คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Brother Lover...04...100%
คนตัวเล็กกระพริบตาสองสามครั้งเพื่อปรับสายตา
สิ่งแรกที่เห็นคือเพดานกว้างสีน้ำตาลครีมวอลเปเปอร์ลายคลาสสิกอยู่ข้างบน จากนั้นจึงเริ่มกวาดสายตาสำรวจไปเรื่อยๆ
เพราะไม่คุ้นชินกับห้องหรูแบบนี้ ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นกรอบรูปที่มีเด็กชายตัวน้อยน่าตาน่ารักฉีกปากยิ้มกว้างให้กล้อง
วางอยู่ข้างหัวเตียง
จะว่าไปก็คุ้นเหมือนกันแหะ
เหมือนใครนะ
ก่อนจะคิดขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่คอนโดมาร์ค เอ๊ะ คอนโดมาร์ค ถ้าอย่างนั้น...เด็กน้อยคนนี้ก็ต้องเป็น
“คุณมาร์คสินะ...ตอนเด็กเนี่ยน่ารักจังเลยนะ”
แบมแบมยิ้มกว้างพลางพูดกับรูปถ่ายตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี
แล้วจิ้ม จึก จึก ไปยังใบหน้าเล็กด้วยความเอ็นดู อยากจะถ่ายรูปเก็บไว้เหมือนกัน
แต่โทรศัพท์ของเขาตอนนี้วางอยู่ที่โต๊ะรับแขกข้างนอกตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
แบมแบมหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาอีกคนที่เป็นเจ้าของห้อง
แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า เตียงกว้างข้างตัวไม่มีร่องรอยการถูกใช้งาน...เหมือนเมื่อคืนมาร์คต้วนไม่ได้นอนที่นี่
“ไปไหนของเขานะ”
แบมแบมเข้าไปล้างหน้าล้างตาเสร็จจึงเดินออกมาสำรวจข้างนอกที่เป็นห้องนั่งเล่น
แต่กลับต้องตกใจเมื่อเห็นอะไรบางอย่างกำลังคดตัวเป็นก้อนคล้ายดักแด้อยู่บนโซฟา
คนตัวเล็กเดินไปใกล้ๆ จึงเห็นว่าเป็นเจ้าของห้องนั่นเอง
อย่าบอกนะว่านอนตรงนี้ทั้งคืน...
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเหมือนคนกำลังคิดวิตกอยู่ตลอดเวลา
คนตัวเล็กเห็นแล้วก็อดขำกับท่าทางแบบนั้นไม่ได้ ขนาดหลับอยู่ยังต้องเอาอะไรเข้าไปคิดในหัวอีกหรอ
แบมแบมเอานิ้วจิ้มไปที่หัวคิ้วสองสามที่ให้คนที่ขมวดคิ้วคลายล
“แบมแบม...”
“หืม?”
แบมแบมรีบเอานิ้วออกทันทีเพราะคิดว่าคงโดนจับได้แล้วที่แอบมาแกล้งคนหลับ
แต่ทว่ามองอยู่นานก็ไม่เห็นว่าคนหลับจะตื่นขึ้นมาคาดโทษอะไรเลย ซึ่งไม่ใช่นิสัยปรกติของมาร์คต้วน
แบมแบมเกาหัวเกรกๆกับปฏิกิริยาคนตรงหน้า
เมื่อกี้ยังเรียกชื่อเขาอยู่เลย
รึว่าละเมอ...
แล้วทำไมถึงได้ละเมอว่าถึงชื่อเขา...คิดได้ดังนั้นแบมแบมก็รีบเอามือขึ้นมาแตะแก้มตัวเองทันที
ทำไมถึงได้รู้สึกร้อนๆที่แก้มแปลกๆนะ
มาร์คต้วนตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกมึนๆที่หัวนิดหน่อย
เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบตีสองแล้ว ไหนจะต้องทนนอนบนโซฟาแคบๆนี่อีก เขาไม่กล้าไปนอนที่เตียงเพราะกลัวตัวเองจะอดใจไม่ให้ทำอะไรคนตัวเล็กไม่ได้
ก็เลยเนรเทศตัวเองมานอนข้างนอกซะเลย
พอล้างหน้าล้างตาเสร็จก็ว่าจะแอบเข้าไปดูคนตัวเล็กซะหน่อยว่าตื่นรึยัง
ทว่า...
ฟุดฟิด ฟุดฟิด
กลับได้กลิ่นแปลกๆมาจากห้องครัวซะก่อน
จะบอกว่ามันหอมก็ไม่ใช่ เหม็นก็ไม่เชิง เท้าทั้งสองจึงเดินลิ่วๆไปตามกลิ่นทันที
จึงได้เห็นคนตัวเล็กก้มๆเงยๆอยู่หน้าเตาอย่างขะมักเขม้น มาร์คแอบมองอยู่ทางด้านหลังห่างๆ คนตัวเล็กที่กำลังก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับการทำอาหารจึงไม่ทันได้รู้ตัว
ว่ามีคนกำลังกอดอกยืนมองอยู่ข้างหลังอย่างห่วงๆ ก็ไส้กรอกที่ควรจะเป็นน้ำตาลเข้มกลับเป็นสีน้ำตาลๆดำๆซะได้
แบมแบมทอดไส้กรอกเสร็จแล้ว
แต่สีที่ออกมาดูจะเข้มเกินไปนิดหน่อย(หรอ)เลยทำให้มันดูไม่น่าทานเท่าไร ปรกติอยู่หอก็ไม่ค่อยได้ทำอาหารเท่าไหร่หรอก
ส่วนมากก็แค่ซื้อกินข้างนอกเอา อาหารที่ทำประจำก็มีแค่บะหมี่ซองซึ่งเป็นของโปรดเขาเลย
แต่มักจะโดนจูเนียร์ดุบ่อยๆที่เขากินแต่ของไม่มีประโยชน์
ต่อไปก็เป็นออมเลต
ของง่ายๆแค่นี้แบมแบมทำได้สบายๆอยู่แล้ว แบมแบมเทไข่ลงไปบนกระทะที่เพิ่งทอดไส้กรอกเสร็จ
น้ำมันเก่าที่ไหม้แล้วไหม้อีก ทำให้ออมเลตกลายเป็นสีน้ำตาลทันที ไหนจะไฟแรงๆที่แบมแบมไม่ยอมรี่ให้มันลดลงเลย
“ทำอะไรครับ”
มาร์คเห็นว่าท่าไม่ดี
เลยเอ่ยปากถาม
“อ่อ
แบมแค่อยากลองทำอาหาร...เผื่อคุณมาร์คตื่นขึ้นมาจะหิวน่ะครับ”
“น่ารักจังเลยนะครับ”
มาร์คอดไม่ได้ที่จะหยิกแก้มกลมๆตรงหน้าอย่างห้ามไม่อยู่ “เอาออกได้แล้วครับ เดี๋ยวจะไหม้เอา” ถึงมันจะไหม้แล้วก็เถอะ...
“อ่าได้ครับ...พอดีแบมไม่ค่อยได้ทำอาหารก็เลยไม่คล่องเท่าไหร่...ไม่รู้ว่าจะกินได้รึเปล่า”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกินได้หมด...ถ้าเป็นฝีมือแบมแบม”
“ขอบคุณครับ แต่ไม่ต้องใจดีมากขนาดนั้นก็ได้
ถ้าไม่อร่อยก็ไม่ต้องฝืนทานหรอกครับ”
แบมแบมตักออมเลตใส่จานแล้วตามด้วยไส้กรอกอีกหนึ่งชิ้นก่อนจะนำไปเสิร์ฟตรงหน้าผู้โชคดีที่ประจำอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว
ส่วนอีกจานก็นำมาวางตรงหน้าตัวเอง
พอเห็นว่ามาร์คต้วนกำลังตักออมเลตเข้าปากคำใหญ่
หัวใจก็ลุ้นตุ้มๆต่อมๆ ไปด้วย
การทำอาหารครั้งแรกของเขา...
“เป็นยังไงบ้างครับ”
กึก
มาร์คชะงึกสักพัก(ใหญ่ๆ)
ก่อนจะพยักหน้าแล้วทานต่อ
“ก็ทานได้ครับ” มาร์คตอบคำถามแล้วตักออมเลตคำใหญ่เข้าปากอีกครั้ง
“ดีจัง ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ปรุงตั้งนาน
^__^”
แบมแบมยิ้มกว้างอย่างดีใจ
แค่กินได้ก็ดีใจมากแล้ว ก็อย่างที่บอกว่านี้เป็นการทำอาหารครั้งแรกของแบมแบม ฉะนั้นจึงไม่ได้หวังอะไรมากมายอยู่แล้ว
อาหารมื้อนี้ผ่านไปด้วยดีสินะ
ก่อนจะตักออมเลตเข้าปากบ้าง
พรวดดดดดดดดดดด
แบมแบมพ่นออมเลตที่เพิ่งตักเข้าไปได้ยังไม่ถึงสามวิออกมา
แค่เข้านิดเดียวความเค็มก็กระจายไปทั่วทั้งลิ้นและกระพุ้งแก้มแล้ว ไหนจะกลิ่นไหม้ที่ขมปี๋นี่อีก...มันกินได้ตรงไหนเนี่ย
คนตัวเล็กหันไปมองมาร์คต้วนที่กินจนจะหมดจานอยู่แล้ว
ทำไมถึงยังกินอยู่ได้นะ ทั้งๆที่มันไม่อร่อยขนาดนี้
“พอแล้วไม่ต้องกินแล้วครับ
มันกินไม่ได้” แบมแบมรีบฉวยเอาจานตรงหน้าหนี
“ผมกินได้”
มาร์คแบมือไปข้างหน้า
เพื่อจะขอจานจากแบมแบมคืน
“หยุดเลย
ไม่ให้หรอกครับ ถ้าท้องเสียขึ้นมาจะทำยังไงเล่า”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ
ก็แบมแบมอุตส่าห์ตั้งใจทำให้ขนาดนี้ ผมอยากทานให้หมด...นะครับ”
“…”
แบมแบมได้แต่มองมาร์คที่นั่งทานอาหารที่ตัวเองทำจนหมด
ถึงจะไม่อยากให้มาร์คทานแต่ในใจลึกๆก็รู้สึกดีใจที่อีกคนทานจนหมด
ปึก
มาร์ควางจานแซนวิชบนโต๊ะหน้าทีวีดัง
เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนตัวเล็กที่กำลังดูหนังใหม่ที่มาร์คซื้อมาไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
แบมแบมที่ไม่ค่อยได้ดูหนัง ตั้งใจดูจนมาร์ครู้สึกหงุดหงิดเหมือนโดนแย่งความสนใจไปจนหมด
มาร์คเห็นคนตาแป๋วเอาแต่จ้องจอทีวีราวกับกลัวมันจะหายไป ไม่รู้ว่าชอบอะไรนักหนา
การดูหนังเป็นอะไรที่ค่อนข้างไกลตัวสำหรับแบมแบม
เพราะแบมแบมเลิกดูทีวีตั้งแต่ขึ้นม.ปลาย หนังในโรงหนังก็ไปดูนานๆครั้งกับพวกจูเนียร์บ้าง
และจะเลือกดูเฉพาะเรื่องที่สนใจจริงๆ เวลาที่ไปดูหนังแบมแบมจะตั้งใจดูมากเป็นพิเศษ
เลยทำให้ติดเป็นนิสัยไม่ว่าเป็นหนังอะไรก็เลยตั้งใจดูไปซะหมด
แบมแบมเหลือบไปเห็นมาร์คที่เอาแต่จ้องแซนวิชไม่พูดไม่จาสลับกับจ้องหน้าเขาไปด้วยอย่างไม่พอใจ...เป็นอะไรของเขา
เพิ่งทานไปเมื้อกี้เองนี่มาร์คหิวอีกแล้วหรอ
แบมแบมมองแซนวิชยักษ์ที่อยู่ในจานแล้วก็มองหน้าคนหน้าบึ่งอีกครั้ง มาร์คหันมาทางเขาด้วยสายตาตัดพ้อ
“มาร์คเป็นอะไรรึเปล่าครับ”
คนตัวเล็กอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงเลยถามคนตัวโตที่เอาแต่ทำหน้าง้ำหงอดอยู่คนเดียว
“แบมสนใจผมด้วยหรอครับ”
“ทำไมพูดอย่างนั้นละครับคุณมาร์ค”
“ก็แบมแบมเอาแต่จ้องไอ้หน้าจอนั่นอยู่ได้”
มาร์คพาลชี้จอที่กำลังฉายภาพไดโนเสาร์ตัวโตอยู่...ไอตัวนี่มันดีกว่าเขาตรงไหน
“ แหะๆ
ขอโทษทีครับเวลาดูหนังที่สนุกจะเป็นไปเองแบบนี้ทุกทีเลย เหมือนหลุดออกไปอีกโลกหนึ่งเลย”
แบมแบมว่าพร้อมกับเหลือบสายตาไปมองจานแซนวิชชิ้นยักษ์
“…”
“มาร์คยังไม่อิ่มอีกหรอครับ”
แบมแบมค่อนข้างแน่ใจว่าเมี้อกี้มาร์คกินอาหารที่เขาทำจริงๆไม่ได้แอบคายทิ้งแต่อย่างใด
เอ๊ะรึว่าแอบไปอ๊วกในห้องน้ำมา ว่าแล้ว ทำไมหายไปนาน -_-‘
“ผมทำมาให้แบมครับ
แล้วก็อย่าไปคิดอะไรแปลกๆเข้าหละ”
ยังไม่ทันที่แบมแบมจะได้พูดอะไรก็โดนคนตัวโตขัดขึ้นมาก่อน...รู้ได้ไงว่าเขาคิดอะไรอยู่
“แฮะๆ”
คนตัวเล็
“ทานเข้าไปเร็วๆสิครับ
จะได้โตไวๆ” มาร์คพูดพร้อมกับยีหัวคนตัวเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว
“แบมโตแล้วนะมาร์ค แล้วก็นะ
อย่าลืมสิแบมเป็นพี่มาร์คด้วยนะ”
“ตัวเล็กแค่นี้จะมาเป็นพี่ผมได้ยังไงละครับ
หึ หึ หึ”
“มาร์ค!!
แบมจะโกรธมาร์คแล้ว จำไว้เลย”
โครกกกกก~
คนตัวเล็กแอบลูบท้องตัวเองปอยๆ
หันไปมองคนข้างๆ ว่าได้ยินเสียงท้องตัวเองร้องมั้ย...มาร์คเห็นคนตัวเล็กหันมาก็รีบซ้อนยิ้มแล้วหันหนีทันทีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พอคนตัวเล็กเผลอก็แอบลอบยิ้มออกมา
“แบมไม่ได้จะหายโกรธมาร์คหรอกนะ
แต่ว่าแบมไม่อยากเสียมารยาท ฉะนั้นแบมจะกินแซนวิชนี้แล้วกัน”
แบมแบมพูดพร้อมกับหยิบแซนวิชมากัดคำใหญ่
พอแซนวิชคำใหญ่อยู่ในปาก แบมแบมถึงกับต้องเบิกตากว้าง เพราะรสชาติของมันนั้น...ทั้งๆที่ภายนอกก็ออกจะธรรมดา
แต่รสชาติไม่ธรรมดาเลยสักนิด อร่อยมาก ถ้ามาร์คจะทำอาหารอร่อยขนาดนี้นะ
รู้อย่างนี้แบมแบมนอนตีพุงรอให้มาร์คทำให้กินก็เสร็จเรื่อง ไม่ต้องมาตื่นเช้าด้วย
เมื่อมีอาหารอร่อยๆอยู่ตรงหน้าคนตัวเล็กก็เริ่มที่จะอารมณ์ดีมากขึ้น
กัดไปยิ้มไป จนคนที่นั่งมองอยู่ได้แต่ยิ้มยิ้มใหญ่ตามไปด้วย
“เป็นยังไงบ้างครับ”
“อร่อยมากเลยอ่ะ
มาร์ค”
“จริงหรอครับ”
“อร่อยมากจริงๆ
คราวหลังสอนแบมทำแบบนี้บ้างนะ”
“ได้สิครับ
ผมดีใจที่แบมชอบนะครับ”
พอทานแซนวิชในจานจนหมด
ก็รบเร้าให้มาร์คส่งกลับหอทันทีเพราะตัวเองต้องไปเตรียมเก็บห้องและก็กลับไปอ่านหนังสือทบทวนเพื่อเรียนอาทิตย์หน้า
ปรกติแบมแบมจะอ่านหัวข้อที่จะเรียนก่อนสองสามรอบเพื่อให้เข้าใจระดับหนึ่ง เวลาอาจารย์สอนก็จะได้เข้าใจ
คราวนี้มาร์ครบเร้ายังไงก็ไม่สามารถรั้งคนตัวเล็กไว้ได้
เลยต้องปล่อยไปก่อน
@หอพักBB
“มาร์คจูเนียร์ต้องว่าแบมแน่เลย
ทำยังไงดี แบมต้องทำให้จูเนียร์เป็นห่วงมากแน่”
ตอนนี้มาร์คมาส่งแบมแบมถึงหอพักเรียบร้อยแล้ว
แต่ทั้งคู่ยังนั่งอยู่ในรถสปอร์ตคันเดิมมากว่าสิบนาทีแล้วเพราะความกังวลใจของแบมแบม
คนตัวเล็กหันไปขอความช่วยเหลือจากมาร์คต้วน โทรศัพท์ก็ดันแบตหมดตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
ไม่ได้บอกจูเนียร์ไว้ด้วยว่าจะค้างข้างนอก จูเนียร์ยิ่งชอบเป็นห่วงเขายิ่งกว่าอะไรอยู่ด้วย
คราวนี้คงต้องง้อนานแน่ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่จูเนียร์คงเข้าใจ
ก็แบมแบมไม่ได้ตั้งใจนี่นา”
“แต่แบมก็ยังกังวลอยู่ดี”
“เดี๋ยวผมไปขอโทษพี่จูเนียร์แทนแบมแบมดีมั้ยครับ”
“ไม่ดีแน่ครับ!!”
“ทำไมล่ะ”
“ก็จูเนียร์บอกแบมเสมอว่าผู้ชายทุกคนในโลกใบนี้น่ะอันตรายยิ่งกว่าหมาป่าซะอีก
ให้อยู่ห่างเข้าไว้...นี่ถ้าจูเนียร์รู้ว่าไปค้างห้องคุณมาร์คมามีหวังห้องแตกแน่ๆ”
“พี่จูเนียร์เนี่ยห่วงแบมจังเลยนะ”
“อืมใช่ครับ
พวกเราสนิทกันมาตั้งแต่ม.ปลายแล้วล่ะ”
มาร์คพยักหน้าทำทีว่าเข้าใจ
ถึงจะอิจฉาจูเนียร์ที่ได้ใกล้ชิดกับแบมแบมมากก็เถอะ...แต่ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นแค่เพื่อน
เลยไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย
“มาร์ค แบมมีเรื่องสงสัยจะถามตั้งนานแล้ว”
แบมแบมขมวดคิ้วราวกับมีเรื่องหนัก
อืมว่ามาสิครับ”
“ทำไมถึงเรียกคนอื่นว่าพี่กันหมด
แต่ทำไมไม่เรียกแบมว่าพี่บ้างล่ะ รึว่าแบมไม่น่านับถือหรอ”
“เปล่าหรอกครับ”
“เปล่าแล้วทำไมไม่เรียกแบม
ว่าพี่แบมบ้างล่ะครับ” แบมแบมพูดอย่างจริงจัง
“…”
“....”
รุ่นน้องตัวโตเคลื่อนหน้ามาประชิดรุ่นพี่ตัวเล็กตรงหน้าอย่างจงใจก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ
“ก็ผมไม่ได้อยากเป็นแค่น้องชายนี่ครับ”
“พะ...พูดอะไรน่ะ”
แบมแบมอึกๆอักๆกับคำพูดคำจาของรุ่นน้องตรงหน้า “ยังไงมาร์คก็ต้องเป็นน้องชายแบมอยู่ดี
แบมแก่กว่ามาร์คนะ มาร์คจะมาเป็นพี่แบมได้ไง” ยังคงแสดงท่าทางใจดีสู้เสืออยู่
“ผมก็ไม่ได้บอกนี่ครับว่าอยากเป็นพี่ชาย”
มาร์คกระซิบข้างหู
เหลือบสายตามองริมฝีปากเจลลี่อย่างอ้อยอิ่ง...ทว่า ก่อนจะได้คิดทำอะไรต่อมิอะไร กลับถูกมือป้อมๆเจ้าของร่างปิดบังมันไว้ก่อน
แบมแบมจำได้ว่าครั้งก่อนที่จะโดนจูบ มาร์คก็มองตัวเองแบบนี้เหมือนกัน คราวนี้เลยไม่อยากพลาดท่าเป็นครั้งที่สอง
โชคดีที่ฟิล์มที่มาร์คติดเป็นสีทึบทำให้คนข้างนอกที่เดินขวักไขว่ไปมาไม่สามารถมองเข้ามาเห็นข้างในได้
ไม่เช่นนั้นคนที่อายหนักคงเป็นคนตัวเล็กเองเพราะองศาที่เอียงมานั้นสามารถทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ไม่อยาก
“แบมไปแล้วนะครั-”
ก่อนที่แบมแบมจะพูดจบ
ร่างสูงก็พุ่งริมฝีปากมาปะทะกับหลังมือป้อมที่ปิดทาบกับริมฝีปากอยู่
แบมแบมเบิกจากว้างตกใจจนรีบผลักหัวมาร์คแล้ววิ่งลงรถทันที
เหตุการณ์เมื่อคืนก็เข้ามาฉายชัดจนต้องเอามือมาจับอกข้างซ้ายที่เต้นแปลกๆมันหวิวๆยังไงก็ไม่รู้
เหมือนว่าหัวใจจะทำงานหนักเกินไป
ความคิดเห็น