ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Brother Lover จีบพี่ MARKBAM #จีบพี่มบ

    ลำดับตอนที่ #4 : Brother Lover...03...120%

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 61








     

           



                  

               วันนี้เป็นวันที่สองแล้วที่แบมแบมมาคุมน้องๆปีหนึ่ง ส่วนมากก็ไม่ได้พูดอะไรมากอยู่แล้ว จะเป็นจูเนียร์มากกว่าที่คอยแจ้งกิจกรรมให้น้องๆได้ทำ 

     



              “อ้าวต่อไป พี่จะให้น้องๆจับสลากเลือกพี่รหัสนะครับ ในนั้นจะมีคำบอกใบ้เกี่ยวกับพี่รหัสหรือไม่ก็เป็นฉายาลับๆซ่อนอยู่ น้องๆต้องหาให้เจอภายหนึ่งเดือนนะครับ นี่ถือว่าพี่ให้เวลาเยอะแล้ว...ถ้าหาไม่เจอก็จะต้องโดนทำโทษไปตามระเบียบ"

          "แซ่ดๆ" เสียงรุ่นน้องปีหนึ่งดังจ๊อกแจ๊กกันเป็นนกกระจิบแตกรังเมื่อได้ยินคำ
    ว่า'ทำโทษ'เพราะทำโทษของวิศวะที่นี่ใครๆก็รู้ว่ามันพิสดารขนาดไหน


          "แต่..."


           จูเนียร์เปล่งเสียงออกมานิ่งๆทว่ากลับหนักแน่นจนสามารถหยุดเสียงที่กำลังพูดคุยกันจ๊อกแจ๊กให้หยุดไปได้ นี่คงเป็นคุณสมบัติที่ติดตัวมากับพี่ว๊ากทุกคน ถึงจะดูใจดีแต่พอเข้าโหมดจริงจังก็สามารถเอาอยู่
    "..."


    "...แต่ถ้าน้องคนไหนหาพี่รหัสของตัวเองเจอ"


    "..."


    "คนที่จะโดนทำโทษก็คือพี่รหัสของน้อง..."




    ฮือฮา ฮือฮา


             พอสิ้นสุดคำของจูเนียร์ เสียงฮือฮาจากปีหนึ่งก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง...นี่มันก็ไม่ต่างจากการหักหลังกันเลย หาไม่เจอก็ต้องโดนทำโทษ แต่ถ้าหาเจอพี่รหัสก็ต้องโดนทำโทษแทนอีก ใครมันคิดเกมบ้าๆนี้วะ

    ปีหนึ่งทั้งหลายต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกัน


              “แบมแบมกับแจ็คสันเอาสลากไปใน้องๆจับหน่อยครับ” จูเนียร์ไม่รอฟังเสียงค้าน รีบยกหน้าที่ให้แบมแบมกับแจ็คสันทันที ทั้งสองเดินไปหยิบกล่องกระดาษที่่บรรจุไปด้วยแผ่นกระดาษเล็กๆ ก่อนจะเดินไปแจกตามแถว

               แจ็คสันเริ่มแจกจากหัวแถวคนแรก ส่วนแบมแบมก็เริ่มจากหลังแถวคนสุดท้าย



             “พี่แบมแบมเลือกให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ” พอแจกได้ไม่นานก็เริ่มมีเสียงวี๊ดวิ๊วมาจากหลังแถวที่แบมแบมเป็นคนแจก

              แบมแบมยิ้มกริ่มให้รุ่นน้องที่ขอให้เขาจับสลากแทน กำลังจะเอ่ยปฏิเสธ ทว่า...

             “มึงไม่มีมือไง?” กลับโดนเพื่อนของน้องคนนั้นแทรกขึ้นมาก่อน
             "เสือกครับเพื่อน" แล้วก็เถียงกันอยู่อย่างนั้น จนแบมแบมต้องส่ายหน้ายิ้มๆ




              ตอนนี้รุ่นน้องเริ่มหันมาให้ความสนใจแถวทางด้านหลังกันใหญ่ บางคนก็แซวกคนตัวเล็กเล่นบ้าง แกล้งบ้างเมื่อมีโอกาส คงมีแค่คนเดียวที่ทำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด มาร์คต้วนมองหน้าคนตัวเล็กที่ตอนนี้ยิ้มกว้างแจกจ่ายอย่างเรี่ยราดให้ทุกคน  รู้ว่าตัวเองน่ารักแล้วยังมาทำแบบนี้อีกหรอวะ...ไม่รู้หรือไงว่ามันหวง 
    ตอนนี้มาร์คได้แต่โมโหพาลคนเดียวอยู่ในใจ

     

             “เอาอย่างนี้...เดี๋ยวแบมจับให้ แต่หยุดทะเลาะกันเพื่อแบมนะครับ”

              "คร้าาาาาาบ"
              รุ่นน้องรับคำอย่างเสียงอ่อนเสียงหวาน

              
             แบมแบมรีบล่วงเข้าไปในกล่องแล้วหยิบตัวที่คิดว่าดีที่สุดออกมาแล้วยื่นให้รุ่นน้องไปหนึ่งใบ ซึ่งรุ่นน้องคนนั้นก็แอบนุ่มเบาๆแล้วหันมาทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อน ประมาณว่า 'กูได้จับมือพี่แบมด้วย'
             


              "ไอ่พวกเวร"
              "หะ? เมื่อกี้มึงพูดอะไรรึเปล่า" ยูคยอมที่นั่งกดเกมโทรศัพท์อยู่หันมาถามเพื่อนอย่างสนใจ เพราะเมื่อกี้เหมือนได้ยินไอ้มาร์คพูดว่าอะไรเวรๆสักอย่าง แต่กลับโดนเจ้าตัวปฏิเสธ
              "เปล่า" 






            แจกไปเรื่อยๆสลากในกล่องก็พร่องไปเยอะแล้ว ตอนนี้ก็น่าจะเหลือไม่ถึงสิบ





              “อะ!"

              แบมแบมตกใจเล็กน้อย เพราะจู่ๆก็มือปริศนาก็เข้ามาประกบซ้อนทับกับมือของตัวเองที่ประคองกล่องอยู่ พอเงยหน้าขึ้นมาจึงเห็นว่าเป็นมาร์คนั่นเอง อีกฝ่ายยิ้มให้เขาอย่างคุ้นเคย
         
              'นี่คงจะอยากแกล้งเขาอีกแล้วสินะ' 

               ก่อนจะใช้มืออีกข้างล้วงวนไปมาในกล่องซักพัก หยิบม้วนกระดาษเล็กๆออกมาจากกล่อง
    แล้วอ่านออกมาเบาๆ ว่า...


             “นางฟ้าวิศวะ”

              แต่แบมแบมกลับได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน


              “หืม!!”

              แบมแบมที่ลืมตัวตกใจกับคำใบ้ในมือรุ่นน้องรีบหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาดูทันที จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง ก็นั่นมันฉายาที่เพื่อนๆตั้งให้เขานี่นา คิดยังไงกันก็ไม่รู้ทั้งที่ตัวเขาเป็นผู้ชายแท้ๆกลับตั้งฉายาให้เขาว่านางฟ้าวิศวะ แบมแบมมองกระดาษตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วเบาๆ  โดยไม่ได้รู้เลยว่าคนที่สังเกตอาการคนตรงหน้าตั้งแต่แรกนั้นได้กระตุกยิ้มออกมาแล้ว ดูไม่ออกก็โง่เกินไปแล้ว ก็แบมแบมเล่นแสดงอาการออกมาซะขนาดนี้



              “มีอะไรรึเปล่าครับแบม”



              “ไม่มี!!" แบมแบมตอบควับมาเสียงดัง ก่อนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไปแย่งกระดาษเขามาไว้ในมือ "อูยยย...ขอโทษนะครับแบมนี่เสียมารยาทจริงๆเลย หยิบกระดาษมาจากมือคุณมาร์คโดยที่ยังไม่ได้ขออนุญาตเลยแท้ๆ"

                ตอนแรกนั้นแบมแบมตกใจจนรีบตะโกนออกมา แต่พอได้สติจึงรีบหัวเราะกลบเกลื่อนพร้อมทั้งขอโทษขอโพยคุณมาร์คที่เผลอแสดงกริยาที่ไม่ดีออกมา

               “ไม่เป็นไรครับ เรื่องแค่นี้เอง"

              “งั้นแบมขอตัวแล้วดีกว่า...โชคดีนะครับ”

              แบมแบมรีบขอตัวเดินออกมาเพราะยิ่งอยู่ก็ยิ่งขายหน้าเข้าไปใหญ่

     

               “มาร์คมึงรู้จักพี่เขาหรอวะ”

              ยูคยอมที่นั่งมองเหตุการณ์เมื้อกี้มาตลอดถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะส่วนมากเวลามีอะไรไอ้มาร์คมันจะบอกเขาเสมอ

              “อือ ก็นิดหน่อย”

              “นิดหน่อยอะไรล่ะ กูเห็นมึงมองเขาอย่างกับจะกลืนกินไปทั้งตัวขนาดนั้น...แล้วไหนจะแผนการแอบจับมือนั่นอีก เด็กอนุบาลยังดูออกเลยเถอะไอ้มาร์ค"

              ยูคยอมแขวะเพื่อนยาว เพราะไอ้เพื่อนตัวดีของเขามันแอบมีความลับ

              “เออน่า”

              “เออน่าอะไร จะเก็บไว้กินคนเดียวว่างั้น" ยูคยอมยังแหย่ไม่เลิก "ว่าแต่ชื่ออะไรนะ...น่ารักแม่-ง”

              ยูคยอมถามยิ้มๆ แล้วหันไปทางคนตัวเล็กที่เพิ่งเดินออกไป

               “หยุดความคิดของมึงไว้แค่นั้นแหละ"

              มาร์ครีบดักคอยูคยอมไว้ เพราะรู้ว่าไอ้เพื่อนเวรมันกำลังคิดอะไรอยู่ และเขาสองคนดันมีสเป็กที่คล้ายๆกัน คือ ตัวเล็กๆ น่ารักๆ...แบบแบมแบมนี่แหละที่สามารถทำให้เขาสองคนฆ่ากันให้ตายได้เลย



               “แหนะ หวงรึไงกับเพื่อนกับฝูง”

              “หวงที่ไหนว่ะ ก็เห็นว่าพี่เขาเป็นคนดี เลยไม่อยากให้รู้จักคนแบบมึง"
              "ถ้าอย่างนั้น...แบบมึงเนี่ยแหละที่ควรห่างเป็นอันดับแรก"
              "กูเหี้ยแค่กับมึง...แต่กูไม่เหี้ยกับเขาไง"
              “อ้าวไอมาร์ค มึงไม่เป็นเพี่อนกูไง? พูดยงี้กูงอนนะโว้ย...ถ้าไม่รีบง้อกูจะโกรธมึงอยู่อย่างนี้แหละ"

               ยูคยอมแบะปากแล้วเชิดหน้าแรงจนเส้นเอ็นคอโผล่ เจ็บใจนักที่เพื่อนมันคนอื่นดีกว่าตัวเอง

              “เออ!! กูไม่ง้อ”

               “ใช่ซี้ ไม่ใช่คนนั้นนี่”

                ยูคยอมหันมาแล้วทำเสียงตัดพ้อให้เพื่อนที่ไม่ได้สนใจใยดีตัวเองเลยสักนิด สายตามันก็มองแต่คนตัวเล็กที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนสนาน

     
             จะไม่ง้อจริงๆใช่มั้ย


             เออ...


             กูหายเองก็ได้ TT





     

                วันนี้พอปล่อยน้องๆเสร็จแบมแบมรีบตรงดิ่งมาที่ห้องสมุดเหมือนทุกๆวัน คนตัวเล็กรีบเดินเพื่อให้ถึงโต๊ะประจำให้เร็วที่สุด 

               แตท่วา....

                กลับมีคนนั่งไปแล้ว  แบมแบมกำลังจะไปหาที่ใหม่ ถ้าคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะไม่เงยหน้าขึ้นมาก่อน



              “อ้าวคุณมาร์คเองหรอครับ แบมขอนั่งด้วยได้มั้ย" แบมแบมร้องดีใจเสียงหลงเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งที่ประจำของเขาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นมาร์คต้วน รุ่นน้องปีหนึ่งนั่นเอง

              “ได้สิครับ”

              “บังเอิญจังเลยนะครับ รู้มั้ยครับว่าเนี่ยที่ประจำแบมเลย”

              “จริงหรอครับ บังเอิญจริงๆนั่นแหละ” มาร์คครางรับไปตามน้ำ จริงๆรู้อยู่แล้วว่าตรงนี้เป็นที่ประจำของแบมแบม ไม่อย่างนั้นคงไม่มาดักรอหรอก

              “งั้นเดี๋ยวแบมมานะ ไปหาหนังสือก่อน”

              “ได้ครับ”

     



            แบมแบมแค่จะมาหาหนังสือนวนิยายอ่านเฉยๆเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีงาน ก็เลยสบายๆหน่อย"







             “พี่แบมแบม”

             ระหว่างที่กำลังหาหนังสืออยู่ก็มีเสียงเรียกดังเข้ามาขัดจังหวะซะก่อน

              “หืม ครับ”

              แบมแบมหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะเห็นว่าเป็นผู้ชาย ผิวขาว ตัวสูง ตาตี๋ ยืนยิ้มให้ตัวเองอยู่ไม่ไกล จะว่าไปก็หน้าคุ้นๆเหมือนกันนะ ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นรุ่นน้องในคณะนั่นแหละ

                “ว้าว พี่แบมแบมจริงๆด้วย ผมมาตามหาพี่ตั้งแต่เมื่อวานแหนะแต่หาไม่เจอเลย”

               “อ่า แบมขอโทษนะครับ พอดีเมื่อวานแบมติดธุระนิดหน่อยน่ะ”

               “จริงหรอครับ ถ้างั้นวันนี้ว่างแล้วใช่มั้ยครับ” เด็กหนุ่มถามออกมาอย่างดีใจ เมื่อได้คุยกับรุ่นพี่ที่แอบปลื้มตรงๆ เมื่อวานก็มาดักรอที่ห้องสมุด แต่กลับไม่เจอ พอวันนี้ได้มาเจอตัวเป็นๆเลยอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
        
               "อ่า..." รุ่นน้องรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ 


                ทว่า...


                ก่อนที่แบมแบมจะทันได้ตอบคำถาม ก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา

              “แบมเลือกหนังสือเสร็จรึยังครับ จะได้กลับกัน”

               มาร์คจงใจโอบไหลเล็กอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ แล้วหันไปคุยด้วยท่าทีที่สนิทสนมแนบชิด จงใจให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าสองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากัน

              และด้วยท่าทางที่มาร์คแสดงออกทางสายตาว่าอย่ามาใกล้คนตัวเล็กแล้วด้วยนั้น...ทำให้คนมองได้แต่เจ็บปวดไม่หาย

              ทำไมเขาจะไม่รู้จักผู้ชายตรงหน้านี้ล่ะ ต่อให้ไปถามใคร ใครก็ต้องรู้จัก มาร์คต้วน กันทั้งนั้น ก็เล่นเด่นตั้งแต่เข้ามาเลย ยิ่งเรื่องหญิงกรี๊ดแล้วนั้นไม่ต้องพูดถึง...

              เมื่อเห็นแล้วว่าคู่แข่งตัวเองเป็นใครเขาจะขอยอมไปเองก็ได้วะ

              เพราะรู้ว่าสู้ยังไงก็แพ้...เก็บแรงไว้รักษาตัวเองคงจะดีกว่า


               “งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า"

                รุ่นน้องคนนั้นรีบขอตัวทันทีเพราะว่าจากที่เห็นสองคนนี้น่าจะสนิทกันน่าดู ไม่ว่าจะเป็นสายตาของและท่าทางจากมาร์คต้วน ที่แสดงคำว่าหวง ออกมาอย่างชัดเจน 

         

              แบมแบมมองรุ่นน้องอีกคนที่จู่ๆก็ขอตัวออกไปอย่างดื้อๆ ไม่เข้าใจกับท่าทางเมื่อกี้เลย ทั้งๆที่ทำหน้าดีใจมากตอนที่เจอเขาแต่กลับหนีไปโดยไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ พอจะรั้งก็โดนมาร์คต้วน ขัดขึ้นมาก่อน


               "ออ จริงสิ เมื่อกี้คุณมาร์คบอกว่ากลับกันนี่...หมายความว่ายังไงครับ" แบมแบมที่เพิ่งนึกได้ถามขึ้น


               “อ่า ผมลืมบอกแบมไปใช่มั้ย แย่จริงๆเลย" มาร์คว่าพลางกุมหัวทำหน้าเครียดแสดงใหญ่ "พอดีผมมีรายงานน่ะ แต่ว่ามันยากมากเลย ให้ทำเองก็ไม่มีแนวทางเลย ก็เลยว่าจะให้แบมช่วยซะหน่อยครับ คอนโดผมอยู่ใกล้ๆมหาลัยนี้เอง นะ...” จริงๆรายงานนี้มันส่งอีกสองดือนโน่น อาจารย์แค่บอกให้ไปดูๆมาก่อน...มาแชร์ข้อมูลในห้องแล้วค่อยไปทำ 


              "มีรายงานตั้งแต่ตอนนี้เลยหรอครับ..." แบมแบมถามพลางขมวดคิ้วสงสัย ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอมแรก อาจารย์สั่งรายงานแล้วหรอ


             มาร์คที่เห็นว่าคนตัวเล็กทำท่าไม่เชื่อตัวเองก็รีบพูดออกไปอย่างตัดพ้อ


              "ถ้าแบมไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมทำเองก็ได้...ก็แค่ทำคนเดียวและก็ไม่มีแนวทางอะไรในหัวเลย...ก็แค่นั้นเอง" ก่อนจะดราม่าเพื่อให้สนตัวเล็กเห็นใจ


               "โอเคๆ เดี๋ยวแบมช่วย"


              "จริงหรอครับ เกรงใจจังเลย" มาร์คยิ้มแป้นออกมาทางสายตาอย่างเจ้าเล่ห์โดยไม่ให้อีกคนได้เห็น ก่อนจะหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อได้ยินประโยรต่อมาของคนต่วเล็ก


              “แต่ทำที่นี่ก็ได้นี่ฮะ ไม่เห็นต้องกลับไปทำที่คอนโดเลย


               ไม่อาวว...ก็ผมอยากมีเวลาส่วนตัวกับแบมนี่


              “ก็ผมน่ะสิครับดันลืมหยิบสมุดที่จดรายละเอียดงานมาด้วย...หรือแบมไม่ไว้ใจผม” มาร์คแสร้งโกหกคำโตออกมา พลางทำหน้าเศร้าไปด้วย

              “เปล่าครับ แบมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย

               “จริงหรอครับ...งั้นไปกัน"




     @คอนโดThe Park City


               “คอนโดคุณมาร์คนี่ใหญ่จังเลยนะครับ แถมยังอยู่ใกล้มหาลัยมากๆเลยด้วย

              ตอนนี้ทั้งสองได้มาถึงคอนโดมาร์คแล้ว เพราะว่ามันใกลักับมหาลัยมากจริงๆ เลยทำให้มาถึงเร็วกว่าที่คิด ก่อนจะขึ้นมาก็ได้แวะไปซื้อข้าวซื้อขนมมาตุนไว้กันหิว ความจริงก็ควรหิวนะเพราะยังไม่มีใครได้กินอะไรเลย 

             มาร์คเดินออกมาจากครัวด้วยจานช้อนซ่อมในมือ ก่อนจะแกะอาหารใส่จาน

               “ป๊าเพิ่งซื้อให้ตอนที่ผมสอบติดที่นี่แหละครับ

              “ว้าว ป๊าคุณมาร์คนี่ใจดีจังเลยนะครับ...แบมก็อยากได้คอนโดใหญ่ๆแบบนี้เหมือนกัน...แต่แบมคงต้องเก็บเงินอีกนานเลยล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า


              ด้วยความตื่นเต้นแบมแบมเลยเดินสำรวจรอบๆอย่างลืมตัว


               กึก


               ก่อนจะรู้สึกถึงอะไรแข็งจากทางด้านหลัง ก็เลยหันกลับไปมอง จึงเห็นว่าเป็นรุ่นน้องตัวเองนั่นเอง

             


               “ก็มาอยู่กับผมสิครับ...อยู่ฟรีแถมเลี้ยงดูฟรีตลอดชีพเลยนะครับ         


              แบมแบมเม้มปากแน่นกับคำพูดกำกวมจากรุ่นน้องตรงหน้า ก่อนจะรีบเพ่นหน้าหนีจากความร้อนที่แผ่ซ่านเข้ามา


               “เอ่อ...แบม...แบมไปทานข้าวนะครับ” แบมแบมรีบเบี่ยงประเด็นหาทางหนีจากความประหม่านี้

              “เอาสิครับ

              รุ่นน้องตรงหน้ายิ้มออกมาเบาๆ ผายมือไปทางอาหารที่ถูกจัดเรียบร้อยแล้ว ก่อนตะเดินตามไปทางด้านหลัง

     

         


              "ตรงนี้เข้าใจรึยังครับ" แบมแบมหันไปถามรุ่นน้องที่นั่งจ้องตัวเองอยู่ตาไม่กระพริบ อยากจะชมว่าตั้งใจเรียนอยู่หรอก ถ้าไม่เอาแต่จ้องหน้าตัวเองขนาดนี้

              "ก็พอเข้าใจครับ" มาร์คนั่งยืดตัวตรงแล้วตอบคำถามไป เพราะตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่บนพื้นพรมหมพิงโซฟา ก็เลยเกิดอาการเหมื่อยนิดหน่อย


              พอได้รับคำตอบที่หน้าพึงพอใจจากรุ่นน้องตรงหน้า แบมแบมก็กลับเข้าสู่บทเรียนต่ออีกครั้ง พยายามอธิบายรายละเอียดอย่างตั้งใจ ส่วนมาร์คต้วน ก็...นั่งจ้องปากติวเตอร์จำเป็นอย่างตั้งใจเช่นกัน

              

              มาร์คเริ่มออกกาอารเบื่อๆ เพราะตอนนี้ก็ชั่วโมงกว่าๆเกือบสองชั่วโมงแล้วที่นั่งฟังแบมแบมอธิบายมา อาการล้าจึงเกิดขึ้น แต่กับแบมแบมไม่เห็นบ่นอะไรออกมาซักคำเลย ตอนนี้ก็กำลังจดอะไรซักอย่างที่เข้าใจยากลงกระดาษอยู่


              พอเห็นตั้งใจแบบนี้...ความคิดที่อยากจะแกล้งเลยเกิดขึ้นมาในหัว


              “แบม...


              มาร์คที่ตั้งใจจะแกล้งคนตัวเล็กกระซิบข้างหูพร้อมเป่าลมเข้าไปเบาๆ


              ทว่า...


              คงจะผิดจังหวะไปหน่อยเพราะตอนนี้จมูกทั้งสองชนกันเบาๆอย่างพอดิบพอดี 


              แบมแบมเบิกตาโพล่งตกใจกับเหตุการณ์ไม่คาดไม่ฝันตรงหน้า  

              มาร์คได้โอกาสสำรวจหน้าหวานที่ตอนนี้แดงปลั่งเหมือนมะเขือเทศสุก ตาโตที่ยังคงเบิกขึ้นด้วยความตกใจ แล้วไปหยุดอยู่ที่ริมปีปากอิ่มสวยที่ยังคงสั่นระริก...ดึงดูดให้เข้าไปหา



               มาร์คต้วนจ้องลึกลงไปในสายตาคนตัวเล็ก ก่อนจะดันเอาริมฝีปากเม้มริมฝีปากตัวเองแนบกับปากอิ่มเบาๆ แล้วถอนออกมาเพื่อดูปฎิกริยาคนตรงหน้า


               เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กยังนิ่งอยู่ แถมสายตาสั่นระริกเหมือนนกน้อยที่เหมือนเชิญชวนอยู่นั้น ทำให้สติที่พอมีเหลืออยู่ของมาร์คต้วนขาดสะบั้น ผลักคนตัวเล็กให้พิงกับโฟซาแล้วขึ้นไปนั่งคร่อมทับไว้อย่างมาดมั่น ฉกชิงริมฝีปากอิ่มมาอยู่ในปากตัวเองซ้ำๆ อย่างกระหาย ก่อนจะสอดส่ายลิ้นเข้าไปในริมฝีปากอีกฝ่ายอย่างทักทาย 

              "อื้ออ~" แบมแบมประท้วงออกมาจากลำคอเบาๆ

                    

                แต่ก็ไม่ถึงกับขัดขืน...เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ได้ขัดขืนแต่หรือต่อต้าน มาร์คก็ยิ่งได้ใจ ใช้มือสำรวจลูบคลำไปมาอย่างเต็มที่บีบเค้นเอวบางเบาๆให้รู้สึกไปด้วย ลิ้นก็สำรวจเข้าไปข้างในปากอิ่มอย่างจาบจ้วง ทำอยู่อย่างนั้นซ้ำๆจูบแล้วจูบอีก จนปากที่อิ่มอยู่แล้วเริ่มเปลี่ยนไปเป็นบวมแดง เมื่อพอใจแล้วจึงเลื่อนหน้าออกจากริมฝีปากหวาน ไปขบเม้มติ่งหูจนคนตัวเล็กสะดุ้งสุดตัว ความรัญจวนใหม่ที่เพิ่งได้สัมผัสปลุกเอาตัวตนอีกคนที่แบมแบมไม่เคยได้รู้จักออกมา


              “อ่ะ มาร์ค


              คนตัวเล็กเผลอร้องครางเสียงหวานออกมา ยิ่งกระตุ้นให้มาร์ครุกหนักยิ่งขึ้น จากที่ตอนแรกตั้งใจจะแกล้ง ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าหยุดไม่ได้แล้ว มาร์คได้ใจใหญ่เผลอดูดซอกคอของคนตัวเล็กแรงๆ จนขึ้นสี แบมแบมเจ็บจี๊ดขึ้นมาจนสะดุ้งสุดตัว ดึงสติกลับมาทันท่วงทีก่อนจะสายไป 

              เมื่อมีสติแล้วความลนลานก็เข้ามาแทน แบมแบมเผลอผลักมาร์คออกจากตัวอย่างแรง จนมาร์คที่เผลอไม่ทันได้ตั้งตัวไปชนมุมโต๊ะที่ติวหนังสือแล้วได้เลือดสดๆ


             “โอ๊ยยยย!!!!


              แบมแบมหน้าซีดเผือด เห็นเลือดสีเข้มไหลออกมาจากข้างขมับของมาร์คต้วนซิบๆ ความลนลานที่มีอยู่แล้วยิ่งเพิ่มพูนเข้าไปอีก


             “มาร์ค แบมขอโทษ แบมไม่ได้ตั้งใจ

              “...

     

              "ทำยังไงดี!!"


              "..."


              “แบมขอโทษ...ที่เผลอรุนแรงกับมาร์คไปหน่อย...ดูซิได้เลือดเลย


              คำพูดสองแง่สองง่ามจากคนตัวเล็กทำให้มาร์คได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ถึงแบมแบมจะไม่ได้คิดอะไรก็เถอะ...แต่เขาคิดไง!!


               ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่เดี๋ยวจะใช้คำนี้กับคนตัวเล็กบ้าง 'ระวังไว้เถอะแบมแบม ถ้าเผลอรุนแรงจนได้เลือดบ้าง...อย่ามาร้องไห้งอแงก็แล้วกัน'


              ไม่เป็นไรหรอกครับ แผลแค่นี้เล็กน้อย


              “ก็มาร์คแหละทำอย่างนั้นกับแบมก่อน แบมตกใจนะ


              แบมแบมพูดพร้อมกับใช้ทิชชู่เปียกที่มีติดกระเป๋ามาซับเลือดออกให้เบามือ


              อย่างงั้น? อะไรหรอคับ


              มาร์คแกล้งขมวดคิ้ว ทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่คนตัวเล็กพูด


              “ไม่ต้องมาถามเลย...มาร์คไม่รู้หรือยังไงกัน” แบมแบมหยิบสำลีชุบแอลกอฮอล์จิ้มเข้าที่แผลอย่างฟึดฟัด

            


              “โอ๊ยยยยยย!!” มาร์คร้องลั่นเมื่อคนตัวเล็กเอาแอกอฮอล์มาจิ้มที่แผลเข้าจังๆ ถึงมันจะไม่ได้แผลใหญ่แต่เขาที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ร้องออกมาลั่นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กไปเอาแอลกอฮอลมาจากไหน


              "ไปเอาแอลกอลฮอลมาจากไหนเนี่ย"


              "จูเนียร์ฝากซื้อเมื่อเช้า...ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้เร็วขนาดนี้"


              "ผมเจ็บนะแบม"


              “สมน้ำหน้าให้เจ็บซะบ้าง อยากแกล้งแบมก่อน


              ตอนนี้แบมแบมเริ่มสู้แล้วเพราะรู้สึกเริ่มสนิทกันมากขึ้นแล้ว เขาไม่ยอมเสียเปรียบให้มาร์คแกล้งฝ่ายเดียวหรอก

            

             ก็ผมไม่รู้จริงๆนี่นา”      


              มาร์คยังคงตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่อไป    



              “ก็ที่มาร์คกัดแบมไง...มันเจ็บแบมก็เลยตกใจ


               “แค่โกรธที่กัดแค่นั้นหรอ แล้วก่อนหน้านั้นหล่ะ โกรธมั้ยครับ


              มาร์คกุมมือเล็กที่ตอนนี้กำลังติดพลาสเตอร์ให้ตัวเองอยู่ให้หยุดมือลง เพื่อให้คนตัวเล็กสนใจตอบคำถามของตัวเองก่อน


              แบมแบมชะงักมือค้างไว้กลางอากาศเพราะถูกอีกคนจับไว้แน่น เมื่อหันไปสบตาแล้วก็รู้สึกขัดใจไม่น้อยที่มาร์คยังยิ้มอยู่ 


              “โกรธหมดนั่นแหละ


              ตอนนี้แบมแบมรู้สึกว่าตัวเองแปลกไป ทั้งทำนิสัยเหมือนเด็ก ทั้งงอแง ทั้งขี้โวยวายจนหยุดไม่อยู่ ไม่รู้ทำไม...ทั้งๆที่นิสัยแบบนี้เขาจะทำกับคนในครอบครัวเท่านั้น คนเรานั้นมีวิธีการปฏิบัติกับทุกคนต่างไป ซึ่งเขาก็ไม่ได้เปิดเผยด้านนี้ให้ใครได้เห็นง่ายๆ...แต่มาร์คกลับสามารถดึงนิสัยลึกๆของเขาออกมาได้แบบง่ายๆเลย แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว 

             คนชื่อมาร์คต้วนทำอะไรกับจิตใต้สำนึกเขาเนี่ย

     

     



     

              ฟอดดดด~


              มาร์คที่เห็นคนตัวเล็กหน้าบูดหน้าเบี้ยวแล้วเกิดรู้สึกหมั่นเขี้ยว จนต้องฟัดแก้มป่องนั้นแรงๆ จนคนที่แก้มป่องอยู่แล้วยิ่งป่องมากกว่าเดิมสองเท่า


             "คะ...คุณมาร์ค!! ทำอะไร"


              “ง้อไงครับ...อย่าทำหน้าแบบนั้นเลยนะ” เดี๋ยวผมจะอดใจไม่อยู่อีก คราวนี้หนีไม่ได้อีกแล้วนะ

     

              “ง้อที่ไหนกันเขากับแบบนี้กันเล่า” แบมแบมงอแง


             “อ้าว...หรอครับ...แล้วเขาทำแบบไหนกันหล่ะ

              มาร์คทำลอยหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จนคนตัวเล็กอดหมั่นไส้ไม่ได้


              ไม่รู้ แต่ไม่ใช่แบบนี้แน่...แบบนี้แบมก็เสียเปรียบอีกแล้วสิ


              “อ้าวจริงหรอครับ งั้นแบมแบมหอมผมคืนก็ได้น่ะ


              มาร์ครีบยื่นข้อเสนอให้คนเสียเปรียบตรงหน้า พร้อมกับยื่นหน้าข้างหนึ่งไปให้คนตรงหน้าหอมคืน


              “ไม่เอาด้วยหรอก


              “ไม่ได้ให้เอานะครับ...แค่หอมเฉยๆก็พอ


              ประโยคร้ายกาจของมาร์คหลุดออกยิ่งทำให้แบมแบม โกรธฟึดฟัดหน้าดำหน้าแดงยิ่งขึ้น แบมแบมเข้าใจประโยคนี้ดี จึงรีบตวาดกลับมาร์คเสียงดัง


             “คุณมาร์ค!!”


              “ครับ ว่าไง

              “แบมจะกลับแล้ว

              “โอ๋ๆ ผมล้อเล่นครับ อยู่ที่นี่เถอะนะ

              มาร์คเริ่มรู้สึกว่าคนตัวเล็กเริ่มจะงอนจริงๆเข้าแล้วจึงรีบ ง้อแบบจริงจังทันที...เกิดลูกแกะน้อยของเขางอนหนักวิ่งหนีกลับหอคนเดียวแล้วจะซวยเอา


              “แบมอยากกลับแล้วนี่

              “จะกลับได้ไงครับ ตอนนี้มันเลยเวลาเข้าหอแล้ว ค้างที่นี่ก่อนก็ได้ พรุ่งวันเสาร์อยู่ช่วยผมทำรายงานก่อนสิ เดี๋ยวไปส่งให้ถึงหอเลย...นะครับ

              มาร์คดูเวลาตลอดเวลานั่นแหละ รู้ด้วยว่าเวลามันเลยมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้เตือนกับคนตัวเล็กไป

             

     

     

              แบมแบมก้มลงดูเวลาในนาฬิกาบนข้อมือตัวเอง ซึ่งบอกเวลาเที่ยงคืนยี่สิบห้าแล้ว กลับไปก็เข้าหอไม่ได้อย่างที่คุณมาร์คพูด...       

     

              "คุณมาร์ครู้อยู่แล้วใช่มั้ยฮะ...ว่าเวลามันเกิน แต่คุณมาร์คก็ไม่ยอมบอกแบม" แบมแบมพูดออกมาตาแดงๆ ความรู้สึกเหมือนโดนหลอกให้มาติดเกาะอยู่ด้วยกัน จะหนีก็หนีไม่ได้ ต้องรอจนกว่าจะเช้าพรุ่งนี้

              "ไม่ใช่นะครับ...ผะ...ผมไม่รู้ว่าก่อนเลย เพิ่งมาดูเวลาตอนที่แบมพูดมะกี้เลย...ถ้าผมโกหกขอให้ผมตกนรกเลยเอ้า!!" ซวยแล้วกู...ได้ตกนรกหมกไหม้แน่!! 

              แบมแบมจ้องคนตรงหน้านิ่งๆ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

              “ก็ได้...แบมเชื่อคุณมาร์คก็ได้...ถ้างั้นให้แบมนอนที่ไหนล่ะ

              “นอนเตียงผมก็ได้...อ่อ...ผมหมายถึงเตียงผมกว้าง

              “ไม่เอาหรอกเดี๋ยวมาร์คก็ทำแบบนั้นอีก” แบมแบมรีบปฏิเสธทันควัน จนคนโดนปฏิเสธต้องหัวเราะร่า...ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรหรอกนะ เพราะสงสารแต่พอมาพูดแบบนี้แล้ว อยากทำขึ้นมาทันทีเลย ^^


             ทำไมพูดจาได้น่ารักขนาดนี้เนี่ย

      

               “หัวเราะ แปลว่าจะทำใช่มั้ย!!”


              “เปล่าครับๆ สัญญานะครับว่าจะไม่ทำ

              “เกี่ยวก้อยด้วย

              แบมแบมยื่นนิ้วก้อยป้อมๆไปหาคนตรงหน้า ด้วยท่าทีไม่ไว้ใจ

              “ครับๆ

              มาร์คยื่นนิ้วก้อยขึ้นไปเกี่ยว แล้วโยกเบาๆ ก่อนจะสะดุดตากับแหวนเรียบๆสีเงิน บนนิ้วนางข้างซ้ายที่ตัวเองเป็นคนสวมให้กับมือแล้วเผยยิ้มออกมาเล็กๆมุมปาก


             ยังสวมอยู่ด้วย...

        




              แบมไม่มีชุดเปลี่ยน~


              “เอาชุดผมไปก่อนก็ได้

            

              “ขอบคุณครับ...งั้นมาร์คไปหาชุดให้แบมหน่อยนะ แบมจะไปอาบน้ำนอนแล้ว

              แบมแบมหันไปบอกมาร์ค แล้วอ้าปากหาววอดๆโดยไม่ยอมเอามือไปปิดปาก  มาร์คเห็นแบบนั่นก็ยีหัวคนตัวเล็กใหญ่ 


              น่ารักแล้วจะยังน่าหมั่นเขี้ยวอีก

     


              “หืม อย่ามาจับหัวแบมเล่นสิ...เดี๋ยวแบมไม่หล่อขึ้นมาใครจะรับผิดชอบเอง


              แบมแบมหันไปดุมาร์คเบาเบา แล้วปัดผมไปมาเพื่อให้กลับไปสู่สภาพเดิม



               “ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครรับผิดชอบครับ...เดี๋ยว'มาร์คต้วน'รับผิดชอบครับ

              เอาอีกแล้ว...คำพูดกำกวมชวนให้คิดมากนี้

              ถึงแบมแบมจะไม่ใช่ผู้หญิงแต่แบมแบมก็เขินเป็นนะ

     

              “ไม่คุยกับมาร์คแล้ว...ไปเอาชุดมาเร็วๆซิครับ แบมจะไปอาบน้ำ


              

     

               มาร์คเดินไปเลือกเสื้อผ้าจากตู้ชั้นในสุดที่ไม่ค่อยได้ใช้ หยิบเสื้อผ้าออกมาดูสองสามชุดแล้วเลือกตัวที่เหมาะสมให้รุ่นพี่ตัวเล็ก แต่ส่วนมากมาร์คจะชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ ดังนั้นถ้าจะให้หาเสื้อที่พอดีกับตัวแบมแบมล่ะก็..อย่าหวังเลย 

              มาร์คหยิบเสื้อเชิตสีขาวสะอาดออกมาหนึ่งตัว แล้วก็หยิบบ๊อกเซอร์ตัวใหม่ออกมาจากตู้ เอาไปให้แบมแบมที่ตอนนี้ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวจะอาบน้ำแล้ว

     

     





              แอ๊ดดด



             มาร์คได้ยินเสียงเปิดประตูมาจากประตูห้องน้ำ ในขณะที่ตัวเองกำลังจดจ่ออยู่กับบอลนัดสำคัญที่กำลังถ่ายทอดสดหน้าทีวี กำลังจะหันไปบอกให้คนตัวเล็กเข้าไปนอนก่อนได้เลยเพราะเขาไปเปิดไฟในห้องนอนไว้แล้ว แต่ข้างนอกไม่ได้เปิดไฟไว้เพราะปรกติเวลาอยู่คนเดียวก็ชอบปิดไปดูทีวีแบบนี้อยู่แล้ว

          


           ทว่า...


         ยังไม่ทันจะพูดอะไรก็ตาค้างซะก่อน


          “เชี่ยยยยย

     

            เช็ดแม่...มาร์คต้วนแทบจะตะโกนคำหยาบออกมากับภาพตรงหน้า

     

            แบมแบมกำลังเช็ดผมอยู่หน้าห้องน้ำอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไม่รู้ตัวเลยว่าเสื้อเชิ้ตสีขาวที่สวมอยู่ตอนนี้มันกระทบกับแสงไฟห้องน้ำแล้วสะท้อนให้เห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ไหนจะทรวดทรงองเอวโค้งเว้านั้นอีก โว้ยยย...แล้วแบบนี้จะทนได้อีกกี่น้ำวะ

    ...น่าจับมาซุกชะมัด

             มาร์คต้วนที่กำลังดูบอลอยู่ถึงกับไม่มีกระจิตกระใจจะดูอีกต่อไป สายตาไล่สำรวจมองร่างบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ประจวบกับที่แบมแบมเอื้อมมือไปเช็ดผมพอดี เลยทำให้เสื้อเชิ้ตตัวยาวร่นไปจนเกือบจะถึงจุดสำคัญ วับๆแวมๆอยู่แบบนั้นจนคนมองเกือบหัวใจวายตาย


           มาร์คจับจ้องอยู่อย่างนั้นนานพลางกลืนน้ำลายดัง เอื๊อก!! 


          โชคดีหน่อยที่เขาไม่ได้เปิดไฟในห้องนั่งเล่น มีแค่แสงไฟจากห้องน้ำผ่านตัวแบมแบมมาและก็ไฟจากทีวีเท่านั้นที่ให้ความสว่างอยู่บ้าง...ไม่อย่างนั้นล่ะก็ไม่อยากคิดเลยว่าตัวเองจะแสดงหน้าหื่นออกมามากขนาดไหน!

          แบมแบมเช็ดผมจนหมาดเสร็จจึงเดินมาหยุดตรงหน้ามาร์คที่กำลังทำหน้าเหมือนช็อกกับอะไรซักอย่าง


          และแบมแบมก็ยังเช็ดผมตัวเองต่อเพราะมันยังไม่แห้งดี ส่งผลให้คนมองได้แต่ลุ้นหัวใจตุ้มๆต่อมๆว่าเสื้อเชิ้ตตัวนี้จะร่นได้มากขนาดไหน


              “คุณมาร์ค


              แบมแบมแตะไหล่มาร์คเบาๆ เพื่อให้คนตรงหน้ารู้สึกตัว แต่มาร์คกลับสะดุ้งตัวโหย๋งขึ้นมา เหมือนโดนของร้อนอย่างไรอย่างนั้น


              “คุณมาร์คเป็นอะไรรึเปล่าครับ


              แบมแบมถามด้วยความเป็นห่วงใช้มือที่เย็นชืดแตะหน้าผากมาร์คเบาๆ ทว่า...กลับโดนคนตัวโตเบี่ยงหนีอย่างหวาดๆ


              “แบมแบม


              มาร์คขยับปากพึมพำชื่อแบมแบมเบาๆราวกับคนกำลังละเมอ


              “หืม มีอะไรติดหน้าแบมหรอครับ

              แบมแบมใช้มือลูบหน้าตัวเองไปมา เข้าใจว่ามีอะไรติดหน้าตัวเองอยู่เพราะเห็นมาร์คต้วนจ้องหน้าตัวเองแปลกๆมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ก่อนจะก้มหน้าลงไปเพื่อให้มาร์คได้หยิบอาสิ่งแปลกปลอมออกให้ ทว่ามันไม่ได้มีอะไรแปลกปลอมนอกจากจิตใจของมาร์คต้วนที่คิดไปไกลจนเกินจะดึงกลับ


           ยิ่งแบมแบมขยับหน้ามามากเท่าไหร่มาร์คก็ยิ่งหดคอเข้าไปแนบกับโซฟามากเท่านั้น 


             "ไม่ไหวแล้วเว้ย!!"


            ก่อนพูดเสียงลอดไรฟันแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้แบมแบมได้แต่เกาหัวแกรกๆมองตามอย่างไม่เข้าใจ



              เป็นอะไรของเขานะ

             

     

              แบมแบมเข้าไปนอนก่อนมาร์ค เพราะรอแล้วรออีกก็ไม่เห็นรุ่นน้องจะออกมาจากห้องน้ำซะที





              ส่วนคนที่เข้าไปทำใจสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำนั้น เมื่อจัดการตัวเองเสร็จแล้ว ก็เดินย่องออกมาจากห้องน้ำพลางหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาตัวการที่ทำให้ตัวเองต้องอารมณ์พลุ่งพล่านจนแตกกระเจิง 


              เมื่อกี้แทบตายแหนะ...แบมแบมทำเขาไว้แสบมาก เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าเขาต้องอดใจกลั้นแค่ไหนที่จะไม่จับตัวเองกดลงโซฟาตั้งแต่พาขึ้นห้องมาวันแรก




              ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างเตียงที่มีคนตัวเล็กนอนอยู่ 


             "หลับสบายอยู่คนเดียวเลยนะ...เดี๋ยวก็จับปล้ำทำเมียซะเลย"

             แล้วลูบเส้นผมที่ปรกหน้าออกเบาๆ ยิ่งเอาผมขึ้นแบบนี้ ยิ่งทำให้เห็นว่าคนตรงหน้า หน้าหวานมากขนาดไหน เวลาปรกติเขาคิดว่าแบมแบมน่ารักมากอยู่แล้ว แต่เวลานอนยิ่งน่ารักจนอยากจับฟัดให้จมเตียงเลย 


              มาร์คโน้มตัวลงไปสัมผัสกับหน้าผากมนอย่างอ่อนโยน ก่อนจะกระซิบข้างหูว่า


              “ฝันดีครับ...เจ้าลูกแกะ  

     

     

            











    16.01.2017

    อย่าลืมเม้นให้กำลังใจเค้าด้วยน้าาา



    15.01.2017


              นี่มันขบวนการหลอกลูกแกะน้อยชัดๆ โถ่ลูก...แล้วหนูจะอยู่รอดปลอดภัยจากคืนนี้ไปได้มั้ย


    มาเอาใจช่วยนุ้งแบมกันหน่อยเร็ว~

    08.01.2017

    อัพในทรศอีกแล้ว ช่วยตรวจเช็กคำผิดด้วยนะคะ ขอบคุงจ้าาา


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×