว์อะไรก็ตาม ก็ต้องไม่ชอบอยู่แล้ว แต่เขาไม่ทิ้งโอกาสหาทางกลับคืนร่างตัวเองหรอก
อลาน่ามองสุนัขตรงหน้าที่ใช้ดวงตากลมโตนั่นมองเธอไม่วางตา สุดท้ายเธอก็ยอมเปิดประตูให้เจ้าขนปุยเข้าไปในบ้าน เธอแพ้สายตาที่ทำให้นึกถึงวิลจริงๆ
วิลมองอลาน่าเดินไปตามทางเดิน พรมเช็ดเท้าที่วางอยู่หน้าบ้าน สลับกับอุ้งเท้าที่เปียกน้ำฝน วิลคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ ร่างสีดำกระโดดข้ามพรม วิ่งนำอลาน่าไปรอที่หน้าประตูห้องทำงานเจ้าของบ้าน มองกลับไปเห็นผลงานตัวเองประดับไว้ตามทางเดิน รอยอุ้งเท้าเล็กๆหลายรอยนั่นน่ะ และเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ อลาน่าดูตกใจมากเมื่อเห็นการทำผลงานของเขา
“เดี๋ยว หยุดนะ!” อลาน่ารีบเดินเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าเจ้าสุนัขทำท่าจะเดินต่อ และดูท่าว่าเสียงความวุ่นวายหน้าห้องจะเรียกเจ้าของบ้านออกมา ประตูห้องทำงานเปิดออก ร่างของคนอายุสี่สิบกว่าในชุดสูทสีน้ำตาล ผมถูกเซ็ตเป็นทรงเหมือนทุกวัน ดร.ฮันนิบาล เล็คเตอร์ มองหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะไล่สายตาลงมาที่เขา
“สวัสดีค่ะด็อกเตอร์”
“สวัสดีครับ เข้ามาก่อนสิ” ดร.เล็คเตอร์ยิ้มรับเหมือนทุกๆครั้งก่อนจะหลบทางให้หญิงสาวเข้ามา อลาน่าทำท่าลังเล เธอหันมองไปยังรอยเท้าตามทางเดิน
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่น่าพาเจ้าหนูนี่เข้ามาเลย”
ให้ตายเถอะ ยังไงเขาก็ไม่ชินเวลาอลาน่าเรียกเขาแบบนั้นเลย
“ไม่เป็นไร ผมกำลังจะทำความสะอาดพอดี” ดร.เล็คเตอร์หันมามองเขา แค่หันมอง ดูจากการเว้นระยะห่าง และสายตาสอดส่องไปทั่วร่างเขาแบบนี้ คงกำลังประเมินความสกปรกบนตัวเขา
“เขาเป็นใครหรือครับ”
“สุนัขตัวใหม่ของวิลน่ะค่ะ ฉันไปหาเขาก่อนมาที่นี่ แต่ไม่เจอ แถมยังได้เจ้าตัวนี้ติดรถกลับมาอีก”
“งั้นหรือครับ เข้ามาก่อนเถอะอลาน่า เดี๋ยวผมตามไปครับ”
“คือ.. ถ้าจะเอาเขาไปปล่อยข้างนอกเดี๋ยวฉันพากลับไปบ้านวิลเองค่ะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” ดร.เล็คเตอร์ดันหลังให้อลาน่าเดินเข้าห้องทำงานของตน “ผมแค่จะพาเขาไปล้างตัวเท่านั้นเอง”
วิลมองตามดร.เล็คเตอร์ปิดประตูห้องหลังจากอลาน่าเดินเข้าไป ร่างสูงถอดสูทตัวนอกแขวนไว้ที่ราวหน้าห้องเหลือแค่เสื้อเชิ้ต และหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่สีขาวจากตู้ขนาดเล็กเหนือชั้นวางรองเท้า
มือที่มีเส้นเลือดขึ้นชัดเจนค่อยๆกางผ้าขนหนูออก ดร.เล็คเตอร์ย่อตัวลง วิลมองตามผ้าที่ค่อยๆเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ
และหลังจากนั้นร่างขนปุยสีดำก็ถูกห่อด้วยผ้าขนหนูสีขาวจนกลายเป็นก้อนสีขาวแทน
วิลมองไม่เห็นอะไรข้างนอก ผ้าผืนหนาปิดบังวิสัยทัศน์ของเขา และเกือบจะหายใจไม่ออกด้วยซ้ำถ้าเจ้าของอ้อมแขนที่อุ้มเขาอยู่รัดผ้าแน่นกว่านี้อีกนิด เขารู้สึกเหมือนร่างกำลังขยับขึ้นลงตามจังหวะการก้าวเดิน เสียงเปิดประตูห้อง วิลคิดว่าเป็นห้องน้ำ เพราะความชื้นและกลิ่นหอมของดอกคาโมมายล์ ร่างของเขาถูกปล่อยให้อยู่บนพื้นอย่างเบามือ แต่เจ้าของบ้านก็ยังไม่เอาผ้าที่พันตัวเขาออก เสียงลูกบิดดังขึ้นอีกครั้ง และตามด้วยเสียงประตูปิดลง วิลขยับตัวดิ้นเพื่อให้ผ้าหลุด แต่เหมือนมันจะยิ่งทำให้พันมากกว่าเดิม เขานอนฟังเสียงน้ำหยดอยู่สักพัก ก็ได้ยินเสียงรองเท้าเดินเข้ามาใกล้
“ถ้าอย่างนั้นฉันฝากสุนัขตัวนั้นด้วยนะคะ”
“ผมจะส่งให้ถึงในบ้านเลยครับ”
ดร.ฮันนิบาล เล็คเตอร์ปิดประตูห้องทำงานเมื่ออลาน่าเดินออกไป เธอติดธุระต้องไปสอนแทนวิลที่ตอนนี้ยังมาไม่ถึงที่ทำงาน และไม่มีใครรู้ว่าเจ้าตัวอยู่ที่ไหน ฮันนิบาลกดส่งข้อความไปหาวิลเมื่อโทรไปแล้วเจ้าตัวไม่รับ เมื่อวานวิลมาปรึกษาเขาเหมือนทุกวันก่อนจะเดินทางกลับบ้าน แต่พอมาเช้าวันนี้กลับหายตัวไป บางทีเขาอาจจะลองไปดูที่บ้านวิล แต่ก่อนอื่นต้องไปจัดการบางอย่างก่อน
ฮันนิบาลเข้าไปยังห้องแต่งตัว หยิบชุดพลาสติกใสออกมา เป็นชุดคลุมทั้งตัว เขาใส่มันด้วยความคล่องแคล่ว ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ข้างกัน ที่พื้นใกล้อ่างน้ำ เจ้าสุนัขยังคงนอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าขนหนูเหมือนเดิม เขาจับมันออกมา ดูเหมือนสุนัขตัวนี้จะฉลาดอยู่บ้างที่ไม่เห่าเสียงดัง หรือดิ้นหนีเขา แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ มือหยิบปลอกคอสุนัขที่เคยได้เป็นของขวัญคริสต์มาสมาใส่ที่คอของสุนัขตรงหน้า เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้จนวันนี้
“อลาน่าติดธุระ เธอคงต้องอยู่กับฉันไปก่อน”
ผูกสายจูงไว้กับก๊อกน้ำที่อ่าง มืออีกข้างจับล็อกให้สุนัขอยู่กับที่ ดวงตากลมโตจ้องมองเขา สีของดวงตาทำให้ฮันนิบาลนึกถึงเจ้าของมัน มันมองเขาเหมือนสงสัยว่าเขากำลังทำอะไร
“เดี๋ยวก็จบแล้ว” ฮันนิบาลพูดกับสุนัขตรงหน้า
.
อุ้งเท้าที่ปกคลุมด้วยขนปุยสีดำขยับแตะใบหน้าของตนแต่ก็ทำได้แค่สัมผัสปลายคางเพราะขาของเจ้าตัวสั้นเกินไป วิลกระโดดลงมาที่พื้น และยืนนิ่งอยู่พักใหญ่ เขายังทำใจเชื่อไม่ได้ว่านี่คือเรื่องจริง ทั้งๆที่เมื่อวานเขาก็ใช้ชีวิตปกติ ไปทำงาน กินข้าว กลับเข้านอนในเวลาเดิม แต่พอตื่นขึ้นมาตอนเช้าวันนี้กลับพบว่าร่างสูงเกือบ180ซม. กลายเป็นสุนัขตัวเล็กขนสีดำ และยังดวงตาสีเหมือนกันกับเขาอีกต่างหาก... ในขณะที่วิลกำลังสับสนว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อไป เสียงสุนัขหลายตัวจากทางหน้าบ้านทำให้เขานึกอะไรขึ้นมาได้ วิลวิ่งไปหากลุ่มหมาของเขาที่ตอนนี้น่าจะนอนอยู่หน้าเตาผิงอย่างทุลักทุเลเพราะยังไม่ชินกับการเดินสี่ขา เขาไม่คิดว่าคนที่กลายเป็นหมาจะพูดกับคนได้ แค่ถ้าเป็นหมาด้วยกันเอง บางทีอาจจะพอเข้าใจ…
แต่เหมือนว่าวิลจะคิดผิดไป
ร่างสุนัขตัวเล็กตอนนี้กำลังจมอยู่ในฝูงหมาหลง วินสตั้นเลียขนของเขาจนชุ่ม หมาตัวอื่นก็เอาตัวมาถูเขา บ้างก็นอนทับจนขยับตัวไม่ได้ และเขา ก็ไม่เข้าใจที่พวกมันคุยกันเลยสักนิด แต่ดูท่ากลิ่นตัวของเขาจะไม่ต่างจากตอนเป็นคน เพราะเจ้าพวกนี้ดูจะเป็นมิตรกับเขามาก มากเกินไปด้วยซ้ำ
ในขณะที่วิลกำลังคิดหาทางรอดพ้นจากกลุ่มก้อนสุนัข เสียงเครื่องยนต์ของรถก็ดังเข้ามาใกล้บ้านของเขา และหลังจากนั้นไม่นาน ก็ตามมาด้วยเสียงเคาะประตู วิลส่ายหางดีใจโดยไม่รู้ตัว และถึงเขารู้ก็ควบคุมไม่ได้ เขาพยายามจะตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนหลังประตูนั่นแต่เสียงที่ออกมาก็มีแค่เสียงเห่าแหลมเล็กเท่านั้น.. ถ้าต้องกลายเป็นหมาทำไมเขาไม่เป็นไซบีเรียนหรือโกลเด้นกันนะ
ดูเหมือนว่าโชคยังเข้าข้างวิลอยู่บ้าง เมื่ออลาน่าตัดสินใจใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปในบ้านเมื่อเจ้าของบ้านไม่ยอมมาเปิดสักที ทั้งๆที่ปกติแค่ได้ยินเสียงหมาเห่าขนาดนี้ต้องรีบออกมาดูแล้ว เมื่อเธอเปิดเข้าไปกลุ่มสุนัขของวิลก็เข้ามาพันขา ยกเว้นอยู่ตัวหนึ่งที่ตอนนี้นอนคว่ำอยู่บนพื้น เธอไม่เคยเห็นสุนัขตัวนี้มาก่อน บางทีวิลคงพึ่งเก็บมาเลี้ยง มันเงยหน้ามองเธอ สีตาของมันดูคล้ายกับเจ้าของ
“ว่าไงเจ้าหนู วิลไปไหนแล้วล่ะ”
“โฮ่ง!” เธอหัวเราะเบาๆเมื่อเจ้าขนปุยร้องขึ้นมาเหมือนจะตอบเธอ
“ฉันฟังเธอไม่รู้เรื่องหรอกนะ”
อลาน่าเดินไปทางที่คิดว่าเป็นห้องนอนของวิล เธอเห็นประตูเปิดค้างเอาไว้ ข้าวของในห้องหล่นกระจาย แต่ไร้วี่แววของเจ้าของห้อง
“อ้าว วิลออกไปทำงานแล้วหรอ” เธอรู้สึกแปลกใจ เพราะจานอาหารของเจ้าหมาที่วางอยู่หน้าประตูยังว่างเปล่า ถึงจะรีบอย่างไรวิลก็ไม่ลืมให้อาหารเจ้าพวกนี้แน่ เธอตัดสินใจโทรไปหาแจ็ค ครอว์ฟอร์ดเพื่อแจ้งเรื่องนี้ อีกฝ่ายตอบกลับมาว่าวิลยังมาไม่ถึง FBI
‘หวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรนะ’
หลังจากให้อาหารพวกสุนัขเสร็จเธอก็กลับไปขึ้นรถ
แต่เจ้าขนปุยสีดำ สุนัขตัวใหม่ของวิลกลับวิ่งตัดหน้าเธอ กระโดดขึ้นรถในทันทีที่เธอเปิดประตู
“เฮ้! ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”
.
.
.
ในตอนนี้วิลรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก ถึงเขาจะไม่เคยเล่นก็เถอะ เท้าทั้งสี่พยายามเกาะเบาะรถไม่ให้ร่างลื่นตกลงข้างล่าง แต่ดูเหมือนว่าอุ้งเท้านุ่มนิ่มจะไม่ช่วยเท่าไหร่เมื่อร่างเขาไถลลงไปอยู่บนที่วางเท้าทุกครั้งที่รถเบรค เขาไม่กล้าใช้เล็บเท้า ถึงจะมั่นใจว่าอลาน่าคงไม่ปล่อยเขาลงข้างทางเพราะเป็นหมาของวิล แต่เธอคงยอมเสียเวลาวนรถพาเขากลับไปบ้านถ้าพบว่าเจ้าหมาตัวนี้ทำเบาะเธอเป็นรอย หลังจากสู้รบ-- หมายถึงหนีการจับกุมของอลาน่าอยู่นาน เธอก็ยอมปล่อยให้เขานั่งรถไปกับเธอด้วย ดูจากวิวข้างทางที่เขาพยายามยืดคอมอง เหมือนว่าเธอกำลังไปที่บ้านของดร.เล็คเตอร์ และของหลายกล่องที่เบาะหลังก็น่าจะเป็นของฝากหลังไปพักร้อนที่อังกฤษ เดินทางไปได้สักพัก(แต่นานในความคิดของวิล) รถก็จอดลงที่หน้าประตูบ้านของดร.เล็คเตอร์ วิลรีบกระโดดลงจากรถทันทีที่อลาน่าเปิดประตูรถด้านหลัง และวิ่งไปยืนรอหน้าประตู อลาน่าที่พึ่งหยิบของเสร็จหันมาเจอเขายืนรอหน้าประตูแล้วก็ถอนหายใจ
“ดร.ต้องไม่ชอบใจแน่ถ้าเธอเข้าไปข้างในน่ะ” เธอพูด
วิลรู้ว่าดร.ไม่มีทางชอบแน่กับคนที่ระเบียบจัดแบบนั้น ถ้าเห็นเส้นขนร่วงตามพื้น หรือของในบ้านหล่นเพราะสุนัขตัวนึง หรือไม่ว่าสัตว์อะไรก็ตาม ก็ต้องไม่ชอบอยู่แล้ว แต่เขาไม่ทิ้งโอกาสหาทางกลับคืนร่างตัวเองหรอก
อลาน่ามองสุนัขตรงหน้าที่ใช้ดวงตากลมโตนั่นมองเธอไม่วางตา สุดท้ายเธอก็ยอมเปิดประตูให้เจ้าขนปุยเข้าไปในบ้าน เธอแพ้สายตาที่ทำให้นึกถึงวิลจริงๆ
วิลมองอลาน่าเดินไปตามทางเดิน พรมเช็ดเท้าที่วางอยู่หน้าบ้าน สลับกับอุ้งเท้าที่เปียกน้ำฝน วิลคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ ร่างสีดำกระโดดข้ามพรม วิ่งนำอลาน่าไปรอที่หน้าประตูห้องทำงานเจ้าของบ้าน มองกลับไปเห็นผลงานตัวเองประดับไว้ตามทางเดิน รอยอุ้งเท้าเล็กๆหลายรอยนั่นน่ะ และเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ อลาน่าดูตกใจมากเมื่อเห็นการทำผลงานของเขา
“เดี๋ยว หยุดนะ!” อลาน่ารีบเดินเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าเจ้าสุนัขทำท่าจะเดินต่อ และดูท่าว่าเสียงความวุ่นวายหน้าห้องจะเรียกเจ้าของบ้านออกมา ประตูห้องทำงานเปิดออก ร่างของคนอายุสี่สิบกว่าในชุดสูทสีน้ำตาล ผมถูกเซ็ตเป็นทรงเหมือนทุกวัน ดร.ฮันนิบาล เล็คเตอร์ มองหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะไล่สายตาลงมาที่เขา
“สวัสดีค่ะด็อกเตอร์”
“สวัสดีครับ เข้ามาก่อนสิ” ดร.เล็คเตอร์ยิ้มรับเหมือนทุกๆครั้งก่อนจะหลบทางให้หญิงสาวเข้ามา อลาน่าทำท่าลังเล เธอหันมองไปยังรอยเท้าตามทางเดิน
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่น่าพาเจ้าหนูนี่เข้ามาเลย”
ให้ตายเถอะ ยังไงเขาก็ไม่ชินเวลาอลาน่าเรียกเขาแบบนั้นเลย
“ไม่เป็นไร ผมกำลังจะทำความสะอาดพอดี” ดร.เล็คเตอร์หันมามองเขา แค่หันมอง ดูจากการเว้นระยะห่าง และสายตาสอดส่องไปทั่วร่างเขาแบบนี้ คงกำลังประเมินความสกปรกบนตัวเขา
“เขาเป็นใครหรือครับ”
“สุนัขตัวใหม่ของวิลน่ะค่ะ ฉันไปหาเขาก่อนมาที่นี่ แต่ไม่เจอ แถมยังได้เจ้าตัวนี้ติดรถกลับมาอีก”
“งั้นหรือครับ เข้ามาก่อนเถอะอลาน่า เดี๋ยวผมตามไปครับ”
“คือ.. ถ้าจะเอาเขาไปปล่อยข้างนอกเดี๋ยวฉันพากลับไปบ้านวิลเองค่ะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” ดร.เล็คเตอร์ดันหลังให้อลาน่าเดินเข้าห้องทำงานของตน “ผมแค่จะพาเขาไปล้างตัวเท่านั้นเอง”
วิลมองตามดร.เล็คเตอร์ปิดประตูห้องหลังจากอลาน่าเดินเข้าไป ร่างสูงถอดสูทตัวนอกแขวนไว้ที่ราวหน้าห้องเหลือแค่เสื้อเชิ้ต และหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่สีขาวจากตู้ขนาดเล็กเหนือชั้นวางรองเท้า
มือที่มีเส้นเลือดขึ้นชัดเจนค่อยๆกางผ้าขนหนูออก ดร.เล็คเตอร์ย่อตัวลง วิลมองตามผ้าที่ค่อยๆเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ
และหลังจากนั้นร่างขนปุยสีดำก็ถูกห่อด้วยผ้าขนหนูสีขาวจนกลายเป็นก้อนสีขาวแทน
วิลมองไม่เห็นอะไรข้างนอก ผ้าผืนหนาปิดบังวิสัยทัศน์ของเขา และเกือบจะหายใจไม่ออกด้วยซ้ำถ้าเจ้าของอ้อมแขนที่อุ้มเขาอยู่รัดผ้าแน่นกว่านี้อีกนิด เขารู้สึกเหมือนร่างกำลังขยับขึ้นลงตามจังหวะการก้าวเดิน เสียงเปิดประตูห้อง วิลคิดว่าเป็นห้องน้ำ เพราะความชื้นและกลิ่นหอมของดอกคาโมมายล์ ร่างของเขาถูกปล่อยให้อยู่บนพื้นอย่างเบามือ แต่เจ้าของบ้านก็ยังไม่เอาผ้าที่พันตัวเขาออก เสียงลูกบิดดังขึ้นอีกครั้ง และตามด้วยเสียงประตูปิดลง วิลขยับตัวดิ้นเพื่อให้ผ้าหลุด แต่เหมือนมันจะยิ่งทำให้พันมากกว่าเดิม เขานอนฟังเสียงน้ำหยดอยู่สักพัก ก็ได้ยินเสียงรองเท้าเดินเข้ามาใกล้
“ถ้าอย่างนั้นฉันฝากสุนัขตัวนั้นด้วยนะคะ”
“ผมจะส่งให้ถึงในบ้านเลยครับ”
ดร.ฮันนิบาล เล็คเตอร์ปิดประตูห้องทำงานเมื่ออลาน่าเดินออกไป เธอติดธุระต้องไปสอนแทนวิลที่ตอนนี้ยังมาไม่ถึงที่ทำงาน และไม่มีใครรู้ว่าเจ้าตัวอยู่ที่ไหน ฮันนิบาลกดส่งข้อความไปหาวิลเมื่อโทรไปแล้วเจ้าตัวไม่รับ เมื่อวานวิลมาปรึกษาเขาเหมือนทุกวันก่อนจะเดินทางกลับบ้าน แต่พอมาเช้าวันนี้กลับหายตัวไป บางทีเขาอาจจะลองไปดูที่บ้านวิล แต่ก่อนอื่นต้องไปจัดการบางอย่างก่อน
ฮันนิบาลเข้าไปยังห้องแต่งตัว หยิบชุดพลาสติกใสออกมา เป็นชุดคลุมทั้งตัว เขาใส่มันด้วยความคล่องแคล่ว ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ข้างกัน ที่พื้นใกล้อ่างน้ำ เจ้าสุนัขยังคงนอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าขนหนูเหมือนเดิม เขาจับมันออกมา ดูเหมือนสุนัขตัวนี้จะฉลาดอยู่บ้างที่ไม่เห่าเสียงดัง หรือดิ้นหนีเขา แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ มือหยิบปลอกคอสุนัขที่เคยได้เป็นของขวัญคริสต์มาสมาใส่ที่คอของสุนัขตรงหน้า เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้จนวันนี้
“อลาน่าติดธุระ เธอคงต้องอยู่กับฉันไปก่อน”
ผูกสายจูงไว้กับก๊อกน้ำที่อ่าง มืออีกข้างจับล็อกให้สุนัขอยู่กับที่ ดวงตากลมโตจ้องมองเขา สีของดวงตาทำให้ฮันนิบาลนึกถึงเจ้าของมัน มันมองเขาเหมือนสงสัยว่าเขากำลังทำอะไร
“เดี๋ยวก็จบแล้ว” ฮันนิบาลพูดกับสุนัขตรงหน้า
.
.
.
วิลขยับตัวนอนในผ้าขนหนูสีขาวเหมือนเดิมแต่เป็นผืนใหม่ ขนของเขาแห้งแล้ว แต่ก็ยังถูกพันตัวด้วยผ้านี่เหมือนเดิม เพื่อกันขนร่วงลงพื้น… นึกถึงเรื่องเมื่อชั่วโมงก่อน เขารู้ว่าดร.เล็คเตอร์ไม่เคยอาบน้ำสุนัข แต่ก็ไม่คิดว่าการอาบน้ำครั้งแรกของดร.จะออกมาเป็นสภาพแบบนี้ ครั้งแรกที่เห็นว่าเจ้าตัวใส่ชุดพลาสติกเข้ามาก็แปลกใจแล้ว แต่พอเห็นว่าเอาปลอกคอมาใส่กันเขาวิ่งหนี.. ถือว่าเป็นเรื่องดีๆอย่างหนึ่งของการกลายร่างเป็นหมาล่ะนะ เขามองเจ้าของห้องในชุดพลาสติกเหมือนเดิม กำลังปัดฝุ่นตามโซฟา เหมือนว่าชุดนั่นจะเอาไว้ใส่ตอนทำความสะอาด เขาคิดว่าดร.เล็คเตอร์จะจ้างแม่บ้านทำความสะอาดเสียอีก ร่างสูงเดินออกจากห้องไปสักพักก็กลับเข้ามาด้วยชุดสูทพอดีตัวเหมือนเดิม วิลมองตามร่างสูงที่เดินมาใกล้เขา พวกเขามองกันอยู่สักพัก
“จะว่าไปฉันควรเรียกเธอว่าอะไรดีล่ะ” ดร.เล็คเตอร์พูดกับเขา สายตาของดร.ตอนนี้ทำให้เขาเหมือนกำลังโดนวิเคราะห์ความคิด วิลหลบสายตาโดยไม่รู้ตัว
“เจ้าหนู?”
เขาส่งเสียงขู่ทันทีเมื่อโดนเรียกด้วยชื่อนั้น
“ไม่ชอบสินะ” ดร.เล็คเตอร์ขยับยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาจากสุนัขตรงหน้า มันทำให้เขานึกถึงวิล ไม่ว่าจะเป็นขนสีดำที่หยิกเล็กน้อย ดวงตาที่เมื่อแสงส่องกระทบก็เป็นสีเขียวอ่อน แต่พอไร้แสงก็กลายเป็นสีฟ้าหม่น และนิสัยที่เหมือนกันหลายส่วน อย่างเช่น การที่ไม่ชอบสบตาใครนั่นน่ะ
“วิล?”
วิลนิ่ง สายตามองไปยังรูปวาดที่แขวนบนผนัง รูปปั้นกวางที่วางบนโต๊ะ และอย่างอื่น ยกเว้นเจ้าของห้อง
นี่ดร.เล็คเตอร์คิดจะเรียกหมาด้วยชื่อของเขาจริงๆใช่ไหม? วิลไม่คิดว่าด็อกเตอร์จะรู้ว่าเขากลายร่างเป็นหมาหรอก แต่คงเรียกเพราะมันเหมือนตัวเขามากต่างหาก
“ถ้างั้นฉันจะถือว่าเธอยอมให้ฉันเรียกชื่อนี้ก็แล้วกันนะ วิล”
โอเค เขายอมรับก็ได้ว่าแอบดีใจอยู่ลึกๆที่ยังได้ยินชื่อตัวเองน่ะ
“เอาล่ะ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว ฉันจะให้เธอกินอะไรก่อนกลับก็แล้วกัน” ดร.เล็คเตอร์พูดจบก็เดินไปทางห้องครัว ทันทีที่ร่างในชุดสูทปิดประตู วิลก็รีบกระโดดลงจากเก้าอี้ไม้ทันที ต้องหาทางทำให้ดร.รู้ว่านี่คือเขา วิลวิ่งไปรอบห้อง หาอะไรบางอย่างที่เขาสามารถใช้ได้ แต่ห้องที่มีแค่หนังสือ หนังสือ และหนังสือจะใช้ทำอะไรได้กันล่ะ วิลปีนขึ้นมาบนโต๊ะทำงาน ไล่สายตาไปตามสิ่งของที่จัดอย่างเป็นระเบียบ ปากกาขนนกวางอยู่ข้าง.. ขวดหมึก.. ไม่ เขาไม่เสี่ยงทำขวดหมึกแตกเพื่อเอามาเขียนหรอก กระดาษ ดินสอปลายแหลม มีดผ่าตัด ซองจดหมาย ไม่มีอะไรที่หมาใช้ได้เลยรึไงนะ
“จะว่าไปฉันควรเรียกเธอว่าอะไรดีล่ะ” ดร.เล็คเตอร์พูดกับเขา สายตาของดร.ตอนนี้ทำให้เขาเหมือนกำลังโดนวิเคราะห์ความคิด วิลหลบสายตาโดยไม่รู้ตัว
“เจ้าหนู?”
เขาส่งเสียงขู่ทันทีเมื่อโดนเรียกด้วยชื่อนั้น
“ไม่ชอบสินะ” ดร.เล็คเตอร์ขยับยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาจากสุนัขตรงหน้า มันทำให้เขานึกถึงวิล ไม่ว่าจะเป็นขนสีดำที่หยิกเล็กน้อย ดวงตาที่เมื่อแสงส่องกระทบก็เป็นสีเขียวอ่อน แต่พอไร้แสงก็กลายเป็นสีฟ้าหม่น และนิสัยที่เหมือนกันหลายส่วน อย่างเช่น การที่ไม่ชอบสบตาใครนั่นน่ะ
“วิล?”
วิลนิ่ง สายตามองไปยังรูปวาดที่แขวนบนผนัง รูปปั้นกวางที่วางบนโต๊ะ และอย่างอื่น ยกเว้นเจ้าของห้อง
นี่ดร.เล็คเตอร์คิดจะเรียกหมาด้วยชื่อของเขาจริงๆใช่ไหม? วิลไม่คิดว่าด็อกเตอร์จะรู้ว่าเขากลายร่างเป็นหมาหรอก แต่คงเรียกเพราะมันเหมือนตัวเขามากต่างหาก
“ถ้างั้นฉันจะถือว่าเธอยอมให้ฉันเรียกชื่อนี้ก็แล้วกันนะ วิล”
โอเค เขายอมรับก็ได้ว่าแอบดีใจอยู่ลึกๆที่ยังได้ยินชื่อตัวเองน่ะ
“เอาล่ะ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว ฉันจะให้เธอกินอะไรก่อนกลับก็แล้วกัน” ดร.เล็คเตอร์พูดจบก็เดินไปทางห้องครัว ทันทีที่ร่างในชุดสูทปิดประตู วิลก็รีบกระโดดลงจากเก้าอี้ไม้ทันที ต้องหาทางทำให้ดร.รู้ว่านี่คือเขา วิลวิ่งไปรอบห้อง หาอะไรบางอย่างที่เขาสามารถใช้ได้ แต่ห้องที่มีแค่หนังสือ หนังสือ และหนังสือจะใช้ทำอะไรได้กันล่ะ วิลปีนขึ้นมาบนโต๊ะทำงาน ไล่สายตาไปตามสิ่งของที่จัดอย่างเป็นระเบียบ ปากกาขนนกวางอยู่ข้าง.. ขวดหมึก.. ไม่ เขาไม่เสี่ยงทำขวดหมึกแตกเพื่อเอามาเขียนหรอก กระดาษ ดินสอปลายแหลม มีดผ่าตัด ซองจดหมาย ไม่มีอะไรที่หมาใช้ได้เลยรึไงนะ
และในขณะที่วิลตัดสินใจลงจากโต๊ะนั่นเอง สายตาของเขาก็เจอบางอย่าง…
.
.
.
.
ฮันนิบาลถือจานอาหารที่บรรจุไส้กรอกวางข้างด้วยเนื้อที่ผ่านการนึ่งไอน้ำ ทุกอย่างถูกหั่นเป็นชิ้นไม่เล็กมากจนสุนัขกินลำบาก แต่ก็ไม่ใหญ่จนต้องคาบออกมากินข้างนอก เขาเดินตรงมายังห้องทำงาน แต่ภาพตรงหน้าก็ทำเขาแปลกใจระคนปวดหัวอย่างที่ไม่มีคนไข้คนไหนทำได้มาก่อน
เจ้าก้อนขนสีดำนั่น กำลังนั่งบนโซฟาที่เขาให้ลูกค้านั่ง มันนั่งตัวตรง มองมายังโซฟาฝั่งตรงข้ามที่เป็นที่นั่งของเขา ฮันนิบาลถอนหายใจ วางจานอาหารลงบนโต๊ะข้างโซฟา นั่นทำให้เขาเห็นบางอย่างบนนั้น
สมุดจดเล่มบางเปิดหน้าตารางนัดของเขาค้างเอาไว้ เขาจำได้ว่าเปิดมันเอาไว้ก่อนหน้าที่อลาน่าจะเข้ามา แต่ที่ๆมันควรจะอยู่คือบนโต๊ะทำงานของเขา และรอยฟันและน้ำลายที่มุมกระดาษก็ทำให้เขารู้ตัวคนร้ายในทันที
“วิล เธอเล่นซนเกินไปแล้วนะ”
เขากวาดสายตาเพื่อจดจำรายละเอียดคนไข้บนหน้ากระดาษทั้งหมด นอกจากรอยฟันที่มุมกระดาษ ชื่อวิล แกรห์มที่อยู่ล่างสุดก็โดนฉีกกระชากหายไป
“โฮ่ง!” ละสายตาจากสมุด บนโซฟานั่น เจ้าสุนัขใช้เท้าขวาหน้าเหยียบลงบนกระดาษชิ้นหนึ่ง เขาใช้ผ้าเช็ดหน้ารองมือก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู กระดาษชุ่มน้ำลายจนหมึกเลือนแต่เขาก็รู้ในทันทีที่เห็น
มันคือกระดาษที่มีชื่อ วิล แกรห์ม อยู่บนนั้น
วิลมองดร.เล็คเตอร์ที่ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวตรงข้าม เขาหวังว่าดร.จะเข้าใจว่าเขาต้องการสื่ออะไร หรืออย่างน้อยที่สุดคือไม่ไล่เขาออกจากห้อง
ตั้งแต่ที่ดร.เล็คเตอร์เห็นกระดาษที่มีชื่อของเขา จนตอนนี้ก็ยังไม่พูดอะไร และ เอาแต่มองตรงมาที่เขา วิลเลื่อนสายตาลงมามองอุ้งเท้าของตน
“นอกจากพรสวรรค์เข้าถึงความคิดฆาตกรได้ คุณยังเปลี่ยนร่างเป็นสุนัขได้ด้วยหรือวิล”
“โฮ่งๆ โฮ่ง!” (ถ้าผมเปลี่ยนได้คงไม่อยู่ในร่างนี้หรอก)
“คุณคงกำลังจะบอกว่าถ้าเปลี่ยนได้คงไม่อยู่ในร่างนี้สินะ”
“โฮ่ง?” (คุณเข้าใจ?) คนตรงหน้าไม่ตอบแต่กลับหัวเราะออกมาแทน
“ผมไม่เข้าใจหรอกนะว่าคุณพูดอะไร แต่ท่าทางของคุณกำลังบอกผม” ดร.เล็คเตอร์โน้มหน้าตัวมาหาเขา ถึงจะไม่พูดออกมาแต่เขารู้ทันทีเลยว่า ดร.กำลังสนใจกับเรื่องประหลาดตรงหน้าอยู่ “ตอนเย็นแจ็คจะมาทานข้าวที่นี่ อยากให้ผมบอกเรื่องนี้หรือเปล่าล่ะ”
“โฮ่ง! โฮ่งๆๆ โฮ่ง!” (ผมอยากให้คุณบอกว่าทำไมผมหายตัวไป บางทีพวกเขาอาจช่วยอะไรได้)
“ไม่อยากบอกความจริงงั้นหรือวิล”
“โฮ่ง!” (ผมบอกว่าอยาก!)
“ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นว่าคุณละเมอเดินไปนอนหลับพึ่งตื่นเมื่อชั่วโมงที่แล้วและกำลังเดินทางกลับบ้าน ตกลงนะ?”
“โฮ่งงงง!” (ไม่!)
ไม่นานหลังจากนั้น.. ร่างสุนัขขนปุยก็ผล็อยหลับไป
.
.
.
ฮันนิบาลเปิดประตูห้องทำงานเพื่อเรียกแขกยามค่ำคืนที่รอทานมือค่ำ แต่ก็พบว่าเจ้าตัวหลับไปเสียแล้ว
“วิล”
เรียกชื่อของคนตรงหน้าเสียงเบา เพราะเขาไม่ได้คิดจะปลุกคนที่กำลังนอนหลับอย่างสบายอยู่แล้ว
เดินไปหยิบผ้าห่มผืนบางมาคลุมให้เจ้าของร่าง จัดท่านอนบนโซฟาเบดให้ กลิ่นคาโมมายล์จากแจกันบนโต๊ะลอยแตะจมูก
ฮันนิบาลลูบผมคนตรงหน้าช้าๆ
“ราตรีสวัสดิ์ วิล”
_____________________
Special
เช้าวันต่อมา
“เมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้างวิล” ฮันนิบาลถามคนที่พึ่งเดินเข้ามาในครัวโดยไม่ละสายตาจากเนื้อบนเขียง
“ผมฝันน่ะ”
“ฝันดีหรือฝันร้ายล่ะ”
วิลนิ่งไปสักพัก “ไม่รู้ว่าฝันเห็นศพ หรือเรื่องเมื่อคืนนี้.. อันไหนเรียกว่าฝันร้ายกันแน่เลยล่ะ”
ทำไมวันนี้ใจดีกับวิลล่ะคะหมอ /แพนกล้องไปที่ ดอกและชาคาโมมายล์
H : ยิ้มรับ /ซ่อนบันทึกผลการทดลองไว้ด้านหลัง
เจ้าก้อนขนสีดำนั่น กำลังนั่งบนโซฟาที่เขาให้ลูกค้านั่ง มันนั่งตัวตรง มองมายังโซฟาฝั่งตรงข้ามที่เป็นที่นั่งของเขา ฮันนิบาลถอนหายใจ วางจานอาหารลงบนโต๊ะข้างโซฟา นั่นทำให้เขาเห็นบางอย่างบนนั้น
สมุดจดเล่มบางเปิดหน้าตารางนัดของเขาค้างเอาไว้ เขาจำได้ว่าเปิดมันเอาไว้ก่อนหน้าที่อลาน่าจะเข้ามา แต่ที่ๆมันควรจะอยู่คือบนโต๊ะทำงานของเขา และรอยฟันและน้ำลายที่มุมกระดาษก็ทำให้เขารู้ตัวคนร้ายในทันที
“วิล เธอเล่นซนเกินไปแล้วนะ”
เขากวาดสายตาเพื่อจดจำรายละเอียดคนไข้บนหน้ากระดาษทั้งหมด นอกจากรอยฟันที่มุมกระดาษ ชื่อวิล แกรห์มที่อยู่ล่างสุดก็โดนฉีกกระชากหายไป
“โฮ่ง!” ละสายตาจากสมุด บนโซฟานั่น เจ้าสุนัขใช้เท้าขวาหน้าเหยียบลงบนกระดาษชิ้นหนึ่ง เขาใช้ผ้าเช็ดหน้ารองมือก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู กระดาษชุ่มน้ำลายจนหมึกเลือนแต่เขาก็รู้ในทันทีที่เห็น
มันคือกระดาษที่มีชื่อ วิล แกรห์ม อยู่บนนั้น
วิลมองดร.เล็คเตอร์ที่ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวตรงข้าม เขาหวังว่าดร.จะเข้าใจว่าเขาต้องการสื่ออะไร หรืออย่างน้อยที่สุดคือไม่ไล่เขาออกจากห้อง
ตั้งแต่ที่ดร.เล็คเตอร์เห็นกระดาษที่มีชื่อของเขา จนตอนนี้ก็ยังไม่พูดอะไร และ เอาแต่มองตรงมาที่เขา วิลเลื่อนสายตาลงมามองอุ้งเท้าของตน
“นอกจากพรสวรรค์เข้าถึงความคิดฆาตกรได้ คุณยังเปลี่ยนร่างเป็นสุนัขได้ด้วยหรือวิล”
“โฮ่งๆ โฮ่ง!” (ถ้าผมเปลี่ยนได้คงไม่อยู่ในร่างนี้หรอก)
“คุณคงกำลังจะบอกว่าถ้าเปลี่ยนได้คงไม่อยู่ในร่างนี้สินะ”
“โฮ่ง?” (คุณเข้าใจ?) คนตรงหน้าไม่ตอบแต่กลับหัวเราะออกมาแทน
“ผมไม่เข้าใจหรอกนะว่าคุณพูดอะไร แต่ท่าทางของคุณกำลังบอกผม” ดร.เล็คเตอร์โน้มหน้าตัวมาหาเขา ถึงจะไม่พูดออกมาแต่เขารู้ทันทีเลยว่า ดร.กำลังสนใจกับเรื่องประหลาดตรงหน้าอยู่ “ตอนเย็นแจ็คจะมาทานข้าวที่นี่ อยากให้ผมบอกเรื่องนี้หรือเปล่าล่ะ”
“โฮ่ง! โฮ่งๆๆ โฮ่ง!” (ผมอยากให้คุณบอกว่าทำไมผมหายตัวไป บางทีพวกเขาอาจช่วยอะไรได้)
“ไม่อยากบอกความจริงงั้นหรือวิล”
“โฮ่ง!” (ผมบอกว่าอยาก!)
“ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นว่าคุณละเมอเดินไปนอนหลับพึ่งตื่นเมื่อชั่วโมงที่แล้วและกำลังเดินทางกลับบ้าน ตกลงนะ?”
“โฮ่งงงง!” (ไม่!)
"ผมจะโทรไปยกเลิกนัดวันนี้จะได้ไม่มีใครเข้ามาเจอคุณ” ดร.เล็คเตอร์พูดพลางดูนาฬิกา “อีก5ชม.แจ็คจะมาที่นี่ ผมขอตัวไปเตรียมอาหารก่อน”
“โฮะ---” วิลมองประตูที่ถูกปิดลงพร้อมร่างเจ้าของห้องเดินจากไป ให้ตายสิเขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าถ้าดร.เล็คเตอร์รู้คงอยากเก็บเขาไว้ศึกษาก่อน วิลถอนหายใจ แต่สิ่งที่คนภายนอกเห็นคือหมาตัวนี้กำลังหายใจฟึดฟัด เขาล้มตัวลงนอนบนโซฟา เอาไว้แจ็คมาเขาค่อยหาทางหนีก็แล้วกันไม่นานหลังจากนั้น.. ร่างสุนัขขนปุยก็ผล็อยหลับไป
.
.
.
ฮันนิบาลเปิดประตูห้องทำงานเพื่อเรียกแขกยามค่ำคืนที่รอทานมือค่ำ แต่ก็พบว่าเจ้าตัวหลับไปเสียแล้ว
“วิล”
เรียกชื่อของคนตรงหน้าเสียงเบา เพราะเขาไม่ได้คิดจะปลุกคนที่กำลังนอนหลับอย่างสบายอยู่แล้ว
เดินไปหยิบผ้าห่มผืนบางมาคลุมให้เจ้าของร่าง จัดท่านอนบนโซฟาเบดให้ กลิ่นคาโมมายล์จากแจกันบนโต๊ะลอยแตะจมูก
ฮันนิบาลลูบผมคนตรงหน้าช้าๆ
“ราตรีสวัสดิ์ วิล”
_____________________
Special
เช้าวันต่อมา
“เมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้างวิล” ฮันนิบาลถามคนที่พึ่งเดินเข้ามาในครัวโดยไม่ละสายตาจากเนื้อบนเขียง
“ผมฝันน่ะ”
“ฝันดีหรือฝันร้ายล่ะ”
วิลนิ่งไปสักพัก “ไม่รู้ว่าฝันเห็นศพ หรือเรื่องเมื่อคืนนี้.. อันไหนเรียกว่าฝันร้ายกันแน่เลยล่ะ”
ทำไมวันนี้ใจดีกับวิลล่ะคะหมอ /แพนกล้องไปที่ ดอกและชาคาโมมายล์
H : ยิ้มรับ /ซ่อนบันทึกผลการทดลองไว้ด้านหลัง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น