ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฉันและเขา...เมื่อเรารักกัน

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 - พบเจอ

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 51



    กลุ่มไอน้ำสีขาวที่พวยพุ่งออกมาพร้อมกับบานประตูที่ถูกผลักจากด้านใน
    เผยให้เห็นชายหนุ่มผิวเข้มคนหนึ่งเดินทอดน่องออกมา ด้วยความสูง
    หกฟุตกว่าทำให้เจ้าของร่างนี้แลดูสูงใหญ่โดดเด่นกว่าผู้ชายคนอื่นๆ ในห้อง
    เขาเดินไปเรือยๆ ผ่านผนังทั้งสองข้างที่เต็มไปด้วยล๊อกเกอร์สีเทาเล็กๆ
    จำนวนมาก หายเข้าไปยังพื้นที่ในส่วนที่เป็นห้องอาบน้ำเพียงครู่
    ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่หน้ากระจกเงาติดผนังบานใหญ่ที่มุมห้อง
    เงาในกระจกสะท้อนให้เห็นชายหนุ่มคนเดิม ร่างที่เต็มไปด้วยหยดน้ำ
    มีผ้าเช็ดตัวสีขาวพันท่านล่างอยู่อย่างหมิ่นเหม่ หน้าอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม
    บอกให้รู้ถึงการดูแลร่างกายอย่างสม่ำเสมอของเจ้าของ เขาค่อยๆ
    ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเช็ดเส้นผมดำสนิทที่ตอนนี้เปียกชุ่ม ใบหน้าคมคาย
    บวกกับจมูกโด่งเป็นสันรับกับคิ้มเข้มอย่างเหมาะเจอะนั้น
    ทำให้สาวใดที่ได้พบเจอหลงไหลได้ไม่ยาก


    กฤติวางผ้าเช็ดตัวผืนเปียกไว้กับที่นั่งหินอ่อนด้านล่างล๊อกเกอร์
    ที่ได้จับจองไว้ พร้อมกับไขกุญแจหยิบเสื้อออกมาสวม
    ในช่วงเย็นของทุกวัน เขามักจะมาออกกำลังกายและอบซาวหน้าที่นี่
    เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดจากการทำงานหนัก
    แถมไม่ต้องไปสมัครใช้บริการของที่ไหนเพราะที่นี่เป็นของเขาเอง


    ฟิตเนตแห่งนี้เกิดขึ้นจากนิสัยรักการออกกำลังกายของเขาและแนวคิด
    ประจำใจส่วนตัวที่ว่าการจะมีชีวิตที่สวยงามอย่างแท้จริงนั้น
    นอกจากจะมีร่างกายที่แข็งแรงแล้วยังต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง
    ควบคู่กันไปด้วย  จากสถานออกกำลังกายเล็กๆ ที่สร้างขึ้นเมื่อห้าปีก่อน
    ปัจจุบันมันได้เติบโตและขยายสาขาออกไปมากมาย


    สาขานี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ด้านข้างของห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางเมืองหลวง
    แบ่งออกเป็นห้าชั้น ชั้นล่างไว้สำหรับคลาสออกกำลังกาย ลู่วิ่ง
    เค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์ ห้องขนาดเล็กเพื่อเก็บเอกสาร
    และมุมสำหรับผู้ที่มาติดต่องาน ชั้นที่สองจะเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกาย
    สำหรับสร้างสมรรถภาพของกล้ามเนื้อและห้องอาบน้ำของสุภาพบุรษ
    ชั้นสามและสี่จะเป็นห้องออกกำลังกายห้องอาบน้ำแต่งตัวที่เป็นโซน
    สำหรับสุภาพสตรีโดยเฉพาะ ถัดขึ้นไปหนึ่งชั้นคือสระว่ายน้ำ ส่วนชั้นห้า
    เป็นพื้นที่สำหรับโยคะร้อนทั้งหมด เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลสาขา
    เขาจึงเช่าพื้นที่ของตึกฝั่งตรงข้ามสำหรับตั้งเป็นออฟฟิตสำนักงาน
    พอหลังเลิกงานก็จะเดินข้ามฝั่งมาออกกำลังกายที่นี่

     
    กฤติเดินออกจากพื้นที่ที่เป็นห้องอาบน้ำแต่งตัวของสุภาพบุรุษ
    ตรงไปยังเคาเตอร์สำหรับคืนผ้าเช็ดตัว ที่นี่มีบริการผ้าเช็ดตัวฟรีสำหรับ
    สมาชิก ไม่แปลกใจเมื่อพนักงานสาวประจำเค้าเตอร์สิ่งยิ้มหวานหยดย้อย
    พร้อมกับยื่นบัตรสมาชิกฟิตเน็ตคืนให้เขา ชินเสียแล้วกับสายตาชื่นชมแบบนี้

    กฎของการใช้ตู้ล็อคเกอร์คือห้ามมีการทิ้งของไว้ข้ามวัน ใครที่เข้ามาใช้
    บริการต้องเอาแม่กุญแจดอกเล็กมาปิดตู้เอง และเมื่อออกกำลังกายอาบน้ำ
    แต่งตัวเสร็จแล้ว ก็ต้องหอบบรรดาข้าวของกลับไปด้วย
    ให้เหลือเพียงตู้ที่ว่างเปล่าเพื่อให้ผู้ใช้บริการท่านอื่นที่เข้ามาใช้บริการได้ใช้
    แม้จะเป็นเจ้าของกิจการ แต่เขาก็ตั้งใจจะทำตามกฎ


    กฤติส่งยิ้มน้อยๆ ให้กับพนักงานเทรนเนอร์ที่คอยให้บริการอยู่ตามพื้นที่
    ของชั้นสาม มองเรื่อยไปยังเครื่องออกกำลังกายต่างๆ
    ที่มีคนเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
    เพราะมีนัดกินข้าวกับน้องพิ้งกี้ ประชาสัมพันธ์สาวที่ได้รู้จักเมื่ออาทิตย์ก่อน
    พิ้งกี้จัดเป็นสาวสวยเก่งมั่นใจคนหนึ่ง ครบสูตรสาวทำงานยุคใหม่
    เธอทำงานอยู่ในบริษัทที่เขาเข้าไปติดต่องานด้วย
    เพียงแค่สัปดาห์เศษความสัมพันธ์ของเขากับพิ้งค์กี้ก็พัฒนาขึ้นต่อเนื่อง
    รวดเร็วราวจรวดมิดไซน์ แม้จะไม่ได้คาดหวังถึงความสัมพันธ์ที่ยาวนาน
    แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฎิเสธนี่นะ..

    ความคิดของเขามาหยุดลงที่ชั้นหนึ่ง เมื่อสายตาเหลือบไปเห็น
    พนักงานสี่ห้าคนถกเถียงอะไรบางอย่างอยู่ตรงมุมที่เป็นโซนสำหรับลู่วิ่ง


    “เกิดอะไรขึ้นหรือมงคล”


    ผมเอ่ยถามไปด้วยน้ำเสียงแปลกใจพอๆ กับสีหน้า


    " มีลูกค้าผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลมตกลงมาจากลู่วิ่งครับ
    ตอนนี้เรากำลังให้นอนพักอยู่ที่ห้องกลาง คิดว่าคงเกิดจากการโหม
    ออกกำลังกายมากเกินไปน่ะครับ "

    มงคลหัวหน้าเทรนเนอร์ประจำชั้นหันมาตอบผม พร้อมกับไล่เลียงให้ลูกน้อง
    ไปประจำตามจุดเพื่อคอยดูแลลูกค้าเหมือนเดิม เหตุการณ์แบบนี้
    แม้จะเกิดขึ้นไม่บ่อยนักแต่เราก็เตรียมป้องกันไว้ โดยเทรนเนอร์ทุกคน
    จะต้องผ่านคอร์สวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพราะอาจมีกรณีฉุกเฉิน
    ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการออกกำลังกาย
     

    ผมพยักหน้ารับรู้ให้มงคลกลับไปทำหน้าที่ของตน จากนั้นจึงเดิน
    ไปที่ห้องกลาง เพื่อดูหน้าลูกค้าคนที่ออกกำลังเสียจนร่างกายรับไม่ไหว
    เสียหน่อย ห้องกลางคือห้องขนาดสี่คุณห้าเมตรผมทำไว้สำหรับ
    ให้พนักงานเข้ามาพักผ่อนตามอัตถยาศัยหรือแม้แต่นัดประชุมย่อย
    แต่ละเดือน ในทุกสาขาจะมีห้องนี้อยู่หนึ่งห้องสร้างติดอยู่กับห้องพัก
    ของเทรนเนอร์เพื่อความสะดวกของการใช้สอย

     
    สงสัยเด็กผู้หญิงที่ตกลู่วิ่ง คงจะเป็นพวกเด็กวัยรุ่นที่ฟิตหุ่นลดความอ้วน
    เป็นแน่ นี่คงท้องว่างแล้วมาออกกำลังกายล่ะสิ เด็กสมัยนี้
    ไม่รู้จะอยากผอมไปทำไมนักหนา บางคนผอมบางจนแทบจินตนาการ
    ไม่ออกว่าลำไส้ของเจ้าหล่อนไปขดกันอยู่ที่ตรงไหน
    ไม่วายยังจะว่าตัวเองอ้วน ไอ้การออกกำลังกายลดความอ้วนนี่
    ผมก็ชมชอบอยู่หรอกนะ เพราะตัวผมเองก็ออกกำลังอยู่สม่ำเสมอ
    เหมือนกัน ถ้าอยากดูดีก็ต้องดูแลตัวเองเป็นเรื่องที่เราเลือกปฎิบัติได้
    แต่การหักโหมออกจนร่างกายรับไม่ไหวนี่สิ ช่างไม่รู้จักการ
    เดินสายกลางกันซะจริงๆ ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่งผมล่ะก็
    คงต้องจับมาดุด่าว่ากล่าวกันบ้างแล้ว


     
    ผมเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องกลางมองเข้าไปเห็นหลังของเทรนเนอร์หญิง
    คนหนึ่งกำลังเอาพัดพัดให้คนป่วย อีกคนถือยาดมอยู่ข้างๆ
    แต่เมื่อมองลงไปยังคนที่นอนอยู่บนโซฟาสีแดงก็ต้องแปลกใจ
    เป็นครั้งที่สอง ก็ภาพเด็กหญิงวัยรุ่นร่างเล็กที่หักโหมกับการออกกำลังกาย
    ในความคิด กลับแทนที่ด้วยสาวหน้ากลมร่างอวบ
    (ที่ดูแล้วเหมือนจะเป็นระยะสุดท้ายเสียด้วย) นอนอยู่แทน


    “สลบไปราวสองนาทีแล้วค่ะ อีกไม่นานคงฟื้น”


    พนักงานคนหนึ่งหันมาบอกผมเมื่อเห็นผมไปยืนอยู่ข้างๆ


    ผมมองไปยังใบหน้ากลมซีดเผือดปราศจากเครื่องสำอางใดๆ ทั้งสิ้น
    ดูแล้วอายุอามนามก็น่าจะซักยี่สิบห้ายี่สิบหกเข้าไปแล้ว
    ไม่ใช่เด็กรุ่นเสียหน่อย  ทำไมถึงไม่รู้จักสภาพร่างกายตัวเองนะ
    แอบรู้สึกขัดใจกับหุ่นของคุณเธอเล็กน้อย พลันสายตาก็มองไปที่
    ผิวขาวอมชมพูตรงต้นขาที่โผล่พ้นกางเกงออกมา เรื่อยไปยังเสื้อยืด
    กลางเก่ากลางใหม่สีดำจนถึงใบหน้า หน้าตาก็จิ้มลิ้มดีหรอก
    แต่ไม่น่าอ้วนเลย ทำไมไม่รู้จักดูแลตัวเองนะ
    ปล่อยให้อ้วนจนขนาดนี้ได้ไงเนี่ยะ


    เอ๊ะ!!! แล้วนี่ผมจะมัวมานั่งวิจารณ์เธอในใจทำไมกัน
    ไม่ใช่เรื่องของผมเสียหน่อย

     
    “ดูแลให้ดีนะ”


    ผมหันไปบอกพนักงานสองคนนั้นก่อนเดินออกไป
    วันนี้ผมมีนัดกับพิ้งกี้ไว้ ต้องรีบไปเสียทีก่อนที่คุณเธอจะโกรธ...
    ใครเล่าจะอยากมีเรื่องกับผู้หญิงโกรธแม้จะสวยแค่ไหนก็เถอะ
    พอโกรธแล้วก็วุ่นวายพอกัน ต้องตามง้อให้น่าเหนื่อยหน่ายหัวใจ
    คิดได้ดังนั้น..ก็รีบบึ่งไปยังรถสปอร์ตสีดำคันงาม
    ขับไปรับสาวเจ้าไปทานข้าวโดยเร็ว ในใจมีแต่หน้าของน้องพิ้งกี้สุดสวย
    ลืมภาพของสาวร่างอวบไปตั้งแต่วินาทีที่ก้าวขาออกจากห้อง

    โปรดติดตามตอนต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×