ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Brother Lover จีบพี่ MARKBAM #จีบพี่มบ

    ลำดับตอนที่ #3 : Brother Lover...02 > 100%

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 60



















    “ต่อไปก็น้องๆแนะนำตัวกันบ้าง ชื่อเล่นชื่อจริงเอาคร่าวๆพอ เดี๋ยววันนี้พวกพี่จะปล่อยเร็ว”

    เฮ~

    พอบอกว่าจะปล่อยเร็วทุกคนต่างก็ดูคึกคักเป็นพิเศษ



    “สวัสดีครับชื่อเล่นเจ ชื่อจริงเจ นิน วิศวกรรมโยธาครับ” มาร์คมองหน้าคนที่กำลังแนะนำตัวอย่างมีมาด ซึ่งมันเป็นคนเดียวกับที่บอกว่าจะจีบแบมแบม ตอนมันแนะนำตัวยังจ้องแค่หน้าแบมแบมคนเดียว ซึ่งก็ได้รอยยิ้มน่ารักๆกลับมาด้วยเป็นการตอบแทน นี่เป็นการเรียกร้องความสนใจสินะ...เดี๋ยวจะเอาไปใช้บ้าง


    “สวัสดีครับชื่อมาร์คครับ มาร์ค ต้วน วิศวกรรมเครื่องกลครับ” มาร์คพยายามสอดส่องสายตาหาคนตัวเล็กแก้มป๋องแต่กลับพบแต่ความว่างเปล่า


    หายไปไหน


    เพราะมัวแต่สนใจหาอีกคนเลยไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกจับตามองอยู่



    “เหี้ยยย(เสียงยาว) โคตรพ่อโคตรแม่หล่อ ชื่อมาร์ค ต้วนใช่มั้ย...วิศวเครื่องกลด้วย มันกร้าวใจจริงๆ แค่เห็นหน้าร่างกายกูก็พังแล้ว...อยากได้เค้ามาซ่อมร่างกายให้จัง”


    “ดูอย่างแบด”


    “กูอยากได้เค้าอ่ะมึง”


    “มึงฝันอยู่รึไง”


    “แค่เห็นหน้าเค้ากูก็หิวแล้ว”


     “หล่อระดับนี้เลิกคิดเถอะ”


    “ถ้าได้ซักครั้ง กูจะตั้งใจเรียนเลย”


    “อ้าวๆ เงียบๆหน่อยครับ...พี่เข้าใจว่าผู้หญิงสมัยนี้ต้องเป็นฝ่ายรุกบ้าง แต่ถ้าแสดงออกมากเกินไปมันจะไม่งามเอานะ เพราะนอกจากจะนกแล้ว...ผู้ชายยังกลัวอีกด้วย” เสียงจากจูเนียร์เรียกเสียงโห่แซว จากน้องคนอื่นๆที่เห็นด้วยเป็นระลอก





    หลังจากรุ่นพี่ปล่อยแล้วโทรศัพท์จากยูคยอมก็ดังขึ้นอย่างรู้เวลา วันนี้มันมาไม่ได้ เพราะติดธุระที่บ้านก็เลยกลับก่อนตั้งแต่เรียนเสร็จ

    ฮัลโล ว่าไง

    (เป็นไงบ้างมึงพี่ได้พูดถึงคนที่ไม่เข้าไหมวะ)

    ก็ไม่เห็นพูดอะไรเลย

    (จริงหรอ)

    เออ วันนี้ก็รุ่นพี่แค่แนะนำตัวนิดหน่อย ก็ไม่มีอะไรมาก

    (เออ ถ้าอย่างนั้นก็ดี กูนึกว่าจะโดนลงโทษอะไรซะแล้ว)

    แค่นี้ก่อนนะยูค เดี๋ยวกูโทรไปใหม่

    สายตาที่กำลังสอดส่ายไปตามถนนได้เจอบางอย่างที่น่าสนใจเข้า จึงรีบบอกลาปลายสายอย่างเร็ว แล้วเดินตามคนคนนั้นไป    


    คนที่ถูกตามก็ไม่ได้รู้ตัวไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิด เพราะมัวแต่สนใจถนนข้างหน้า ในใจก็คิดว่าจะไปทันที่ประจำทันมั้ย ยิ่งช่วงหลังๆมานี่ คนเข้าห้องสมุดเยอะจนน่าตกใจ แต่ว่ามีคนเข้าห้องสมุดเยอะแบมแบมก็แอบดีใจนะ แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นนี้ก็สนใจการอ่านเหมือนกัน


    ว้าว ทันแหะ


    แบมแบมรีบกางหนังสือทันทีที่มาถึงโต๊ะประจำ ที่เขาชอบนั่งตรงนี้เพราะว่าตรงนี้คนน้อย เหมาะสำหรับอ่านหนังสือ ตรงข้ามกันเป็นกระจกใสที่มีสวนสวยๆให้มองได้อย่างเพลินตา เวลาอ่านหนังสือมากๆแล้วได้มองธรรมชาติสีเขียวไปด้วยมันมีสมาธิมากกว่าที่จะอ่านเองในห้องซะอีก ถ้าสายตาล้าๆก็สามารถพักมองสวนเล็กๆนี้ได้ด้วย


                  ตอนนี้ในห้องสมุดคนไม่เยอะนัก คงจะเป็นเพราะว่าวันนี้มีรับน้องละมั้ง วันนี้คณะเขาปล่อยเร็วเพราะไม่อยากให้น้องๆต้องเครียดเยอะ ลำพังแค่เรียนก็หนักอยู่แล้ว พวกเขาก็เลยปรึกษากันก่อนที่จะรับน้องแล้วว่าเอาแค่เบาๆพอ ไม่ต้องไปบ้าจี้ตามปีก่อนๆหรอก




    ขอโทษนะครับ นั่งด้วยคนได้มั้ยครับ


    เฮือก


    เพราะมัวแต่คิดอะไรไปเพลินๆ ก็เลยสะดุ้งตกใจกับเสียงที่แทรกเข้ามาขัดจังหวะอย่างกะทันหันข้างๆหู

    ขวับ

    แบมแบมหันขวับไปมองต้นเสียงอย่างรวดเร็วก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะตอนนี้หน้าเขากับอีกคนใกล้กันจนต้องกลั้นหายใจ ทุกอย่างเหมือนถูกสะกดให้หยุดตามจังหวะหายใจไปด้วย

    คนตัวโตยิ้มนิดหน่อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนตัวเล็กตรงหน้า ขนาดทำหน้าเหวอยังน่ารักขนาดนี้

    ได้มั้ยครับ

    ถามอีกรอบเมื่อคนตรงหน้ายังไม่ยอมตอบอะไร เอาแต่จ้องหน้าเขาอยู่อย่างนั้น นี่ถ้ายังไม่เลิกจ้อง...อีกนิดเดียวเขาจะฉุดกลับบ้านจริงๆแล้วนะ

    อ่อ...ได้ครับ

    แบมแบมรีบพยักหน้าตอบ แล้วหันกลับไปทำเป็นสนใจหนังสือตรงหน้าเหมือนเดิม ในใจก็อดค่อนเหน็บตัวเองไม่ได้ ที่มองเขานานจนเสียมารยาทขนาดนั้น


    ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะแอบมองหรอก แค่ตกใจเท่านั้นที่หน้าเราใกล้กันมาก แต่ต่อมาพอได้เห็นหน้าตาชัดๆกลับควบคุมสายตาไม่ได้ซะงั้น ก็คนคนนี้หน้าตาดีเอามากๆเลยล่ะ ถึงจะดูร้ายๆเพลบอยๆหน่อยก็เถอะ แต่แบมแบมคิดว่ามันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้ชายเลยล่ะ คงจะมีผู้หญิงมาชอบเยอะแน่เลย น่าอิจฉาจริงๆเลยแบมแบมก็อยากมีเสน่ห์แบบนี้บ้าง



    ขอโทษนะครับ แบมแบมอึดอัดรึเปล่า

    มาร์คหันไปถามคนตัวเล็กข้างๆที่นั่งทำตัวแข็งทื่อ ตาล่องลอยเหมือนไม่ได้สนใจหนังสือ

    หืม ปะ..เปล่าครับ...แต่ว่าคุณรู้จักแบมด้วยหรอ

    ก็เราเพิ่งเจอกันนี้ครับ

    เอ๋ เจอกัน? ทำไมแบมจำไม่ได้เลย

    ว้า~ น่าน้อยใจจัง ผมเป็นรุ่นน้องแบมแบมนะครับ

    มาร์คยกปากขึ้นน้อยๆทำทีเป็นงอน แบมแบมเมื่อเห็นแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่

    อ่า จริงหรอครับ ขอโทษนะครับ แบมนี่แย่จังเลย รุ่นน้องตัวเองแท้ๆแต่กลับจำไม่ได้

    ช่างเถอะครับ ผมก็แค่ผู้ชายหน้าตาธรรมดาๆ ไม่ได้เด่นอะไร แบมแบมจำผมไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอก มาร์คตัดพ้อ

    ไม่ใช่หรอกครับ คุณไม่ได้หน้าตาธรรมดาหรอก...หน้าตาดีมากล่ะ แต่ตอนไปยืนข้างหน้าข้างหน้าเมื่อกี้แบมเขินๆก็เลยไม่ได้มองใครเลย



    ก็ได้ครับ ผมจะไม่โกรธก็ได้..." มาร์คเว้นจังหวะก่อนจะกระตุกยิ้มออกมา 


    "..."


    "...ถ้าแบมแบมเลี้ยงข้าวผม


    “แค่เลี้ยงข้าวเองหรอครับ ได้สิ



    พอได้ฟังคำตอบที่พอใจแล้วมาร์คต้วนก็แอบยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์  ไม่ให้คนตัวเล็กได้เห็น 





    “ว่าแต่คุณชื่ออะไรหรอครับ” แบมแบมถามเพราะคุยกันมาก็สักพักหนึ่งแล้วแต่ยังไม่รู้จักชื่อของอีกฝ่ายเลย


    “มาร์คต้วนครับ...เรียกมาร์คเฉยๆก็ได้”

    “อ่า...ได้ครับ งั้นแบมเรียกคุณว่าคุณมาร์คก็แล้วกัน”

    คนตัวเล็กยิ้มแฉ่งให้รุ่นน้องตรงหน้าทันทีที่แนะนำตัวเสร็จ

    “...ว่าแต่เราจะไปทานที่ไหนกันครับ”

    “ผมมีร้านที่ชอบอยู่แล้วล่ะ” มาร์คตอบยิ้มๆ

    “โอเคครับ แต่อย่าไกลมากนะ...เดี๋ยวหารถเมล์ลำบาก” พอคนตัวเล็กพูดจบมาร์คต้วนก็ระเบิดหัวเราออกมาอย่างหนัก จนแบมแบมต้องกลับไปทบทวนคำพูดใหม่เพราะไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป


    “แล้วทำไมต้องนั่งรถเมล์ให้ลำบากล่ะครับ”

    “ก็แบมไม่มีรถนี่ครับ เย็นๆแบบนี้รถติดไม่อยากเสียเงินค่ารถแท็กซี่แพง ๆ ด้วย" แบมแบมพูดพลางทำหน้ายู่ ราวกับกำลังอ้อนมาร์คต้วนอยู่ "คุณมาร์คคงไม่อยากให้แบมเสียเงินเยอะ ๆ หรอกใช่มั้ยฮะ”

    ทว่าท่าทางที่ถูกแสดงมา ทำให้คนมองได้แต่ข่มใจเก็บอาการอยู่ลึกๆ


    ‘ใครสอนให้ตัวแบบนี้เนี่ย...ไม่รู้รึไงว่ามันน่าฟัด’ 


    “ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นครับ คือว่า...ผมเอารถมา” มาร์คว่าพลางสงบสติอารมณ์ตัวเองอย่างยากลำบาก


    “ก็คุณมาร์คไม่ยอมพูดให้เร็ว ๆ” 


    “คร้าบๆ ผมขอโทษครับ”


    พอได้ยินคำพูดที่พอใจแล้วแบมแบมจึงฉีกยิ้มออกมาทันที








    “สวยจัง” แบมแบมเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ารถหรูคันหนึ่งเข้าเพราะความสวยสะดุดตาของมันทำให้คนตัวเล็กถูกสะกดให้เดินตามมาหยุดอยู่ตรงหน้า


    “ชอบหรอครับ”


    “มากๆเลยล่ะ แต่มันแพงมากเลยนะครับคุณมาร์ค เมื่อก่อนแบมเคยคิดว่าถ้าเรียนจบแล้วจะทำงานเก็บตังค์แล้วซื้อ แต่พอลองเช็คราคาดูแล้ว กดปิดแทบไม่ทันแหนะ ถึงจะชอบขนาดไหนแต่ถ้าราคาแรงขนาดนี้แบมก็ไม่เอาด้วยหรอก เก็บเงินไว้ซื้อบ้านใหญ่ๆได้สบายๆเลยนะครับ...ไปกันเถอะครับ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งช้ำใจ” แบมแบมพูดด้วยท่าทางติดจะง่ำหงอด ขอมองรถคันสวยครั้งสุดท้ายก็ยังดีเพราะชาตินี้คงได้แค่มอง...


    “จะไปไหนล่ะครับ”

    “ก็ไปหารถมาร์คไง”

    “แล้วไม่อยากนั่งคันนี้หรอ”

    “ใครจะไม่อยากนั่งรถสวยๆบ้างล่ะครับ”

    “ก็เข้าไปนั่งสิ”

    “จะบ้าหรอคุณมาร์ค รถใครก็ไม่รู้”


    “ไม่บ้าหรอกครับ...คันนี้ของผมเอง”

    “O_o จะ..จริงหรอฮะ”


    ปิ๊บๆ 


    มาร์คยืนยันด้วยการกดรีโมทต์คอนโทรลเพื่อปลดล็อค แล้วเพื่อให้คนตัวเล็กได้แน่ใจยิ่งขึ้นก็เลยเข้าไปเปิดประตูข้างคนขับให้ซะเลย จนคนตัวเล็กตาค้าง


    “ระ..รถคุณมาร์คจริงๆหรอฮะ”

    "ก็จริงสิครับ"

    "สวยมากเลยนะครับ"

    "ขอบคุณครับ"

    "ใครได้คุณมาร์คไปเป็นแฟนคงต้องโชคดีมากแน่ๆ นอกจากจะหล่อแล้ว ยังได้นั่งรถสวยๆอีกด้วย...ชักอิจฉาแล้วล่ะสิ"


    "ถ้าอิจฉาก็มาเป็นเองซะเลยสิครับ"

    "..."


    "ฮ่าๆ ผมล้อเล่นครับ ทำหน้ายุ่งเชียว" มาร์คแอบบีบแก้มกลมๆเบาๆเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็ก ขมวดคิ้วแล้วอมลมไว้ในปากแน่น


    "แบมเป็นผู้ชาย...จะเป็นแฟนมาร์คได้ยังไงเล่า" คนตัวเล็กพึมพำออกมาเบาๆ แต่เพราะว่าอยู่ใกล้กันมาร์คก็เลยได้ยินชัดเจนทั้งประโยค






           “ไกลมากเลยนะครับ แบบนี้แบมหารถกลับยากมากแน่เลย” แบมแบมบ่นหลังจากมาถึงที่หมายแล้ว


    “ก็บอกแล้วไงว่าผมจะไปส่ง” มาร์คพูดขึ้นมาอีกครั้งเพราะคนตัวเล็กเอาแต่บอกว่าไกลๆ หารถ กลับยาก


    “ลำบากเปล่าๆครับ” 


    “สำหรับแบมแล้วผมเต็มใจ” มาร์คหันหน้ามามองหน้าหวานตรงๆ แล้วเอ่ยประโยคชวนเลี่ยนออกมา “ให้ไปรับส่งทุกวันก็ยังได้”


    “อ่า...” แบมแบมรู้สึกถึงบรรยากาศที่แปลกไป ก็เลยเงียบเพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี 

    “ผมหมายถึงเผื่อมันเป็นทางผ่านก็จะไปรับแบมได้ไง” มาร์คแถเพราะเห็นท่าทางเลิกลักของคนตัวเล็ก

    “ผมอยู่หอในนะครับ คุณมาร์คคงไม่ต้องลำบากมารับมาส่งหรอก”


    แบมแบมพูดบอกไป


    “เพื่อวันหนึ่งไม่ได้อยู่หอในไงครับ” 


    “เอ๋...ไม่หรอกแบมไม่ย้ายไปไหนหรอกครับ อยู่หอในก็สะดวกดี ค่าหอก็ถูกดีด้วย”


    “อาจจะย้ายตามแฟนก็ได้นี่ครับ” มาร์คโยนคำถามไปอย่างเจ้าเล่ห์

    “แฟนหรอ...แบมยังไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย จูเนียร์บอกว่าแบมยังเด็กอยู่เลยไม่ต้องรีบก็ได้ อยู่โสดเป็นเพื่อนกันก่อน”


    “งั้นแสดงว่าตอนนี้แบมแบมก็ยังไม่มีแฟนสินะครับ”


     “ใช่ครับ”


    มาร์คยิ้มออกมา เมื่อหลอกถามคนตัวเล็กสำเร็จ หลอกง่ายจริงๆเลยเด็กน้อยแบมแบมเนี่ย


    “คนที่ชอบก็ไม่มีเลยหรอครับ”


    “ไม่มีครับ”


    “ดีจังนะครับ...ผมก็ยังไม่มีแฟนเหมือนกัน แต่เพื่อนผมนี่สิ มีแฟนกันไปหมดแล้ว...ผมเหง้าเหงา จะชวนใครไปไหนด้วยก็ยาก” มาร์คพูดไปก็เหลือบมองคนตัวเล็กไป


              "..."


             “ถ้าเราจะสนิทกันได้มั้ยครับ เผื่อแบมว่างเราอาจจะผมไปเที่ยวด้วยกันบ้างหรือดูหนังด้วยกันบ้าง แบมว่าดีมั้ยครับ”


    “อ่า...ก็ดีนะครับปรกติผมไปแต่กับจูเนียร์ตลอดเลย ถ้ามีคุณมาร์คมาอยู่ด้วยก็คงจะสนุกมากขึ้นแน่ๆ”แบมแบมตอบออกไปอย่างใสซื่อโดยไม่ได้รู้เลยว่า ผู้ชายตรงหน้าฉีกยิ้มจนจะถึงหูแล้ว






    “ลงไปทานข้าวเถอะครับ มัวแต่คุยเดี๋ยวร้านจะปิดซะก่อน”


    แบมแบมรีบปรามเพราะกลัวว่าจะถ้าเสียเวลาไปมากกว่านี้ ร้านคงปิดก่อนจริงๆแน่

    “แบมแบมทานอะไรครับ”


    “แบมทานอะไรก็ได้ ขอแค่อร่อยก็พอ”


    “แบมทานกุ้งได้มั้ย”


    “ของชอบเลยละ”


    “จริงหรอ ผมก็ชอบ(กุ้ง)เหมือนกัน เราสองคนนี่ชอบอะไรเหมือนๆกันจังเลยนะครับ

    “ฮ่าๆๆ นั่นสิ”



    “งั้นผมสั่งตัวนี้ก็แล้วกันของโปรดผมเลย” มาร์คชี้เมนูให้แบมแบมดู คนตัวเล็กจึงพยักหน้ารับ เป็นการบอกว่าเอาด้วย มาร์คก็เลยหันไปนสั่งกับพนักงานต่อ





     

              “อร่อยจริงๆด้วยครับคุณมาร์ค”

              หลังจากตักเข้าปากเพียงไม่กี่คำ แบมแบมก็ชมไม่หยุดปาก


              “จริงหรอครับ ถ้าอร่อยก็มากับผมบ่อยๆสิ”

               “โหไกลมากขนาดนี้แบมไม่อยากรบกวนคุณมาร์คบ่อยๆหรอกครับ... แต่ถ้านานๆมาทีก็ได้นะครับ ฮ่าๆๆ”


                ที่จริงแบมแบมชอบร้านที่มาร์คพามามากๆเลยล่ะ อาหารอร่อย บรรยากาศก็ดี แถมราคายังเป็นมิตรอีกด้วย แต่ติดตรงที่มันไกลเนี่ยแหละ...จะมาก็คงมาได้ในโอกาสสำคัญเท่านั้น

                คราวหน้าอยากพาพาจูเนียร์มาบ้างจัง รายนั้นยิ่งชอบตะลอนกินอาหารเป็นชีวิตจิตใจอยู่ด้วย คงจะดีไม่น้อยถ้าได้มาลองที่ร้านนี้

               “ก็ได้ครับ”

                มาร์คได้แต่พยักหน้ารับ เพราะไม่อยากรุกให้คนตัวเล็กรู้สึกอึดอัดมากเกินไป





     

               “คุณมาร์คทำอะไรหรอครับ”

                แบมแบมหันไปถามมาร์ค หลังจากเห็นมาร์คกำลังจะจิ้มเศษกุ้งเข้าปาก ที่มันกลายเป็นเศษก็เพราะว่ามาร์คเล่นใช้ซ้อมแงะเปลือกกุ้งออกไง  ตอนนี้สภาพกุ้งก็เลยนอนอนาจเป็นเศษผักนอนตาย


                “แกะกุ้งไง” ตอบไปทั้งที่ยังใช้ซ้อมแงะตัวกุ้งให้ออกมาจากเปลือก

               “ใครเขาแกะกันแบบนั้นหละครับ มานี่เดี๋ยวแบมทำให้” แบมแบมดันมือมาร์คออกแล้วเอากุ้งมาใส่จานเปล่าแล้วบรรจงแกะมันอย่างสวยงาม จนคนมองได้แต่ทึ่งตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครมาทำแบบนี้ให้ตัวเองเลย

              “แกะเก่งจังนะครับ"

              “คุณมาร์นี่ยังไงกัน บอกว่าชอบกินกุ้ง แต่แค่แกะกุ้งยังไม่เป็นเลย”

              แบมแบมพูดพร้อมกับส่งกุ้งที่แกะเสร็จแล้วไปใส่ในจานมาร์ค

     

              “ถึงผมจะชอบกินกุ้งมากก็เถอะ แต่ไม่มีปัญญาแกะให้มันสวยๆได้หรอกครับ”

               “ฮ่าๆๆ คราวหลังถ้าอยากทานกุ้งก็บอกแบมนะ เดี๋ยวแบมจะมาช่วยแกะให้ ปรกติแบมก็แกะให้จูเนียร์เป็นประจำอยู่แล้วหละ”

               แบมแบมพูดไปด้วยความใสซื่อแต่กลับทำให้คนฟังอมยิ้มไม่ยอมหุบ

              “งั้นแบมแบมคงต้องมาทานข้าวกับผมบ่อยๆแล้วมั้ง เพราะว่าผมคงจะสั่งแต่กุ้งมากิน...แต่ว่าแบมแบมกับพี่จูเนียร์นี่สนิทกันจังเลยนะครับ”

              “ใช่ครับ แบมสนิทกับจูเนียร์ กับแจ็คสันแล้วก็แจบอมก็สนิทนะครับ แต่ว่าเนียร์เป็นรูมเมทแบมก็เลยสนิทมากกว่าคนอื่นนิดหน่อยน่ะครับ”



               แบมแบมพูดพร้อมกับลงมือแกะกุ้งที่อยู่ในจานตัวเองบ้าง เพราะมัวแต่แกะให้คนตรงข้ามจนตัวเองจะไม่ได้กิน

              “พี่จูเนียร์นี่โชคดีจังเลยนะครับที่มีคนคอยดูแลแบบแบม ถ้าผมอยากมีคนดูแลแบบนี้บ้าง ต้องทำยังไงหรอครับ”

              มาร์คพูดพร้อมกับจ้องหน้าคนตัวเล็กอย่างสื่อความหมาย จนที่โดนจ้องก็สะดุดเข้ากับสายตาวิบวับของรุ่นน้องตรงหน้าเข้า ได้แต่พยายามหลบสายตาอันตรายนั่น

              “ไม่เห็นอยากเลย มาร์คก็ให้เพื่อนมาร์คมาอยู่ด้วยสิครับหรือไม่ก็จ้างแม่บ้านให้มาคอยดูแลก็ได้”




              “ไม่เอาหรอกก็ผมอยากได้คนนี้...”



    พูดพร้อมกับชี้มาที่รุ่นพี่ตรงหน้าอย่างเจ้าเล่ห์



    ตึกตัก ตึกตัก


                แบมแบมเริ่มรู้สึกถึงความอันตรายจากผู้ชายตรงหน้านี้แล้ว ยามที่รุ่นน้องจ้องลึกลงในสายตา ราวกับมีสัญญาณเตือนภัยอะไรสักอย่างในตัวของแบมแบม ว่าให้อยู่ห่างจากผู้ชายคนนี้เข้าไว้ แต่เหมือนว่าร่างกายไม่รักดีนี้มันดันไม่ยอมฟังเอาซะเลย เพราะยิ่งรู้ว่าอันตรายแบมแบมก็ยิ่งรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์...แบมแบมเริ่มรู้สึกเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ซแล้ว

               ทั้งสองจ้องกันอยู่อย่างนั้นนานจนมาร์คต้วนต้องกระตุกปากขึ้นอย่างชอบใจ

               "ยะ..อย่ามาล้อเล่นแบบนี้สิครับ...ไม่เห็นตลกเลย”

               แบมแบมแกล้งขำกลบเกลื่อนแบบแห้งๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองกดดันมากเกินไป

              “แล้วใครว่าผมล้อเล่น”

    ทั้งสายตาและก็น้ำเสียงบอกเป็นอย่างดีว่าไม่ได้ล้อเล่น คนตัวเล็กเลยได้กลืนน้ำลาย
    เหนี่ยวๆคงคออย่างฝืนทน 


              “ไปเถอะครับแบมอิ่มแล้ว”


              แล้วเบี่ยงประเด็นไปอย่างดื้อๆ 

    'ไม่รู้ว่าทำไมรุ่นน้องตรงหน้าชอบแกล้งให้เขาทำตัวไม่ถูกอยู่เรื่อยเลย'

     

     





               หลังจากทานข้าวเสร็จทั้งสองก็มาเดินเล่นในห้างใกล้ๆเพื่อให้อาหารได้ย่อยซะหน่อย จนตอนนี้ก็เดินหลงมามาถึงโซนเครื่องเล่นแล้ว

              “คุณมาร์คครับแบมอยากเล่นตัวนี้อ่ะ จำได้ว่าตอนเด็กๆจับได้แต่ลูกอมเลย ฮ่าๆๆ”

               แบมแบมกระตุกแขนคนเดินนำเบาๆ พลางชี้ไปยังตู้เครื่องเล่นเครื่องหนึ่งที่ภายในบรรจุไปด้วยพลาสติกกลมๆสลับสี ข้างในก็จะมีพวกแหวน ลูกอม หรือของเล็กๆกระจุกกระจิกมากมาย

              ก่อนรื้อหาเหรียญสิบในกระเป๋าเพื่อไปหยอดตู้แล้วทำการหมุนทันที

              กริก

              "จะได้อะไรน๊า น่าตื่นเต้นจังเลย" มาร์คมองตามคนที่กำลังสนใจลูกกลมๆตรงหน้าเสียเต็มประดา ราวกับเด็กน้อยที่กำลังเจอของเล่นที่ถูกใจ

               “ผมขอเล่นบ้างนะครับ”

              หลังจากเห็นแบมแบมหยิบไข่ใบหนึ่งออกมาแล้ว มาร์คที่เห็นแบบนั้นก็อยากเล่นขึ้นมาบ้าง แบมแบมแกะของตัวเองออกมาแล้ว เห็นว่ามันเป็นแหวนสีเงินไม่มีลาย จึงหยิบออกมาดูใกล้ๆ
    'ก็น่ารักดีนะ'

    กริก

    เมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรกำลังตกลงมาจึงหันไปสนใจบ้าง มาร์คหยิบลูกบอลจิ๋วออกมาก่อนจะเปิดออกเสียงดัง โป๊ะ!


              “ว้าว!! คล้ายๆกันเลยนะครับ”

                แบมแบมยกแหวนสีเงินไปเทียบใกล้ๆกับแหวนที่อยู่ในมือมาร์ค ซึ่งเป็นลักษณะแบบเดียวกันแป๊ะเลย แต่ของแบมแบมนั้นใหญ่กว่านิดหน่อย

               “ผมว่าของผมมันเล็กไปนะครับ น่าจะพอดีกับมือแบมเลยมั้ง”

              มาร์คเอาแหวนของตัวเองไปเทียบกับมือเล็กๆนั่น 

               “อืม...”

               แบมพยักหน้าไปตามน้ำ จริงๆถ้ามันเล็กไปก็เปลี่ยนมาใส่นิ้วก้อยก็ได้นิ คนตัวเล็กคิดแบบนั้นแต่ไม่กล้าท้วงออกไป







              “งั้นแลกกันดีกว่านะ”



                มาร์คขยับไปใกล้แบมแบมอีกนิดหน่อย แล้วจับมือข้างซ้ายนั้นขึ้นมา พร้อมกับค่อยๆบรรจงสวมแหวนของตัวเองลงบนนิ้วนางของคนตัวเล็ก

             


                “จองแล้วนะครับ”

























    07.01.2017

    อัพในโทรศัพท์เหมือนเดิม เดี๋ยวว่างอีกทีจะมาจัดใหม่นะคะ อิอิ




    06.01.2017

    ฮาโลลลมาแล้วๆ พอดีอีฟอัพในโทรศัพท์ง่ะ อาจจะมีงงๆบ้าง ตัวหนังสือไม่สวยด้วย หือออ ยังไงก็ให้อภัยกันด้วยน้าาาา



    04.01.2017
    30%

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้าาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×