ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { exo } Bibliomania ♡ kaido

    ลำดับตอนที่ #6 : B i b l i o m a n i a 。05

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 58


     

    Ti penso sempre





     

    โดคยองซูกำลังมีภารกิจที่เขาต้องทำมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มันคืออะไรน่ะเหรอ ..

                ก็ภารกิจที่เขาต้องตามง้อเพื่อนสนิทให้หายงอนที่เขาลืมแบคฮยอนแล้วทิ้งไว้ที่ร้านอาหารนั่นน่ะสิ เขาไม่ได้ตั้งใจลืมสักหน่อย มันเป็นแค่เหตุสุดวิสัยต่างหาก

     

                แบคฮยอนเพียงแค่ทำหน้างอง้ำเมื่อหันมาสบตากับเขาโดยบังเอิญ โชคดีที่นี่เป็นคาบสุดท้ายของช่วงเช้า เขาจะได้ตั้งใจง้อเพื่อนตัวเล็กคนนี้ในคาบเที่ยงอย่างเต็มที่

    เสียงออดบ่งบอกเวลาเลิกคาบ นักเรียนหลายคนรีบลุกขึ้นแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงนั่น รวมทั้งแบคฮยอน แต่คิดเหรอว่าจะหนีเขาไปทัน

     

                แบคฮยอนอา

                “ . . . ”

                “จะรีบไปไหน เขารีบวิ่งไปดึงแขนเพื่อนตัวเล็กไว้ที่นานปีทีหนจะงอนเขา แต่ความจริงแล้วมันก็น่างอนอยู่หรอกนะ ถ้าเป็นเขาก็คงจะโกรธเลยล่ะมั้ง คงไม่ใช่แค่งอนหรอก

     

                ไปกินข้าวแบคฮยอนเบะปาก มันดูตลกปนน่าเอ็นดู ในสายตาของคยองซู

                ขอโทษนะ. .” ผมพูดออกไปอย่างรู้สึกผิด

                ไม่เอา ไม่ฟังมือเล็กยกขึ้นปิดหูแล้วส่ายหน้าไปมาจนผมม้ายุ่งไปหมด ผมเริ่มอ้าปากค้างเมื่ออะไรสักอย่างกำลังจะเกิด

     

                แบคฮยอนอา . .

                อย่าเพิ่งร้องไห้นะ ได้โปรด

     

                แบคฮยอนมองหน้าผม ริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่นจนเมื่อทนแรงสะอื้นไม่ไหวมันก็เริ่มคลายออกพร้อมๆกับเสียงร้องไห้ ดวงตาใสแจ๋วคลอไปด้วยน้ำตา

                ผมลืมบอกไปหรือเปล่า บยอนแบคฮยอน นอกจากจะเป็นเพื่อนที่สติไม่ค่อยดีแล้ว เขายังเป็นมนุษย์ที่ขี้แยที่สุดในโลก !

     

                ผมลนลานและทำอะไรไม่ถูกอีกครั้ง แบคฮยอนเคยร้องไห้เพราะผมแต่มันก็นานมาแล้ว แต่ให้ตายซี โชคดีที่ในห้องเรียนไม่มีใครอยู่เลย ผมไม่ได้อยากทำให้แบคฮยอนร้องไห้หรอกนะ

                บยอน แบคฮยอนร้องไห้กับทุกเรื่องที่เขาคิดว่ามันเศร้า แค่อาจารย์เรียกหรือถามไถ่อะไรหน่อยเดียว ดวงตาของเพื่อนสนิทตัวเล็กคนนี้ก็มักจะรื้นด้วยน้ำตาเสมอ

     

                แบคฮยอนร้องไห้กับทุกอย่างบนโลกนั่นแหละ ไม่ว่ามันจะเศร้าหรือไม่เศร้าก็ตาม

     

                โอ๋เอ๋นะ ไม่ร้องนะ โอ๋นะ เราขอโทษผมดึงร่างเล็กมากอดแล้วโยกไปมา

                “ฮือ เรารอคยองซูอยู่นะ เราโทรไปตั้งหลายรอบก็ไม่รับสาย เราเป็นห่วงมากๆเลยแบคฮยอนสะอื้นฮักพลางสูดน้ำมูกอยู่ในอ้อมกอดของผม

    ขอโทษนะแบคฮยอนผมผละออกมาแล้วบอกขอโทษอีกครั้ง จมูกเล็กๆตรงหน้าเริ่มเป็นสีแดง ผมระบายยิ้มออกมาก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดในวันนั้นให้เขาฟังในขณะที่เราสองคนเดินลงไปยังโรงอาหารเพื่อหาอะไรทานสำหรับมื้อเที่ยง

     

                เราบังเอิญเจอคนรู้จักน่ะ

                “ใครเหรอแบคฮยอนสูดน้ำมูกเสียงดังจนคนด้านข้างหันมามอง เพื่อนตัวเล็กขยี้จมูกไปมาจนมันเป็นสีแดงยิ่งกว่าเดิม อ่า ถ้าเขาจะหัวเราะมันคงไม่ดีสินะ

     

                เขาชื่อคิมจงอิน เราไปเล่นกับเจ้าตัวโตมาน่ะ

                “เจ้าตัวโต ?”

                “อื้ม ไซบีเรียน ฮัสกี้ตัวยักษ์เลยแหละ

                “ง่ะ เราแพ้ขนหมาอ่ะแบคฮยอนบอก ในขณะที่กำลังนั่งลงที่โต๊ะว่างตัวหนึ่งในโรงอาหาร ผมเลยอาสาไปซื้อข้าวให้เขาและให้เขาเฝ้าโต๊ะเอาไว้

     

                เมื่อกวาดสายตามองชื่อเมนูอาหารอยู่เพียงสักพักผมก็เดินไปเข้าแถวรอซื้อ แต่บทสนทนาของเด็กนักเรียนในแถวกลับทำให้ผมสนใจเสียยิ่งกว่าเมนูอาหารที่กำลังจะสั่งเสียอีก

     

                จริงเหรอแทยง

                “ได้ยินมาประมาณนั้นอ่ะ ก็พี่ฉันเป็นพนักงานร้านนั้นนี่

                “โห มีคนขโมยหนังสือ แต่ก็มีคนอีกคนที่ไม่รู้ว่ารู้จักกันหรือเปล่าไปจ่ายเงินให้เนี่ยนะ ประหลาดสุดๆ

                “อาฮะ นู่นไปสั่งเร็วเตนล์ ถึงคิวแล้ว

     

                แล้วบทสนทนาของสองคนนั้นก็จบลง แต่มันกลับตะขิดตะขวงในใจของผมมาก มากเหมือนกับว่าผมเป็นคนๆนั้นที่ไปขโมยหนังสือ . .

                ให้ตายสิ ผมลืมไปเสียสนิทเลยว่ายังไม่ได้ไปจ่ายเงินที่ร้านหนังสือร้านนั้น

     

                คนในประโยคสนทนาคงไม่ใช่ผมใช่ไหมครับ ?

     

     

     

                คยองซูนับเวลารอให้เลิกเรียนไวๆเพื่อที่เขาจะได้ไปจ่ายเงินของหนังสือที่หยิบไปเมื่อหลายวันก่อนนู้น แบคฮยอนมองเขาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ดีแล้วล่ะ เขาไม่ค่อยอยากจะบอกเรื่องนี้สักเท่าไรนัก

                เพียงไม่นานนักก็เลิกเรียน คยองซูรีบเก็บของใส่กระเป๋านักเรียนก่อนจะบอกกับแบคฮยอนว่าตัวเองนั้นรีบ เพื่อนสนิทตัวเล็กพยักหน้ารับคำก่อนจะโบกมือลาอย่างเอาเป็นเอาตาย

     

                เขาใช้เวลาไม่นานนักในการเดินจากโรงเรียนไปยังร้านหนังสือ คยองซูสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วผ่อนออก

    ถ้าถามว่าเขารู้สึกเครียดหรือเปล่า ตอบได้เลยว่าเครียดมาก เขากังวลมากจริงๆนะเพราะในโพสท์อิทเขียนไว้ว่าจะเอาเงินมาจ่ายซึ่งมันก็น่าจะตีความได้ว่าวันถัดจากวันนั้นหนึ่งวันแต่นี่เขากลับลืมมาจ่ายเงินทั้งๆที่มันผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว . .

     

    ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ฮึบๆ ท่องไว้ สู้เขานะโดคยองซูเด็กหนุ่มเปล่งเสียงให้กำลังใจตัวเองเบาๆก่อนจะเปิดประตูร้านเข้าไป

     

                กลิ่นอายความเงียบสงบภายในร้านเริ่มทำให้คยองซูรู้สึกเหมือนตัวเองประสาทจะกินเสียให้ได้ มันเงียบ เงียบจนถ้าพูดออกไป หลายคนในร้านนี้ก็อาจจะได้ยินประโยคที่เขาพูดเลยก็ได้

     

                สองขาก้าวตรงไปยังเค้าท์เตอร์คิดเงินด้วยความประหม่า

     

                สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ

                “เอ่อ คือว่า. . ที่นี่มีข่าวคนขโมยหนังสือเหรอครับ

     

                คยองซูพูดออกไปแล้ว เขาแค่เปลี่ยนรูปประโยค .. นิดหน่อย

     

                อ๋า ข่าวรั่วไปได้ยังไงนะพนักงานคนนั้นบ่นอุบกับตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบเสียงดังฟังชัดกับเขา

                “จะว่าใช่ก็ใช่ค่ะ เป็นครั้งแรกด้วยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่บังเอิญว่ามีคนอีกคนจ่ายเงินให้แทนแล้วน่ะค่ะ

                เหรอครับ. .

                “พอดีมีลูกค้าในร้านเห็นน่ะค่ะ แต่ทางเราก็ไม่ได้เปิดดูกล้องวงจรปิดหรอกนะคะ เพราะยังไงก็ไม่มีอะไรเสียหาย

                “ . . . ”

                “อ้อ ใช่แล้วค่ะ ผู้ชายคนนั้นเขาบอกว่าคนที่หยิบหนังสือติดไปแต่ยังไม่จ่ายเงินน่ะเป็นแฟนของเขาเอง สงสัยคงจะงอนกันมั้งคะ เลยมึนๆหยิบหนังสือติดไป คิก ฮ่ะๆ

                “ห้ะ

                “แต่ผู้ชายคนนั้นหล่อมากเลยนะคะ แถมยังใจดีจ่ายเงินให้แฟนด้วย ฮ่ะๆพนักงานคนนั้นบอกเขาอีกครั้ง

     

                เป็นผู้ชายที่หล่อมาก แถมยังใจดีมาจ่ายเงินค่าหนังสือให้เขาอีก . .

     

                ใครกันนะ

     

                แต่มันผิดเพี้ยนไปก็เรื่องที่กล่าวหาว่าเขาเป็นแฟนเนี่ยสิ ยังไงก็แล้วแต่เขาคนนั้นคงอยากจะช่วยสินะเลยต้องทำเป็นว่าเรารู้จักกัน

     

     

                โด คยองซูเดินออกมาจากร้านด้วยความงงปนโล่งใจ ที่ไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น ครั้งหน้าเขาต้องควบคุมตัวเองให้ดีกว่านี้แล้วล่ะ

                แต่เรื่องของผู้ชายปริศนาคนนั้นมันวนเวียนไปมาในวังวนความคิดของคยองซูอยู่ตลอดเวลา เขาแค่อยากเจอคนๆนั้นเพื่อที่จะขอบคุณที่ช่วยเขาไว้

               

                เมื่อคยองซูเงยหน้าขึ้นจากพื้น เขาก็พบกับป้ายชื่อร้านที่รู้สึกคุ้นอย่างประหลาด

     

              K’ bloome

     

    เพราะมันคือร้านดอกไม้ของคิม จงอิน เจ้าของเจ้าตัวโตที่น่ารักที่สุดในโลกน่ะสิ

     

     

     

     

     

     

                โฮ่งๆ

     

              หืม เห็นเหมือนกันเหรอจงอินละสายตาจากบุคคลที่เขามองอยู่ก่อนจะหันไปคุยกับเจ้าตัวยักษ์

                มันครางหงิงๆเหมือนกำลังรู้สึกสนุกและอยากออกไปวิ่งเล่น หรือไม่ก็อาจจะเจอใครสักคนที่มันชอบหรือถูกใจ และเขาก็คิดว่าคงหนีไม่พ้นเด็กผิวขาวที่กำลังยืนมองป้ายชื่อร้านของเขาจากร้านหนังสือฝั่งตรงข้ามเป็นแน่

                เหมือนว่าคยองซูจะมองไม่เห็นเขาแต่ก็ดีแล้วล่ะ เดี๋ยวเด็กคนนั้นก็ได้กล่าวหาเขาว่าเป็นสตอล์กเกอร์กันอีกพอดี

                ว่าแต่คยองซูมาที่ร้านหนังสือทำไมนะ มาซื้อหนังสือหรือมาจ่ายเงินที่ค้างไว้ ?

     

                ช่างเถอะ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาสักหน่อยนี่นา

     

                จงอินขยี้ขนนุ่มบริเวณศีรษะของเจ้าตัวโตอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป แต่เสียงเห่าของมันก็ยังคงมีอยู่

     

                มานี่มาจงอินกวักมือเรียกเพื่อนสนิทที่ยืนมองคนตัวเล็กฝั่งตรงข้ามกำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆ

                อยากเล่นกับเขาเหรอมันครางตอบอย่างน่ารัก

                อ่า แต่อดทนหน่อยนะ

                “ไปเจอเร็วๆนี้ไม่ได้หรอก เดี๋ยวเขาก็หาว่าฉันเป็นสตอล์กเกอร์จริงๆน่ะซี

     

                เจ้าตัวโตดูเหมือนจะรับรู้และเข้าใจถึงประโยคของเจ้านาย มันทรุดตัวลงนอนราบกับพื้น เมื่อรู้ตัวแล้วว่าไม่ได้ออกไปเดินเล่นแน่ๆ  โดยเฉพาะกับเด็กผิวขาวคนนั้น

     

                อีกอย่าง. .

                “ให้เขาเรียกฉันว่าพี่ก่อนละกัน นายได้ไปเล่นกับเขาแน่ๆไอ่หมาเอ้ย ฮ่าๆผู้เป็นเจ้านายหัวเราะเสียงดัง

     

                เจ้าตัวโตครางหงิงๆเสียงดังระงมเมื่อรู้ตัวว่ากำลังโดนเจ้านายแกล้งอยู่แน่ๆ

     

                จงอินพูดทีเล่นทีจริงเมื่อเขารู้สึกเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ได้แกล้งโดคยองซูพ่วงด้วยการได้แกล้งเจ้าตัวโตนี่แล้ว

                ช่างเป็นเรื่องที่สนุกจริงๆ : )




    #ฟิคติดหนังสือ

    Ti penso sempre = I always think of you

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×